น้ำดื่มตรา IRIS Water Hatyai

14/04/2021

08/04/2021

02/04/2021

วันศุกร์ที่ 2 เมษายน 2564 รายละเอียดผู้ป่วยรายใหม่ 58 ราย
🏥 ผู้ป่วยรายใหม่ จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ จำนวน 42 ราย
-----------------------------
🕵 ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 3 ราย
-----------------------------
🛂 เดินทางมาจากต่างประเทศ จาก
🇮🇳 อินเดีย 2 ราย, 🇫🇮 ฟินแลนด์ 1 ราย, 🇦🇪 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย, 🇧🇪 เบลเยียม 1 ราย, 🇲🇬 มาดากัสการ์ 1 ราย และ 🇺🇸 สหรัฐอเมริกา 7 ราย
โดย 👥 เป็นคนไทย 🇹🇭 11 ราย และสัญชาติอินเดีย 🇮🇳 2 ราย
ผ่านการคัดกรองและเข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้
(State Quarantine , Alternative Hospital Quarantine, Alternative Local Quarantine)

#ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19
#ศูนย์ข้อมูลCOVID19
#หยุดโควิดแต่ไม่หยุดเศรษฐกิจไทย
ีวิตวิถีใหม่
#สมดุลชีวิตวิถีใหม่
#รวมไทยสร้างชาติ
#ไทยรู้สู้โควิด

02/04/2021

02/04/2021

02/04/2021

🗣️ หนทางชีีวิตนี้อีกยาวไกล 💦

02/04/2021

30/03/2021

27/03/2021

🗓 วันเสาร์ที่ 27 มีนาคม 2564 🕚 เวลา 11.00 น.
สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ
😖 ผู้ป่วยรายใหม่ 80 ราย
😷 ผู้ป่วยยืนยันสะสม 28,657 ราย
🙂 หายป่วยแล้ว 27,136 ราย
😭 เสียชีวิตสะสม 93 ราย
#ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19
#ศูนย์ข้อมูลCOVID19
#หยุดโควิดแต่ไม่หยุดเศรษฐกิจไทย
ีวิตวิถีใหม่
#สมดุลชีวิตวิถีใหม่
#รวมไทยสร้างชาติ
#ไทยรู้สู้โควิด

25/03/2021

💯 น้ำดื่มเป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกายที่ไม่สามารถขาดได้
ทุกคนต้องกิน ต้องดื่มในทุกวัน เรามุ่งมั่นตั้งใจ
ที่อยากจะช่วยให้ทุกคนมีธุรกิจ และ มีรายได้
ที่มั่นคงไปพร้อม ๆ กับเรา 🎉
🥰 เรายินดีช่วยอย่างเต็มที่ด้วยใจ ของคนรุ่นใหม่ที่มุ่งมั่น
และเข้าใจตลาดปัจจุบันเป็นอย่างดี
มาเป็นครอบครัวน้ำดื่ม Iris ด้วยกันเยอะ ๆ นะครับ
--------------------------------------
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม / สมัครตัวแทนจำหน่าย
โทร :081-238 9015 (Call Center)

25/03/2021

24/03/2021

# # นิทานพ่อค้าม้าฤดูหนาว ที่กำลังเป็นไวรัลของจีน # #
ในช่วงเวลานี้ที่เราต่างโดนผลกระทบกันหมด
มีหลายคนเปรียบเทียบว่า…นี่ถือเป็นช่วงฤดูหนาวที่ "วิกฤติที่สุด" ในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา แต่ในวิกฤติ นี้ก็ยังมีคนที่มีวิธี "วางกลยุทธ์" เพื่อสร้างโอกาสรอวันที่ฤดูหนาวนี้หมดไป…
วันนี้มาฟังเรื่อง นิทานพ่อค้าม้าในฤดูหนาวเมืองจีน ที่กำลังเป็นไวรัลของประเทศจีนกันฮะ…
เวลาที่ฤดูหนาวมาเยือน ม้าจะขาดแคลนและหายาก ทำให้พ่อค้าม้าเดือนร้อนมาก เพราะรายได้ที่เคยมีหายไป
พ่อค้าต้องทำอะไรสักอย่างกับเหตุการณ์นี้ แต่ทั้งสามคนก็มีวิธีรับมือคนละแบบ ที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง…

-พ่อค้าคนแรก ประกาศว่า…. "หมดยุคค้าม้าแล้ว"
เลยเปลี่ยนใจเลิกค้าม้าที่ทำรายได้ที่ดี กลับไปปลูกข้าว ปลูกผักแบบสมัยก่อน
-พ่อค้าคนที่สองฮะ เป็นนักสู้ ยังไง๊…ก็จะสู้สุดชีวิตเพื่ออยู่ในวงการม้าให้ได้ ! โดยออกเดินทางเสาะหาม้าไปทุกที่ ในป่าบ้าง ต่างเมืองบ้าง แต่ก็หาได้ไม่มากสักเท่าไหร่ เพราะแต่ละเมืองก็เจอภัยฤดูหนาวเหมือน ๆ กัน
-พ่อค้าคนที่สาม เลือกทำอีกแบบ ไม่กลับไปทำเกษตร ไม่วิ่งตามหาม้าเพิ่ม แต่กลับไปตั้งหน้าตั้งตาหว่านเมล็ดพันธุ์ใหม่ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ม้าชอบกิน
ทุกคนที่ผ่านมาเห็นก็ เอ้า !? งง กันหมดว่า…
"เห่ยย ม้าก็ไม่มี หญ้าปลูกมาก็ขายไม่ได้ แล้วไอนี่จะปลูกหญ้าเขียวขจีเต็มทุ่งไปแสวงหาวิมานอะไรทำไม ?"
แล้วนิทานเรื่องนี้ก็จบลงตรงที่ว่า…
พอฤดูหนาวผ่านพ้นไป เข้าสู่ฤดูไม้ใบผลิ ทุ่งหญ้าที่พ่อค้าคนที่สามปลูกไว้ เขียวขจีกว้างใหญ่ไพศาล ม้าต่าง ๆ ต่างตามมากันกินหญ้า โดยที่พ่อค้าอยู่เฉย ๆ ไม่ต้องออกไปแสวงหาม้าที่ไหนเลย
ถ้าเรามองย้อนกลับมา…
ดูภาวะสถานกาณ์โลกตอนนี้ก็เช่นกัน แต่ละประเทศแต่ละคนก็มี สามประเภท เหมือนกันคือ
-มีบางคนร้องประกาศว่า หมดยุคการท่องเที่ยวและการส่งออกแล้ว ต้องหันกลับไปเน้นการเกษตรเหมือนก่อนแทน
-มีประเทศที่พยายามจะเปิดประเทศเต็ม 100% เพื่อ เสาะหานักท่องเที่ยวเข้ามา แต่ก็ได้จำนวนน้อยเหลือเกิน แถมยังได้เชื้อโควิดมาติดคนในประเทศเพิ่มด้วย กลายเป็นยิ่งบานปลายไปกันใหญ่
-แบบสุดท้าย ใช้ช่วงเวลานี้เน้นปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยว พัฒนาโรงแรม พัฒนา Product ของตัวเอง เตรียมพร้อมออกสตาร์ทให้ไวกว่าในวันที่นักท่องเที่ยวและการส่งออกกลับมา ในวันที่ฤดูผ่านพ้นไป…
ซึ่งแบบสุดท้ายนี้ทำให้ผมนึกถึง…ช่วงกลาง ๆ ปี ช่วงนั้นสิงค์โปร์ติดโควิดกันหนักมากก
นายก ลี เซียนลุง ก็ประกาศ "Reskill คนทั้งประเทศ" คือให้ ทุกคนตั้งแต่เด็กถึงผู้ใหญ่สูงอายุเลย มาเรียนทักษะยุคใหม่เช่น AI , Programing โดยมีการเพิ่มรายพิเศษให้ด้วย เพื่อจูงใจให้คน Reskill กัน
ผมไม่รู้ว่า…นี่อาจะเป็นหนึ่งในพื้นฐานความคิดที่ทำให้ สิงคโปร์ประเทศเล็ก ๆ ทรัพยากรน้อย ประชากรก็น้อย แต่กลับมี GDP ที่สูงกว่าหลายๆ ประเทศเพื่อนบ้านหรือเปล่า ?
ส่วนในจีน จากยุควิกฤติแฮมเบอเกอร์ 2008 ที่เคยเน้นลงทุนสร้างถนน สะพานรถไฟ มาตอนนี้กลับทุ่มงบลงทุนโครงสร้างด้าน Digital แทน เช่น ระบบ Cloud ระบบ 5G
และก็ให้โควิดเป็นตัวเร่งให้นักธุรกิจรุ่นเก่า ๆ และทุกร้านค้า มาใช้เทคโนโลยีให้หมด
Jack ma ยังบอกว่า ต่อไปจะไม่มีแบ่ง Tech company หรือ Non Tech company แล้ว เพราะทุก Company ต้องเป็น Tech company ทั้งหมด
ในไทยแม้ว่า…ถ้าเราไปดู SET Top 10 ตัวแรกในตลาดจะมีหุ้นที่เป็น Tech company น้อยมาก แต่ในอนาคตต้องเปลี่ยนไปเป็น Tech company เช่นเดียวกัน
ทีนี้…ถ้าลองมองกลับมาที่ "ตัวเรา" บ้างหล่ะ ?
เราว่า…อะไรคือ Next normal ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ?
แล้วสิ่งที่ต้องปลูกเตรียมไว้รองรับ ฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะมาคืออะไร…?
-ความรู้ในโลกยุคใหม่
-ทักษะที่ต้องมีในโลกยุคใหม่
-ภาษาในโลกยุคใหม่
หรือแม้แต่ กลุ่มเพื่อน ชุมชน พื้นที่
ที่เราอยากแวดล้อมในโลกยุคใหม่ด้วยคืออะไร …?
(เช่น อาจจะเป็นเพจเรียนแบบเศรษฐีงี้ ^___^ )
ใครเห็นด้วยกับนิทานเรื่องนี้บ้าง ?
พิมพ์ "+1" หรือคอมเม้นท์มาคุยกันฮะ
ขอให้ทุกคนสนุกสนานกับการพัฒนาตัวเอง
แล้วเจอกันบทความต่อไปนะครับ
อาเหลียง

---

Reference :
-งานสัมมนา กลต . SEC Capital Market Symposium 2020 Part --ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร
https://fb.watch/1YJOc4j1Wf/
-หนังสือ China Next normal อ.อาร์ม ตั้งนิรันดร

24/03/2021

# # ถึงคนที่คิดว่าตัวเองทำได้หลายอย่าง…แต่ไม่สุดสักทาง # #
(สรุปจากเวที TED Talk x Emilie ที่มีคนดูกว่า 7M view++)

บนโลกนี้ฮะ...มีหลายๆคน
ที่เกิดมาพร้อมกับความหลงใหลในอะไรบางอย่าง
และมุ่งทำสิ่งนั้นจนชำนาญ
และเป็นผู้เชี่ยวชาญทางสายนั้นอย่างโดดเด่น

แต่ก็มีอีกหลายๆคน…ที่ถ้าถามว่า…
"คุณเก่งอะไรเป็นพิเศษ" ??
จะตอบคำถามนี้ไม่ถูก…เพราะก็ทำได้หลายอย่าง
ถ้าจะให้ตอบว่าเก่งอะไรเป็นพิเศษน่ะหรอ…เอ่อ…. (บอกไม่ถูกอ้ะ)

หลายๆครั้ง เราจะได้ยินประโยคที่ว่า…
เวลาจะทำอะไรอย่าทำเหมือน "เป็ด"
จะทำอะไรก็ทำเฉพาะด้านไปเลย มุ่งมั่นทางอย่างเดียวไปเลย

และการเป็น Specialist ในทางหนึ่ง ดีกว่าทำเป็นหลายๆอย่าง แต่ไม่ชำนาญขั้นสุดซักอย่าง

คำถามก็คือ… มันดีกว่า จริงๆเหรอ …?

ปัญหานี้เป็น ประเด็นที่ เอมิลี่ (Emilie Wapnick)
นำมาพูดในเวที TED TALK ของเธอซึ่งมีคนดูกว่า 7 ล้านครั้ง

เธอบอกว่า หลายๆครั้งเราได้รับแรงกดดันจาก ความเชื่อทางสังคม
ให้หาตัวตนเพียง "หนึ่งเดียว" ของตัวเองให้เจอ ด้วยคำถามยอดฮิตที่ทุกคนต้องเคยถูกถาม
"โตขึ้น หนูอยากเป็นอะไรจ้ะ ?"

แล้วพอคำตอบของคุณหนูๆ มีมากมายหลายอย่าง เช่น

"หนูอยากเป็นจิตแพทย์ และอยากเป็นนักไวโอลีนนนนนด้วยย"

ผู้ใหญ่ก็มักให้คำตอบว่า
"ไม่ๆ… หนูไม่สามารถเป็นสองอย่างในเวลาเดียวกันได้หรอกนะ หนูต้องเลือกสักอย่าง "

ราวกับว่า… คนเราเกิดมาต้องเลือกเติบโตไปเป็น "ตัวตน" เดียวเท่านั้น
ถึงจะเก่งและ Success ในชีวิตได้ และความเชื่อแบบนี้ก็ถูกฝังต่อๆกันมา

พอมีความเชื่อแบบนี้… คนกลุ่มที่ยังไม่ได้ปักหลักกับการทำอะไรแค่อย่างหนึ่ง เลยมักจะรู้สึกผิดกับตัวเอง

เอมิลี่เล่าว่า… เธอเองก็เป็นคนที่ ไม่เคยทำอะไรจริงๆจังได้หลายๆปีเลย ทุกครั้งที่เธอสนใจอะไร เธอจะทุ่มเทกับมันได้ซักระยะ หลังจากนั้นจะเริ่มเบื่อ แล้วไปสนใจอย่างอื่นแทน วนลูปแบบนี้ปีแล้วปีเล่า จนเธอรู้สึกว่า การเป็นคนแบบนี้ คือคนทำอะไรไม่สำเร็จ ยอมแพ้เร็วเกิน Focus อะไรไม่ได้ซักอย่าง
แต่สุดท้ายเธอก็ค้นพบว่า "…มันไม่จริง"

เอมิลี่ ยอมรับว่า… จริงอยู่อาจมีหลายๆคนเกิดมาเพื่อเป็น Specialist (เชี่ยวชาญ) ในทางๆหนึ่งไปเลย

แต่ก็มีอีกหลายๆคนเลยหล่ะ ที่รู้สึกว่าตัวเองทำอะไรได้หลายๆอย่าง
มีความสนใจหลายอย่าง และไม่อยากจมปลักอยู่กับแค่สิ่งๆเดียว
เธอเรียกคนกลุ่มนี้ว่า "Multipotentialite"

และคนกลุ่มนี้ก็สามารถประสบความสำเร็จได้เช่นกัน

เธอได้ยกตัวอย่าง ดร.บ็อบ ชายส์ ที่เป็นทั้งช่างซ่อมเครื่องสาย และนักบำบัดจิต

และก็อีกหลายคนดังๆ เช่น ริชาร์ด แบรนด์สัน ที่ทำทั้งธุรกิจสายการบิน ฟิตเนส และดนตรี ซึ่งดูแล้วแต่ละอย่างไม่เกี่ยวข้องกันเลย

อีกตัวอย่างหนึ่งคือ Timferris ที่หลายคนรู้จักในนามนักเขียนหนังสือชื่อดังอย่าง 4 Hours work week แต่ที่คนไม่รู้คือ Tim เป็นนักเต้น Tango และเป็นนักกีฬา Kick boxing อีกด้วย


แน่นอนว่า.. การทุ่มเททำอะไรอย่างเดียวไปเลย อาจมีข้อดีหลายอย่าง
แต่การทำหลายๆอย่าง อย่าง Mutipotentialite ก็มีข้อได้เปรียบหลายๆอย่างไม่น้อยหน้าเช่นกัน

และถ้าคนกลุ่มนี้รู้จุดแข็งของตัวเอง และปรับไปใช้ ก็จะเกิดประโยชน์มากมาย และนี่ก็คือ….

# 3 ข้อได้เปรียบของมนุษย์สาย Multipotentialite #

1
เป็นนักสร้างสรรค์ไอเดียที่ดี
เพราะเคยทำมาหลายอย่าง มีประสบกาณ์หลากหลายด้านกว่าคนอื่น ถ้าพยายามสังเกตสิ่งที่เคยทำมาดีๆ จะมุมมองที่แตกต่าง ค้นเจอเอกลักษณ์หรือเสน่ห์ของแต่ละสิ่ง ซึ่งเอามาประกอบร่างกันได้ จะเกิดเป็นไอเดียแบบใหม่ได้มากมายและน่าสนใจทีเดียว

2
เรียนรู้ได้รวดเร็วกว่า
เพราะว่า คนประเภทนี้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆตลอดอยู่แล้ว ซึ่ง Skill บางอย่างที่เคยเรียนมา (แม้จะเป็นสมัครเล่น) แต่ก็กลายเป็นพื้นฐานใน Skill อีกอย่างได้ แปลว่าเค้าไม่ต้องเริ่มจาก 0 สามารถต่อยอดได้อย่างรวดเร็ว

3
ปรับตัวเก่ง
เพราะ สนใจหลายด้าน เจอคนหลายกลุ่ม ผ่านสถานการณ์มาหลายรูปแบบ ทำให้มีทักษะพร้อมปรับตัวได้ตลอดเวลา ซึ่งเป็นอะไรที่เหมาะกับโลกยุคนี้มากๆ เพราะทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเร็วเหลือเกิน คนที่เตรียมพร้อมปรับตัวอยู่ตลอด จะได้เปรียบคนอื่น

พออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว…มีใครคิดว่าตัวเองเป็นสาย Multipotentialite มั้ยฮะ ..?
พิมพ์คำว่า "Multi" มาในคอมเม้นท์เลยฮะ

ถ้ามีสายนี้เยอะ จะเขียนบทความเกี่ยวกับหนังสือของเอมิลี่
ที่ขยายความเรื่องนี้ต่อ...ว่าแปลงไปเป็นทักษะอะไรได้บ้าง

จริงๆแล้วโลกเราก็มีคนหลากหลาย แต่ไม่ว่าใครจะเป็นยังไง
ทุกคนล้วนมีข้อดีของตัวเอง "สำคัญคือต้องรู้ตัวเอง "

เมื่อรู้จักตัวเองแล้ว จะได้ใช้จุดแข็งของตัวเองได้ถูกที่ถูกทาง
และเมื่อนั้น เราจะพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว

เอาละ...ขอให้ทุกคนสนุกสนานกับการพัฒนาตัวเอง
แล้วเจอกันในบทความต่อไปนะครับบบบ

อาเหลียง :)

23/03/2021

23/03/2021

📣 รับผลิต/สร้างแบรนด์น้ำดื่ม ( OEM ) ลูกค้า
- ดำเนินการขออนุญาติจดแจ้ง อย. ฟรี
- ออกแบบดีไซน์ฉลากสวม/สกรีน ฟรี
ติดต่อ : 084 173 5621
♦️จะดื่มน้ำแบรนด์อื่นทำไม ?
ในเมื่อคุณสามารถสร้างน้ำดื่มแบรนด์ชื่อคุณเองได้
ไม่ยุ่งยากอีกต่อไป 🔊
#ผลิตแบรนด์ตัวเอง #น้ำดื่ม #บริการส่งถึงที่ #งานแต่ง #งานบวช #ร้านอาหาร #บรรจุภัณฑ์ #เครื่องดื่ม