กินเป็น ปลอดโรค

17/10/2025

เปลี่ยนสิ่งของเหลือใช้ เป็นทุนการศึกษา
ให้น้อง ๆ ที่ขาดโอกาสในสังคม
ทุกการบริจาค = การมอบอนาคตที่สดใส ผ่านทุนการศึกษา 💙
📦 ส่งต่อสิ่งของผ่านพัสดุได้ที่
ที่อยู่ โครงการเหลือ-ขอ
89/12 ซอย เสรีไทย 17 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10240
โทร : 094-940-0606

17/10/2025

ไมโครไบโอมคืออะไร?

🦠 ไมโครไบโอม คือกลุ่มของจุลินทรีย์ดีๆ เช่น แบคทีเรียและเชื้อรา ที่อาศัยอยู่ในร่างกายเราโดยธรรมชาติ และช่วยให้ร่างกายทำงานอย่างสมดุล

💪 ทำไมต้องดูแลไมโครไบโอมของเรา?
เพราะไมโครไบโอมที่แข็งแรงช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ย่อยอาหารให้มีประสิทธิภาพ และช่วยให้ร่างกายมีพลังงานพร้อมทุกวัน

วิธีดูแลไมโครไบโอมให้แข็งแรง
✅ กินผักผลไม้ให้หลากหลาย
✅ เติมโพรไบโอติกในแต่ละวัน
✅ เพิ่มใยอาหารให้เพียงพอ

17/10/2025

รู้ไหมคะว่า “เราทุกคนควรตั้งเป้ากินผักทุกวัน” เพราะแม้จะรู้ว่าดี แต่ทำจริงมักไม่ถึงปริมาณที่ร่างกายต้องการ
วันนี้ป้าสรุปให้เลย 👇
เทคนิค “กินผักให้ได้ทุกวัน” แบบง่าย ๆ ทำได้จริง

1. เริ่มจากมื้อเช้า

เติมผักลงในเมนูเดิม เช่น ไข่เจียวใส่ผัก, ข้าวต้มใส่ผัก, แซนด์วิชผัก

ถ้าไม่ชอบเคี้ยวเยอะ ลองทำ สมูทตี้ผักผลไม้รวมสี ก็ได้

2. แบ่งกินผักทุกมื้อ

มื้อเที่ยง–เย็น ใส่ผักอย่างน้อย 2 ทัพพีต่อมื้อ

ยึดหลัก “ครึ่งจานเป็นผัก”
อีกครึ่งจานเป็นโปรตีนและคาร์บเชิงซ้อน

3. เลือกผักให้ครบหลายสี

สีเขียว = ดีต่อตับและระบบเลือด

สีแดง = หัวใจแข็งแรง

สีเหลือง–ส้ม = บำรุงสายตา ผิวพรรณ

สีขาว = ต้านเชื้อ ลดไขมัน

สีม่วง = ชะลอวัย บำรุงสมอง

เคล็ดลับ: ทำ “ผัดผักรวม 5 สี” จานเดียวได้ครบ!

4. ซ่อนผักในอาหารจานโปรด

หั่นผักละเอียดผสมในไข่ทอด หมูสับ หรือทำซอสผักบดราดพาสต้า

เด็กหรือคนไม่ชอบผักจะกินง่ายขึ้น

5. เตรียมผักล่วงหน้า

ล้าง หั่น แช่ในตู้เย็นไว้ จะหยิบไปทำเมนูได้สะดวก

หรือจัดเป็น “กล่องผักพร้อมกิน” สำหรับพกไปทำงาน

6. กินผักก่อนอาหารหลัก

ช่วยให้ อิ่มเร็ว ลดการดูดซึมน้ำตาล
เหมาะมากสำหรับคนที่กำลังดูแลภาวะดื้ออินซูลิน ❤️

7. ลดปรุงรสจัด–น้ำมันเยอะ

ผัดน้ำมันน้อย หรือนึ่ง ต้ม ตุ๋น จะดีที่สุด

เลี่ยงผักดองหรือผักทอดที่มีโซเดียมสูง

8. ลองสลับรูปแบบผัก

ดิบ – ได้เอนไซม์และวิตามิน C

ลวก/นึ่ง – ดูดซึมสารอาหารบางชนิดดีขึ้น

ทำซุป – กินง่ายและอิ่มนาน

สรุป

กินผักทุกมื้อ กินให้ครบสี เตรียมไว้ล่วงหน้า แล้วกินก่อนข้าว”
เท่านี้ก็ได้ผักครบวันละ 400–500 กรัมโดยไม่รู้ตัวเลยค่ะ 🌈

17/10/2025

เริ่ดดดด

#ไปเที่ยวลาว
#นั่งรถจากขอนแก่น

📲 คัดสรรโปรดี 24 ชั่วโมง ที่แอป "ปันโปร" เท่านั้น >> https://www.punpro.com/app

🤩 ไปเที่ยวลาวได้อีกทางละ! บขส. เปิดเส้นทาง “ขอนแก่น-นครหลวงเวียงจันทร์” ระยะทาง 194 กม. ใช้เวลา 4 ชม. ค่ารถ 180.-/เที่ยว โดยจะเป็นรถปรับอากาศ 42 ที่นั่งนะ น่าสนใจสุด ๆ

🚌 ตอนนี้เค้ามีวันละ 2 เที่ยวไป-กลับ
- เที่ยวไปรถออกจากขอนแก่น 08.15 น.
- เที่ยวกลับรถออกจากนครหลวงเวียงจันทน์ 14.45 น.

👉🏻 และทางสปป.ลาวก็มีรถมินิบัส 25 ที่นั่ง ให้บริการวันละ 2 เที่ยว ไป-กลับ
- เที่ยวไปรถออกจากนครหลวงเวียงจันทน์ 08.15 น.
- เที่ยวกลับรถออกจากขอนแก่น 15.00 น.

📲 จองตั๋วรถ บขส. ได้ที่
- เว็บไซต์ บขส. https://tcl99web.transport.co.th
- แอปฯ E – ticket
- Facebook : บขส.
- Line : บขส.99 (Id : )
- ช่องจำหน่ายตั๋วโดยสาร บขส. ทั่วประเทศ
- สถานีเดินรถขอนแก่น โทร. 043 - 471 – 573

📌 ที่มา : https://ppro.pro/47bJ4hO

#ปันโปร
#ปันโปรบอกข่าว

17/10/2025

“ผักแต่ละสี” มีสารพฤกษเคมี (phytonutrients) แตกต่างกัน ซึ่งมีบทบาทช่วยปกป้องเซลล์จากโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดัน หัวใจ และมะเร็งได้ค่ะ 💪

🥦🌽🍅🥕 ประโยชน์ของ “ผัก 5 สี” แต่ละกลุ่ม

🟢 ผักสีเขียว

เช่น คะน้า ผักโขม บรอกโคลี ตำลึง
🔹 มี คลอโรฟิลล์, ลูทีน, โฟเลต, วิตามิน K
🔸 ช่วยบำรุงเลือด สายตา กระดูก และระบบภูมิคุ้มกัน
🔸 ลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ และช่วยล้างพิษในตับ

🔴 ผักสีแดง

เช่น มะเขือเทศ บีทรูท พริกหวานแดง แตงโม
🔹 มี ไลโคปีน (Lycopene) และ แอนโทไซยานิน
🔸 ช่วยลดไขมันเลว (LDL)
🔸 ปกป้องหัวใจ และลดความเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมาก

🟠🟡 ผักสีเหลือง–ส้ม

เช่น แครอท ฟักทอง ข้าวโพด พริกหวานเหลือง
🔹 มี เบต้าแคโรทีน (Vitamin A) และ ลูทีน
🔸 ช่วยบำรุงสายตา ผิวพรรณ และภูมิคุ้มกัน
🔸 ชะลอความเสื่อมของเซลล์

⚪ ผักสีขาว

เช่น กระเทียม หัวหอม ดอกกะหล่ำ เห็ด
🔹 มี อัลลิซิน (Allicin) และ โพลีฟีนอล
🔸 ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดคอเลสเตอรอล
🔸 ป้องกันความดันสูง และโรคหัวใจ

🟣 ผักสีม่วง

เช่น กะหล่ำม่วง มะเขือม่วง บลูเบอร์รี
🔹 มี แอนโทไซยานิน (Anthocyanin)
🔸 ต้านอนุมูลอิสระแรงมาก
🔸 ช่วยชะลอวัย บำรุงสมอง และระบบหลอดเลือด

สรุป

🥗 “กินผักให้ครบ 5 สี = ได้สารอาหารครบ ป้องกันโรคได้รอบด้าน”

Cr.ภาพจากเพจหมอเขียว

17/10/2025

“ทำไมต้องกินผัก” เพราะผักคือแหล่งสารอาหารสำคัญที่ร่างกายเราขาดไม่ได้เลย!
👇

1. ผักให้สารอาหารที่จำเป็น

อุดมไปด้วย วิตามิน (A, C, K, โฟเลต ฯลฯ)

มี แร่ธาตุ เช่น โพแทสเซียม แมกนีเซียม เหล็ก

มี ไฟเบอร์ (ใยอาหาร) ที่ช่วยให้ลำไส้ทำงานดี

2. ช่วยระบบขับถ่าย

ไฟเบอร์ในผักช่วยเพิ่มกากในลำไส้
👉 ป้องกันท้องผูก
👉 ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย

3. ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง

การกินผักเป็นประจำช่วยลดโอกาสเกิด

โรคหัวใจ

เบาหวาน

ความดันโลหิตสูง

มะเร็งบางชนิด

โดยเฉพาะผักที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง (เช่น บรอกโคลี คะน้า ผักโขม)

4. ช่วยคุมน้ำหนัก

ผักให้พลังงานต่ำแต่ให้อิ่มนาน
เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการ ลดไขมัน ลดภาวะดื้ออินซูลิน

5. บำรุงสมองและอารมณ์

ผักใบเขียวมีโฟเลตและแมกนีเซียม
ช่วยให้สมองทำงานดีขึ้น ลดความเครียดได้ด้วยค่ะ

“รู้ว่าต้องกินผัก” ยังไม่พอ — ต้องรู้ด้วยว่า “กินเท่าไหร่ถึงพอ”

ปริมาณผักที่ควรกินต่อวัน (สำหรับผู้ใหญ่ทั่วไป)

✅ ขั้นต่ำที่ควรได้:

วันละ 400 กรัม หรือประมาณ 4–6 ทัพพีต่อวัน
(ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก WHO และกรมอนามัย)

🥬 แบ่งง่าย ๆ คือ

มื้อหลัก 3 มื้อ
👉 ให้มีผักอย่างน้อย 2 ทัพพีต่อมื้อ

รวมทั้งวันก็จะได้ราว 400–500 กรัม

🍅 สัดส่วนแนะนำในแต่ละจาน

“ครึ่งจานเป็นผัก”
อีกครึ่งแบ่งเป็น

¼ โปรตีน (ปลา ไข่ เต้าหู้ ฯลฯ)

¼ คาร์บเชิงซ้อน (ข้าวกล้อง มันเทศ ฯลฯ)

เคล็ดลับเพิ่มเติม

กินผัก หลายสี (เขียว เหลือง แดง ม่วง ขาว) เพื่อให้ได้สารต้านอนุมูลอิสระครบ

กิน ทั้งแบบดิบและสุก (ดิบได้วิตามิน C มากกว่า / สุกช่วยให้ดูดซึมเบต้าแคโรทีนดีขึ้น)

คนที่มี ภาวะดื้ออินซูลิน ควรเน้นผักใบเขียว และผักที่ไม่แป้ง เช่น คะน้า ผักกาด บรอกโคลี แตงกวา

16/10/2025

กล้วยดิบต้ม
อร่อยนะ ไม่ฝาด

15/10/2025

เบาหวาน อินซูลิน ตับอ่อน
ความสัมพันธ์ระหว่างสามเรา

1. โรคเบาหวานคืออะไร
เบาหวานเกิดจากร่างกายมี “อินซูลิน” ไม่พอ หรือ “อินซูลินทำงานไม่ได้ผล”
ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงเกินไป ร่างกายใช้น้ำตาลไม่ได้อย่างเหมาะสม → เกิดพลังงานไม่พอ และมีน้ำตาลค้างในเลือด

2. อินซูลินกับตับอ่อน
อินซูลินสร้างจาก ตับอ่อน
หน้าที่คือพาน้ำตาลในเลือดเข้าสู่เซลล์เพื่อใช้เป็นพลังงาน
แต่ถ้าตับอ่อนสร้างได้น้อย หรือเซลล์ดื้อต่ออินซูลิน → น้ำตาลค้างในเลือด → เบาหวาน

3. ประเภทของเบาหวาน

ชนิดที่ 1: ภูมิคุ้มกันทำลายเซลล์สร้างอินซูลิน → ตับอ่อนไม่ผลิตอินซูลินเลย

ชนิดที่ 2: ตับอ่อนยังผลิตอินซูลินได้ แต่เซลล์ “ดื้อต่ออินซูลิน”
พบมากในคนอ้วน กินไม่เป็นเวลา ไม่ออกกำลังกาย หรือมีพันธุกรรม

4. อาการเบื้องต้นของเบาหวาน

ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะตอนกลางคืน

กระหายน้ำ ดื่มน้ำเยอะ

เหนื่อยง่าย น้ำหนักลด

แผลหายช้า ติดเชื้อง่าย

สายตาพร่า มือเท้าชา

5. ภาวะแทรกซ้อนของเบาหวาน (ถ้าไม่ควบคุม)

ตาเสื่อม มองไม่ชัด ถึงขั้นตาบอด

ไตเสื่อม → โปรตีนรั่ว → ไตวาย

เส้นประสาทเสื่อม → ชา ปวดแสบ ปวดร้อน แผลเน่า

หลอดเลือดหัวใจตีบ → หัวใจขาดเลือด

หลอดเลือดสมองตีบ → เสี่ยงอัมพาต

6. การรักษาโดยทั่วไป

ใช้ยาเพื่อลดน้ำตาล เช่น

Metformin (ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของอินซูลิน)

Sulfonylurea, Repaglinide (กระตุ้นให้ตับอ่อนหลั่งอินซูลินเพิ่ม)

GLP-1, Insulin ฉีด (ในรายที่คุมไม่ได้ด้วยยาเม็ด)

7. ผลข้างเคียงของยาเบาหวานบางชนิด

น้ำตาลในเลือดต่ำ (หน้ามืด เหงื่อออก มือสั่น)

คลื่นไส้ แน่นท้อง ตัวเหลือง ตาเหลือง (ตับอักเสบ)

แพ้ยา เป็นผื่น หรือผิวไหม้ง่าย

โลหิตจาง หรือเกล็ดเลือดต่ำ (เลือดออกง่าย)

หากมีอาการผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์ทันที 🚨

สรุป

เบาหวานเกิดจาก “ตับอ่อนและอินซูลินทำงานผิดปกติ”
การรักษาด้วยยาเพียงอย่างเดียวช่วยควบคุมระดับน้ำตาล แต่ไม่ทำให้หายขาด
หากต้องการ “ฟื้นฟูให้ดีขึ้น” ต้องดูแล ตับอ่อน และ ปรับพฤติกรรม เช่น

กินอาหารเหมาะสม

ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

ลดความเครียด

เพื่อช่วยให้เซลล์ตอบสนองต่ออินซูลินดีขึ้น และลดภาระของตับอ่อนค่ะ

Cr. Santi manadee

15/10/2025

มารู้จักตับอ่อน มี 2 หน้าที่สำคัญ

คือ

1. ผลิต อินซูลิน เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

2. ผลิต เอนไซม์ย่อยอาหาร เพื่อช่วยย่อยคาร์บ โปรตีน และไขมัน

เมื่อเกิด ภาวะดื้ออินซูลิน เซลล์ในร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้น้อยลง
➡️ ตับอ่อนจึงต้อง “ทำงานหนักขึ้น” ผลิตอินซูลินมากกว่าปกติ
➡️ ทำให้พลังงานถูกใช้ไปกับการสร้างอินซูลินมากเกินไป
➡️ จนลดความสามารถในการสร้างเอนไซม์ย่อยอาหาร

ผลคือ ย่อยอาหารได้ไม่ดี เกิดอาการอาหารไม่ย่อย หรือย่อยยาก

ดังนั้น การเข้าใจกลไกนี้จะช่วยให้เราจัดการ “ต้นเหตุ” ของปัญหาได้จริง
ไม่ใช่แค่แก้อาการปลายเหตุเท่านั้น

15/10/2025

👚 โครงการเหลือ-ขอ ชวนโล๊ะเสื้อผ้า แล้วบริจาค
📦 เปลี่ยนเสื้อผ้าเหลือใช้
แล้วเปลี่ยนเป็นทุนการศึกษาให้น้อง ๆ ที่ขาดโอกาสในสังคม
📲 นัดรับของถึงบ้าน ฟรี!
LINE :
📞 โทร. 094-940-0606
🕘 เปิดทำการ: อังคาร - เสาร์ | เวลา 09.00 - 17.00 น.
📦 สิ่งของที่รับบริจาค:
👕 เสื้อผ้า ทุกเพศ ทุกวัย
🔌 เครื่องใช้ไฟฟ้า
📚 หนังสือ / กระเป๋า / อุปกรณ์การเรียน
🧸 ของใช้จิปาถะ

15/10/2025

“อินซูลินไม่สมดุล” เป็นต้นเหตุสำคัญของโรคเรื้อรังหลายอย่างที่คนมักไม่รู้ตัว
⚠️ เมื่อฮอร์โมนอินซูลินไม่สมดุล จะเกิดอะไรขึ้น?

ภาวะอินซูลินไม่สมดุล หมายถึง
ร่างกายหลั่งอินซูลิน “มากเกินไป” หรือ “เซลล์ไม่ตอบสนองต่ออินซูลิน”
ซึ่งเรียกว่า “ภาวะดื้ออินซูลิน” (Insulin resistance)

ภาวะนี้ส่งผลให้เกิดปัญหาหลายอย่าง เช่น 👇

1. ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรัง
→ ตับอ่อนต้องทำงานหนัก หลั่งอินซูลินมากขึ้น
→ เสี่ยงพัฒนาเป็น เบาหวานชนิดที่ 2

2. น้ำหนักขึ้นง่าย ไขมันสะสมรอบเอว
เพราะอินซูลินสูงจะสั่งให้ร่างกาย “เก็บไขมัน” มากกว่าการเผาผลาญ

3. อ่อนเพลีย หิวบ่อย โดยเฉพาะของหวาน
เนื่องจากน้ำตาลไม่สามารถเข้าสู่เซลล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. เสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด
อินซูลินสูงสัมพันธ์กับไขมันเลว (LDL) สูง และหลอดเลือดอักเสบ

5. ฮอร์โมนอื่นเสียสมดุล
โดยเฉพาะในผู้หญิงอาจเกิด ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS)
ส่วนผู้ชายอาจมี ฮอร์โมนเพศชายลดลง

สรุป
อินซูลินไม่สมดุล = ดื้ออินซูลิน → น้ำตาลสูง อ้วนลงพุง เหนื่อยง่าย และเสี่ยงเบาหวาน