PYONG Rehabilitation Clinic

PYONG Rehabilitation Clinic PYONG Rehabilitation Clinic
เปียง คลินิกเฉพาะทางด้านเวชกรรมสาขาเวชศาสตร์ฟื้นฟู
(1)

29/09/2025

ชีวิตหลังความเจ็บปวด | LIFE AFTER PAIN

คุณเปี๊ยกใช้เวลายาวนานในการเดินทางตามหาการรักษาอาการปวดเรื้อรังจากโรคออฟฟิศซินโดรมที่กัดกินทั้งร่างกายและจิตใจมาเป็นระยะเวลายาวนานหลายสิบปี กลับไม่มีสิ่งไหนที่ช่วยรักษาอาการปวดคอบ่าไหล่ของคุณเปี๊ยกได้เลย

Khun Peak spent decades on a long journey, searching for a cure for the chronic pain from Office Syndrome that had been plaguing both his body and mind. Yet, nothing could relieve the pain in his neck, shoulders, and back.

PYONG Rehabilitation Clinic กับการรักษาที่ไม่ประณีประณอมกับอาการปวด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน

A personalised approach for pain-free living
ก้าวผ่านความเจ็บปวดด้วยการรักษาที่ออกแบบมาเพื่อคุณ




#รักษาอย่างตรงจุดด้วยการวินิจฉัย
#ออฟฟิศซินโดรม

28/09/2025

เวชศาสตร์ฟื้นฟู เทคโนโลยี และการรักษาที่ไม่ประนีประนอม มุมมองในฐานะผู้บริหารของ นพ.กันตพงศ์ ทองรงค์ (แพทย์เปียง) CEO & Founder PYONG Rehabilitation Group

นอกเหนือจากการลดริ้วรอย และรักษาบางอาการในผู้ป่วยโรคพาร์กินสันแล้ว “โบทูลินัม ท็อกซิน” (Botulinum Toxin) ยังเป็นอีกตัวช่...
27/09/2025

นอกเหนือจากการลดริ้วรอย และรักษาบางอาการในผู้ป่วยโรคพาร์กินสันแล้ว “โบทูลินัม ท็อกซิน” (Botulinum Toxin) ยังเป็นอีกตัวช่วยสำคัญในการรักษาผู้ป่วยที่ฟื้นตัวจากภาวะหลอดเลือดสมอง (Stroke) โดยเฉพาะกับอาการกล้ามเนื้อหดเกร็ง (Spasticity) ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อแข็งเกร็งอย่างควบคุมไม่ได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำกิจกรรมต่าง ๆ

ในโพสต์นี้ เราจะมาอธิบายว่า Botulinum Toxin มีส่วนสำคัญในการช่วยผู้ป่วย Stroke อย่างไร โดยบทบาทสำคัญจะแบ่งออกได้ 3 ข้อด้วยกัน คือ

➤ ลดอาการกล้ามเนื้อหดเกร็ง - Botulinum Toxin จะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวและมีความแข็งเกร็งลดลง ด้วยการยับยั้งการส่งสัญญาณจากเส้นประสาทไปยังกล้ามเนื้อ
➤ การกายภาพบำบัดง่ายขึ้น - ด้วยคุณสมบัติคลายกล้ามเนื้อ จะช่วยให้นักกายภาพบำบัดสามารถขยับแขนหรือขาของผู้ป่วย เพื่อฝึกท่าต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
➤ ผู้ป่วยกลับมาช่วยเหลือตัวเองได้ - เมื่อกล้ามเนื้อคลายตัว ผู้ป่วยจะสามารถดูแลตัวเองได้ดีขึ้น เช่น การสวมใส่เสื้อผ้า การทำความสะอาดร่างกาย หรือการใส่เฝือกและอุปกรณ์ช่วยเดินต่าง ๆ

สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น นั่นเพราะเมื่อเกิดภาวะหลอดเลือดสมอง ส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหวจะได้รับความเสียหาย ส่งผลให้กล้ามเนื้อหดเกร็งและแข็งค้างในบางส่วนอย่างถาวร Botulinum Toxin จึงเข้ามามีบทบาทในการคลายกล้ามเนื้อ ด้วยการยับยั้งสารสื่อประสาท อะเซทิลโคลีน (acetylcholine) ที่ทำให้กล้ามเนื้อหดตัว

ทั้งนี้ การใช้ด้วย Botulinum Toxin เป็นวิธีรักษาที่ต้องทำควบคู่ไปกับการทำกายภาพบำบัด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยผลของ Botulinum Toxin จะคงอยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือนเท่านั้น และการรักษาด้วยวิธีนี้ ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูหรือระบบประสาทเท่านั้น

LINE
Clinic 097-468-7990
Penthouse 088-589-0935


#รักษาอย่างตรงจุดด้วยการวินิจฉัย

รู้หรือไม่? “โบทูลินัม ท็อกซิน” (Botulinum Toxin) สามารถใช้ในการรักษาบางอาการของผู้ป่วยโรคพาร์กินสันได้ด้วยเช่นกัน โดยโร...
25/09/2025

รู้หรือไม่? “โบทูลินัม ท็อกซิน” (Botulinum Toxin) สามารถใช้ในการรักษาบางอาการของผู้ป่วยโรคพาร์กินสันได้ด้วยเช่นกัน

โดยโรคพาร์กินสัน เกิดจากการที่เซลล์สมองส่วน “ซับสแตนเชียไนกรา” (Substantia Nigra) สำหรับสร้างสารโดพามีน (Dopamine) ที่ช่วยในการกระตุ้นและควบคุมความเคลื่อนไหว ค่อย ๆ เสื่อมและตายลง ส่งผลให้สารโดพามีนในสมองไม่เพียงพอ ซึ่งจะมีอาการหลัก ๆ คือ ตัวสั่น, เคลื่อนไหวช้าลง, ทรงตัวลำบาก และ กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง

ในส่วนนี้เอง เลยทำให้ Botulinum Toxin เข้ามามีบทบาท โดยทำหน้าที่ยับยั้งการหลั่งสารสื่อประสาทอะเซทิลโคลีน (Acetylcholine) ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวลง แม้จะไม่ได้รักษาอาการสั่นหรือการเคลื่อนไหวช้า แต่ก็ช่วยคืนคุณภาพชีวิตให้กับผู้ป่วยได้มากเลยทีเดียว

ในทางการแพทย์ เราสามารถใช้ Botulinum Toxin รักษาอาการดังต่อไปนี้

➤ น้ำลายไหลมากผิดปกติ - ใช้สำหรับยับยั้งการหลั่งน้ำลายจากต่อมน้ำลาย ช่วยลดปัญหาเรื่องการกลืน
➤ ภาวะกล้ามเนื้อบิดเกร็ง - Botulinum Toxin มีฤทธิ์ลดความแข็งตึงของกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการบิดเกร็งที่ทำให้ปวดและเคลื่อนไหวลำบาก
➤ เปลือกตากระตุกหรือหรี่ตาถี่ ๆ - Botulinum Toxin สามารถช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตา ลดอาการกระตุกและช่วยให้การมองเห็นดีขึ้น

การรักษาอาการต่าง ๆ ที่เกิดจากโรคพาร์กินสันด้วย Botulinum Toxin นั้น จะออกฤทธิ์ได้ประมาณ 3-4 เดือน และการรักษาด้วยวิธีนี้ ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาทโดยเฉพาะ เพื่อกำหนดปริมาณยาและตำแหน่งการฉีดอย่างเหมาะสม

LINE
Clinic 097-468-7990
Penthouse 088-589-0935


#รักษาอย่างตรงจุดด้วยการวินิจฉัย

ติดอยู่กับการฟื้นฟูแบบเดิม ๆ ?มาสัมผัสเทคโนโลยีระดับโลก จบง่ายในที่เดียวกับโปรแกรมฟื้นฟูสมองที่ PYONG Rehabilitation Cli...
25/09/2025

ติดอยู่กับการฟื้นฟูแบบเดิม ๆ ?
มาสัมผัสเทคโนโลยีระดับโลก จบง่ายในที่เดียวกับโปรแกรมฟื้นฟูสมอง

ที่ PYONG Rehabilitation Clinic & Penthouse เรามีเทคนิคและเทคโนโลยีมาตรฐานระดับโลก เพื่อให้คุณมั่นใจว่าที่นี่จะเป็นที่สุดท้ายของคุณในการบำบัด ฟื้นฟู รักษา แก้ปวด อย่างที่คุณไม่ต้องไปมองหาที่ไหนอีกแล้ว

มาจบง่ายในที่สุดท้ายสำหรับทุกการบำบัดฟื้นฟู แก้ปวดกับเรานะครับ

————————————-
LINE
Penthouse 088-589-0935
Clinic 097-468-7990


#รักษาอย่างตรงจุดด้วยการวินิจฉัย

กายภาพบำบัดมาหลายที่ แล้วยังไม่หาย? มาสัมผัสเทคโนโลยีระดับโลก ที่จะช่วยจบปัญหาก่อน-หลังผ่าตัดที่ PYONG Rehabilitation Cl...
25/09/2025

กายภาพบำบัดมาหลายที่ แล้วยังไม่หาย?
มาสัมผัสเทคโนโลยีระดับโลก ที่จะช่วยจบปัญหาก่อน-หลังผ่าตัด

ที่ PYONG Rehabilitation Clinic & Penthouse เรามีเทคนิคและเทคโนโลยีมาตรฐานระดับโลก เพื่อให้คุณมั่นใจว่าที่นี่จะเป็นที่สุดท้ายของคุณในการบำบัด ฟื้นฟู รักษา แก้ปวด อย่างที่คุณไม่ต้องไปมองหาที่ไหนอีกแล้ว

มาจบง่ายในที่สุดท้ายสำหรับทุกการบำบัดฟื้นฟู แก้ปวดกับเรานะครับ

————————————-
LINE
Penthouse 088-589-0935
Clinic 097-468-7990


#รักษาอย่างตรงจุดด้วยการวินิจฉัย

ปวดมาหลายปี รักษาไม่หายขาด?มาลองวิธีใหม่ๆที่นี่ และให้เราเป็นที่สุดท้ายในการรักษาอาการปวดเรื้อรังที่ PYONG Rehabilitatio...
25/09/2025

ปวดมาหลายปี รักษาไม่หายขาด?
มาลองวิธีใหม่ๆที่นี่ และให้เราเป็นที่สุดท้ายในการรักษาอาการปวดเรื้อรัง

ที่ PYONG Rehabilitation Clinic & Penthouse เรามีเทคนิคและเทคโนโลยีมาตรฐานระดับโลก เพื่อให้คุณมั่นใจว่าที่นี่จะเป็นที่สุดท้ายของคุณในการบำบัด ฟื้นฟู รักษา แก้ปวด อย่างที่คุณไม่ต้องไปมองหาที่ไหนอีกแล้ว

มาจบง่ายในที่สุดท้ายสำหรับทุกการบำบัดฟื้นฟู แก้ปวดกับเรานะครับ

————————————-
LINE
Penthouse 088-589-0935
Clinic 097-468-7990


#รักษาอย่างตรงจุดด้วยการวินิจฉัย

“ภาวะกระดูกพรุน” คือภาวะที่ความหนาแน่นของมวลกระดูกลดลง ทำให้กระดูกมีความเปราะบางและแตกหักง่าย แม้เกิดการกระแทกเพียงเล็กน...
23/09/2025

“ภาวะกระดูกพรุน” คือภาวะที่ความหนาแน่นของมวลกระดูกลดลง ทำให้กระดูกมีความเปราะบางและแตกหักง่าย แม้เกิดการกระแทกเพียงเล็กน้อย ปัจจุบันมีวิธีป้องกันและเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกมากมาย และวิธีที่ง่ายที่สุดนั้น คือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งแบ่งเป็น 2 รูปแบบหลัก ๆ ได้แก่

➤ การออกกำลังกายแบบลงน้ำหนักและมีแรงกระแทก (Weight-bearing impact exercise)
➤ การฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (Resistance training หรือ Muscle-strengthening exercise)

หากอ้างอิงตามบทความที่ตีพิมพ์ใน British Journal of Sports Medicine ปี 2022 จะพบว่า “การออกกำลังกายทั้งสองรูปแบบเป็นประจำ จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกระดูกในผู้ป่วยกระดูกพรุน พร้อมลดความเสี่ยงการหกล้มได้ถึง 26% เลยทีเดียว

1. การออกกำลังกายแบบมีแรงกระแทก
วิธีนี้จะเน้นให้ร่างกายรับน้ำหนักตัว และสร้างแรงกระแทกผ่านกระดูก โดยสามารถแบ่งได้ 3 ระดับ คือ
➤แรงกระแทกต่ำ: เช่น การเดิน, ขี่จักรยาน, เล่นโยคะ
➤แรงกระแทกปานกลาง: เช่น วิ่งเหยาะ ๆ , เต้นแอโรบิก
➤แรงกระแทกสูง: เช่น บาสเกตบอล, กระโดดเชือก

2. การฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
ในส่วนนี้จะใช้หลักการที่ว่า เมื่อกล้ามเนื้อดึงตัวจะกระตุ้นให้กระดูกซ่อมแซม และเสริมความแข็งแรงให้ตัวเอง โดยการฝึกส่วนนี้สามารถใช้ได้ทั้งอุปกรณ์ยกน้ำหนัก, ยางยืด หรือน้ำหนักตัวในการฝึกได้ เช่น
➤ยืนดันกำแพง
➤การเดินย่ำเท้าอยู่กับที่
➤ยกน้ำหนักส่วนแขน

ทั้งนี้ เราควรเริ่มแบบค่อยเป็นค่อยไป (Progressive muscle resistance training) เพิ่มแรงต้านหรือน้ำหนักอย่างช้า ๆ และควรฝึก 2-3 วันต่อสัปดาห์ พักอย่างน้อย 1 วันระหว่างการฝึก เน้นบริหารส่วนขา แขน และกระดูกสันหลัง ประมาณ 20-30 นาที โดยให้ความสำคัญกับเทคนิคที่ถูกต้องมากกว่าปริมาณน้ำหนัก

นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มความมั่นคงและลดความเสี่ยงในการหกล้ม ขอแนะนำให้ฝึกการทรงตัว (Balance and stability exercises) และ การยืดเหยียด (Flexibility work) ควบคู่กันไปด้วย

LINE
Clinic 097-468-7990
Penthouse 088-589-0935


#รักษาอย่างตรงจุดด้วยการวินิจฉัย

“เข่า” ถือเป็นอีกอวัยวะที่จำเป็นต่อการเคลื่อนไหว แต่เมื่อมีการบาดเจ็บ ก็จะสร้างปัญหาและความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก เพราะเข่า...
20/09/2025

“เข่า” ถือเป็นอีกอวัยวะที่จำเป็นต่อการเคลื่อนไหว แต่เมื่อมีการบาดเจ็บ ก็จะสร้างปัญหาและความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก เพราะเข่าของเราต้องรับน้ำหนักทั้งหมดของร่างกาย ทำให้กระทบต่อการใช้ชีวิตและทำกิจกรรมต่าง ๆ

เพื่อบรรเทาหรือรักษาอาการบาดเจ็บในรูปแบบต่าง ๆ สามารถทำได้ด้วยการฉีดสารเข้าไปที่เข่าโดยตรง โดยสารแต่ละชนิดมีหลักการทำงานแตกต่างกัน โดยหลัก ๆ แล้วจะมีทั้งอยู่ 4 ตัวด้วยกัน ได้แก่

➤กรดไฮยาลูโรนิก (Hyarulonic acid) - สารธรรมชาติที่พบในน้ำไขข้อ มีหน้าที่หล่อลื่นและดูดซับแรงกระแทก การฉีดสารนี้เข้าไป เหมือนเป็นการเติมน้ำมันหล่อลื่นให้กับข้อต่อ ช่วยบรรเทาอาการปวดและเพิ่มความยืดหยุ่นในการเคลื่อนไหว มีประสิทธิภาพกับผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมระดับน้อยถึงปานกลาง

➤PRP (Platelet-Rich Plasma) - พลาสม่าที่มีเกล็ดเลือดในปริมาณสูง ได้จากการนำเลือดของผู้ป่วยเองไปปั่นแยก มี Growth Factors ที่ช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหายและลดการอักเสบ เพื่อรักษาอาการปวดและฟื้นฟูข้อต่อ งานวิจัยบางส่วนพบว่าในระยะสั้น มีประสิทธิภาพมากกว่ากรดไฮยาลูโรนิก

➤สเตียรอยด์ (Corticosteroids) - เป็นยาต้านการอักเสบที่ออกฤทธิ์แรงและรวดเร็ว บรรเทาอาการปวดได้อย่างฉับพลัน สำหรับผู้ที่มีอาการปวดและบวมรุนแรง แต่ผลการรักษาอยู่ได้เพียง 2-4 สัปดาห์ และอาจก่อผลเสียหากฉีดบ่อยเกินไป

➤สเต็มเซลล์ (Stem Cell) - เซลล์ต้นกำเนิดที่สามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์ชนิดอื่นๆ ได้ มีจุดประสงค์เพื่อฟื้นฟูและซ่อมแซมกระดูกอ่อนที่เสื่อมสภาพ ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัยเพื่อยืนยันประสิทธิภาพและความปลอดภัยในระยะยาว

➤อะเทโลคอลลาเจน (Atelocollagen) - เป็นคอลลาเจน Type-I ความบริสุทธิ์สูง มีโครงสร้างคล้ายคอลลาเจนตามธรรมชาติ ซึ่งผ่านกระบวนการกำจัดสิ่งที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัยในการใช้ ไม่เพียงแค่ทำหน้าที่เสมือนน้ำเลี้ยงข้อเข่า แต่ยังมีคุณสมบัติในการเคลือบ และเร่งการสร้างกระดูกอ่อนผิวข้อด้วย

ทั้งนี้ การฉีดสารใด ๆ เข้าไปในข้อเข่า ต้องขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ ว่าอาการมีความรุนแรงระดับไหน เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับความปลอดภัยของผู้ป่วยในระยะยาว

LINE
Penthouse 088-589-0935
Clinic 097-468-7990


#รักษาอย่างตรงจุดด้วยการวินิจฉัย

“การหกล้ม” เป็นอาการบาดเจ็บที่เกิดจากร่างกายเสียสมดุลและความมั่นคง สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกับผู้สูงอายุ...
18/09/2025

“การหกล้ม” เป็นอาการบาดเจ็บที่เกิดจากร่างกายเสียสมดุลและความมั่นคง สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกับผู้สูงอายุที่น่าเป็นห่วงที่สุด ทั้งในด้านมวลกล้ามเนื้อ, กระดูก และความคล่องแคล่วที่ลดลงตามอายุ กว่าจะรู้ตัวอีกทีร่างกายก็กำลังจะลงไปปะทะกับพื้นแล้ว และเราหยุดอะไรไม่ได้เลย หากไม่มีใครมาคว้าตัวไว้

แม้ว่าเราไม่สามารถหยุดตัวเองที่กำลังจะล้มได้ แต่เรายังสามารถลดความเสียหายที่กำลังจะเกิดขึ้นให้เบาลงได้ โดยเฉพาะอาการบาดเจ็บร้ายแรงที่อาจเกิดกับกระดูกสันหลังและศีรษะ ด้วยวิธีล้มอย่างถูกต้องต่อไปนี้

1. ตั้งสติ - ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการควบคุมร่างกาย เพื่อนำไปสู่ขั้นตอนการลดความเสียหายจากการหกล้มในขั้นอื่น ๆ

2. ย่อตัวให้ต่ำ - เมื่อรู้สึกว่ากำลังเสียการทรงตัว ให้รีบย่อเข่าเพื่อลดจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำลง และลดความสูงของร่างกาย ที่มีผลต่อแรงปะทะที่กำลังจะเกิดขึ้น

3. ใช้แขนรับน้ำหนัก - แม้ในขณะล้มเราจะไม่สามารถกำหนดทิศทางได้ แต่ไม่ว่าจะล้มไปทางไหน สิ่งที่ควรระวังที่สุดคือ “ศีรษะ” ที่เมื่อลงปะทะพื้นแล้ว จะเสี่ยงต่อเลือดออกในสมอง กับ “สะโพก” ที่มีโอกาสหัก อาจส่งผลต่อการเดินในระยะยาว หากเป็นไปได้ ไม่ว่าจะล้มไปในทิศทางไหนก็ตาม การใช้แขนรับน้ำหนักขณะล้มจะช่วยลดความเสียหายต่อส่วนสำคัญของร่างกายทั้งสองส่วนนี้ได้

4. ลุกขึ้นอย่างมั่นคง - เมื่อเราล้มแล้ว ให้ลองสำรวจร่างกายตัวเองว่าบาดเจ็บตรงไหน หากเจ็บไม่มาก ไม่ปวดศีรษะหรือปวดคอ แขนขายังขยับได้ ให้ค่อย ๆ ลุกขึ้นมา โดยการพลิกตัวนอนหงาย สมมติว่าจะลุกไปด้านขวา ให้เหยียดแขนและพลิกตัวไปทางขวา ใช้ข้อศอกขวายกตัวเองขึ้น ส่วนแขนขวาให้ประคอง
➤ หากไม่สามารถทรงตัวลุกขึ้นมาเองได้ ให้คลานไปหาหลักยึด เช่นเก้าอี้ไม่มีล้อ หรือโต๊ะที่แข็งแรงมั่นคงพอ ค่อย ๆ พยุงตัวเองขึ้นมา
➤หากมีอาการบาดเจ็บมาก ๆ หรือมีอาการมึนงงจนลุกไม่ไหว ให้นอนนิ่ง ๆ รอความช่วยเหลือจากคนอื่น

จากที่กล่าวมาในส่วนของการล้ม จะเห็นได้ว่าเน้นให้เอามือลง เพราะแม้แขนหรือข้อมือบาดเจ็บ แต่เราจะยังลุกขึ้นเดิน เพื่อออกมาอยู่ในจุดที่ปลอดภัยเพื่อรับความช่วยเหลือได้

เพื่อป้องกันการล้มที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เราสามารถออกกำลังกายเพื่อฝึกความแข็งแรงและยืดหยุ่นของร่างกายได้ โดยเน้นไปที่การบริหารกล้ามเนื้อสะโพก, ต้นขา และข้อเท้า เช่น ลีลาศ, โยคะ ไปจนถึงการรำไทเก๊ก ควบคู่ไปกับการฝึกทรงตัวต่าง ๆ เช่น ยืนขาเดียว 10-30 วินาที, เดินต่อส้นเท้า หรือฝึกยืนทรงตัวบนหมอนนุ่ม ๆ เป็นต้น

LINE
Clinic 097-468-7990
Penthouse 088-589-0935


#รักษาอย่างตรงจุดด้วยการวินิจฉัย

ปวดคอ ปวดหลังเรื้อรัง? อาจไม่ใช่ออฟฟิศซินโดรมแต่เป็น”โรคข้อต่อฟาเซต”⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯รักษาอาการปวดคอและหลังล่างเรื้อรัง...
16/09/2025

ปวดคอ ปวดหลังเรื้อรัง? อาจไม่ใช่ออฟฟิศซินโดรมแต่เป็น”โรคข้อต่อฟาเซต”

⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯

รักษาอาการปวดคอและหลังล่างเรื้อรังด้วยเทคนิคผสานชั้นสูงเพื่อวินิจฉัยและซ่อมแซมเนื้อเยื่อบริเวณรอบข้อต่อฟาเซตโดยไม่ต้องผ่าตัด
▶ Ultrasounded-guided Facet Joint & Medial Branch Intervention for Chronic Neck & Low Back Pain
▶ ฉีดนำวิถีเพื่อกระตุ้นการซ่อมแซมบริเวณข้อฟาเซตและเส้นประสาทมีเดียลแบรนช์ สำหรับอาการปวดคอและหลังเรื้อรัง

⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯

ข้อฟาเซตและเส้นประสาทมีเดียลแบรนช์บริเวณหลังล่างและคอที่เกิดอาการเสื่อมสภาพหรืออักเสบเป็นหนึ่งในต้นเหตุของอาการปวดหลังเรื้อรัง เรียกรวม ๆ กันว่า โรคข้อต่อฟาเซต Facet Joint Syndrome ที่ต้องได้รับการวินิจฉัยโดยแพทย์จึงจะทำการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Facet Joint Intervention คือการผสมผสานเทคนิคการรักษาชั้นสูงหลายอย่างเพื่อฉีดนำวิถีเข้าไปกระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อบริเวณรอบ ๆ ข้อต่อฟาเซตที่มีปัญหา ช่วยให้อาการปวดเรื้อรังดีขึ้นในกลุ่มผู้ป่วยโรคข้อต่อฟาเซตที่มีพฤติกรรมการทำท่าทางที่ไม่เหมาะสมเป็นระยะเวลานาน ๆ หรือการมีน้ำหนักตัวมาก โดยไม่ต้องผ่าตัด

ดังนั้นหากมีอาการปวดคอหรือปวดหลังล่างเรื้อรัง อาจะไม่ใช่เพียงแค่อาการของออฟฟิศซินโดรมแต่อาจเกิดจากข้อต่อฟาเซตหรือเส้นประสาทมีเดียลแบรนช์เสื่อมสภาพ ควรเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาอย่างตรงจุดนะครับ

LINE
Penthouse 088-589-0935
Clinic 097-468-7990


#รักษาอย่างตรงจุดด้วยการวินิจฉัย

ในทุกการเคลื่อนไหวของชีวิตประจำวัน ตั้งแต่การลุก ยืน เดิน ไปจนถึงการหยิบจับสิ่งของ ล้วนต้องอาศัยการทำงานของ "กล้ามเนื้อ"...
15/09/2025

ในทุกการเคลื่อนไหวของชีวิตประจำวัน ตั้งแต่การลุก ยืน เดิน ไปจนถึงการหยิบจับสิ่งของ ล้วนต้องอาศัยการทำงานของ "กล้ามเนื้อ" ทั้งสิ้น กล้ามเนื้อไม่เพียงแต่เป็นขุมพลังที่ช่วยให้เราทำกิจกรรมต่างๆ ได้สำเร็จ แต่ยังเป็นโครงสร้างสำคัญที่ช่วยพยุงร่างกายให้มั่นคงและรักษาสมดุล การมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและสุขภาพดีจึงเป็นรากฐานสำคัญของการมีคุณภาพชีวิตที่ดีและเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระในทุกๆ วัน

แล้วเราจะดูแลกล้ามเนื้อที่ทำงานหนักเพื่อเรามาตลอดวันได้อย่างไร? "การยืดเหยียด" คือคำตอบที่ง่ายและสำคัญอย่างยิ่งครับ การยืดเหยียดกล้ามเนื้ออย่างสม่ำเสมอจะช่วยคลายความตึงเครียดที่สะสมอยู่ เพิ่มความยืดหยุ่น ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ และยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้กล้ามเนื้อได้รับออกซิเจนและสารอาหารอย่างเต็มที่ ส่งผลให้กล้ามเนื้อพร้อมใช้งานและฟื้นตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

วันนี้ PYONG Rehabilitation Clinic & Penthouse ขอนำเสนอท่ายืดเหยียดง่ายๆ ที่ทำได้ทั้งร่างกายโดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ ลองนำไปปรับใช้เพื่อดูแลกล้ามเนื้อของคุณกันนะครับ

LINE
Clinic 097-468-7990
Penthouse 088-589-0935

#รักษาอย่างตรงจุดด้วยการวินิจฉัย

ที่อยู่

Gaysorn Village, L Floor, 999, Phloen Chit Road, Lumphini, Pathum Wan
Bangkok
10330

เวลาทำการ

จันทร์ 16:30 - 20:00
อังคาร 16:30 - 20:00
พุธ 16:30 - 20:00
พฤหัสบดี 16:30 - 20:00
ศุกร์ 16:30 - 20:00
เสาร์ 10:00 - 20:00
อาทิตย์ 10:00 - 20:00

เบอร์โทรศัพท์

+66974687990

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ PYONG Rehabilitation Clinicผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง PYONG Rehabilitation Clinic:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram