Healthy living by Alisa

Healthy living by Alisa ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก Healthy living by Alisa, Bangkok.

Healthy living by Alisa
- Yoga
- Strength Training & Weight Training
** Workshop and group classes: Vinyasa Flow, Yoga, Core Yoga, Hatha Yoga, Yoga for improve health&wellbeing, Power Yoga, Gentle Yoga ,Mediat

06/04/2025

อายุยืน 101 เพราะ
มีความสุขเล็กๆ น้อยๆ ทุกวัน
และลดพลังลบในตัว
คิดว่าอะไร ถึงทำให้คนเราอายุยืน และมีความสุขในชีวิต?
Babette Hughes เป็นนักเขียน ที่มีอายุถึง 101 ปี ได้มาเล่าถึงความลับของการมีชีวิตที่ยาวนานและมีความสุข
ถึงแม้เธอจะเกิดในปี 1922 ที่เป็นยุคห้ามจำหน่ายเหล้า แต่พ่อของเธอเป็นผู้ลักลอบขายเหล้าเถื่อนและถูกฆ่าตายในสงครามแย่งชิงอาณาเขตกับมาเฟีย ตอนที่เธออายุเพียง 2 ขวบ
แม้จะผ่านชีวิตที่ยากลำบาก และไม่ได้ราบรื่น เธอยังคงเป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จ โดยตีพิมพ์หนังสือเล่มที่ 9 ของเธอเมื่อต้นปีนี้ที่อายุ 101 ปี ซึ่งบทเรียนชีวิต 8 ข้อที่ช่วยให้เธอมีชีวิตที่ยืนยาวและมีความสุข ซึ่งทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ได้ คือ
1. อย่าเชื่อว่าคุณ "หมดประโยชน์" แล้ว
มีแนวคิดผิดๆ ในวัฒนธรรมของเรา ว่าชีวิตจบลงเมื่อคุณอายุถึงจุดหนึ่ง
Babette เชื่อว่ามีความเข้าใจผิดในสังคมเราที่คิดว่าชีวิตจบลงเมื่ออายุถึงจุดหนึ่ง แต่ความจริงแล้ว "ปีทองของคุณ อาจเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิต"
เธอเล่าว่าผู้คนยอมแพ้กับชีวิตเร็วเกินไป เมื่อจิตใจของเราจดจ่อกับสิ่งที่วัฒนธรรมสอนเรา - ว่าเรา 'หมดประโยชน์' เมื่ออายุเลยจุดหนึ่งไปแล้ว - มันจะฝังลึกเข้าไปในความรู้สึกของตัวเอง หากความรู้สึกของเราคือการอยู่คนเดียว เศร้า และไร้ประโยชน์เมื่อเราอายุ 70, 80, 90 ปี เราก็จะเชื่อเช่นนั้น
แทนที่จะยอมจำนนกับความคิดเหล่านี้ Babette แนะนำให้คุณท้าทายมัน และมองหาคุณค่าและความหมายในทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะอายุเท่าไร
2. พูดคุยกับเพื่อนทุกช่วงวัย
เพื่อนๆ เป็นแหล่งปัญญา พลังงาน และความจริงแท้ที่ยอดเยี่ยม
Babette มีเพื่อนที่อายุน้อยกว่าเธอสองถึงสามรุ่น เธอได้เรียนรู้จากพวกเขา และเชื่อว่าพวกเขาก็ได้เรียนรู้จากเธอเช่นกัน "แต่ละทศวรรษสอนอะไรเราบางอย่างที่แตกต่างกัน"
เธอกล่าวว่า "มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างการเป็นคนอายุ 30 หรือ 40 กับการเป็นคนอายุ 90 หรือ 100 ปี แต่กระนั้น เมื่อเรามารวมตัวกัน มันก็ยอดเยี่ยมได้ เพราะเราทุกคนมีสิ่งมากมายที่จะสอนซึ่งกันและกัน มันให้มุมมองใหม่ในการคิดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ"
มิตรภาพข้ามรุ่นไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณเข้าใจมุมมองที่แตกต่าง แต่ยังช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับโลกที่กว้างขึ้นและความคิดใหม่ๆ "เมื่อฉันได้พบกับเพื่อนๆ เราส่วนใหญ่จะพูดคุยกัน การพูดคุยเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นเมื่อมันดี"
3. ปล่อยให้เรื่องเล็กๆ ทำให้วันของคุณมีความสุข
ไม่ใช่ยอดเขาที่ทำให้เรามีความสุข แต่เป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ
Babette ชี้ให้เห็นว่าวัฒนธรรมของเรามักบอกว่าความสำเร็จคือสิ่งใหญ่โต เป็นความพยายามอย่างมาก เกี่ยวกับผลตอบแทนมหาศาล "แต่มันไม่ได้ผล ฉันไม่แน่ใจว่ายอดเขามีอยู่จริงหรือไม่ แต่ความสุขเล็กๆ น้อยๆ มีอยู่จริง และพวกมันยอดเยี่ยมมาก"
เราต้องเข้าใจตัวเองเพื่อที่จะเป็นตัวของตัวเองและค้นพบสิ่งเล็กๆ ที่ทำให้เรามีความสุข สำหรับเธอ หนึ่งในนั้นคือการอ่าน อีกอย่างคือการอยู่กับคนที่เธอห่วงใยอย่างลึกซึ้ง ซึ่งอาจเป็นครอบครัวหรือเพื่อน "มันเป็นเรื่องของการโทรศัพท์ การเยี่ยมเยียน ความคิด ความกังวลที่แบ่งปัน"
ความสุขแท้จริงมักจะพบในช่วงเวลาเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่เป้าหมายใหญ่หรือความสำเร็จที่น่าตื่นเต้น
4. มีความกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง
ความกล้าหาญคือพื้นฐานสำคัญ ของการรู้จักตัวเอง และเป็นตัวของตัวเอง
"ความกล้าหาญเป็นพื้นฐานสำหรับฉัน ต้องใช้ความกล้าที่จะมองตัวเองอย่างชัดเจน รู้จักตัวเอง และเป็นตัวของตัวเอง" Babette บอก
แต่มันให้พลังงาน ความมั่นใจ และความเข้าใจทั้งตัวเองและผู้อื่น ในระยะยาว เธอเชื่อว่าการเป็นตัวของตัวเอง - เช่น การไม่เห็นด้วยกับใครบางคน - ทำให้แม้แต่ความสัมพันธ์ที่ยากลำบากแข็งแกร่งขึ้น
การเป็นตัวของตัวเองไม่ได้มาง่ายๆ ต้องใช้ความพยายามบางอย่างในการเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเอง แต่มันคุ้มค่า เพราะทำให้คุณเป็นคนที่จริงแท้และมีความสุขมากขึ้น
5. ทำสิ่งที่คุณรัก
เมื่อฉันเขียนหนังสือ ฉันรู้สึกแตกต่าง
รู้สึกดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น และมั่นใจมากขึ้น
Babette เล่าว่า "เมื่อฉันเขียน ฉันรู้สึกแตกต่าง ฉันรู้สึกดีขึ้น ฉันรู้สึกมีความสุขมากขึ้น ฉันรู้สึกมั่นคงมากขึ้น ฉันรู้สึกมั่นใจมากขึ้น" นักเขียนคนอื่นๆ ที่เธอรู้จักบอกว่าพวกเขารู้สึกเช่นเดียวกัน "มีบางอย่างที่มหัศจรรย์เกี่ยวกับงานสร้างสรรค์ แน่นอน มันไม่ใช่เวทมนตร์ มันเป็นการแสดงออกของจิตวิญญาณมนุษย์"
ความสุขที่คุณได้รับจากการทำสิ่งสร้างสรรค์ที่คุณรักเชื่อมโยงกับส่วนของตัวตนที่ไม่ได้พร้อมใช้งานหรือรู้สึกตัวเสมอไป
"มันย้อนกลับไปที่การรู้จักตัวเองและเป็นตัวของตัวเอง วิธีที่ฉันเข้าถึงสิ่งนั้นคือการเขียน สำหรับคนอื่นอาจเป็นการวาดภาพหรือเต้นรำ บางครั้งฉันจะกลับมาและเห็นบางสิ่งที่ฉันเขียนและคิดว่า 'นั่นดีนะ' นั่นหมายความว่ามันเปิดจิตใต้สำนึกของฉัน นั่นคือที่ที่เพชรพลอยอยู่"
6. ขยับร่างกาย พักจิตใจ
การออกกำลังกายไม่ใช่แค่ความคิดที่ดี มันจำเป็นสำหรับการมีชีวิตที่ยืนยาว
เป็นเวลาประมาณเจ็ดปีที่ Babette ได้ออกกำลังกายกับเทรนเนอร์สัปดาห์ละสองครั้ง สำหรับคนอายุ 101 ปี เธอแข็งแรงมาก เธอสามารถยกน้ำหนัก 10 ปอนด์และลุกออกจากเก้าอี้ขณะถือน้ำหนัก "ฉันภูมิใจในสิ่งนั้นมาก"
เมื่อเธอเป็นโรคปอดบวมและอยู่ในโรงพยาบาล มีคนบอกเธอว่าการออกกำลังกายของเธอน่าจะช่วยชีวิตเธอไว้ "ดังนั้นมันไม่ใช่แค่ความคิดที่ดี - มันจำเป็น"
ในขณะเดียวกัน คุณต้องพักผ่อนให้มาก "สมองต้องการการพักผ่อนเพื่อฟื้นฟู" การดูแลทั้งร่างกายและจิตใจเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการมีชีวิตที่สมดุลและมีสุขภาพดี
7. อย่าติดอยู่กับความคิดด้านลบ
ความคิดเชิงลบเป็นเรื่องปกติ และมันเป็นตัวทำลายชีวิต
"ทำไมบางคนรู้สึกมองโลกในแง่ดีและบางคน ไม่ว่าจะพูดอะไร ก็ออกมาในแง่ลบ? มันเป็นวิธีที่เราเกิดมา ฉันเชื่ออย่างนั้น เรามาเกิดในโลกเป็นคนมองโลกในแง่ดีหรือคนมองโลกในแง่ร้าย บางคนมีช่วงเวลาที่ยากลำบากมากในชีวิตของพวกเขา หากคนมองโลกในแง่ร้ายจะถามว่า 'ทำไมต้องเป็นฉัน?' ฉันจะพูดว่า 'ทำไมจะไม่ใช่ล่ะ?'"
"มันยากมากที่จะเอาชนะความคิดเชิงลบ แต่เท่าที่เราทำได้ เราต้องยอมรับสิ่งดีๆ และพยายามก้าวไปข้างหน้าด้วยการมองโลกในแง่ดี" กลยุทธ์หนึ่งคือการจดจ่อกับสิ่งดีๆ ในชีวิตคุณ แม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก และฝึกฝนการมองหาโอกาสแทนที่จะมองหาเหตุผลที่จะยอมแพ้
8. ทำสิ่งที่คุณรู้ว่าคุณต้องทำ
ไม่มีความลับในการมีอายุยืน มีแต่ช่องว่างระหว่างสิ่งที่เรารู้และสิ่งที่เราทำ
"เมื่อฉันอายุมากขึ้น ฉันมักถูกถามว่า 'อะไรคือความลับของคุณ?' ฉันไม่มีความลับ"
"การมีอายุยืนเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้ว่าจริง เราทุกคนรู้ เช่น การออกกำลังกาย อาหารที่ดี ความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ดีกับคู่ครอง ความเข้าใจในตัวเอง อาชีพที่ดีสำหรับคุณ - เหล่านี้คือกุญแจสู่ชีวิตที่มีความสุข"
"แต่มีช่องว่างระหว่างสิ่งที่เรารู้และสิ่งที่เราทำ ปัญหาสำหรับคนมากมายคือการลงมือทำ และนั่นเป็นเรื่องลึกลับเกินกว่าที่ฉันจะอธิบายได้"
บทเรียนจาก Babette Hughes แสดงให้เห็นว่าการมีชีวิตที่ยืนยาวและมีความสุขนั้น ขึ้นอยู่กับการเลือกสิ่งที่เราทำทุกวัน การเป็นตัวของตัวเอง การทำในสิ่งที่เรารัก และการมองโลกในแง่ดีเพียงเท่านี้เอง
เขียนและเรียบเรียงโดย 100WEALTH
———
100WEALTH l ไปให้ถึง100ล้าน


#ไปให้ถึง100ล้าน
อ้างอิง
https://bit .ly/4lfL3HQ

03/04/2025

7 งานวิจัยที่ยืนยันว่าการเจริญสติเป็นวิทยาศาสตร์
🧘‍♂️🧠✨
ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา “การเจริญสติ” หรือ “Mindfulness” กลายเป็นหัวข้อที่ได้รับความสนใจจากนักวิจัยทั่วโลก มีหลักฐานที่ชัดเจนว่า การเจริญสติไม่ได้เป็นเพียงแนวคิดเชิงจิตวิญญาณหรือธรรมะเท่านั้น แต่ยังมีผลลัพธ์ทางวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ ทั้งในด้านการลดความเครียด การพัฒนาความสามารถในการทำงาน การจัดการกับอารมณ์ และผลดีต่อสุขภาพจิตและร่างกาย
งานวิจัยที่ 1: การเจริญสติช่วยลดระดับความเครียด ลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลในเลือด ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เชื่อมโยงกับความเครียด ทำให้ผู้ฝึกมีความสามารถในการจัดการความเครียดได้ดีขึ้น
งานวิจัยที่ 2: ส่งผลดีต่อสมองและการทำงานของสมอง งานวิจัยพบว่า การฝึกสติเป็นเวลา 8 สัปดาห์ช่วยเพิ่มความหนาของเนื้อสมองในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจดจำและความยืดหยุ่นในการทำงาน และยังช่วยลดขนาดของอะมิกดาลา ซึ่งเป็นสมองส่วนที่ควบคุมการตอบสนองของความกลัวและความกังวล
งานวิจัยที่ 3: การฝึกสติช่วยลดอาการวิตกกังวลและซึมเศร้า งานวิจัยหลายชิ้นพบว่า การฝึกสติช่วยลดระดับของอาการวิตกกังวลและซึมเศร้า โดยช่วยให้ผู้ป่วยสามารถจัดการกับความคิดและอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้ดีขึ้น และช่วยลดการกำเริบของภาวะซึมเศร้าได้
งานวิจัยที่ 4: การเจริญสติส่งผลต่อความสัมพันธ์ในชีวิต งานวิจัยพบว่าผู้ที่ฝึกการเจริญสติมีความสามารถในการรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นได้ดีขึ้น ลดการตอบสนองทางลบและเพิ่มความสัมพันธ์ที่ดี
งานวิจัยที่ 5: ส่งผลดีต่อสุขภาพกาย การเจริญสติไม่ได้เป็นผลดีแค่จิตใจเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพกายด้วย เช่น ลดความดันโลหิต ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ การฝึกสติเป็นประจำช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด ทำให้สุขภาพหัวใจและหลอดเลือดดีขึ้น
งานวิจัยที่ 6: ช่วยเพิ่มสมาธิและประสิทธิภาพในการทำงาน งานวิจัยพบว่าผู้ที่ฝึกการเจริญสติสามารถโฟกัสกับงานได้ดีขึ้น มีความสามารถในการคิดสร้างสรรค์และแก้ปัญหาที่ดีขึ้น
งานวิจัยที่ 7: ส่งผลดีต่อการนอนหลับ การฝึกสติยังช่วยให้ผู้ฝึกมีคุณภาพการนอนที่ดีขึ้น งานวิจัยพบว่าผู้ที่ฝึกสติเป็นประจำมีการหลับลึกมากขึ้น ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีมากขึ้น

คลินิกสุขภาพจิตนายแพทย์เจษฎา

😊✌️✨💫💪🏾
29/03/2025

😊✌️✨💫💪🏾

แพทย์ชาวญี่ปุ่นวัย 105 ปี
เผยวิธีย้อนวัยและคงความอ่อนเยาว์ลง 30 ปี
ถ้าถามว่า อยากอายุยืนแค่ไหน แล้วถ้าบอกว่าคุณสามารถมีชีวิตที่ยืนยาวได้ถึง 100 ปี และยังรู้สึกเหมือนเป็นหนุ่มสาววัย 70 ล่ะ...
นี่ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับ ดร.ชิเกอากิ ฮิโนฮาระ แพทย์ชาวญี่ปุ่นผู้มีชื่อเสียงระดับโลกด้านการมีอายุยืนยาว ท่านมีชีวิตอยู่ถึง 105 ปี และใช้ชีวิตเพื่อค้นคว้าวิธีการที่จะช่วยให้ผู้คนมีสุขภาพดีและอายุยืนยาว
ใน​หนัง​สือของท่านชื่อ "Living Long, Living Good" ท่านได้เผยความลับง่ายๆ ที่ช่วยให้ท่านมีชีวิตที่ยืนยาวได้ถึงหลัง 100 ปี แม้อายุ 101 ปี ท่านยังสามารถบินไปนิวยอร์กเพื่อบรรยายได้ นี่คือพลังของการใช้ชีวิตที่ถูกต้อง
มหาวิทยาลัยโตเกียวได้ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับผู้มีอายุยืนในญี่ปุ่น และพบว่าวิถีชีวิตมีผลต่ออายุขัยมากกว่าพันธุกรรมถึง 70% นี่คือเหตุผลที่ญี่ปุ่นมีประชากรอายุเกิน 100 ปีมากที่สุดในโลกต่อประชากร 100,000 คน
แล้วอะไรคือความลับของ ดร.ฮิโนฮาระ? ก่อนที่จะดูเรื่องอาหารการกิน มาดู 7 นิสัยที่ท่านปฏิบัติเพื่อให้มีชีวิตที่ยืนยาวและเปี่ยมพลังกัน
1. ร่างกายไม่หยุดนิ่ง ชีวิตไม่หยุดชรา
เพราะการเคลื่อนไหวคือยาอายุวัฒนะที่ดีที่สุดในโลก
หนึ่งในหลักการพื้นฐานของ ดร.ฮิโนฮาระ คือการไม่หยุดเคลื่อนไหว ท่านหลีกเลี่ยงการใช้ลิฟต์และเลือกใช้บันไดเสมอ แม้ในวัยชรา ท่านยังคงเดินไปทุกที่ ทำงาน และยังคงมีส่วนร่วมในกิจกรรมประจำวัน
ท่านมักพูดว่า "ร่างกายของคุณจะเคยชินกับการที่คุณปฏิบัติต่อมัน ถ้าคุณให้มันทำงานอยู่เสมอ มันก็จะทำงานได้เรื่อยๆ"
แทนที่จะแยกเวลาสำหรับการออกกำลังกายโดยเฉพาะ ท่านแนะนำให้เพิ่มการเคลื่อนไหวในกิจกรรมประจำวัน เช่น ทำสวน, เดินไปทำงานแทนการขับรถ (ไม่ใช่ทุกที่แน่นอน), ยืดเส้นยืดสายขณะดูทีวี
2. ไม่มีคำว่าเกษียณ ในพจนานุกรมของคนอายุยืน
เพราะการหยุดทำงาน คือการเริ่มต้นหยุดพัฒนา
คุณรู้หรือไม่ว่าญี่ปุ่นมีอัตราผู้สูงอายุที่ยังคงทำงานสูงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
เพราะสำหรับคนส่วนใหญ่ การทำงานไม่ได้เกี่ยวกับการได้รับเงินเดือนเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของการยังคงกระฉับกระเฉง มีส่วนร่วม และรู้สึกมีประโยชน์ต่อสังคม
ดร.ฮิโนฮาระไม่เคยเกษียณในความหมายทั่วไป ท่านยังคงทำงานเป็นแพทย์จนอายุเกิน 100 ปีเพราะท่านรักงานที่ทำ ปรัชญาของท่าน คือ "เมื่อคนหยุดทำงาน พวกเขาก็หยุดกระตุ้นจิตใจของตัวเอง"
3. มีเป้าหมายในชีวิต เป็นเหมือนเข็มทิศนำทาง
เมื่อมีสิ่งที่อยากทำทุกเช้า คุณจะมีพลังลุกขึ้นแม้วันที่เหนื่อยที่สุด
การมีเหตุผลที่จะตื่นขึ้นทุกเช้าเป็นส่วนสำคัญในปรัชญาของท่าน ท่านมักพูดถึงชาวโอกินาวาที่มีอายุร้อยปี ซึ่งมีชีวิตยืนยาวส่วนหนึ่งเพราะแนวคิดเรื่อง "อิคิไก" - จุดมุ่งหมายในชีวิต
อิคิไก รวมคำในภาษาญี่ปุ่นคือ อิคิ (ชีวิต) และไก (คุณค่าหรือจุดมุ่งหมาย)
ไม่ว่าจะผ่านการทำงาน งานอดิเรก หรือการช่วยเหลือผู้อื่น ความรู้สึกมีจุดมุ่งหมายช่วยรักษาจิตใจและร่างกายให้เคลื่อนไหวอยู่เสมอ การตั้งเป้าหมาย ไม่ว่าจะเล็กแค่ไหน ช่วยรักษาแรงจูงใจและความตื่นเต้นในชีวิต
4. จัดการความเครียด และรักษาทัศนคติเชิงบวก
เมื่อใจมีความสุข ร่างกายก็จะแข็งแรงตามไปด้วย
ดร.ฮิโนฮาระเน้นย้ำถึงพลังของทัศนคติเชิงบวก ท่านเชื่อว่าเสียงหัวเราะ ความสุข และการล้อมรอบตัวเองด้วยความเป็นบวกมีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพ
ดร.ฮิโนฮาระเชื่อว่าจิตใจที่มีความสุขนำไปสู่ร่างกายที่แข็งแรง และท่านแนะนำให้ มุ่งเน้นสิ่งที่นำความสุขมาสู่ชีวิต, ฟังเพลง, รักษาความคิดสร้างสรรค์, ใช้เวลากับเพื่อนๆ, หลีกเลี่ยงการแบกความโกรธ เพราะความแค้นและความโกรธส่งผลเสียต่อสุขภาพ
5. อย่าพึ่งพายามากเกินไป ร่างกายสามารถรักษาตัวเองได้
บางครั้งการรักษาตามธรรมชาติก็ดีกว่ายาเม็ด
แม้เป็นแพทย์ ดร.ฮิโนฮาระเชื่อว่าคนจำนวนมากพึ่งพาหัตถการทางการแพทย์ การผ่าตัด และยามากเกินไป
ท่านเชื่อในการดูแลสุขภาพด้วยวิธีธรรมชาติ ผ่านอาหารที่ดี การออกกำลังกาย และการรักษาทัศนคติเชิงบวก แทนที่จะพึ่งพายาหรือการผ่าตัด
ก่อนการรักษาใดๆ ท่านมักถามคนไข้ว่า "หัตถการทางการแพทย์นี้จำเป็นจริงๆ หรือไม่?" ท่านเชื่อว่าปัญหาทางการแพทย์จำนวนมากสามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดีขึ้นเท่านั้น
6. ให้ความช่วยเหลือผู้อื่นและสังคม
การช่วยเหลือคนอื่น คือการต่ออายุให้ตัวเอง
ท่านอุทิศชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้คน ท่านเชื่อว่าการตอบแทนทำให้คุณรู้สึกเติมเต็มและเชื่อมโยงกับโลก
การทำความดี เช่น การทำงานอาสาสมัคร การช่วยเหลือเพื่อน หรือการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน ทำให้ท่านมีส่วนร่วมและมีความสุข ท่านเคยกล่าวว่า "เมื่อคุณช่วยเหลือผู้อื่น คุณจะพบความหมายในชีวิตของคุณเอง"
7. เรียนรู้ตลอดชีวิตและรักษาความคิดสร้างสรรค์
สมองที่หยุดเรียนรู้ คือสมองที่เริ่มเสื่อม
แม้ในวัย 100 ปี ดร.ฮิโนฮาระยังคงเขียนหนังสือ บรรยาย และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ท่านยังสนับสนุนให้ผู้คน
อ่านหนังสือใหม่ๆ, ลองทำงานอดิเรกใหม่ๆ, ยังคงอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับโลก
ท่านเข้าร่วมงานทางวัฒนธรรมบ่อยครั้ง สำรวจหัวข้อใหม่ๆ และติดตามความก้าวหน้าทางการแพทย์ล่าสุด ท่านเชื่อว่าความอยากรู้อยากเห็นทำให้สมองยังหนุ่มสาวและป้องกันการเสื่อมถอยทางจิตใจ
นอกจากนิสัย 7 ประการนี้แล้ว อาหารการกินของ ดร.ฮิโนฮาระ ก็มีบทบาทสำคัญในการมีชีวิตที่ยืนยาวและแข็งแรง ไม่มีอะไรซับซ้อน แค่สมดุลและเรียบง่าย โดยเริ่มจาก
๐ อาหารเช้า: กาแฟ นมหนึ่งแก้ว และน้ำส้มที่มีน้ำมันมะกอกหนึ่งช้อนโต๊ะ ("น้ำมันมะกอกดีมากสำหรับหลอดเลือดและรักษาผิวให้แข็งแรง")
๐ อาหารกลางวัน: มักจะเป็นเพียงนมและบิสกิต หรือไม่ทานเลยหากท่านยุ่ง
๐ อาหารเย็น: ผัก ปลาเล็กน้อย และข้าว สัปดาห์ละสองครั้ง ท่านทานเนื้อไม่ติดมัน 100 กรัม
๐ ของหวาน: ช็อกโกแลตดำเล็กน้อย
หลักการสำคัญคือ ฮาระ ฮาจิ บุ (Hara Hachi Bu) หรือการหยุดรับประทานเมื่ออิ่ม 80% ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติทั่วไปในโอกินาวา หนึ่งในภูมิภาคที่มีผู้มีอายุยืนมากที่สุดในโลก
บทเรียนสำคัญจากชีวิตและคำสอนของ ดร.ชิเกอากิ ฮิโนฮาระ แสดงให้เห็นว่าอายุยืนไม่ได้เกี่ยวกับพันธุกรรมเท่านั้น แต่เกี่ยวกับทัศนคติ การเคลื่อนไหว จุดมุ่งหมาย และการบำรุงร่างกาย
หลายคน "อยาก" มีอายุยืนเป็น 100 ปี แต่จะมีซักกี่คนเชียว ที่พร้อมจะลงมือทำตามแนวทางที่ได้ผลจริง
ดร.ฮิโนฮาระมีชีวิตอยู่ถึง 105 ปีเพราะท่านไม่ได้แค่ "หวัง" ให้มีอายุยืน - ท่านใช้ชีวิตในแบบที่ทำให้มันเป็นไปได้จริง
เขียนและเรียบเรียงโดย 100WEALTH
———
100WEALTH l ไปให้ถึง100ล้าน


#ไปให้ถึง100ล้าน
.
อ้างอิง
https://bit .ly/3DSU1Ku

23/03/2025

ว่าด้วยเรื่อง Self-Esteem

ความภาคภูมิใจในตนเองคือการมองเห็นคุณค่าของตัวเอง มันมีผลต่อทุกอย่างในชีวิต ตั้งแต่ความมั่นใจ การตัดสินใจ ไปจนถึงความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง คนที่มีความภาคภูมิใจในตัวเองสูงมักจะกล้าลงมือทำสิ่งต่าง ๆ เชื่อมั่นในตัวเอง และรับมือกับอุปสรรคได้ดี ในขณะที่คนที่มีความภาคภูมิใจในตัวเองต่ำมักจะลังเล ไม่แน่ใจในคุณค่าของตัวเอง และอาจรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอ

สิ่งที่หล่อหลอมความภาคภูมิใจในตนเองมาจากหลายอย่าง เช่น การเลี้ยงดูในวัยเด็ก การได้รับการยอมรับจากคนรอบข้าง หรือแม้แต่ประสบการณ์ชีวิตที่เจอมา ถ้าเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่มีแต่คำวิจารณ์หรือแรงกดดันสูง ก็อาจทำให้รู้สึกไม่มั่นใจไปตลอด ในทางกลับกัน ถ้าได้รับการสนับสนุนและกำลังใจที่ดี ก็จะมีแนวโน้มที่จะเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น

แต่ถึงแม้ว่าอดีตจะมีผลกับเรามากแค่ไหน มันก็ไม่ได้กำหนดทุกอย่าง ความภาคภูมิใจในตนเองสามารถพัฒนาได้เสมอ เพียงแค่เริ่มจากการยอมรับตัวเอง ไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร มองข้อดีของตัวเองให้เจอ แล้วให้คุณค่ากับสิ่งเหล่านั้น กล้าตัดสินใจและรับผิดชอบชีวิตตัวเอง ตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้ แล้วพยายามทำให้สำเร็จ ที่สำคัญคืออย่าพยายามเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้ถูกใจคนอื่น แต่จงเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด

การมีความภาคภูมิใจในตนเองไม่ได้หมายความว่าต้องมั่นใจจนเกินไปจนไม่รับฟังใคร แต่คือการรู้จักคุณค่าของตัวเอง โดยไม่ให้เสียงของคนอื่นมามีอิทธิพลเหนือสิ่งที่เราเชื่อมั่นจริง ๆ

อ้างอิง

Psychologytoday: Self-Esteem

19/03/2025

1. ความจำไม่ได้เกี่ยวกับความฉลาด
แต่คือการออกแบบ

สมองของเราไม่ได้ถูกออกแบบมาให้จำทุกสิ่ง แต่ถูกสร้างมาให้จำสิ่งที่สำคัญ หากเราเรียนรู้ที่จะจัดลำดับและจัดการข้อมูลที่เข้ามา ความจำจะกลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง การออกแบบข้อมูลในหัวเป็นเหมือนการสร้างแผนที่นำทางที่ชัดเจนสำหรับตัวเอง

2. การเชื่อมโยงคือหัวใจของการจำ

สิ่งที่เราจำได้ดีที่สุดคือสิ่งที่เราเชื่อมโยงกับความรู้สึกหรือประสบการณ์ส่วนตัว การสร้างเรื่องราวหรือภาพในจินตนาการช่วยให้ข้อมูลธรรมดากลายเป็นสิ่งที่ยากจะลืม มันไม่ใช่แค่การจำ แต่คือการทำให้ข้อมูลกลายเป็นส่วนหนึ่งของตัวเรา

3. พลังของการทบทวน

การจำไม่ได้เกี่ยวกับการบรรจุข้อมูลเข้าไปเพียงครั้งเดียว แต่มันคือการดึงออกมาทบทวนซ้ำ การทบทวนในช่วงเวลาที่เหมาะสมเป็นเหมือนการรดน้ำต้นไม้แห่งความทรงจำที่เพิ่งปลูก มันช่วยให้ข้อมูลนั้นหยั่งรากลึกในสมอง

4. การพักสมองคือการให้โอกาสความจำทำงาน

สมองไม่ใช่เครื่องจักร และการพยายามยัดเยียดข้อมูลโดยไม่หยุดพักจะทำให้เราจำอะไรไม่ได้เลย การพักผ่อนอย่างเหมาะสมช่วยให้สมองจัดระเบียบข้อมูลและเก็บมันไว้ในส่วนที่พร้อมใช้งาน มันคือการลงทุนเพื่อความจำระยะยาว

5. ความชัดเจนของเป้าหมายช่วยให้สมองโฟกัส

เมื่อเรารู้ว่าเราต้องการจำอะไร สมองจะจัดลำดับความสำคัญให้ข้อมูลนั้นโดยอัตโนมัติ การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจึงเหมือนกับการตั้ง GPS ในสมองของเรา มันช่วยประหยัดเวลาและพลังงานในการจำ

6. ความสนุกช่วยสร้างความจำที่ยั่งยืน

การเรียนรู้ผ่านความสนุกสนานช่วยปลดล็อกพลังของสมองในระดับที่เราไม่เคยคิดมาก่อน การทำให้กระบวนการจำเป็นเรื่องที่น่าสนใจจะสร้างแรงจูงใจและช่วยให้ข้อมูลฝังลึก การจดจำไม่ควรเป็นภาระ แต่มันควรเป็นการผจญภัย

7. การแบ่งปันคือการตอกย้ำ

เมื่อเราเล่าให้คนอื่นฟังเกี่ยวกับสิ่งที่เราเรียนรู้ นั่นคือการเสริมความจำในตัวเราเอง การสอนคนอื่นจึงเป็นเหมือนการเขียนบทเรียนลงในสมองของเราใหม่อีกรอบ ความรู้จึงไม่ใช่สิ่งที่หายไปเมื่อแบ่งปัน แต่มันกลับเพิ่มพูนขึ้นในกระบวนการนั้น

ข้อคิดได้จากหนังสือ
เทคนิคจำแบบกาวตราช้าง
สนใจสั่งซื้อได้ที่
Lazada : https://s.lazada.co.th/s.IrwuY?cc
Shopee : https://s.shopee.co.th/VrKZVwEQz

พิกัดที่ตั้งหนังสือ
https://s.lazada.co.th/s.GPbma?cc

พิกัดโคมไฟ
Lazada : https://s.lazada.co.th/s.GPbuZ?cc
Shopee : https://s.shopee.co.th/1qMjNysUwC

18/03/2025
Yoga for lower back pain 🧘‍♀️
10/04/2024

Yoga for lower back pain 🧘‍♀️

71 likes, 8 comments. “Yoga streches to fix lower back pain”

YOGA BEGINS RIGHT WHERE I AM – NOT WHERE I WAS YESTERDAY OR WHERE I LONG TO BE.  🙏🏽
09/02/2022

YOGA BEGINS RIGHT WHERE I AM – NOT WHERE I WAS YESTERDAY OR WHERE I LONG TO BE.

🙏🏽

ที่อยู่

Bangkok

เบอร์โทรศัพท์

+66878088829

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Healthy living by Alisaผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง Healthy living by Alisa:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram

Yoga online By Alisa

Hi all,

Due to all the yoga studios being closed I'm here for you all. I'm offering you now yoga online to discover this practice for yourself or deepen it if you are already a practitioner.

Let's Relax, breath. Take each moment as it comes one by one. Stay focused and have faith, everything will be okay.

Everyone is more anxious right now, everyone is dealing with many emotions right now. We all have to let go right now and take each day as it comes.