
29/09/2025
💗 อย่าชะล่าใจ! “โรคหัวใจ” ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของผู้สูงอายุอีกต่อไป
หลายคนอาจจะกำลังคิดว่าโรคหัวใจเป็นเรื่องไกลตัว จะเกิดกับใครก็คงไม่ใช่กับเราในวัยหนุ่มสาวหรือวัยทำงานที่ยังแข็งแรงอยู่แน่นอน แต่จริงๆ แล้วรู้ไหมคะว่าพฤติกรรมการใช้ชีวิตในปัจจุบันของเรานี่แหละค่ะ คือตัวการสำคัญที่ทำให้คนรุ่นใหม่เสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้ง่ายขึ้นโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน ความเครียด หรือการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ วันนี้เราจะชวนมาสำรวจพฤติกรรมเสี่ยงรอบตัว พร้อมวิธีดูแลหัวใจของเราให้แข็งแรงกันค่ะ
🧬 ปัจจัยเสี่ยงที่ควบคุมไม่ได้
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจปัจจัยที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดกันก่อนนะคะ ซึ่งก็คือเรื่องของพันธุกรรม อายุ และเพศค่ะ
▪️ พันธุกรรม: หากคนในครอบครัวสายตรงของเรา เช่น พ่อแม่พี่น้อง มีประวัติป่วยเป็นโรคหัวใจตั้งแต่อายุยังน้อย ก็จะทำให้เรามีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไปค่ะ
▪️ อายุและเพศ: เมื่ออายุเพิ่มขึ้น อวัยวะต่างๆ รวมถึงหัวใจและหลอดเลือดก็ย่อมเสื่อมลงตามธรรมชาติ และโดยเฉลี่ยแล้ว เพศชายจะมีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้มากกว่าเพศหญิงค่ะ
แม้จะเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ แต่การรู้ไว้ก็ช่วยให้เราตระหนักและหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพของตัวเองได้เร็วขึ้นนะคะ
🍟 พฤติกรรมการกินตัวการสำคัญ
อาหารที่เราทานในแต่ละวันส่งผลต่อสุขภาพหัวใจโดยตรงเลยค่ะ โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันและคอเลสเตอรอลสูง ซึ่งพบมากในเมนูโปรดของใครหลายๆ คน
🔸 ของทอด ของมัน: ไม่ว่าจะเป็นไก่ทอด หมูทอด เฟรนช์ฟรายส์ หรืออาหารผัดที่ใช้น้ำมันเยอะๆ ล้วนแต่เพิ่มไขมันเลว (LDL) ในร่างกาย ซึ่งจะไปเกาะตามผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบและอุดตันได้ค่ะ
🔸 กะทิ: แกงกะทิต่างๆ แม้จะหอมอร่อย แต่ก็เป็นแหล่งของไขมันอิ่มตัวสูงเช่นกันค่ะ
🔸 ของหวาน เบเกอรี่: เค้ก คุกกี้ ขนมปังต่างๆ มักมีส่วนประกอบของเนย มาการีน และน้ำตาลในปริมาณมาก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ไขมันในเลือดสูงและเสี่ยงต่อโรคอ้วนได้ค่ะ
การทานอาหารเหล่านี้เป็นประจำจะส่งผลให้ระดับไขมันในเลือดสูง และเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจในที่สุดค่ะ 🍔🍰
⚖️ น้ำหนักเกินและโรคอ้วน
ภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วนไม่ได้ส่งผลแค่เรื่องรูปร่างและความสวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นประตูสู่สารพัดโรคเรื้อรังที่เป็นอันตรายต่อหัวใจโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลกระทบต่อระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดภาวะหัวใจขาดเลือดได้ค่ะ
🤯 ความเครียดสะสมและการพักผ่อนน้อย
ในยุคที่ต้องแข่งขันและเร่งรีบแบบนี้ ความเครียดจากการทำงานหรือการใช้ชีวิตกลายเป็นเรื่องปกติของใครหลายคนไปแล้ว แต่ความเครียดที่สะสมโดยไม่ได้รับการจัดการที่เหมาะสม จะกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น และอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้เลยนะคะ 😵 ประกอบกับการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ก็ยิ่งซ้ำเติมให้ร่างกายอ่อนแอและเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลวได้อีกด้วยค่ะ
🚭 การสูบบุหรี่และควันบุหรี่มือสอง
เป็นที่ทราบกันดีว่าการสูบบุหรี่คือตัวการร้ายทำลายสุขภาพ และเป็นสาเหตุสำคัญอันดับต้นๆ ของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันค่ะ สารพิษในบุหรี่จะเข้าไปทำลายผนังหลอดเลือด ทำให้เกิดการอักเสบและเกิดลิ่มเลือดอุดตันได้ง่าย แต่ที่น่ากลัวไปกว่านั้นคือ แม้เราจะไม่ได้สูบเอง แต่การอยู่ใกล้ชิดกับผู้สูบบุหรี่และได้รับควันบุหรี่มือสองเป็นประจำ ก็มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้ไม่ต่างกันเลยค่ะ
❤️ ปรับพฤติกรรมวันนี้ เพื่อหัวใจที่แข็งแรงในวันหน้า
ข่าวดีก็คือเราสามารถป้องกันและลดความเสี่ยงของโรคหัวใจได้ค่ะ เพียงแค่เราหันมาตระหนักรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตบางอย่างให้ดีขึ้น เริ่มต้นง่ายๆ ได้ตั้งแต่วันนี้เลยค่ะ
🔹 ลดหวาน มัน เค็ม: ลองปรับเมนูอาหารในแต่ละมื้อ เพิ่มผักผลไม้ให้มากขึ้น และเลือกทานอาหารที่ปรุงด้วยวิธีการต้ม นึ่ง ย่าง แทนการทอดหรือผัด
🔹 ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: หาเวลาเคลื่อนไหวร่างกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 3-5 วันต่อสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเร็ว วิ่ง หรือเต้นแอโรบิก เพื่อช่วยให้หัวใจแข็งแรงและระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้นค่ะ
🔹 จัดการความเครียด: หาวิธีผ่อนคลายที่เหมาะกับตัวเอง เช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือ นั่งสมาธิ หรือทำงานอดิเรกที่ชอบ
🔹 พักผ่อนให้เพียงพอ: พยายามนอนหลับให้ได้ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน เพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรออย่างเต็มที่
🔹 ลด ละ เลิกบุหรี่: เพื่อสุขภาพของตัวคุณเองและคนรอบข้างค่ะ
ที่สำคัญ อย่าลืมเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อคัดกรองความเสี่ยงของโรคหัวใจอย่างสม่ำเสมอนะคะ การตรวจพบความผิดปกติตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพและเพิ่มโอกาสในการกลับมามีสุขภาพที่ดีได้อีกครั้งค่ะ
อ้างอิง:
https://www.bangkokbiznews.com/news/news-update/1187613
https://thainews.prd.go.th/thainews/news/view/1238205/?bid=1
https://www.tnnthailand.com/health/204150/
#โรคหัวใจ ิถีชีวิตที่ยั่งยืน