Enlighten your life & Build your learning curve

Enlighten your life & Build your learning curve เพจสำหรับแบ่งปันแง่มุมต่างๆและบทความของผู้เขียนในความรู้ต่างๆให้ผู้สนใจได้อ่าน ในหลากหลายศาสตร์

28/11/2025

รัฐที่ขาด Empathy ต่อประชาชน คือรัฐที่ล้มเหลว

นอกจากการประเมินตัวเองว่าดีเกินจริง มี Ego สูงมาก คือต้นเหตุหายนะของรัฐ

ฟังหน่วยงานท้องถิ่นที่ไม่รู้เรื่อง เมินผู้เชี่ยวชาญภายนอก ที่พูดว่าร่องฝน Rain Bomb กำลังมานะ บอก Fake News คือความผิดพลาดสอง

ความผิดพลาดสามคือ เมื่อพลาดสองอย่างแล้ว เน้นหาเสียงเป็นหลัก กะหว่านเงินอย่างเดียว

ดันเริ่มแผนฟื้นฟูจะออกคนล่ะครึ่งพลัส แผนเยียวยา ให้ไวที่สุดเพื่อชิงความได้เปรียบของการเลือกตั้ง นี่คือจุดมุ่งหมายของคนพวกนี้

ปรากฎว่าน้ำไหลมาท่วมรุนแรงจนประชาชนราวๆ 4 แสนคนจมมิด
ผู้นำ ตั้ง ผู้นำศูนย์คนที่หนึ่ง เชี่ยวชาญด้านแป้ง ชอบทำPR หน้ากล้อง แทนที่จะสร้างการจัดการที่ดี ไปสร้างความวุ่นวาย

ถูกด่ามากเข้า ตั้งคนที่ 2 คนที่ 3 ตามมา จนทุกคนสับสนไปหมดไม่รู้จะฟังใคร กลายเป็นเรื่องการบริหารวิกฤตที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรงเข้าไปอีก

สักพักตัวผู้นำเองก็ต้องไป PR เหมือนกัน เพราะหวังกลับมาเป็น นายกอีกรอบ คุยโม้หลายเรื่อง แต่ไม่ได้เรื่องสักอย่าง ตอนแรกบอกจะอยู่บริหารสถานการณ์ที่พื้นที่จนจบ แต่ไม่รู้เรื่องว่า ต้องบริหารในศูนย์น้ำท่วมที่ กทม ก็ต้องบินกลับ พูดเก่ง ทำอาหารเก่ง
บินไปจับมือเก่ง แต่ขอโทษไม่มี

ถัดมาน้ำเริ่มลด กู้ภัยบอกคนตายเยอะ ออกข่าว ฝ่ายรัฐบอกน้อย มีการโทรไปข่มขู่เขาอีก ให้คืนดี รัฐมาเฟีย บริหารโดยแต่ล่ะท่าน

ส้มอย่าลืมมารับผิดชอบด้วยขานชื่อเลือกรัฐมาเฟียขึ้นมาบริหารน้ำท่วม แทนเลือกการยุบสภา ในวันถัดมา แต่ให้รอ 4 เดือน

ถ้าเลือกดีลด้วยการไม่ดำเนินคดี 44 สส ของตัวเองแล้ว อย่าปัดความรับผิดชอบ น้ำท่วมภาคใต้ไปด้วย

ถัดมาตั้งแต่วันแรก จนถึง วันนี้ ยังไม่มีตัวแทนภาครัฐคนใดยอมรับว่า บริหารผิดพลาดเลยสักคน ตั้งแต่ระดับส่วนกลาง จนถึงท้องถิ่น

ผู้นำส่วนกลาง โทษส่วนท้องถิ่นว่าส่งข่าวให้ผิด ทั้งๆที่ตัวเองก็มีศูนย์บริหารจัดการน้ำทั่วประเทศ มีข่าวจากดาวเทียวติดตามมวลน้ำตลอด แต่เอาเวลาไปหาเสียง ดูด สส เตรียมเลือกตั้ง

ส่วนผู้นำศูนย์คนแรก เชี่ยวชาญด้านแป้ง โทษประชาชนไม่อพยพ แต่ไม่มีการแจ้งเตือนอพยพ ไม่มีเวลาให้อพยพ เวลาที่แจ้งคือน้ำมาแล้ว มีเวลา 5 นาทีให้ อพยพ จะให้บินไปหรอ ?

การอพยพคนต้องมีเวลา กี่ชั่วโมง มีสถานที่รองรับว่าจุคนได้เท่าไหร่ มีน้ำอาหารเพียงพอมั้ย มีเจ้าหน้าที่เท่าไหร่ ต้องมีการเตรียมสถานที่ มีการสื่อสารที่ดีเพียงพอ อันนี้ไม่มีเลย

แม้ขนาดปัจจุบันอพยพไปแล้วยังให้อยู่ตามยถากรรมทุกที่ นึกถึงศูนย์โควิด ประชาชนก็บริหารกันเอง ดูแลกันเอง

โรงพยาบาลก็ดูแลคนไข้กันเอง รัฐบาลง่อย

ท้ายสุดถ้าพลาดทั้งหมดไปแล้วล่ะทำยังไง ควรแสดงความจริงใจหน่อยมั้ย อย่างน้อยการขอโทษ ต่อประชาชน แสดงความเข้าอกเข้าใจ มันสำคัญมาก ในช่วงวิกฤต

ประชาชนหลายคน อดอาหาร 3-4 วัน ลอยคอ อยู่กลางน้ำ เรือลำแล้วลำเล่า ผ่านไป ไม่สามารถช่วยทุกคนได้ เพราะภาครัฐบริหารแย่

มีแค่อาสาสมัครที่พยายามช่วย คนที่เดือดร้อนมากที่สุดก่อน เพราะคนเหล่านี้ใกล้ตาย ด้วยเงินของตัวเอง และเสี่ยงด้วยชีวิตทรัพย์สินของตัวเอง

หลายคนไม่ถึงกับสูญเสียชีวิต แต่ทรัพย์สินที่มีทั้งหมด ก็สิ้นเนื้อประดาตัวไปเลยในการบริหารผิดพลาดจากภาครัฐในครั้งนี้
พวกเขาอาจจะอย่างน้อยต้องการคนเข้าอกเข้าใจ และการช่วยเหลือในภายหลังที่สะดวก

จากนี้งานในการกู้ภัยก็ยังมีอยู่ การรักษาผู้ป่วย การเยียวยา ฟื้นฟู คืนสภาพเมือง ก็เป็นการหนัก และวุ่นวายอย่างมาก

ภาครัฐยังมีความสามารถอะไรในการบริหารจัดการแค่ไหน สภาพแต่ล่ะคน ความเป็นมนุษย์ทั่วไปยังไม่มีเลย

27/11/2025
จริงๆ ที่ภาครัฐยังไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่เท่าที่สังเกต เพราะเขามั่นใจมากว่า กองเชียร์ของเขาศรัทธาในตัวเขา นอกจากนั้นคือ พย...
26/11/2025

จริงๆ ที่ภาครัฐยังไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่เท่าที่สังเกต เพราะเขามั่นใจมากว่า กองเชียร์ของเขาศรัทธาในตัวเขา นอกจากนั้นคือ พยายามเน้นหาเสียง เพราะอ้างว่าเลือกเข้ามายุบสภา ตอนนี้ก็ต้องพยายามหาเสียงล่วงหน้าไม่ทำงาน ทั้งที่ยังไม่ยุบสภา

ทั้งนี้กองเชียร์ส่วนหนึ่ง ได้แก่

ฝ่ายอนุรักษ์นิยม อินฟลูในสังคม นักวิชาการ แล้วก็กลุ่มกองเชียร์ส้มบางส่วน (ส้มไปยกมือให้น้ำเงินบริหาร โทนเสียงนักวิชาการกลุ่มส้มยังมาอวยรัฐบาลพรรคน้ำเงินเลย ต่างกับตอนพรรคแดงบริหารที่ด่าเช้า กลางวัน เย็น )
สื่อก็เช่นกัน เปลี่ยนโทนการพูด การพาดหัวข่าว ทุกอย่างดูอุ้มชู อุปถัมภ์กันชัดเจนมาก

( ส่วนกลุ่มประชาธิปไตยที่เลือกส้ม และไม่เลือกส้ม อันนี้ตาสว่าง ไม่เอากับกลุ่มน้ำเงินแต่แรก ตอนนี้ช่วยกันส่งเสียงช่วยกระตุ้นให้ภาครัฐทำอะไรสักอย่างที )

คนเหล่านี้คอยช่วยอุ้มชู พยายามไม่พูดถึงเรื่องแย่ๆภาครัฐอะไรเลย เรียกได้ว่าเป็นการบริหารภาพลักษณ์ในกลุ่ม Elite โครงสร้างอำนาจเก่า + ใหม่ และ สื่อเก่า สื่อใหม่

สังเกตได้จาก พยายามพูดว่า ยังต้องเอาใจช่วยกันก่อนไม่ใช่เวลาเล่นการเมืองบ้าง ยังพูดว่าเป็นเพราะระบบราชการแย่บ้าง ยังพูดว่าเป็นเพราะน้ำเยอะบ้าง แทบจะจับ Before & After ของแต่ล่ะช่วงเวลาที่กลุ่มอำนาจไหนบริหารได้เลย

ลองสลับเป็นรัฐบาลที่ตัวเองเกลียด จะกลายเป็นเสียงคนล่ะโทนทันที ไม่มีเกรงใจอะไรทั้งนั้น 😂😂😂😂

สิ่งที่จะทำให้รัฐบาลนี้ตื่นได้ คือ กองเชียร์พวกนี้ต้องตื่นมาช่วยกันด่าครับ ไม่ใช่ช่วยอุ้มชู

เพราะอะไร เพราะถ้าคุณไม่ช่วยกัน เขาจะไม่ตื่นจากโลกความเป็นจริงว่า การบริหารมีปัญหา จะอยู่ในโลกที่คิดว่า ทำดีแล้ว ที่ทุกอย่างแย่ เพราะประชาชนไม่อพยพ เพราะน้ำมามากเกินไป เพราะท้องถิ่นผิด เพราะนั่นโน่นนี่

กลายเป็น เมื่อบริหารผิดพลาด ก็โทษประชาชน ไม่เคยมีความรับผิดชอบ หน้างานที่ลงมือช่วยประชาชนแต่แรก ก็มีแต่ภาคเอกชน ประชาสังคมทั้งนั้น อีกส่วนก็กองทัพ

พวกระบบที่คุณเชียร์ขึ้นมา ไม่ทำงาน คิดด้วยใจกลางๆหน่อย ผิดก็ว่าไปตามผิด ห่วยก็ว่าไปตามห่วย

ถ้าคุณไม่คิดจะผลักดันให้ผู้เล่นของคุณพัฒนาฝีมือ เลิกสนับสนุนผู้เล่นห่วย ให้กลับมาเล่นเกมส์แบบ Fair game ผู้เล่นของคุณก็ไม่มีวันปรับปรุงผลงาน

วันๆก็จะใช้วิธีสกปรก เน้นการเล่นเกมส์โกง กดสูตรโกง ใช้กฎหมายสองมาตราฐาน องค์กรอิสระของฉัน ฮั่ว สว สร้างเรื่องเล่า สื่อของฉัน ระบบอุปถัมภ์ของฉัน
แบบนี้ไปเรื่อยๆ ท้ายสุด ผลหายนะก็ตกกับทุกคนนั่นแหละ ได้ประเทศที่หายนะ ไม่มีนักบริหารที่ดี

คนเดือดร้อนคือประชาชน พวกนักการเมืองพวกนี้ก็มั่นใจว่ามีพวกคุณหนุน ก็ไม่ต้องสนใจใยดีอะไร ทำงานแบบนี้ไปเรื่อยๆ

เดี่ยวน้ำมาก็ไปผัดข้าวแจก ไปยืนให้กำลังใจ ตั้งศูนย์นั้นที่ ตั้งคนนี้บริหารที่ คนโน่นที่ บริหารแบบวีนไป วีนมา พยายามโชว์พาวเวอร์หน้ากล้อง พวกคุณก็อวยอยู่ดี เลือกเขากลับมาอยู่ดี

มีปัญหาก็ให้ภาคประชาชนช่วยกันไปเอง ท้องถิ่นช่วยกัน ทำไม่ได้ก็ท้องถิ่นผิด น้ำมาเดี่ยวก็ลดไปเอง ประชาชนตายก็เวรกรรม โชคร้ายเอง ผิดที่ไม่ยอมอพยพ

แต่ตอนบอกให้อพยพ ไม่บอกว่าให้อพยพไปที่ไหน ตอนไหน บอกก่อนน้ำมา 5 นาที มีปัญหาก็รับเคราะห์กันไปเอง ผิดที่ไม่ไปเอง

ถึงเวลาคุณก็วนกลับไปเลือกพวกนี้อยู่ดี เพราะคุณเชื่อว่าเขา ภักดีกว่าคนอื่นบ้าง เชื่อว่าพูดแล้วทำบ้าง เชื่อว่าเป็นคนดีกว่าแม้วบ้าง

วนกลับมาที่หายนะ ในที่สุด ไม่ว่าจะคนตายมหาศาลแบบโควิด น้ำท่วมหายนะในภาคใต้ ขาดการช่วยเหลือ ตัวใครตัวมันแบบนี้แหละ
สักวันภัยพิบัติคงไปถึงตัวพวกคุณเอง

จากโพสต์เรื่องภาษี เห็นดีใจกันมากว่าไปขายข้าวที่จีนได้ 5 แสนตัน ที่โน่นที่นี่อีก ข้าวไทยยิ่งขายยิ่งขาดทุนทำไมข้าวไทยที่ร...
20/11/2025

จากโพสต์เรื่องภาษี เห็นดีใจกันมากว่าไปขายข้าวที่จีนได้ 5 แสนตัน ที่โน่นที่นี่อีก ข้าวไทยยิ่งขายยิ่งขาดทุน

ทำไมข้าวไทยที่รัฐมนตรีขยันไปขาย ยิ่งขายยิ่งขาดทุน เพราะไทยนำเข้าปุ๋ยจากต่างประเทศจำนวนมาก รวมทั้งยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหญ้า วัสดุอื่นๆ ยิ่งปลูกต้นทุนยิ่งแพง ราคาข้าวตกต่ำมาก แทนที่จะเลิกปลูก กลับไปช่วยขายให้ต่างประเทศกิน นอกจากนี้ยังมีโครงการเอาเงินภาษีไปอุดหนุนสม่ำเสมอ เรียกได้ว่า ยิ่งปลูก ยิ่งขายข้าว ประเทศยิ่งเจ๊ง

ควรเลิกภูมิใจกับ อันดับการขายข้าว 1-3 อันดับของโลกได้แล้ว เพราะไทย ยิ่งปลูก เจ๊งทั้งเกษตรกร และรัฐบาล ส่วนเวียดนามเชาวางแผนดี ยิ่งทำยิ่งรวย ผลผลิตต่อไร่ต่างกับไทยมาก

รัฐบาลควรทำยังไงให้คนเลิกปลูกข้าว เอาคนออกจากภาคเกษตรกรรม แล้วไปเข้าภาคสาธารณสุข เช่นศูนย์ดูแลผู้สูงวัย อนาคตจะเป็นที่ต้องการมาก การดูแลผู้สูงวัยเช่น ผู้ช่วยกายภาพ ผู้ช่วยตามโรงพยาบาล

ภาคสาธารณสุข เป็นที่ต้องการมาก และยังขาดแคลน ยังไงก็เงินดีกว่าอาชีพเกษตรกรแน่นอน ที่รายได้ไม่แน่นอน ยิ่งทำยิ่งติดหนี้อาศัยฟ้าฝน แถมสร้างมลพิษ PM 2.5 ประจำ โดยการเผาวัสดุการเกษตร

อีกเรื่องคือ เลิกยกเว้นภาษีสินค้าเกษตร บังคับเก็บ Vat เสียภาษีรายได้แบบต่างประเทศ อย่างทุเรียนส่งออกเป็นแสนล้าน รัฐบาลไม่ได้ภาษีรายได้เลย ภาษีมูลค่าเพิ่มก็ไม่มี

ทำไมคนทำอาชีพเกษตรกรรม ถึงได้เงินอุดหนุนเยอะจัง ทั้งเงินช่วยเหลือราคา น้ำท่วมน้ำแล้ง

อย่างน้ำท่วมน้ำแล้ง ควรไปทำประกันภัยเองมั้ย โดยรัฐบาลออก พรบ จัดตั้งระบบประกันภัยน้ำท่วมน้ำแล้ง ให้เกษตรกรสมทบแบบ พรบ รถยนต์ อาชีพอื่นๆ อย่างโรงงาน ยังต้องไปทำประกันภัยเองเลย ลูกจ้างตกงานก็ต้องไปทำประกันสังคมจ่ายเงินเอง ขอรับสิทธิประโยชน์

อาชีพเกษตรกรมันพิเศษกว่าอาชีพอื่นจริงๆ ราคาขายไม่ได้ก็ได้รัฐสนับสนุน พอรัฐไม่สนับสนุนก็ออกมาก่อม็อบโวยวายว่าราคาตกต่ำ
มีความเสี่ยงปลูกแล้วมีปัญหา น้ำท่วม ภัยแล้ง รัฐก็จ่ายเงินชดเชย

ราคาถ้าขายไม่ได้ ทำไมยังปลูกอีก ใช่เรื่องควรทำมั้ย แล้วมีรายได้ทำไมไม่เสียภาษี รายได้แบบต่างประเทศ

ถ้าจะรับเงินช่วยเหลือก็ต้องมีการยื่นเสียภาษีรายได้ ไม่งั้นไม่ควรได้ การช่วยเหลือเช่นกัน

ราวๆ 20 ปีในความสัมพันธ์ระหว่าง ไบเดน กับสีจิ้นผิง ไบเดน ค่อนข้างสนิทเป็นการส่วนตัวกับสีจิ้นผิง ไบเดนเป็นรองประธานาธิบดี...
17/11/2024

ราวๆ 20 ปีในความสัมพันธ์ระหว่าง ไบเดน กับสีจิ้นผิง
ไบเดน ค่อนข้างสนิทเป็นการส่วนตัวกับสีจิ้นผิง ไบเดนเป็นรองประธานาธิบดีสองสมัยในสมัยโอบาม่า ส่วนสีจิ้นผิงก็เป็นรองประธานาธิบดี ในสมัยประธานาธิบดี หูจินเทา สีจิ้นผิงและไบเดน ทั้งสองฝ่ายเคยต้อนรับซึ่งกันและกัน ไบเดนพาสีจิ้นผิงไปเยือนสหรัฐหลายที่ และต้อนรับเป็นการส่วนตัวหลายรอบ หลานไบเดนพูดภาษาจีนได้ด้วย และไบเดนสนิทกับสีจิ้นผิงเป็นการส่วนตัวมากๆ
ผ่านไป อย่างรวดเร็วหลังวาระ โอบาม่า 2008-2016
และทรัมป์ 2016-2020 จนไบเดนได้กลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้ง ช่วงปี 2020-2024 ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเคยคาดการณ์ว่าความสัมพันธ์ระดับ Special relationship น่าจะช่วยลดอุณหภูมิทางการเมืองของ สงครามการค้า สงครามเทคโนโลยี ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ทั้งในทะเลจีนใต้ ไต้หวัน และอื่นๆจะช่วยให้มีทิศทางดีขึ้น แต่เห็นได้ชัดว่า การเมืองภายในของทั้งสองประเทศ ทั้งสหรัฐอเมริกา และ จีน ได้เปลียนภูมิทัศน์ไปเรียบร้อยแล้ว จีนหลังจากการขึ้นครองตำแหน่งของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ปี 2012 - ปัจจุบัน ในสมัย 5 ปีแรก ยังมีการปราบปรามคอรัปชั่นในประเทศจีนเพื่อรวบรวมอำนาจ และ ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงยังมีท่าทีเชิงร่วมมือกับตะวันตก (ในทุกๆด้านยกเว้นทะเลจีนใต้และ ความพยายามทางการทหาร รวมถึงเกาะไต้หวัน เป็นยุทธศาสตร์ระยะยาวของจีน ตั้งแต่สมัยหูจิ้นเทาแล้ว) ยังส่งเสริมความร่วมมือทั่วโลกผ่านโครงการแถบและเส้นทาง BRI จนเข้าสู่วาระที่สอง ของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง สหรัฐและสหภาพยุโรปมีความเปลี่ยนแปลงชัดเจนสองอย่าง ชาติใหญ่ในยุโรปอย่างสหราชอาณาจักรออกจากยุโรป Brexit และตามด้วยการชนะเลือกตั้งของประธานาธิบดีทรัมป์ ทำให้จีนรู้สึกว่าถึงความเปลี่ยนแปลงใหญ่ในรอบร้อยปีของโลกมาถึงแล้ว มีในเกือบทุกสุนทรพจน์ ของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง โดยจะสื่อว่าโลกกำลังเปลี่ยนแปลงแล้วอำนาจตะวันตกกำลังเสื่อมถอย แล้วจีนจะต้องเข้าไปในการเปลี่ยนแปลงใหญ่ ปกติจีนจะมีวลีนำในสุนทรพจน์ผู้นำเสมอ แต่หลังๆประธานาธิบดีสีจิ้นผิงชอบวลีนี้มาก ใช้ในทุกวาระ ไม่ว่าจะเจอ ประธานาธิบดีปูติน หรือ การประชุมอื่นๆทั้งในประเทศ และ องค์กรความมั่งคงที่จีนตั้งขึ้น CTO โดยท่าทีของจีนชัดเจนในการเข้าสู่ลัทธิชาตินิยม และ แนวคิดกระจายความมั่งคั่งแบบเหมาในบางส่วน นโยบายชื่อดัง Common prosperity
ส่วนสหรัฐ ในผู้วางนโยบายสหรัฐ ในยุคทรัมป์ และ หลังจากนั้นเริ่มมองจีน เป็นภัยคุกคามแบบชัดเจน เดิมสหรัฐมองจีนเป็นคู่แข่งขัน สหรัฐพยายามเริ่มนโยบายปักหมุดในเอเชีย และ TPP ในสมัยโอบาม่า เพื่อปิดล้อมจีน
แต่ฝ่ายเหยี่ยวในสหรัฐที่ศึกษาจีนมานานคิดว่าไม่เพียงพอ จึงนำมาสู่สงครามการค้า สงครามเทคโนโลยี และการปิดล้อม
แล้วมุมมองของจีนต่อสหรัฐล่ะ จีนมองสหรัฐมานานว่าเป็นศัตรูในเชิงความมั่งคง ตั้งแต่ปี 1990 ในสงครามอ่าว ที่เห็นความทันสมัยของอาวุธสหรัฐ เหนือกว่ากำลังพล จีนมีกองกำลังทหารประจำการสูงสุดในโลก การล่มสลายของสหภาพโซเวียด ล้วนกระทบอย่างรุนแรงต่อผู้นำในกรุงปักกิ่งอย่างรุนแรง นำมาซึ่งการปรับปรุงกองทัพขนานใหญ่อย่างยาวนาน โดยมองสหรัฐคือศัตรู กลยุทธ์ระยะยาวของจีนสามารถหาอ่านได้จากหนังสือ The long game ซึ่งอธิบายการขยายอำนาจการทหารของจีนอย่างยาวนาน
สหรัฐเริ่มมองจีนเป็นศัตรูอย่างแท้จริง ในปี 2017 จนถึงปัจจุบัน ชาวอเมริกันร้อยล่ะ 90 ไม่ชอบจีน การออกกฎหมายต่อต้านจีนได้รับการสนับสนุนจากทั้งสองพรรคแบบท่วมท้น Bipartisan ผ่านสภาแบบง่ายในสหรัฐมีคำพูดว่าสองพรรคเห็นต่างกันทุกเรื่องยกเว้นเรื่องจีน
นักการเมืองสหรัฐจึงไม่สามารถพูดสนับสนุนจีนได้แบบแต่ก่อน ความสัมพันธ์อย่างสูงระหว่างไบเดน กับสีจิ้นผิงจึงถูกตั้งคำถามอย่างมากในช่วงเลือกตั้ง ไบเดนถึงกับต้องเรียกสีจิ้นผิงว่า เผด็จการในช่วงเลือกตั้ง ปี 2020 เลยทีเดียว และผ่านมาในช่วงการบริหารของไบเดน ก็ยังเห็นได้ว่า ไม่มีการยกเลิกนโยบายต่างๆของทรัมป์ด้านจีน และยังเพิ่มความเข้มข้น เช่น ขึ้นภาษีกับสินค้ายุทธศาสตร์ของจีน และมีการสนับสนุนอาวุธให้ไต้หวัน โดยนโยบายของรัฐบาลไบเดนจะไม่กระทบประชาชนมากเท่าทรัมป์ และ ได้ผลรุนแรงกว่า เพราะเป็นเรื่องที่จีนไม่ชอบเอามากๆ ทั้งไต้หวัน การเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินผู้นำจีน และ สมาชิก ผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงของจีน ถึงผู้ว่าการรัฐ รวมถึงญาติและครอบครัว พร้อมจะอายัดบัญชีทันทีที่บุกเกาะไต้หวัน

การดำรงตำแหน่งทางการเมืองของไบเดนเลยกระทบต่อความสัมพันธ์กับสีจิ้นผิงไปโดยปริยาย ไบเดนและสีจิ้นผิงต่างหลีกเลี่ยงที่จะพบปะกันอย่างเป็นทางการตลอดวาระการดำรงตำแหน่ง และเลือกที่จะพบกันเฉพาะในเวทีประชุมระหว่างประเทศที่สำคัญเท่านั้น แต่ความสัมพันธ์นั้นจะเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้ได้ แต่ดูจากการพูดไบเดนยังมีมุมมองบวกต่อสีจิ้นผิงอย่างมาก และมีความสัมพันธ์ที่ดี ส่วนสีจิ้นผิงยังดำรงตำแหน่งผู้นำต่อไป ก็ต้องระมัดระวังท่าทีทางการเมือง อย่างไรก็ต้องติดตามต่อไป

07/11/2024

สวัสดีครับ ทุกท่าน เพจนี้สร้างขึ้นมา โดยเพื่อเผยแพร่บทความของเจ้าของเพจ และบทความบางส่วนของ ผู้เชี่ยวชาญบางท่านที่เจ้าของเพจเคารพนับถือ รวมถึงมีงานวิจัย และข้อมูลต่างๆจะมาประกอบในภายหลังร่วมด้วยครับ
โดยเนื้อหาสำคัญ ของเพจในตอนนี้
จะอยู่ในวงการแพทย์ สุขภาพ การย้อนวัย เป็นสิ่ง
ใหม่ที่ผู้เขียนสนใจมาก ด้านการย้อนวัย ลดอายุทางชีวภาพ และ อัพเดตความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และสุขภาพให้ทุกท่านทราบ
วงการเศรษฐศาสตร์ เศรษฐกิจ สังคม อธิบายถึงปรากฎการณ์หรือเหตุการณ์ต่างๆในสังคม เช่น ดอกเบี้ย เงินเฟ้อ หรือสิ่งอื่นๆ การคลัง
การเมืองการปกครอง จะพูดถึงแค่นโยบายในเชิงวิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และวิจารณ์ในเชิงข้อมูลนโยบายเท่านั้นนะครับ จะไม่ลงรายละเอียดเพื่อก่อให้เกิดการบิดเบือนทางการเมืองหรือความขัดแย้งใดๆทั้งสิ้น เน้นย้ำมากครับ
ภูมิรัฐศาสตร์ และสมดุลทางด้านอำนาจระหว่างประเทศ อันนี้จะมาจากการวิเคราะห์ของผู้เขียนและจากการรวบรวมจากข่าวต่างๆครับ ปัจจุบันไทยเกิดปัญหาช่องว่างความไม่สมดุลจากการที่ได้รับอิทธิพลและความเข้าใจผิด จากการที่โลกตะวันออกทุ่มเงินมหาศาลมาโฆษณาเยอะครับทำให้เกิดการเกลียดกลัว และรักหรือเกลียดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในประเทศนี้มากเดินไปครับ เพจนี้จะเน้นย้ำเรื่องข้อเท็จจริงความเข้าใจผิดในเรื่องพวกนี้ครับ ในด้านเศรษฐศาสตร์ประกอบกับ การค้าระหว่างประเทศ ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ การฑูต การเมืองการปกครอง ประวัติศาสตร์ เพื่อสร้างความเข้าใจอันถูกต้องให้ทราบครับ จะได้ไม่มีการรักชังฝ่ายใดมากเกินไปครับ
ประวัติศาสตร์ ผู้เขียนสนใจความเชื่อมโยงทางประวัติศาสตร์มาก และชอบประวัติศาสตร์ในทุกๆเรื่องหากมีเรื่องน่าสนใจก็จะนำมาเล่าสู่กันฟังครับ ทุกๆประวัติศาสตร์ล้วนแล้วแต่คือเครื่องสอนใจเราเสมอมาครับ
สภาพภูมิอากาศโลก หลายๆคนเชื่อเรื่องโลกร้อน แต่ผู้เขียนไม่ได้เชื่อในทฤษฎีโลกร้อนเนื่องจากศึกษาการเปลี่ยนแปลงบรรพธรณีโบราณแล้ว ทฤษฎีโลกร้อนปัจจุบันยังไม่สมบูรณ์ เนื่องจากอธิบายในเชิงเคมีนั่นถูกต้องหากโลกอยู่ในระบบปิด ไม่มีจักรวาลเลย มีเพียง CO2 และมีดวงอาทิตย์ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของความเข้มแสง ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีข้อพิสูจน์เพียงพอในระยะเวลาอันยาวนานกว่านั้น ถึงการเปลี่ยนแปลงต่างๆของโลก เช่น การเปลี่ยนพื้นทวีป ภูเขาไฟ อุกาบาต การเปลี่ยนแปลงวงโครจร ล้วนแล้วแต่รบกวนทฤษฎีโลกร้อนให้เพี้ยนไปได้หมด แต่ผู้เขียนสนับสนุนการใช้พลังงานและ ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นข้อดี ที่เราผลิตพลังจากได้ประสิทธิภาพสูงขึ้นมีมลพิษลดลง ย่อมเป็นเรื่องดี

นอกจากนี้ผู้เขียนสนับสนุนการพัฒนาตัวเองโดยเพิ่มความรู้ สร้างเส้นทางแห่งการเรียนรู้ของตัวเอง ขจัดความไม่รู้หรืออวิชชา โดยแสงสว่างอันเปรียบเสมือนด้วยปัญญาไม่มี

ที่อยู่

Changwat Samut Prakan
10270

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Enlighten your life & Build your learning curveผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram