24/07/2023
หนุ่มๆ สาวๆ หลายคนตอนนี้อาจกำลังทุกข์ใจกับปัญหาน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น และกำลังทำทุกวิถีทางที่จะทำให้น้ำหนักนั้นลดลง ทั้งการควบคุมอาหาร การออกกำลังที่หักโหมเพื่อที่น้ำหนักจะได้ลดลงมาอย่างรวดเร็ว แต่ผลที่ได้กลับมายิ่งทำน้ำหนักไม่ลดลง นั่นอาจเป็นเพราะคุณกำลังมีปัญหาเรื่องฮอร์โมนที่ส่งผลให้คุณนั้น "อ้วน" นพ.สมบูรณ์ รุ่งพรชัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านฮอร์โมนและควบคุมน้ำหนัก แห่งเอเพ็กซ์ โปรฟาวด์ บิวตี้ จะมาไขข้อข้องใจว่าฮอร์โมนส่งผลกับร่างกายอย่างไรถึงทำให้อ้วน
นพ.สมบูรณ์เผยว่า ในทางการแพทย์ได้มีการจำแนกคนอ้วนที่เกิดจากฮอร์โมนผิดปกติ 4 แบบด้วยกัน คือ ความอ้วนเพราะเกิดความผิดปกติที่ต่อมหมวกไต (Adrenal Belly) คนอ้วนลักษณะนี้จะมีรูปร่างอ้วนพุงห้อย และแขนขาลีบ ลักษณะไขมันจะย้วย ผิวเสีย ซึ่งเกิดจากความเครียดที่สะสม พักผ่อนน้อย, ความอ้วนที่เกิดจากความผิดปกติฮอร์โมนที่รังไข่ (O***y Belly) คนอ้วนลักษณะนี้จะมีรูปร่างช่วงบนคล้ายคนผอม แต่ช่วงล่างตั้งแต่ใต้สะดือลงมาจะอ้วนใหญ่ผิดปกติ คนอ้วนลักษณะนี้จะมีปัญหาเรื่องของประจำเดือนมาไม่ตรงเวลา รับประทานยาคุมกำเนิด และคนอ้วนลักษณะนี้เวลาซื้อชุดกระโปรงที่ช่วงบนจะใส่ได้พอดี แต่ช่วงล่างจะคับ หรือไม่สามารถใส่ได้ และยังเป็นกลุ่มคนอ้วนที่มาพบแพทย์เพื่อต้องการลดความอ้วนมากเป็นอันดับ 1
ความอ้วนที่เกิดจากความผิดปกติของต่อมไทรอยด์
(Thyroid Belly) คนอ้วนลักษณะนี้จะเกิดจาก
การบริโภคอาหารที่ไม่หลากหลาย หรือคนที่เคยลดน้ำหนักผิดวิธีมาเป็นเวลานานๆ โดยรูปร่างของคนอ้วนลักษณะนี้จะอ้วนบวมไปทั้งตัว และ ความอ้วนที่เกิดจากการดื่มเครื่องดื่มมึนเมา (Liver Belly) คนอ้วนลักษณะนี้จะมีการสะสมของสารพิษในร่างกาย โดยเฉพาะตับ ทำให้มีลักษณะที่อ้วนลงพุง หรือพุงป่อง
จะเห็นได้ว่าความอ้วนทั้ง 4 ชนิด มักเกิดจากไลฟ์สไตล์ส่วนใหญ่ และอาจจะสงสัยว่าเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเรานั้นอ้วนเพราะเกิดความผิดปกติของฮอร์โมนหรือไม่ ในอดีตคนจะมองว่าหากมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน มาจากเรื่องของอาหารการกิน และขาดการออกกำลังกาย แต่ถ้าคุณไม่ได้เป็นคนที่รับประทานเยอะ หรือออกกำลังกายแล้ว แต่น้ำหนักไม่ลดลงสักเท่าไร สันนิษฐานในเบื้องต้นได้ว่าคุณนั้นอาจมีปัญหาเรื่องของฮอร์โมน จึงส่งผลให้เกิดความอ้วน โดยแพทย์จะมีวิธีการตรวจด้วยการตรวจเลือด ไปจนถึงการตรวจวิเคราะห์ด้วยเครื่องสแกนเซลล์ ที่สามารถตรวจดูการเสียสมดุลของฮอร์โมนในอวัยวะส่วนต่างๆ ได้ เมื่อวิเคราะห์ได้แล้วว่าคุณมีความอ้วนที่เกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมนประเภทไหน การรักษาจะดำเนินการเป็น 2 ระยะ ใช้เวลาอย่างน้อย 3 เดือน
ระยะแรก จะนำนวัตกรรมเกี่ยวกับการลดสัดส่วนมาใช้ โดยจะมีการวิเคราะห์ลักษณะรูปร่าง รวมถึงประเภทไขมัน เพื่อให้เกิดการลดสัดส่วนที่รวดเร็ว และยังสร้างกำลังใจในการลดความอ้วนให้แก่คนไข้ ระยะที่ 2 จะเน้นในเรื่องของการแก้ไขพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการออกกำลังกาย โดยความอ้วนเพราะเกิดจากความผิดปกติที่ต่อมหมวกไต จะเน้นในเรื่องของการพักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด รับประทานอาหารในปริมาณที่น้อย แต่หลายมื้อ และเน้นการออกกำลังกายเบาๆ อย่างการยืดคลายกล้ามเนื้อ หรือยกเวตน้ำหนักเบาๆ เพื่อให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย ในขณะที่ความอ้วนที่เกิดจากฮอร์โมนที่รังไข่ จะแนะนำให้รับประทานอาหารพวกคลีนฟู้ด ผักออร์แกนิกต่างๆ เพื่อจะได้ลดสารพิษในร่างกาย เพื่อปรับฮอร์โมนให้สมดุลดีขึ้น โดยการออกกำลังกายปานกลาง ไม่ว่าจะเป็นทั้งคาร์ดิโอ หรือเวตเทรนนิ่ง และจะเน้นการออกกำลังกายช่วงล่างที่ถูกต้อง เพื่อสร้างกล้ามเนื้อ ส่วนความอ้วนที่เกิดจากความผิดปกติของต่อมไทรอยด์นั้นจะเน้นการบริโภคอาหารที่หลากหลาย และฟื้นฟูด้วยการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอเบาๆ แต่ออกให้นาน เพื่อปรับสมดุลและกระตุ้นฮอร์โมนในร่างกาย และความอ้วนที่เกิดจากการดื่มเครื่องดื่มมึนเมาจะต้องเข้ามารับการบำบัดโดยแพทย์ ซึ่งจะมีการเสริมพวกวิตามินต่างๆ ให้ และเน้นการออกกำลังเบาๆ และค่อยๆ ปรับความหนักเพิ่มขึ้น
การออกกำลังกายทำสำหรับผู้ที่มีความอ้วนที่เกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมนนั้น ไม่ควรจะเป็นการออกกำลังกายที่หนักและหักโหม เพราะจะยิ่งสร้างความครียดให้แก่ร่างกาย ซึ่งไม่เป็นผลดี ดังนั้นจะเห็นว่าแท้จริงแล้วความอ้วนล้วนเกิดจากพฤติกรรมส่วนตัวที่ผิด วิธีการป้องกันไม่ให้ร่างกายของเรานั้นมีน้ำหนักตัวที่มากเกิน เราจึงต้องควบคุมอาหาร พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด และออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ".
เครดิตเพจ เวปสารสนเทศสุขภาพไทย