หมอมีฟ้า

หมอมีฟ้า บทความ โดย พญ.พาพร เน้นความเข้าใจเพื่อเอาไปใช้จริง ในชีวิตประจำวัน
บางบทความเคยเผยแพร่มาแล้ว
ใน Page สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย

นพลักษณ์ (enneagram) MBTI ฯลฯเป็น เครื่องมือ ที่มีประโยชน์ช่วยให้เรามองเห็น เข้าใจ และยอมรับความจริงหลาย ๆ อย่าง เกี่ยวก...
20/06/2025

นพลักษณ์ (enneagram)
MBTI
ฯลฯ

เป็น เครื่องมือ ที่มีประโยชน์
ช่วยให้เรามองเห็น เข้าใจ และยอมรับความจริงหลาย ๆ อย่าง เกี่ยวกับตัวเราและผู้อื่น ได้ง่ายขึ้น

แต่ก็เฉกเช่นเดียวกับทุกเครื่องมือ คือประเด็นสำคัญอยู่ที่วิธีการใช้

การมีสติ มีปัญญา มองเห็นสิ่งต่างๆตามความเป็นจริง จะช่วยให้เราไม่ยึดติดเครื่องมือใด หรืออาจไม่จำเป็นต้องใช้ตัวช่วยเหล่านี้เลย

การแบ่งบุคลิกภาพออกเป็นกลุ่มๆ เป็นสิ่งที่มนุษย์เราอุตสาหะพากเพียรกันมายาวนาน โหราศาสตร์ ซึ่งแบ่งบุคลิกภาพออกเป็นสิบสองราศีโดยมีดาวนักษัตรเป็นสัญลักษณ์น่าจะเป็นวิธีอันเก่าแก่ที่สุด ส่วนวิธีอื่นๆ ที่รู้จักกันกว้างขวางในรอบร้อยปีที่ผ่านมา มีทั้งนพลักษณ์ที่แบ่งบุคลิกภาพคนเป็นเก้ากลุ่ม และไมเออร์ส-บริกส์ ที่แบ่งเป็นสิบหกแบบ จุดร่วมของระบบเหล่านี้คือ ความชักจูงใจให้น่าเชื่อถือ ยิ่งมองตัวเองและคนอื่นผ่านระบบการจำแนกเช่นนี้ ก็ยิ่งเหมือนจะถูกต้องมากขึ้นทุกที

ตามหลักพุทธธรรม ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่เรามีบุคลิกภาพแบบใด แต่อยู่ที่ความสัมพันธ์ของเรากับบุคลิกภาพนั้นๆ ความยึดมั่นถือมั่นในบุคลิกภาพ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะใด ล้วนเป็นที่ตั้งแห่งทุกข์ทั้งสิ้น การปฏิบัติธรรมคือการฝึกให้เห็นความจริงอันไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตาของสิ่งทั้งหลายทั้งปวงที่เรายึดถือเป็นตัวเป็นตน หรือเป็นของตัวของตน

พระพุทธองค์ทรงสอนว่า สิ่งสำคัญคือการถอนลูกศรที่ปักแน่นในอก มิใช่ง่วนอยู่กับไม้ที่แกะเป็นลูกศร

ธรรมะคำสอน โดย พระอาจารย์ชยสาโร
แปลถอดความ โดย ปิยสีโลภิกขุ

 #อะไรก็อันตรายได้ถ้าใช้ผิดๆช่วงนี้ ท่านได้รับยาคลายกังวล โดยเฉพาะ Alprazolam อาจเกิดความกังวลเกี่ยวกับยากลุ่มนี้ขอให้ข้...
11/06/2025

#อะไรก็อันตรายได้ถ้าใช้ผิดๆ

ช่วงนี้ ท่านได้รับยาคลายกังวล โดยเฉพาะ Alprazolam อาจเกิดความกังวลเกี่ยวกับยากลุ่มนี้

ขอให้ข้อมูล โดยเริ่มต้นจากภาพใหญ่ ดังนี้ค่ะ

✳️ การรักษาอาการโรคทางจิตเวช มีหลักการเดียวกันกับโรคฝ่ายกาย คือ รักษาด้วยยา (pharmacological treatment) และด้วยการไม่ใช้ยา (non-pharmacological treatment)

เช่น โรคย้ำคิดย้ำทำ ต้องทานยา + ปรับความคิดและพฤติกรรมการตอบสนองต่ออาการย้ำคิด

โรคเบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง ปรับการใช้ชีวิต(lifestyle modification) - การกิน การนอน การออกกำลังกาย + ต้องทานยาเมื่อถึงจุดที่จำเป็น

❌ การมีความจำเป็นต้องทานยา เป็นคนละเรื่องกับ การเสพยา และ/หรือ การติดยา
กลุ่มที่เอาไปเสพ(abuse) คือ ไม่จำเป็น แต่เอายาไปใช้ในทางที่ผิดเอง ใช้เพื่อความมึนเมา ความรู้สึก high
ไม่ได้เพื่อรักษาอาการของโรค ตามคำแนะนำของแพทย์ผู้รักษา
ดังเช่นเนื้อหาในภาพประกอบ

✅ส่วนกลุ่มที่ต้องทาน เพราะมีความจำเป็น(indication; ข้อบ่งชี้)
ถ้ากินยาถูกกับโรค ตามขนาดที่แพทย์แนะนำ ก็ไม่มีอะไรต้องวิตกกังวลค่ะ ในเมื่อมีข้อมูลทางการแพทย์ทุกอย่าง
(ส่วนตัวรู้สึกว่า อาหารที่กินเข้าไปทุกวันนี้ มี microplastic ไหม อาจจะน่าเครียดกว่า เพราะมองไม่เห็น และเรายังไม่รู้ถ่องแท้ว่ามันทำให้เกิดอะไรกับร่างกายได้บ้าง 😅)

⚠️ ยาอะไรก็อันตรายได้ ถ้าเอาไปใช้ผิดๆ เช่น Paracetamol เกินขนาด ก็มักจะทำให้ตับพัง แต่ไม่เสียชีวิต

‼️และจริง ๆ แล้ว ก็ไม่เพียงแต่ยาเท่านั้น - ส้อมก็ใช้ทำร้ายคนได้ / มีดจะไม่บาดถ้าใช้อย่างระวัง / ต้องมีการกำหนดความเร็วรถในพื้นที่ต่าง ๆ / สุนัขพลังเยอะ ต้องมีเวลาและพื้นที่ให้วิ่งเล่น ไม่งั้นจะเครียด เพิ่มความเสี่ยงในการกัดคน

❌ นาน ไม่ใช่ ติด ❌
… ระยะเวลาต้องดูตามโรค ตามวิธีการรักษา
ไม่ใช่ความรู้สึกว่านาน และหมายความว่า นานคือติด
การที่ต้องทานยาบางตัวนาน ๆ จึงไม่ได้แปลว่า ติดยา

แต่ ❗️คนที่เสพยาหรือสารจนติด มักจะต้องเสพไป(นาน)จนกว่าจะเลิกได้ ❗️

✅ การที่ต้องทานยาต่อเนื่องเป็นเวลานาน ไม่ได้แปลว่าเกิดการติดยานั้น ในเมื่อการทานยาเกิดจากความจำเป็น
เช่น โรค SLE ก็จะมียาที่ต้องทานไปยาวๆ คนไข้มักเล่าว่า ตอนอายุ 17-18 สมัยเป็นแรกๆ กินยาเป็นกำๆ แต่ตอนนี้เหลือแค่เม็ดเดียว
โรคทางจิตเวชก็เช่นกันค่ะ

❓ดังนั้น หากสงสัยว่า เพราะอะไรอาการยังไม่หาย? เพราะอะไรยังต้องทานยาอยู่?
ทำไมเพื่อนเราหายแล้ว เรายังไม่หาย (ขนาดเรารักษาก่อน)?
นี่อยู่ในช่วงสงบอาการ หรือ ระยะป้องกันไม่ให้อาการกำเริบ? สนับสนุนให้ถามหมอที่ดูแลเลยค่ะ
บทความประกอบ https://bit.ly/courseofRx

#หมอมีฟ้า

 #เธอมีสิทธิ์ที่จะหยุด_พักเพื่อฟื้นฟูร่างกาย และ เรียกคืนพลังให้ใจของตัวเองได้นะ"เพราะ 🥀 แก้วที่ว่างเปล่า ดับกระหายให้ใค...
08/06/2025

#เธอมีสิทธิ์ที่จะหยุด_พัก

เพื่อฟื้นฟูร่างกาย

และ เรียกคืนพลังให้ใจ

ของตัวเองได้นะ"

เพราะ

🥀 แก้วที่ว่างเปล่า ดับกระหายให้ใครไม่ได้

🌷 การดูแลเอาใจใส่ผู้อื่น แต่ละเลยตนเอง อาจดูยิ่งใหญ่ แต่ไม่ยั่งยืน

(ถ้อยคำส่วนหลัง จากเพจ วิชาใจ ค่ะ)

#หมอมีฟ้า

 #สิ่งที่ถูกบอกเล่าและเรื่องราวที่ไม่ได้พูด จิตแพทย์ตรวจอะไรและยังไง เป็นหัวข้อหนึ่งที่หมอเคยเขียนบทความไว้นานมากแล้ว เน...
06/06/2025

#สิ่งที่ถูกบอกเล่าและเรื่องราวที่ไม่ได้พูด

จิตแพทย์ตรวจอะไรและยังไง เป็นหัวข้อหนึ่งที่หมอเคยเขียนบทความไว้นานมากแล้ว
เนื่องจากคิดว่าหลายคนก็น่าจะสงสัยว่า การตรวจสภาพจิต (Mental Status Examination; MSE) ของจิตแพทย์ ที่ว่าเปรียบเสมือนการตรวจร่างกาย (Physical Examination) ของแพทย์แผนกอื่น นั้นต้องดูอะไร

อย่างไรก็ตาม หมอคิดว่า ไม่ว่าจะบอกเล่าอย่างไร สุดความสามารถแค่ไหน ก็เป็นการยากที่จะทำให้คนที่ไม่ใช่จิตแพทย์เข้าใจได้
มันเหมือนกับ ถ้าเราไปฟังจิตรกรอธิบายวิธีการลงสีน้ำ เราก็จะเข้าใจแค่เท่าที่ความคิดเราจะพาไป แต่จะเข้าใจมันจริง ๆ หากได้เห็นกระบวนการนั้นด้วย

ตอนนี้ หลาย ๆ ท่านน่าจะได้ดู MV เพลง I’m OK // not OK กันแล้ว
การแสดงของคุณนุ่น ศิรพันธ์ ทำให้หมอคิดว่า จะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจบางส่วนของการตรวจสภาพจิตได้ง่ายขึ้นมาก

ผู้ชมจำนวนมาก น้ำตาไหลและหูดับ ไม่ได้ยินเพลงเลยในรอบแรก (หมอก็เป็นคนหนึ่งในนั้นค่ะ)

ช่วงเวลา 2 นาทีเต็ม ๆ ที่คุณซันนี่มานั่งอยู่ตรงหน้า แม้คุณนุ่นจะไม่ได้พูดอะไรเลย แต่ภาษากาย (อวัจนภาษา) ไม่ว่าจะเป็นสีหน้า แววตา การกระตุกของกล้ามเนื้อใบหน้า ฯลฯ นั้น ถ่ายทอดความรู้สึกมากมาย และชัดเจนเกินกว่าคำพูดเสียอีก ซึ่งมันก็มากระทบใจผู้ชมจนร้องไห้ตามไปด้วย

นอกจากสิ่งที่ผู้ป่วยเล่า สีหน้า แววตา ท่าทาง น้ำเสียง ขณะเล่าก็เป็นข้อมูลที่สำคัญ
“ #เล่าอย่างไร” สำคัญไม่น้อยไปว่า “เล่าอะไร”

บางที เราก็ไม่รู้หรอกว่า เรา(ยัง)รู้สึกกับเรื่องอะไร แค่ไหน อย่างไร จนกว่าเราจะได้พูดถึงมัน
(คนไข้หลายคน จึงได้หัวเราะทั้งน้ำตาตอนท้ายว่า นึ่คิดว่าวันนี้จะไม่ร้องไห้แล้วนะเนี่ย)

นอกจากนี้ “ #สิ่งที่ไม่ถูกพูดถึง” และ “ #ความรู้สึกที่ไม่ถูกแสดงออก” ก็สำคัญไม่แพ้กัน รวมไปถึง ปฏิสัมพันธ์ที่คนไข้มีกับจิตแพทย์

บางเรื่องไม่เคยถูกกล่าวถึง เพราะมันเป็นส่วนที่คน ๆ นั้นเก็บไว้ลึกที่สุด กลไกทางจิตก็ช่วยซ่อนจนมิด ชนิดที่เจ้าตัวก็ไม่รับรู้ไปด้วย เพื่อช่วยให้เขาอยู่ต่อได้โดยไม่เจ็บปวดเกินไป

ซึ่งมันอาจจะเป็น บาดแผลทางใจ ที่ยังไม่ได้รับการเยียวยา

คนที่มีแผล และเสียเลือดจากแผลนั้น ไม่ว่าเขาจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว เลือดก็ไหลอยู่ดี

ซึ่งหากผู้ป่วยมาตรวจติดตามนานพอ หมอก็จะรู้ว่า อะไรที่ถูก “ข้าม” ไป

ยกตัวอย่าง ความรู้สึก และ การแสดงออกทางอารมณ์ ที่พบเจอในห้องตรวจ และเป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้หมอช่วยคนไข้ได้

> คุณ A บอกว่าเกร็ง “กลัว”เจ้านายจะแก้งานอีก
… แต่สีหน้าท่าทางบ่งบอกว่า “หงุดหงิด” ไม่ใช่ วิตกกังวล

> คุณ B เล่ามรสุมชีวิตที่เจอในช่วงที่ผ่านมา
หมอทักว่าเรื่องหนักขนาดนี้ ถ้าเป็นคนอื่นน่าจะร้องไห้หนักไปแล้ว เพราะอะไรคุณถึงไม่ร้อง?
คนไข้อึ้งไปนิดนึง ก่อนจะตาแดง น้ำตาเอ่อ แต่อยู่ ๆ น้ำตาก็แห้งไป !
… หมอเหมือนเห็น คลื่นที่กำลังจะซัดเข้าฝั่ง แล้วจู่ ๆ ก็ถูกดูดกลับลงทะเลไป
ทั้งหมดมีที่มาที่ไปจากประสบการณ์วัยเด็ก

> คุณ C บอกว่าอาการโรคซึมเศร้าดีขึ้นมาก (ตอนนั้นโควิดเพิ่งระบาดหนัก ยังใส่ mask กัน) แต่จู่ ๆ แววตาของคนไข้ ก็ฉายความเศร้า … หมอรู้สึกเหมือนเห็นรุ้งสีเทาพาดขึ้นมาบนดวงตา จึงต้องถามว่า ตอนนี้คิดอะไรอยู่

> คุณ D แทบไม่เล่าอะไรนอกจากเรื่องงาน ซึ่งก็ไม่ได้เล่ามากนัก นั่นก็ดี นี่ก็โอเค … ถ้าเช่นนั้นจะป่วยได้อย่างไร?
สุดท้ายก็พบว่า มันเป็นผลของแผลใจ(อย่างน้อย) 3 แผล

ข้างต้นนั้นก็คือส่วนหนึ่งของข้อมูลจากการตรวจสภาพจิต

แต่แม้ไม่ได้เรียนมาทางนี้ มนุษย์เราทุกคนก็ล้วนมีความสามารถในรับรู้ความรู้สึกของคนอื่นอยู่แล้ว
เห็นได้ชัดจากการดูหนัง ดูละคร ดูสัมภาษณ์ และ MV นี้ ซึ่งคุณนุ่นถ่ายทอด(ไม่อยากใช้คำว่า แสดง เลย) ความรู้สึกได้อย่างยอดเยี่ยม

ในชีวิตประจำวัน ที่เรามีความสัมพันธ์ในรูปแบบต่าง ๆ มีปฏิสัมพันธ์กันในบางช่วงเวลา

เราทุกคนล้วนมีอะไรบางอย่าง ที่อยากเล่าให้ใครบางคนฟัง

คงจะดีถ้าความทุกข์ของใครจะเบาบางลง เมื่อมีใครสักคนให้เวลา รับฟังในสิ่งที่เขาพูด และรับรู้ในสิ่งที่เขาไม่ได้พูด

#หมอมีฟ้า

บทความเก่า : จิตแพทย์ตรวจอะไรและยังไง https://www.facebook.com/ThaiPsychiatricAssociation/photos/a.499791366791551/552654511505236/?type=3

Nostalgia มาจากภาษากรีก nostos (หมายถึง “การกลับคืน”) และ algos (หมายถึง “ความเจ็บปวด”) ปัจจุบัน nostalgia หมายถึง ความโ...
05/06/2025

Nostalgia มาจากภาษากรีก nostos (หมายถึง “การกลับคืน”) และ algos (หมายถึง “ความเจ็บปวด”)

ปัจจุบัน nostalgia หมายถึง ความโหยหาอดีต ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อเรานึกถึงช่วงเวลาที่มีความหมาย ไม่ว่าจะเป็นความทรงจำที่ดีหรือแม้แต่ช่วงเวลาที่ยากลำบาก ความรู้สึกนี้มักจะผุดขึ้นมาในช่วงที่ชีวิตเปลี่ยนแปลง หรือเมื่อเรากำลังเผชิญกับปัญหาในปัจจุบัน นอกจากนี้ประสาทสัมผัสทั้งห้า ไม่ว่าจะเป็นกลิ่น เสียง หรือภาพที่คุ้นเคย ล้วนเป็นตัวกระตุ้นที่ดึงความทรงจำในอดีตให้กลับมาชัดเจนราวเพิ่งเกิดขึ้น

ด้านหนึ่ง nostalgia คือการเยียวยา ....

บางแผลไม่เคยหายสนิท แต่เราต้องอยู่กับมัน
คนบางคนซ่อนความคิดถึงไว้อย่างมิดชิด แล้วใช้ชีวิตต่อไปเหมือนว่าโอเค ทั้งที่ในใจท่วมไปด้วยความคิดถึง และไม่เคยโอเคเลยจริงๆ
ทำไมดากานดากับไข่ย้อยถึงอยู่ในความทรงจำของผู้คน แม้เราจะรู้จักกับ “เพื่อนสนิท” คู่นี้มาจะครบ 20 ปีแล้ว

ดากานดากับไข่ย้อย คือช่วงเวลาเบ่งบานที่ไม่อาจหวนคืน คือมิตรภาพที่กรุ่นไปความคิดถึง (ที่ส่งไปถึงเมื่อสายเกินไป) คือความรักที่ไม่สมหวัง คือความหวานปนขม ที่เมื่อนึกถึงขึ้นมาทีไร หลายคนก็ยิ้มทั้งน้ำตา
ความคิดถึง (nostalgia) เป็นอารมณ์และความรู้สึกที่ทรงพลัง สามารถทำให้เราหลุดจากปัจจุบันชั่วขณะเพื่อย้อนกลับไปสัมผัสกับช่วงเวลาในอดีต

nostalgia มาจากภาษากรีก nostos (หมายถึง “การกลับคืน”) และ algos (หมายถึง “ความเจ็บปวด”) เดิมทีคำนี้ใช้เพื่ออธิบายความโศกเศร้าลึกซึ้งของทหารที่คิดถึงบ้าน (ศัพท์คำนี้ถูกบัญญัติขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่ 17) ซึ่งค่อนข้างเป็นนิยามในแง่ลบ แต่ต่อมาได้พัฒนาเป็นสภาวะทางอารมณ์ที่ซับซ้อนและมีแง่บวกมากขึ้น

ปัจจุบัน nostalgia หมายถึง ความโหยหาอดีต ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อเรานึกถึงช่วงเวลาที่มีความหมาย ไม่ว่าจะเป็นความทรงจำที่ดีหรือแม้แต่ช่วงเวลาที่ยากลำบาก ความรู้สึกนี้มักจะผุดขึ้นมาในช่วงที่ชีวิตเปลี่ยนแปลง หรือเมื่อเรากำลังเผชิญกับปัญหาในปัจจุบัน นอกจากนี้ประสาทสัมผัสทั้งห้า ไม่ว่าจะเป็นกลิ่น เสียง หรือภาพที่คุ้นเคย ล้วนเป็นตัวกระตุ้นที่ดึงความทรงจำในอดีตให้กลับมาชัดเจนราวเพิ่งเกิดขึ้น
🩵 ด้านหนึ่ง nostalgia คือการเยียวยา
แม้ว่าความทรงจำบางอย่างจะมาพร้อมกับความรู้สึกโหยหา แต่ก็มีข้อดีหลายอย่าง
- ความทรงจำในแง่บวกช่วยเสริมกำลังใจในยามที่เรารู้สึกท้อแท้
- ช่วยค้นหาความหมายของชีวิต ความคิดถึงอดีตช่วยให้เราเข้าใจเส้นทางชีวิตของตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่รู้สึกไม่แน่ใจหรือหลงทาง
- เมื่อชีวิตต้องเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือความสัมพันธ์ การคิดถึงอดีตช่วยให้เรายืนหยัดในความเชื่อและคุณค่าของตัวเอง ทำให้เรายังเดินต่อได้ด้วยความเข้าใจตัวเองมากขึ้น
- ข้อดีที่เรียบง่ายที่สุดก็คือ ความคิดถึงอดีตสามารถทำให้เรารู้สึกดี การนึกถึงช่วงเวลาที่มีความสุข จะกระตุ้นการหลั่งโดพามีนในสมอง ทำให้อารมณ์ดีขึ้นในทันที
🩶 ด้านที่อ่อนไหวของความคิดถึง
- การจมอยู่กับอดีตมากเกินไปอาจฉุดเราไว้ไม่ให้เติบโต ทำให้เราไม่สามารถก้าวไปข้างหน้า หรือไม่สามารถปรับตัวกับปัจจุบันได้
- ทำให้เราเศร้า โดยไม่รู้สาเหตุ โดยเฉพาะคนที่มีแนวโน้มวิตกกังวลง่าย อาจมีอาการวิตกและซึมเศร้ามากกว่ามีความสุขเมื่อย้อนคิดถึงอดีต
เราอาจบอกคนอื่นว่าเราโอเค ทั้งที่ในใจกำลังพังทลาย แต่ท้ายที่สุดแล้ว ความคิดถึงไม่ใช่สิ่งที่ต้องหลีกหนี และการยอมรับว่าเราไม่โอเค ก็ไม่ใช่ความอ่อนแอเสมอไป
น่าสนใจว่าความรู้สึกคิดถึงอดีต (nostalgia) ไม่ได้เป็นแค่ความโหยหาลอยๆ แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่นทางความคิดได้ด้วย เพราะในช่วงเวลาที่เรารู้สึกอ่อนแอหรือเผชิญความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต การนึกถึงช่วงเวลาที่เราเคยผ่านอะไรยากๆ และการรอดพ้นจากมันมาได้ก็เป็นหลักฐานว่าตัวเรามีศักยภาพ มีคุณค่า และยังเตือนใจเราว่า "เราเคยเข้มแข็งมาก่อน" และ "เรายังเข้มแข็งได้อีก"
ถ้าเคยชอบ "เพื่อนสนิท"
เอ็มวีเพลง "I'm ok//not ok"
คงทำให้เรานึกถึง “สวัสดี เราชื่อดากานดา”
ที่อาจผุดขึ้นมาพร้อมประโยค
“แกมาบอกอะไรเอาตอนนี้”

ในชีวิตจริง เราอาจไม่มีโอกาสกลับมาเจอกัน แต่เอ็มวีนี้ได้ช่วยพาความทรงจำเมื่อนานมาแล้วของใครหลายคนกลับมา ให้ทั้งยิ้มและมีน้ำตาไปพร้อมกัน

😅 การเข้าใจผิดว่า หยุดเองไม่ได้เพราะยามีอันตราย ดังนั้นอย่าได้เริ่มรักษาเลยก็เหมือนคิด(ไปเอง)ว่า ถ้าใส่เฝือก แล้วจะเอาออ...
03/06/2025

😅 การเข้าใจผิดว่า หยุดเองไม่ได้เพราะยามีอันตราย ดังนั้นอย่าได้เริ่มรักษาเลย

ก็เหมือนคิด(ไปเอง)ว่า ถ้าใส่เฝือก แล้วจะเอาออกไม่ได้ ดังนั้นอย่าใส่เลย (อ่าว แล้วกระดูกที่หักล่ะ?!?) 😅

“อย่าหยุดยาจิตเวชเองนะ !”

เพราะมันอันตราย…เหรอ ??

#ความเข้าใจผิดติดอันดับ


เชื่อว่าคนส่วนใหญ่เคยได้ยินคำเตือนที่ว่า อย่าหยุดยาจิตเวชเอง

หากเป็นคนไข้ที่รับการรักษาอยู่แล้ว ก็จะทราบเหตุผลจากการให้ข้อมูลของแพทย์ผู้รักษา

แต่คนจำนวนไม่น้อยที่ได้ยินแบบนี้
ฟังแล้วเข้าใจผิด คิดไปเองว่า เพราะยามัน “อันตราย” จึงหยุดสุ่มสี่สุ่มหน้าไม่ได้

ดังนั้น เมื่อถึงเวลาที่เจ็บป่วยด้วยโรคทางใจ บางคนก็เลยไม่กล้าพบจิตแพทย์
เพราะกลัวการทานยา ด้วยเข้าใจผิดว่า ไม่อยากเริ่ม เดี๋ยวจะหยุดไม่ได้
ซึ่งเป็นการเสียโอกาสอย่างมาก

เหตุผลที่แท้จริง คือ

คนไข้ไม่สามารถประเมินอาการด้วยตนเอง และวางแผนการรักษาเองได้ (เช่นเดียวกันกับโรคอื่น ๆ)

ดังนั้น คนที่หยุดเอง เพราะรู้สึกว่าดีขึ้นแล้ว คิดเองว่าอาจจะไม่ต้องกินยา หรือเพราะเหตุอื่น ๆ
… #อาการก็มักจะกลับมา_เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาที่ควรจะหยุดยานั่นเอง …

แต่หากคนไข้ไปพบแพทย์ตามนัดสม่ำเสมอ หมอก็จะประเมินให้อยู่แล้วว่า
หลังจากไม่มีอาการแล้ว จะต้องกินยาต่อเนื่องอีกนานแค่ไหนเพื่อป้องกันอาการกำเริบ ซึ่งต้องอาศัยหลายปัจจัย

😅 การเข้าใจผิดว่า หยุดเองไม่ได้เพราะยามีอันตราย ดังนั้นอย่าได้เริ่มรักษาเลย
ก็เหมือนคิด(ไปเอง)ว่า ถ้าใส่เฝือก แล้วจะเอาออกไม่ได้ ดังนั้นอย่าใส่เลย (อ่าว แล้วกระดูกที่หักล่ะ?!?) 😅

หลายคนทนทรมานกับอาการอยู่นาน ประสิทธิภาพในการทำงานย่ำแย่ ความสัมพันธ์สั่นคลอน เพราะไม่ทราบข้อมูลที่ถูกต้อง
กว่าจะตัดสินใจพบแพทย์ อาการก็หนักซะแล้ว (รักษาหายได้เหมือนกัน แต่ย่อมยากและนานกว่า อาการที่น้อยและเป็นมาไม่นาน)

เจอแบบนี้แล้ว หมอรู้สึกเสียดาย ที่คนไข้เสียโอกาสในการรักษาเร็วกว่านี้จริง ๆ ค่ะ

#หมอมีฟ้า

อยากให้ทุกคนหาข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ มากกว่าเพียงฟังประสบการณ์หรืออ่านความคิดเห็นของคนอื่น

ยาต้านเศร้าที่มีผลพลอยได้ ทำให้กินแซ่บนอนแซ่บ นั้นมีอยู่ค่ะ เช่น Mirtazapineแต่ !จะไม่ได้ถูกเลือกใช้ ถ้าหากคนไข้ไม่ได้น้...
29/05/2025

ยาต้านเศร้าที่มีผลพลอยได้ ทำให้กินแซ่บนอนแซ่บ นั้นมีอยู่ค่ะ เช่น Mirtazapine
แต่ !
จะไม่ได้ถูกเลือกใช้ ถ้าหากคนไข้ไม่ได้น้ำหนักลดมากโดยที่ผอมมากอยู่แล้ว และมีอาการนอนไม่หลับรุนแรง


ยาต้านเศร้า กลุ่ม SSRI ที่เป็นยาหลักในการรักษาโรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล โรคแพนิค โรคย้ำคิดย้ำทำ
ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยอย่างหนึ่ง คือ อาการคลื่นไส้ พะอืดพะอม ไม่อยากอาหาร

คนส่วนใหญ่ที่ทานยาแล้วไม่มีผลข้างเคียงอะไร ก็ไม่ได้บ่น
ดังนั้นข้อมูลที่ถูกแชร์ จึงมักจะมาคนที่น้ำหนักขึ้น ซึ่งอาจจะเพราะยาหรือไม่ใช่ก็ได้ค่ะ
(ตัวโรคเองก็ทำให้ระบบเผาผลาญพังได้อยู่แล้ว)

คนไข้ผู้หญิงที่มาพบหมอครั้งแรก มักจะมีความกังวลว่ายาต้านเศร้าจะทำให้น้ำหนักขึ้น
เนื่องจากเคยอ่าน เคยได้ยินมาว่าเป็นผลข้างเคียงของยา
จนหลายคน delay การพบจิตแพทย์ ทั้งที่รู้ว่าตัวเองไม่ค่อยสบายแล้ว จนกระทั่งความคิดเรื่องฆ่าตัวตายเข้ามาบ่อยขึ้นถึงได้มา เพราะไม่ไหวแล้ว
หมอฟังแล้วรู้สึกเสียดายเวลาแทนมากค่ะ

เพราะความจริงแล้ว ยาต้านเศร้าที่มีผลพลอยได้ ทำให้กินแซ่บนอนแซ่บ นั้นมีอยู่ (เช่น Mirtazapine)
แต่ ❗️
จะไม่ได้ถูกเลือกใช้ ถ้าหากคนไข้ไม่ได้น้ำหนักลดมากโดยที่ผอมมากอยู่แล้ว และมีอาการนอนไม่หลับรุนแรง


ยาต้านเศร้า กลุ่ม SSRI ที่เป็นยาหลักในการรักษาโรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล โรคแพนิค โรคย้ำคิดย้ำทำ

✳️ ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยอย่างหนึ่ง คือ อาการคลื่นไส้ พะอืดพะอม ไม่อยากอาหาร
อาจจะยังทานอร่อยแต่อิ่มเร็ว ไม่กินจุบกินจิบระหว่างมื้อ จากที่เคยทานของหวานก็ทานแค่ของคาว เป็นต้น (โดยเฉพาะ Fluoxetine)
ดังนั้น แพทย์จึงมักให้ทานแค่ครึ่งเม็ด หลังอาหาร ช่วงเริ่มยา

อาการข้างเคียงนี้ มักจะเป็นแค่สัปดาห์แรก แต่ในบางคนก็พบว่าไม่ดีขึ้น
ซึ่งเป็นสิ่งที่หมออยากดูในการตรวจติดตาม 2-3 สัปดาห์หลังจากพบกับครั้งแรก
หากน้ำหนักลดไปมาก โดยที่คนไข้น้ำหนักน้อยมากเป็นทุนเดิม ก็อาจจะพิจารณาเปลี่ยนยา


ดังนั้น ไม่ต้องกังวลเลยค่ะว่า ทานยาแล้วจะน้ำหนักขึ้น คนส่วนใหญ่ที่ทานยาแล้วไม่มีผลข้างเคียงอะไร ก็ไม่ได้บ่น ... ลอยตัวไป ไม่มีใครเล่า

แต่ ในกลุ่มคนส่วนน้อยที่น้ำหนักขึ้นเยอะๆ >>> ส่วนมากบ่น ดังนั้นข้อมูลในเน็ตจึงมักจะมาคนที่น้ำหนักขึ้น ซึ่งอาจจะเพราะยาหรือไม่ใช่ก็ได้ค่ะ (ตัวโรคเองก็ทำให้ระบบเผาผลาญพังได้อยู่แล้ว)

หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามคุณหมอเจ้าของไข้ได้เลยค่ะ อย่าเพิ่งขยาด แล้วหยุดยา ปิดโอกาสมีคุณภาพชีวิตที่ดี


#หมอมีฟ้า
#ความจริงจากห้องตรวจ

 #หากสิ่งใดจำเป็นและสำคัญ_เราจะต้องการมันอย่างสม่ำเสมอมองง่าย ๆ จากธรรมชาติของร่างกาย เราจะต้องได้รับบางอย่างเป็นระยะในท...
26/05/2025

#หากสิ่งใดจำเป็นและสำคัญ_เราจะต้องการมันอย่างสม่ำเสมอ

มองง่าย ๆ จากธรรมชาติของร่างกาย

เราจะต้องได้รับบางอย่างเป็นระยะในทุกวัน เช่น อาหาร น้ำ การพักผ่อน การนอนหลับ การขับถ่าย
(อ้อ Oxygen นี่ต้องการตลอดเวลาเลย)

เราจึงไม่สามารถกินมื้อเดียว แล้วเก็บอีก 20 มื้อไปกินตอนปลายสัปดาห์ แล้วระหว่างนั้นทำงานรวดหรือเที่ยวแหลก

บางทีเราก็พลาดอะไรง่ายๆ ตกม้าตายเพราะละเลยเรื่องพื้นฐานแบบนี้แหละค่ะ เลยเปิดช่องให้โรคทางกายหรือทางใจเกิดขึ้นได้

จะด้วยนิสัย ด้วยความเคยชินจากความรับผิดชอบในการทำงาน หรือด้วยอะไรก็ตาม
เราจะใช้มันเป็นข้ออ้าง ในการไม่ใส่ใจดูแลตัวเองคงไม่ได้
เรารู้ดีกว่าใคร ว่าวิธีดูแลตัวเองที่เหมาะกับที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ในบริบทชีวิตนั้น ๆ คืออะไร

หมอเองเคยได้รับคำเตือนจากเพื่อนที่ดูฟุตบอลว่า

“นักกีฬาน่ะ เค้าไม่ได้เปลี่ยนตัวตอนเล่นไม่ไหวแล้วนะ เค้าต้องสลับตัวกันก่อนนั้น จะได้ไม่บาดเจ็บไง เธอพักบ้างก็ได้”

เป็นคำเตือนที่เห็นภาพมากค่ะ
(เหมาะกับหมอที่ก่อนหน้านี้ดูเทนนิส ซึ่งนักเทนนิสถ้าลงสนามไปแล้วจะสู้ตาย ไม่ยอมแพ้จนกว่าร่างกายจะไปต่อไม่ได้เพราะบาดเจ็บจริงๆ)

เพราะฉะนั้น
เราจะนอนไม่ยาก หลับอย่างมีคุณภาพได้
ก็ต้อง ดูแลทั้งร่างกายและจิตใจ ในระหว่างวัน
มีการพักสมองเป็นระยะ และโดยเฉพาะช่วงก่อนนอน 1 ชั่วโมง
มีการเทขยะใจทิ้งไป(หรือไม่เก็บมาตั้งแต่แรก)

การหลับที่มีคุณภาพ จะเกิดได้ไม่ยาก
ถ้าร่างกายและจิตใจก็ได้รับการดูแลระหว่างวันมากพอ และผ่อนคลายเพียงพอ โดยเฉพาะในช่วง 0.5-1 ชั่วโมงก่อนเข้านอนค่ะ

#หมอมีฟ้า

ใคร ๆ ก็อยากได้รับการปฏิบัติอย่างให้เกียรติใจเขาใจเรา … เราทุกคน(สุขๆ ทุกข์ๆ)เหมือนกัน
24/05/2025

ใคร ๆ ก็อยากได้รับการปฏิบัติอย่างให้เกียรติ

ใจเขาใจเรา …
เราทุกคน(สุขๆ ทุกข์ๆ)เหมือนกัน

"ข้าพเจ้ารู้สึกอยู่เสมอว่า
เรื่องอันไม่สมหวังไม่น่ารื่นรมย์
ในชีวิตคนนั้นมีมากพอแล้ว
มากจนไม่ต้องให้เรา
ไปเพิ่มมันอีก"

หนังสือ เดียวดายใต้เงาจันทร์
Zombie Books
เรืองรอง รุ่งรัศมี : แปล

IG : https://www.instagram.com/colorlesswolf/

 #ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม ... อาการอย่างหนึ่ง ที่พบได้บ่อยในโรคซึมเศร้า คือความคิดว่า ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม… แม้ว่าจะมีคำว่า ”ทำ...
22/05/2025

#ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม ...

อาการอย่างหนึ่ง ที่พบได้บ่อยในโรคซึมเศร้า คือความคิดว่า ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม…

แม้ว่าจะมีคำว่า ”ทำไม“ (ซึ่งในที่นี้ ความหมายคือ เพื่ออะไร)
แต่นี่มักไม่ใช่ ”คำถาม“ ที่ต้องการคำตอบจริงๆ
หากแต่เป็นคำตัดพ้อเพราะเหนื่อยและท้อกับชีวิตในช่วงที่ป่วย(ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม) เสียมากกว่า
(หมอจึงเลือกที่จะใช้ … แทน ? ค่ะ)

ซึ่งจากที่ดูคนไข้มา พอดีขึ้นแล้ว ไม่มีใครกลับมาคิดกันอีกเลยค่ะ 😄

ดังนั้น ดูเหมือนว่า มันคือ “ #สัญญาณความทุกข์ระดับรุนแรง” เสียมากกว่าคำถามเชิงปรัชญา


มาลองเทียบภาพกันดู

หากเป็นคำถามเชิงปรัชญา ตอนเรามีความสุขดีและมีเวลาว่าง(ถ้างานยุ่ง ขอแค่ปั่นงานทัน ได้กินได้นอนก่อน) เราก็จะคิดค่ะ
มันเป็นคำถามปลายเปิดที่ไม่มีคำตอบที่ถูกที่สุด ต้องค่อย ๆ ใคร่ครวญพิจารณา เป็นหัวข้อที่ชวนคนอื่นแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้สนุกเลย

แต่หากเป็นอาการ ที่เกิดในช่วงสมองรวนเกินปกติ ใจเจ็บปวดกว่าความทุกข์ธรรมดา ประโยคแบบนี้มักจะเป็นความคิด"บ่น" ที่โผล่ขึ้นมา โดยมาแบบ"วนๆ" คิดไปก็ทอดถอนใจไป และมันมักจะมาถี่ขึ้นเรื่อยๆ
แน่นอนว่า ผู้ป่วยก็จะอาการอื่น ๆ ของโรคซึมเศร้าร่วมด้วย ซึ่งบางรายก็ไม่รู้ตัว แต่ญาติบังคับให้มาหาหมอ

มีคนไข้คนหนึ่ง มาด้วยอาการนี้เป็นสำคัญ ในหัวมีแต่ความคิดว่า ชีวิตคืออะไร เราจะอยู่ไปทำไม บวกกับความคิดว่า ”ไม่เชื่อในมนุษย์“
ซึ่งตอนแรกหมอก็ไม่เข้าใจค่ะว่าหมายความว่าอะไร แต่ทดไว้ก่อน

ต่อเมื่อเขาหายสบายดีแล้ว คนไข้ก็ไม่เคยกลับมาคิดเรื่องชีวิตคืออะไรอีกเลย
”ทำงานเหนื่อย กลับถึงบ้านก็นอนแล้วครับ“ เขาพูดกลั้วหัวเราะ

”แล้วที่ว่าไม่เชื่อในมนุษย์ นี่แปลว่าอะไรคะ? หมายถึงมนุษย์คือตัวการทำลายธรรมชาติทำลายโลก แบบนี้เหรอ?“ ซึ่งหมอเดาถูกเสียด้วยค่ะ

แม้ว่าจะไม่ใช่อาการที่อยู่ในเกณฑ์การวินิจฉัย แต่ถ้ามี คนไข้ก็มักจะมีอาการอื่น ๆ ที่เข้าเกณฑ์โรคซึมเศร้าด้วยค่ะ(*)

(โดยเฉพาะโรคซึมเศร้าเรื้อรัง ที่ความสุขค่อย ๆ หายไปทีละน้อย เรียกว่าซึมทีละนิดแต่ซึมมานาน ล้าสะสม ความคิดว่าเหนื่อยในการอยู่ / ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม มักจะถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดหนึ่งที่โรคหนักขึ้น อาจจะเปลี่ยนเนื้อหาเป็น “อยากหายไป” ได้ค่ะ)


#หมอมีฟ้า

หมายเหตุ (*) ในทางกลับกัน หากมีความคิดนี้ ก็ไม่ได้สามารถสรุปได้ทันที ว่าเกิดจากโรคซึมเศร้า ต้องมีอาการอื่นที่ใช่ และวินิจฉัยแยกโรคว่าไม่ใช่ภาวะอื่นด้วยค่ะ

 #แดดเช้าดีต่อการนอน มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีนาฬิกาชีวิตสอดคล้องกับพระอาทิตย์แสงแดด นอกจากปลุกให้เราตื่นแล้ว ยังมีผลต่...
20/05/2025

#แดดเช้าดีต่อการนอน

มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีนาฬิกาชีวิตสอดคล้องกับพระอาทิตย์

แสงแดด นอกจากปลุกให้เราตื่นแล้ว ยังมีผลต่อนาฬิกาชีวภาพ (circadian rhythm) ของเราด้วย

ร่างกายเรามีระบบพื้นฐานมากมายที่สำคัญ เช่น ฮอร์โมนแต่ละตัวในแต่ละช่วงของวัน ความหิว ความตื่นตัว ความดันโลหิต อุณหภูมิร่างกาย ระดับน้ำตาลในเลือด อัตราการผลิตปัสสาวะ ฯลฯ รวมไปถึง วงจรการตื่นหลับ(Sleep Wake Cycle)

แสงแดดมีผลต่อการสร้าง Melatonin --- ฮอร์โมนจากต่อมไพเนียล (Pineal gland) ที่จะหลั่งออกมาในตอนกลางคืน เมื่อแสงน้อยลง และเป็นสิ่งที่ส่งสัญญาณให้ร่างกายทราบว่า ได้เวลานอนแล้ว

ซึ่งการหลับได้ดี ก็ส่งผลต่อการทำงานของสมองและร่างกายส่วนอื่น ๆ อีก
ดังนั้น หากคนไข้ เช่น โรคซึมเศร้า มีเวลานอนที่ผิดเพี้ยนไปมาก เช่น หลับเช้า ตื่นบ่าย วงจรการนอนจะเป็นอย่างแรก ๆ ที่จิตแพทย์จะกู้กลับมาก่อน

นอกจากการปิดหน้าจอ 30-60 นาทีก่อนเข้านอนแล้ว
การรับแดดเช้า (ก่อน 10 โมง - แดดไทย อาจจะ 9 โมง 😅) ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยให้เราหลับได้ง่ายและสนิทขึ้นค่ะ

#หมอมีฟ้า

 #หนังสือแนะนำทุกคำถามที่คนไข้โรคซึมเศร้าสงสัยและคนใกล้ชิดอยากรู้ รวมถึงแง่มุมต่าง ๆ เกี่ยวกับธรรมชาติของโรคและกระบวนการ...
19/05/2025

#หนังสือแนะนำ

ทุกคำถามที่คนไข้โรคซึมเศร้าสงสัยและคนใกล้ชิดอยากรู้ รวมถึงแง่มุมต่าง ๆ เกี่ยวกับธรรมชาติของโรคและกระบวนการรักษา

หนังสือเล่มนี้มีคำตอบให้คุณค่ะ

ข้อมูลครบครัน ภาษาสละสลวยเข้าใจง่าย
ตามสไตล์ อ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

ฉบับปรับปรุงนี้ เป็นการพิมพ์ครั้งที่ 6 ซึ่งห่างจากครั้งที่ 1-5 หลายปี
แค่อ่านคำนำ (อ่านได้ในเพจอาจารย์) ก็ได้เนื้อหาที่มีประโยชน์มาก ๆ แล้วค่ะ

แนะนำอย่างไม่ลังเล

#หมอมีฟ้า

ที่อยู่

Bangkok

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ หมอมีฟ้าผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

ประเภท