เว็บไซต์คืออะไร?

https://m.me/modora5656, https://abalon-ncd.weebly.com/

เพจหลัก modora โมดูร่า abalon อาบาโลน เพื่อสุขภาพ, พัฒนาการ, Suan Luang (2025)

26/01/2023

#รู้ได้ไงว่าเป็นมะเร็ง?
การที่จะรู้ว่าเป็นมะเร็งแน่ๆ ก็ต้องตรวจด้วยเครื่องมือ MRI, CT scan, PET scan เพื่อตรวจดูอวัยวะส่วนที่มีความผิดปกติที่คาดว่าจะเป็นมะเร็ง แต่ร่างกายนี้เป็นของเรา เราย่อมรู้สึกถึงความผิดปกติได้ก่อนใคร โดยการสังเกตอาการเบื้องต้น ดังนี้
- รู้ได้ไงว่าเป็นมะเร็งเต้านม คลำดูจะพบก้อนที่เต้านมหรือรักแร้ เมื่อกดดูจะรู้สึกเจ็บ และรูปทรงของเต้านมเปลี่ยนไป หัวนมบอด มีของเหลวหรือเลือดไหลออกจากหัวนม
- รู้ได้ไงว่าเป็นมะเร็งปากมดลูก ประจำเดือนมามากหรือน้อยผิดปกติ มีเลือดออกจากช่องคลอดในช่วงที่ไม่มีเมนส์ ตกขาวมีกลิ่นเหม็น ปวดบริเวณช่องคลอด
- รู้ได้ไงว่าเป็นมะเร็งรังไข่ เป็นมะเร็งที่ตรวจพบยาก อาจต้องตรวจด้วยอัลตร้าซาวด์ อาการคล้ายโรคระบบทางเดินอาหาร เช่น ปวดหน่วงๆที่ท้องน้อย จุกเสียด คลำเจอก้อนเนื้อแถวท้องน้อย มีพุงห้อยกว่าปกติ บางรายจะมีอาการคล้ายมะเร็งปากมดลูก คือ มีเลือดออกจากช่องคลอดทั้งๆที่ไม่ใช่ช่วงมีเมนส์
- รู้ได้ไงว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก กลั้นปัสสาวะไม่ได้ ปัสสาวะติดขัดและมีอาการปวด มีเลือดปนในปัสสาวะหรือน้ำอสุจิ อวัยวะเพศไม่แข็งตัว มีอาการเจ็บตอนหลั่งน้ำอสุจิ
- รู้ได้ไงว่าเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะติดขัด ปวดแสบหลังปัสสาวะ ตัวซีด อ่อนเพลีย ปวดหลังตอนล่าง
- รู้ได้ไงว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ระบบขับถ่ายแปรปรวน เช่น ท้องผูกสลับท้องเสีย ปวดหน่วงๆที่ลำไส้ คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร อุจจาระปนเลือด ถ่ายอุจจาระไม่สุด
- รู้ได้ไงว่าเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร ปวดท้องส่วนบนตรงกลาง ท้องอืด เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียนมีเลือดปน อุจจาระเป็นสีดำ น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- รู้ได้ไงว่าเป็นมะเร็งตับ ปวดท้องเฉพาะบริเวณข้างขวาส่วนบน อาจมีปวดร้าวที่หลังหรือไหล่ ตัวเหลือง ตาเหลือง น้ำหนักลดอย่างเร็ว อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ท้องเปลี่ยนรูปทรงเพราะตับโตขึ้น
- รู้ได้ไงว่าเป็นมะเร็งปอด หายใจมีเสียงหวีดๆ หายใจสั้นๆถี่ๆ หายใจไม่ทั่วท้อง เหนื่อยง่าย ไอเป็นเลือด เจ็บหน้าอก น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว
- รู้ได้ไงว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว จะมีเลือดออกง่าย เช่น เลือดออกตามไรฟัน ประจำเดือนมามากผิดปกติ เลือดจาง ตัวซีด ผิวเป็นจ้ำๆ อ่อนเพลีย เป็นไข้ น้ำหนักลด
- รู้ได้ไงว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง พบก้อนบริเวณคอ รักแร้ ขาหนีบ ต่อมทอนซิลโต เบื่ออาหาร น้ำหนักลด มีไข้เป็นระยะ และเหงื่อออกมากในตอนกลางคืน
- รู้ได้ไงว่าเป็นมะเร็งสมอง ปวดศรีษะรุนแรง คลื่นไส้อาเจียน ตาพร่า เห็นแสงเป็นจุดลอยไปมา แขนขาชา ชาที่ใบหน้าซีกใดซีกหนึ่ง การพูดสื่อสารไม่เหมือนเดิม สูญเสียการทรงตัว
หากตรวจพบความผิดปกติ หรือสงสัยว่าจะเป็นมะเร็ง ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโดยละเอียด เพราะมะเร็งในระยะต้นๆมีโอกาสรักษาหายได้มากกว่าระยะท้ายๆ

23/01/2023

Top 5 โรคมะเร็งที่คนไทยเสี่ยงสุดๆ
ถ้าถามว่ามะเร็งเกิดจากอะไร ก็คงไม่มีใครตอบสาเหตุที่แน่นอนได้ อาจจะเกิดจากพันธุกรรม หรือสาเหตุใกล้ๆ ตัวอย่างพฤติกรรมการใช้ชีวิต ไลฟ์สไตล์ ของแต่ละคนก็มีผลเป็นอย่างมาก บางทีอาจจะมากกว่ามะเร็งด้วยซ้ำ แล้วไลฟ์สไตล์ของคนไทยทำให้เกิดมะเร็งอะไรได้บ้างล่ะมาดูกันดีกว่า

5 โรคมะเร็งยอดฮิตที่คนไทยเป็นมากที่สุด
1. มะเร็งตับ เป็นโรคมะเร็งที่พบได้มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโรคมะเร็งที่เกิดในผู้ชายไทย มักพบในคนอายุ 30-70 ปี และพบได้ในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงประมาณ 3 เท่า โรคนี้จัดเป็นโรครุนแรงมาก ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้มากที่สุดโรคหนึ่ง เพราะโรคมะเร็งตับในระยะแรกมักไม่ค่อยแสดงอาการ ผู้ป่วยกว่าจะได้รับการวินิจฉัยครั้งแรกก็มักจะอยู่ในระยะท้ายของโรคทำให้ไม่มีทางรักษาให้หายได้แล้ว

พฤติกรรมเสี่ยงมะเร็งตับ ผู้ที่ชอบทานอาหารสุกๆ ดิบๆ ไหม้เกรียม หรืออาหารที่มีเชื้อรา อาหารที่ใส่สารกันบูด ที่สำคัญคือ ผู้ที่ชอบเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกประเภท

2. มะเร็งปอด ปัจจุบันมะเร็งปอดเป็นโรคมะเร็งที่พบมากในประเทศไทย โดยพบในเพศชายเป็นอันดับ 2 และในเพศหญิงเป็นอันดับ 4 จากการสำรวจพบว่าผู้ป่วยมะเร็งปอดมากกว่า 85% เกิดจากการสูบบุหรี่ และอีก 30% มาจากผู้ใกล้ชิดผู้สูบบุหรี่ แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลให้เกิดเป็นมะเร็งชนิดนี้ เช่น มลพิษทางอากาศ (กรุงเทพฯของเราก็มลพิษเยอะอยู่นะ)

พฤติกรรมเสี่ยงมะเร็งปอด การสูบบุหรี่ด้วยตัวเองหรือการสูดดมควันบุหรี่มือสอง การสูดดมฝุ่น รวมถึงมลพิษในอากาศเป็นระยะเวลายาวนาน

3. มะเร็งปากมดลูก เป็นหนึ่งในโรคมะเร็งที่สร้างความกังวลใจให้กับผู้หญิงจำนวนมาก เนื่องจากเป็นโรคที่มีโอกาสเกิดได้ง่าย จึงไม่น่าแปลกใจที่ในแต่ละปีจะพบผู้ป่วยรายใหม่มากถึง 500,000 คนทั่วโลก และยังเป็นอันดับต้นๆ ของโรคมะเร็งในผู้หญิงไทย มักพบในช่วงอายุ 30-70 ปี (พบมากในช่วง 50 ปีขึ้นไป) แต่คนที่อายุก็ยังมีโอกาสเป็นได้นะ

พฤติกรรมเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ต่ำกว่า 18 ปี มีพฤติกรรมเปลี่ยนคู่นอนบ่อย รวมทั้งมีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำหรือบกพร่อง สตรีที่สูบบุหรี่หรือผู้ใกล้ชิดเป็นผู้สูบบุหรี่

4. มะเร็งเต้านม เป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยเป็นอันดับที่ 1 ของโรคมะเร็งที่พบได้ในผู้หญิง จะเริ่มพบได้ตั้งแต่วัยสาวเป็นต้นไป และจะพบได้มากขึ้นตามอายุ ประมาณ 90% ของมะเร็งเต้านมเกิดจากต่อมน้ำนมและท่อน้ำนม ส่วนมากจึงจะพบในหญิงที่มีอายุมากกว่า 40 ปี แต่ไม่ใช่ผู้หญิงเท่านั้นที่มีโอกาสเป็น เพราะผู้ชายเองก็เป็นได้แต่แค่น้อยกว่าเท่านั้นเอง

พฤติกรรมเสี่ยงมะเร็งเต้านม คนที่ชอบอาหารที่มีไขมันสูง ชอบกินอาหารขยะ อาหารฟาสต์ฟู้ด หรือชอบสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ และขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

5. มะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคมะเร็งลำไส้ที่ถือเป็นหนึ่งในสามของชนิดมะเร็งสุดฮิตของคนไทย พบผู้ป่วยรายใหม่ 1,300,000 คนต่อปี อาจเป็นเพราะว่าโรคนี้เกิดจากอาหารที่เราทานกันเป็นประจำ โดยที่ไม่รู้ตัวว่าอาหารเหล่านั้นอาจมีสารที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ มักพบในอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป แต่อาจพบในเด็กโตได้ โดยผู้ชายและผู้หญิงมีโอกาสเกิดโรคได้ใกล้เคียงกัน

พฤติกรรมเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ ผู้ที่ชอบทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์ปิ้งย่างไหม้เกรียม สุกๆ ดิบๆ อาหารหมักดอง อาหารไขมันสูง สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ไม่ทานผักผลไม้ และไม่ออกกำลังกาย

เห็นไหมล่ะว่ามะเร็งนั้นล้วนแล้วแต่เกิดจากพฤติกรรมการของเราทั้งสิ้น เพราะด้วยการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ และประมาท ไม่ว่าจะเป็น การกิน การใช้ชีวิต การออกกำลังกาย อาจนำมาสู่ผลร้ายมากกว่าที่คุณคิด รู้อย่างนี้แล้วก็ลองเปลี่ยนพฤติกรรม ปรับความคิด ใช้ชีวิตให้ปลอดภัย เพื่อห่างไกลความเสี่ยงของโรคมะเร็งกันดีกว่า เพราะ มะเร็ง + ไลฟ์สไตล์เปลี่ยน = ความเสี่ยงต่ำ

มะเร็ง + รู้ระยะ = ชีวิตไปได้ต่อ

Cr.กระทรวงสาธารณสุข

23/01/2023

👉👉ถ้าคุณเจอโรคร้ายวันนี้...คุณจะมองว่าวันนี้เป็นวันแรกหรือวันสุดท้าย
ทางออกที่คุณเลือกได้วันนี้ถ้าคุณทำคีโมเเล้วแพ้...❤❤✨
👉การให้คีโมเป็นวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับการรักษามะเร็ง❇❇
แต่ก็เป็นวิธีการที่เสี่ยงที่สุดเหมือนกัน เพราะว่าบางเคสมีอาการ
ทานอาหารไม่ได้ อาเจียน
เหนื่อยง่าย
อ่อนเพลีย
เม็ดเลือดขาวต่ำ ก็ไม่สามารถรักษาโดยการให้คีโมได้
🌟เปิดใจทาน อาบาโลน
เพราะ ✅โปรตีน จากเห็ดเป๋าหื้อ ABALONE ตัวนี้เป็นสารอาหารบำบัดจากธรรมชาติไม่มีผลข้างเคียงต่อตับต่อไตสามารถทานคู่กับยาที่แพทย์ให้ได้เลยค่ะให้สารอาหารบำบัดตัวนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการบำบัดอีกทางนะคะ

ของเราจะเป็นสารอาหารบำบัดจะช่วยฆ่า ยับยั้งเซลล์มะเร็งแล้วก็ซ่อมแซมฟื้นฟูให้ร่างกายแข็งแรงและกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ค่ะ ช่วยในการดูแล👉👨‍👩‍👦‍👦💑สุขภาพเพื่อคนที่คุณรัก
🌿อย่ารอให้ถึงวันนั้นเลย เป็นวันที่สายเกินไป
ปัญหาสุขภาพและดูแลด้านมะเร็งทุกระบบ

21/01/2023

มะเร็งกระเพาะอาหาร เกิดจากการที่เซลล์เยื่อบุกระเพาะอาหารมีการแบ่งจำนวนมากขึ้น อย่างผิดปกติ ทำให้เกิดเป็นมะเร็งขึ้นมา สามารถเกิดขึ้นได้ทุกส่วนของกระเพาะ เมื่อมะเร็งมีขนาด ใหญ่ขึ้น จะเกิดการกระจายไปยังต่อมน้ำเหลือง และสามารถกระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ เช่น ตับ ตับอ่อน ลำไส้ ปอด และรังไข่ได้ โดยเฉพาะการติดเชื้อ Helicobacter pylori เป็นเชื้อที่ทำให้เกิดการอักเสบ และแผลในกระเพาะอาหารได้ การติดเชื้อชนิดนี้ เพิ่มความเสี่ยงในการเกิด โรคมะเร็งกระเพาะอาหารได้มากขึ้น
ในระยะแรกของโรคอาจไม่มีอาการแสดงที่เฉพาะและอาจมีอาการคล้ายโรคอื่นๆ เช่น โรคแผลในกระเพาะอาหาร หรือกระเพาะอาหารอักเสบ ได้แก่ รู้สึกอาหารไม่ย่อยหรือ รู้สึกไม่สบายท้อง ท้องอืดหลังรับประทานอาหาร คลื่นไส้เล็กน้อย ไม่อยากรับประทานอาหาร มีอาการแสบร้อนบริเวณหน้าอก และในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการลุกลามขึ้น ผู้ป่วยจะมีอาการดังต่อไปนี้ รู้สึกไม่สบายท้องโดยเฉพาะช่องท้องบริเวณส่วนบนและตรงกลาง มีเลือดปนในอุจจาระ อาเจียน โดยอาจมีอาเจียนเป็นเลือดได้ ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำคล้ำ น้ำหนักตัวลดลง ปวดท้องหรืออาเจียน เป็นอาหารที่กินเข้าไป เนื่องจากมีการอุดตันของกระเพาะอาหาร กลืนติด หรือทานอาหารได้ลดลง อ่อนเพลีย
📌มะเร็งระยะเริ่มแรก หมายถึงมะเร็งที่อยู่เฉพาะชั้นเยื่อบุส่วนบนของกระเพาะอาหาร โดยทั่วไปมักจะไม่มีอาการ
📌สำหรับมะเร็งในระยะลุกลาม มีการลุกลามเข้าสู่ชั้นเยื่อบุส่วนล่างหรือกล้ามเนื้อของกระเพาะอาหาร สามารถมีการกระจายไปที่ต่อมน้ำเหลือง 💥ซึ่งเป็นมะเร็งระยะที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยคนไทย💥 ผู้ป่วยมักจะมีอาการ เช่น อืดท้อง อาหารไม่ย่อย หรือ มีเลือดออกในกระเพาะ มาซักระยะหนึ่ง
📌มะเร็งระยะแพร่กรจาย หมายถึงมะเร็งระยะที่มีการกระจายไปสู่อวัยวะอื่นๆ เช่น ตับ ตับอ่อน ช่องท้อง ปอด หรือต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ไกลออกไป
🙏 ขอขอบคุณข้อมูล:รพ.นนทเวช

15/01/2023

15 ผลไม้ที่มะเร็งกลัว ผลไม้ยาป้องกันโรคมะเร็ง ต่อไปนี้สามารถต้านโรคมะเร็ง และป้องกันความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งให้เราได้อีกทางหนึ่งด้วย ดังนี้...
1. มันเทศ (Sweet Potato)มันฝรั่งอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต, เบต้าแคโรทีน, ไฟเบอร์, วิตามินเอ, วิตามินซี, ไรโบฟลาวิน (วิตามินบีชนิดหนึ่ง), กรดโพลีฟีนอล แอนตี้ออกซิแดนท์ คาเฟอิก (Polyphenol Anti-oxidants Caffeic Acid) และกรดคาเฟโออิวควินิก (Caffeoylquinic Acid) ซึ่งช่วยป้องกันโรคมะเร็ง รวมทั้งลดความเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านม
2. ทับทิม
ทับทิมไม่ได้มีแค่ไฟโตนิวเทรียนต์เท่านั้น แต่ยังพกกรดเอลลาจิก (Ellagic Acid) ซึ่งเป็นกรดที่ช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในร่างกายมนุษย์ รวมทั้งยับยั้งการขยายของเซลล์ผิดปกติที่อาจจะกลายเป็นเซลล์มะเร็ง สารเอลลาจิกในทับทิม สามารถป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกของผู้หญิงได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
3. มังคุด
มังคุดเป็นผลไม้สัญชาติไทยแท้ที่หากินได้ง่ายในบ้านเรา มีสารต้านเซลล์มะเร็งที่น่าสนใจนั่นก็คือ สารที่เรียกว่า แซนโทน (XANTHONE) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูงมาก สามารถซ่อมแซมเซลล์ส่วนมี่ถูกทำลายโดยปัจจัยต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
4. มะขามป้อม มีกรดเอลลาจิก (Ellagic Acid)พ่วงกรดฟิลเลมลิก (Phyllemblic Acid) และสารฟีนอล (Phenols) มาเป็นเพื่อนด้วย ซึ่งก็หมายความว่า มะขามป้อมเป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณช่วยป้องกันมะเร็ง
5. แอปเปิล ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง อีกทั้งยังป้องกันโรคมะเร็งได้ตั้งแต่สาเหตุของโรคเลยทีเดียว เนื่องจากสารฟลาโวนอยด์ในปริมาณที่สูงมากของเปลือกแอปเปิล สามารถล้างพิษออกจากร่างกาย และช่วยป้องกันอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งลำไส้
5.มะละกอ ไม่ว่าจะดิบ หรือสุก สามารถช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการเข้าไปยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก หรือเซลล์ผิดปกติที่ทำท่าว่าจะเป็นเซลล์ก่อมะเร็ง ที่สำคัญยังเจ๋งขนาดป้องกันได้ทั้งมะเร็งปากมดลูก, มะเร็งเต้านม, มะเร็งตับ และมะเร็งตับอ่อน
7. ส้ม และผลไม้ตระกูลส้มทุกชนิด
นอกจากจะอัดแน่นไปด้วยกรดวิตามินซีแล้ว ในผลไม้จำพวกส้มยังมีคุณสมบัติต้านมะเร็ง โดยเฉพาะป้องกันมะเร็งเต้านม
8. แก้วมังกร สารสกัดจากเปลือกแก้วมังกรสีสด ๆ มีศักยภาพในการป้องกันมะเร็งดีกว่าการรับประทานผลสดซะอย่างนั้น ป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือด และช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายเราได้เป็นอย่างดี
9. องุ่น มีสารอาหารที่สำคัญที่ดีคือน้ำตาล และสารอาหารจำพวกกรดอินทรีย์ เช่น น้ำตาลกลูโคส น้ำตาลซูโครส วิตามินซี เหล็กและแคลเซียม มีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง บำรุงหัวใจ แก้กระหาย ขับปัสสาวะ และช่วยฟื้นกำลังคนที่ร่างกายผอมแห้ง
10. อะโวคาโด มีส่วนช่วยป้องกันความผิดปกติที่เกิดจากเซลล์ ปกป้องเซลล์ในร่างกายไม่ได้เกิดเนื้อร้าย กำจัดเซลล์ที่ตายแล้ว รวมทั้งยับยั้งการเจิญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติ
11. สตรอว์เบอร์รี
ไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrients) หรือสารพฤษเคมี บวกกับวิตามินซี และแร่ธาตุดี ๆอีกหลายชนิดในสตรอว์เบอร์รี ก็เป็นส่วนสำคัญในการต้านเซลล์มะเร็ง
12. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี
จริง ๆ แล้วผลไม้ตระกูลเบอร์รีทุกชนิดมีสารที่ช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้เกือบทั้งหมด ในผลแบล็กเบอร์รีจะมีคุณสมบัติต้านมะเร็งที่โดดเด่นกว่าใครเพื่อน เนื่องจากมีสารพฤษเคมีจำพวกแอนโทไซยานิน (Anthocyanins) สูง ซึ่งช่วยชะลอการเกิดเซลล์มะเร็ง แถมยังสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ได้อีกต่างหาก
13. เลมอน วิตามินซี และกรดหลากชนิดในผลเลมอน สามารถป้องกันมะเร็งช่องปาก, มะเร็งลำคอ และมะเร็งในช่องท้องได้
14. กีวี อัดแน่นไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ, วิตามินซี, วิตามินอี, ลูเตียน (Lutein) และสังกะสีชนิดนี้ มีประสิทธิภาพมากพอจะต้านเซลล์มะเร็งได้อยู่หมัด เพียงแค่กินกีวีสดวันละครึ่งลูกก็เท่ากับกินยาต้านมะเร็งเกรดพรีเมียม
15. มะเขือเทศ มีคุณสัมบัติป้องกันโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก รวมไปถึงมะเร็งปอด, มะเร็งเต้านม และมะเร็งมดลูกได้ชะงัด
อย่างไรก็ดียังมีธัญพืช รวมถึงผักอีกหลายชนิด เช่น ถั่วดำ, บรอกโคลี, ผักตระกูลกะหล่ำ, อาหารจำพวกปลา, กระเทียม และอาหารอื่น ๆ อีกมากมายที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้

14/01/2023

CR.ชีวจิต #กล้วย #กล้วยรักษาโรค #ท้องเสีย #แผลในกระเพาะอาหาร

13/01/2023

#ใครเคยอ่านบทความนี้มาบ้าง #ภูมิคุ้มกันบกพร่องทำให้เป็นมะเร็ง?
#เคมีฉายแสงทำให้มะเร็งดื้อรักษายาก?
รู้ไว้เลย!!!เอาชนะมะเร็ง เรื่องจริงที่หมอไม่ได้บอก มะเร็งต้องแพ้ วิธีช่วยลดความเสี่ยง และ ป้องกันมะเร็งรักชีวิตควรอ่าน
#มะเร็งเกิดจากอะไร
มะเร็งเกิดจากเซลล์ที่ผิดปกติในระดับสารพันธุกรรม หรือที่เราเรียกกันว่า ดีเอ็นเอ พวกเรามีเซลล์มะเร็งเกิดขึ้นในทุกๆ วัน โดยเกิดขึ้นในวันหนึ่งๆ เป็นพันๆ เซลล์ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นโรคมะเร็ง #ทำไมเราถึงไม่ได้เป็นโรคมะเร็งกันทุกคน?
ที่เซลล์เหล่านี้ไม่ได้ทำให้บางคนเป็นโรคมะเร็ง เป็นเพราะว่าในร่างกายของเรามีเม็ดเลือดขาวที่สามารถเข้าไปกำจัดเซลล์มะเร็งเหล่านี้ให้ออกไปจากร่างกายได้ 100% เลยนั่นเอง แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งเม็ดเลือดขาวทำหน้าที่บกพร่องไปเล็กน้อย เหลือเซลล์มะเร็งหลุดรอดไปได้ อาจจะเพียงแค่ 1% แต่ 1% นั้นที่เหลืออยู่ในร่างกายเรา จะสามารถเจริญเติบโต และแบ่งเซลล์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นก้อนมะเร็งในที่สุด
👉หลังจากหลายปีที่พูดกันว่าการทำคีโมเป็นทางเลือกเดียวที่จะลองและใช้ในการกำจัดโรคมะเร็งในที่สุด แต่วันนี้อยากแนะนำถึงทางเลือกอื่นๆ ด้วย
1. ทุกๆ คนมีเซลมะเร็งอยู่ในร่างกาย เซล มะเร็งเหล่านี้จะไม่ปรากฎด้วยวิธีการตรวจสอบตามมาตรฐานจนกระทั่งมันขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับพันล้านเซล (1,000,000,000 เซล) เมื่อแพทย์บอกว่าไม่มีเซลมะเร็งในร่างกายผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษาแล้ว มันหมาย ถึงว่าระบบไม่สามารถตรวจสอบเซลมะเร็งได้ เพราะว่าจำนวนของมันยังไม่มากพอจนถึงระดับที่สามารถตรวจจับได้เท่านั้น
2. เซลมะเร็งเกิดขึ้นระหว่าง 6 ถึงมากกว่า 10 ครั้งในช่วงอายุของคนๆ หนึ่ง
3. เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงเพียงพอ เซลมะเร็งจะถูกทำลายและป้องกันไม่ให้เกิดการขยายตัวและกลายเป็นเนื้องอก
4. เมื่อใครก็ตามเป็นมะเร็งมันกำลังบอกว่าคนๆนั้นมีความบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับ โภชนาการ ซึ่งอาจเกิดจากยีนส์สิ่งแวดล้อม อาหารและปัจจัยอื่นๆ ในการดำรงชีวิต
5. เพื่อเอาชนะภาวะบกพร่องหลายประการ เกี่ยวกับโภชนาการ การเปลี่ยนแปลงประเภท ของอาหารรวมทั้งสารอาหารบางอย่างจะช่วยให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น
6. การทำคีโมคือการให้สารเคมี ที่มีความเป็นพิษกับเซลมะเร็งที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ขณะเดียวกัน มันก็จะทำลายเซลที่ดีที่ กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในไขกระดูก ทำลายระบบทางเดินอาหาร ฯลฯ และเป็นสาเหตุทำให้อวัยวะบางส่วนถูกทำลาย เช่น ตับ ไต หัวใจ ปอดฯลฯ
7. การบำบัดโดยคีโม และการฉายรังสีมักจะ ช่วยลดขนาดของเนื้องอกได้ในช่วงแรกๆ อย่างไรก็ตาม ถ้าทำไปนานๆพบว่ามักไม่ส่งผลต่อการทำลายเซลเนื้องอก
8. เมื่อร่างกายได้รับสารพิษจากการทำคีโมหรือการฉายรังสีมากเกินไป ระบบภูมิคุ้มกันอาจปรับตัวเข้ากันได้หรือไม่ก็อาจถูกทำลายลง ดังนั้นคนๆ นั้นจึงอาจตกอยู่ในอันตรายจากการติดเชื้อหลายชนิดและทำให้โรคมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น
9. การทำคีโมและการฉายรังสี อาจเป็นสาเหตุทำให้เซลมะเร็งกลายพันธุ์ดื้อยา และยากต่อการทำลาย การผ่าตัดก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เซลมะเร็งกระจายไปทั่วร่างกาย
10. วิธีที่ดีที่สุดในการทำสงครามกับมะเร็ง คือการไม่ให้เซลมะเร็งได้รับอาหารเพื่อนำไปใช้ในการขยายตัว
11. โปรตีนจากเนื้อจะย่อยยาก และ ต้องการเอ็นไซม์หลายชนิดมาช่วยในการย่อยเนื้อสัตว์ ที่ไม่สามารถย่อยได้ในระบบทางเดินอาหาร จะเกิดการบูดเน่าและมีความเป็นพิษมากขึ้น
12. ผนังของเซลมะเร็ง จะมีโปรตีนห่อหุ้มไว้ การงดหรือ การรับประทานเนื้อสัตว์น้อยลง จะทำให้มีเอ็นไซม์เหลือมากพอมาใช้โจมตี กำแพงโปรตีนที่ห่อหุ้มเซลมะเร็ง และช่วยให้เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้น
13. สารอาหารบางอย่าง อาจช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน (สาร IP6 [inositol hexaphosphate หรือ phyti acid], สาร Flor-essence, สาร Essiac, สารแอนตี้-อ๊อกซิแดนส์, วิตามิน, เกลือแร่, EFAs ฯลฯ) เพื่อช่วยให้เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้น สารอาหารอื่นๆ เช่น วิตามินอีเป็นที่ทราบกันดีว่า ทำให้เกิดการตายลงของเซลหรือกำหนดระยะเวลาการตายของเซล ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกาย ในการกำจัดเซลที่ถูกทำลาย ซึ่งไม่เป็นที่ต้องการ หรือไม่มีประโยชน์ออกไป
14. มะเร็งเป็นโรคที่สัมพันธ์กับจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ การป้องกันเชิงรุก และ การคิดในเชิงบวกจะช่วยให้เราสามารถอยู่รอด จากการทำสงครามกับมะเร็ง…. ความโกรธ การไม่รู้จักให้อภัยและความขมขื่นใจ จะทำให้ร่างกายเกิดความตึงเครียดและมีสภาวะเป็นกรดเพิ่มขึ้น ให้เรียนรู้ที่จะมีความรัก และจิตวิญญาณแห่งการให้อภัย เรียนรู้ที่จะผ่อนคลายและมีความสุขกับชีวิต
15. เซลมะเร็งไม่สามารถเจริญเติบโตได้ ในสภาวะที่มีอ๊อกซิเจนเป็นจำนวนมาก การออกกำลังกายทุกวันและการหายใจลึกๆ จะช่วยให้ ร่างกายได้รับอ๊อกซิเจนเพิ่มขึ้นลงไปจนระดับเซล การบำบัดด้วยอ๊อกซิเจนถือเป็นวิธีการอีกอย่างที่ใช้ในการทำลายเซลมะเร็ง
อะไรคืออาหารที่ป้อนให้กับเซลมะเร็ง
#น้ำตาล คือ อาหารของมะเร็ง การตัดน้ำตาลคือการตัดแหล่งอาหารสำคัญ ที่จ่ายให้กับเซลมะเร็งสารทดแทนน้ำตาล อย่างเช่น นิวตร้าสวีต อีควล สปูนฟูล ฯลฯ ล้วนทำมาจากสารให้ความหวาน ซึ่งเป็นอันตรายสารทดแทนซึ่งเป็นกลางที่ดีกว่า คือน้ำผึ้ง มานูคา (จากนิวซีแลนด์) หรือน้ำอ้อย แต่ในปริมาณน้อยๆเท่านั้น เกลือสำเร็จรูป ก็ใช้สารเคมีในการฟอกขาว ควรหันไปเลือกใช้ แบรกอมิโน หรือ เกลือทะเลแทน
#นม เป็นสาเหตุทำให้ร่างกายผลิตเมือก โดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหาร เซลมะเร็ง จะได้รับอาหารได้ดีในสภาวะที่มีเมือก การใช้นมถั่วเหลืองชนิดไม่หวานแทนนม จะทำให้เซลมะเร็งไม่ได้รับอาหาร
#เซลมะเร็งเติบโตได้ดี ในภาวะแวดล้อมที่เป็นกรด อาหารจำพวกเนื้อ จะสร้างสภาวะกรดขึ้น ดังนั้นจึงควรหันไปรับประทานปลา จะดีที่สุด รองลงไปคือรับประทานไก่แทน เนื้อและหมู ในเนื้ออาจมียาฆ่าเชื้อ ฮอร์โมนที่สร้างการเจริญเติบโตในสัตว์และเชื้อปรสิตบางประเภทตกค้างอยู่ ซึ่งล้วนเป็นอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เป็นมะเร็ง
– ให้หลีกเลี่ยงกาแฟ น้ำชา และช๊อกโกแลต ซึ่งมีคาเฟอีนสูง
-ชาเขียว ถือเป็นทางเลือกที่ดี และมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็ง น้ำดื่ม ให้เลือกดื่มน้ำบริสุทธิ์หรือที่ผ่านการกรอง เพื่อหลีกเลี่ยงท๊อกซิน และโลหะหนักในน้ำประปา น้ำกลั่น มักมีสภาพเป็นกรดให้หลีกเลี่ยง

11/01/2023

ใครชอบกินอาหารรสจัด กินข้าวทีไรต้องเติมน้ำปลานิด เติมน้ำตาลหน่อย บอกเลยว่าถ้ากินแบบนี้มากเกินพอดี ระวังโรคร้ายจะถามหาโดยที่เราไม่รู้ตัว 😟

CR.ชีวจิต #เปรี้ยว #หวาน #เค็ม #เผ็ด

10/01/2023

7 แนวทางการรักษามะเร็งในปัจจุบัน

มะเร็งถือเป็นโรคร้ายที่คร่าชีวิตคนไทยกว่า 100,000 คนต่อปี แม้จะป้องกันสักแค่ไหน ตัวเลขผู้ป่วยก็ยังคงสูงอยู่ ดังนั้นนอกจากการดูแลป้องกันแล้วการรักษาก็สำคัญไม่แพ้กัน โชคดีที่ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์พัฒนาไปมาก ทำให้มีแนวทางการรักษาโรคมะเร็งมากมาย โดยแบ่งได้ 7 แนวทางด้วยกันดังนี้

1. การรักษาด้วยการศัลยกรรม คือ การผ่าตัดเพื่อกำจัดเซลล์มะเร็งด้วยเทคนิคต่าง ๆ เช่น การผ่าตัดทั่วไป การผ่าตัดส่องกล้อง การผ่าตัดโดยใช้ความเย็น การผ่าตัดด้วยเลเซอร์ การผ่าตัดด้วยคลื่นวิทยุเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง การผ่าตัดโดยใช้ความร้อน การรักษาด้วยแสง

2. การรักษาด้วยรังสีรักษา คือ การใช้รังสีรักษาไปทำลายเซลล์มะเร็ง แบ่งได้ 2 กลุ่มคือ External Beam หรือการฉายแสงหรือฉายรังสี โดยเป็นการรักษาจากภายนอกไปยังอวัยวะของร่างกายที่เป็นมะเร็ง และ Internal radiation therapy ทำได้โดยการฝังแร่ หรือกินยาที่เป็นสารกัมมันตรังสีเข้าไป แล้วแร่หรือยานี้จะปล่อยกัมมันตรังสีไปทำลายเซลล์มะเร็งที่อวัยวะเป้าหมาย

3. การรักษาด้วยเคมีบำบัด หรือที่เรียกกันว่าการทำคีโม คือ การใช้ยาเข้าไปหยุดหรือชะลอการเติบโตของเซลล์มะเร็ง โดยมากการรักษาด้วยวิธีเคมีบำบัดนี้ มักทำร่วมกับการรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น ยามุ่งเป้า หรือรังสีรักษา

4. การรักษาด้วยยามุ่งเป้า โดยมุ่งเป้าให้ยาเข้าไปจัดการเฉพาะเซลล์มะเร็ง โดยศึกษาลักษณะเฉพาะของเซลล์มะเร็งที่เกิดขึ้น แล้วหายาที่ตรงกับเซลล์นั้นที่สุด โดยแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลัก คือ Small- molecule drugs เป็นยาที่มีขนาดโมเลกุลเล็กเป็นพิเศษ สามารถแทรกผ่านเยื้อหุ้มเซลล์มะเร็ง และทำลายเซลล์มะเร็งจะภายในได้ อีกตัวคือ Monoclonal antibodies คือโปรตีนสังเคราะห์ที่จะพุ่งเข้าไปจับกับเซลล์มะเร็งและทำให้เซลล์มะเร็งถูกทำลายหรือเติบโตต่อไปไม่ได้

5.การรักษามะเร็งเฉพาะจุด เป็นการรักษาโดยใช้อุปกรณ์จี้ทำลายก้อนมะเร็งด้วยความร้อน หรือฉีดยาอุดกั้นเส้นเลือดที่เลี้ยงก้อนมะเร็ง

6. การบำบัดด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด วิธีนี้เป็นการบำบัดโดยการสร้างความแข็งแรงให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายให้สามารถเข้าทำลายเซลล์มะเร็งได้

7.การรักษาโดยการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด คือการเพิ่มเซลล์ที่ร่างกายผู้ป่วยจะนำไปสร้างเซลล์เม็ดเลือดและภูมิคุ้มกันใหม่

มะเร็งสามารถรักษาได้ง่าย หากรู้ตัวเร็ว และรักษากันตั้งแต่ต้น โดยวิธีการรักษาจะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของผู้ป่วยและการวินิจฉัยของแพทย์

#อาบาโลน เป็นโปรตีนที่ร่างกายต้องการ ผู้ป่วยจำเป็นต้องทานโปรตีนเพื่อให้ร่างกายได้ต่อสู้กับเซลล์มะเร็งได้

09/01/2023

อาหาร ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญในการดูแลรักษาสุขภาพ รวมถึงสมองของเราด้วย มาดูกันค่ะว่ามีอาหารอะไรบ้างที่จะช่วยบำรุงสมองให้แข็งแรง ห่างไกลจากโรคภัยที่จะเกิดขึ้นกับสมอง
CR.ชีวจิต #สมอง

09/01/2023

Top 5 โรคมะเร็งที่คนไทยเสี่ยงสุดๆ
ถ้าถามว่ามะเร็งเกิดจากอะไร ก็คงไม่มีใครตอบสาเหตุที่แน่นอนได้ อาจจะเกิดจากพันธุกรรม หรือสาเหตุใกล้ๆ ตัวอย่างพฤติกรรมการใช้ชีวิต ไลฟ์สไตล์ ของแต่ละคนก็มีผลเป็นอย่างมาก บางทีอาจจะมากกว่ามะเร็งด้วยซ้ำ แล้วไลฟ์สไตล์ของคนไทยทำให้เกิดมะเร็งอะไรได้บ้างล่ะมาดูกันดีกว่า

5 โรคมะเร็งยอดฮิตที่คนไทยเป็นมากที่สุด
1. มะเร็งตับ เป็นโรคมะเร็งที่พบได้มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโรคมะเร็งที่เกิดในผู้ชายไทย มักพบในคนอายุ 30-70 ปี และพบได้ในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงประมาณ 3 เท่า โรคนี้จัดเป็นโรครุนแรงมาก ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้มากที่สุดโรคหนึ่ง เพราะโรคมะเร็งตับในระยะแรกมักไม่ค่อยแสดงอาการ ผู้ป่วยกว่าจะได้รับการวินิจฉัยครั้งแรกก็มักจะอยู่ในระยะท้ายของโรคทำให้ไม่มีทางรักษาให้หายได้แล้ว

พฤติกรรมเสี่ยงมะเร็งตับ ผู้ที่ชอบทานอาหารสุกๆ ดิบๆ ไหม้เกรียม หรืออาหารที่มีเชื้อรา อาหารที่ใส่สารกันบูด ที่สำคัญคือ ผู้ที่ชอบเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกประเภท

พฤติกรรมเสี่ยงมะเร็งตับ ผู้ที่ชอบทานอาหารสุกๆ ดิบๆ ไหม้เกรียม หรืออาหารที่มีเชื้อรา อาหารที่ใส่สารกันบูด ที่สำคัญคือ ผู้ที่ชอบเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกประเภท

2. มะเร็งปอด ปัจจุบันมะเร็งปอดเป็นโรคมะเร็งที่พบมากในประเทศไทย โดยพบในเพศชายเป็นอันดับ 2 และในเพศหญิงเป็นอันดับ 4 จากการสำรวจพบว่าผู้ป่วยมะเร็งปอดมากกว่า 85% เกิดจากการสูบบุหรี่ และอีก 30% มาจากผู้ใกล้ชิดผู้สูบบุหรี่ แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลให้เกิดเป็นมะเร็งชนิดนี้ เช่น มลพิษทางอากาศ (กรุงเทพฯของเราก็มลพิษเยอะอยู่นะ)

พฤติกรรมเสี่ยงมะเร็งปอด การสูบบุหรี่ด้วยตัวเองหรือการสูดดมควันบุหรี่มือสอง การสูดดมฝุ่น รวมถึงมลพิษในอากาศเป็นระยะเวลายาวนาน

3. มะเร็งปากมดลูก เป็นหนึ่งในโรคมะเร็งที่สร้างความกังวลใจให้กับผู้หญิงจำนวนมาก เนื่องจากเป็นโรคที่มีโอกาสเกิดได้ง่าย จึงไม่น่าแปลกใจที่ในแต่ละปีจะพบผู้ป่วยรายใหม่มากถึง 500,000 คนทั่วโลก และยังเป็นอันดับต้นๆ ของโรคมะเร็งในผู้หญิงไทย มักพบในช่วงอายุ 30-70 ปี (พบมากในช่วง 50 ปีขึ้นไป) แต่คนที่อายุก็ยังมีโอกาสเป็นได้นะ

พฤติกรรมเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ต่ำกว่า 18 ปี มีพฤติกรรมเปลี่ยนคู่นอนบ่อย รวมทั้งมีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำหรือบกพร่อง สตรีที่สูบบุหรี่หรือผู้ใกล้ชิดเป็นผู้สูบบุหรี่

4. มะเร็งเต้านม เป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยเป็นอันดับที่ 1 ของโรคมะเร็งที่พบได้ในผู้หญิง จะเริ่มพบได้ตั้งแต่วัยสาวเป็นต้นไป และจะพบได้มากขึ้นตามอายุ ประมาณ 90% ของมะเร็งเต้านมเกิดจากต่อมน้ำนมและท่อน้ำนม ส่วนมากจึงจะพบในหญิงที่มีอายุมากกว่า 40 ปี แต่ไม่ใช่ผู้หญิงเท่านั้นที่มีโอกาสเป็น เพราะผู้ชายเองก็เป็นได้แต่แค่น้อยกว่าเท่านั้นเอง

พฤติกรรมเสี่ยงมะเร็งเต้านม คนที่ชอบอาหารที่มีไขมันสูง ชอบกินอาหารขยะ อาหารฟาสต์ฟู้ด หรือชอบสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ และขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

5. มะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคมะเร็งลำไส้ที่ถือเป็นหนึ่งในสามของชนิดมะเร็งสุดฮิตของคนไทย พบผู้ป่วยรายใหม่ 1,300,000 คนต่อปี อาจเป็นเพราะว่าโรคนี้เกิดจากอาหารที่เราทานกันเป็นประจำ โดยที่ไม่รู้ตัวว่าอาหารเหล่านั้นอาจมีสารที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ มักพบในอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป แต่อาจพบในเด็กโตได้ โดยผู้ชายและผู้หญิงมีโอกาสเกิดโรคได้ใกล้เคียงกัน

พฤติกรรมเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ ผู้ที่ชอบทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์ปิ้งย่างไหม้เกรียม สุกๆ ดิบๆ อาหารหมักดอง อาหารไขมันสูง สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ไม่ทานผักผลไม้ และไม่ออกกำลังกาย

เห็นไหมล่ะว่ามะเร็งนั้นล้วนแล้วแต่เกิดจากพฤติกรรมการของเราทั้งสิ้น เพราะด้วยการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ และประมาท ไม่ว่าจะเป็น การกิน การใช้ชีวิต การออกกำลังกาย อาจนำมาสู่ผลร้ายมากกว่าที่คุณคิด รู้อย่างนี้แล้วก็ลองเปลี่ยนพฤติกรรม ปรับความคิด ใช้ชีวิตให้ปลอดภัย เพื่อห่างไกลความเสี่ยงของโรคมะเร็งกันดีกว่า เพราะ มะเร็ง + ไลฟ์สไตล์เปลี่ยน = ความเสี่ยงต่ำ

มะเร็ง + รู้ระยะ = ชีวิตไปได้ต่อ

Cr.กระทรวงสาธารณสุข

08/01/2023

ใครเป็นกรดไหลย้อนบ่อยๆ ลองเช็กดูหน่อยว่าทำพฤติกรรมเหล่านี้อยู่หรือเปล่า ถ้าใช่ ให้เลิกเลยนะคะ เพราะพฤติกรรมเหล่านี้เป็นตัวกระตุ้นให้อาการกำเริบ
CR.ชีวจิต

07/01/2023

มะเร็งปอด
เป็นโรคมะเร็งที่คนไทยป่วยเป็นจำนวนมาก ผู้ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดจะเริ่มมีอาการไอเรื้อรัง บางครั้งก็มีเลือดปนมาจากการไอ มีอาการหายใจติดขัด หอบ เหนื่อยง่าย เจ็บหน้าอก ปอดอักเสบ นอกจากนี้ยังมีอาการอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น เบื่ออาหาร ปวดตามข้อกระดูก รวมถึงมีอาการบวมที่บริเวณทรวงอก

มะเต็งตับ
อาการของผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็งตับเบื้องต้นคือการเบื่ออาหาร ปวดช่องท้องด้านขวาบนและเริ่มปวดรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับ เมื่อคลำตรงหน้าท้องบริเวณตับอาจพบก้อนเนื้อ รู้สึกแน่นท้อง คลื่นไส้อาเจียน อ่อนเพลีย ซูบผอม ตัวเหลือง ตาเหลือง เป็นไข้ และคันตามผิวหนัง ซึ่งบางครั้งอาจมีอาการเลือดออกทางจมูกด้วย

มะเร็งลำไส้ใหญ่
สำหรับอาการเบื้องต้นของผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่นั้น ผู้ป่วยจะท้องเสียสลับกับท้องผูกติดต่อกันจนเรื้อรัง มีเลือดติดปนมากับอุจจาระ ก้อนอุจจาระรีบเรียวเนื่องจากมีก้อนเนื้องอกเพิ่มเข้ามาในลำไส้ น้ำหนักตัวลดลงอย่างมากโดยไม่ทราบสาเหตุ รู้สึกอ่อนเพลียไม่มีแรงเนื่องจากมีเลือดออกในลำไส้

มะเร็งปากมดลูก
เมื่อป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกจะมีอาการเลือดออกจากช่องคลอดอย่างไม่ทราบสาเหตุ ประจำเดือนมาไม่ปกติ มีอาการตกขาวและอาจมีเลือดปนพร้อมกลิ่นคาว ปวดท้องน้อยช่วงล่าง บางครั้งจะรู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ ปวดเมื่อยอ่อนเพลียตามร่างกาย และบางครั้งอาจมีอาการปวดกระเพาะปัสสาวะด้วย

มะเร็งเต้านม
ข้อควรระวังของโรคนี้คือ ผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมมักไม่แสดงอาการให้เห็นอย่างเด่นชัด แต่ยังสามารถสังเกตอาการได้ดังนี้คือ เมื่อกดบริเวณใต้ราวนมอาจพบก้อนเนื้อหนา มีเลือดหรือน้ำเหลืองไหลออกจากบริเวณหัวนม เต้านมมีขนาดที่แตกต่างออกไปจากเดิมหรืออาจมีรูปร่างเปลี่ยนไป มีอาการปวดบริเวณเต้านมหรือหัวนม บริเวณรอบหัวนมมีผื่นแดงเป็นสะเก็ด

มะเร็งเม็ดเลือดขาว
หรือมีอีกชื่อว่า "ลูคีเมีย" ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้จะมีเม็ดเลือดแดงลดลง ทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง สังเกตได้จากหน้าซีด เวียนหัว เหนื่อยง่าย เลือดออกง่ายตามผิวหนังและเหงือก รวมถึงเลือดหยุดไหลช้าเนื่องจากมีเกล็ดเลือดลดลง นอกจากนี้ผู้ป่วยยังมีอาการแทรกซ้อนติดเชื้อได้ง่ายขึ้น เนื่องจากมีเม็ดเลือดขาวลดลง

มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
ผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง จะมีอาการบวมบริเวณคอ ขาหนีบ และรักแร้ ซึ่งเป็นการบวมจากการสะสมของลิมโฟไซต์บริเวณต่อมน้ำเหลือง นอกจากนี้อาจมีอาการอื่น ๆ ที่เข้ามาแทรกซ้อน เช่น ไข้ขึ้นสูง ร่างกายเพลียอ่อนแรง น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ

03/01/2023

10 วิธีป้องกัน ที่ต้องอ่าน ถ้าไม่อยากเป็น “มะเร็ง”
1 . เลิกสูบบุหรี่
มะเร็งที่คร่าชีวิตมนุษย์มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งเมื่อเทียบกับมะเร็งชนิดต่างๆแล้ว คงหนีไม่พ้นมะเร็งปอด และสาเหตุหลักของการเกิดมะเร็งปอดก็คือการสูบบุหรี่ ฉะนั้นหากคุณสามารถเลิกสูบบหรี่ได้ก็เท่ากับว่าคุณก็จะลดความเสี่ยต่อการเกิดมะเร็งได้ด้วยเช่นกัน
2 . เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์
โดยเฉพาะการทานผักอย่างพวกบร็อคโคลี่ กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี เป็นตัวช่วยขนานดีอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุชั้นดี ซึ่งมีส่วนสำคัญในการต่อสู้กับมะเร็งร้าย โดยเราจะสามารถพบเห็นว่าตำรับอาหารต้านมะเร็งมักจะนำผักเหล่านี้เข้ามาเป็นส่วนประกอบในการทำอาหารต้านมะเร็ง เมื่อทราบอย่างนี้แล้วคงถึงเวลาแล้วที่ต้องหันมาทานผักกันแล้วล่ะ
3 . หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ทราบกันหรือไม่ว่าการออกกำลังกายเพียงครั้งละ 30 นาที ใน 5 วันต่อสัปดาห์มีประโยชน์มากๆสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง โดยมะเร็งมีอะไรบ้างนั้น คือ มะเร็งปอด มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเต้านม และมะเร็งลำไส้
อย่างไรก็ตามการออกกำลังกายในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าต้องออกกำลังกายจัดเต็มแบบนักกีฬา เพียงแค่คุณเต้นแอโรบิก วิ่ง หรือแค่โยคะในบ้าน ก็จัดได้ว่าเป็นการออกกำลังกายที่จะป้องกันมะเร็ง แถมยังช่วยป้องกันโรคอื่นได้อีกด้วย
4 . ตรวจสุขภาพค้นหาตั้งแต่เนิ่นๆ
หากอยากเอาชนะมะเร็งก็จะต้องเพิ่มโอกาสให้กับตัวเองด้วยการตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรู้ตัวก่อนว่าอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งหรือไม่ และควรที่จะขอคำแนะนำกับแพทย์เพื่อคัดกรองมะเร็งในแต่ละช่วงอายุ
5 . หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ถึงแม้การดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้คุณรู้สึกสนุกสนานมากแค่ไหน แต่อย่าลืมว่าการดื่มในปริมาณมากเกินไปจะส่งผลกระทบต่อตับมากเป็นพิเศษ ยิ่งถ้าสูบบุหรี่ด้วยแล้วก็จะทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากและลำคอ รวมทั้งมะเร็งประเภทอื่นๆอีก
6 . มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย
การมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยไม่เพียงแต่จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์แล้ว ยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมทั้งลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิง
7 . หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัด
มะเร็งผิวหนังเกิดขึ้นมาจากการโดนรังสีอัลตร้าไวโอเล็ต (UV) เป็นประจำ โดยเราสามารถป้องกันได้ง่ายๆ 2 วิธีด้วยกัน คือ ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไปหากจำเป็นต้องอยู่ภายใต้แสดงแดดหรือยู่กลางแจ้ง
8 . นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
ไม่น่าเชื่อว่าแค่นอนหลับให้สนิทในแต่ละวัน ก็สามารถต่อสู้กับมะเร็งร้ายได้ เนื่องจากมีผลการศึกษาพบกว่าสาร เมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่สมองผลิตขึ้นมาในระหว่างช่วงเวลาที่คุณนอนหลับพักผ่อนนั้นจะช่วยป้องกันมะเร็งได้ แถมมีประสิทธิภาพดีมากเสียด้วย
9 . ตรวจสอบประวัติครอบครัว
นอกจากปัจจัยเสี่ยงจากสภาพแวดล้อมแล้ว มะเร็งยังสามารถเกิดขึ้นได้จากพันธุกรรม หรือกล่าวง่ายๆก็คือโรคมะเร็งสามารถส่งผ่านกันได้รุ่นต่อรุ่น ฉะนั้นหากพบกว่าคนในครอบครัวเคยมีประวัติเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งมาก่อน
ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งชนิดใดก็เท่ากับว่าคุณสามารถหาทางป้องกันไว้ก่อนได้ตั้งแต่เริ่มแรก
10 . อยู่ให้ห่างจากสารเคมี
สารเคมีที่ว่านี้คือสารเคมีจำพวก ยาฆ่าแมลง น้ำยาทำความสะอาด น้ำมันเบนซิน เป็นต้น ด้วยสารอันตรายเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวพันกับการเกิดมะเร็ง แต่หากจำเป็นที่ต้องใช้งานก็ควรพยายามอย่าสัมผัสกับสารโดยตรง
หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมีน้อยที่สุดหรือจะเลือกเป็นแบบธรรมชาติทดแทนก็ได้
ที่มา : Cheewajit Home
CR.ชีวจิต

01/01/2023

อาการปวดข้อ มีมากมายหลายสาเหตุ โดยเฉพาะในคนที่เป็นเก๊าต์ยิ่งต้องระวังอาหารที่มีพิวรีนสูง
เพราะการกินอาหารที่มีสารพิวรีนสูง จะเปลี่ยนเป็นกรดยูริกในเลือด ทำให้มีระดับกรดยูริกในเลือดสูงผิดปกติ จนกลายเป็นโรคเก๊าต์ มีอาการปวดข้อได้นั่นเอง
เช็คกันได้เลยจ้า!
CR.ชีวจิต #เก๊าต์

28/12/2022

#มะเร็งเต้านม จัดเป็นเนื้องอกชนิดร้ายแรง ‼️
ของเต้านม มักไม่แสดงอาการใดๆ ในระยะเริ่มต้นแต่สามารถตรวจ ‼️
พบความผิดปกติได้จากการเอกซเรย์เต้านมหรือที่เรียกว่า
#แมมโมแกรม ร่วมกับการอัลตร้าซาวด์ของเต้านม
ในระยะถัดมาผู้ป่วยจะสามารถคลำพบก้อนภายในเต้านมได้ด้วยตนเอง
โดยไม่รู้สึกเจ็บปวด ซึ่งก้อนที่พบจะไม่เปลี่ยนแปลงขนาดไปตาม
*** ระยะของการมีรอบเดือน ***และอาจมีของเหลวไหลออก
มาจากหัวนมหรือผิวหนังเหนือเต้านมขรุขระเหมือนผิวส้ม

ทางแม่ค้าได้ศึกษาและนำมาสรุประยะได้ดังนี้ค่ะ 👇🏻

ระยะ 0 ก้อนมีขนาดเล็ก เซลล์มะเร็งเพิ่งก่อตัว
ขึ้น ยังไม่แบ่งตัวลุกลามสู่ภายนอก
ระยะ 1 ก้อนขนาดเล็กกว่า 2 ซม.ยังไม่แพร่กระจายไปต่อมน้ำเหลือง
(อาจจะพบมากกว่า 1 ก้อน )
ระยะ 2 ก้อนขนาด 2-5 ซม. เซลล์มะเร็งเริ่มแพร่กระจาย ไป
ยังต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ข้างเดียว (เจ็บจี๊ดๆ คัดๆ คลำพบ
ก้อนและสัมผัสแล้วเจ็บ
ระยะ 3 ก้อนขนาดใหญ่กว่า 5 ซม.มีการแพร่กระจายไปต่อมน้ำเหลือง
แล้ว (บ้างมีเมือกใสออกเต้านมหรือเลือด)
ระยะ 4 ก้อนขนาดใหญ่เท่าไหร่ก็ได้ เซลลผมบริเวณเต้านมอักเสบมาก
ปวดนอนไม่ได้ และมีการแพร่กระจายของเชื้อลามไปยังส่วนอื่นๆแล้ว
เช่น ตับ ปอด กระดูก

บางครั้งเราอย่าชะล่าใจ…ว่าเรามีก้อนเนื้อแล้ว ปล่อยไว้ก่อนรอมีเวลาค่อยรักษา…
ทุกคนอาจจะไม่ได้โชคดีเสมอไป หากปล่อยไว้และเราไม่ได้ดูแลตัวเองไปจับ คลำ
ยกของหนักบ่อยๆ ถ้ามันอักเสบจนเรื้อรัง คัดเต้า
และก้อนใหญ่ขึ้น…สิ่งที่เราปล่อยไว้จากก้อนเนื้องอก ธรรมดา
อาจจะกลายเป็น เนื้อร้าย ‼️ ที่สร้างความเจ็บปวดทั้งร่างกาย เงิน และจิตใจ

ตอนนี้เราอาจจะไม่มีเวลาดูเเลไปตรวจ ไปหาหมอ แต่เรามีเวลา หาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ช่วยดูแลยับยั้งก้อนเนื้องอก เซลล์มะเร็งได้

#เนื้องอกมดลูก #ก้อนเนื้อเต้านม #มะเร็ง #ก้อนเนื้อ #ซีสต์ #มะเร็งทุกชนิด #ก้อนเนื้อทุกชนิด #เนื้องอก

เพจหลัก modora โมดูร่า abalon อาบาโลน เพื่อสุขภาพ

26/01/2023

23/01/2023

23/01/2023

21/01/2023

15/01/2023

14/01/2023

13/01/2023

11/01/2023

10/01/2023

09/01/2023

09/01/2023

08/01/2023

07/01/2023

03/01/2023

01/01/2023

28/12/2022

ที่อยู่

เบอร์โทรศัพท์

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

วิดีโอทั้งหมด

ทางลัด

แชร์

ประเภท