Dr.Jutamas หมอตุ๊กตา จุฑามาศ

  • Home
  • Dr.Jutamas หมอตุ๊กตา จุฑามาศ

Dr.Jutamas หมอตุ๊กตา จุฑามาศ Nutrition
Lifestyle medicine
Preventive Medicine
Integrative Medicine
Mindfulness-based interventions

แพทย์เวชศาสตร์ป้องกัน(preventive medicine) แขนงเวชศาสตร์วิถีชีวิต(lifestyle medicine) และแขนงสาธารณสุขศาสตร์(public health)

25/07/2025

หมอขอตอบ EP.29: #เครียดจนสมองเสื่อมก่อนวัย เกิดได้ยังไง?
ความเครียดสะสม ภัยร้ายทำลายสมอง ปล่อยไว้นานเสี่ยงภาวะสมองเสื่อมก่อนวัย
เครียดสะสมจะส่งผลต่อร่างกายหลายระบบ
1 ในนั้นคือความจำและกระบวนการรู้คิดของสมอง
เมื่อเครียดสะสม คนไข้อาจสังเกตว่าตนเองมีอาการหลงๆลืมๆ นึกไม่ออก คิดช้า ความจำไม่ดี สมองเบลอ ลืมง่าย เรียนรู้ยาก สมาธิสั้น แก้ไขปัญหาได้ไม่ดีเท่าเดิม ทำให้ส่งผลต่อการเรียน การใช้ชีวิตและการทำงาน
>> อาการเหล่านี้เป็นผลจากการที่สมองเสียหายจากความเครียด เป็นสัญญาณเตือนเริ่มแรกของภาวะสมองเสื่อมก่อนวัย ซึ่งสามารถรักษาหายได้หากรู้เร็วตั้งแต่ #ระยะแรก (preclinical stage, MCI, early -stage dementia)
🧠สรุป 5 กลไกที่ทำให้ความเครียดสะสม
ก่อภาวะสมองเสื่อม
1)ทำให้สมองฝ่อ
โดยเฉพาะสมองส่วนHippocampus และ Prefrontal Cortex ซึ่งเกี่ยวกับความจำ การเรียนรู้ การจัดการอารมณ์ เหตุผล และการแก้ปัญหา
2)ทำให้การหลั่งฮอร์โมนผิดปกติ
โดยเฉพาะกลไก HPA axis ที่ส่งผลต่อการหลั่งฮอร์โมนความเครียด
3)ทำให้การหลั่งสารสื่อประสาทเสียสมดุล
4)ทำให้เกิดภาวะอักเสบของสมอง
5)ทำให้จุลินทรีย์ในลำไส้เสียสมดุล
ดังนั้น หากใครเครียดสะสมแล้วจัดการด้วยตนเองลำบาก แนะนำรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาก่อนที่ความเครียดจะทำลายสมองจนเกิดสมองเสื่อมก่อนวัยนะคะ #รู้เร็วรักษาได้
#เป็นห่วงนะ
#หมอตุ๊กตาilm
พญ.จุฑามาศ ค้าทอง
ว.46576


……….
ขอทำแบบทดสอบความเครียด(ออนไลน์)
และทำนัดตรวจคัดกรองภาวะสมองเสื่อมหรือปรึกเบื้องต้นกับเลขาแพทย์สามารถคลิกลิงก์แอดไลน์ได้เลยนะคะ
👉🏻 https://lin.ee/dtfd9j9
หรือ https://page.line.me/tymeclinic
หรือ แอดLINE ID:
หรือโทร 084-2659698
✅คุณหมออกตรวจที่กรุงเทพฯเท่านั้น นะคะ
*ผลการรักษาอาจแตกต่างกันได้ในแต่ละบุคคลนะคะ



#ดูแลก่อนป่วย ฟื้นฟูก่อนสาย
#ฟื้นฟูสมองก่อนสาย

22/07/2025

4 ผลกระทบจากโรค #หลอดเลือดสมอง (ที่หลายคนอาจไม่รู้)
1)ผลกระทบด้านร่างกาย
เช่น
อัมพฤกษ์ #อัมพาต เดินลำบาก พูดลำบาด มองเห็นไม่ชัด #หลงลืมง่าย เสี่ยงเป็นภาวะ #สมองเสื่อม(vascular dementia)

2)ผลกระทบด้านจิตใจ
เช่น
#ซึมเศร้า(Post-stroke depression)
อารมณ์แปรปรวน โมโหร้าย
ควบคุมอารมณ์ไม่ได้
อยู่ดีๆก็ร้องไห้ อยู่ดีๆก็หัวเราะแบบควบคุมไม่ได้และไม่สัมพันธ์กับอารมณ์ที่แท้จริง(pseudobulbar affect:PBA)

3)ผลกระทบด้านสังคม
เช่น
แยกตัว
มีปัญหาด้านความสัมพันธ์

4)ผลกระทบด้านการเงิน
เนื่องจากสภาพร่างกายและจิตใจที่เปลี่ยนไปอาจจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานและการสร้างรายได้
รวมถึงค่าใช้จ่ายในการบำบัดรักษาที่ต้องดูแลต่อเนื่องก็จะส่งผลต่อการเงินในระยะยาวได้

……
#โรคหลอดเลือดสมอง(Stroke)
เกิดจากการตีบ/แตก/ตันของหลอดเลือดในสมองทำให้เซลล์สมองเสียหายจนเกิดผลกระทบหลายด้านตามมา และส่งผลต่อคุณภาพชีวิตทั้งของคนไข้เองและคนในครอบครัว
ผลกระทบที่เกิดขึ้นอาจเป็นชั่วคราวหรือถาวร

………
ไม่ใช่ทุกเคสจะรักษาหาย
ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันผลกระทบที่เกิดขึ้น ก็คือ #การป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง(stroke prevention)

#เป็นห่วงนะ
หมอตุ๊กตา จุฑามาศ ค้าทอง
License No.46576
Lifestyle Medicine
#เส้นเลือดสมองตีบ
#สโตรก

16/07/2025

ผลพวงจากสโตรกหรือ #โรคหลอดเลือดสมอง ไม่ใช่แค่เกิดอัมพฤกษ์/ #อัมพาต ตามมาเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้เกิด #ภาวะซึมเศร้า ตามมาได้ ซึ่งเรียกว่า ภาวะซึมเศร้าหลังโรคหลอดเลือดสมอง(Post stroke depression:PSD)
🆘พบได้ถึง 1ใน3 ของผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดสมอง
⚠️ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของคนไข้เอง
⚠️ฟื้นตัวจากสโตรกช้าลง เพราะไม่อยากทำกายภาพบำบัด หรือไม่ร่วมมือในการรักษา
⚠️อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้
⚠️ส่งผลกระทบต่อญาติหรือผู้ดูแล ทำให้ดูแลผู้ป่วยยากลำบากมากขึ้น
นอกจากอาการซึมเศร้า หดหู่ ท้อแท้ รู้สึกผิด รู้สึกไร้ค่า แล้ว
🚨ยังพบความผิดปกติทางอารมณ์และพฤติกรรมอื่นๆร่วมด้วยได้
เช่น หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน โมโหร้าย เมเนีย ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ลดลง
อยู่ดีๆ ก็ร้องไห้ อยู่ดีๆ ก็หัวเราะ(pseudobulbar affect) สมาธิสั้นลง วอกแวกง่าย จดจ่อไม่ได้ คิดช้า หลงลืมง่าย ทนรอไม่ไหว เบื่อหน่ายชีวิต ขาดความสนใจในสิ่งที่เคยชอบ วิตกกังวลง่าย คิดวนเวียนถึงเรื่องเดิมๆ อาจมีความคิดฆ่าตัวตxย>>ในบางเคสมีความผิดปกติด้านการนอน:
นอนไม่หลับ หรือหลับมากเกินไป
*•*เบื่ออาหาร หรือเจริญอาหารมากเกินไป อ่อนเพลีย ไม่มีแรง น้ำหนักลด
4 ปัจจัยก่อภาวะซึมเศร้าหลังโรคหลอดเลือดสมอง(PSD)
>>4.1)รอยโรคในสมองหลังจากสมองเสียหายหรือขาดเลือด
🧠ตำแหน่งและขนาดของรอยโรคในสมองที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ พฤติกรรมและกระบวนการรู้คิดอาจมีส่วนทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้
>>4.2)โรคร่วม( comorbidity) จะมีผลต่อความเสื่อมของสมอง
เช่น โรคไต โรคตับ ลำไส้แปรปรวน
>>4.3)ความไม่สมดุลของฮอร์โมนและสารสื่อประสาท
>>4.4)ปัจจัยทางจิตสังคม:
การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจ การสูญเสียความสามารถทำงาน/หาเงิน/ใช้ชีวิต การต้องพึ่งพาผู้อื่น และความเครียดจากการดูแลตนเอง ล้วนเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้
❤️‍🩹 รักษาแนวทางการรักษา:
มีทั้งแบบไม่ใช้ยาและรักษาด้วยยา
แพทย์แต่ละท่านจะพิจารณาวางแผนการรักษาเฉพาะเคสตามอาการและรอยโรคที่เกิดขึ้น
📌ดังนั้น หากมีญาติ เพื่อน หรือคนที่เรารักเป็น #สโตรก แล้วมีความผิดปกติทางอารมณ์หรือพฤติกรรมร่วมด้วย แนะนำรีบปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาอย่างตรงจุดนะคะ ซึ่งจะช่วยให้คุณภาพชีวิตของคนไข้และผู้ดูแลดีขึ้น รวมถึงอาจลดอัตราการตายจากภาวะนี้ได้ด้วยค่ะ

#เป็นห่วงนะ
#หมอตุ๊กตาจุฑามาศ
ว.46576
………..
✅เพื่อความรวดเร็วในการขอคำปรึกษา/สอบถามข้อมูลและทำนัดกับเลขาแพทย์
สามารถคลิกลิงก์แอดไลน์ได้เลยนะคะ
👉🏻 https://lin.ee/dtfd9j9
หรือ https://page.line.me/tymeclinic
หรือ แอดLINE ID:
หรือโทร 084-2659698

✅คุณหมออกตรวจที่กรุงเทพฯเท่านั้น นะคะ

*ผลการรักษาอาจแตกต่างกันได้ในแต่ละบุคคลนะคะ

15/07/2025

#สมาธิสั้น เกิดได้ทั้งในเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่
เมื่อมีอาการสมาธิสั้น ต้องหาสาเหตุก่อนเสมอ เพื่อวางแผนการรักษาได้อย่างตรงจุดแล้วจะทำให้หายเร็ว
>> #สมาธิสั้น วอกแวกง่าย จดจ่อไม่ได้ ไม่มีสมาธิ ความจำไม่ดี เป็นอาการกวนใจของใครหลายคน เกิดได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ในบางเคสพบร่วมกับอาการซึมเศร้า หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน ฉุนเฉียวง่าย
>>สาเหตุของอาการสมาธิสั้นเกิดได้จากหลายปัจจัย แบ่งเป็นปัจจัยที่เกี่ยวเนื่องกับพันธุกรรม และปัจจัยอื่น เช่น พฤติกรรมติดจอ การเลี้ยงดู พฤติกรรมเลือกกิน(picky eating)
วันนี้จึงอยากแนะนำให้รู้จักกับ 9 สาเหตุก่ออาการสมาธิสั้นที่หลายคนอาจไม่รู้
1.ภาวะขาดสารอาหาร(nutrient deficiency)
โดยเฉพาะกรดอะมิโน เช่น ทริปโตแฟน ไทโรซีน
ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม
วิตามินดี
วิตามินบี เช่น B6 B12
2.ความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้(Gut dysbiosis)
เรามักจะทราบอยู่แล้วว่าสมองและลำไส้มีการทำงานประสานกันผ่าน vagus nerve แต่ในปัจจุบันพบว่าจุลินทรีย์ในลำไส้ก็มีความสำคัญในการสร้างสารสื่อประสาทและสร้างสารสำคัญที่ช่วยในการทำงานของสมองเช่นกัน ซึ่งความสัมพันธ์นี้เรียกว่า Gut-brain axis

ดังนั้น หากเกิดความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้จึงส่งผลต่ออารมณ์ ความจำ การโฟกัส รวมถึงสมาธิได้
3.ภูมิแพ้อาหารแฝง(Food intolerance)
เมื่อเกิดภูมิแพ้แฝงส่งผลให้ร่างกายเกิดการอักเสบสะสมเรื้อรังซึ่งส่งผลต่อการทำงานของสมองและร่างกายในหลายระบบ
+ แก้ไขได้ง่ายโดยการลด/ละ/เลิกอาหารก่อภูมิ
แพ้
4.สารพิษและสารอนุมูลอิสระสะสม (Environmental toxins&oxidative stress)
โดยเฉพาะโลหะหนัก สารไมโครพลาสติก ฝุ่นPM2.5 กลุ่มยาปราบศัตรูพืช(glyphosate) และอนุมูลอิสระจากสภาพแวดล้อมที่มากเกินไป สารเหล่านี้ส่งผลทำลายสมอง รวมถึงทำให้เกิดการอักเสบเรื่อรังในสมองได้
5. ไมโตคอนเดรียทำงานผิดปกติ (Mitochondrial Dysfunction)
ไทโตคอนเดรียเป็นแหล่งสร้างพลังงานสำคัญในเซลล์ร่างกาย โดยเฉพาะสมอง หากเกิดความผิดปกติก็จะส่งผลต่อการทำงานของสมองได้
6.ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน (immune dysfunction)
โดยเฉพาะในโรค autoimmune disease(ภูมิเพี้ยน/ภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเอง)
7.ความไม่สมดุลของสารสื่อประสาท (Neurotransmitter imbalance)
เมื่อร่างกายเกิดความไม่สมดุลของสารสื่อประสาท เช่น โดพามีน เซโรโตนิน อะดรีนาลิน จะส่งผลต่อกระบวนการรู้คิด(cognition) สมาธิ รวมถึงอารมณ์

8.ความไม่สมดุลของฮอร์โมน (hormonal imbalance)
โดนเฉพาะฮอร์โมนไทรอยด์ที่ไม่สมดุล สูง/ต่ำเกินไปจะส่งผลต่อกระบวนการรู้คิด(cognition)ของสมอง
9.ภาวะอักเสบเรื้อรังแบบไม่รู้ตัว (Chronic inflammation)
โดยเฉพาะในสมองและหลอดเลือดซึ่งส่งผลต่อการทำงานของเซลล์สมองได้
ดังนั้น หากตัวท่าน ญาติ หรือบุตรหลายของท่านมีอาการสมาธิสั้นจนรบกวนการใช้ใช้ชีวิต การเรียน การทำงานแนะนำให้รีบเข้ารับการรักษาและตรวจหาสาเหตุ เพื่อการรักษาที่ตรงจุดนะคะ เพราะยิ่งปล่อยไว้นานยิ่งรักษายากและเสี่ยงโรคเรื้อรัง
#เป็นห่วงนะ
#หมอตุ๊กตาilm
#หมอตุ๊กตาจุฑามาศ ค้าทอง
ว.46576

…..
✅เพื่อความรวดเร็วในการปรึกษา/สอบถามข้อมูลและทำนัดกับเลขาแพทย์...สามารถคลิกลิงก์แอดไลน์ได้เลยนะคะ
👉🏻 👉🏻 https://lin.ee/dtfd9j9
หรือ https://page.line.me/tymeclinic
หรือ แอดLINE ID:
หรือโทร 084-2659698
083-2291935

#ธามคลินิก #รักษาที่ต้นเหตุ
เน้นการรักษาแบบ #ไม่พึ่งยา
#สมาธิสั้น
#สมาธิสั้นผู้ใหญ่
#สมาธิสั้นเด็ก

MIND diet  #อาหารบำรุงสมองที่ดีสุด ณ ตอนนี้MIND diet เป็นแนวทางการรับประทานอาหารรูปแบบหนึ่ง MINDย่อมาจาก Mediterranean-D...
26/06/2025

MIND diet #อาหารบำรุงสมองที่ดีสุด ณ ตอนนี้
MIND diet เป็นแนวทางการรับประทานอาหารรูปแบบหนึ่ง
MINDย่อมาจาก Mediterranean-DASH Intervention for Neurodegenerative Delay
เป็นการผสมผสานระหว่าง Mediterranean Diet และ DASH Diet โดยมุ่งเน้นเฉพาะอาหารที่มี หลักฐานว่าช่วยชะลอการเสื่อมของสมอง และ ลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์
งานวิจัยจาก Rush University (USA) พบว่า
ผู้ที่ปฏิบัติตาม MIND diet #อย่างเคร่งครัด ลดความเสี่ยงโรค #อัลไซเมอร์ได้ถึง 53%✅
แม้ปฏิบัติแบบ #ไม่เคร่งครัดมาก ก็ยังสามารถลดความเสี่ยงได้ถึง 35%✅
มีผลช่วย #เพิ่มความจำ การคิด การใช้เหตุผล โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ
MIND diet ปรับใช้ได้ง่ายในชีวิตประจำวัน
ได้สารต้านอนุมูลอิสระสูง
ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ดีต่อสมอง ดีกับหัวใจและหลอดเลือด ดีต่อระบบย่อยอาหารรวมถึงช่วยให้สุขภาพจิตใจและอารมณ์แจ่มใสขึ้นด้วย
MIND diet จึงเหมาะกับ
✅ผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นอัลไซเมอร์
✅ผู้ที่มีความเครียดสะสม ซึมเศร้า อารมณ์แปรปรวน
✅คนวัยทำงานที่ต้องการบำรุงสมอง
✅ผู้ที่ต้องการแนวทางกินเพื่อสุขภาพระยะยาว
MIND diet: 9 ข้อควรทำ✅
1️⃣กินผัก(หลากหลายชนิด)ทุกวัน ✅
จะช่วยเพิ่มไฟเบอร์และสารต้านอนุมูลอิสระ
โดยเฉพาะ 🥬ผักใบเขียว อย่างน้อย 6 วัน/สัปดาห์
เช่น คะน้า เคล ผักโขม ผักกาดหอม ใบเหลียง ผักโขม บล็อกโคลี ปวยเล้ง ผักบุ้ง
ส่วน🥕 ผักชนิดอื่น กินได้ทุกวัน


2️⃣🥣 กินธัญพืชเต็มเมล็ด 3 ครั้ง/วัน✅
เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ควินัว ลูกเดือย เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน

3️⃣🫐 กินเบอร์รี่ อย่างน้อย 2 ครั้ง/สัปดาห์✅
เช่น บลูเบอร์รี่, สตรอว์เบอร์รี่ ลูกหว้า มะเม่า ตะขบ ลูกหม่อน (มัลเบอร์รี่) มะเกี๋ยง เชอรี่ไทย

📌หรือเน้นผักหรือผลไม้(ที่มีน้ำตาลน้อย)สีม่วงแดงซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มanthocyanin สูง ซึ่งช่วยในการทำงานของหลอดเลือด หัวใจ และสมอง
เช่น ทับทิม แก้วมังกรแดง ดอกอัญชัญ กะหล่ำม่วง

4️⃣🥜 กินถั่ว โดยเฉพาะถั่วเปลือกแข็งอย่างน้อย 5 วัน/สัปดาห์✅
เช่น อัลมอนด์ วอลนัท เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วเอดามาเมะ(ถั่วแระญี่ปุ่น)

5️⃣🐟 กินปลา อย่างน้อย 1 ครั้ง/สัปดาห์✅

โดยเน้นปลาที่เป็นแหล่งโอเมก้า3
เช่น แซลมอน ปลาทู ปลาทูน่า ปลาจะละเม็ดขาว, ปลากะพงขาว, ปลากะพงแดง, ปลาช่อน, ปลาทู, ปลาสวาย, ปลาอินทรีย์, ปลาดุก

6️⃣🍗 กินสัตว์ปีก อย่างน้อย 2 ครั้ง/สัปดาห์✅
เช่น ไก่ไม่ติดหนัง ไก่งวง

7️⃣🥄 ใช้น้ำมันมะกอก เป็นน้ำมันหลักในการทำอาหาร(cooking oil)✅

น้ำมันดีอื่นๆสำหรับทำอาหาร
เช่น น้ำมันเมล็ดชา น้ำมันอะโวกาโด้ น้ำมันรำข้าว

หลีกเลี่ยงน้ำมันที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น น้ำมันปาล์ม น้ำมันหมู

8️⃣🍷 (ทางเลือก) ดื่มไวน์แดงไม่เกิน 1 แก้ว(150ml)/วัน (หากดื่ม)
*****ไม่จำเป็นสำหรับทุกคน โดยเฉพาะผู้ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ถ้าไม่ดื่มแอลก็ไม่ต้องสรรหานะคะทุกคนนนน *****

ในเด็กหรือวัยรุ่น(รวมถึงผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ)ก็ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดรวมถึงการใช้สารเสพติดนะคะ ไม่ดีต่อสมองทั้งนั้น

9️⃣💧 ดื่มน้ำให้เพียงพอ และออกกำลังกายที่เหมาะสมร่วมด้วย✅
ข้อ9 นี้แม้ไม่ใช่ข้อบังคับใน MIND diet แต่ช่วยเสริมประสิทธิภาพของMIND diet ให้ดียิ่งขึ้นไปอีกนะคะ
MIND diet: 5 ข้อควรหลีกเลี่ยง / จำกัด❌
1)🧈 เนย และมาการีน❌
ไม่เกิน 1 ช้อนโต๊ะต่อวัน

2)🧀 ชีส❌
จำกัดให้ไม่เกิน 1 ครั้ง/สัปดาห์

3)🍟 ของทอด และอาหารจังก์ฟู้ด – ไม่เกิน 1 ครั้ง/สัปดาห์❌
เช่น เฟรนช์ฟรายส์ นักเก็ต ทอดกรอบ

4)🍰 ขนมหวาน❌
เค้ก คุกกี้ น้ำตาล – ควรกินให้น้อยที่สุด

5)🥩 เนื้อแดง และอาหารแปรรูป – จำกัด ไม่เกิน 3–4 ครั้ง/สัปดาห์❌
เช่น เนื้อวัว หมู เนื้อแพะ เนื้อแกะ เบคอน ไส้กรอก
และควรลดอาหารที่มีเกลือโซเดียม รับประทานได้ไม่เกิน 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน(การจำกัดโซเดียมไม่ใช่ข้อบังคับของ MIND diet แต่ช่วยเสริมประสิทธิภาพของMIND diet) #ดีต่อไต ดีต่อ #ความดันเลือด ไปอีกกกกค่ะ
💡 สรุปง่าย ๆ:
“กินผักและธัญพืชทุกวัน กินโปรตีนจากปลาและถั่วบ่อยๆ กินไขมันดี ใช้น้ำมันมะกอก ลดของทอดและของหวาน แค่นี้ก็เข้าใกล้ MIND Diet แล้วนะคะ!”
สรุปจากงานวิจัย
และประสบการณ์การดูแลผู้ป่วย
ของ พญ.จุฑามาศ ค้าทอง(หมอตุ๊กตา)
Thai Medical License No.46576
Lifestyle Medicine
❤️ #ฟื้นฟูสมอง #อาหารบำรุงสมอง
แนบลิงค์งานวิจัยเพิ่มเติมไว้ให้ในcomment นะคะ
ใครอยากรู้เรื่องไหนเพิ่มเติม(เกี่ยวกับสุขภาพ)
เม้นไว้นะคะ❤️
………
ปรึกษา/สอบถาม/จองคิวแพทย์
สามารถคลิกลิงก์แอดไลน์ #ธามคลินิก
ได้เลยนะคะ
👉🏻 https://lin.ee/dtfd9j9
หรือ https://page.line.me/?accountId=838qzict
หรือ แอดLINE ID:
หรือโทร 084-2659698
ธามคลินิก

ดูแลก่อนป่วย ฟื้นฟูก่อนสาย

24/06/2025

เป็นอะไรกันแน่?! #กรดไหลย้อน?
vs #เส้นเลือดหัวใจตีบ?
vs #แพนิค ?
ถอด3บทเรียนสำคัญจากอีเจี๊ยบ[อ่านเพิ่มในคอมเม้น]

24/06/2025

#เจ็บหน้าอก จาก #เส้นเลือดหัวใจตีบ
#กรดไหลย้อน
และ #แพนิค
อาการคล้ายกันมาก
จนหลายคนเกิดความสับสน
เพราะจุกแน่น เสียดอก เหงื่อแตก ใจสั่น คล้ายๆกัน

ส่วนตัวแนะนำว่าให้ตรวจแบบละเอียดเพื่อตัดโรคหัวใจออกไปก่อน เพราะเป็นโรคร้ายแรงและต้องรักษาแบบฉุกเฉิน ไม่ควรมั่นใจว่าตัวเองอายุน้อยแล้วเส่นเลือดหัวใจจะตีบไม่ได้

หากใครที่ยังไม่เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ
แต่มีปัจจัยเสี่ยง
เช่น
1.เครียดสะสม
2.มีโรคเบาหวาน/น้ำตาลสูง
3.มีความดันโลหิตสูง
4.อ้วน/น้ำหนักเกิน/ไขมันในเลือดสูง/ไขมันพอกตับ
5.ใช้สารกระตุ้น/สารเสพติด
เช่น เหล้า เบียร์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
บุหรี่ เค ไอซ์
6. มีพฤติกรรมทำร้ายสุขภาพ
เช่น นอนดึกเพราะติดเกมส์/ซีรีย์ ขยับน้อย เนือยนิ่ง ไม่ออกกำลังกาย กินเข็มจัดหวานจัด กินอาหารไขมันสูง กินอาหารแปรรูป

7.มีญาติสายตรงเป็นโรคหัวใจ และโรตหลอดเลือดสมอง

หากมีปัจจัยเหล่านี้อยากน้อย 1 ข้อ
ควรตรวจเช็กสุขภาพเป็นประจำ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
โดยเฉพาะตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ(ECG)
และตรวจ ABI วัดความแข็งของหลอดเลือด

เพราะทางเลือกที่ดีที่สุดในการรักษา
คือ #การป้องกัน

เพราะรู้เร็วรักษาทัน

ถึงจะตรวจแล้วปกติในทุกๆ ปี
ก็ยังควรตัดปัจจัยเสี่ยงทั้งหลายที่ตัดได้ออกไปเรื่อยๆ
อย่าคิดว่า #ไม่เป็นไร หรือ #เอาไว้วันหลัง

#เป็นห่วงนะ
#หมอตุ๊กตาจุฑามาศ
#ธามคลินิก

ดูแลก่อนป่วย
ฟื้นฟูก่อนสาย

📌ท่านไหนมีกี่ข้อบ้างคะ
17/06/2025

📌ท่านไหนมีกี่ข้อบ้างคะ

TymeClinic_ธามคลินิก's LINE official account profile page. Add them as a friend for the latest news.

ปรับสมดุลอารมณ์และฟื้นฟูจิตใจแบบ  #ไม่พึ่งยาด้วยโปรแกรม “Mental Care”ดูแลครอบคลุมทุกมิติ >>ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม จิ...
10/06/2025

ปรับสมดุลอารมณ์และฟื้นฟูจิตใจแบบ #ไม่พึ่งยา
ด้วยโปรแกรม “Mental Care”
ดูแลครอบคลุมทุกมิติ
>>ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม จิตวิญญาณ

 #เครียดเรื้อรังภัยเงียบก่อโรคร้ายทำลายหลอดเลือดตั้งแต่หมอออกตรวจ   มาก็ยังไม่เจอว่าเคสไหนจะไม่เคยเครียด วันนี้จึงอยากจะ...
08/06/2025

#เครียดเรื้อรังภัยเงียบก่อโรคร้ายทำลายหลอดเลือด
ตั้งแต่หมอออกตรวจ มาก็ยังไม่เจอว่าเคสไหนจะไม่เคยเครียด วันนี้จึงอยากจะมาเล่าเรื่องนี้ให้อ่านกันค่ะ ว่าถ้าเราไม่จัดการความเครียดมันจะเกิดผลร้ายต่อร่างกายยังไงบ้าง

#ความเครียดตัวร้ายภัยเงียบทำร้ายสุขภาพที่หลายคนมองข้าม หลายคนชอบบอกว่า #ช่างมัน บางคนบอก #ช่างแ-่ง และ #บางคนก็ยังไม่รู้ตัวเองว่าเครียดสะสม

Stress The Series Ep.2 (หมอขอตอบ Ep.25)
#เครียดเรื้อรังภัยเงียบก่อโรคหลอดเลือดแดงแข็ง

ภาวะหรือโรคหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) เป็นภาวะที่ผนังหลอดเลือดแดงหนาขึ้นและแข็งตัว เนื่องจากมีการสะสมของไขมัน (โดยเฉพาะคอเลสเตอรอล), เซลล์อักเสบ, และพังผืด ทำให้หลอดเลือดตีบแคบลง ทำให้การไหลเวียนเลือดไปยังอวัยวะต่างๆได้ยากขึ้น ส่งผลให้อวัยวะนั้นๆขาดเลือดหรือได้รับเลือดไม่เพียงพอ ซึ่งสามารถนำไปสู่ โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหลอดเลือดส่วนปลายได้

และเจ้าโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองนี่เป็นสาเหตุการตายติด ของประชาชนคนไทยติดต่อกันมากว่า 10 ปีแล้วนะคะ ทั้งๆที่เราก็มีนวัตกรรมการแพทย์มากมายที่พัฒนาอยู่ตลอด

#อาการของโรคหลอดเลือดแดงแข็งขึ้นอยู่กับตำแหน่งของหลอดเลือดที่ตีบ
เช่น
#หลอดเลือดหัวใจตีบ
-ทำให้เกิดอาการเจ็บแน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่ม เหใื่อแตก ใจสั่น วูบ หมดสติ

#หลอดเลือดสมองตีบ
-ทำให้เกิดอาการชาครึ่งซีก
-พูดไม่ชัด ปากเบี้ยว ใบหน้าเบี้ยว พูดไม่ออก พูดไม่ชัด
-แขนขาอ่อนแรง เดินเซ อัมพฤกษ์/อัมพาต
-เวียนศรีษะ บ้านหมุนฉับพลัน
-ตามัว มองไม่เห็น เห็นภาพซ้อน
-สูญเสียความทรงจำฉับพลัน

#หลอดเลือดที่ขาตีบ
-ทำให้เกิดอาการปวดขาเวลาเดิน ขาเย็น
-มีอาการชาหรืออ่อนแรงของแขนหรือขา
-มีการเปลี่ยนสีของขา มีการเจริญเติบโตของเส้นขนช้าลงหรือขนบริเวณเท้าและขาร่วง เล็บเท้าเจริญเติบโตช้าลง
- #สมรรถภาพทางเพศเสื่อมในผู้ชาย
-ผิวที่ขามีลักษณะมันเงา
-ชีพจรอ่อนที่ขาหรือเท้า หรืออาจตรวจไม่พบชีพจรในบริเวณขาหรือเท้าในบางกรณี
>> แผลที่แขนขาหายช้า แผลเรื้อรังที่นิ้ว หากอาการร้ายแรงอาจจะต้องขัดแขนขาหรืออวัยวะส่วนปลายที่ขาดเลือดออกไป

#โรคหลอดเลือดแดงแข็งเกิดได้จากหลายสาเหตุ
เช่น สูบบุหรี่ ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ขาดการออกกำลังกาย พันธุกรรม ความเครียดเรื้อรัง
หากตัดต้นเหตุเหล่านี้ก็จะยับยั้งการก่อโรคหลอดเลือดแดงแข็งได้ตั้งแต่ต้น #เป็นการตัดไฟแต่ต้นลม #รักษาที่ต้นเหตุ

#แนวทางตรวจการวินิจฉัยโรคหลอดเลือดแดงแข็ง
>>ซักประวัติและตรวจร่างกายโดยแพทย์***
>> ตรวจเลือดดูไขมันในเลือด
>>ตรวจ ABI (Ankle-Brachial Index)***
>>ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG)
>>ตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์หลอดเลือด (CT angiogram)

#แนวการรักษาโรคหลอดเลือดแดงแข็ง
อาจแตกต่างกันในแต่ละเคสขึ้นกับตำแหน่งของหลอดเลือดที่ตีบแคบ หากสงสัยภาวะนี้แนะนำพบแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาเฉพาะรายโดยเร็ว #อย่ารอให้เส้นเลือดตีบเป็นสัญญาณเตือนครั้งสุดท้าย
#ป้องกันไว้ดีที่สุด และการรักษาที่ดีที่สุดก็คือการป้องกันก่อนเกิดโรคซึ่งควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการป้องกันโรคอย่างเหมาะสมและตรงจุด

……….
ความ #เครียดเรื้อรัง มีส่วนทำให้เกิดโรคหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) ผ่าน 5 กลไกหลัก ดังนี้

1.ความเครียดเรื้อรังทำให้เกิดความผิดปกติของเยื่อบุผนังหลอดเลือด (Endothelial Dysfunction):
>>ความเครียดเรื้อรังสามารถทำลายเยื่อบุด้านในของหลอดเลือด (endothelium) ทำให้การผลิตไนตริกออกไซด์ (Nitric Oxide: NO) ลดลง ซึ่งNO มีความสำคัญต่อการทำงานของหลอดเลือด หากขาดสารนี้ จะนำไปสู่ความผิดปกติของเยื่อบุหลอดเลือด ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดโรคหลอดเลือดแดงแข็ง

และความเครียดยังทำให้เกิดการไหลเวียนของเลือดที่ผิดปกติ อาจเพิ่มแรงเฉือน(Shear Stress)ที่เยื่อบุหลอดเลือด ส่งผลให้เกิดความเสียหายและเร่งการก่อตัวของพลัค(plaque formation)

นอกจากนี้ความเครียดเรื้อรังสามารถกระตุ้นภาวะเครียดออกซิเดชั่น(Oxidative Stress) ซึ่งเกิดจากความไม่สมดุลระหว่างการสร้างสารอนุมูลอิสระ (ROS) และสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย

ภาวะเครียดออกซิเดชั่นนี้สามารถทำลายเยื่อบุหลอดเลือด กระตุ้นการอักเสบ และทำให้เกิดคราบพลัคในหลอดเลือดได้มากขึ้น

2.ความเครียดเรื้อรังทำให้เกิดการอักเสบ (Activation of Inflammatory Pathways):
>> ความเครียดกระตุ้นระบบประสาทซิมพาเทติก(SNS, Sympathetic Nervous System) ส่งผลให้ระดับ #ฮอร์โมนความเครียด เช่น คอร์ติซอล(cortisol)และอะดรีนาลีน(Adrenaline) เพิ่มขึ้น
ฮอร์โมนเหล่านี้สามารถกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ ทำให้ร่างกายหลั่งสารก่อการอักเสบ(inflammatory cytokines) เช่น C-reactive protein (CRP) และ Interleukin-6 (IL-6) เป็นต้น ส่งผลให้เกิด foam cells (เซลล์โฟม) ซึ่งเป็นเซลล์มาโครฟาจ(Macrophage)ที่กลืนกินคอเลสเตอรอลชนิด LDL ที่ถูกออกซิไดซ์(oxidized LDL)แล้ว

เซลล์โฟมเหล่านี้จะสะสมในผนังหลอดเลือด กลายเป็นแกนกลางของพลัค(atherosclerotic plaque) และการอักเสบเรื้อรังยังทำให้พลัคไม่เสถียร เพิ่มความเสี่ยงต่อการแตกหรืออุดตันหลอดเลือดอย่างเฉียบพลัน

3.ความเครียดเรื้อรังทำให้เกิดความผิดปกติของระบบเผาผลาญไขมัน (Abnormal Lipid Metabolism):
ความเครียดเรื้อรังอาจรบกวนการเผาผลาญไขมัน ส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลชนิด LDL เพิ่มขึ้น และคอเลสเตอรอลชนิดHDL ลดลง การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ไขมันสะสมที่ผนังหลอดเลือดมากขึ้น และเร่งกระบวนการเกิดพลัค

นอกจากนี้ ความเครียดเรื้อรังยังอาจลดความสามารถของร่างกายในการกำจัดคอเลสเตอรอลออกไป ส่งผลให้หลอดเลือดตีบแคบมากขึ้น

4.ความเครียดเรื้อรังทำให้เกิดความผิดปกติของการทำงานของระบบประสาทต่อมไร้ท่อ(Neuroendocrine dysfunction):
>> ความเครียดกระตุ้นการทำงานของระบบ HPA (hypothalamic-pituitary-adrenal axis) และระบบประสาทซิมพาเทติก ซึ่งมีผลต่อการอักเสบและระบบไขมันในร่างกาย

HPA (hypothalamic-pituitary-adrenal axis) เป็นระบบประสาทต่อมไร้ท่อที่สำคัญซึ่งควบคุมการตอบสนองต่อความเครียดของร่างกาย เมื่อเกิดความเครียด หรือเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดการตอบสนองต่อความเครียด ไฮโปทาลามัส(Hypothalamus)จะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติโคโทรฟินรีลีซิง (Corticotropin Releasing Hormone: CRH) ซึ่งจะกระตุ้นต่อมใต้สมองให้หลั่งฮอร์โมน adrenocorticotropic hormone (ACTH) ซึ่ง ACTH จะเดินทางเข้าสู่กระแสเลือดและไปกระตุ้นต่อมหมวกไต(Adrenal gland)ให้หลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล(Cortisol) :ซึ่งคอร์ติซอลจะมีผลต่อร่างกายหลายอย่าง เช่น เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด, และกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนอื่นๆ

HPA axis มีบทบาทสำคัญในการรักษาภาวะสมดุลในร่างกายและช่วยให้ร่างกายสามารถปรับตัวต่อความเครียดได้ หากมีการทำงานผิดปกติของ HPA axis อาจนำไปสู่ปัญหาต่างๆ เช่น โรคซึมเศร้า วิตกกังวล โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน

5.ความเครียดเรื้อรังทำให้ความสามารถในควบคุมพฤติกรรมและอารมณ์แย่ลงก่อให้เกิดพฤติกรรมทำร้ายสุขภาพตามมา (Impaired executive function):

ความเครียดเรื้อรังมีผลให้สมองส่วนที่ควบคุมการคิดอย่างมีเหตุผล (executive functions)ทำงานลดลงเช่น การควบคุมความอยากและการตัดสินใจ(impulse control and judgment)ลดลง จึงส่งผลให้เกิดพฤติกรรมทำร้ายสุขภาพได้ง่ายขึ้น

>>ส่งผลทำให้ไม่สามารถวินัยกับแผนการออกกำลังกายได้
>>ความเครียดมีแนวโน้มที่จะลดความสามารถในการควบคุมตนเองด้านการกิน นำไปสู่การบริโภคพลังงานมากขึ้น และเลือกอาหารที่ให้พลังงานสูง เช่น ของหวาน ของทอด หรืออาหารแปรรูป
>>เมื่ออยู่ในภาวะเครียด คนเรามักมองหาความสบายใจหรือสิ่งฮีลใจแบบเร่งด่วน แม้ว่าสิ่งนั้นจะขัดกับเป้าหมายระยะยาวด้านสุขภาพก็ตาม เช่น มีพฤติกรรมเนือยนิ่ง หยุดไปออกกำลังกาย ใช้สารเสพติด ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ กินขนมหวาน/ของหวาน/น้ำหวาน กินอาหารมันเค็ม คิดว่ากินๆไปก่อนเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยลด ผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆ

#สรุป:
ความเครียดสามารถส่งผลต่อการเกิดโรคหลอดเลือดแดงแข็งได้หลายทาง ดังนั้นหากรู้ตัวว่ามีความเครียดสะสมจึงควรรีบจัดการ
📌หากไม่สามารถรับมือกับความเครียดสะสมได้ด้วยตนเองก็ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษา ไม่ควรปล่อยจอย เพราะยิ่งปล่อยในความเครียดสะสมอยู่นานยิ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพและก่อโรคเรื้อรังร้ายแรงตามมาได้

และหากใครยังไม่แน่ใจว่าตนเองมีความเครียดสะสมอยู่หรือไม่ ก็สามารถเข้าทำ #แบบประเมินความเครียด ได้ด้วยตนเองทาง LINE >> คลิก https://lin.ee/dtfd9j9 หรือคลิก https://page.line.me/?accountId=838qzict หรือ แอดLINE ID: ได้นะคะ

#กันไว้ดีกว่าแก้
ป้องกันก่อนเกิดโรค คือ ทางออกที่ดีที่สุด
#เป็นห่วงนะ
พญ.จุฑามาศ ค้าทอง
ว.46576
Lifestyle Medicine
ขอให้ผู้อ่านทุกท่านมีความสุข สุขภาพแข็งแรงและมีโชคดีนะคะ
#โชคดีที่ได้อ่าน
#โชคดีที่ได้เจอ
…..
✅เพื่อความรวดเร็วในการขอคำปรึกษาภาวะเครียดสะสมหรือโรคเรื้อรัง สามารถสอบถามข้อมูลและทำนัดกับเลขาแพทย์โดยคลิกลิงก์แอดไลน์ได้เลยนะคะ
👉🏻 https://lin.ee/dtfd9j9
หรือ https://page.line.me/?accountId=838qzict
หรือ แอดLINE ID:
หรือโทร 084-2659698

08/06/2025

#เครียดสะสม ระวังเสี่ยงโรคเรื้อรัง
#สัญญาณเตือนเมื่อมีความเครียดสะสม
นอนไม่หลับ หลับไม่สนิท ตื่นนอนไม่สดชื่น
สมองเบลอ คิดไม่ค่อยออก ไม่มีสมาธิ
เหนื่อยเพลียง่าย ไม่อยากไปทำงาน
ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง ปวดคอบ่าไหล่

เบื่อหน่าย ไม่อยากคุยกับใคร

หายใจถี่ หายใจไม่อิ่ม

หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน

รอบเดือนมาไม่ปกติ

#ความเครียดที่สะสมมาเป็นระยะเวลานาน
อาจทำให้เกิดเรื้อรังได้ เช่น โรคกระเพาะ ลำไส้แปรปรวน โรคหัวใจและหลอดเลือด ความดันโลหิตสูง ไมเกรน โรคซึมเศร้า โรคนอนไม่หลับ สมองเสื่อม โรคเมทาบอลิค(ลงพุง อ้วนง่าย ไขมันขึ้น) มะเร็ง

ดังนั้นหากคุณกำลังมีอาการเหล่านี้
ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อหาแนวทางแก้ไข ไม่ควรปล่อยนานเกินไปจนส่งผลต่อสุขภาพกาย และสุขภาพจิตใจนะคะ

#เป็นห่วงนะ
#ธามคลินิก

#ฮอร์โมนบำบัด



#ฮอร์โมนรักษาได้
#ตรวจฮอร์โมน #ฮอร์โมน.....................
จองคิวหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ :
ธามคลินิก ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพแบบบูรณาการ
(Tyme integrative wellness center)
โทร.084-2659698
Line ID:
#ทางเลือกใหม่ในการดูแลสุขภาพ
โดยแพทย์และทีมสหเวชผู้ชำนาญ

เมื่อ  #จินตนาการสําคัญกว่าความรู้ #นิทาน จาก ด.ญ.มิลินท์ อายุ 8 ปี ถ้าเคยอ่าน/ฟังนิทาน  #กระต่ายกับเต่าลองเปิดใจอ่าน นิ...
26/03/2025

เมื่อ #จินตนาการสําคัญกว่าความรู้
#นิทาน จาก ด.ญ.มิลินท์ อายุ 8 ปี
ถ้าเคยอ่าน/ฟังนิทาน #กระต่ายกับเต่า
ลองเปิดใจอ่าน นิทานกระต่ายกับนม
ของวัยเรียนดูค่ะ
…..
ช่วงอายุ 6-12ปี #วัยเรียน
✅ เป็นช่วงสำคัญของเด็กในการเรียนรู้ทักษะชีวิต และพัฒนาการต่างๆทางด้านสติปัญญา(cognitive function) เป็นช่วงที่การทำงานของสมองมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว
✅ใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ได้ดีขึ้น
✅ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการจะพัฒนาอย่างรวดเร็ว
✅จดจ่อในการเรียนหรือการทำกิจกรรมได้นานขึ้น
✅พัฒนาการทุกด้านมีความสัมพันธ์กัน จึงควรส่งเสริมให้พัฒนาพร้อมกันทุกด้าน: ร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ จิตใจ สังคม และจริยธรรม
✅เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากสังคมในบ้านสู่สังคมนอกบ้าน
✅ชอบให้มีคนชม หากขาดการสนับสนุนอาจเกิดความรู้สึกมีปมด้อย
✅เริ่มคิดอย่างมีเหตุผลเกี่ยวกับสิ่งต่างๆที่ไม่เคยเข้าใจมาก่อน สามารถนำความรู้หรือเหตุการณ์ในอดีตมาแก้ปัญหาในเหตุการณ์ใหม่ๆได้
……
#การส่งเสริมพัฒนาการช่วงวัย 6-12ปี
💪🏻ฝึกให้ร่างกายหลายส่วนได้ทำงานประสานกันผ่านกิจกรรม งานบ้าน กีฬา อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง

💪🏻ชื่นชมยินดีตามความเป็นจริงเมื่อเด็กทำได้
ประสบการณ์ที่ดีจะช่วยให้เด็กรู้สึกมีคุณค่า ภูมิใจในตนเอง เชื่อมั่นในตนเอง มีจิตใจมั่นคง และมองผู้อื่นในด้านดีตามมา

💪🏻ให้ฝึกรับผิดชอบงานของตน ให้ช่วยเหลือตนเองให้มากที่สุด รับผิดชอบดูแลสิ่งของของตน(เช่น ดูแลห้องส่วนตัวให้สะอาด จัดเตรียมชุดนักเรียน )

💪🏻ฝึกบริหารจัดการเวลา เช่น ตื่นให้ทันไปโรงเรียน ทำการบ้านส่งทันเวลา

💪🏻ให้ฝึกรับผิดชอบงานส่วนรวมตามสมควร เช่น กวาดบ้าน ล้างจาน

💪🏻ฝึกให้แก้ปัญหาง่ายๆด้วยตนเองอย่างอิสระ บนพื้นฐานของเหตุผลที่เหมาะสม

💪🏻ส่งเสริมการอ่านหนังสือ ปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน

💪🏻ฝึกการเข้าสังคมผ่านการเล่น ทำกิจกรรม กีฬา

💪🏻เปิดโอกาสให้เด็กได้เข้ากลุ่มเพื่อนและอยู่ร่วมกับเพื่อนๆ โดยผู้ใหญ่ควรรู้จักกับเพื่อนของเด็ก และให้มาที่บ้านได้

💪🏻พ่อแม่หรือผู้ปกครองควรแบ่งเวลาทำกิจกรรมร่วมกับลูกหลานอย่างสม่ำเสมอ

💪🏻ฝึกให้เด็กเรียนรู้อารมณ์ตนเอง ฝึกจัดอารมณ์ ฝึกให้แสดงอารมณ์อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

💪🏻ฝึกให้คิดดี พูดดี ทำดี ฝึกมองตนเองในด้านดี พูดเรื่องดีๆ บ่อยๆ

💪🏻การพูดกับเด็ก ควรสื่อสารชัดเจน กระชับ ตรงไปตรงมา ไม่ควรพูดซ้ำๆจนเป็นลักษณะของการบ่น

#ปัจจัยที่มีผลต่อพัฒนาการในวัยเรียน 6-12ปี
👉🏻การอบรมเลี้ยงดู
👉🏻เพื่อน
👉🏻สื่อออนไลน์/เกมออนไลน์

#ปัญหาที่พบบ่อยในวัยเรียน อายุ 6-12 ปี
>> โภชนาการเกินและขาด
>> ปัญหาการเรียน
>> โรคสมาธิสั้น
>> ภาวะบกพร่องในทักษะการเรียน
>> ปัญหาพฤติกรรม ก้าวร้าว แกล้งเพื่อน ล้อเลียน โกหก ขโมย ติดเกม
>> ปรับตัวยาก ไม่มีเพื่อน
>> วิตกกังวล
>> ไม่ยอมไปโรงเรียน
>> ปัสสาวะรดที่นอน

ผู้ปกครองควรฝึกสังเกตพัฒนาการให้ครอบคลุมทุกด้าน หากเด็กมีความผิดปกติหรือเกิดปัญหาควรรีบปรึกษาแพทย์โดยเร็วนะคะ

#เป็นห่วงนะ
#หมอตุ๊กตาจุฑามาศ
TML.46576
#เน้นรักษาแบบไม่พึ่งยา



ขอบคุณ: คู่มือการดูแลและพัฒนาการเด็กวัยเรียนวัย 6-12 ปี, ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งแระเทศไทย

Address


Alerts

Be the first to know and let us send you an email when Dr.Jutamas หมอตุ๊กตา จุฑามาศ posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Shortcuts

  • Address
  • Alerts
  • Claim ownership or report listing
  • Want your practice to be the top-listed Clinic?

Share