07/10/2021
ประกันสุขภาพแบ่งได้ 2 แบบ คือ “ประกันสุขภาพแบบแยกค่าใช้จ่าย” และ “ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย”
👉ประกันสุขภาพแบบแยกค่าใช้จ่าย 👈
จะมีการกำหนดวงเงินค่ารักษาพยาบาลสำหรับแต่ละหมวดหมู่ แต่ละรายการไว้ เช่น
1. ค่ารักษาพยาบาลต่อการเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล (IPD) ไม่เกิน xx
บาท/ครั้ง/โรค
2. ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการพยาบาลไม่เกิน xx/วัน
3. ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอกไม่เกิน (OPD) xx/ครั้ง/โรค เป็นต้น
หากค่ารักษา หรือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเกินวงเงินที่ระบุในแต่ละหมวดหมู่ หรือรายการ เราจะต้องจ่ายในส่วนที่เกินเอง
☘จุดเด่น☘ ของการทำประกันสุขภาพแบบแยกค่ารักษาคือ เบี้ยประกันจะไม่สูงมากนักหากเปรียบเทียบกับประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย
☘จุดด้อย☘ ที่มองเห็นได้ชัดเลยคือวงเงินความคุ้มครองน้อย ดังนั้นต้องคำนวณดีๆ ไม่งั้นมีเข้าเนื้อตัวเองแน่ๆ
👉ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย 👈
จะมีการกำหนดแค่วงเงินค่ารักษาพยาบาลต่อครั้งเท่านั้น ยกเว้นบางรายการที่ยังคงเป็นแบบแยกค่ารักษาอยู่ เช่นค่าห้อง ค่าอาหารและค่าบริการพยาบาลประจำ เป็นต้น การที่ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายไม่มีการแบ่งแยกค่ารักษาพยาบาลออกเป็นหมวดหมู่ย่อยๆ ทำให้มี
☘จุดเด่น☘ เรื่องความยืดหยุ่นที่มากกว่า เบิกค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้ง่าย และมีรายการคุ้มครองหลากหลาย ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายจึงกลายเป็นที่นิยมมากขึ้น
☘จุดด้อย☘ ค่าเบี้ยประกันที่จะสูงกว่าปกติเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของประกันแต่ละบริษัท