JS Hebes Curcumin - นมสำหรับผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหาร

JS Hebes Curcumin - นมสำหรับผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหาร JS Hebes Curcumin - อันดับ 1 เรื่องสุขภาพกระเพาะอาหาร

👨‍🔬 รักษาโรคกรดไหลย้อนการรักษาโรคกรดไหลย้อนจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ส่วนใหญ่ไม่รุนแรง เป็นรายใหม่ แค่ปรับเปลี่ยนพฤต...
02/04/2024

👨‍🔬 รักษาโรคกรดไหลย้อน
การรักษาโรคกรดไหลย้อนจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ส่วนใหญ่ไม่รุนแรง เป็นรายใหม่ แค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน โรคก็ดีขึ้น (เลิกบุหรี่ เลิกเหล้า ลดน้ำหนัก ลดความเครียด...)
การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตสามารถลดความถี่ของกรดไหลย้อนได้ การรักษากรดไหลย้อนจะต้องควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารและกิจกรรมที่เหมาะสมเสมอ เคล็ดลับในการรักษากรดไหลย้อนสำหรับคุณมีดังนี้
✅ รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ: การมีน้ำหนักเกินจะสร้างแรงกดดันต่อร่างกายของคุณ ทำให้กระเพาะอาหารของคุณดันขึ้นและทำให้กรดไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหารได้ง่ายขึ้น
✅ เลิกสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่จะลดความสามารถในการทำงานของกล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหาร ทำให้กรดจากกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นมาที่หลอดอาหาร
✅ อย่ารีบนอนหลังรับประทานอาหาร: อย่ารับประทานอาหารเย็นสายเกินไป ควรก่อน 20.00 น. หลังจากรับประทานอาหาร 2-3 ให้นอนลงหรือเข้านอน
✅ กินช้าๆ เคี้ยวให้ละเอียด พยายามเคี้ยวให้ละเอียดและกลืนอาหารทั้งหมดในปากของคุณก่อนที่จะเริ่มเสิร์ฟอาหารมื้ออื่น
✅ รับประทานอาหารมื้อเล็กๆ ไม่ให้อิ่มเกินไป อาหารในกระเพาะอาหารอิ่มเกินไป จะไหลขึ้นไปในหลอดอาหารได้ง่าย
✅ หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่กระตุ้นกรดไหลย้อน: อาหารที่มีไขมัน อาหารทอด ซอสมะเขือเทศ แอลกอฮอล์ ช็อกโกแลต สะระแหน่ กระเทียม หัวหอม และคาเฟอีน เพิ่มผักและผลไม้
✅ หลีกเลี่ยงการสวมเสื้อผ้าที่รัดแน่น: เสื้อผ้าที่คับเกินไปจะกดทับช่องท้องและหูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง ทำให้เกิดภาวะกรดไหลย้อน
✅ การใช้สมุนไพร: บางครั้งใช้ชะเอมเทศและดอกคาโมไมล์เพื่อลดกรดไหลย้อน อย่างไรก็ตาม สมุนไพรธรรมชาติบางครั้งมีผลข้างเคียงที่รุนแรงและอาจรบกวนการใช้ยาที่กำลังรักษาอยู่ พูดคุยกับแพทย์ของคุณก่อนเริ่มยาสมุนไพร
✅ ผ่อนคลาย ลดความเครียด: หลักฐานแสดงให้เห็นว่าการลดความเครียดและลดความวิตกกังวลสามารถลดอาการโรคกรดไหลย้อนได้อย่างชัดเจน

⚠️พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ดีต่อปากท้อง⚠️1. รักษานิสัยการกินทางวิทยาศาสตร์ในการรับประทานอาหารประจำวันของคุณ คุณควรฝึกนิสัยก...
02/04/2024

⚠️พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ดีต่อปากท้อง⚠️
1. รักษานิสัยการกินทางวิทยาศาสตร์
ในการรับประทานอาหารประจำวันของคุณ คุณควรฝึกนิสัยการกินช้าๆ เคี้ยวให้ละเอียด ไม่กินขณะทำงาน กินขณะดูทีวี เล่นโทรศัพท์ ... เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อกระบวนการย่อยอาหารของผู้ป่วยโรคกระเพาะ
นิสัยแย่ๆ เช่น นอนดึก อดมื้อกินมื้อ...จะทำให้กรดในกระเพาะทำร้ายกระเพาะ
นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นอันตรายต่อกระเพาะอาหาร เช่น อาหารที่เป็นกรดมากเกินไป เช่น มะนาว มะขามเปียก เป็นต้น เพราะอาหารเหล่านี้มีกรดมากและจะเป็นอันตรายต่อกระเพาะอาหารทำให้โรคแย่ลงได้ นอกจากนี้คุณควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสเผ็ดร้อน
2. ไม่ออกกำลังกายหักโหม ไม่นอนหลังรับประทานอาหาร
หลังจากรับประทานอาหารแล้ว กระเพาะอาหารจะทำหน้าที่ย่อยอาหาร เพื่อให้กิจกรรมนี้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ คุณต้องพักผ่อน หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนัก นอกจากนี้อย่านอนทันทีหลังรับประทานอาหารเพราะจะทำให้กระบวนการขับของเสียในกระเพาะอาหารช้าลง การออกกำลังกายเบาๆ เช่น การเดิน จะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมในการช่วยให้อาหารย่อยเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. รักษาสุขอนามัยของอาหาร
คุณควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารและดื่มในสถานที่ที่ไม่สะอาด เช่น ขอบถนน ทางเท้า เป็นต้น จำกัดการใช้ซอส จาน ฯลฯ ร่วมกัน เพราะนี่อาจเป็นสาเหตุหลักของการติดเชื้อ การติดเชื้อ H. pylori ทำให้เกิดอาการปวดท้อง .
4. จำกัดการใช้ยาแก้ปวด
ยาแก้ปวดที่ใช้รักษาโรคบางชนิดอาจส่งผลข้างเคียง ส่งผลต่อกระเพาะอาหาร เนื่องจากส่วนประกอบในยาไปยับยั้งการผลิตเส้นประสาทในกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร ดังนั้นระหว่างการรักษาอาการปวดท้องจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาแก้ปวด
5. อยู่ให้ห่างจากความเครียด ความตึงเครียด วิตกกังวล
ความเครียด ความเครียด ความเครียด ความวิตกกังวลจะทำให้อาการของคุณแย่ลง เพราะจะส่งผลต่อกระบวนการย่อยอาหารและเพิ่มกรดในกระเพาะอาหารทำให้เกิดภาวะต่างๆ เช่น ปวดท้อง กรดไหลย้อน เป็นต้น ดังนั้นควรอยู่ให้ห่างจากความเครียด ความเครียด ความกังวล เพื่อกระบวนการบำบัดรักษาจะได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
6. สร้างระเบียบการออกกำลังกายและการเล่นกีฬาที่เหมาะสม
การออกกำลังกายอย่างเหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งจะดีมากต่อกระบวนการย่อยอาหาร เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังกระเพาะอาหารเพื่อช่วยให้กระเพาะอาหารทำงานได้ดีขึ้น
7. จำกัดการใช้แอลกอฮอล์ ยาสูบ
นิโคตินในบุหรี่และแอลกอฮอล์ในแอลกอฮอล์เป็นศัตรูที่ "อยู่ยงคงกระพัน" ต่อกระเพาะอาหาร เนื่องจากสารประกอบเหล่านี้ทำให้ชั้นเมือกหลุดร่อนออกไป ไม่เพียงเท่านั้นยังกระตุ้นให้กระเพาะอาหารเป็นกรด ทำให้กระเพาะสึกกร่อนและเกิดแผลร้ายแรงได้ ดังนั้น เพื่อให้แน่ใจว่าการรักษาอาการปวดท้องได้ผลดีที่สุด แอลกอฮอล์และยาสูบจึงเป็นสิ่งที่คุณควรหลีกเลี่ยง

8 ฤทธิ์สำคัญใน “ขมิ้นชัน” ช่วยต่อต้านโรคร้าย รักษาสารพัดโรค! อย่างที่ทราบกันดีว่าในขมิ้นชัน มีสารสำคัญอย่าง เคอร์คูมินอย...
29/03/2024

8 ฤทธิ์สำคัญใน “ขมิ้นชัน” ช่วยต่อต้านโรคร้าย รักษาสารพัดโรค!
อย่างที่ทราบกันดีว่าในขมิ้นชัน มีสารสำคัญอย่าง เคอร์คูมินอยด์ ที่มีสรรพคุณทางยา สามารถต่อต้าน ยับยั้ง รักษาโรคต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี มาดูกันว่า 8 ฤทธิ์สำคัญในขมิ้นชันไทย มีอะไรบ้าง (จากฐานข้อมูลเครื่องยาสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และ สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล)
1. ฤทธิ์ต้านการเกิดแผล และสมานแผลในกระเพาะอาหาร และฤทธิ์อื่น ๆ ต่อระบบทางเดินอาหาร
ขมิ้นมีฤทธิ์สมานแผลในกระเพาะอาหาร โดยเร่งการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อบริเวณที่เป็นแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น กระตุ้นการหลั่ง mucin มาเคลือบกระเพาะอาหาร และยับยั้งการหลั่งน้ำย่อยต่าง ๆ
2. ฤทธิ์ต้านการแพ้
สาร curcumin และสารสกัดด้วยเอทิลอะซีเตทมีฤทธิ์ต้านการแพ้ โดยออกฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งสาร histamine (สารสื่อกลางที่กระตุ้นให้เกิดการแพ้)
3. ฤทธิ์ต้านเชื้อจุลชีพ
ขมิ้นมีผลยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย และสารพิษที่สร้างโดยแบคทีเรียหลายชนิดในหลอดทดลอง เช่น Staphylococci ซึ่งเป็นสาเหตุของหนอง Samonella Shigella และ E.coli ซึ่งเป็นสาเหตุของการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร และ Streptococcus mutans ที่เป็นสาเหตุของฟันผุ
ขมิ้นสามารถยับยั้งการเจริญเติบโต และฆ่าเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนังได้หลายชนิด โดยเฉพาะในรูปน้ำมันหอมระเหยจะจะมีฤทธิ์ต้านเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรคกลาก
4. ฤทธิ์ลดอาการจุกเสียด แน่นท้อง
การทดสอบผลในผู้ป่วยโรคท้องอืดท้องเฟ้อ ในโรงพยาบาล 6 แห่ง จำนวน 116 ราย แบ่งกลุ่มผู้ป่วยโดยวิธีสุ่มเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ได้รับแคปซูลยาหลอก กลุ่มที่ได้รับยาแก้ท้องอืด และกลุ่มที่ได้รับขมิ้นชัน ทุกกลุ่มรับประทานครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 4 ครั้ง ก่อนอาหาร และก่อนนอน นาน 7 วัน
พบว่ากลุ่มที่ได้รับยาหลอกอาการดีขึ้น หรือหายไป 53% ขณะที่กลุ่มที่ได้รับยาแก้ท้องอืด หรือขมิ้นชัน อาการดีขึ้นหรือหายไป 83% และ 87% ตามลำดับ ซึ่งแตกต่างจากกลุ่มที่ได้รับยาหลอกอย่างมีนัยสำคัญ อัตราการเกิดผลแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นไม่แตกต่างกันระหว่าง 3 กลุ่ม เป็นอาการที่ไม่รุนแรง และหายเองได้
5. ฤทธิ์รักษาแผลในกระเพาะอาหาร
ทดสอบในผู้ป่วยที่ปวดท้องเนื่องจากโรคกระเพาะอาหารเป็นแผล รับประทานครั้งละ 3 แคปซูล วันละ 4 ครั้ง (รวม 4 กรัม) พบว่าได้ผลดี ได้มีการทดลองผลการรักษาแผลในกระเพาะอาหารในคน พบว่าให้ผู้ป่วยรับประทานแคปซูลผงขมิ้นชัน 2 แคปซูล วันละ 4 ครั้ง พบว่า 5 คน หายใน 4 อาทิตย์ และ 7 คน หายภายใน 4-12 อาทิตย์
6. ฤทธิ์ลดการอักเสบ
การศึกษาแบบสุ่ม ปกปิดสองฝ่ายเทียบกับยาหลอก และทดลองให้ยาแบบสลับกลุ่มกัน ในผู้ป่วยข้อกระดูกอักเสบเรื้อรังจำนวน 42 คน โดยใช้ยาสมุนไพรที่มีส่วนประกอบของเหง้าขมิ้น 50 มิลลิกรัม/แคปซูล 650 มิลลิกรัม พบว่าการได้รับยาสมุนไพรดังกล่าวสามารถลดความเจ็บปวดที่รุนแรงได้
7. ฤทธิ์ต้านอัลไซเมอร์
การศึกษาทางคลินิกโดยเจาะเลือดจากผู้ป่วยอัลไซเมอร์ 6 คน และอาสาสมัครสุขภาพดี 3 คน แล้วแยก macrophage มาทำการทดสอบ โดยให้สาร curcumin พบว่า macrophage ของผู้ป่วยที่ได้รับ curcumin มีการเก็บและย่อยสลาย amyloid protein เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เมื่อเทียบกับ macrophage ของผู้ป่วยที่ไม่ได้รับ curcumin แสดงให้เห็นว่าเคอร์คูมิน มีบทบาทช่วยระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายในการทำลาย amyloid protein
8. ฤทธิ์สมานแผล
ในการทดลองทางคลินิก โดยทายาสมุนไพรซึ่งมีขมิ้นเป็นส่วนประกอบที่ผิวหนัง พบว่ามีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวขึ้นใหม่ เมื่อทดลองใช้ขมิ้นในการรักษาแผลผุพองเปรียบเทียบกับยาปฏิชีวนะในผู้ป่วย 60 ราย แล้ว ติดตามดูแผลพุพองหลังการรักษา 21 วัน พบว่าผู้ป่วยทุกรายหายจากโรค และไม่พบภาวะแทรกซ้อน หรือข้อแตกต่างระหว่างการใช้ขมิ้น และยาปฏิชีวนะ

👨‍🔬โรคกระเพาะเฉียบพลันกินอะไรดี?อาหารที่อุดมด้วยไฟเบอร์: ธัญพืชเต็มเมล็ด ผลไม้ ผัก ถั่ว...กลุ่มอาหารไขมันต่ำ: ผัก เนื้อไ...
29/03/2024

👨‍🔬โรคกระเพาะเฉียบพลันกินอะไรดี?
อาหารที่อุดมด้วยไฟเบอร์: ธัญพืชเต็มเมล็ด ผลไม้ ผัก ถั่ว...
กลุ่มอาหารไขมันต่ำ: ผัก เนื้อไม่ติดมัน ปลา…
กลุ่มอาหารที่มีความเป็นกรดต่ำ ได้แก่ ผัก ถั่ว
เครื่องดื่มไม่มีแก๊ส คาเฟอีน แอลกอฮอล์
กลุ่มอาหารที่มีโพรไบโอติกส์มีประโยชน์ต่อสุขภาพ: กิมจิ โยเกิร์ต น้ำชาเห็ดโสม (คอมบูชา)…

‼️อาการของโรคกระเพาะอาหาร‼️1. ปวดท้องน้อยซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยที่มีอาการปวดท้อง ปวดท้อง เสียดท้อง ปวดท้อง ท...
29/03/2024

‼️อาการของโรคกระเพาะอาหาร‼️
1. ปวดท้องน้อย
ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยที่มีอาการปวดท้อง ปวดท้อง เสียดท้อง ปวดท้อง ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอึดอัดมาก ความเจ็บปวดที่รุนแรงที่สุดคือตั้งแต่ช่องท้องไปจนถึงหน้าอก บางครั้งอาจลามไปถึงหลัง
อาการปวดท้องในผู้ป่วยที่มีอาการปวดท้องเป็นแบบเฉียบพลันนั่นคือต่อเนื่อง อาการมักปรากฏและคงอยู่ประมาณ 1-2 สัปดาห์ แล้วค่อยๆ ลดลงและหายไปจนถึงระยะเฉียบพลันในครั้งต่อไป
2.เบื่ออาหาร เบื่ออาหาร
อาการปวดท้องมักทำให้ผู้ป่วยมีอาการเบื่ออาหาร เบื่ออาหาร เนื่องจากอาการของโรครวมถึงอาหารไม่ย่อย หลังอาหารอาการปวดท้องส่งผลต่อการย่อยอาหาร ดังนั้น ผู้ป่วยจึงมักมีแก๊ส ท้องอืด ไม่สบายตัว ดังนั้นผู้ป่วยจึงไม่อยากอาหารและไม่อยากอาหาร
นอกจากนี้หลังรับประทานอาหารผู้ป่วยยังมีอาการแสบร้อนกลางลิ้นปี่
3. คลื่นไส้ อาเจียน
อาการนี้ไม่เพียงแต่ปรากฏในผู้ป่วยที่มีอาการปวดท้องเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเลือดออกในกระเพาะอาหาร โรคกระเพาะเฉียบพลัน แผลในกระเพาะอาหาร เป็นต้น อาการคลื่นไส้อาเจียนมีผลกระทบอย่างมากต่อการรับรส การรับประทานอาหาร และสุขภาพของผู้ป่วย
การอาเจียนพร้อมอาหารและน้ำย่อยมากเกินไปสามารถทำลายเส้นประสาทในหลอดอาหารได้ง่าย ทำให้เจ็บคอและปัญหาสุขภาพอื่นๆ อาการคลื่นไส้สามารถทำให้ผู้ป่วยขาดน้ำและอิเล็กโทรไลต์ผิดปกติได้ง่าย กรณีเหล่านี้ต้องได้รับน้ำและอิเล็กโทรไลต์เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ความดันเลือดต่ำ หลอดเลือดหัวใจล้มเหลว เป็นต้น
4. เล็กน้อย
นี่เป็นอาการที่สำคัญในการวินิจฉัยอาการปวดท้อง ผู้ป่วยจะเสี่ยงหัวใจวาย เรอ ปวดท้องร่วมด้วย
การไออาหารหรือแม้แต่อาหารที่เข้าไปในหลอดอาหารหรือคออาจทำให้เกิดความเสียหายและความเจ็บปวดในกระดูกสันอกหรือหลังกระดูกอก
5. เลือดออกในกระเพาะอาหาร
เมื่อเส้นประสาทของกระเพาะอาหารได้รับความเสียหาย จะทำให้เกิดลิ่มเลือดในกระเพาะอาหาร ผู้ป่วยสามารถตรวจพบอาการได้เมื่อมีอาการ เช่น ลิ่มเลือดสดหรือสีดำปะปนกับอาหาร อุจจาระสีแดงหรือสีดำ นอกจากนี้ เลือดออกในกระเพาะอาหารทำให้เกิดโรคโลหิตจาง วิงเวียน หน้ามืด และความดันโลหิตต่ำ

ที่อยู่

Bangkok

เบอร์โทรศัพท์

+66628928303

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ JS Hebes Curcumin - นมสำหรับผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหารผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์