14/06/2025
ขอบคุณข้อมูลดีๆเรื่องเอ็นข้อหย่อนจากเพจครูน้ำฝนค่ะ💪
🥰เอ็นข้อหย่อน (Joint Hypermobility) คือภาวะที่เอ็นรอบข้อมีความยืดหยุ่นมากกว่าปกติ ทำให้ข้อต่อเคลื่อนไหวได้กว้างเกินขอบเขตร่างกายออกแบบไว้ แม้จะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่หากปล่อยไว้โดยไม่รู้ตัว เด็กอาจมีปัญหาทางการเรียนรู้และพฤติกรรมที่ส่งผลต่อชีวิตประจำวัน การสังเกตและการจัดการโดยนักกิจกรรมบำบัด (OT) จึงสำคัญ เพื่อให้ลูกแข็งแรงและมั่นคงทั้งร่างกายและจิตใจ
🚩เอ็นข้อหย่อนคืออะไร?
นิยาม: ภาวะที่เอ็น (Ligaments) ซึ่งเชื่อมกระดูกกับกระดูก มีความยืดหยุ่นเกินไป จนข้อต่อ “หลวม” และเคลื่อนไหวได้กว้างกว่าปกติ
🚩สาเหตุหลัก:
-พันธุกรรม (บางครอบครัวสืบทอดกันมา)
-ฮอร์โมนบางชนิด เช่น ในช่วงเติบโตเร็ว
-ภาวะบางอย่างร่วม เช่น Ehlers-Danlos Syndrome (EDS)
🚩วิธีสังเกตง่าย ๆ ว่าเด็กมีเอ็นข้อหย่อนหรือไม่
-มักนั่ง ท่า W-sittingบ่อยครั้ง
-ยืดแขน–ขาเกินขอบเขต ให้ลองให้เด็กลากแขนขึ้นเหนือศีรษะหรือกางขาออกด้านข้าง หากกางได้แบนราบเกือบ 180° โดยไม่รู้สึกเจ็บ แปลว่าอาจจะมีเอ็นหย่อน
-เคลื่อนไหวข้อโดยไม่มีแรงต้าน
-หมุนข้อมือ หมุนข้อเท้า หรือโค้งหลังไปข้างหลังเกินปกติ
-ถ้าทำได้ง่ายเกินไป (ไม่มีแรงต้าน) ให้สงสัยภาวะเอ็นข้อหย่อน
- นั่ง–ยืนเปลี่ยนท่าบ่อย
-เด็กจะโยกตัวหรือสลับท่านั่งเพื่อ “หา” ตำแหน่งที่รู้สึกมั่นคง
-สอบถามอาการเจ็บข้อตอนใช้งาน เด็กอาจบ่นว่าปวดข้อเข่า ข้อศอก หรือข้อเท้าหลังออกกำลังกายเล็กน้อย
🚩ผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็ก
-ความมั่นคงในการเคลื่อนไหวต่ำ
-เด็กจะรู้สึกไม่มั่นคง เวลาเดินวิ่งอาจสะดุดง่าย เกิดอุบัติเหตุลื่นล้มบ่อย
-กล้ามเนื้ออ่อนแรง
-เนื่องจากเอ็นไม่ช่วยรับน้ำหนักเต็มที่ เด็กจึงพึ่งพากล้ามเนื้อมัดลึกมาก เกิดความอ่อนล้าเร็วกว่าปกติ
-พัฒนาการทักษะมัดเล็กช้า
-ทักษะจับดินสอ เขียนหนังสือ ตัดกระดาษอาจยากลำบาก
-พฤติกรรม “ยุกยิก” เด็กอาจต้องขยับตัวอยู่เสมอเพื่อค้นหา “ตำแหน่งชัวร์” ทำให้ดูซนและมีปัญหาสมาธิในห้องเรียน
-ความเจ็บปวดเรื้อรัง
หากไม่จัดการ อาจเกิดปวดข้อเรื้อรังเมื่อโตขึ้น หรือเสี่ยงท่าออฟฟิศ ซินโดรมได้
🚩แนวทางแก้ไขโดยนักกิจกรรมบำบัด (OT)
- ฝึกกิจกรรมส่งเสริม Core Stability Training
เช่น Plank Variations: ค้าง 5–10 วินาที ช่วยเสริมกล้ามเนื้อมัดลึก
Bridge Exercise: ยกสะโพกค้าง 5 วินาที ซ้ำ 8–10 ครั้ง
-ฝึกกิจกรรมส่งเสริม Vestibular & Proprioceptive Activities เช่น
✅ Balance Disc: เดินหรือยืนบนบอร์ดเบา ๆ 1–2 นาที
✅Single-leg Stance: ยืนขาเดียว แขวนมือออกด้านข้าง ค้าง 5–8 วินาที สลับข้าง
✅Bodyweight Strengthening
✅Squat & Heel Raises: Squat เบา ๆ 10 ครั้ง; เดินเขย่งสลับส้น–ปลายเท้า
✅Theraband Exercises: ดึง–ผลักยางยืด ฝึกกล้ามเนื้อแขนและขา
-ให้กิจกรรมส่งเสริม Deep Pressure Input
✅Ball Squeeze / Weighted Activities: บีบลูกบอลนวด หรือสวมกระเป๋าน้ำหนักเบา 1–2 นาที
✅Proprioceptive Input: ใช้ผ้าพันข้อศอก–ข้อมือ เพื่อเพิ่มรับรู้ตำแหน่งร่างกาย
สรุป🚩
ภาวะเอ็นข้อหย่อนอาจดูไม่เป็นเรื่องใหญ่ แต่ถ้าปล่อยไว้นาน เด็กจะพลาดโอกาสสร้างความแข็งแรงทั้งร่างกายและสมาธิในวัยเรียน การสังเกตง่าย ๆ ด้วยท่า W-sitting, ยืดขาข้อเกิน, และสังเกตกิจกรรมในชีวิตประจำวัน จะช่วยให้พ่อแม่และครูรู้ตัวเร็วขึ้น นักกิจกรรมบำบัดจึงออกแบบโปรแกรม SI โดยเน้นสร้างเสถียรภาพข้อผ่าน Core Stability, Balance Training, Strengthening, และ Deep Pressure Input เมื่อฝึกอย่างสม่ำเสมอ เด็กจะเคลื่อนไหวมั่นคงขึ้น จับดินสอได้ถนัด เขียนหนังสือขีดเขียนได้สวย และลดพฤติกรรม “ยุกยิก” ในห้องเรียนลงอย่างเห็นผลค่ะ
#ครูน้ำฝนนักกิจกรรมบำบัด #พัฒนาการการเล่นในแต่ละช่วงวัย #การเล่น #แม่และเด็กอ่อน #นายแพทย์ประเสริฐ #นักกิจกรรมบำบัด #พัฒนาการเด็กเล็ก #แม่และเด็ก #พัฒนาการเด็ก #กิจกรรมบำบัด #เอ็นข้อหย่อน