นวัตกรรม BioHacking Protandim Nrf1 Nrf2 Lifevantage Thailand

12/08/2023

25/07/2023

ศึกษาข้อมูลและงานวิจัยการดูแลสุขภาพระดับเซลล์
♥️♥️♥️♥️♥️

✅1.รายการตรวจสอบของ ABC Primetime​

https://youtu.be/J3glZqdF1nA

✅2.งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของ Nrf2​ Activator​

https://youtu.be/rwg4LW8xACU

✅3.การศึกษาของ NIA ยินยันการยืดอายุขัย

https://youtu.be/AZrNLKV8Mes

27/06/2023

❓อยากรู้มั้ยว่าทำไมคุณถึงนอนหลับได้ดีขึ้นด้วยโปรแทนดิม?

👉โปรแทนดิมช่วยเพิ่มเอนไซม์กลูตาไธโอนซึ่งเป็นเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระหลักจำนวนมากถึง 300% ใน 4 เดือน💪👊💪

👉กลูตาไธโอนเป็นเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระที่ไม่เหมือนกับสารต้านอนุมูลอิสระชนิดอื่นๆ เพราะเมื่อมันจัดการอนุมูลอิสระให้เป็นกลางได้แล้ว มันไม่ได้ตายไปหรือหมดฤทธิ์ไปเหมือนสารต้านอนุมูลอิสระส่วนใหญ่หรือถูกขับออกจากระบบ เมื่อมันเสร็จภารกิจแรกแล้วมันจะเข้าสู่ภารกิจที่สองที่จะทำให้เรานอนหลับได้ดีขึ้น

👉ในเซลล์สมองของเรากลูตาไธโอนจะเปลี่ยนเป็นกลูตาเมตและเข้าสู่เซลล์ผ่านช่องทางแบบประตูหมุน เมื่อกลูตาเมตเข้าไป ซีสเตอีนจะออกมา เมื่อวงจรนี้เกิดขึ้นอย่างสอดคล้องกันเราจะนอนหลับได้ดีขึ้นและมีความฝันมากขึ้น ในขณะที่เราผ่านแต่ละระดับของการนอนที่แตกต่างกันจนกระทั่งเข้าสู่ภาวะของการหลับลึก

👉ยาบางชนิดและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะยับยั้งการทำงานที่สอดคล้องกันของวงจรกลูตาเมต / ซีสเตอีน และตอนนี้มีการศึกษาวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์พิสูจน์ว่าโปรแทนดิมสามารถช่วยแก้ปัญหาการติดยาเหล่านี้ได้ (คนที่ติดยาเหล่านี้ โปรแทนดิมช่วยให้หยุดการติดยาได้)

❤️ใช้ชีวิตที่แอคติเวทหมายถึงการมีชีวิตอยู่นานขึ้น !!!

WANT TO KNOW WHY YOU SLEEP BETTER WITH PROTANDIM?

Protandim naturally boosts the Master antioxidant Glutathione enzyme by a massive 300% in 4 months 💪👊💪 Glutathione is not like any other antioxidants because when it neutralizes a free radical it does not die like most and be expelled. NO once it has done its first job it moves onto its second job and that is to make us sleep better. In our brain cells Glutathione turns into Glutamate and and enters the cells through a type of revolving door, as Glutamate goes in Cysteine comes out. When this cycle is in harmony we sleep way better and dream more as move through our different levels until we are in deep sleep mode. Certain things like drugs and alcohol inhibit the harmony of the glutamate /Cysteine cycle and we now have a published study proving that Protandim can help with addiction.

Live ACTIVATED and live long!!!

23/06/2023

❤️Nrf2 กับโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis)
👉โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็งเป็นโรคภูมิต้านทานตนเองที่ทำลายเส้นประสาทในสมองและไขสันหลังทำให้สูญเสียการควบคุมกล้ามเนื้อ เกิดความรู้สึกเสียวซ่าของเส้นประสาท หรืออาการชาในร่างกาย สูญเสียการมองเห็นและความสมดุล
👉การเสื่อมแข็งหมายถึงการสร้างหรือการสะสมของเนื้อเยื่อแผลเป็นในสมองและไขสันหลัง การสะสมนี้จะทำลายเกราะป้องกัน (ไมอีลิน) รอบเส้นประสาทและไปขัดขวางการสื่อสารระหว่างสมอง ไขสันหลัง และพื้นที่อื่น ๆ ของร่างกาย
🔥การกระตุ้นหรือการปรับสมดุล NRF2 จะช่วยผู้ป่วยดังต่อไปนี้
✅ลดหรือชะลอการสร้างเนื้อเยื่อแผลเป็น
✅เพิ่มการผลิตเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระป้องกันและเอนไซม์ล้างพิษ
✅ควบคุมการตอบสนองของการอักเสบของประสาทจากภูมิต้านทานตนเอง
🔥การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Pharmacogenomics Journal (มิถุนายน 2555) แสดงให้เห็นว่าการบำบัดด้วย Nrf2 ได้ผลดีที่สุดเมื่อใช้อย่างสม่ำเสมอ เมื่อเทียบกับการบำบัดแบบ "กระตุ้น" เพียงครั้งเดียว

27/03/2023

#โรคกระดูกทับเส้น

บังเชษ เชษฐา ทัพวัง
อายุ 63 ปี อดีตวิศวกรสร้างรถไฟฟ้า บริษัทซีเมนต์

เกษียณตัวเองมาเป็นนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์

เล่าประสบการณ์การใช้ PROTANDIM. ด้วยความประทับใจ

ดูคลิปให้จบนะครับ

#โรคกระดูกทับเส้นบังเชษ เชษฐา ทัพวังอายุ 63 ปี อดีตวิศวกรสร้างรถไฟฟ้า บริษัทซีเมนต์ เกษียณตัวเองมาเป็นนักล.....

22/02/2023

❓ความผิดปกติของไมโทคอนเดรียคืออะไร? และทำไมคุณจะต้องใส่ใจ? 👇

❓คุณรู้หรือไม่ว่ามียาที่ใช้กันทั่วไปมากกว่า 72 ชนิดที่รู้จักกันว่าเป็นยาพิษสำหรับไมโทคอนเดรีย สองตัวอย่างในบรรดายาเหล่านี้คือ Lipitor และ Zoloft ของ Pfizer

✅ไมโทคอนเดรียเป็นโรงงานไฟฟ้าของเซลล์ สร้างพลังงานส่วนใหญ่ 95% สำหรับการทำงานในชีวิตประจำวันของเรา

✅ไมโทคอนเดรียเป็นโครงสร้างภายในเซลล์ที่มี DNA ของตัวเอง นอกเหนือจาก DNA ที่อยู่ในนิวเคลียสของเซลล์

👉“ความเสียหายของไมโทคอนเดรียเป็นที่เข้าใจกันว่ามีบทบาททำให้เกิดโรคหลาย ๆ โรคที่ไม่เกี่ยวข้องกันเช่น โรคจิตเภท โรคเบาหวาน โรคพาร์กินสัน โรคอ่อนเพลียเรื้อรังและโรคติดเชื้อที่ไม่มีแอลกอฮอล์ เมื่อเร็ว ๆ นี้เป็นที่รู้กันว่าโรคที่เกิดจากการรักษาของแพทย์(แพทย์หรือการรักษาทำให้เกิดโรคนี้ขึ้น) เกี่ยวข้องกับความเสียหายของไมโทคอนเดรียที่มาจากการใช้ยา”

👉“ยาที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาททุกประเภทได้รับการบันทึกว่าสร้างความเสียหายให้กับไมโทคอนเดรียเช่นเดียวกับยาสเตติน ยาแก้ปวดเช่น acetaminophen และวัคซีน” – นพ. John Neustadt, MD และ นพ. Steven Pieczenik, MD

❓คุณรู้หรือไม่ว่ารูปแบบความผิดปกติของไมโทคอนเดรียที่มีมาตั้งแต่เกิด/ที่สืบทอดมีประมาณ 10 - 15% ในขณะที่ส่วนที่เหลือ 85 - 90% ของความผิดปกติของไมโทคอนเดรียมาจากผลของสารพิษจากสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษต่อไมโทคอนเดรียในสมอง ในกล้ามเนื้อและอวัยวะอื่น ๆ ดังนั้นเราถูกทำให้เกิดโรคจากการวิธีการป้องกันและรักษาจากแพทย์ หรือจากอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง

👉การวิจัยแสดงถึงภาวะของโรคที่มาจากความผิดปกติของไมโทคอนเดรียได้แก่

✳️โรคเบาหวาน

✳️โรคของฮันติงตัน

✳️โรคมะเร็ง

✳️โรคอัลไซเมอร์

✳️สมาธิสั้น

✳️ออทิสติก

✳️โรคพาร์กินสัน

✳️โรคไบโพลาร์

✳️โรคจิตเภท

✳️การเสื่อมและชราภาพ

✳️ความผิดปกติของความวิตกกังวล

✳️โรคหัวใจและหลอดเลือด

✳️ความเหนื่อยล้ารวมถึงอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง และความเจ็บปวด myofascial

🔥และยิ่งเรียนรู้ ยิ่งมีโรคมากขึ้นกว่านี้ที่เกิดจากความผิดปกติของไมโทคอนเดรีย!

18/02/2023

สุขภาพลำไส้และจุลินทรีย์สำคัญมากกว่าที่คุณคิด
คุณเคยได้ยินเรื่องพายุไซโตไคน์หรือไม่?
การเชื่อมต่อของลำไส้ - สมอง
“ถ้าลำไส้ของคุณลุกเป็นไฟแสดงว่าสมองของคุณก็ลุกเป็นไฟด้วย”
- Dr. Lewis M. Clark DC, CCWP, BCIM, CGP
ในปี 2015มีการตีพิมพ์การศึกษาในวารสาร Annals of gastroenterology งานวิจัยนี้กล่าวถึงผลกระทบอย่างมากระหว่างลำไส้และสมอง
การเชื่อมโยงของลำไส้และสมอง!
สุขภาพลำไส้และจุลินทรีย์ของเรามีผลต่อความคิด อารมณ์ ระบบภูมิคุ้มกัน การย่อยอาหารและอื่น ๆ อีกมากมาย!
ดังนั้นคำถามคือ -
ถาม: ไซโตไคน์คืออะไร ???
ตอบ: สารเคมีที่ส่งสัญญาณจากลำไส้ไปยังสมองหรือในทางกลับกัน
เมื่อลำไส้อักเสบ ไซโตไคน์จะเข้าสู่กระแสเลือดและข้ามตัวกั้นระหว่างหลอดเลือดและเซลล์ระบบประสาท
ไซโตไคน์จะกระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกันที่เรียกว่าเซลล์ไมโครเกลียภายในสมอง
ส่งผลทำให้เกิดการอักเสบในสมอง การอักเสบในร่างกาย
🤯ดังนั้นถ้าลำไส้ของคุณลุกเป็นไฟแสดงว่าสมองของคุณลุกเป็นไฟ😱
**************
This is more important than you probably know.
Have you heard of the cytokine storm?
The Gut - Brain Connection
“If your gut is on fire, then your brain is on fire.”
— Dr. Lewis M. Clark DC, CCWP, BCIM, CGP
In 2015 a study was published in the annals of gastroenterology. This research discussed a tremendous effect between the gut and the brain.
Their connection!
Our gut health and microbes affect our thoughts, moods, immune system, and digestion, and more!
So the question is --
Q: What are cytokines???
A: Chemical messengers that send signals from the gut to the brain or vice versa.
When the gut is inflamed; cytokines will get into the bloodstream and cross the blood brain barrier.
In the brain they will then activate immune cells called microglial cells.
These will, in turn, cause inflammation in the brain. Inflammation in the body.
📷So, if your gut is on fire, then your brain is on fire.📷

16/02/2023

ทำไม เราต้องแก่ ❤️

จากการตั้งคำถามของนักวิทยาศาสตร์ในห้องทดลอง " ทำไมเราต้องแก่ ? "จนมาถึงคำตอบทั้งหมด และหนทางแก้ไขในแบบที่....

08/02/2023

👉ออกซิเดทีฟสเตรส (oxidative stress) คือความไม่สมดุลระหว่างอนุมูลอิสระและความสามารถในการลดอนุมูลอิสระของร่างกาย
👉ออกซิเดทีฟสเตรสทำให้เซลล์ต่าง ๆ บาดเจ็บ
👉ร่างกายจะสร้างโมเลกุลการอักเสบเพื่อช่วยให้เซลล์ซ่อมตัวเอง แต่จะทำให้เกิดเนื้อเยื่อที่ไม่ปกติขึ้นที่เรียกว่าแผลเป็น (Scar)
👉แผลเป็นจะค่อยๆ แทนที่เซลล์สุดท้ายแล้วเมื่อเกิดแผลเป็นมากขึ้น อวัยวะนั้น ๆ จะไม่สามารถทำงานเป็นปกติได้
❤️การลดออกซิเดทีฟสเตรสจึงมีความสำคัญต่อการมีสุขภาพดี
Cr.: Dr. Maniscalco

26/01/2023

✅ดีท็อกซ์ - เป็นคำที่ฮือฮาในโลกแห่งสุขภาพ ตั้งแต่น้ำผลไม้ ยาเม็ดไปจนถึงการล้างพิษจากโซเชียลมีเดีย
✅ร่างกายจำเป็นต้องได้รับการดีท็อกซ์อย่างเหมาะสมเพื่อช่วยในการกำจัดของเสียและสารพิษออกทางเหงื่อ ปัสสาวะ อุจจาระ น้ำตา หรือแม้แต่น้ำมูก
✅ช่องทางการกำจัดของเสียและสารพิษ:
1. ลำไส้ใหญ่ - เมื่อลำไส้ใหญ่ของเรา "ทำงาน" ทุกวัน (กำจัดออกอย่างน้อย 1 ครั้งต่อวัน) เราจะสามารถกำจัดสารพิษออกได้ ซึ่งจะช่วยให้ขั้นตอนต่อไปของเส้นทางการระบายสารพิษดีขึ้น
2. ตับ ท่อน้ำดี ไตและผิวหนัง - อวัยวะเหล่านี้สามารถทำงานได้ดีเมื่อลำไส้ใหญ่ทำหน้าที่ระบายของเสียได้ดีเท่านั้น
3. น้ำเหลือง - นี่คือระบบทางหลวงสำหรับ "รถบรรทุก" เพื่อขนส่งของเสียจากเนื้อเยื่อไปที่ไตและตับเพื่อช่วย "ทิ้ง" ของเสีย นี่คือเหตุผลว่าทำไมขั้นตอนที่ 2 จึงต้องทำงานได้อย่างถูกต้องเพื่อให้ระบบสามารถทำงานได้โดยไม่ติดขัด
4. กำจัดของเสียในสมอง (Glymphatic)- สมองมีระบบน้ำเหลืองของตัวเอง - กำจัดของเสียในสมองจะล้างของเสียและของเหลวในเซลล์ ร่างกายของเราจะ "ทิ้ง" ระบบนี้ในระหว่างที่เรานอนหลับ ดังนั้นทำไมการนอนหลับจึงเป็นกุญแจสำคัญ และเราต้องการให้ทุกอย่าง "ระบาย" เพื่อที่จะไม่มีการตกค้าง
5.เซลล์และเนื้อเยื่อ - ขั้นตอนสุดท้ายของเส้นทางการระบายสารพิษ สิ่งสำคัญคือต้องให้ทุก ๆ อย่างทำงานเพื่อไม่ให้ของเสียและสารพิษสะสมในเซลล์ของคุณ หากเป็นเช่นนั้นอาจทำให้เกิดความผิดปกติของไมโทคอนเดรียและระดับความเครียดออกซิเดชั่นในร่างกายที่สูงขึ้น
✅จินตนาการว่าร่างกายของเราเป็นกรวยและจงตรวจสอบให้แน่ใจว่าส่วนล่างของ "กรวย" เปิดอยู่เพื่อให้ระบบและอวัยวะอื่น ๆ ของร่างกายทำงานได้อย่างถูกต้องและระบายออก เราไม่ต้องการ "การอุดตัน / การตกค้างของของเสีย"
✅เมื่อมีสารพิษตกค้างในร่างกายของเราจะทำให้เรารู้สึกไม่ดีและทำให้เกิดความเจ็บป่วยและมีสุขภาพที่ไม่ดี
❤️แก้ไขที่เซลล์แล้วร่างกายจะดีขึ้น !!