22/04/2020
จดหมายจาก GIG 'บับที่ 1 - แอดมิน'เขี้ยว'พบประชา GIG
มาทำความรู้จักแอดมินคนแรกของเพจ GIG กันค่ะ
ไม่รู้ว่าตัวเองเป็น HR ที่เก่งไหม..I don’t know รู้แต่ว่าเป็น HR ที่โชคดีที่ได้เจอวิกฤตมากมาย...Hi Crisis!!!
เขี้ยวจบป.ตรีการท่องเที่ยวและโรงแรม จากมอ.กรุงเทพ และจบป.โทด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์กร (Human Resource and Organization Development) จาก NIDA ที่ๆหลายคนพูดว่า เป็นแหล่งให้ความรู้หนักมว๊าาาากจริงๆ บางคนเรียนจนต้องเลิกกับแฟน 555 เพราะทำการบ้านที่อาจารย์ให้กันหนักมาก แบบบ้านช่องไม่กลับกันเลย และจริงๆเหลือแค่ทำวิทยานิพนธ์ก็จะได้จบป.โทอีกใบจาก ABAC น๊า เพราะตอนนั้นเรียนคู่กันกับที่ NIDA แต่ดันมาจบที่ NIDA เสียก่อน และคิดว่าได้ป.โทมาสองใบ เขาจะจ่ายเงินเดือนเรามากกว่าคนจบใบเดียวป่าวว่ะ ...ก็ไม่...งั้นบาย ABAC เพราะเราเป็น HR เรารู้ดีว่าไม่ได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นแน่นอนจร้านู๋
กระโดดข้ามมาที่การทำงานด้าน HR เลยแล้วกัน เขี้ยวจบป.ตรีตอนอายุ 22 เริ่มได้เข้าวงการ HR แบบไม่ได้ตั้งใจเพราะแผนก HR เขาขาดคน จริงๆสมัครตำแหน่งนึงแต่ดันได้อีกตำแหน่งนึง...นี่ถ้าปฎิเสธไปตอนนั้น ชีวิตตอนนี้จะเป็นยังไงหน๋อ? จุดเริ่มต้นของชีวิตในวันนี้เริ่มจากวันนั้นที่ตกบันไดพลอยโจรเนี่ยแหละค่ะ.......
ต่อจากนี้จะเป็นที่มาโดยย่อที่ว่า เขี้ยวเป็นHR คนนึงที่โชคดีคือ ตลอดระยะเวลา 21 ปีที่ทำงานด้าน HR กับบ.ข้ามชาติ 6 บริษัท ทั้งสัญชาติญี่ปุ่น อเมริกัน เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ และฮ่องกง ในประเภทธุรกิจที่หลายหลายเช่น Logistics, Pharmaceutical, Nutrition, Medical Devices, Chemical (Paint) ได้ทำงานทุก function ของ HR เรียกได้ว่าตั้งแต่ รับคนเข้าไปจนถึงเอาคนออกเลย หรือเรียกง่ายๆว่าทำตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบเลย 555 ได้รับตำแหน่ง HR Manager ตอนอายุ 25 พร้อมรถประจำตำแหน่ง(สุด Cool) และมีตำแหน่ง HR Director ตอนอายุ 34
ในช่วงที่ทำงานที่เราเป็นเบอร์หนึ่งขององค์กรในการพัฒนาคนและองค์กร เขี้ยวจึงเป็นคนหนึ่งที่อยู่แนวหน้าที่ต้องช่วยองค์กรฝ่าวิกฤต ( Crisis ) ต่างๆที่ไปให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าควบรวมกิจการบริษัทอื่น, การควบรวมกิจการของบริษัทในเครือกันเอง (จาก 3 บริษัท ยุบเหลือ 1 บริษัท), การปิดโรงงานเก่าและต้องย้ายคนเก่าไปยังโรงงานใหม่(มีการ Layoffs ส่วนหนึ่ง) รวมทั้งรับพนักงานใหม่เพิ่มเข้ามาด้วย, ช่วงวิกฤตน้ำท่วมกรุงเทพฯที่ทุกคนต้องทำงานที่บ้าน, และสุดท้ายเมื่อธุรกิจกำลังจะถูก Disrupt จึงต้องมีการรวมศูนย์การผลิตไว้ที่โรงงานเดียว (จากเดิมมีสองโรงงานและผลิตเหมือนกัน) ก็ต้องโยกย้ายคนบางส่วนไปโรงงานอีกแห่ง แต่ในขณะเดียวกันก็จะมีคนจำนวนนึงที่ไปไม่ได้เพราะไกลหรือมีเหตุผลทางครอบครัว คนกลุ่มนี้ก็ต้องเลิกจ้างกันไป
จากวิกฤตข้างต้น ทำให้เขี้ยวได้ฝึกหลายทักษะมากมายเกี่ยวกับการบริหารจัดการคน โดยเฉพาะเรื่องการบริหารการเปลี่ยนแปลงในช่วงวิกฤต (Change Management in crisis) ต่างๆ
เขี้ยวไม่ใช่นักอ่านทฤษฎีแต่เป็นนักปฏิบัติ (Practitioner) ตัวยง ดังนั้นสิ่งที่ทำให้เขี้ยวมีเส้นทางสายอาชีพด้าน HR ที่ดีก็เพราะได้เจอของจริง ก็คือ “ประสบการณ์” ทำจริง เจ็บจริงไม่ใช้แสตนอิน เพราะ 99.99% ได้ทำงานกับบริษัทข้ามชาติระดับโลกที่มี “หลักการ” ในการบริหารคนและองค์กร แต่ก็มีประสบการณ์เช่นเดียวกันที่ได้ทำงานกับบริษัท ที่ใช้ “หลักกู” ในการบริหารคนและองค์กร ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดี และเห็นแง่มุมความล้มเหลวขององค์กรในลักษะแบบนี้เช่นกัน ในแง่เวลาและค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปเกี่ยวกับเรื่องคนแต่ไม่ได้อะไรที่เป็นประโยชน์กับองค์กรเลย.
เพราะไม่มีใครเก่งทุกเรื่อง แต่เรื่องที่คุณไม่เก่ง เพียงแค่ “คุณไม่รู้” เท่านั้นเอง
มาถึงตอนนี้ก็แค่จะบอกว่า เสาร์ที่ 25 นี้ บ่ายสองโมง เขี้ยวจะแชร์ประสบการณ์ด้านการบริหารคนในช่วงวิกฤตต่างๆ ซึ่งยังคงมีประสบการณ์บางอย่างในอดีตที่พอจะนำมาประยุกต์ใช้ได้อยู่ในวิกฤตโควิดนี้ และได้ศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อมาแบ่งปันให้ฟัง ว่าในช่วงนี้ตปท.เขาทำอะไรกันบ้างในมุมมองเรื่องคน
สนใจปูเสื่อรอนะคะ...