Genomics Thailand

  • Home
  • Genomics Thailand

Genomics Thailand เพื่อสื่อสารการขับเคลื่อนงานตามแผนจีโนมิกส์ประเทศไทย และความเคลื่อนไหวในแวดวงการแพทย์จีโนมิกส์

📍 “ยีน” – “โรค” – “การแพทย์” 🧬 ปัจจุบันจึงยังมีความเจ็บป่วยและความรุนแรงจากโรคอีกนับไม่ถ้วนที่เรายังไม่เข้าใจ และต้องศึก...
21/08/2025

📍 “ยีน” – “โรค” – “การแพทย์”
🧬 ปัจจุบันจึงยังมีความเจ็บป่วยและความรุนแรงจากโรคอีกนับไม่ถ้วนที่เรายังไม่เข้าใจ และต้องศึกษาต่อไปว่าการเจ็บป่วยนั้นมาจากสาเหตุใด หรือเหตุใดจึงเกิดกับคนนี้ แต่ไม่เกิดขึ้นกับอีกคน

🧬 ดังนั้น เมื่อบางโรคหรือเจ็บป่วยโดยไม่รู้สาเหตุก็ทำให้ไม่ทราบถึงวิธีการป้องกัน ในแต่ละปีจึงมีผู้เสียชีวิตจากสิ่งเหล่านี้เป็นจำนวนมากหรือมารู้ตัวก็ป่วยเป็นโรคแล้ว ตัวอย่างในสถานการณ์ COVID-19 ที่กว่าเราจะทราบวิธีป้องกันและรักษาได้ ต้องมีผู้เสียชีวิตไปจำนวนมาก โดยผลคำนวณจากฐานข้อมูลอัตราการตายทั่วโลก (World Mortality Database) ฐานข้อมูลอัตราการตายของมนุษย์ (Human Mortality Database) และข้อมูลของสำนักงานสถิติยุโรปชี้ว่า โดยรวมแล้วมีผู้เสียชีวิตจากโควิด 120 ราย ต่อจำนวนประชากรโลก 100,000 ราย หรือเท่ากับ 18.2 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าตัวเลขทางการที่ 5.9 ล้านคนถึง 3 เท่า

🔴 คำถามคือ เราทำอะไรได้บ้างเพื่อรับมือกับโรคร้าย ?
🧬 คำตอบก็คือ การศึกษาค้นคว้าถึงปัจจัยที่เราสามารถกำหนดหรือควบคุมได้ เช่นสิ่งที่อยู่ในร่างกายเราอย่าง ‘ยีน’ ผ่านการใช้เครื่องมือ ‘การถอดรหัสพันธุกรรม’ อย่างไรก็ดี ยีน ที่อยู่ในร่างกายไม่ได้มีแค่หลักสิบ หลักร้อย หรือหลักพัน แต่เป็นหลัก ‘พันล้าน’ ซึ่งเราจะเรียกรวมๆ ว่า “จีโนม” ส่วนการศึกษาจีโนม เรียกว่า “จีโนมิกส์” เป้าหมายของจีโนมิกส์ คือการยกระดับการแพทย์ไปสู่ ‘การวินิจฉัยที่ถูกต้องแม่นยำ’ และ 'ทำนายความเสี่ยง’ กล่าวคือ เป็นการศึกษาว่าเมื่อคนๆ หนึ่งมียีนแบบนี้ๆ หากเขาต้องไปเจอกับสิ่งเร้าที่อยู่ภายนอก เขาจะเกิดโรคหรือมีอาการกำเริบหรือไม่อย่างไร เพื่อท้ายที่สุดจะได้ ‘ป้องกัน’ ไม่ให้เกิดขึ้น รวมไปถึงการ ‘เลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม’
🧬 โดยในปัจจุบันเทคโนโลยีในการถอดลำดับยีนหรือสารพันธุกรรมมีความก้าวหน้ามากขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย ตลอดจนแพทย์ สามารถค้นพบการกลายพันธุ์ในยีนก่อโรคยีนใหม่ที่เป็นสาเหตุของโรคต่างๆ หรือแม้กระทั่งโรคที่หาพบได้ยากในคนไทย และคนในหลายๆประเทศทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การตรวจวินิจฉัยโรคและการดูแลรักษาปัจจุบัน พลิกเปลี่ยนไปสู่ยุคที่เรียกว่า “การแพทย์จีโนมิกส์” ซึ่งเป็นการดูแลรักษาที่จำเพาะเหมาะสมในแต่ละคนมากขึ้น โดยการนำเอายีน/พันธุกรรม มาประกอบการวินิจฉัยและดูแลรักษา ร่วมกับข้อมูลทางพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อมของผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยกลุ่มโรคทางพันธุกรรมหายาก โรคมะเร็ง โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง รวมทั้งยังสามารถหลีกเลี่ยงการแพ้ยาในผู้ป่วยแต่ละรายได้อีกด้วย
🧬 ยกตัวอย่างกลุ่มผู้ป่วยโรคหายากของประเทศไทย จากงานวิจัยปี 2564 ทีมวิจัยและนักวิทยาศาสตร์อีกกว่า 10 สถาบันทั่วประเทศ ได้เก็บข้อมูลยีนคนไทยจำนวน 1,092 ราย โดยจัดเก็บในฐานข้อมูลที่เรียกว่า The Thai Reference Exome (T-REx) ซึ่งถือเป็นฐานข้อมูลเก็บรหัสพันธุกรรมคนไทยในระดับละเอียดเช่นนี้เป็นครั้งแรก นับว่าเป็นเครื่องมือและวัตถุดิบข้อมูลสำคัญที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ประโยชน์ด้านการแพทย์ในอนาคต รวมถึงสถิติบ่งชี้ถึงลักษณะทางยีนหรือพันธุกรรมคนไทยที่น่าสนใจ อันจะเป็นประโยชน์กับบุคลากรเชี่ยวชาญด้านเวชพันธุศาสตร์ การพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม ตลอดจนโอกาสพัฒนาการวินิจฉัยโรคด้วยเทคโนโลยีจีโนม สำหรับช่วยตรวจพบสาเหตุของโรคที่แม่นยำทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นจากเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการดัดแปลงยีน หรือพัฒนาแนวทางการรักษาลงลึกไปถึงต้นน้ำ
🧬 โรคมะเร็ง เป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง ที่แม้ว่าเป็นมะเร็งโรคเดียวกันหรือชนิดเดียวกันหรือเป็นอวัยวะเดียวกัน แต่ก็พบว่ามีกลายพันธุ์ต่างกันจนทำให้เซลล์ปกติกลายเป็นเซลล์มะเร็งที่แตกต่างกัน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องรู้ถึงความผิดปกติทางพันธุกรรมของมะเร็ง โดยอาศัยข้อมูลทางพันธุกรรมหรือข้อมูลในระดับโมเลกุล มาใช้ในการตรวจวินิจฉัย การเลือกรูปแบบการรักษา การเลือกใช้ยา เพื่อหาวิธีในการยับยั้งเซลล์ที่เกิดการกลายพันธุ์ เพื่อแก้ไขความผิดปกติหรือสาเหตุการเกิดโรคมะเร็งได้ และที่สำคัญคือ การรักษามะเร็งมีอาวุธในการรักษาใหม่ๆ ได้แก่ ยามุ่งเป้า และภูมิคุ้มกันบำบัด 2 อย่างนี้ จึงจำเป็นต้องอาศัยพื้นฐานองค์ความรู้จากความผิดปกติทางพันธุกรรมมาพิจารณา และคาดหวังผลว่าการใช้ยาแม่นยำจะให้ผลการรักษาที่ดีกว่าเคมีบำบัด ปัจจุบันความผิดปกติการกลายพันธุ์ของยีนมะเร็งแต่ละสายพันธุ์มียาที่จะยับยั้งความผิดปกติได้ ฉะนั้นในภาพรวมการที่คนไข้ได้รับยาที่ตรงกับสาเหตุจะเกิดการตอบสนองต่อการรักษาได้ดีขึ้น เช่น โรคมะเร็งสมอง เป็นต้น

🔴 ที่มา
BBC News ไทย. โควิด-19 : ครบสองปีการระบาดใหญ่ทั่วโลก เผยยอดคนตายจริงกว่า 18 ล้าน สูงกว่ารายงาน 3 เท่า [ออนไลน์]. 2022, แหล่งที่มา : https://www.bbc.com/thai/international-60704630 (11 มีนาคม 2022)
Vorasuk Shotelersuk. (2021). The Thai reference exome (T-REx) variant database. Retrived September 8, 2021, from https://onlinelibrary.wiley.com/doi/abs/10.1111/cge.14060

📍 "ยีน" หลากหลาย : สร้างสิ่งมีชีวิตให้แตกต่างกัน 🧬 ปัจจุบันมีจำนวนโรค-กลุ่มอาการ หรือความเจ็บป่วยต่างๆ ที่มนุษยชาติค้นพบ...
29/07/2025

📍 "ยีน" หลากหลาย : สร้างสิ่งมีชีวิตให้แตกต่างกัน
🧬 ปัจจุบันมีจำนวนโรค-กลุ่มอาการ หรือความเจ็บป่วยต่างๆ ที่มนุษยชาติค้นพบและบันทึกเอาไว้มีมากกว่า 1.7 ล้านชนิด แม้ว่าตัวเลขจะดูมหาศาล แต่เชื่อว่าทุกวันนี้ยังมีโรค-กลุ่มอาการผิดปกติอีกไม่น้อยที่ยังไม่ถูกค้นพบหรือได้รับคำอธิบาย และมั่นใจได้เลยว่า ในอนาคตก็จะมีโรค-กลุ่มอาการใหม่ๆ เกิดขึ้นเช่นเดียวกับ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่เป็นเรื่องใหม่คุกคามสุขภาพของผู้คนทั่วโลกมาแล้ว
🧬 ไม่น่าเชื่อว่า ในจำนวนโรคร้ายมากกว่า 1.7 ล้านชนิดนี้ กลับมีองค์ประกอบที่ถือเป็น ‘จุดร่วม’ ที่น่าสนใจอยู่ 2 ส่วน คือ
1) ธรรมชาติหรือสภาพแวดล้อม เช่น สะดุดอิฐบนทางเท้าจนหกล้ม กิ่งไม้ตกใส่หัว ปอกแอปเปิ้ลแล้วมีดบาดนิ้ว ฯลฯ พูดให้ชัดก็คือ การเกิดอุบัติเหตุต่างๆ
2) ยีนหรือพันธุกรรม เช่น การเกิดมาพร้อมกับโรคปากแหว่งเพดานโหว่ โรคกระดูกพรุนแตกหักง่าย โรคเลือดจาง หรือธาลัสซีเมีย เป็นต้น
🧬 ทว่า ในบางครั้งทั้ง 2 ส่วนนี้ ก็อาจจับมือกันเพื่อเป็นปัจจัยร่วมที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาวะของมนุษย์ อย่างกรณีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ถือว่าเป็นปัจจัยทางธรรมชาติ แต่ก็พบด้วยว่า อาการความรุนแรงของผู้ที่ติดเชื้อมีความแตกต่างกันออกไป
🧬 ดังนั้น ในธรรมชาติ สิ่งมีชีวิตสปีชีส์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ หรือสัตว์ รวมไปถึงไวรัส ล้วนแล้วแต่ต้อง “พยายามอยู่รอด” โดยวิธีการที่ใช้คือ ทำให้แต่ละคนหรือแต่ละตัวมีความหลากหลายของสารพันธุกรรม เมื่อมีสิ่งมีชีวิตอื่นมาจู่โจมหรือสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไป ความแตกต่างของแต่ละคนนี้ จะทำให้บางคนสามารถปรับตัวให้รอดพ้นจากการจู่โจมหรือเปลี่ยนแปลงได้ เช่น เชื้อ COVID-19 หรือเชื้อไวรัส HIV ที่จู่โจมมวลมนุษยในขณะนั่น ต่อให้มีเชื้อ COVID-19 แพร่กระจายได้ง่ายกว่านี้ มนุษย์ก็ไม่สูญพันธุ์เพราะ ความหลากหลายของสารพันธุกรรมจะทำให้คนบางคนแม้จะได้รับเชื้อก็จะไม่ติดเชื้อ บางคนติดเชื้อได้ก็จะไม่เกิดอาการรุนแรง เป็นต้น เช่นเดียวกับการตอบสนองต่อวัคซีน บางคนฉีดวัคซีนแล้วไม่มีผลข้างเคียงใดๆ แต่บางคนมีผลข้างเคียงรุนแรง
🧬 เหล่านี้ล้วนมีส่วนมาจากความแตกต่างหลากหลายของสารพันธุกรรมในสิ่งมีชีวิตนั่นเอง ฉะนั้น ด้วยความซับซ้อนของสารพันธุกรรมนี้ จึงทำให้ยากต่อการวิเคราะห์ว่าตำแหน่งใดหรือตรงส่วนใดของสารพันธุกรรมทำหน้าที่อะไรบ้างในสิ่งมีชีวิตหนึ่งๆ
🧬 ด้วยเหตุนี้ ในปัจจุบันจึงยังมีความเจ็บป่วยและความรุนแรงจากโรคอีกนับไม่ถ้วนที่เรายังไม่เข้าใจ และต้องศึกษาต่อไปว่า เหตุใดจึงเกิดกับคนนี้ แต่ไม่เกิดขึ้นกับอีกคน

🔴 ที่มา : สัมภาษณ์ ศ.นพ.วรศักดิ์ โชติเลอศักดิ์, ผู้อำนวยการศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านทางด้านเวชพันธุศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. 20 กันยายน 2564

📍 มนุษย์มี 20,000 ยีน : โดยสารพันธุกรรม 1 ชุดมี 3,000 ล้านเบส🧬 มนุษย์มีโครโมโซม หรือ DNA 23 คู่ โดยครึ่งหนึ่งได้จากพ่อ อ...
24/07/2025

📍 มนุษย์มี 20,000 ยีน : โดยสารพันธุกรรม 1 ชุดมี 3,000 ล้านเบส
🧬 มนุษย์มีโครโมโซม หรือ DNA 23 คู่ โดยครึ่งหนึ่งได้จากพ่อ อีกครึ่งหนึ่งได้จากแม่ ทั้งนี้ในโครโมโซม จะมีสารพันธุกรรม (จีโนม) ที่เรียกว่า ยีน (Genes) ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานในการสร้างโปรตีนไปใช้ในการทำงานของเซลล์ต่างๆ ในอวัยวะของร่างกาย โดยมนุษย์จะมียีนรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 20,000 ถึง 25,000 ยีน
🧬 ประมาณการได้ว่า สารพันธุกรรม หนึ่งชุดจะมีข้อมูลลำดับเบสถึง 3,000 ล้านเบส หรือ 3,000 ล้านนิวคลีโอไทด์ (หน่วยย่อยของ DNA) ซึ่งถอดออกมาเป็นตัวอักษร A C G และ T หากนำตัวอักษรมาเรียงกันจะเปรียบได้เป็นหนังสือเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ (The Lord of the Rings) เล่มใหญ่ๆ ได้กว่า 30 เล่ม โดยในแต่ละตัวอักษรของแต่ละคนจะมีข้อมูลที่ส่วนใหญ่เหมือนกันกว่า 99.9% และส่วนน้อยมากที่แตกต่างกัน
🧬 ความซับซ้อนของสารพันธุกรรมนี้เอง ทำให้ยากต่อการวิเคราะห์ว่าตำแหน่งใดหรือตรงส่วนใดของสารพันธุกรรมทำหน้าที่อะไรบ้างในสิ่งมีชีวิตหนึ่งๆ
🧬 ปี พ.ศ. 2533 ถือเป็นปีที่เริ่มต้นโครงการวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่มากที่สุดของโลกโดยประเทศสหรัฐอเมริกา ในชื่อ “โครงการจีโนมมนุษย์” (The Human Genome Project) ซึ่ง “จีโนม” ที่ว่านี้หมายถึงสารพันธุกรรมทั้งหมดที่อยู่ในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตนั้นๆ เป็นโครงการทางเทคโนโลยีชีวภาพ ที่ได้ศึกษาจัดทำแผนที่ของจีโนมเพื่อวิเคราะห์ตำแหน่งของหน่วยพันธุกรรม หรือยีนในมนุษย์ ด้วยงบประมาณกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
🧬 โครงการดังกล่าว ได้สำเร็จลงในปี พ.ศ. 2546 ก่อให้เกิดการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ในทางชีววิทยา พันธุศาสตร์ และการแพทย์สมัยใหม่ ผลลัพธ์จากโครงการดังกล่าว คือฐานข้อมูลทางพันธุกรรมขนาดใหญ่ ที่นักวิจัยทั่วโลกสามารถเข้าถึง เพื่อนำไปศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับพันธุกรรมของมนุษย์ รวมถึงการหาสาเหตุของโรค การวินิจฉัย และแนวทางการป้องกันรักษา

🔴 ที่มา :
สัมภาษณ์ ศ.นพ.วรศักดิ์ โชติเลอศักดิ์, ผู้อำนวยการศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านทางด้านเวชพันธุศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. 20 กันยายน 2564
Matt Ridley, ถอดรหัสจีโนมมนุษย์ Genome : The Autobiography of a Species in 23 Chapters, แปลโดย ปณต ไกรโรจนานันท์ (กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์สารคดี, 2552), หน้า 3

23/07/2025

📍 Genomics Thailand ถอดรหัสพันธุกรรมคนไทย ครบแล้ว 50,000 ราย !!
🔬 โครงการจีโนมิกส์ประเทศไทย (Genomics Thailand) ที่ดำเนินงานภายใต้แผนปฏิบัติการบูรณาการจีโนมิกส์ประเทศไทย พ.ศ. 2563-2567 โดยมี สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) เป็นหน่วยงานกลาง ได้ร่วมกับ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ศูนย์บริการทดสอบทางการแพทย์ (บ.ไทยโอมิกส์) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) และโรงเรียนแพทย์/สถานพยาบาลในและนอกกระทรวงสาธารณสุข
🔴 ได้ดำเนินการถอดรหัสพันธุกรรมชาวไทย ครบจำนวน 50,000 ราย ในเดือนกรกฎาคม 2568 ตามเป้าหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจัดเป็นฐานข้อมูลพันธุกรรมขนาดใหญ่ที่สามารถนำไปใช้วิเคราะห์หาสาเหตุแห่งการเกิดโรค ทำให้เกิดการวินิจฉัย รักษาที่แม่นยำ อันจะช่วยยกระดับการดูแลสุขภาพและการรักษาพยาบาลของประเทศให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

#จีโนมิกส์ไทยแลนด์ #สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข #สวรส #การแพทย์แม่นยำ #กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ #สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ #ถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนม

05/07/2025
24/06/2025

🔴 ถอดรหัสชีวิต ไขปัญหา #โรคทางพันธุกรรม โดย รศ.พญ.ทิพยวิมล ทิมอรุณ สาขาวิชาเวชพันธุศาสตร์ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์

ที่มา :
Website: https://www.rama.mahidol.ac.th/ramach...
Facebook: / ramachannel

#รามาแชนแนล #โรคทางพันธุกรรม #จีโนมิกส์ประเทศไทย #สวรส #สำนักวิจัยและพัฒนาจีโนมิกส์

🔴 ผลงานวิจัยการพัฒนาวิธีการตรวจโรคลิชมาเนียแบบเร็ว📍 นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และประธานกรรมก...
12/06/2025

🔴 ผลงานวิจัยการพัฒนาวิธีการตรวจโรคลิชมาเนียแบบเร็ว
📍 นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และประธานกรรมการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข เยี่ยมชมนิทรรศการผลงาน "การพัฒนาวิธีการตรวจวินิจจัยโรคลิชมาเนียสายพันธุ์ท้องถิ่นที่พบในประเทศไทยแบบด่วน" ในงานประชุมวิชาการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ปี 2568 “นวัตกรรมเพื่อระบบสุขภาพไทยที่เข้มแข็ง” โดยมี นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้อำนวยการ สวรส. คุณบุณยวีร์ เอื้อศิริวรรณ ผู้จัดการงานวิจัย สำนักวิจัยและพัฒนาจีโนมิกส์ สวรส. ร่วมด้วย และมีนายกันตภณ ตั้งอุทัยเรือง เจ้าหน้าที่บริหารโครงการ สวรส. นำเสนอข้อมูลฯ ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร
📌 โรคลิชมาเนีย ซึ่งเป็นโรคติดเชื้อโปรโตซัว Leishmania spp.โดยมีริ้นฝอยทราย เป็นแมลงพาหะของโรค โดยข้อมูลการระบาดจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ตั้งแต่ปี 2539-2568 พบผู้ป่วยโรคลิชมาเนีย ในไทย 45 ราย เสียชีวิต 7 ราย ในปี 2568 พบผู้ป่วยโรคลิชมาเนีย จำนวน 2 ราย ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
🔬 การพัฒนาการตรวจวินิจฉัย : ได้ศึกษาจีโนมเชื้อลิชมาเนียสายพันธุ์ปกติเชิงลึกที่แยกได้จากผู้ป่วยในประเทศไทย เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลจีโนมอ้างอิง เปรียบเทียบกับจีโนมเชื้อสายพันธุ์ดื้อยา และทำการพัฒนาการตรวจวินิจฉัยด้วยเทคนิค TaqMan qPCR โดยใช้ primera และ probes ที่จำเพาะต่อตำแหน่งพันธุกรรมของเชื้อ L. martiniquensis (ITS1) และ L. orientalis (HSP70-I IR) ซึ่งเป็นเชื้อลิชมาเนียสายพันธุ์ท้องถิ่นที่ระบาดในประเทศไทย สำหรับวิธีการตรวจวินิจฉัยที่พัฒนาขึ้นมาใหม่นี้ ช่วยให้แพทย์ทราบสายพันธุ์ของเชื้อได้อย่างถูกต้องแม่นยำ รวดเร็ว ลดค่าใช้จ่ายในการตรวจวินิจฉัย ลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อน ลดการดื้อยา และลดอัตราการเสียชีวิต โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยที่ทีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งมักเป็นผู้ด้อยโอกาสทางสังคม

#โรคลิชมาเนีย #จีโนมเชื้อลิชมาเนีย #จีโนมิกส์ประเทศไทย #สวรส #สำนักวิจัยและพัฒนาจีโนมิกส์

🔴 ข่าวประชาสัมพันธ์ : ระหว่างวันที่ 23 มิถุนายน - 22 สิงหาคม 2568 (เวลา 16.30 น.) "สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรว...
11/06/2025

🔴 ข่าวประชาสัมพันธ์ : ระหว่างวันที่ 23 มิถุนายน - 22 สิงหาคม 2568 (เวลา 16.30 น.) "สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม" เปิดรับข้อเสนอการวิจัยและนวัตกรรม ประจำปีงบประมาณ 2569
📍 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม และสามารถดาวน์โหลดไฟล์ที่เกี่ยวข้อง ได้ทาง : https://nriis.go.th/www/NewsEventDetail.aspx?nid=12151

#สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ #วิจัยและนวัตกรรม #กรอบการวิจัยและนวัตกรรม

🔴 ข่าวประชาสัมพันธ์ : ระหว่างวันที่ 23 มิถุนายน - 1 กรกฎาคม 2568 "สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสต...
11/06/2025

🔴 ข่าวประชาสัมพันธ์ : ระหว่างวันที่ 23 มิถุนายน - 1 กรกฎาคม 2568 "สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม" จัดการชี้แจ้งกรอบการวิจัยและนวัตกรรม ประจำปีงบประมาณ 2569 ในด้านสังคมและความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจและการเกษตร ด้านการพัฒนาเส้นทางอาชีพนักวิจัยและนวัตกรรมและการวิจัยเพื่อฐานทางวิชาการ ด้านสัตว์เศรษฐกิจ ด้านการรองรับผู้สูงวัย ด้านการจัดการความรู้การวิจัยและถ่ายทอดเพื่อการใช้ประโยชน์ รวมถึงการแถลงผลสำเร็จจากผลงานวิจัยฯ
📍 คลิกดูกำหนดการ ลงทะเบียน และอ่านรายละเอียดการชี้แจงกรอบการวิจัยและนวัตกรรม ได้ทาง : https://openhouse2025.jupinnothai.net/

#สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ #วิจัยและนวัตกรรม #กรอบการวิจัยและนวัตกรรม

🔴 สวรส. กับวิจัยยกระดับการแพทย์ไทยด้วย AI ปัญญาประดิษฐ์📍 งานเสวนาหัวข้อ “เทคโนโลยีการแพทย์อัจฉริยะ: AI และ Genomics สู่ส...
10/06/2025

🔴 สวรส. กับวิจัยยกระดับการแพทย์ไทยด้วย AI ปัญญาประดิษฐ์
📍 งานเสวนาหัวข้อ “เทคโนโลยีการแพทย์อัจฉริยะ: AI และ Genomics สู่สุขภาพแม่นยำ (Intelligent Medical Technology: AI & Genomics for Precision Health)” ในการประชุมวิชาการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ปี 2568 ฉายภาพความก้าวหน้าของ AI และเทคโนโลยีการแพทย์ที่เข้ามาพลิกโฉมการแพทย์ ซึ่งเห็นผลเป็นรูปธรรมได้เป็นอย่างดี...อ่านต่อ https://www.hsri.or.th/media-issue/703
#ปัญญาประดิษฐ์ #เทคโนโลยีทางการแพทย์
#จีโนมิกส์ไทยแลนด์
#วิจัยระบบสุขภาพ

🔴 สมาคมมนุษยพันธุศาสตร์ ร่วมกับสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และภาคีเครือข่าย จัดประชุมวิชาการประจำปี ครั้งที่ 4 ภายใ...
02/05/2025

🔴 สมาคมมนุษยพันธุศาสตร์ ร่วมกับสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และภาคีเครือข่าย จัดประชุมวิชาการประจำปี ครั้งที่ 4 ภายใต้หัวข้อ “Genomics Thailand in Action: Transforming Healthcare in Thailand” ระหว่างวันที่ 30 เม.ย. - 2 พ.ค. 2568 เพื่อแสดงพลังขับเคลื่อนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีจีโนมิกส์ ภายใต้แผนปฏิบัติการบูรณาการจีโนมิกส์ประเทศไทยฯ เพื่อการเปลี่ยนแปลงระบบการดูแลสุขภาพของประเทศ โดยภายในงานได้รับเกียรติจาก นพ.เกษม ตั้งเกษมสำราญ ผู้แทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้ทรงคุณวุฒิด้านควบคุมป้องกันโรคนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ร่วมกับ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข และ นพ.จักรกฤษณ์ เอื้อสุนทรวัฒนา นายกสมาคมมนุษยพันธุศาสตร์ ตลอดจนผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดการประชุมฯ เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2568 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์

Address

ชั้น 3 อาคารสุขภาพแห่งชาติ เลขที่ 88/39

11000

Alerts

Be the first to know and let us send you an email when Genomics Thailand posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Contact The Practice

Send a message to Genomics Thailand:

  • Want your practice to be the top-listed Clinic?

Share

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram