ศูนย์พระเมตตา โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์

ศูนย์พระเมตตา โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ ศูนย์ดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง รพ. เซนต์หลุยส์
Saint Louis Palliative Care Center

"...and celebrate a life well lived.""...และเฉลิมฉลองชีวิตที่สมบูรณ์"การจากไปของคนคนหนึ่งไม่จำเป็นต้องกอปรด้วยความเศร้าโ...
26/11/2025

"...and celebrate a life well lived."
"...และเฉลิมฉลองชีวิตที่สมบูรณ์"

การจากไปของคนคนหนึ่งไม่จำเป็นต้องกอปรด้วยความเศร้าโศก หากเราลองพิจารณาดู ความตายก็คืออีกด้านหนึ่งของเหรียญแห่งชีวิต ซึ่งการที่เราจะเฉลิมฉลองชีวิตที่เต็มสมบูรณ์ของบุคคลนั้นย่อมดีกว่าการนั่งทุกข์ใจตรอมใจไปกับการจากไปของเขาใช่ไหมเล่า ?

#ศูนย์พระเมตตา

“ถ้าผมมีชีวิตที่ยาวแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ผมขอมีชีวิตที่สั้นแต่มีความสุขดีกว่า”
07/11/2025

“ถ้าผมมีชีวิตที่ยาวแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ผมขอมีชีวิตที่สั้นแต่มีความสุขดีกว่า”

“ถ้าผมมีชีวิตที่ยาวแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ผมขอมีชีวิตที่สั้นแต่มีความสุขดีกว่า”

สรุปบทเรียนจากบันทึกสุดท้ายจากสมุดเบาใจของ "วิน ภาสวิน" นักวางแผนการเงินสู่นักวางแผนชีวิตในช่วงสุดท้ายวัย 14 ปี ใน มนุษย์ต่างวัย Talk EP.66
🔹1. การใช้ "สมุดเบาใจ" เพื่อออกแบบการจากลา

เมื่อรู้ว่าร่างกายเริ่มไม่ไหว วินชวนคุณแม่คุยเรื่องความตายอย่างจริงจัง และใช้ “สมุดเบาใจ” เป็นเครื่องมือบันทึกเจตนารมณ์ของตัวเอง การทำเช่นนี้ช่วยให้ครอบครัวเข้าใจและตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในวาระสุดท้าย โดยไม่ต้องรู้สึกผิดหรือยื้อชีวิตอย่างไร้จุดหมาย
🔹2. ความสุขคือหน่วยวัดคุณค่าของชีวิต ไม่ใช่เวลา

วินเชื่อว่าการมีชีวิตที่สั้นแต่มีความสุขดีกว่า การมีชีวิตที่ยืนยาวแต่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ทำให้วินบันทึกความต้องการของตัวเองลงในสมุดเบาใจว่า

หากต้องอยู่ในสภาวะที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรือไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ อยู่ในสภาพผักถาวร ,ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจไปตลอดชีวิต เขาเลือกที่จะไม่ต้องการอยู่ต่อ
🔹3. เจตนารมณ์ทางการแพทย์และการยื้อชีวิต

วินต้องการรักษาอย่างเต็มที่แม้จะทุกข์ทรมานจากการใส่เครื่องพยุงชีพ แต่ไม่ต้องการถูกยื้อชีวิตนานเกิน 72 ชั่วโมง (3 วัน)

วินยอมรับการปั๊มหัวใจในเบื้องต้น และยอมรับการใส่ท่อช่วยหายใจ แต่เขาปฏิเสธวิธีการรักษาที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตเช่น การเจาะคอ และ การล้างไต
🔹4. การเตรียมตัวจากไปอย่างมีสติและสงบ
▪️วินเลือกที่จะกลับไปเสียชีวิตที่บ้าน โดยได้ถามคุณแม่ตรง ๆ ว่า "ถ้าเขาอยากกลับบ้าน แม่กลัวไหม?" เมื่อคุณแม่ตอบว่าไม่กลัว เขาก็ตัดสินใจกลับไปเสียชีวิตที่บ้านตามที่ปรารถนา
▪️วินได้มีโอกาสกล่าวคำขอขมาสุดท้ายก่อนเดินทางออกจากโรงพยาบาลเพื่อกลับบ้าน โดยได้ ยกมือขอขมา (ขอโทษ) คุณหมอและพยาบาลทุกคนที่เขาเคยดื้อหรือทำผิดพลาดไป และขออโหสิกรรมจากญาติและคุณแม่ที่บ้าน
▪️วินได้ออกแบบงานศพของตัวเองเป็นธีม Bye Bye Win เพื่อเป็นงานอำลาและไม่อยากให้ทุกคนร้องไห้
▪️วินสามารถพูดคุยและ มีสติรู้ตัวจนถึงนาทีสุดท้าย เขาบอกคุณแม่ว่า "มันถึงเวลาแล้วนะ" และจากไปอย่างสงบ
🔹5. สมุดเบาใจคือเครื่องมือที่ทำให้ คนที่ยังอยู่ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

บันทึกในสมุดเบาใจของวินกลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ครอบครัวสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้นตามความต้องการของวินจริง ๆ ช่วยให้ครอบครัวไม่ต้องรู้สึกผิด หรือยื้อชีวิตโดยไม่มีจุดมุ่งหมาย

“แม่ยังรักเขาอยู่ คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็อยากให้เขาอยู่กับเราให้นานที่สุด เราต้องคิดว่าลูกเรามีโอกาสจะรอด วินพูดหลายครั้งว่าถ้ายื้อวินขึ้นมาแล้ววินทำอะไรไม่ได้ วินก็ไม่ได้มีความหมายที่จะอยู่ ไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่ และไม่มีความสุขที่จะอยู่ เราเลยเขาใจว่าเขาต้องการอะไร”

หนึ่งในบทเรียนหนึ่งที่วินทิ้งไว้ให้คือ ความสำคัญในการคุยกันเรื่องวาระสุดท้ายของชีวิต และการทำสมุดเบาใจ สมุดเบาใจเลยกลายเป็นเครื่องมือที่ทำให้ครอบครัวตัดสินใจได้ง่ายในช่วงเวลาที่ตัดสินใจได้แสนยากลำบาก ทำให้การจากด้วยความสง่างามตามรูปแบบที่เขาเลือกเอง

เพราะการวางแผนชีวิตไม่ควรจำกัดอยู่แค่เรื่องของอายุ แต่เป็นการเตรียมพร้อมสำหรับทุกช่วงของชีวิต แม้กระทั่งวาระสุดท้าย

📌ฟังสัมภาษณ์เต็ม ๆ ได้ที่ https://youtu.be/SLyW4baJzd4
และสิ่งที่สำคัญที่สุดของอีพีนี้คือ มนุษย์ต่างวัย อยากร่วมสานต่อเจตนารมณ์ครั้งสุดท้ายของวิน ในการเป็นส่วนหนึ่งเพื่อประชาสัมพันธ์การบริจาคและสนับสนุนการทำงานให้กับมูลนิธิรามาธิบดี
รายละเอียดใต้คอมเม้นท์

#มนุษย์ต่างวัยTalk #มนุษย์ต่างวัย #วินภาสวิน #สมุดเบาใจ #การวางแผนความตาย #พอดแคสต์

25/10/2025

“ถ้ามาช้ากว่านี้อีกนิดเดียว อาจจะเสียชีวิต”
นี่ก็เป็นอีกคำพูดยอดนิยมจากคุณหมอที่โรงพยาบาล
เวลาที่บางคนได้เข้าไปรับการรักษา
ซึ่งจะว่าไปผมก็ไม่ค่อยจะเชื่อนักหรอกนะ
เพราะได้ยินบ่อยจนเป็นคำสามัญประจำโรงหมอ

แต่ก็รู้อยู่ว่าชีวิตมีความเสี่ยง การพบแพทย์เป็นเรื่องสำคัญ การรักษาที่ถูกวิธี การปฐมพยาบาลเป็นสิ่งที่ควรรู้จักหลักการ
แต่ความตายก็มักจะมีเงื่อนไข เงื่อนงำแปลกๆอันเราควบคุมไม่ค่อยจะได้
ต่อให้ไปทันหมอก็มีหลายรายที่ไม่รอด หรือซ้ำร้ายอาจตายเพราะไปเจอหมอ คืออยู่บ้านอาจจะไม่ถึงตายก็ได้
อีกบางคนแทนที่จะได้ตายสบายๆที่บ้าน กลับต้องไปทรมานที่โรงพยาบาล

เท่าที่ถามๆมา ทุกคนมักจะบอกว่าถ้าเป็นวาระสุดท้ายของชีวิต ก็ไม่คิดจะรักษา ไม่คิดจะยื้อยุด
แต่ปัญหายากที่สุด คือ
เราไม่รู้ว่าอาการที่เกิดกับญาติเราหรือตัวเรานั้น เป็นอาการที่เรียกว่าระยะสุดท้ายหรือยัง

ถ้ารู้แน่ว่าระยะสุดท้าย คงตัดสินใจไม่ยาก แต่ถ้าเราไม่มั่นใจว่ามันใช่หรือไม่
บางทีหากเกิดรักษาถูกวิธีแล้วหาย มันอาจจะยังไม่ใช่วาระสุดท้ายก็ได้

หลายคนเลยต้องสู้กันต่อไป ไม่เกรงใจเงินทองของหายาก ซึ่งแม้หายากแต่ก็ยังพอหาใหม่ได้ ไม่เหมือนเวลาของชีวิตที่ไม่รู้จะได้กลับคืนมาอีกหรือไม่
ชาติหน้าเป็นเช่นไรก็ไม่รู้แน่
ชาตินี้จึงหน่วงเหนี่ยวลมหายใจกันไว้สุดชีวิต

คนที่ค้นพบอาการแล้วรู้ล่วงหน้า ได้รับรู้ว่าวาระสุดท้ายเหลืออยู่มากน้อยแค่ไหน
จะว่าไปก็มีข้อดีตรงที่จะได้เตรียมตัว เตรียมใจ จัดการภาระอันคั่งค้าง ในกรณีที่ทำใจได้
แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำใจ หากไม่ได้ฝึกฝนจิตใจตนไว้

จึงมีคำแนะนำว่า...เราควรต้องตริตรองเรื่องเหล่านี้กันบ้าง
ว่างๆ ก็หยิบเอาสมุดมาเขียน ว่าหากล้มป่วยอยากให้รักษาแบบไหน แค่ไหน

ลองนึกว่าอยากจัดงานศพตัวเองเช่นไร
วาระสุดท้ายอยากให้เปิดเพลงอะไรหรือบทสวดไหน ก็แล้วแต่ใจเราจะสั่งเสีย
ควรทำไว้เสียก่อนตั้งแต่อารมณ์ดีๆยังมีสติ
เราสามารถเขียนเก็บไว้ได้ก่อนตอนว่างๆ

และสามารถเปลี่ยนแปลงใหม่ได้ เท่าที่เราจะมีเวลาตริตรอง

💫"มะเร็งระยะท้าย" รับมือได้อย่างสบายกาย เบาใจ🎗มูลนิธิเครือข่ายมะเร็งและเบาใจแฟมิลี่ ขอเชิญผู้ป่วยมะเร็ง, อดีตผู้ป่วย และ...
24/10/2025

💫"มะเร็งระยะท้าย" รับมือได้อย่างสบายกาย เบาใจ

🎗มูลนิธิเครือข่ายมะเร็งและเบาใจแฟมิลี่ ขอเชิญผู้ป่วยมะเร็ง, อดีตผู้ป่วย และญาติ
ร่วมเรียนรู้แนวทางการดูแลแบบประคับประคอง (Palliative Care), การวางแผนดูแลล่วงหน้า (Advance Care Plan), และการออกแบบคุณภาพชีวิตในช่วงสุดท้ายอย่างสงบและมีคุณค่า

🗓 วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน 2568
⏰ เวลา 09.00 - 17.00 น.
📍 ณ The Royal River Hotel

📌 รับจำนวนจำกัด 50 ท่านเท่านั้น! (ผู้ป่วยมะเร็ง อดีตผู้ป่วย และญาติ)

💕เข้าร่วมงานฟรี! สแกน QR Code ในภาพ
มีค่ามัดจำการเข้าร่วม 200 บาท รับคืนในวันงาน
คลิกลิงค์ https://forms.gle/VjVr1yR9PXQBhLSk8

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: 📞 062-5922425 (คุณธนภัทร) Line ID: Contact.tcs

#มะเร็งระยะท้าย #การดูแลผู้ป่วยมะเร็ง #มูลนิธิเครือข่ายมะเร็ง

23/10/2025

ทำไมบางคนเสียชีวิตหลัง “เจาะน้ำในปอด”
คำถามที่ไม่มีใครอยากได้ยิน...แต่ควรเข้าใจให้ลึก

หลายครอบครัวมักถามด้วยความสับสนและเศร้าใจว่า
“หมอเจาะน้ำออกแล้ว ทำไมคนไข้ถึงเสียชีวิตเร็วขึ้น?”

คำตอบไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันสะท้อนให้เห็นความเปราะบางของร่างกายช่วงสุดท้ายของชีวิต
----
💧 น้ำในช่องปอด: สัญญาณของโรคระยะสุดท้าย

น้ำในช่องปอด (Pleural effusion) ไม่ได้เป็นเพียงน้ำที่ “ระบายออกแล้วดีขึ้น”
แต่มักเกิดจากโรคขั้นรุนแรง เช่น มะเร็งที่กระจาย หัวใจวาย ตับหรือไตวาย
ซึ่งทั้งหมดสะท้อนว่า ระบบในร่างกายเริ่มล้มเหลวหลายส่วนพร้อมกัน

ผู้ที่มีน้ำในช่องปอด “สองข้าง” มักมีโอกาสเสียชีวิตภายในหนึ่งเดือนสูงกว่าปกติหลายเท่า
ดังนั้น การเจาะน้ำออกจึงไม่ได้เปลี่ยนเส้นทางของโรค แต่อาจช่วยให้หายใจโล่งขึ้นชั่วคราวเท่านั้น
----
⚠️ ภาวะอันตรายที่อาจเกิดขึ้นหลังเจาะ: “Re-expansion Pulmonary Edema”

หนึ่งในภาวะที่ร้ายแรงและมักถูกมองข้าม คือ
“ภาวะปอดบวมน้ำจากการขยายตัวหลังเจาะน้ำ” (Re-expansion pulmonary edema)

เกิดขึ้นได้อย่างไร?

เมื่อเราดูดน้ำออกจากช่องปอดเร็วเกินไป หรือมากกว่า 1.5 ลิตรในครั้งเดียว
ปอดที่ถูกกดทับมานานจะ “ขยายตัวอย่างรวดเร็ว”
ทำให้เกิดการอักเสบเฉียบพลันในเนื้อเยื่อปอดและเส้นเลือดฝอย (alveolar-capillary membrane)

ร่างกายจะหลั่งสารอักเสบหลายชนิด เช่น
Reactive oxygen species, interleukin-8 และ leukotriene B4
ทำให้ผนังหลอดเลือดฝอยรั่ว → น้ำซึมเข้าสู่ถุงลม → ปอดบวมน้ำเฉียบพลัน

ผลลัพธ์คือ หายใจเหนื่อยเฉียบพลันและออกซิเจนในเลือดลดลงอย่างรวดเร็ว
แม้จะใช้เครื่องช่วยหายใจ ก็อาจไม่สามารถฟื้นได้ทันเวลา

อัตราการเสียชีวิตจากภาวะนี้อาจสูงถึง 20%

โดยเฉพาะในผู้ที่มีปอดแข็งหรือขยายตัวยาก เช่น
- ผู้ป่วย Systemic sclerosis
- ผู้ที่มีน้ำในช่องปอดปริมาณมากหรือนานหลายสัปดาห์
- หรือผู้ที่มีโรคหัวใจและปอดร่วมอยู่แล้ว
----
นอกจากปอดบวมน้ำ ยังมีความเสี่ยงอื่น ๆ อีก ที่ทำให้คนไข้เสียชีวิตเร็วขึ้น
- ความดันตกเฉียบพลัน: จากการกระตุ้นเส้นประสาทวากัส ทำให้หัวใจเต้นช้า
- หัวใจล้มเหลว: เพราะแรงดันในทรวงอกเปลี่ยนเร็วเกินไป
- ร่างกายอ่อนล้าจากโรค (cachexia/frailty): ภาวะนี้ทำให้ร่างกายทนต่อหัตถการได้ยาก
- อักเสบทั่วร่างกาย: เพิ่มโอกาสเกิดภาวะล้มเหลวของอวัยวะหลายระบบ (MODS)

ดังนั้น แม้การเจาะจะ “ดูไม่ซับซ้อน”
แต่สำหรับร่างกายที่เปราะบาง มันอาจเป็น “แรงสะเทือนสุดท้าย” ที่ร่างกายรับไม่ไหว
----
❤️‍เจาะเพื่อให้สบาย ไม่ใช่เพื่อรักษาให้หาย

ในผู้ป่วยระยะสุดท้าย การเจาะน้ำในปอดจึงควรถูกมองว่าเป็น
“หัตถการเพื่อบรรเทาอาการ (comfort procedure)”
ไม่ใช่เพื่อรักษาโรคให้ดีขึ้น

เป้าหมายคือ “ให้หายใจโล่งขึ้นบ้าง”
แต่ต้องเข้าใจว่า ไม่ใช่ทุกครั้งที่ร่างกายจะตอบสนองอย่างที่เราคาดหวัง
บางครั้งคนไข้อาจรู้สึกดีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง...ก่อนจะจากไปอย่างสงบ
----
🕊 คำถามสุดท้ายที่ควรถามก่อนตัดสินใจ

“เราทำสิ่งนี้เพื่อให้เขาสบายขึ้น...
หรือเพื่อให้เรารู้สึกว่าได้ทำอะไรบางอย่าง?”

ไม่มีคำตอบที่ผิด
มีเพียงความเข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้นว่า “การช่วยให้จากไปอย่างสงบ”
อาจเป็นของขวัญที่อ่อนโยนที่สุดในช่วงสุดท้ายของชีวิต

#เพราะความตายออกแบบได้ #หมอนัท

กะโหลกศีรษะ อีกา ยมทูต ดอกไม้บางชนิด ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของความตายในวรรณกรรมต่างๆ เพราะความเกี่ยวโยงของสิ่งเหล่านั้นกับค...
15/10/2025

กะโหลกศีรษะ อีกา ยมทูต ดอกไม้บางชนิด ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของความตายในวรรณกรรมต่างๆ เพราะความเกี่ยวโยงของสิ่งเหล่านั้นกับความตาย
🌹 ดอกไม้ที่พบบ่อยในงานศพ
🐦‍⬛ อีกาทีกำลังกินร่าง
☠️ ยมทูตที่มาพร้อมกับความเชื่อ

เช่นเดียวกันกับ Palliative care การดูแลที่เข้ามามีบทบาทในช่วงท้ายของชีวิต บางทีถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความตายและทำให้คนไม่กล้าเข้าใกล้ ไม่อยากใช้บริการ หรือถึงขั้นไม่อยากพูดถึงเลยก็มี

🤗ความกลัวตายนี้เป็นธรรมชาติของมนุษย์ ไม่แปลกที่หลายคนจะรู้สึกอย่างนั้น แม้แต่บุคลากรทางการแพทย์ด้วยกันเองก็มีไม่น้อยที่ไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับความตายรวมถึงหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงช่วงท้ายของชีวิต

🌻☀️แต่หากใครที่ก้าวผ่านความกลัวมากๆ นั้นมาได้ เราก็อยากให้มารู้จักการดูแลแบบประคับประคองสำหรับช่วงสุดท้ายของชีวิตกันครับ

ติดต่อเรา

☎️02 838 5518

💌divinemercycenter@saintlouis.or.th

🟩LINE Official : ศูนย์พระเมตตาSLH

#ศูนย์พระเมตตา

น่าสนใจมากๆ
11/10/2025

น่าสนใจมากๆ

’Famous Last Words‘
รายการสัมภาษณ์บุคคลสำคัญ ที่จะเผยแพร่หลังจากที่บุคคลนั้นเสียชีวิต เป็นรายการสัมภาษณ์ทรงพลังมากที่สุดในชีวิตเท่าที่เคยดูมา

เราได้ดูตอนล่าสุดนี้ทาง Netflix
ซึ่งได้สัมภาษณ์ Jane Goodall นักวานรวิทยา และนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมชาวอังกฤษ ผู้ที่ใช้ชีวิตทั้งชีวิตอยู่กับลิงชิมแปนซีในป่า เอาไว้ก่อนที่เธอจะจากไปเมื่อ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา

Jane พูดถึงชีวิตและความตายอย่างสงบ อ่อนโยน
เผยความรู้สึกที่จริงแท้ เต็มไปด้วยความหวัง
เหมือนคนที่เคยผ่านทุกบทของชีวิตมาแล้ว
และพร้อมจะกลับบ้านด้วยหัวใจที่ยอมรับ

เธอมอบบทเรียนล้ำค่าที่เป็นความจริงกับชีวิตเหล่านี้
ไว้ให้กับเรา ในวันที่เธอจากไปแล้ว เลยอยากบันทึกสิ่งที่ตัวเราได้เรียนรู้จากสัมภาษณ์สุดท้ายในชีวิตของเธอเอาไว้

🤍 ชีวิตของเราในทุก ๆ วันมีคุณค่าเสมอ

ทุกลมหายใจ และทุกการกระทำของเรา
แม้จะเล็กน้อยแต่เต็มไปด้วยรายละเอียดและความเชื่อมโยง
ทุกความสัมพันธ์ ทุกการอยู่เพื่อสังเกต และทุกการลงมือทำสิ่งใดก็ตาม ล้วนสร้างความหมาย และการเปลี่ยนแปลงให้กับโลก

🤍 ความรักคือพลังขับเคลื่อนโลก

ความรักที่ไม่ได้จำกัดขอบเขตระหว่างคนเท่านั้น
แต่ขยายกว้างไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสัตว์ ระหว่างสัตว์กับสัตว์ด้วยกัน หรือความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับธรรมชาติ และความรักนี้เองที่เป็นพลังขับเคลื่อนให้เกิดความเอื้ออาทร ความเมตตากรุณา และความใส่ใจต่อสิ่งอื่น ๆ โดยไม่มีประมาณ

🤍 ทุกสรรพชีวิตมีความหมายต่อโลก

ทุกสรรพชีวิต สัตว์ ต้นไม้ สิ่งแวดล้อม ล้วนเชื่อมโยงถึงกัน อยู่ร่วมอย่างเกื้อกูลกันและกัน ไม่ใช่เพียงแค่มนุษย์ที่เป็นผู้ถือครองโลกใบนี้

🤍 ความหวังยังคงอยู่แม้โลกจะไม่สมบูรณ์

โลกเต็มไปด้วยความเปราะบาง ความเจ็บปวด ความผิดพลาด แต่ Jane ทำให้เห็นว่า การลงมือทำอย่างต่อเนื่องและความเชื่อมั่นตลอดชีวิตของเธอ สามารถเป็นแรงผลักดันที่ทำให้สิ่งต่าง ๆ เดินต่อไปได้ ความหวังเกิดขึ้นจากความเชื่อ และการลงมือทำในสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ในแต่ละวัน

🤍 การกลับบ้านคือการกลับสู่ความสงบ

การกระทำของเราบนโลกใบนี้จะสร้างความแตกต่างในชีวิตที่จะพบเจอหลังจากเราตาย ความตายไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นการกลับสู่ความสงบ

เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นความจริง และเป็นธรรมชาติ
การยอมรับความจริงนี้ ทำให้เข้าใจความเปราะบางของชีวิต ยอมรับการกลับคืนสู่ความเป็นธรรมชาติของชีวิต

🤍 สิ่งดีงามจะยังคงอยู่ แม้ผู้สร้างจะจากไปแล้ว

การกระทำของเรา ทุกสิ่งที่ทำด้วยหัวใจและความตั้งใจดี จะยังคงถูกส่งต่อไปถึงทุกสรรพชีวิต และโลก ความรัก ความหวังนั้นยังคงเดินทาง และถูกส่งต่อไปยังที่ใคร หรือที่ใดที่หนึ่งเสมอ ขอเพียงเชื่อในพลัง และทำสิ่งที่ดีที่สุดในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่

สิ่งที่ Jane ส่งต่อไว้กับโลกใบนี้
ทำให้เราต้องกลับมาถามตัวเองอีกครั้งในวันที่ยังมีลมหายใจว่า…

“วันนี้เราใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า ความหมายในแบบของเรา จริงแท้กับตัวเอง ลงมือทำในสิ่งที่สำคัญที่สุด และฝากสิ่งดี ๆ ไว้ให้กับโลกบ้างหรือยัง ?”

ชวนดูบทสัมภาษณ์สุดท้ายของชีวิตที่ทรงพลังนี้ทาง Netflix ค่ะ

10/10/2025

ในวันหนึ่งที่คนในครอบครัวหรือบุคคลที่รักเป็นโรคร้าย ให้ถามเขาว่า "อยากรู้ไหม ?"
แล้วทำตามนั้น จะดีที่สุด

Send a message to learn more

08/10/2025

"Empathy is intuitive, but it is also something you can work on intellectually." - Tim Minchin

ความเข้าอกเข้าใจเกิดจากเซ้นส์ แต่ก็เป็นสิ่งที่คนเราสามารถฝึกฝนกันได้เช่นกัน

Send a message to learn more

ที่อยู่

โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ 27 ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ
กรุงเทพฯ
10120

เวลาทำการ

จันทร์ 08:00 - 16:00
อังคาร 08:00 - 16:00
พุธ 08:00 - 16:00
พฤหัสบดี 08:00 - 16:00
ศุกร์ 08:00 - 16:00
เสาร์ 08:00 - 16:00
อาทิตย์ 08:00 - 16:00

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ศูนย์พระเมตตา โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram