23/05/2025
"เชื่อว่าคุณผู้หญิงหรือคุณแม่บ้านน่าจะรู้จักคุ้นเคยกับยาชนิดนี้กันอย่างแน่นอน"
✍ยาคุมกำเนิด คือ อะไร
"ยาคุมกำเนิดเป็นยาลักษณะฮอร์โมนประเภทหนึ่งครับ โดยเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะออกฤทธิ์ภายในร่างกาย เพื่อยับยั้งวงจรที่ส่งผลต่อการตกไข่หรือปฏิสนธิภายในร่างกาย เมื่อมีเพศสัมพันธ์ ตลอดจนปรับสมดุลฮอร์โมน"
✍แล้วยาคุมกำเนิดมีกี่ชนิด
: หากแบ่งตามลักษณะยาแล้ว อาจจะมีทั้งรูปแบบยากิน ยาฉีด แผ่นแปะ ยาฝัง ซึ่งขึ้นกับความสะดวกในการใช้ โดยที่คุ้นเคยกันดีอาจจะเป็นรูปแบบยากินครับ ที่จะมีแบบที่เป็นฮอร์โมนรวมและฮอร์โมนเดี่ยว
✍ยาคุมกำเนิดให้ประโยชน์แค่การคุมกำเนิดหรือไม่
: ประโยชน์หลักยังคงเป็นเรื่องการคุมกำเนิดครับ หากแต่ปัจจุบันก็มีการใช้ยาคุมเพื่อวัตถุประสงค์อื่น เช่น การปรับฮอร์โมนในสตรีผู้มีประจำเดือนมาไม่ปกติ ผู้มีภาวะปวดท้องประจำเดือนรุนแรง มีภาวะซึมเศร้าหรืออารมณ์ไม่คงที่จากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน หรือภาวะสิวจากฮอร์โมน
ยากลุ่มนี้จึงถือได้ว่าเป็นกลุ่มยาที่มีการใช้อย่างกว้างขวางในสตรีและอาจจะมีการใช้ต่อเนื่องยาวนานตลอดช่วงวัยเจริญพันธุ์ โดยเฉพาะรูปแบบรับประทานชนิดฮอร์โมนรวม
✍การใช้ยาคุมกำเนิดระยะยาวจะมีข้อควรระวังอะไรบ้าง
: เนื่องจากยาคุมกำเนิดอาจมีการใช้อย่างยาวนาน จึงมีข้อควรระวังหลายประการที่ควรสังเกตความผิดปกติ
* ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ
* ความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม
* การเปลี่ยนแปลงความดันโลหิตและโรคหลอดเลือดหัวใจ
* การเกิดอันตรกิริยากับยาอื่นๆ ในผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
✍ควรเลือกใช้ฮอร์โมนรวมในยาคุมอย่างไร
: ยาคุมแบบรับประทานฮอร์โมนรวมจะประกอบด้วย เอสโตรเจน และ โปรเจสตินครับ จริงๆก็เป็นการเลียนแบบร่างกาย แต่เป็นตัวยาที่รับจากภายนอก โดยจนถึงปัจจุบันนั้นฮอร์โมนเหล่านี้ก็ได้มีการพัฒนาศึกษาและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อลดข้อเสียและความเสี่ยงต่างๆและส่งเสริมประสิทธิภาพให้ดีขึ้น
"เอสโตรเจน ที่นิยมใช้สำหรับผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดอย่างแพร่หลาย คือ ชนิด EE ขนาด 15-35 ไมโครกรัมซึ่งออกฤทธิ์ได้ดีในร่างกาย ทั้งนี้ในปัจจุบันยังได้มีการพัฒนานำเอสโตรเจนรูปแบบที่เรียกว่า E4 มาใช้ เพราะเป็นเอสโตรเจนธรรมชาติที่มีการเลือกออกฤทธิ์ที่จำเพาะกับเนื้อเยื่อมากขึ้น"
"การออกฤทธิ์ที่ตรงจุดมากขึ้นนี้จะช่วยลดผลข้างเคียงหรือความเสี่ยงในระยะยาวของการเกิดโรคหลอดเลือดดำอุดตัน การเปลี่ยนแปลงของความดันโลหิตหรือโรคหลอดเลือดหัวใจ การกระตุ้นการเจริญของเซลล์ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม"
โปรเจสตินเองก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยมุ่งหวังการลดผลข้างเคียงต่อฮอรโมนเพศชาย ซึ่งทำให้เกิดภาวะบวมน้ำ เป็นสิว ผิวมัน ขนดก ซึ่งกลุ่มโปรเจสตินที่พัฒนาใหม่ๆ เช่น drosperinone, desogestrel, chlomadinone acetate แต่ทั้งนี้ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำเช่นกัน
"การเลือกใช้ฮอร์โมนรวมให้เหมาะสม จะช่วยให้เกิดทั้งประสิทธิภาพและความปลอดภัยต่อผู้ใช้ยาครับ ดังนั้นก่อนใช้ยาทุกครั้งจึงอยากเชิญชวนให้ทุกท่านปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาหรือเภสัชกรใกล้บ้านของท่าน ตลอดจนหมั่นสังเกตผลการรักษาและเฝ้าระวังผลข้างเคียงหรือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ครับ"
ด้วยความปรารถนาดีจากเภสัชกร
อ้างอิง
1. Gérard C, Foidart J-M. Estetrol: From preclinical to clinical pharmacology and advances in the understanding of the molecular mechanism of action. Drugs R D. 2023;23:77–92. doi:10.1007/s40268-023-00419-5
2. Graham R, Manikam L, McDonald H, et al. Development of a checklist for the assessment of the methodological quality both of randomised and non-randomised studies of healthcare interventions: a mixed methods study. BMJ Open. 2020;10(3):e030465. doi:10.1136/bmjopen-2019-030465
3. Fruzzetti F, Fidecicchi T, Montt Guevara MM, Simoncini T. Estetrol: A new choice for contraception. J Clin Med. 2021;10(23):5625. doi:10.3390/jcm10235625
4. กิติยศ ยศสมบัติ. Estetrol (E4): Novel estrogen with ‘NEST’ property. เภสัชกรรมสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์;[2566]