ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ โดย คุณหมอประมุข

ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ โดย คุณหมอประมุข ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ โดย คุณหมอประมุข, วิตามิน/อาหารเสริม, บริษัท ไวส์ แอนด์ เวลเนส อินเตอร์เทรด จำกัด (สำนักงานใหญ่) เลขที่ 110/9 หมู่ 4 ต. บางแก้ว อ. บางพลี, Changwat Samut Prakan.

25/08/2025

40+ เช็คสุขภาพหลอดเลือด เรื่องสำคัญ ตีบ แตก ตัน ไม่มีสัญญาณเตือน❗️
🍷 วีทัล เครื่องดื่มน้ำผลไม้สกัดเข้มข้น ผสมซูเปอร์เบอร์รี่ 8 ชนิด🍇
รสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ ดื่มง่าย
🏆 #วีทัล เพิ่งคว้าอีกหนึ่งรางวัล การันตีคุณภาพ
รางวัลผลิตภัณฑ์สมุนไพรคุณภาพ “Premium Herbal Products” ปี 2567 ในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ที่ผ่านมา
=====================
เลข อย 50-1-16657-2-0208
ผ่านมาตรฐานฮาลาล
=====================
#ร้านไวส์ชอปตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
🚚 ส่งฟรี ทั่วประเทศ
💰 ทางร้านยินดีรับบัตรเครดิต
💚 ออกใบกำกับภาษีแจ้งได้
📲 ทักแชท หรือ แอดไลน์
☎️ หรือ โทรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ 099-0956416 (HotLine WiseShop 20 คู่สาย)
❤️ มั่นใจ วางใจ ไว้ใจ ให้ ‘ ร้านไวส์ชอป ‘ ดูแลนะคะ
#ไวส์ชอปร้านเพื่อสุขภาพที่คุณวางใจ
#วีทัล

30+ ดูสุขภาพดี แต่หลอดเลือดพังก่อนวัย คุณเสี่ยงไหม ? เช็ก 5 สัญญาณเตือน ตีบ แตก ตันในยุคที่คนส่วนใหญ่หันมาใส่ใจสุขภาพมาก...
09/08/2025

30+ ดูสุขภาพดี แต่หลอดเลือดพังก่อนวัย คุณเสี่ยงไหม ?
เช็ก 5 สัญญาณเตือน ตีบ แตก ตัน
ในยุคที่คนส่วนใหญ่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น หลายคนออกกำลังกาย กินอาหารคลีน ดูแลตัวเองอย่างดี จนภายนอกดูสุขภาพแข็งแรง แต่คุณเคยหยุดคิดไหมว่า… ภายใต้รูปลักษณ์ที่ดูดีนั้น หลอดเลือดของคุณกำลังเผชิญกับภัยเงียบที่อาจพังก่อนวัยอันควรหรือไม่? โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนวัยทำงานอายุ 30-55 ปี ที่ใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ แข่งกับเวลา มีความเครียดสูง และอาจละเลยการดูแลสุขภาพภายในอย่างจริงจัง
คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าหลอดเลือดของคุณยังแข็งแรงดีอยู่หรือเปล่า? เพราะโดยปกติแล้ว เราไม่สามารถมองเห็นหรือรู้สึกได้ว่าหลอดเลือดของเรากำลังมีปัญหา จนกว่าอาการจะปรากฏชัดเจน ซึ่งมักจะสายเกินไป
สถิติที่น่าตกใจ: ภัยเงียบที่คุกคามคนไทย
โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) และโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ แตก ตัน ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป จากข้อมูลล่าสุดของประเทศไทยพบว่าสถานการณ์น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง:

#โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke): จากข้อมูลของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ปี 2566 พบว่าประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองมากถึง 349,126 ราย และมีผู้เสียชีวิตสูงถึง 36,214 ราย โดยเป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง อุบัติการณ์ของโรคนี้มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา

#โรคหลอดเลือดหัวใจตีบแตกตัน: กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่าในปี 2565 คนไทยเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดมากถึง 70,000 ราย เฉลี่ยชั่วโมงละ 8 คน และคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก และในปี 2566 มีจำนวนผู้ป่วยสะสมจากโรคหัวใจและหลอดเลือดสูงถึงกว่า 250,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตกว่า 40,000 รายต่อปี เฉลี่ยชั่วโมงละ 5 คน โรคนี้ยังเป็นสาเหตุการตายอันดับ 3 ของคนไทย รองจากโรคมะเร็งและอุบัติเหตุ โดยมีผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้นถึง 21,700 รายต่อปี
ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า “ภัยเงียบ” กำลังคุกคามชีวิตคนไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานที่อาจคิดว่าตัวเองยังแข็งแรงดี แต่แท้จริงแล้วหลอดเลือดอาจกำลังเสื่อมสภาพลงอย่างช้าๆ โดยที่คุณไม่รู้ตัว
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้หลอดเลือดของคุณพังก่อนวัยอันควร สัญญาณเตือนสำคัญที่คุณต้องรีบเช็ก และแนวทางการดูแลตัวเองเพื่อปกป้องหลอดเลือดของคุณให้แข็งแรงไปอีกนานแสนนาน
ปัจจัยเสี่ยง: ทำไมหลอดเลือดของคุณถึงพังก่อนวัย?
การที่หลอดเลือดของเราเสื่อมสภาพหรือเกิดปัญหาตีบ แตก ตัน นั้น ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เกิดจากปัจจัยเสี่ยงหลายประการ ทั้งที่เราควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ การทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยงได้
#ปัจจัยเสี่ยงที่คุณควบคุมได้ (และควรเริ่มควบคุมตั้งแต่วันนี้!)

1.
ความดันโลหิตสูง: ฆาตกรเงียบของหลอดเลือด
ความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับหนึ่งที่ทำลายหลอดเลือดของคุณอย่างช้าๆ โดยที่คุณอาจไม่รู้ตัว แรงดันเลือดที่สูงเกินไปอย่างต่อเนื่องจะทำให้ผนังหลอดเลือดแข็งตัว หนาขึ้น และสูญเสียความยืดหยุ่น ทำให้เกิดการฉีกขาดและสะสมไขมันได้ง่ายขึ้น ซึ่งนำไปสู่การตีบตันของหลอดเลือดในที่สุด
2.
โรคเบาหวาน: น้ำตาลที่กัดกร่อนหลอดเลือด
หากคุณเป็นเบาหวานและควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี น้ำตาลที่สูงในเลือดจะทำลายผนังหลอดเลือดทั่วร่างกาย ทำให้หลอดเลือดแข็งตัวและตีบแคบลงเร็วกว่าปกติ ผู้ป่วยเบาหวานจึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดโรคหลอดเลือดสมองและหลอดเลือดหัวใจตีบตัน
3.
ไขมันในเลือดสูง: ตัวการสร้างตะกรันในหลอดเลือด
ไขมันชนิดไม่ดี (LDL-C) ที่สูงในเลือดจะไปสะสมที่ผนังหลอดเลือด ก่อตัวเป็นคราบตะกรัน (Plaque) ทำให้หลอดเลือดตีบแคบลงและขัดขวางการไหลเวียนของเลือด ยิ่งมีไขมันสะสมมากเท่าไหร่ หลอดเลือดก็ยิ่งตีบตันมากขึ้นเท่านั้น
4.
การสูบบุหรี่: ควันพิษที่ทำลายหลอดเลือดทุกอณู
สารเคมีอันตรายในบุหรี่ ไม่ว่าจะเป็นนิโคตินหรือคาร์บอนมอนอกไซด์ ล้วนทำลายผนังหลอดเลือดโดยตรง ทำให้หลอดเลือดแข็งตัวและตีบแคบลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ
5.
การขาดการออกกำลังกาย: ชีวิตที่นิ่งเฉย หลอดเลือดก็เฉื่อยชา
การใช้ชีวิตแบบนั่งๆ นอนๆ ขาดการเคลื่อนไหว ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ไม่ดี เกิดการสะสมไขมันและน้ำตาลในร่างกาย ซึ่งนำไปสู่ภาวะอ้วนลงพุง เบาหวาน และไขมันในเลือดสูง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อหลอดเลือดโดยตรง
6.
ภาวะอ้วนลงพุง/น้ำหนักเกิน: ภาระที่หลอดเลือดต้องแบกรับ
น้ำหนักตัวที่มากเกินไป โดยเฉพาะไขมันที่สะสมบริเวณหน้าท้อง (อ้วนลงพุง) เพิ่มความเสี่ยงอย่างมากต่อการเกิดโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง ซึ่งเป็นวงจรที่ส่งผลเสียต่อหลอดเลือดอย่างต่อเนื่อง
7.
พฤติกรรมการบริโภคอาหาร: สิ่งที่คุณกิน กำหนดสุขภาพหลอดเลือดคุณ
การรับประทานอาหารที่มีรสหวานจัด เค็มจัด หรือมีไขมันสูงเป็นประจำ เช่น อาหารแปรรูป ฟาสต์ฟู้ด ขนมหวาน จะส่งผลให้ระดับน้ำตาล ไขมัน และความดันโลหิตสูงขึ้น ทำให้หลอดเลือดทำงานหนักและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
8.
ความเครียดสะสม: แรงกดดันที่บีบคั้นหลอดเลือด
ในวัยทำงานที่ต้องเผชิญกับความเครียดสูงเป็นประจำ ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนความเครียดออกมา ซึ่งส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจเต้นเร็วขึ้น และอาจกระตุ้นให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งล้วนเป็นอันตรายต่อหลอดเลือด
9.
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป: พิษร้ายที่ทำลายหลอดเลือด
การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเป็นประจำสามารถเพิ่มความดันโลหิตและระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง

#ปัจจัยเสี่ยงที่คุณควบคุมไม่ได้ (แต่ต้องระวังเป็นพิเศษ!)

แม้ว่าเราจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงปัจจัยเหล่านี้ได้ แต่การตระหนักรู้จะช่วยให้คุณเฝ้าระวังและดูแลตัวเองได้ดียิ่งขึ้น:
1.
อายุ: ยิ่งมาก ยิ่งเสี่ยง
เมื่ออายุมากขึ้น หลอดเลือดของเราจะเสื่อมสภาพและแข็งตัวตามธรรมชาติ ทำให้ความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพบว่าโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในผู้สูงอายุอีกต่อไป แต่กลับพบในกลุ่มคนวัยทำงานอายุ 30-40 ปีมากขึ้นเรื่อยๆ
2.
เพศ: ความเสี่ยงที่แตกต่าง
โดยทั่วไปแล้ว เพศชายมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดสูงกว่าเพศหญิง โดยเฉพาะในช่วงวัยกลางคน
3.
พันธุกรรม/ประวัติครอบครัว: ยีนที่ส่งต่อความเสี่ยง
หากมีประวัติคนในครอบครัวสายตรง (พ่อ แม่ พี่น้อง) เป็นโรคหลอดเลือดสมองหรือโรคหัวใจตั้งแต่อายุน้อย คุณจะมีความเสี่ยงสูงขึ้นที่จะเป็นโรคเดียวกัน
4.
เชื้อชาติ: ความเสี่ยงทางพันธุกรรม
บางเชื้อชาติมีความเสี่ยงทางพันธุกรรมต่อโรคหลอดเลือดสูงกว่าเชื้อชาติอื่น เช่น ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน
การทำความเข้าใจปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้เป็นก้าวแรกที่สำคัญในการปกป้องหลอดเลือดของคุณ แม้บางปัจจัยจะควบคุมไม่ได้ แต่ปัจจัยส่วนใหญ่เราสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยงได้
#5สัญญาณเตือน: หลอดเลือดพังก่อนวัย ตีบ แตก ตัน คุณต้องรีบเช็ก!
หลายคนอาจคิดว่าโรคหลอดเลือดเป็นเรื่องไกลตัว หรือไม่มีอาการเตือน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ร่างกายของเรามักจะส่งสัญญาณเตือนออกมาเสมอ หากคุณหมั่นสังเกตและไม่ละเลยสัญญาณเหล่านี้ คุณอาจช่วยชีวิตตัวเองหรือคนที่คุณรักได้ การรู้เท่าทันสัญญาณเตือนเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะยิ่งพบเร็ว ยิ่งรักษาได้ทันท่วงที ลดความเสี่ยงต่อความพิการและเสียชีวิตได้ สัญญาณเตือนหลักๆ ที่คุณควรสังเกตมีดังนี้:
1.
ใบหน้าอ่อนแรง หรือปากเบี้ยว (Face Drooping): สังเกตว่าใบหน้าซีกใดซีกหนึ่งอ่อนแรง มุมปากตก หรือยิ้มแล้วปากเบี้ยวไปข้างเดียว อาจมีน้ำลายไหลออกจากมุมปากได้ นี่คือสัญญาณที่บ่งบอกว่าสมองส่วนที่ควบคุมกล้ามเนื้อใบหน้ากำลังมีปัญหา
2.
แขนขาอ่อนแรง หรือชาครึ่งซีก (Arm/Leg Weakness): มีอาการอ่อนแรงที่แขนหรือขาข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้างพร้อมกัน อาจรู้สึกชา ไม่มีแรงยกแขน กำมือไม่ได้ หรือเดินเซ ทรงตัวลำบาก สัญญาณนี้บ่งชี้ถึงความผิดปกติของการทำงานของสมองที่ควบคุมการเคลื่อนไหว
3.
พูดไม่ชัด พูดลำบาก หรือนึกคำไม่ออก (Speech Difficulty): มีปัญหาในการพูด เช่น พูดไม่ชัด พูดอ้อแอ้ พูดติดขัด นึกคำพูดไม่ออก หรือไม่เข้าใจคำพูดของผู้อื่น นี่คือสัญญาณที่บ่งบอกว่าสมองส่วนที่ควบคุมการพูดกำลังได้รับผลกระทบ
4.
ตามองเห็นผิดปกติ (Vision Problems): มีอาการตาพร่ามัว มองเห็นภาพซ้อน มองไม่เห็นครึ่งซีก หรือสูญเสียการมองเห็นอย่างฉับพลันในตาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง สัญญาณนี้อาจเกิดจากหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองส่วนที่ควบคุมการมองเห็นมีปัญหา
5.
เจ็บหน้าอกรุนแรง หรือแน่นหน้าอก (Severe Chest Pain/Tightness): โดยเฉพาะอาการเจ็บแน่นหน้าอกเหมือนมีอะไรมาบีบรัด หรือกดทับ อาจร้าวไปที่แขนซ้าย คอ กราม หรือลิ้นปี่ ร่วมกับอาการเหงื่อออก ตัวเย็น วิงเวียนศีรษะ หรือหายใจไม่อิ่ม สัญญาณนี้มักเกี่ยวข้องกับโรคหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องได้รับการรักษาทันที
หากพบสัญญาณเตือนเหล่านี้แม้เพียงข้อเดียว ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเร่งด่วนที่สุด เพราะทุกนาทีมีค่าในการรักษาโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ ยิ่งได้รับการรักษาเร็วเท่าไหร่ โอกาสที่จะฟื้นตัวและลดความพิการก็จะสูงขึ้นเท่านั้น
หากหลอดเลือดพัง: ผลกระทบที่มากกว่าแค่ร่างกาย และภาระที่คนในครอบครัวต้องแบกรับ
เมื่อหลอดเลือดเกิดปัญหา ไม่ว่าจะเป็นหลอดเลือดสมองตีบ แตก ตัน หรือหลอดเลือดหัวใจตีบตัน ผลกระทบที่ตามมานั้นรุนแรงและส่งผลกระทบต่อชีวิตในหลายมิติ ไม่ใช่แค่ตัวผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคนในครอบครัวและผู้ดูแลด้วย

#ผลกระทบต่อผู้ป่วย:

ความพิการทางร่างกาย: ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองอาจมีอาการอัมพฤกษ์ อัมพาตครึ่งซีก สูญเสียการควบคุมการเคลื่อนไหวของแขนขา ทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ต้องพึ่งพาผู้อื่นในการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การเดิน การกิน การเข้าห้องน้ำ

ปัญหาการสื่อสาร: บางรายอาจมีปัญหาด้านการพูด การกลืน ทำให้สื่อสารกับผู้อื่นได้ลำบาก หรือสำลักอาหารได้ง่าย

ปัญหาด้านการรับรู้และความจำ: สมองที่เสียหายอาจส่งผลต่อความสามารถในการคิด การตัดสินใจ ความจำ หรือการแก้ปัญหา ทำให้ผู้ป่วยสับสน หลงลืม หรือมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป

ปัญหาด้านอารมณ์และจิตใจ: ผู้ป่วยอาจมีภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล หรือหงุดหงิดง่าย เนื่องจากความรู้สึกท้อแท้กับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายและคุณภาพชีวิตที่ลดลง

คุณภาพชีวิตที่ลดลง: การต้องเผชิญกับความพิการและข้อจำกัดต่างๆ ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถกลับไปทำงาน หรือทำกิจกรรมที่เคยชื่นชอบได้ ส่งผลให้คุณภาพชีวิตโดยรวมลดลงอย่างมาก

#ภาระต่อคนในครอบครัวและผู้ดูแล:

ภาระทางการเงิน: ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ค่ากายภาพบำบัด ค่ายา และอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ อาจสูงมาก ทำให้เป็นภาระทางการเงินที่หนักอึ้งสำหรับครอบครัว

ภาระด้านเวลาและการดูแล: ผู้ดูแลต้องสละเวลาส่วนใหญ่ในการดูแลผู้ป่วย ทั้งการป้อนอาหาร อาบน้ำ พาไปทำกายภาพบำบัด หรือพาไปพบแพทย์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานและการใช้ชีวิตส่วนตัวของผู้ดูแล

ภาระทางอารมณ์และจิตใจ: ผู้ดูแลอาจเผชิญกับความเครียด ความเหนื่อยล้า ความท้อแท้ และความรู้สึกผิด หากไม่สามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างเต็มที่ หรือไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้

ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ในครอบครัว: ความเครียดและภาระที่เกิดขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัว ทำให้เกิดความขัดแย้งหรือความเข้าใจผิดกันได้
#การรักษา: ยิ่งเร็ว ยิ่งดี

การรักษาโรคหลอดเลือดสมองและหลอดเลือดหัวใจนั้นมีความซับซ้อนและต้องอาศัยการวินิจฉัยและการรักษาที่รวดเร็วและถูกต้อง:


โรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน: การรักษาหลักคือการให้ยาละลายลิ่มเลือดภายใน 4.5 ชั่วโมงหลังเกิดอาการ หรือการทำหัตถการใส่สายสวนหลอดเลือดเพื่อนำลิ่มเลือดออกในบางกรณี การรักษาที่รวดเร็วจะช่วยลดความเสียหายของสมองและเพิ่มโอกาสในการฟื้นตัว


โรคหลอดเลือดสมองแตก: การรักษาจะเน้นการควบคุมความดันโลหิตและการผ่าตัดเพื่อหยุดเลือดที่ออกในสมอง


โรคหลอดเลือดหัวใจ: การรักษาอาจรวมถึงการใช้ยา การทำบอลลูนและใส่ขดลวดเพื่อขยายหลอดเลือดที่ตีบ หรือการผ่าตัดบายพาสหลอดเลือดหัวใจในกรณีที่รุนแรง
แม้ว่าการรักษาทางการแพทย์จะมีความก้าวหน้า แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการป้องกันไม่ให้เกิดโรค และหากเกิดแล้ว การได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีจะช่วยลดความรุนแรงของผลกระทบและเพิ่มโอกาสในการกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด
#ปกป้องหลอดเลือดของคุณ: แนวทางการปรับพฤติกรรมและการตรวจสุขภาพ
การป้องกันย่อมดีกว่าการรักษาเสมอ การดูแลสุขภาพหลอดเลือดของคุณให้แข็งแรงไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องอาศัยความสม่ำเสมอและความตั้งใจจริง นี่คือแนวทางที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ทันที:
ปรับพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยง:
1.
ควบคุมอาหาร :-
ลดหวาน มัน เค็ม: หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง ไขมันอิ่มตัวสูง และโซเดียมสูง เช่น ขนมหวาน เบเกอรี่ อาหารทอด อาหารแปรรูป และอาหารสำเร็จรูป

เพิ่มผัก ผลไม้ ธัญพืช: เน้นการรับประทานผักใบเขียว ผลไม้สด ธัญพืชไม่ขัดสี และโปรตีนไม่ติดมัน ซึ่งอุดมไปด้วยใยอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อสุขภาพหลอดเลือด

เลือกไขมันดี: เลือกรับประทานไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อน เช่น น้ำมันมะกอก อะโวคาโด ถั่ว ปลาทะเลน้ำลึก (แซลมอน ทูน่า) ซึ่งมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ช่วยลดไขมันไม่ดีในเลือด

2.
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ :-

เป้าหมาย: ควรออกกำลังกายแบบแอโรบิกอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ ด้วยความหนักปานกลาง เช่น เดินเร็ว วิ่งเหยาะๆ ปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำ


ประโยชน์: การออกกำลังกายช่วยควบคุมน้ำหนัก ลดความดันโลหิต ลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด เพิ่มไขมันดี (HDL) และทำให้หลอดเลือดมีความยืดหยุ่นมากขึ้น

3.
จัดการความเครียด :-

หาวิธีผ่อนคลาย: ฝึกการหายใจลึกๆ ทำสมาธิ โยคะ ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมที่คุณชื่นชอบ เพื่อลดความเครียดสะสม


นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ: ควรนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน การนอนไม่พอส่งผลเสียต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจ
4.
งดสูบบุหรี่และจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ :-


บุหรี่: การเลิกสูบบุหรี่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการปกป้องหลอดเลือดของคุณ เพราะบุหรี่เป็นตัวการสำคัญที่ทำลายหลอดเลือดโดยตรง

แอลกอฮอล์: หากดื่ม ควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่เกิน 1 ดื่มมาตรฐานต่อวันสำหรับผู้หญิง และไม่เกิน 2 ดื่มมาตรฐานต่อวันสำหรับผู้ชาย

5.
ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม :-

ดัชนีมวลกาย (BMI): รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ (BMI 18.5-22.9 สำหรับคนเอเชีย)

รอบเอว: สำหรับผู้ชายไม่ควรเกิน 90 ซม. (36 นิ้ว) และผู้หญิงไม่ควรเกิน 80 ซม. (32 นิ้ว)

#หมั่นตรวจสุขภาพ: รู้ค่าสำคัญ ปกป้องหลอดเลือด
การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการตรวจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพหลอดเลือด เพื่อให้คุณทราบถึงความเสี่ยงและสามารถจัดการได้ทันท่วงที ค่าสำคัญที่คุณควรให้ความสนใจมีดังนี้:
1.
ความดันโลหิต :-

ค่าปกติ: ควรน้อยกว่า 120/80 มิลลิเมตรปรอท [46]

ความสำคัญ: หากความดันโลหิตสูงอย่างต่อเนื่อง จะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจอย่างมาก
2.
ระดับน้ำตาลในเลือด (Fasting Plasma Glucose - FPG) :-

ค่าปกติ: ควรน้อยกว่า 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร (เมื่ออดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง)

ความสำคัญ: ระดับน้ำตาลที่สูงบ่งชี้ถึงความเสี่ยงเบาหวาน ซึ่งเป็นตัวการทำลายหลอดเลือด
3.
ระดับไขมันในเลือด (Lipid Profile) :-

คอเลสเตอรอลรวม: ควรน้อยกว่า 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร

LDL-C (ไขมันไม่ดี): ควรน้อยกว่า 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร (หรือน้อยกว่า 70 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หากมีความเสี่ยงสูง)

HDL-C (ไขมันดี): ควรมากกว่า 40 มิลลิกรัม/เดซิลิตรสำหรับผู้ชาย และมากกว่า 50 มิลลิกรัม/เดซิลิตรสำหรับผู้หญิง

ไตรกลีเซอไรด์: ควรน้อยกว่า 150 มิลลิกรัม/เดซิลิตร

ความสำคัญ: ระดับไขมันที่ผิดปกติเป็นสาเหตุหลักของการเกิดคราบตะกรันในหลอดเลือด
4.
น้ำหนักและรอบเอว :-

ความสำคัญ: การมีน้ำหนักเกินหรืออ้วนลงพุงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่นำไปสู่โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง
5.
การตรวจอื่นๆ (ตามคำแนะนำของแพทย์) :-

การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG/ECG): เพื่อตรวจดูความผิดปกติของหัวใจ

การตรวจหลอดเลือดคอ (Carotid Ultrasound): เพื่อดูว่ามีภาวะหลอดเลือดคอตีบหรือไม่

การตรวจหาค่า hs-CRP: เป็นค่าที่บ่งชี้การอักเสบในร่างกาย ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด
การดูแลสุขภาพหลอดเลือดของคุณเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่รอให้เกิดอาการแล้วค่อยรักษา การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและหมั่นตรวจสุขภาพเป็นประจำ จะช่วยให้คุณมีหลอดเลือดที่แข็งแรง ใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ และห่างไกลจากภัยเงียบของโรคหลอดเลือดตีบ แตก ตัน

#บทสรุป: อย่ารอให้สายเกินไป ! ปกป้องหลอดเลือดของคุณตั้งแต่วันนี้
“30+ ดูสุขภาพดี แต่หลอดเลือดพังก่อนวัย” อาจไม่ใช่เรื่องไกลตัวอย่างที่คุณคิด ภัยเงียบจากโรคหลอดเลือดสมองและหลอดเลือดหัวใจกำลังคุกคามคนวัยทำงานอย่างเรามากขึ้นทุกวัน ด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ ความเครียดสะสม และการละเลยการดูแลสุขภาพภายใน ทำให้หลอดเลือดของเราเสื่อมสภาพลงอย่างช้าๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว
แต่ข่าวดีคือ คุณสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งนี้ได้! การตระหนักรู้ถึงปัจจัยเสี่ยง การหมั่นสังเกต 5 สัญญาณเตือนสำคัญ และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน รวมถึงการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ คือกุญแจสำคัญในการปกป้องหลอดเลือดของคุณให้แข็งแรง และใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ ไร้กังวล
อย่ารอให้หลอดเลือดของคุณพังก่อนวัยอันควร อย่ารอให้เกิดอาการรุนแรงจนต้องกลายเป็นภาระของคนในครอบครัว และอย่ารอให้คุณภาพชีวิตของคุณต้องลดลง
ถึงเวลาแล้วที่คุณจะหันมาใส่ใจ “หลอดเลือด” ของคุณอย่างจริงจัง!
หากคุณอ่านมาถึงตรงนี้ และเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพหลอดเลือด หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความเสี่ยงของตัวเอง
อย่าลังเล! ทักมาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราได้ทันที เราพร้อมให้คำแนะนำและช่วยคุณวางแผนการดูแลสุขภาพหลอดเลือดอย่างเหมาะสม เพื่อให้คุณมีชีวิตที่ยืนยาวและมีคุณภาพ
ปกป้องหลอดเลือดของคุณตั้งแต่วันนี้ เพื่ออนาคตที่แข็งแรงและสดใส!
อ้างอิงข้อมูลสถิติจาก
- สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. (2566)
- สมาคมประสาทวิทยาแห่งประเทศไทย. (2566)
- กระทรวงสาธารณสุข. (2565)

02/08/2025

🏆 อีกหนึ่งรางวัล การันตีคุณภาพ #วีทัล คว้ารางวัลผลิตภัณฑ์สมุนไพรคุณภาพ “Premium Herbal Products” ปี 2567 ในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ที่ผ่านมา
🍷 วีทัล เครื่องดื่มน้ำผลไม้สกัดเข้มข้น ผสมซูเปอร์เบอร์รี่ 8 ชนิด🍇
รสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ ดื่มง่าย
❓ ดื่ม #วีทัล ทุกวัน เพื่อดูแลสุขภาพด้านไหนบ้าง
✅ หลอดเลือด ตีบ แตก ตัน Stroke
✅ สายตา สมอง หัวใจ
✅ การแข็งตัวของเลือด ลิ่มเลือด
✅ ความดัน มะเร็ง
✅ ความเครียด ไมเกรน
✅ น้ำตาลและไขมันในเลือด
✅ อัลไซเมอร์
✅ ภาวะไมเกรนเรื้อรัง
✅ การนอนหลับ
✅ ต่อมลูกหมาก
✅ ภูมิแพ้
✅ กระบวนการ Autophagy
=====================
เลข อย 50-1-16657-2-0208
ผ่านมาตรฐานฮาลาล
=====================
#ร้านไวส์ชอปตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
🚚 ส่งฟรี ทั่วประเทศ
💰 ทางร้านยินดีรับบัตรเครดิต
💚 ออกใบกำกับภาษีแจ้งได้
📲 ทักแชท หรือ แอดไลน์
☎️ หรือ โทรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ 099-0956416 (HotLine WiseShop 20 คู่สาย)
❤️ มั่นใจ วางใจ ไว้ใจ ให้ ‘ ร้านไวส์ชอป ‘ ดูแลนะคะ
#ไวส์ชอปร้านเพื่อสุขภาพที่คุณวางใจ
#วีทัล

 #วีทัล ร้าน  #ไวส์ชอป สต็อคแน่น พร้อมส่งของทุกวัน 🍷 วีทัล เครื่องดื่มน้ำผลไม้สกัดเข้มข้น ผสมซูเปอร์เบอร์รี่ 8 ชนิด🍇รสชา...
02/08/2025

#วีทัล ร้าน #ไวส์ชอป สต็อคแน่น พร้อมส่งของทุกวัน
🍷 วีทัล เครื่องดื่มน้ำผลไม้สกัดเข้มข้น ผสมซูเปอร์เบอร์รี่ 8 ชนิด🍇
รสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ ดื่มง่าย
❓ ดื่ม #วีทัล ทุกวัน เพื่อดูแลสุขภาพด้านไหนบ้าง
✅ หลอดเลือด ตีบ แตก ตัน Stroke
✅ สายตา สมอง หัวใจ
✅ การแข็งตัวของเลือด ลิ่มเลือด
✅ ความดัน มะเร็ง
✅ ความเครียด ไมเกรน
✅ น้ำตาลและไขมันในเลือด
✅ อัลไซเมอร์
✅ ภาวะไมเกรนเรื้อรัง
✅ การนอนหลับ
✅ ต่อมลูกหมาก
✅ ภูมิแพ้
✅ กระบวนการ Autophagy
🏆 #วีทัล เพิ่งคว้าอีกหนึ่งรางวัล การันตีคุณภาพ
รางวัลผลิตภัณฑ์สมุนไพรคุณภาพ “Premium Herbal Products” ปี 2567 ในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ที่ผ่านมา
=====================
เลข อย 50-1-16657-2-0208
ผ่านมาตรฐานฮาลาล
=====================
#ร้านไวส์ชอปตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
🚚 ส่งฟรี ทั่วประเทศ
💰 ทางร้านยินดีรับบัตรเครดิต
💚 ออกใบกำกับภาษีแจ้งได้
📲 ทักแชท หรือ แอดไลน์
☎️ หรือ โทรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ 099-0956416 (HotLine WiseShop 20 คู่สาย)
❤️ มั่นใจ วางใจ ไว้ใจ ให้ ‘ ร้านไวส์ชอป ‘ ดูแลนะคะ
#ไวส์ชอปร้านเพื่อสุขภาพที่คุณวางใจ
#วีทัล

🧶ติดตามสถานการณ์ จนความดันสูง อย่าลืมดูแลสุขภาพกันนะคะหลายคนติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดด้วยความห่วงใย  กระทบ ต่อสุขภาพหลอด...
31/07/2025

🧶ติดตามสถานการณ์ จนความดันสูง อย่าลืมดูแลสุขภาพกันนะคะ
หลายคนติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดด้วยความห่วงใย กระทบ ต่อสุขภาพหลอดเลือดและความดันโลหิต
📊 ข้อเท็จจริงที่ควรรู้
การศึกษาทางการแพทย์พบว่า การรับข่าวร้ายซ้ำๆ กระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนความเครียดอย่างคอร์ติซอลเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ความดันโลหิตพุ่งสูง หัวใจเต้นเร็ว และเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดในระยะยาวได้ค่ะ

💙4 วิธีดูแลใจและหัวใจในภาวะวิกฤต

1. ติดตามข่าว ตามความเหมาะสม** - รับข่าวสารจากแหล่งที่เชื่อถือได้ โดยจำกัดตามความเหมาะสม เช่นวันละ 1 - 2 ครั้งหากไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยง หลีกเลี่ยงการเลื่อนดูข่าวตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วงก่อนเข้านอน
2. เลือกอาหารเพื่อหัวใจ และหลอดเลือด** - อย่าลืมเพิ่มผัก ผลไม้น้ำตาลต่ำ ไขมันดี และลดอาหารเค็ม อาหารรสจัด
3. ขยับร่างกายทุกวัน ** - การออกกำลังกาย ดีต่อระบบไหลเวียนโลหิต เลือกการออกกำลังที่เหมาะสมกับตัวเอง
4. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ** - การนอนที่เพียงพอ สำคัญต่อการดูแลร่างกาย
การมีร่างกายที่แข็งแรง จะทำให้จิตใจแข้มแข็ง และมีกำลังในการดูแลตัวเองและคนที่เราห่วยใยด้วยนะคะ
ขอส่งกำลังใจให้กับทุกคนในพื้นที่ประสพภัย และ ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกท่าน ประสพความสำเร็จในภารกิจอย่างปลอดภัย
❤️❤️ด้วยความห่วงใย จากร้านไวส์ชอป❤️❤️
#อย่าลืมดูแลหัวใจ #สุขภาพหลอดเลือด #หัวใจแข็งแรง

ไวส์ชอป ขออยู่เคียงข้างด้วยความห่วงใยเสมอ 🇹🇭❤️❤️ #ไวส์ชอปร้านเพื่อสุขภาพที่คุณวางใจ
25/07/2025

ไวส์ชอป ขออยู่เคียงข้างด้วยความห่วงใยเสมอ 🇹🇭❤️❤️

#ไวส์ชอปร้านเพื่อสุขภาพที่คุณวางใจ

17/07/2025

40+ #ปวดหัวบ่อย เสาหลักครอบครัว กลัวตุย กลัวตีบ แตก ตัน❗️
🍷 วีทัล เครื่องดื่มน้ำผลไม้สกัดเข้มข้น ผสมซูเปอร์เบอร์รี่ 8 ชนิด🍇
รสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ ดื่มง่าย
🏆 #วีทัล เพิ่งคว้าอีกหนึ่งรางวัล การันตีคุณภาพ
รางวัลผลิตภัณฑ์สมุนไพรคุณภาพ “Premium Herbal Products” ปี 2567 ในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ที่ผ่านมา
=====================
เลข อย 50-1-16657-2-0208
ผ่านมาตรฐานฮาลาล
=====================
#ร้านไวส์ชอปตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
🚚 ส่งฟรี ทั่วประเทศ
💰 ทางร้านยินดีรับบัตรเครดิต
💚 ออกใบกำกับภาษีแจ้งได้
📲 ทักแชท หรือ แอดไลน์
☎️ หรือ โทรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ 099-0956416 (HotLine WiseShop 20 คู่สาย)
❤️ มั่นใจ วางใจ ไว้ใจ ให้ ‘ ร้านไวส์ชอป ‘ ดูแลนะคะ
#ไวส์ชอปร้านเพื่อสุขภาพที่คุณวางใจ
#วีทัล

📍 เคยสงสัยไหมว่า...ทำไมบางวันค่า AQI ก็ไม่ได้ขึ้นสูงมาก แต่หลายคนกลับมีอาการหนัก* ภูมิแพ้กำเริบ* คัดจมูก* ตาแสบ* หรือแม้...
02/04/2025

📍 เคยสงสัยไหมว่า...
ทำไมบางวันค่า AQI ก็ไม่ได้ขึ้นสูงมาก แต่หลายคนกลับมีอาการหนัก
* ภูมิแพ้กำเริบ
* คัดจมูก
* ตาแสบ
* หรือแม้แต่นอนไม่หลับ?
**คำตอบอาจไม่ใช่แค่ “ปริมาณฝุ่น” แต่คือ “ชนิดของฝุ่น” ที่คุณหายใจเข้าไปต่างหาก!**
(ใช่ค่ะ...ไม่ใช่ว่าฝุ่นทุกแบบจะร้ายเท่ากัน บางชนิดอันตรายกว่าหลายเท่า ทั้งที่มีปริมาณเท่าเดิม!)
🔍 PM2.5 คืออะไรนะ?
PM2.5 = ฝุ่นที่เล็กกว่า 2.5 ไมครอน (เล็กกว่าเส้นผมของคุณประมาณ 30 เท่า!) เล็กจนเข้าไปได้ลึกถึงถุงลมปอด และบางครั้งเข้าสู่กระแสเลือดได้เลย
**แต่! ค่า AQI ที่เราดูในแอปหรือข่าว มันวัดแค่ “ปริมาณ” ฝุ่น** ไม่ได้บอกเลยว่า “ฝุ่นนั้นมาจากอะไร” — ซึ่งเป็นจุดสำคัญมาก!
(เปรียบเทียบง่ายๆ: น้ำหนักอาหาร 1 กิโล เท่ากัน แต่ขนม 1 กิโลกับผักสด 1 กิโลให้ผลต่างกันกับร่างกายเราเยอะมาก — ฝุ่นก็เหมือนกันค่ะ)
💥 ทำไมฝุ่นไฟป่าถึงร้ายกว่าฝุ่นถนน?
1. มี “สารเคมีระคายเคือง” เข้มข้น
ฝุ่นจากไฟป่าอุดมไปด้วย VOCs (สารอินทรีย์ระเหยง่าย) เช่น **formaldehyde, benzene** — เป็นสารที่ระคายเยื่อบุทางเดินหายใจโดยตรง (นึกภาพว่าหายใจเข้าไปเหมือนสูดน้ำยาล้างห้องน้ำเจือจาง ทั้งวัน ทุกวัน…)
2. ขนาดเล็กพิเศษ → เข้าถึงลึกกว่า
ไฟป่าปล่อยอนุภาคในช่วง **0.1 – 0.4 ไมครอน** เล็กกว่าฝุ่นถนนทั่วไปอีก!
(ฝุ่นถนนคือเม็ดทราย — ฝุ่นไฟป่าคือแป้งฝุ่น… ทั้งคู่หนัก 1 กิโล แต่ลองโยนดูสิว่าอะไรฟุ้งกว่า)
3. กระตุ้นภูมิแพ้มากกว่าฝุ่นทั่วไป 3-4 เท่า
งานวิจัยใน Environmental Health Perspectives พบว่า ฝุ่นไฟป่ากระตุ้นภูมิคุ้มกันแบบ Th2 (ตัวการของภูมิแพ้) มากกว่าฝุ่นถนนถึง 3-4 เท่า!
(ใครเป็นภูมิแพ้…ก็เหมือนร่างกายคุณเจอกุ้งเต็มจาน ทั้งที่ไม่ได้สั่ง 😓)
🔬 แล้วในร่างกายเกิดอะไรขึ้น?
**(อ่านย่อหน้านี้ถ้าคุณอยากเข้าใจแบบลึกขึ้นหน่อย – แต่เราอธิบายง่ายที่สุดแล้วค่ะ)**
* **Oxidative Stress:** ฝุ่นไฟป่าทำให้เซลล์เกิดอนุมูลอิสระ → เยื่อบุปอดอักเสบ
* **Cytokine Storm แบบอ่อน:** ร่างกายหลั่งสาร IL-4, IL-5, IL-13 → ภูมิแพ้กำเริบ
* **ระบบป้องกันพัง:** ขนจมูก (cilia) ที่ช่วยโบกฝุ่นถูกทำลาย → ฝุ่นเข้าไปลึกกว่าเดิม
(พูดง่ายๆ คือ...บ้านไม่มีระบบรักษาความปลอดภัย แล้วพอมีโจรเข้ามา — ร่างกายก็ตื่นตระหนกเกินเหตุไปหมด)
🟣 แล้วทำไมค่า AQI ยังดูไม่สูง?
เพราะ AQI ไม่ได้วัด **ว่าเป็นฝุ่นไฟป่าหรือเปล่า** ถ้ามีฝุ่น 10 µg/m³ จากถนน กับฝุ่น 10 µg/m³ จากไฟป่า — AQI เท่ากัน แต่ **ผลกับร่างกายคุณจะต่างกันมหาศาล**
🛡️ วิธีป้องกันแบบเห็นผล
(สรุปง่าย ไม่ขายของ แต่เอาไปใช้ได้จริงแน่นอน!)
* หน้ากาก: ใช้ N95 หรือ KN95 เท่านั้น!
* เครื่องฟอกอากาศ: ต้องมี HEPA + ถ่านกัมมันต์
* กินต้านอนุมูลอิสระ: ผัก ผลไม้ หัวหอม แอปเปิ้ล ชาเขียว
* ล้างจมูก: วันละ 1–2 ครั้ง
* เลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งช่วงเช้า/เย็น (ฝุ่นลอยต่ำ!)
🌟 สรุปสั้น (เผื่อคุณแค่ผ่านมาอ่าน)
* ฝุ่นไฟป่าอันตรายกว่า PM2.5 จากถนน 3–10 เท่า
* แม้ค่า AQI ไม่สูง → ภูมิแพ้ก็อาจกำเริบได้
* ป้องกันได้จริง แค่ต้อง “รู้ว่ากำลังเจอกับอะไร”
**คุณไม่ได้แพ้อากาศ — แต่ร่างกายคุณกำลังทำหน้าที่ปกติ เมื่อเจอฝุ่นที่ไม่ธรรมดา **
การที่เจอการอักเสบโดยตรงกับปอดทำให้เราต้องเข้าใจเรื่องนี้มากขึ้นเพื่อดูแลตัวเอง
ไวส์ชอปขอแนะพลูคาว พลูคาวมีสารต้านการอักเสบ (anti-inflammatory) เช่น *houttuynin*, quercetin
* ลด cytokine เช่น TNF-α, IL-6, IL-8 ได้ในระดับเซลล์
* มีงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ **ภูมิคุ้มกันทางเยื่อบุ** และ **ต้านไวรัสทางเดินหายใจ น่าจะตรงจุดเรื่องการลดการอักเสบโดยฉับพลันที่ปอด**
ถ้าอยากได้พลูคาวที่อร่อยทานงานเราแนะนำพาวเลยสอบถามได้นะ ทักเข้ามาเลย
#ไวส์ชอปร้านเพื่อสุขภาพที่คุณวางใจ
#วีทัล

เวียนหัวหลังแผ่นดินไหว ทำไงดี? 🌪️เกิดจากอะไร? ทำไมถึงเวียน? 🤔แผ่นดินไหวทำให้มึนงงได้จริงๆ นะ! นักวิทยาศาสตร์เรียกอาการนี...
29/03/2025

เวียนหัวหลังแผ่นดินไหว ทำไงดี? 🌪️
เกิดจากอะไร? ทำไมถึงเวียน? 🤔
แผ่นดินไหวทำให้มึนงงได้จริงๆ นะ! นักวิทยาศาสตร์เรียกอาการนี้ว่า "กลุ่มอาการเวียนหัวหลังแผ่นดินไหว" (Post-Earthquake Dizziness Syndrome หรือ PEDS) และพบว่าเป็นเรื่องปกติมาก
สาเหตุหลักๆ คือ:
การสั่นสะเทือนไปรบกวน "น้ำในหูชั้นใน" ที่ช่วยในการทรงตัว ทำให้สมองสับสนว่ายังโยกไปมาอยู่ แม้แผ่นดินจะหยุดไหวแล้ว
ความเครียดและความวิตกกังวลเป็นตัวเร่งให้อาการแย่ลง
วิธีหายเวียนเร็วๆ ทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน!
😌 พักผ่อนให้ถูกวิธี
* นอนราบๆ ในห้องเงียบๆ หนุนหมอนบางๆ
* ปิดตาพักสายตา ลดแสง ลดเสียง
* ให้ร่างกายได้พักจริงๆ อย่าเพิ่งเล่นมือถือ!
🧘 หายใจคลายเครียด - หายใจเข้าช้าๆ
💆 นวดง่ายๆ บรรเทาได้
* ใช้นิ้วนวดที่ขมับเป็นวงกลมเบาๆ
* นวดต้นคอเบาๆ คลายกล้ามเนื้อที่เกร็ง
* ประคบผ้าเย็นที่หน้าผาก ช่วยได้เยอะเลย!
🍵 กินดื่มให้ดี
* จิบน้ำบ่อยๆ ร่างกายต้องการน้ำมากกว่าปกติ
* ลองดื่มน้ำขิงอุ่นๆ ช่วยลดอาการคลื่นไส้ได้ดี
* หลีกเลี่ยงคาเฟอีน แอลกอฮอล์ ของทอด
🧠 ไม่เครียดจนเกินไป
* ลดการดูข่าวหรือคลิปแผ่นดินไหวซ้ำๆ
* หากิจกรรมเบาๆ ที่ชอบ เช่น ฟังเพลงเบาๆ
* พูดคุยกับคนที่ไว้ใจ บอกความรู้สึก อย่าเก็บไว้คนเดียว

🤸 ฝึกการทรงตัวง่ายๆ
* ลองยืนด้วยเท้าข้างเดียว จับราวหรือโต๊ะเบาๆ
* กลอกตาช้าๆ ไปทางซ้าย-ขวา-บน-ล่าง
* ค่อยๆ หมุนศีรษะช้าๆ ซ้าย-ขวา (ถ้าไม่แย่ลง)
อย่าลืมนะคะ อาการเวียนหัวหลังแผ่นดินไหวเป็นเรื่องปกติ และส่วนใหญ่จะหายไปเองใน 1-2 สัปดาห์ ใจเย็นๆ พักผ่อนเยอะๆ แล้วจะหายไวขึ้นค่ะ! 💪

17/01/2025

ซื้อผลิตภัณฑ์ #วีทัล กับ #ไวส์ชอป ‼️ อย่าลืมใช้สิทธิ์ขอ E-Tax เพื่อลดหย่อนภาษี ปีหน้ากันนะครับ
❓ คลิปเดียว ครบจบทุกคำถาม
❗️การใช้สิทธิ์ E-Tax
✅การตรวจสอบร้านค้าเข้าร่วม
📌และขั้นตอนการขอ E-Tax
#ไวส์ชอปตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการผลิตภัณฑ์พาว
🚚 ส่งฟรี ทั่วประเทศ
💰 ทางร้านยินดีรับบัตรเครดิต
💚 ออกใบกำกับภาษีแจ้งได้
📲 ทักแชท หรือ แอดไลน์
☎️ หรือ โทรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ 099-0956416 (HotLine WiseShop 20 คู่สาย)
❤️ มั่นใจ วางใจ ไว้ใจ ให้ ‘ ร้านไวส์ชอป ‘ ดูแลนะคะ
#ไวส์ชอปร้านผลิตภัณฑ์คุณภาพที่คุณวางใจ
#วัทัล #คุณหมอประมุข

ที่อยู่

บริษัท ไวส์ แอนด์ เวลเนส อินเตอร์เทรด จำกัด (สำนักงานใหญ่) เลขที่ 110/9 หมู่ 4 ต. บางแก้ว อ. บางพลี
Changwat Samut Prakan
10540

เบอร์โทรศัพท์

+66990956416

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ โดย คุณหมอประมุขผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram