24/10/2025
📌คำสอน “ทรงพลัง” ที่หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ ท่านได้กล่าวไว้อย่างเรียบง่ายแต่ลึกซึ้งที่สุดเรื่อง “ความกลัว”
---
🌿 “คนเราทุกวันนี้กลัวทุกข์ จึงดิ้นรนหาความสุข”
เรียนหนังสือมากขึ้น สอบปริญญา ทำงานหาเงินเดือนมากขึ้น
แต่ทั้งหมดนั้นก็เพราะ “กลัวทุกข์”
และเพราะมัวกลัวอยู่เช่นนั้น
จึงไม่รู้ตัวว่าทุกข์ที่แท้มันเกิดจากความคิดของเราเอง
หลวงพ่อเทียนท่านชี้ไว้ตรงๆ
> “กลัวให้กลัวความคิด กลัวภายในตัวเองนี่แหละ
เพราะความคิดมันหลอก มันยกตัวเราได้สบาย
หลอกให้เราทุกข์ หลอกให้เรากลัว”
เมื่อเราหันมารู้ตัว เห็นความคิดของตัวเอง
ความกลัว ความกังวล ความเศร้าหมอง — มันดับลงได้เอง
---
🪶 การเจริญสติ ไม่ใช่เรื่องของพิธีกรรม แต่คือการรู้สึกตัว
รู้ทันความคิดที่ผุดขึ้นในใจ
เห็นว่ามันเกิดอยู่ตรงนี้ แล้วดับไปตรงนี้
หลวงพ่อจึงว่า
> “มาทำความเคลื่อนไหว เพื่อให้รู้สึกตัว รู้แจ้ง รู้จริง
ฝึกให้มีสติว่องไว จิตผ่องใส
เมื่อตัดสินใจลงมือทำอะไร งานนั้นก็สำเร็จ ไม่ค้างมือ”
---
สุดท้ายหลวงพ่อฝากไว้
> “จิตต่ำก็เป็นผี จิตสูงก็เป็นเทวดา
เมื่อใดจิตเราสูง เมื่อนั้นเราก็เป็นเทวดาแล้ว”
---
คำสอนนี้ไม่ได้อยู่ในหนังสือ หากอยู่ใน “การรู้สึกตัวในขณะนี้”
เมื่อเรารู้เท่าทันความคิด — ผีที่อยู่ในใจก็ดับไป
เทวดาก็เกิดขึ้นในเดี๋ยวนั้นเอง
Cr. Aramboy Watsanamjai
#หลวงพ่อเทียน #เจริญสติแบบเคลื่อนไหว #รู้สึกตัว #ธรรมะภายใน #สติในชีวิตประจำวัน #ไม่กลัวความคิด #ผีในใจ #เทวดาในใจ
#สวนธรรมสากล
“บัดนี้คนกลัวทุกข์
บัดนี้ก็ต้องไปเข้าโรงเรียน เรียนหนังสือมาก ๆ
สอบไล่ได้ปริญญาตรี-ปริญญาโท-ปริญญาเอก เพื่อกันทุกข์
กลัวทุกข์นั่นแหละ
แล้วบัดนี้**ทุกข์เกิดขึ้น เลยบ่รู้จัก-บ่รู้สึกตัวเลย**
บัดนี้คนหาเงินเดือนก็คือกัน เงินเดือนร้อย-พัน-หมื่นก็ตามช่าง
เพื่อกันทุกข์-กลัวทุกข์นั่นเอง จึงว่าเราบ่รู้จัก
ให้เข้าใจว่า เราเรียนหนังสือเรียน-เพื่อหน้าที่ของเราเรียน
เข้าใจจังซี่ บ่คิดว่าสิเฮ็ดหยัง-เรียนเพื่อว่าหน้าที่
เพราะทุกคนเกิดมาต้องเรียน
บัดนี้การหาเงิน-หาทองก็เช่นเดียวกัน หาเพื่อหน้าที่
เพราะคนมันต้องมีการหา การทำมาหากินเลี้ยงชีพ
เพิ่นว่า ทุกคนต้องรู้อย่างนี้
ดังนั้น **พระพุทธเจ้าจึงสอนให้คนกลัวสิ่งที่อยู่ในตัวเฮานี้
ครั้นถ้ากลัว-บ่ต้องกลัวข้างนอก กลัวความคิดนี่เอง**
ความคิดนี้ น้ำหนักยี่สิบ-สามสิบกิโล หรือห้าสิบ-หกสิบกิโลก็ตาม
น้ำหนักของคน-มันเอาไปได้ มันยกไปได้สบาย-ยกตัวเฮานี่ไปได้สบาย
**ผู้ใดหากบ่เห็นความคิดตัวเอง ความคิดตัวเองก็หลอก
หลอกเฮาให้กลัว หลอกเฮาให้ทำอย่างนั้น-หลอกเฮาให้ทำอย่างนี้
มันหลอกเฮา จึงว่าถ้ากลัว-ให้กลัวภายในเฮานี่โลด
เอาชนะภายในเฮานี้ เมื่อเฮาเอาชนะความคิดที่ปรุงแต่งภายในนี่แล้ว
ความกลัวก็หมด ความสงสัยลังเลใจ-กังวลก็หมด
และความเศร้าหมองซึมเซา-หดหู่ ก็หมดเหมือนกัน
ถ้าเราเห็นความคิดเราจริง ๆ แล้ว**
**ดังนั้นมาเจริญวิปัสสนา เจริญกรรมฐานก็ตาม
มาทำความเคลื่อนไหวนี่-เพื่อให้รู้สึกตัว รู้แจ้ง-รู้จริง
ฝึกหัดให้มีสติว่องไว ให้มีจิตผ่องใส
เพิ่นว่าจิตใจเฮานี่แหละผ่องใส นึกคิดอันใด…ก็เห็น-ก็รู้**
การทำการ-ทำงาน พูด-คิด
เมื่อตัดสินใจลงไปแล้ว การงานนั้นก็ไม่ค้างมือได้
ต้องลุล่วงไปได้ หรือแล้วไปได้
คนที่ทำการ-ทำงานค้างมือเอาไว้ งานบ่แล้ว-มันทุกข์
ก็เพราะบ่เห็นจิต-บ่เห็นใจนี่เอง
เมื่อจิตใจเศร้าหมอง-โงกง่วงหดฮู่ ว่าซั่น…บ้านหลวงพ่อว่าหดฮู่-ว่าซั่น
ทางนี้ขเจ้าสอนว่า-อย่าสู่ว่าหดฮู่เนาะหลวงพ่อ หดหู่ว่าซั่น-ขเจ้ามาบอกให้
ญาพ่อก็จำได้-อันนี้เป็นความจำซื่อ ๆ
ดังนั้น**คนเราต้องมีสัญญาเกิดมาจากธรรมชาติมันจริง ๆ
เมื่อเรามีสัญญาเกิดมาจากธรรมชาติจริง ๆ แล้ว
สิ่งนั้นแหละ เราจะรู้แจ้ง-เห็นจริงตามความเป็นจริง
ท่านว่าการพูดธรรมะมื้อนี้ คล้าย ๆ คือหงายของที่คว่ำหน้าอยู่นี้
ของที่บิดเกลียว-มันอัดแน่นอยู่ คล้าย ๆ คือเฮามายออกจังซี่ล่ะ**
บ้านหลวงพ่อเคยถือผี-ถือมเหศักดิ์หลักคุณ ว่าซั่น
ขเจ้าว่านั่นแหละผีบ้านผีเมือง-ผีปู่ ผีหลาย
บ้านหลวงพ่อ…ขเจ้าฆ่าควายให้กิน-ฆ่าเลี้ยงผี ฆ่าหมู-ฆ่าควายให้กิน
ครั้นถ้ามันเป็นโรคอหิวา-เพิ่นว่าเอิ้นผีห่า ไปล้อมรั้วแล้วผีไปกันให้-เป็นจังซั่น
ผีกัน-ผีห่า บ่ให้เข้ามา…ก็เฮ็ดนำเพิ่น-ญาพ่อ
เฮือนมนต์รักษากันผี ก็เฮ็ดนำเพิ่น-ก็ได้เรียนนำเพิ่น
อันนั้นแสดงว่าเจ้าของบ่ฮู้จัก เฮ้ดนำเพิ่นซื่อ ๆ
ผีมันดีจังใด๋-เฮาฮู้จักโลด ฟังหลวงพ่อว่านี้-พิจารณาให้เห็นแจ้งรู้จริง
ผีบ้านผีเมือง-ผีมเหศักดิ์หลักคุณ ผีหยังก็ช่างเถอะ
เฮาปลูกตูบ-ปลูกศาลพระภูมิให้อยู่ บ้านหลวงพ่อบ่ได้ใช้อิฐหินดินปูนจั่งซี
ใช้ไม้ฝังให้เป็นเสา ก็เอาหญ้ามามุงแล้วก็เอาไปแอ้ม
ปลวกขึ้นไปกัด-ไปกิน มันก็บ่ไล่ได้-ผี
หญ้าก็กัดหมด ฝนตกก็รั่ว-ก็บ่หยดบ่หยาอีหยัง
ในบริเวณบ้านก็รก หญ้าก็ป่งขึ้นมา
ใบไม้ขูลงฮั้น ก็บ่ปัด-บ่กวาด…เป็นหยัง ?
นี่แสดงว่าผีบ่มีประโยชน์หยังเท่าใด เฮาย่านเอาซื่อ ๆ นี่
ผีที่อยู่ภายในจิตใจเฮานั้นโลด บ่ฮู้จัก
ฉะนั้นคนจิตใจต่ำ ก็เอิ้นเรียกว่าผี-เพิ่นว่า
จิตใจสูง เพิ่นเอิ้นเรียกว่าเทวดา-เพิ่นว่า
ดังนั้นจิตใจต่ำ เป็นผี
ถ้าหากผู้ใดยังจิตใจต่ำอยู่-ก็แสดงว่าตัวเองยังเป็นผีอยู่ เพิ่นว่าจังซั่น
ถ้าหากจิตใจสูงเมื่อใดแล้ว ตัวเองก็เป็นเทวดา
แล้วละอายการเฮ็ด-การทำสิ่งนั้น เพิ่นว่าจังซั่น…”
หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ