13/10/2025
“ตาบอดสี”🔴⚫️ เป็นหนึ่งในโรคที่ทุกคนเคยได้ยินกันอยู่บ่อยๆ แต่มักจะเข้าใจผิดว่า ผู้ที่มีตาบอดสีจะต้องมองเห็นแต่สีขาวกับสีดำ ไม่สามารถมองเห็นสีอื่นๆได้
แต่แท้ที่จริงแล้ว ผู้ที่เป็นโรคตาบอดสีไม่ได้เป็นเช่นนั้นไปทั้งหมด บางรายยังคงสามารถมองเห็นสีได้ มีเพียงแค่บางสีที่จะมีการมองเห็นที่ผิดเพี้ยนไป และเกิดความยากลำบากในการแยกแยะสีขึ้นด้วย
❓ตาบอดสี (Color Blindness)❓
โรคตาบอดสี คือ ความบกพร่องทางการมองเห็นสีต่างๆ ซึ่งมีความสัมพันธ์กับความสามารถในการจำแนกแยกแยะสี โดยแต่ละคนอาจมีลักษณะของตาบอดสีที่แตกต่างกัน เช่น ไม่สามารถมองเห็นสีแดงได้ หรือในบางรายอาจไม่สามารถมองเห็นสีเขียว หรือสีน้ำเงินได้ชัดเจน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถมองเห็นสีใดสีหนึ่งได้ชัดเจน แต่เรื่องของวัตถุ รูปร่าง การมองเห็นภาพ ยังคงชัดเจนเหมือนกับคนปกติทั่วไป จึงทำให้ตาบอดสีไม่รุนแรงถึงแก่ชีวิต เพียงแต่จะเกิดการรบกวนในการใช้ชีวิตประจำวันค่อนข้างมาก ซึ่งโรคตาบอดสีนี้ มักพบได้ในเพศชายมากกว่าเพศหญิง
❓ตาบอดสีเกิดจากสาเหตุใด❓
โรคตาบอดสีเกิดจากความบกพร่องของเซลล์รับรู้การเห็นสี (Photoreceptor) ภายในดวงตา ที่มีการทำงานที่ผิดปกติไป ทำให้สีภาพที่แสดงออกมา มีความผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง
การที่เรามองเห็นสีต่างๆ มาจากความยาวคลื่นแสงที่มีขนาดแตกต่างกัน มากระทบเข้าสู่ดวงตาของเรา โดยเซลล์รูปแท่ง (Rod Cell) จะอยู่บริเวณรอบๆขอบจอตา เพื่อทำให้เราสามารถมองเห็นในที่แสงสว่างน้อยๆ ได้ ซึ่งเซลล์นี้จะทำให้มองเห็นเป็นภาพขาว-ดำ
ส่วนเซลล์รูปกรวย (Cone Cell) เป็นเซลล์ที่อยู่อย่างหนาแน่นตรงส่วนกลางของจอประสาทตา ทำหน้าที่ในการมองเห็นสี สีขาว-สีดำ และมองเห็นภาพในพื้นที่ที่มีแสงสว่าง โดยมีอยู่ 3 ชนิด คือ เซลล์รูปกรวยสีแดง สีเขียว และสีน้ำเงิน ซึ่งหากเซลล์ใดมีการทำงานผิดปกติไป ก็จะทำให้การมองเห็นสีมีความผิดปกติต่างไปจากที่เป็นจริงด้วยเช่นกัน
ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคตาบอดสี
-เซลล์เสื่อมสภาพตามอายุ
-พันธุกรรม โดยมักจะพบผู้ที่มีตาบอดสีเขียวและสีแดง
-โรคทางกาย มีผลกระทบต่อการมองเห็นสีของดวงตา เช่น โรคต้อหิน โรคต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อม โรคเบาหวาน โรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน ฯลฯ
-เกิดอุบัติเหตุกระทบบริเวณดวงตา หรือดวงตาได้รับการบาดเจ็บ เสียหาย
-ผลข้างเคียงจากยา เช่น ยาต้านอาการทางจิต ยาปฏิชีวนะ
-สารเคมีบางชนิด เช่น สาร Styrene ในพลาสติกหรือโฟมต่างๆ
❓ตาบอดสีมีกี่ประเภท❓
ในทางวิชาการ โรคตาบอดสี ถูกจัดออกเป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้
1. ตาบอดสีแดง - เขียว (Red-green Color Blindness)
ตาบอดสีที่พบบ่อย คือ อาการตาบอดสีแดงและตาบอดสีเขียว โดยผู้ที่มีอาการตาบอดสีประเภทนี้ จะมีความยากลำบากในการแยกระหว่างสีแดงกับสีเขียวออกจากกัน
2. ตาบอดสีน้ำเงิน - เหลือง (Blue-yellow Color Blindness)
การตาบอดสีฟ้าหรือสีน้ำเงิน และตาบอดสีเหลือง จะทำให้บุคคลที่ตาบอดสีประเภทนี้ มีความยากลำบากในการแยกแยะสีน้ำเงินกับสีเขียว และสีเหลืองกับสีแดง ซึ่งจะพบคนที่ตาบอดสีประเภทนี้ได้ไม่บ่อยเท่าแบบประเภทแรก และมักเกิดจากโรคต่างๆมากกว่า
3. ตาบอดสีทั้งหมด (Complete Color Blindness)
ผู้ที่มีอาการตาบอดสีทั้งหมด หรือเรียกอีกอย่างว่า Monochromacy คือ การที่เซลล์รูปกรวย (Cone cell) ทั้งหมดไม่ทำงาน หรือขาดหายไปจากดวงตา ซึ่งปัจจุบัน บุคคลที่เป็นตาบอดสีประเภทนี้พบได้น้อยมาก
สีที่คนตาบอดสีเห็น จะกลายเป็นโทนสีเทาทั้งหมด และสีของภาพอาจมีการมองเห็นสลับสีกัน ได้แก่ ระหว่างสีเขียวกับสีน้ำเงิน สีแดงกับสีดำ สีเหลืองกับสีขาว บางรายอาจมีปัญหาเกี่ยวกับความไวต่อแสงของดวงตาอีกด้วย
❓วิธีสังเกตอาการตาบอดสี❓
👉มีความยากลำบากในการแยกสีต่างๆในชีวิตประจำวัน
👉ไม่สามารถจดจำ หรือบอกสีต่างๆได้อย่างถูกต้อง
👉ยังคงมองเห็นสีได้หลากหลายสี เพียงแต่สีที่เห็นมีความแตกต่างไปจากคนอื่น
👉มีการมองเห็นสีที่จำกัดเพียงแค่บางโทนสี
👉ภาพที่มองเห็นมีเพียงแค่ สีขาว สีดำ หรือสีเทา เท่านั้น
❓ตาบอดสีรักษาได้ไหม❓
หลายๆคนอาจมีความสงสัยว่า หากเป็นโรคตาบอดสีจะรักษาได้ไหม?
การรักษาตาบอดสี ไม่สามารถรักษาให้หายไปได้ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ตาบอดสีจากพันธุกรรม เพราะการที่เราตาบอดสี เกิดจากการที่เซลล์รูปกรวย (Cone Cell) น้อย หรือขาดหายไป ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีสิ่งใดมาทดแทนได้
ส่วนคนที่ตาบอดสีหลังจากเป็นโรค หรือรับประทานยาบางชนิด ควรเข้าปรึกษาแพทย์ผู้ดูแล เพื่อวางแผนและรักษาโรคที่เป็นสาเหตุ เมื่อโรคมีความทุเลาลง ก็มีโอกาสที่จะทำให้การมองเห็นภาพสีดีขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม เรายังสามารถใช้อุปกรณ์เสริมช่วยเหลือ หรือบรรเทาอาการตาบอดสี ในบางสถานการณ์ได้ เช่น การสวมใส่แว่นกรองสี หรือคอนแทคเลนส์สีชั่วคราว เพื่อทำให้คู่สีที่เราสับสนเข้มมากขึ้น เมื่อความเข้มของสีเพิ่มขึ้น จะช่วยให้ทำกิจกรรมต่างๆที่ต้องแยกสีได้ดีขึ้นในระดับหนึ่ง
-------------------------------------------------------------------
การที่เป็นโรคตาบอดสี ทำให้ชีวิตประจำวันถูกรบกวน และได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ การต้องเลือกประกอบอาชีพอย่างจำกัด ซึ่งตาบอดสีนี้เป็นเรื่องที่ไม่สามารถรักษาได้ แต่สามารถใช้อุปกรณ์ในการช่วยเหลือต่างๆได้ เช่น การใส่แว่นกรองแสง คอนแทคเลนส์กรองสี ฯลฯ
-------------------------------------------------------------------
การทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อดวงตาเเละทานสารอาหารที่เสริมสร้างความแข็งแรงให้ดวงตาก็เป็นสิ่งสำคัญ
ทาน “ดีคอนแทคเอ็กซ์” ✨💛👁️✔️ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาดวงตาทุกชนิด
อย่างที่เราบอกว่า ดวงตานั้นมีเพียงคู่เดียว การดูแลรักษาดวงตาให้ดีจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลยนะคะ ใครที่ต้องทำงานอยู่หน้าจอนานๆ อย่าลืมเอาคำแนะนำไปลองทำตาม และทางที่ดีควรไปตรวจเช็กสุขภาพดวงตาอย่างน้อยปีละครั้ง เผื่อพอเจอสิ่งผิดปกติ คุณหมอจะได้ช่วยรักษาให้ทัน ดวงตาจะได้สุขภาพดี และอยู่กับเราไปนานๆ
-----------------------------------------------
Cr. ข้อมูลวิชาการส่วนหนึ่งจาก : samitivejchinatown . c o m
-----------------------------------------------
📍ปรึกษา / สอบถาม / สั่งซื้อสินค้า
📞โทร : 084-555-7704
💬แอดไลน์ :
ปรึกษาวิธีการทาน
👇🏻คลิ๊กที่นี่เพื่อสอบถาม👇🏻
แอดไลน์ 👉 http://line.me/ti/p/
🙏🏻ส่งสติ๊กเกอร์หรือข้อความทักทายเรามาได้เลยค่ะ🙏🏻
สั่งซื้อออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่นี่
D-CONTACT X ดี คอนแทค เอ็กซ์ https://share.dnwplatform.com/7txP
https://share.dnwplatform.com/7txP
📲โทร 084-5557704 คุณแซนดี้
#ดีคอนแทคเอ็กซ์ #ดีคอนแทค #ค้นตา #เคืองตา #ตาพร่ามัว #ตามองไม่ชัด #ต้อลม #ต้อเนื้อ #ต้อกระจก #ต้อหิน #วุ้นในตาเสื่อม #สายตายาว #สายตาสั้น #มองเห็นภาพซ้อน #เขาทรายแกแล็กซี่ #ดีเน็ทเวิร์ค #คุณแซนดี้ดีคอนแทคเอ็กซ์