CHEEWA HERBS แพทย์เวชกรรมไทย ศาสตร์แห่งแพทย์เวชกรรมไทยและนิติปรัชญา

18/11/2025

•✨ ๑๔๐ ปีแห่งวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร✨•

(๑๒ พฤศจิกายน ๒๔๒๘ - ๒๕๖๘)

• อธิบดีกรมมหาวิทยาลัยพระองค์แรก •

พระบรมวงศ์พระองค์สำคัญ ผู้เริ่มต้นก่อร่าง เสริมสร้าง สนับสนุนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาตั้งแต่แรกตั้ง คือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ผู้ทรงเป็นอธิบดีกรมมหาวิทยาลัยพระองค์แรก

สมเด็จฯ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ประสูติเมื่อวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๔๒๘ เมื่อเจ้าจอมมารดา หม่อมราชวงศ์เนื่องในรัชกาลที่ ๕ ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๔๒๘ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงอุ้มพระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ มาพระราชทานสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี เพื่อทรงรับอุปการะ รวมถึงพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเยาวภาพงศ์สนิท พระเชษฐภคินี

เมื่อเจริญพระวัย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ไปศึกษาต่อ ชั้นมัธยม ณ เมืองฮัสเบอรสตัด ประเทศเยอรมนี เมื่อพุทธศักราช ๒๔๔๒ จากนั้นทรงเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยไฮเดลแบร์ก โดยมีพระประสงค์ที่จะศึกษาวิชาแพทย์ แต่ในระยะแรกทรงศึกษาวิชากฎหมาย ตามพระบรมราชประสงค์ของรัชกาลที่ ๕ ต่อมาจึงทรงเปลี่ยนเป็นวิชาการศึกษา และวิชาที่เกี่ยวกับการแพทย์บางอย่างเป็นการส่วนพระองค์

ทรงรับราชการตำแหน่งผู้ช่วยปลัดทูลฉลองกระทรวงศึกษาธิการ และทรงเป็นผู้บัญชาการโรงเรียนราชแพทยาลัยเมื่อพุทธศักราช ๒๔๕๘ ทรงปรับปรุงและวางหลักสูตรให้เจริญก้าวหน้าอย่างมาก เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในพุทธศักราช ๒๔๕๙ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นชัยนาทนเรนทร ทรงเป็นอธิบดีกรมมหาวิทยาลัย เป็นพระองค์แรก หนึ่งในพระกรณียกิจสำคัญขณะทรงดำรงตำแหน่งนี้ คือทรงเริ่มต้นความร่วมมือทางวิชาการกับมูลนิธิรอกกีเฟลเลอร์ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต่อมาในพุทธศักราช ๒๔๗๓ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงตั้งคณะกรรมการดำริรูปการจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีพระเจ้าพี่ยาเธอ กรมขุนชัยนาทนเรนทร ทรงเป็นประธานกรรมการ

"...ส่วนพระดำริของพระเจ้าพี่ยาเธอ กรมขุนชัยนาทนเรนทรนั้น ทรงตรึกตรองดำริรูปการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไว้กว้างขวางยิ่งนัก ได้ทรงคิดโครงร่างเกี่ยวกับการบริหารของมหาวิทยาลัย เพื่อแก้ข้อขัดข้องที่มีอยู่ในเวลานั้น ได้ทรงคิดให้มี “สภาศาสตราจารย์ (Senate)” ขึ้น มีหน้าที่ที่ต้องทราบกิจการเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยทุกอย่าง ทั้งทางธุรการ และวิชาการ

ทรงคิดให้มีสภามหาวิทยาลัยประกอบด้วยผู้แทนอาจารย์ และผู้แทนกระทรวงทบวงกรมอื่น ๆ เป็นสมาชิก เป็นสภาที่มีสิทธิ์ที่จะสอบถามและแสดงความเห็นติชมแนะนำได้ทุกประการ

ทรงเห็นว่า เพื่อความยั่งยืนของมหาวิทยาลัย สมควรขอรับพระราชทานที่ดิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยอันยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของพระคลังข้างที่ เป็นสิทธิ์ขาดแก่มหาวิทยาลัยเสีย

และนอกจากนั้นยังได้ทรงพระดำริเกี่ยวกับการที่จะจัดการศึกษาทั้งในคณะที่มีอยู่แล้วในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในบัดนั้น กับทั้งวิชาที่ควรจะสอนเพิ่มขึ้นในมหาวิทยาลัย เช่น “ธรรมศาสตร์ (Jurisprudence, Laws) วิชาเรื่องป่าไม้ (Forestry) วิชาเรื่องเหมืองแร่ (Mining) ศิลาศาสตร์ (Mineralalogy) โบราณคดี (Archaeology) ศิลปกรรมประณีต (Fine Arts) ดนตรี (Music)” เป็นต้น..."

(ความตอนหนึ่งจาก "๗๐ ปีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย : กำเนิดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย")

17/11/2025
17/11/2025

การเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในครั้งนี้ จะเป็นการกระชับสัมพันธไมตรีที่ใกล้ชิดระหว่างประเทศทั้งสองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นวาระพิเศษแห่งการเฉลิมฉลองการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ครบ ๕๐ ปี “จีน-ไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน”
🙏🏼🇨🇳🇹🇭 ขอพระองค์ทรงพระเจริญ มีพระชนมพรรษายิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ 🇹🇭🇨🇳🙏🏼

This State Visit to the People’s Republic of China of Their Majesties the King and Queen of the Kingdom of Thailand will strengthen even further the enduring friendship between the two countries and will, naturally, enhance the cordiality and mutual understanding in our people-to-people relations. Importantly, this State Visit are the auspicious for celebrating the 50th Anniversary of the establishment for our diplomatic relations.
🙏🏼🇨🇳🇹🇭 Long Live the King and the Queen 🇹🇭🇨🇳🙏🏼

17/11/2025
17/11/2025
16/11/2025

ความพิเศษและเกียรติยศสูงสุดที่จีนมีต่อไทย สะท้อนออกมาในวาระแห่งการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ระหว่างวันที่ ๑๓ - ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ รัฐบาลจีนได้ถวายต้อนรับอย่างสมพระเกียรติและเปี่ยมไปด้วยสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพอันลึกซึ้งที่จีนมีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ซึ่งเป็นมากกว่าพิธีการต้อนรับประมุขแห่งรัฐตามปกติทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด

ความพิเศษเหล่านี้สะท้อนผ่านรายละเอียดสำคัญที่ถูกนำมาปฏิบัติเพื่อแสดงความเคารพสูงสุดในระดับ “องค์พระประมุข”

​เริ่มตั้งแต่พิธีการต้อนรับอย่างเป็นทางการ ณ มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง ได้รับการจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีการยิงสลุต ๒๑ นัด ตามธรรมเนียมสูงสุดสากล แต่สิ่งที่สร้างความประทับใจอย่างยิ่ง คือการที่ทหารกองเกียรติยศของจีนได้เปล่งเสียง 向右看 敬礼 เซี่ยงโย่วค่าน จิ้งหลี่ ที่ได้ยินว่า ซ่งค่านจิ้งหลี่ (หันขวา ทำความเคารพ - อ่านเพิ่มเติมในหมายเหตุ)* คล้ายเสียงภาษาไทยที่ใช้ถวายพระพรชัยมงคลว่า “ทรงพระเจริญ”

อีกหนึ่งรายละเอียดที่เน้นย้ำถึงการถวายพระเกียรติยศสูงสุด คือการที่รัฐบาลจีนได้ดำเนินการเชิญ “ธงมหาราช” (ธงพระราชอิสริยยศประจำพระองค์พระมหากษัตริย์ไทย) ขึ้นสู่ยอดเสา เคียงคู่กับธงชาติจีนและธงชาติไทยในสถานที่ประทับ โดยปกติแล้ว การต้อนรับประมุขแห่งรัฐตามหลักปฏิบัติสากลจะเชิญเพียงธงชาติของผู้มาเยือนเท่านั้น การเชิญธงมหาราชขึ้นสู่ยอดเสาถือเป็นการปฏิบัติที่แสดงถึงการยกย่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในฐานะพระประมุขสูงสุดเทียบเท่ากับพระเกียรติยศของสมเด็จพระจักรพรรดิ

​ในการเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท มีการเลือกใช้คำราชาศัพท์ในภาษาจีนอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำว่า “ปี้เซี่ย” 陛下 ซึ่งเป็นคำที่ใช้เรียกพระมหากษัตริย์หรือสมเด็จพระจักรพรรดิ (เทียบเท่าคำว่า ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท) คำนี้เป็นคำราชาศัพท์ที่มีความสำคัญและมีระดับการใช้สูงสุด สะท้อนถึงการถวายพระเกียรติในระดับเดียวกับองค์จักรพรรดิในอดีตของจีน และเป็นการยืนยันถึงความเข้าใจและให้ความสำคัญต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยตามธรรมเนียมอย่างสมบูรณ์

ทั้งนี้ ในการสื่อสารกับประชาคมโลกอย่างเป็นทางการ รัฐบาลจีนได้ใช้คำที่แปลว่า “กษัตริย์” คือ ไท่หวาง 泰王 และ “พระราชินี” คือ ไท่กั๋ว หวางโฮ่ว 泰国王后 ในการเรียกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ตามหลักการทูตสากล ซึ่งเป็นการแยกสถานะของ “กษัตริย์” แห่งรัฐเอกราชออกจากคำว่า “จักรพรรดิ” หวงตี้ 皇帝 ที่สงวนไว้สำหรับพระประมุขในระบบจักรวรรดิจีน การเลือกใช้คำอย่างถูกต้องตามระเบียบ ควบคู่ไปกับการถวายคำราชาศัพท์สูงสุดว่า “ปี้เซี่ย” 陛下 จึงเป็นการแสดงออกถึงการถวายความเคารพต่อพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ไทยในฐานะประมุขสูงสุดของประเทศอย่างสมบูรณ์ที่สุด

​ความพิเศษทั้งหมดนี้เป็นเครื่องตอกย้ำถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและยาวนานระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ในวาระการครบรอบ ๕๐ ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต และเป็นการส่งสาส์นที่ชัดเจนว่าความผูกพันในระดับราชวงศ์และระดับประชาชนยังคงเป็นรากฐานอันแข็งแกร่งระหว่างสองประเทศตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

**หมายเหตุ**

*เดิมเข้าใจว่าทหารกองเกียรติยศเปล่งเสียงเป็นภาษาไทยว่า ทรงพระเจริญ แต่ได้รับการยืนยันจาก จนท.รัฐบาลจีนในปักกิ่ง ว่าเป็นการออกคำสั่ง 向右看 敬礼 เซี่ยงโย่วค่าน จิ้งหลี่ (หันขวา ทำความเคารพ) ที่เมื่อใช้สำเนียงเหนือจะได้ยินเป็น ซ่งค้านจิ้งหลี่ คล้ายกับคำว่า ทรงพระเจริญ อย่างไรก็ดี จนท.ฝ่ายจีนที่มาต้อนรับกับคณะ จนท.ฝ่ายไทย เล่าว่ามีความปลาบปลื้มที่ได้ร่วมเฝ้ารับเสด็จ และพร้อมใจกันแต่งกายไว้ทุกข์แด่สมเด็จพระพันปีหลวง ถือเป็นการถวายเกียรติให้ราชสำนักไทยด้วยความเคารพยิ่ง 🙏🙏🙏

เรื่อง: กองบรรณาธิการเพจเจริญกรุง

#ในหลวง #รัชกาลที่๑๐ #พระราชินีสุทิดา #เสด็จพระราชดําเนิน #เสด็จเยือนจีน #ความสัมพันธ์ไทยจีน #๕๐ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทยจีน #ไทย #จีน #ประวัติศาสตร์ #เจริญกรุง

ที่อยู่

Nakhon Si Thammarat

เวลาทำการ

เสาร์ 09:00 - 17:00
อาทิตย์ 09:00 - 17:00

เบอร์โทรศัพท์

+66611961651

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ CHEEWA HERBSผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram