คลินิกเวชกรรมหมอสมคิด ห้วยทับทัน

23/07/2025

9-12 เปิดคลินิก ที่สาขา ถนน เทศบาล 2
12-16 หยุดพัก
16-19 เปิดคลินิก ที่สาขา 2 หน้าชมดาวรีสอร์ท ถนนไปปรางค์ กู่

24/06/2025

13/06/2025

❗ หยุดแชร์ข่าวปลอม “ไทยเป็นมะเร็งอันดับ 1 ของเอเชีย” ❗ดีไหม?
มีการแชร์ต่อกันว่า “ไทยเป็นอันดับ 1 ของมะเร็งในเอเชีย 1 ใน 8 คนจะเป็นมะเร็ง” — ข้อมูลนี้ พบว่าไม่จริง และ ทำให้คนตื่นตระหนกเกินจริง

✅ สรุปข้อเท็จจริงจากผู้เชี่ยวชาญ:

📌 ไทยไม่ได้เป็นอันดับ 1 ของเอเชียด้านอัตรามะเร็ง

ข้อมูลจาก GLOBOCAN 2022: ประเทศไทยมีอัตรามะเร็งประมาณ 154 รายต่อประชากรแสนคน ซึ่ง ต่ำกว่าหลายประเทศในเอเชีย เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้

📌 “1 ใน 8 คน” ไม่ใช่ค่าแน่นอน

ความเสี่ยงสะสมในการเป็นมะเร็งตลอดชีวิตในไทยอยู่ที่ ราว 1 ใน 9 ถึง 1 ใน 10 คน ไม่ถึง 1 ใน 8 อย่างที่กล่าวอ้าง

📌 อาหารที่ควรระวังจริงๆ ได้แก่
• เนื้อย่างจนไหม้ – เสี่ยงสารก่อมะเร็ง
• น้ำมันทอดซ้ำ – มีสารก่อมะเร็ง PAHs
• พยาธิใบไม้ตับ – มาจากการกินปลาดิบไม่สะอาด เสี่ยง “มะเร็งท่อน้ำดี”

📌 สิ่งที่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าก่อมะเร็งโดยตรง
• กะทิค้างคืน
• ผัดผักค้างคืน
• กล่องโฟมใส่อาหาร (หากใช้ถูกวิธี)

🛡️ ทางออกที่ดีที่สุด:

✅ รับประทานอาหารสด สะอาด
✅ หลีกเลี่ยงของไหม้ ของทอดซ้ำ
✅ งดกินปลาดิบที่อาจมีพยาธิ
✅ ตรวจสุขภาพประจำปี

⸻

🔎 ข้อมูลจาก: GLOBOCAN, WHO, ศูนย์มะเร็งแห่งชาติ, อย.

❌ หยุดแชร์ข่าวปลอม: ไทยมะเร็งอันดับ 1 เอเชีย ❌
#แล้วเราควรทำอย่างไร

✅ ข้อมูลจริงคือ…

🟠 ส่วนที่ 1: ข้อเท็จจริง
• ไทย ไม่ได้ เป็นอันดับ 1 ด้านมะเร็งในเอเชีย
• ความเสี่ยงสะสม: ~1 ใน 9 ไม่ใช่ 1 ใน 8
• อัตรามะเร็งไทยต่ำกว่าจีน ญี่ปุ่น

🟡 ส่วนที่ 2: อาหารที่ “เสี่ยง” จริง

อาหาร ความเสี่ยง
เนื้อไหม้ ก่อสาร HCA, PAHs
น้ำมันทอดซ้ำ มีสารก่อมะเร็ง
ปลาดิบ (อีสาน) พยาธิใบไม้ในตับ ➜ มะเร็งท่อน้ำดี

🟢 ส่วนที่ 3: เข้าใจให้ถูกต้อง
• ❌ กะทิค้างคืน ➜ ไม่มีหลักฐานว่าก่อมะเร็ง
• ❌ ผักค้างคืน ➜ คุณค่าอาหารลดลง ไม่ใช่สารก่อมะเร็ง
• ❌ กล่องโฟม ➜ ยังไม่มีข้อมูลว่าก่อมะเร็งในระดับการใช้งานทั่วไป

🔵 ส่วนที่ 4: สิ่งที่ควรทำ

✅ กินอาหารสด สุก สะอาด
✅ หลีกเลี่ยงของไหม้ ของทอดซ้ำ
✅ หมั่นตรวจสุขภาพ
✅ หาข้อมูลจากแหล่งเชื่อถือได้

⸻

📎 แหล่งอ้างอิง: WHO, GLOBOCAN, สสส., อย., ศูนย์มะเร็ง รพ.จุฬาฯ

19/05/2025

18/05/2025

#กิจกรรมแสดงมุทิตาจิตและความกตัญญูแด่อาจารย์แม่
งาน MDKKU Family 2025
วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม 2568
ณ ห้องประชุมนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ชั้น 9 อาคารศรีธัญญา โรงพยาบาลศรีธัญญา
:กระผม นายแพทย์สมคิด สุริยเลิศ ศิษย์เก่าคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น รุ่นที่ 4 พร้อมด้วยรุ่นพี่ รุ่นน้อง :ศิษย์เก่า ตั้งแต่รุ่นที่ 1 ถึงรุ่นที่ 20 และแขกผู้เกี่ยวข้อง #ขอร่วมแสดงมุทิตาจิตและความเคารพรักแด่ อาจารย์แม่ ผศ.พญ.เนตรเฉลียว สัณฑ์พิทักษ์ และ ศาสตราจารย์ นพ.วันชัย วัฒนศัพย์ ผู้เป็นดั่งแสงสว่างและรากฐานสำคัญของชีวิตทางวิชาชีพแพทย์ของพวกเราทุกคน
:ด้วยพระคุณที่ท่านได้สั่งสอน อบรมบ่มเพาะจิตใจให้เป็นคนดี ประสิทธิ์ประสาทวิชาแพทย์ ทั้งด้านวิชาการและคุณธรรมจริยธรรม ทำให้ลูกศิษย์ได้เติบโตอย่างมั่นคงและประสบความสำเร็จในวิชาชีพแพทย์อย่างภาคภูมิ:วันนี้พวกเราขอรวมพลังกันมาแสดงความรัก ความกตัญญู ด้วยใจที่เปี่ยมล้นไปด้วยความเคารพอย่างแท้จริง

พร้อมกันนี้ขอขอบคุณ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีธัญญา พญ.มธุรดา
สุวรรณโพธิ์ ที่ให้เกียรติและเป็นเจ้าภาพในการจัดกิจกรรมอันอบอุ่นและเปี่ยมความหมายครั้งนี้ ให้พวกเราได้มีโอกาสรำลึกถึงพระคุณของอาจารย์ ทั้ง 2 และสานสัมพันธ์ในครอบครัวพี่น้องแพทย์ขอนแก่นอย่างแน่นแฟ้น

ขอให้งานครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่งดงามในหัวใจของพวกเราทุกคนตลอดไป ทราบว่าปีต่อไปจัดกิจกรรม พบปะอย่างนี้ที่ โรงพยาบาลสงฆ์

ด้วยความเคารพรักและสำนึกในพระคุณอย่างสุดซึ้ง
นพ.สมคิด สุริยเลิศ

14/05/2025

#คลินิกสาขา2 ป้ายใหม่หน้าชมดาวรีสอร์ท อำเภอห้วยทับทัน ร้านติดร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ ห่างแยกไฟแดง ถนน 226 ไปทางปรางค์กู่ 150 เมตร

09/05/2025

#ขอเผยแพร่ ผู้ป่วยที่มีไข้คล้ายหวัดใหญ่ ช่วงนี้ พบมากขึ้น อาจารย์หมอยงเผย โรคโควิด-19 คืนชีพระบาดในไทย เป็นสายพันธุ์ XEC ไม่รุนแรง แต่ระบาดได้ ยังต้องระวังตัว

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ โพสต์ข้อความเกี่ยวกับโรคโควิด 19 กำลังระบาดอย่างมากในประเทศไทย มีดังนี้

“ฤดูกาลของโควิด 19 ได้เริ่มต้นตั้งแต่สงกรานต์เป็นต้นมา และจะระบาดมากขึ้นอีกเมื่อนักเรียนเปิดเทอม ในปีนี้ เนื่องจากฝนมาเร็ว การระบาดในช่วงนี้ จึงมีผู้ป่วยจำนวนมากกว่าปีที่แล้ว จำนวนยอดผู้ป่วยที่แท้จริง มิอาจจะทราบได้ แต่ยอดจำนวนผู้ป่วยที่นอนในโรงพยาบาล แต่เห็นได้ชัดเจนจากรูปที่ให้ดู ในปีนี้มากกว่าปีที่แล้ว สีเข้มชัดเจน สัปดาห์ละ มากกว่า 5,000 คน

เชื้อโควิด 19 ที่พบในขณะนี้เป็นสายพันธุ์ XEC เป็นส่วนใหญ่ เป็นสายพันธุ์ หลานเหลนของโอมิครอน และลดความรุนแรงของโรค มาโดยตลอด ผู้ที่เคยเป็นมาแล้ว เป็นซ้ำได้อีก และส่วนใหญ่ จำนวนมากไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อ คือมีอาการน้อย แต่แพร่กระจายได้ จึงเป็นเหตุให้มีการแพร่กระจายได้อย่างกว้างขวางและรวดเร็ว

อัตราการเสียชีวิตของโรคนี้ในปัจจุบัน ลดลงอย่างมาก น่าจะอยู่ในระดับของไข้หวัดใหญ่ ซึ่งปีนี้ทั้งปีคาดว่าจะมีการเสียชีวิตไม่เกิน 100 คน ดังแสดงในรูปเปรียบเทียบในแต่ละปี ในปีนี้ถึงแม้จะมีการระบาดและมีจำนวนคนนอนโรงพยาบาลมากกว่าปีที่แล้ว แต่อัตราการเสียชีวิตในช่วงเวลาเดียวกันก็น้อยกว่าปีที่แล้ว ฤดูการระบาดจะไปถึงเดือนกรกฎาคม สิงหาคม จึงจะเริ่มลดลง เช่นปีที่แล้ว

ผู้ป่วยที่มีร่างกายแข็งแรงดี การรักษาตามอาการ เหมือนโรคทางเดินหายใจทั่วไป ยกเว้นในผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอมากๆ เช่นผู้สูงอายุ ที่เกิน 70 ปีขึ้นไป หรือมีโรคประจำตัว ที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอลง ควรจะพบแพทย์ เพื่อดูแลการรักษาที่เหมาะสม ปัจจุบันถึงจะมีวัคซีน แต่สายพันธุ์ที่มีอยู่ขณะนี้อยู่ห่างไกลกับสายพันธุ์ที่ระบาด และการที่เรามีภูมิต้านทานแล้ว ไม่ว่าจะจากการติดเชื้อ และหรือฉีดวัคซีนในอดีต จึงมีภูมิต้านทาน ส่วนหนึ่งที่ทำให้โรคลดความรุนแรงลง จึงไม่ได้แนะนำให้ฉีดวัคซีน และไม่ได้อยู่ในโครงการที่จะให้วัคซีนฟรี

การรักษา เป็นการรักษาตามอาการเหมือนโรคทางเดินหายใจทั่วไป ในผู้ที่สูงอายุ หรือมีร่างกายอ่อนแอมากๆที่จัดว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยง การให้ยาต้านไวรัส อยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ โดยขณะนี้ยาที่ใช้ได้ผลดีที่สุดคือ Remdesivir สิ่งสำคัญที่สุดขณะนี้คือการป้องกันการระบาดโดยเฉพาะในโรงเรียน โรงงาน หรือที่มีคนหมู่มาก ด้วยการล้างมือ อยู่เป็นนิจ ใช้แอลกอฮอล์ และถ้าป่วย ควรหยุดเรียน หน้ากากอนามัยแนะนำให้ ผู้ป่วยทุกคนจะต้องใส่ เพื่อป้องกันการกระจายและระบาดของโรค”

ที่มา: FB Yong Poovorawan (9 พ.ค. 68)

09/05/2025

#วิชาการ โรคที่พบบ่อย ในเวชปฏิบัติทั่วไป
จากภาพถ่ายและประวัติผู้ป่วยชายไทยอายุประมาณ 60–68 ปี ที่มีผื่นคันเรื้อรังมานานกว่า 8 เดือน และใช้ยาทาเองจากร้านขายยาทั่วไปแต่ไม่ได้ผล อาการทางผิวหนังที่เห็นคือ:
• ผื่นแดงเรื้อรัง มีลักษณะเป็นแผ่น (plaque) สีชมพูแดง
• ผิวแห้ง มีขุยบางบริเวณ
• มีการเกาและรอยดำจากการเกา (lichenification)
วินิจฉัยเบื้องต้นที่เป็นไปได้:

1. Eczema เรื้อรัง (Chronic Eczematous Dermatitis)
ลักษณะตรงกับผื่นคันเรื้อรังที่มักพบในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวแห้งหรือมีประวัติภูมิแพ้

2. Lichen Simplex Chronicus (Lichenification)
เกิดจากการเกาเรื้อรังจนผิวหนังหนาตัว

3. Psoriasis (สะเก็ดเงิน)
ต้องพิจารณาหากมีขุยหนา สีเงิน และลอกง่าย แม้ในภาพนี้ยังไม่ชัดเจนพอจะชี้ชัดว่าใช่แน่นอน

แนะนำการวินิจฉัยเพิ่มเติม:
• ตรวจร่างกายเต็มตัวโดยแพทย์ผิวหนัง
• ส่องกล้องผิวหนัง (dermatoscopy)
• หากไม่แน่ชัด อาจต้องทำ skin biopsy

แนวทางการรักษาเบื้องต้น:

1. หยุดใช้ยาทาเดิมทั้งหมด (โดยเฉพาะถ้ามี steroid ผสมโดยไม่รู้ปริมาณ)
การใช้ steroid ผิดวิธีอาจทำให้เกิด “Steroid-induced dermatitis”

2. ควบคุมอาการคันและอักเสบด้วยยาต่อไปนี้ (ตามดุลยพินิจแพทย์):
• ครีม steroid potency ปานกลางถึงสูง (เช่น triamcinolone หรือ clobetasol สำหรับช่วงสั้น)
• ยาแก้แพ้/คัน เช่น cetirizine, loratadine
• ถ้ามีเชื้อแทรกซ้อน (infection) อาจพิจารณาให้ antibiotic topical หรือ oral

3. ใช้ moisturizer เป็นประจำ
ควรใช้ชนิดเข้มข้น เช่น petrolatum-based หลังอาบน้ำทันที

4. หลีกเลี่ยงการเกา
อาจพิจารณาใส่ถุงมือเวลานอน

5. ถ้าไม่ดีขึ้นใน 2-4 สัปดาห์ ควรพบแพทย์ผิวหนังโดยตรง
เพื่อตรวจเพิ่มเติม และอาจพิจารณาใช้ยาระบบ เช่น methotrexate หรือ phototherapy
ท่านที่มีอาการคล้ายโรคนี้ ปรึกษาแพทย์ประจำตัวท่านก่อนครับ

04/05/2025

ความรู้ โรคพบบ่อย ในผู้สูงอายุ
#ผู้ป่วยหญิง อายุ 76 ปี มีผื่นตุ่มน้ำใสที่บริเวณข้อศอก ท้อง ลักษณะเปื่อย แดง มีอาการคัน แสบ และปวดร้อน เป็นมานาน 1 ปี และตอบสนองต่อยากลุ่มสเตียรอยด์บางส่วน ร่วมกับมีโรคประจำตัวคือ เบาหวานและความดันโลหิตสูง
#วินิจฉัยแรกรับ: Bullous pemphigoid (บูลลัส เพมฟิกอยด์)
เหตุผลในการวินิจฉัย:
• อายุผู้ป่วยสูง (พบบ่อยในผู้สูงอายุ)
• ลักษณะตุ่มน้ำตึง ใส ขนาดปานกลางถึงใหญ่ บางส่วนแตกกลายเป็นรอยถลอก
• อาการคันแสบ และปวดเล็กน้อย ซึ่งพบได้ใน bullous pemphigoid
• การตอบสนองต่อ systemic corticosteroids
• ความเรื้อรัง (เป็นมา 1 ปี)
• มักพบรอยโรคที่ตำแหน่งที่มีแรงกด เช่น ข้อศอก สะโพก หน้าท้อง
การวินิจฉัยเพิ่มเติม:
1. ตรวจชิ้นเนื้อผิวหนัง (skin biopsy) เพื่อดูพยาธิสภาพ
2. Direct Immunofluorescence (DIF) ตรวจหาการสะสมของ IgG และ C3 ที่ basement membrane
3. ตรวจเลือด ELISA สำหรับ autoantibodies เช่น BP180 และ BP230
แนวทางการรักษา:
1. การรักษาทางยา
• Prednisolone (systemic corticosteroids) เริ่มต้น 0.5–1 mg/kg/day แล้วค่อยๆลดขนาด
• Topical corticosteroids สำหรับผื่นเฉพาะที่หรือในรายไม่รุนแรง (เช่น clobetasol)
• หากจำเป็นใช้ยากดภูมิร่วม เช่น
• Azathioprine
• Mycophenolate mofetil
• Methotrexate (อาจพิจารณาหากมีข้อห้ามในการใช้ steroid)
2. การดูแลแผล
• รักษาความสะอาดบริเวณผื่น
• ใช้ antiseptic เช่น povidone-iodine หรือ chlorhexidine
• หลีกเลี่ยงการแกะเกา และใช้ผ้าปิดแผลถ้ามีแผลเปิด

3. การดูแลร่วมกับโรคประจำตัว
• เฝ้าระวังระดับน้ำตาลในเลือด เนื่องจาก steroid จะทำให้น้ำตาลสูงขึ้น
• ควบคุมความดันโลหิตอย่างใกล้ชิด

หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ผื่นอาจลุกลาม มีการติดเชื้อแทรกซ้อน และคุณภาพชีวิตลดลง ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางผิวหนังเพื่อการยืนยันการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาอย่างใกล้ชิดต่อไป

02/05/2025

#ส้มโอเมืองจันทร์ ผลไม้ ขึ้นชื่อศรีสะเกษ

02/05/2025

#สาขาแรก ถนนเทศบาล 2 เปิดบริการ 9.00-12.00น.
บ่ายพัก
#สาขา 2 หน้าชมดาวรีสอร์ท 16.00-19.00น.

20/04/2025

#คลินิกเวชกรรมหมอสมคิด สาขา 2 หน้าชมดาวรีสอร์ท