Preparing for Intern eiei

Preparing for Intern eiei สำหรับเพื่อนๆexternทุกๆคนและตัวผมเอง

06/03/2023

ER
Anaphylaxis(Med/Ped)
อ้างอิง แนวทางเวชปฏิบัติสำหรับการดูแลผู้ป่วยที่มีการแพ้ชนิดรุนแรง

อาการและอาการแสดงทางคลินิก (Symptoms and signs)
ระบบผิวหนัง
ผิวหนัง 90%ผื่นลมพิษ และ angioedema 85-90%
ผื่นแดง 45-55%
คันโดยไม่มีผื่น 2-5%
ทางเดินหายใจ
หอบเหนื่อย หายใจเสียงหวีด 45-50%
การบวมของระบบหายใจส่วนบน 50-60%
เยื่อบุจมูกอักเสบ 15-20%
หัวใจและหลอดเลือด
เวียนศีรษะ เป็นลม ความดันโลหิตลดลง30-35%
ทางเดินอาหาร
คลื่นไส้ อาเจียน อุจจาระร่วง ปวดท้อง 25-30%
ระบบอื่นๆ
ปวดศีรษะ 5-8%
แน่นหน้าอก 4-6%
ชัก1-2%

เกณฑ์การวินิจฉัยภาวะ anaphylaxis

ภาวะ anaphylaxis จะถูกวินิจฉัยเมื่อมีอาการ 1 ใน 3 ข้อ ดังต่อไปนี้1. อาการที่เกิดขึ้นเฉียบพลัน(ภายในเวลาเป็นนาทีหรือไม่กี่ชั่วโมง)ของระบบผิวหนงัหรือเยื่อบุ(mucosal tissue) หรือทั้งสองอย่าง
ร่วมกับ อาการอย่างน้อยหน่ึงอาการดังต่อไปนี้
1.1. อาการทางระบบทางเดินหายใจ เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล เสียงแหบ หอบเหนื่อย หายใจมีเสียงหวีด จากหลอดลมที่ตีบตัน มีการทำงานของหลอดลมหรือปอดลดลง เช่น peak expiratory flow (PEF) ลดลง ระดับออกซิเจนในหลอดเลือดลดลง เป็นต้น
1.2.ความดันโลหิตลดลงหรือมีการทำงานของระบบต่างๆล้มเหลวเช่น hypotonia(collapse) เป็นลม อุจจาระ ปัสสาวะราด เป็นต้น

2. มีอาการมากกว่าหรือเท่ากับ 2 ข้อดังต่อไปนี้ในผ้ปู่วยที่สัมผัสกับสารท่ีน่าจะเป็นสารก่อภูมิแพ้(เกิดอาการภายในเวลาเป็นนาทีหรือไม่กี่ชั่วโมง)
2.1.มีอาการทางระบบผิวหนงัหรือเยื่อบุเช่นผื่นลมพิษทั่วตัว คัน ผื่นแดงหรือมีอาการบวมของปากลิ้นและเพดานอ่อน
2.2. มีอาการของระบบทางเดินหายใจ เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล เสียงแหบ หอบเหนื่อย หายใจมีเสียงหวีด
2.3.ความดันโลหิตลดลงหรือมีการทำงานระบบต่างๆล้มเหลวเช่น hypotonia(collapse)เป็นลม อุจจาระ ปัสสาวะราด
2.4. มีอาการของระบบทางเดินอาหาร เช่น ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น
3. ความดันโลหิตลดลงหลังจากสัมผัสกับสารที่ผู้ป่วยทราบว่าแพ้มาก่อน(เกิดอาการภายในเวลาเป็นนาทีหรือไม่กี่ชั่วโมง)
3.1. ในเด็กให้ถือเอาความดัน systolic ที่ต่ำกว่าความดันปกติตามอายุ หรือความดัน systolic ที่ลดลงมากกว่าร้อยละ30ของความดัน systolicเดิม*
3.2.ในผู้ใหญ่ถือเอาความดันsystolicที่น้อยกว่า 90mmHgหรือความดัน systolicที่ลดลงมากกว่าร้อยละ30ของความดันsystolicเดิม
ความดันsystolicที่ต่ำในเด็ก
น้อยกว่า 60mmHgในเด็กอายุ0-28วัน
น้อยกว่า 70mmHgในเด็กอายุ1เดือน-1ปี
น้อยกว่า 70 mmHg + (2 x อายุเป็นปี) ในเด็กอายุ 1 – 10 ปี
น้อยกว่า 90mmHgในเด็กอายุ11-17ปี

การตรวจทางห้องปฏิบัตกิาร(Investigation)
Anaphylaxis เป็นภาวะท่ีวินิจฉัยจากประวัติอาการแสดง และการตอบสนองต่อการรักษาเป็นหลักการ ตรวจทางห้องปฏิบัติการเพียงเพื่อช่วยในการวินิจฉัยหาสาเหตขุองสารก่อภูมิแพ้ท่ีก่อให้เกิดอาการหรือเพื่อแยกโรคอื่น
1. การตรวจเพื่อยืนยันการวินิจฉัยภาวะ anaphylaxis ด้วยการวัดระดับซีรัมทริปเทส (Serum total tryptase) *ไม่จำเป็นต้องส่งตรวจทุกราย*
ระดับtryptaseเพิ่มเร็วหลังเกิดปฏิกิริยาanaphylaxisโดยมีระดับสูงสุดที่60-90นาทีหลับจากเกิดอาการanaphylaxisและจะขึ้นสูงอยูนานประมาณ5ชั่วโมง ดังนั้นควรส่งตรวจเลือดภายใน1-2ชั่วโมง หรือไม่ควรเกิน5ชั่วโมงหลังเกิดอาการ

2.การตรวจเพื่อหาสารก่อภูมิแพ้ที่อาจเป็นสาเหตุของการเกิดanaphylaxis
2.1 การตรวจปฏิกิริยาภูมิแพ้ทางผิวหนัง (Skin prick test, SPT และ/หรือ intradermal test, IDT) เป็นการตรวจหาสารก่อภูมิแพ้อาจเป็นสาเหตขุองanaphylaxisท่ีเกิดจากปฏิกิริยาผ่าน IgE ควรตรวจหลังจากเกิดอาการเป็นเวลา 4-6 สัปดาห์เพราะการตรวจทันทีหลังจากเกิดanaphylaxisอาจเกิดผลลบลวงจากการที่mastcellsแตกตัว (degranulation) ไปจนหมดในช่วงเกิดอาการ
2.2 การตรวจเลือดเพื่อหา specific IgE antibody

2.3 การตรวจปฏิกิริยาภูมิแพ้โดยการกิน(oral challenge test)
โดยทั่วไปการทำ oral challenge เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอาการเป็น gold standard ในการวินิจฉัยภาวะแพ้อาหาร แต่การทดสอบควรทกด้วยความระมัดระวังโดยผู้เชี่ยวชาญ และควรดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด เพราะอาจกระตุ้นให้ผู้ป่วยเกิด anaphylaxis อย่างรุนแรงได้

แนวทางการรักษาในระยะเฉียบพลัน (Acute management)
Airway , Breathing , Circulation , Decontamination
1. Epinephrine(drug of choice) มีฤทธ์ิกระตุ้นทั้ง alpha และ beta adrenergic receptor
ขนาดยา aqueous epinephrine 1:1000 (1 มก./1 มล.) 0.01 มก./กก. หรือ 0.01 มล./กก. IM anterolateral
Max dose 0.3ml(ped) 0.5ml(adult)
ถ้าผ้ปู่วยมีอาการรุนแรงและไม่ตอบสนองต่อการให้ยาครั้งแรก สามารถให้ซ้ำได้อีก 1-2 ครั้งทุก 5-15 นาที
ขนาดยา epinephrine ท่ีให้ทางหลอดเลือดดำอย่างต่อเนื่อง คือ เริ่มต้นท่ีขนาด 0.1 มคก./กก./นาที ใน เด็ก หรือ1-4มคก./นาทีในผู้ใหญ่และปรับขนาดยาตามระดับวามดันโลหิตของผ้ปู่วย

ในกรณีท่ีผู้ป่วยมีภาวะ cardiac arrest สามารถให้ยา epinephrine ทางหลอดเลือดดาแบบ bolus ได้ขนาดยาepinephrineที่ให้ทางหลอดเลือดดำแบบbolusคือepinephrine(1:1,000)0.01มก./กก.ในเด็กเจือจางด้วย saline เป็น 10 เท่า (epinephrine ความเข้มข้น 1:10,000) หรือ epinephrine (1:1,000) 1 มก.ในผู้ใหญ่
2.antihistamine
ยาH1-antihistamineเช่นdiphenhydramineและchlorpheniramineมีฤทธ์ิช่วยบรรเทาอาการผื่นคันทางผิวหนง ส่วน H2-antihistamine เช่น cimetidine, ranitidine มีฤทธ์ิช่วยลดการขยายตัวของหลอดเลือด ลดอาการปวดศีรษะและลดความดันโลหิตต่ำจึงแนะนาให้ใช้ยาทั้งสองกลุ่มร่วมกัน

H1-antihistamine เช่น chlorpheniramine0.25มก./กก./ครั้งในเด็ก(ขนาดสูงสุดไม่เกิน2.5-5มก.)10มก.ในผู้ใหญ่
ทางหลอดเลือดดำหรือฉีดเข้าชั้นกล้ามเนื้อโดยให้ทุก 6 ชั่วโมง
H2-antihistamine เชน่ ranitidine 1 มก./กก./ครั้งในเด็ก (ขนาดสูงสุดไม่เกิน 50 มก.) หรือ 50 มก. ใน ผู้ใหญ่ให้ทุก8ชั่วโมงผสมใน5%dextroseจนได้ปริมาณ20มล.ฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำช้าๆภายใน5นาที

3. Corticosteroid การให้ corticosteroid อาจมีผลลด protracted และ biphasic anaphylaxis ได้ ดังนั้นอาจพิจารณาให้ corticosteroid ในผู้ป่วยดังต่อไปนี้ได้แก่ผู้ป่วยที่มีภาวะanaphylaxisรุนแรงมีประวัติโรคหืดหรือผู้ป่วยท่ีเคยได้รับsystemic glucocorticoidในเวลาหลายเดือนมาก่อนแต่เนื่องจากยาออกฤทธ์ิช้าจึงไม่แนะนำให้ใช้เป็นยาตัวแรกท่ีรักษา อาการแพ้ชนิดรุนแรงในระยะเฉียบพลัน

ขนาดยาmethylprednisolone1-2มก./กก./ครั้งในเด็ก(ขนาดสูงสุดไม่เกิน50มก.)หรือ50-100 มก. ในผู้ใหญ่ ทางหลอดเลือดดำหรือกล้ามเนื้อโดยให้ทุก 6 ชั่วโมง
hydrocortisone 4-8 มก./กก./ครั้ง ในเด็ก(ขนาดสูงสุดไม่เกิน 100 มก.) หรือ 200 มก. ในผู้ใหญ่ ทาง หลอดเลือดดำหรือกล้ามเนื้อโดยให้ทกุ 6 ชั่วโมง
prednisolone 1-2 มก./กก./วันในเด็ก(ขนาดสูงสุดไม่เกิน 40 มก.ต่อวัน) โดยการรับประทาน หรือ 30- 50มก.ต่อวัน ในผู้ใหญ่โดยแบ่งให้2-3ครั้งต่อวัน

4.β2-adrenergic agonist ชนิดพ่น ได้แก่ salbutamol มีฤทธ์ิขยายหลอดลมและช่วยลดการอุดกั้นของทางเดินหายใจ พิจารณาให้ยาในกรณีท่ีผู้ป่วย มีอาการไอ หอบ จากการหดเกร็งของหลอดลม ภายหลั
ได้รับยา epinephrine แล้ว
ขนาดยา salbutamol solution (5 มก./1 มล.) 0.03 มล./กก./ครั้งหรือ salbutamol nebule (2.5 มก./ 2.5มล.)1-2nebules/ครั้งพ่นผ่านnebulizerขนาดสูงสุดไม่เกิน2nebules
5. ยาที่ใช้ในผู้ป่วยที่ได้รับ β-blocker
5.1 Glucagon มีฤทธ์ิกระตุ้นหัวใจและลดการเกร็งของหลอดลมโดยการเพิ่ม cAMP ในเซลล์โดยตรงไม่ผ่าน beta receptor จึงเหมาะสมในการรักษาภาวะ anaphylaxis ในผู้ป่วยที่ได้รับยา beta blocker ซึ่งมักจะทำให้อาการของanaphylaxisรุนแรงและไม่ตอบสนองต่อepinephrineที่ให้ในขนาดปกติได้(ในสถานที่ที่มียา glucagon)

ขนาดยา glucagon 20-30 มคก./กก./ครั้งในเด็ก(ขนาดสูงสุดไม่เกิน 1 มก.) หรือ 1-5 มก./ครั้งในผู้ใหญ่ทางหลอดเลือดดา โดยฉีดช้าๆในเวลา 5 นาที และต่อด้วยการให้ยาทางหลอดเลือดดำอย่างต่อเนื่อง 5-15 มคก./นาที ปรับขนาดยาตามอาการของผู้ป่วย

26/02/2023

Obs-gyne
1.Diabetes in pregnancy
Risk factor GDM
1.First degree relative
2.อายุมากกว่า 30 ปี
3.BMI > =25 kg/m2
4.คลอดบุตรเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ
5.คลอดบุตรน้ำหนักแรกเกิดมากกว่าเท่ากับ 4 กิโลกรัม
6.คลอดบุตรพิการแต่กำเนิดไม่ทราบสาเหตุ
7.เคยพบเบาหวานขณะตั้งครรภ์ในครรภ์ก่อน

Universal screening
>> 50g GCT at 1st time ANc,2nd GA 24-28 wk(ไม่ต้องงดน้ำงดอาหาร)
200 มีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ;ฝากครรภ์ในคลินิกเบาหวาน

ตรวจวินิจฉัยภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์
100g OGTT
1สัปดาห์หลังการตรวจคัดกรองด้วย50 g GCT ผิดปกติ(งดน้ำงดอาหารหลังเที่ยงคืน)
Carpenter & Coustan
1 FBSเมื่อมาถึงรพ. ค่าปกติ < 95 mg/dL
2 FBS 1ชั่วโมงหลังดื่มสลล.น้ำตาล100g ค่าปกติ < 180 mg/dL
3 FBS 2ชั่วโมงหลังดื่มสลล.น้ำตาล100g ค่าปกติ < 155 mg/dL
4 FBS 3ชั่วโมงหลังดื่มสลล.น้ำตาล100g ค่าปกติ < 140 mg/dL
แปลผล ผิดปกติ2ค่าขึ้นไป ฝากครรภ์ในคลินิกเบาหวาน

การดูแลภายหลังการวินิจฉัยภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์
FBS จาก OGTT
** < 95 mg/dL -ให้คำแนะนำการคุมอาหาร,นัดตรวจติดตามปกติทุก 4 สัปดาห์ , เจาะเลือดปลายนิ้ว ทุกครั้งที่มาฝากครรภ์ เพื่อตรวจ2hr postpandrial blood sugar ระดับปกติ< 120mg/dL ถ้าควบคุมดี Dx GDM A1 ถ้าควบคุมไม่ดี แนะนำการคุมอาหารเพิ่มเติม Self monitoring blood glucose(SMBG) ถ้าควบคุมดี Dx GDM A1 ถ้าควบคุมไม่ดี >Admit

** > 95 mg/dL -ให้คำแนะนำการคุมอาหาร,เจาะเลือดปลายนิ้ว ทุกครั้งที่มาฝากครรภ์ เพื่อตรวจ FBS และ 2hr postpandrial blood sugar ระดับปกติ FBS < 95 mg/dL< 120mg/dL นัดตรวจติดตามอีก1-2 wk ถ้าควบคุมดี Dx GDM A1 ถ้าควบคุมไม่ดี นัดตรวจติดตามอีก1-2 wk ถ้าควบคุมได้ดี GDM A1 ถ้าควบคุมไม่ดี Admit

การดูแลภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ในหอผู้ป่วย
Admit> คุมอาหารเข้มงวด3วัน ตรวจเลือด FBS และ 2hr PPในวันที่4
การคำนวณพลังงานที่ต้องการต่อวัน
= 30kcal/นนตัวก่อนการตั้งครรภ์ ถ้าBMI>=30 kg/m2 ให้ลดพลังงานลงร้อยละ30
สัดส่วนอาหารC:L:P = 5:3:2 ถ้าBMI>=30 ลด Carbohydrate 35-40%
จัดมื้ออาหาร3มื้อหลักและ3มื้ออาหารว่าง
เป้าหมาย
FBS < 95,1 hr PP60 mg/dL
ถ้าผลเลือดปกติ Dx GDM A1>นัดฝากครรภ์ตามปกติ ถ้าผลเลือดผิดปกติ FBS >= 95 mg/dL 2hr PP >=120 mg/dL Dx GDM A2>ให้ยาinsulin และนัดตรวจติดตามที่หน่วยฝากครรภ์ความเสี่ยงสูงทุก 2-4wk

การรักษาด้วยยาฉีด insulin
RI onset 0.5-1.0 hr Peak 2-3 hr Duration of action 3-6 hr
NPH onset 2-4 hr Peak 4-10 hr Duration of action 10-16 hr

Trimester 1 เริ่ม 0.7 u/kg/day
Trimester 2 เริ่ม 0.8u/kg/day
Trimester 3 เริ่ม 0.9u/kg/day
สัดส่วนการฉีดยา insulin แบ่งฉีด เช้า:เย็น =2:1 โดยตอนเช้าฉีดยา RI:NPH = 1:2 ตอนเย็นฉีดยา RI : NPH = 1:1
Complication : hypoglycemia, hypersensitivity,Lipohypertrophy

การประเมินสุขภาพทารกในครรภ์
GDM A1 : เช่นเดียวกับการตั้งครรภ์ความเสี่ยงต่ำ >>ให้คลอดก่อนอายุครรภ์ 41 wk
GDM A2 : ตั้งแต่ GA 32 wkขึ้นไป โดย U/S,U/S doppler,cardiotpcography >>ให้คลอดระหว่างอายุครรภ์
39-39+6 wk ควบคุมระดับน้ำตาล 70-120

แนวทางปฏิบัติตามวิธีการคลอด
คลอดทางช่องคลอด
-กรณีนัดคลอด งดน้ำและอาหารหลังเที่ยงคืนก่อนวันกำหนดคลอด
-ในวันกำหนดคลอด งดฉีดยาinsulin มื้อเช้า และตรวจ FBS
-กรณีเข้าสู่กระบวนการคลอดเองหรือฉุกเฉิน>> NPO
-5%DNSS 100-120 ml/hr
-DTX q 1-2hr
-ให้ยาinsulinและสารน้ำขณะคลอด : วิธีผสม insulin: regular insulin 10 units +NSS 100ml(conc 1unit per 10ml) IV drip via infusion pump
ระดับน้ำตาลในเลือด < 100 insulin 0 unit/hr,100-140 insulin 1 unit/hr,141-180 insulin 1.5 unit/hr ,181-220 insulin 2unit/hr ,>220 insulin 2.5 unit/hr

การดูแลระยะหลังคลอด
เพิ่มพลังงานมากกส่าช่วงตั้งครรภ์ 200-500kcal
งดฉีดยาinsulinหรือให้ฉีดเท่ากับก่อนตั้งครรภ์
เฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน ;ติดเชื้อ ตกเลือด
กระตุ้นเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ โภชนาการที่ดี คุมกำเนิด

ภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยในทารก
Neonatal hypoglycemia
RDS
Polycythemia&hyperviscosity
Hyperbillirubinemia
Hypocalcemia

การตรวจวินิจฉัยเบาหวานหลังคลอด
75 g OGTT ตรวจ4-12 wk หลังคลอด งดน้ำงดอาหารหลังเที่ยงคืนก่อนวันตรวจ เจาะเลือดตรวจ 2 ครั้ง แปลผลตามเกณฑ์ ดังนี้
1 FBS เมื่อมาถึงรพ ค่าปกติ < 100 DM >=126
2 2ชั่วโมงหลังดื่มสลล75g ค่าปกติ < 140 DM >=200

26/01/2023

ER
Snake bites
History taking
- ถูกกัดที่ไหน บริเวณ? เวลา? กัดค้าง?
- ลักษณะของงู (ขนาด สี ลาย) นำงูมาด้วยหรือไม่
- ลักษณะบาดแผล(กี่จุด บวม เลือดออก) มีรอยเขี้ยว?
- อาการทางไต(last void,สีปัสสาวะ)
- อาการทางประสาท(หนังตาตก เสียงแหบ กลืนลำบาก หายใจไม่ออก)
- การปฐมพยาบาลก่อนมารพ
- แพ้ยา ?โรคประจำตัว?
•••ผู้ป่วยมีกล้ามเน้ืออ่อนแรง และบริเวณท่ีถูกกัดบวมมากหรือมีเน้ือตาย คิดถึงงูเห่าและงูจงอาง
•••ผู้ป่วยมีกลา้มเน้ืออ่อนแรงและบริเวณที่ถูกกดบวมเล็กน้อยหรือไม่บวมเลยคิดถึงงูทับสมิงคลา(ดำสลับขาว)และงูสามเหลี่ยม(ดำสลับเหลือง)
•••ผู้ป่วยมีภาวะเลือดไม่แข็งตัว เลือดออก และบริเวณท่ีถูกกัดบวม ห้อเลือด (ecchymosis) คิดถึงงูเขียวหางไหม้ และงูกะปะ
•••ผู้ป่วยมีภาวะเลือดไม่แข็งตัว แต่แผลไม่บวม คิดถึงงูแมวเซา
•••ผู้ป่วยมีปวดบวมกล้ามเน้ือ และแผลบวมเล็กน้อย คิดถึงงูทะเล

B. Physical examination
􏰀 V/S
􏰀 HEENT : ptosis , palpable fissure 1.2
o platelet countน้อยกว่า50,000/มล.
ขนาดยา:3vials(30มล.)ผสมน้าเกลือ100มล.หยดทางเส้นหลอดเลือดหลังจากน้ัน ติดตาม VCT และภาวะเลือดออกทุก 6 ชั่วโมง
ถ้า VCTกลับเป็นปกติใหติดตามVCTเป็นทุก12-24ชั่วโมงเพราะVCT อาจจะกลับมายาวข้ึนอีก
ถ้า VCTยังมากกว่า 20นาทีใหยาซ้ำได้อีก
หากให้ยาไปแล้ว 4 ครั้ง VCTยังมากกว่า 20 นาทีให้ตรวจสอบว่าเกิดจากวินิจฉัย
ผิดหรือการตรวจค่าVCTผิดพลาดสามารถตรวจสอบได้โดยการตรวจหาcoagulogram ร่วมด้วย เพราะค่า VCT มักจะมีความผิดพลาดได้บ่อยครั้ง
ในกรณีท่ีไม่สามารถแยกชนิดของงูพิษออกได้ โดยเฉพาะระหว่างงูเขียวหางไหม้และงูกะปะ และโรงพยาบาลมีantivenomท่ีเป็นpolyvalentของงูพิษกล่มุ hematotoxin ควรพิจารณาให้เป็นชนิด polyvalent แทน

24/01/2023

Pedriatric

1.Allergic rhinitis

Hx. Diagnosis จาม คัดจมูก น้ำมูกใส จมูกอุดตัน นอนกรน อ่อนเพลีย สมาธิสั้น
PE Allergic salute,allergic shiner
Gothic arch ,อาการทางตา,Hx fam
Skin prick test
Tx. Advice หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ -ผ้าปูที่นอนซัก >60 c ทุกสัปดาห์
Severity
Intermittent

ที่อยู่

Bangkok

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Preparing for Intern eieiผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram