เครือข่ายเวชระเบียน

เครือข่ายเวชระเบียน เครือข่ายเวชระเบียน เวชสถิติ ผู้ให?

เครือข่ายผู้ปฏิบัติงานด้านเวชระเบียน เวชสถิติ ผู้ให้รหัสโรค และเวชสารสนเทศ แห่งประเทศไทย
(Thailand Medical Record and Informatics Network)

เครือข่ายเวชระเบียนขอน้อมจิตอธิษฐาน ขอพระองค์ทรงพระเจริญ อยู่เป็นมิ่งขวัญของพสกนิกร ยิ่งยืนนาน (ขอบคุณภาพ Apichart Tatho...
12/08/2025

เครือข่ายเวชระเบียนขอน้อมจิตอธิษฐาน ขอพระองค์ทรงพระเจริญ อยู่เป็นมิ่งขวัญของพสกนิกร ยิ่งยืนนาน (ขอบคุณภาพ Apichart Tathong)

ในโอกาสที่อาจารย์ได้เข้าร่วมบรรยายให้ น้องๆ เวชระเบียนได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ หลักการเวชระเบียนที่น่าสนใจ ที่จะม...
09/08/2025

ในโอกาสที่อาจารย์ได้เข้าร่วมบรรยายให้ น้องๆ เวชระเบียนได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ หลักการเวชระเบียนที่น่าสนใจ ที่จะมีผลทางกฎหมาย โดยให้ความสำคัญกับ เนื้อหาที่ควรมีในเวชระเบียน ควรประกอบด้วย 1) เนื้อหาที่บอกเรื่องราวแสดงให้เห็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น 2) เนื้อหาที่แสดงให้เห็นถึงเหตุยกเว้นความรับผิดตามมาตรา 8 แห่ง พรบ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 3) เนื้อหาที่แสดงให้เห็นว่า ได้ใช้ความระมัดระวังตามวิสัยและพฤติการณ์แล้ว และ 4) เนื้อหาควรได้มาจากผู้ป่วยโดยตรงและเท่าที่จำเป็นแก่การรักษาพยาบาล ที่น่าสนใจก็คือทำไมต้องมีข้อ 2) ที่แสดงให้เห็นถึงเหตุยกเว้นความรับผิดตามมาตรา 8 แห่ง พรบ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 ก็เพราะใน พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 มาตรา 8 นั้นระบุว่า ในการบริการสาธารณสุข บุคลากรด้านสาธารณสุขต้องแจ้งข้อมูลด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการให้ผู้รับบริการทราบอย่างเพียงพอที่ผู้รับบริการจะใช้ประกอบการตัดสินใจในการรับหรือไม่รับบริการใด และในกรณีที่ผู้รับบริการปฏิเสธไม่รับบริการใด จะให้บริการนั้นมิได้ในกรณีที่เกิดความเสียหายหรืออันตรายแก่ผู้รับบริการเพราะเหตุที่ผู้รับบริการปกปิด ข้อเท็จจริงที่ตนรู้และควรบอกให้แจ้ง หรือแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ผู้ให้บริการไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายหรืออันตรายนั้น เว้นแต่เป็นกรณีที่ผู้ให้บริการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับกับกรณีดังต่อไปนี้
(1) ผู้รับบริการอยู่ในภาวะที่เสี่ยงอันตรายถึงชีวิตและมีความจำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือเป็นการรีบด่วน และ (2) ผู้รับบริการไม่อยู่ในฐานะที่จะรับทราบข้อมูลได้ และไม่อาจแจ้งให้บุคคลซึ่งเป็นทายาทโดยธรรม
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ผู้ปกครอง ผู้ปกครองดูแล ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาลขอผู้รับบริการ แล้วแต่กรณี รับทราบข้อมูลแทนในขณะนั้นได้ เมื่อต้องมีแบบนี้ตามกฎหมายจึงต้องมีแสดงเอาไว้ในเวชระเบียนด้วยตรงไหน แบบฟอร์มไหนก็ได้ที่แสดงว่า โรงพยาบาลได้ให้ข้อมูลให้ผู้รับบริการทราบอย่างเพียงพอที่ผู้รับบริการจะใช้ประกอบการตัดสินใจในการรับหรือไม่รับบริการใด ถ้าจะมีแบบฟอร์มขึ้นมาโดยเฉพาะก็จะดีมาก

24/07/2025

ประชาสัมพันธ์

24/07/2025

ประชาสัมพันธ์ ร.พ. บำราศนราดูร

เครือข่ายเวชระเบียน ขอแสดงความยินดีกับ อาจารย์สมเพิ่ม สุขสมบูรณ์วงศ์ รองผู้อำนวยการด้านบริหารทั่วไปและยุทธศาสตร์ ในโอกาส...
24/07/2025

เครือข่ายเวชระเบียน ขอแสดงความยินดีกับ อาจารย์สมเพิ่ม สุขสมบูรณ์วงศ์ รองผู้อำนวยการด้านบริหารทั่วไปและยุทธศาสตร์ ในโอกาสที่ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ
สถาบันพระบรมราชชนก "ครูต้นแบบ" ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๘ จาก สถาบันพระบรมราชชนก ปีการศึกษา ๒๕๖๘ เมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๘ ณ หอประชุมดอกรัก วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จังหวัดนนทบุรี (ข้อมูลจาก วิทยาลัยเทคโนโลยีทางการแพทย์และสาธารณสุข กาญจนาภิเษก)

เครือข่ายเวชระเบียน ขอต้อนรับน้องๆ เวชระเบียน ม.มหิดล รุ่น34  ทุกคน สำหรับน้องเวชระเบียน รุ่น34  ปีนี้มีจำนวน 67  คน
24/07/2025

เครือข่ายเวชระเบียน ขอต้อนรับน้องๆ เวชระเบียน ม.มหิดล รุ่น34 ทุกคน สำหรับน้องเวชระเบียน รุ่น34 ปีนี้มีจำนวน 67 คน

ข่าวด่วนจาก กองทัพภาคที่211.54 น. กัมพูชาโจมตีโรงพยาบาล กัมพูชาโจมตีโรงพยาบาลพนมดงรัก มีประชาชนได้รับบาดเจ็บเครือข่ายเวช...
24/07/2025

ข่าวด่วนจาก กองทัพภาคที่2
11.54 น. กัมพูชาโจมตีโรงพยาบาล กัมพูชาโจมตีโรงพยาบาลพนมดงรัก มีประชาชนได้รับบาดเจ็บ
เครือข่ายเวชระเบียนขอเป็นกำลังใจให้สหวิชาชีพทุกท่าน ที่ทุ่มเทช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจงปลอดภัย

เครือข่ายเวชระเบียนขอแสดงความชื่นชมยินดี กับทุกท่าน
24/07/2025

เครือข่ายเวชระเบียนขอแสดงความชื่นชมยินดี กับทุกท่าน

โรงพยาบาลศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ประกาสรับสมัครงาน เจ้าพนักงานเวชสถิติ จำนวน 1 อัตรา อีกรอบนะครับ สมัครได้ถึง 8 สิงหา...
22/07/2025

โรงพยาบาลศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ประกาสรับสมัครงาน เจ้าพนักงานเวชสถิติ จำนวน 1 อัตรา อีกรอบนะครับ สมัครได้ถึง 8 สิงหาคม 2568 ติดต่อได้ที่ งานบุคลากร กลุ่ีมงานบริหารทั่วไป โรงพยาบาลศรีสัชนาลัย 055-673136 ต่อ 0 หรือ 110

สปสช.แจงสุ่มตรวจเวชระเบียนเพื่อความเป็นธรรม ยันงบผู้ป่วยใน “ไม่ได้ลด” ขณะที่ ชมรม รพศ./รพท. ชี้กลายเป็นการตัดงบแฝง หวั่น...
20/07/2025

สปสช.แจงสุ่มตรวจเวชระเบียนเพื่อความเป็นธรรม ยันงบผู้ป่วยใน “ไม่ได้ลด” ขณะที่ ชมรม รพศ./รพท. ชี้กลายเป็นการตัดงบแฝง หวั่นกระทบหนัก

• สปสช. ยืนยันงบประมาณสำหรับบริการผู้ป่วยในยังคงเท่าเดิม ไม่มีการลดลงตามที่มีข้อกังวลจากบางฝ่าย ชี้การสุ่มตรวจสอบเวชระเบียนผู้ป่วยใน เป็นไปตามมาตรฐานการควบคุมคุณภาพการเบิกจ่าย เพื่อให้หน่วยบริการได้รับงบตามผลงานที่แท้จริง

• ด้านกลุ่มโรงพยาบาลรัฐออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย ชี้ว่าการนำผลสุ่ม 3% ไปขยายผลทั้งระบบ อาจกระทบงบประมาณที่ควรได้รับจริงกว่า 4,000 ล้านบาท

◤ ​​สปสช.แจง ตรวจเวชระเบียนเพื่อเพิ่มความโปร่งใส ไม่ใช่ตัดงบ

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. ในฐานะโฆษก เปิดเผยว่า การสุ่มตรวจสอบเวชระเบียนเป็นแนวปฏิบัติตามมติบอร์ด สปสช. เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 เพื่อยกระดับประสิทธิภาพและความเป็นธรรมในการจ่ายค่าบริการผู้ป่วยใน โดยตรวจสอบเวชระเบียนจำนวน 3% จากทั้งหมด ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ผ่านการคำนวณตามหลักสถิติ (confidence interval 95%) ร่วมกับคำแนะนำจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ

จากการตรวจสอบ พบว่ามีทั้งกรณีที่บันทึกเวชระเบียน “น้อยกว่าการให้บริการจริง” ซึ่ง สปสช.จะปรับ “เพิ่ม” ผลงาน และกรณีที่ “มากเกินจริง” ซึ่งจะถูก “ปรับลด” เพื่อสะท้อนผลงานที่แท้จริง โดยยืนยันว่า เงินยังอยู่ในกองทุนผู้ป่วยใน ไม่ได้ถูกส่งคืนมายัง สปสช. แต่อย่างใด

“หากปลายปีงบประมาณมีเงินคงเหลือ ก็จะโอนคืนให้โรงพยาบาลทั้งหมด หากไม่พอ สปสช.จะใช้งานข้อมูลจริงที่ผ่านการตรวจสอบขอรับงบเพิ่มเติมจากรัฐบาล” ทพ.อรรถพรกล่าว พร้อมระบุว่าแนวทางนี้เป็นมาตรฐานวิชาชีพที่ประเทศต่างๆ ใช้เพื่อป้องกันการเบิกเกินจริง และคุ้มครองโรงพยาบาลที่อาจบันทึกข้อมูลไม่ครบแต่ทำบริการจริง

◤ ​​โรงพยาบาลรัฐโต้กลายเป็นการตัดงบแฝง – ห่วงบริการประชาชนสะดุด

นพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ อดีตประธานชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป แสดงความกังวลว่า แนวทางของ สปสช.ในการนำผลตรวจเวชระเบียนเพียง 3% ไปคูณขยายเป็นผลการตรวจทั้งหมด อาจกลายเป็นการ “ลดงบแฝง” ที่ส่งผลกระทบต่อการบริการผู้ป่วยอย่างมีนัยสำคัญ
เขาระบุว่า หาก สปสช.เดินหน้าแนวทางนี้ต่อ อาจทำให้โรงพยาบาลรัฐทั่วประเทศสูญเสียงบประมาณรวมกว่า 4,000 ล้านบาท และในบางกรณี อาจส่งผลให้โรงพยาบาลที่ทำการรักษาจริงแต่มีข้อผิดพลาดด้านเอกสารไม่ได้รับค่ารักษาเลย
“ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยที่รักษาหาย แต่เอกสารสรุปการนอนโรงพยาบาลหายไป 1 หน้า กลายเป็นว่า สปสช.ไม่จ่ายค่ารักษาทั้งหมด หรือบางกรณีแพทย์ผ่าตัดจริง แต่เอกสารบันทึกไม่ตรงแบบฟอร์ม สปสช.ก็ปฏิเสธการจ่าย เช่น จากที่ควรได้ 18,696 บาท กลับได้แค่ 5,700 บาท ทั้งที่ต้นทุนจริงเกือบ 30,000 บาท แบบนี้ถือว่ายุติธรรมกับโรงพยาบาลหรือไม่” นพ.อนุกูลตั้งคำถาม
◤ ​​ต้นทุนจริงสูงกว่าอัตราจ่าย ระบบปลายปิดซ้ำเติม รพ.รัฐ
ข้อมูลจากการวิจัยของนักวิชาการในสังกัดสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ระบุว่า ต้นทุนการรักษาผู้ป่วยในในโรงพยาบาลรัฐเฉลี่ยอยู่ที่ 13,240 บาทต่อหน่วย แต่ สปสช.จ่ายเพียง 8,350 บาท หรือราว 60% ของต้นทุน ทำให้โรงพยาบาลต้องรับภาระต้นทุนส่วนต่าง
นอกจากนี้ นพ.อนุกูลยังวิจารณ์ว่า สปสช.ประเมินจำนวนผู้ป่วยในต่ำกว่าความเป็นจริง ส่งผลให้งบไม่เพียงพอดูแลผู้ป่วยตลอดทั้งปี จึงเลือกใช้นโยบาย “ปลายปิด” ไม่ให้ขอเพิ่มงบอัตโนมัติ แม้มีผู้รับบริการเกินเป้า โดยสปสช.เสนอแนวทางปรับลดอัตราจ่ายผู้ป่วยในจาก 8,350 เหลือ 7,000 บาทต่อหน่วย เพื่อให้งบประมาณเพียงพอ (ข้อมูจาก เก็บตกจากวชิรวิทย์)

สปสช.แจงสุ่มตรวจเวชระเบียนเพื่อความเป็นธรรม ยันงบผู้ป่วยใน “ไม่ได้ลด” ขณะที่ ชมรม รพศ./รพท. ชี้กลายเป็นการตัดงบแฝง หวั่นกระทบหนัก

• สปสช. ยืนยันงบประมาณสำหรับบริการผู้ป่วยในยังคงเท่าเดิม ไม่มีการลดลงตามที่มีข้อกังวลจากบางฝ่าย ชี้การสุ่มตรวจสอบเวชระเบียนผู้ป่วยใน เป็นไปตามมาตรฐานการควบคุมคุณภาพการเบิกจ่าย เพื่อให้หน่วยบริการได้รับงบตามผลงานที่แท้จริง

• ด้านกลุ่มโรงพยาบาลรัฐออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย ชี้ว่าการนำผลสุ่ม 3% ไปขยายผลทั้งระบบ อาจกระทบงบประมาณที่ควรได้รับจริงกว่า 4,000 ล้านบาท

◤ ​​สปสช.แจง ตรวจเวชระเบียนเพื่อเพิ่มความโปร่งใส ไม่ใช่ตัดงบ

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. ในฐานะโฆษก เปิดเผยว่า การสุ่มตรวจสอบเวชระเบียนเป็นแนวปฏิบัติตามมติบอร์ด สปสช. เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 เพื่อยกระดับประสิทธิภาพและความเป็นธรรมในการจ่ายค่าบริการผู้ป่วยใน โดยตรวจสอบเวชระเบียนจำนวน 3% จากทั้งหมด ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ผ่านการคำนวณตามหลักสถิติ (confidence interval 95%) ร่วมกับคำแนะนำจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ

จากการตรวจสอบ พบว่ามีทั้งกรณีที่บันทึกเวชระเบียน “น้อยกว่าการให้บริการจริง” ซึ่ง สปสช.จะปรับ “เพิ่ม” ผลงาน และกรณีที่ “มากเกินจริง” ซึ่งจะถูก “ปรับลด” เพื่อสะท้อนผลงานที่แท้จริง โดยยืนยันว่า เงินยังอยู่ในกองทุนผู้ป่วยใน ไม่ได้ถูกส่งคืนมายัง สปสช. แต่อย่างใด

“หากปลายปีงบประมาณมีเงินคงเหลือ ก็จะโอนคืนให้โรงพยาบาลทั้งหมด หากไม่พอ สปสช.จะใช้งานข้อมูลจริงที่ผ่านการตรวจสอบขอรับงบเพิ่มเติมจากรัฐบาล” ทพ.อรรถพรกล่าว พร้อมระบุว่าแนวทางนี้เป็นมาตรฐานวิชาชีพที่ประเทศต่างๆ ใช้เพื่อป้องกันการเบิกเกินจริง และคุ้มครองโรงพยาบาลที่อาจบันทึกข้อมูลไม่ครบแต่ทำบริการจริง

◤ ​​โรงพยาบาลรัฐโต้กลายเป็นการตัดงบแฝง – ห่วงบริการประชาชนสะดุด

นพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ อดีตประธานชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป แสดงความกังวลว่า แนวทางของ สปสช.ในการนำผลตรวจเวชระเบียนเพียง 3% ไปคูณขยายเป็นผลการตรวจทั้งหมด อาจกลายเป็นการ “ลดงบแฝง” ที่ส่งผลกระทบต่อการบริการผู้ป่วยอย่างมีนัยสำคัญ

เขาระบุว่า หาก สปสช.เดินหน้าแนวทางนี้ต่อ อาจทำให้โรงพยาบาลรัฐทั่วประเทศสูญเสียงบประมาณรวมกว่า 4,000 ล้านบาท และในบางกรณี อาจส่งผลให้โรงพยาบาลที่ทำการรักษาจริงแต่มีข้อผิดพลาดด้านเอกสารไม่ได้รับค่ารักษาเลย

“ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยที่รักษาหาย แต่เอกสารสรุปการนอนโรงพยาบาลหายไป 1 หน้า กลายเป็นว่า สปสช.ไม่จ่ายค่ารักษาทั้งหมด หรือบางกรณีแพทย์ผ่าตัดจริง แต่เอกสารบันทึกไม่ตรงแบบฟอร์ม สปสช.ก็ปฏิเสธการจ่าย เช่น จากที่ควรได้ 18,696 บาท กลับได้แค่ 5,700 บาท ทั้งที่ต้นทุนจริงเกือบ 30,000 บาท แบบนี้ถือว่ายุติธรรมกับโรงพยาบาลหรือไม่” นพ.อนุกูลตั้งคำถาม

◤ ​​ต้นทุนจริงสูงกว่าอัตราจ่าย ระบบปลายปิดซ้ำเติม รพ.รัฐ

ข้อมูลจากการวิจัยของนักวิชาการในสังกัดสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ระบุว่า ต้นทุนการรักษาผู้ป่วยในในโรงพยาบาลรัฐเฉลี่ยอยู่ที่ 13,240 บาทต่อหน่วย แต่ สปสช.จ่ายเพียง 8,350 บาท หรือราว 60% ของต้นทุน ทำให้โรงพยาบาลต้องรับภาระต้นทุนส่วนต่าง

นอกจากนี้ นพ.อนุกูลยังวิจารณ์ว่า สปสช.ประเมินจำนวนผู้ป่วยในต่ำกว่าความเป็นจริง ส่งผลให้งบไม่เพียงพอดูแลผู้ป่วยตลอดทั้งปี จึงเลือกใช้นโยบาย “ปลายปิด” ไม่ให้ขอเพิ่มงบอัตโนมัติ แม้มีผู้รับบริการเกินเป้า โดยสปสช.เสนอแนวทางปรับลดอัตราจ่ายผู้ป่วยในจาก 8,350 เหลือ 7,000 บาทต่อหน่วย เพื่อให้งบประมาณเพียงพอ

“สิ่งที่ สปสช.ควรทำคือ รายงานรัฐบาลให้ทราบว่า งบไม่พอ ต้องขอรับงบกลางเพิ่มเติม ไม่ใช่เลือกวิธีลดงบผ่านการขยายผลการตรวจเพียง 3% ไปครอบคลุมผู้ป่วยในทั้งหมด ซึ่งจะทำให้งบที่ควรได้รับจริงหายไปถึง 3,600 ล้านบาท”

แม้ สปสช.จะย้ำว่าไม่มีการลดงบผู้ป่วยในโดยตรง แต่แนวทางปฏิบัติที่พยายามควบคุมงบผ่านการประเมินเอกสารและผลการตรวจเพียงบางส่วน กำลังสร้างความกังวลต่อผู้ให้บริการในระบบที่ต้องแบกรับความเสี่ยงทั้งจากภาระงานสูงและความผิดพลาดทางเอกสาร

ข้อเรียกร้องจากโรงพยาบาลรัฐคือ ขอให้ สปสช.ทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนประชาชนที่ “ซื้อบริการ” จากโรงพยาบาลอย่างแท้จริง ไม่ใช่ “ซื้อข้อมูลเอกสาร” โดยละเลยข้อเท็จจริงว่าผู้ป่วยได้รับการรักษาแล้วหรือไม่

#เก็บตกจากวชิรวิทย์ #นักข่าวสาธารณสุข

ข่าวน่าสนใจ หมอเผย ‘รพ.รัฐ’อาจถูกเรียกเงินคืน 4,000 ล้าน เตรียมรับผลกระทบการรักษา หลัง สปสช.! มีประกาศแนวทางทบทวนแนวทางก...
20/07/2025

ข่าวน่าสนใจ หมอเผย ‘รพ.รัฐ’อาจถูกเรียกเงินคืน 4,000 ล้าน เตรียมรับผลกระทบการรักษา หลัง สปสช.! มีประกาศแนวทางทบทวนแนวทางการตรวจสอบยอดเบิกค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน (IPD)

‘หมอวี’เผย‘รพ.รัฐ’อาจถูกเรียกเงินคืน 4,000 ล้าน เตรียมรับผลกระทบการรักษา หลัง สปสช.! มีประกาศแนวทางทบทวนแนวทา....

คำที่น่าสนใจในวิชาการด้านเวชระเบียน กับคำนี้ CullingCulling คือ การคัดเวชระเบียนออกมาเพื่อเตรียมการออกไปจากตู้หรือชั้นเก...
11/07/2025

คำที่น่าสนใจในวิชาการด้านเวชระเบียน กับคำนี้ Culling
Culling คือ การคัดเวชระเบียนออกมาเพื่อเตรียมการออกไปจากตู้หรือชั้นเก็บ เพื่อการทำลายเวชระเบียน เข้าสู่กระบวนการทำลาย หรือการจัดแยกไปเก็บในพื้นที่สำรองกรณีที่ไม่ค่อยได้ใช้งานเวชระเบียนนั้นแล้ว โดย Culling มีความหมายตามภาษาอังกฤษ ว่า The removal of medical records from the medical record file room when they are no longer active. Records may then be either destroyed, or filed in inactive or secondary storage. Records in secondary storage may be culled for destruction (แสงเทียน อยู่เถา, 11 ก.ค. 68)

ที่อยู่

นครปฐม

เบอร์โทรศัพท์

+66815704933

เว็บไซต์

https://www.youtube.com/@carechara6861

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ เครือข่ายเวชระเบียนผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง เครือข่ายเวชระเบียน:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram