โรคร้ายห่างไกลถามไถ่ เอก KO

โรคร้ายห่างไกลถามไถ่ เอก KO ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก โรคร้ายห่างไกลถามไถ่ เอก KO, วิตามิน/อาหารเสริม, จ. สมุทรปราการ.

09/06/2019
📌 โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดจะเกิดขึ้น จากการสะสมของไขมันหรือเส้นใยสะสม และค่อยๆก่อตัวเป็นแผ่นไขมันที่ผนังหลอดเลือดแดงใหญ...
09/06/2019

📌 โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดจะเกิดขึ้น จากการสะสมของไขมันหรือเส้นใยสะสม และค่อยๆก่อตัวเป็นแผ่นไขมันที่ผนังหลอดเลือดแดงใหญ่

ซึ่งแผ่นไขมันที่ก่อตัวขึ้นนี้จะทำให้หลอดเลือดแดงแคบลงและอาจไปลดเลือดที่จะไปเลี้ยงอวัยวะที่สำคัญ เช่น หัวใจและสมองจึงทำให้มีอาการ เช่น คออักเสบ หรือภาวะขาดเลือดได้เนื่องจากการอุดตันของทางเดินเลือดฉับพลัน

นอกจากนี้แผ่นไขมันยังจะสามารถแตกได้ทำให้ไปปิดกั้นกระแสเลือดทั้งหมดแบบฉับพลัน หากเกิดที่หัวใจจะทำให้เป็นโรคหัวใจวาย และหากเกิดในสมองจะทำให้เป็นโรคเส้นเลือดในสมองอุดตัน

ซึ่งสาเหตุของโรคนี้อาจจะมาจาก👍🏻
1. กรรมพันธุ์
2. รับประทานอาหารพวกแป้งมากเกินไป
3. อ้วน หรือมีน้ำหนักเกิน
4. ไม่ออกกำลังกาย
5. เพศ/อายุ
6. การดื่มสุรามาก
7. เครียด
8. กินยาบางชนิด เช่น ยาฮอร์โมน Steroid
9. โรคบางอย่างที่มักจะเป็นร่วมกับภาวะไขมันสูงได้แก่ โรคเบาหวาน โรคตับ โรคไต และต่อมธัยรอยด์ ทำงานน้อย

ยินดีให้คำปรึกษา/สั่งซื้อ
โทร. 061 812 2200_พี่เอก

💢การป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง  หลอดเลือดสมองตีบ แตก หรืออุดตันควรดูแลเรื่องเหล่านี้ คือ💢ควบคุมระดับคอเลสเตอรอล ควรตรวจวัดร...
09/06/2019

💢การป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง หลอดเลือดสมองตีบ แตก หรืออุดตัน
ควรดูแลเรื่องเหล่านี้ คือ

💢ควบคุมระดับคอเลสเตอรอล ควรตรวจวัดระดับไขมันในเลือดอย่างน้อยทุก 6-12 เดือน หากเป็นผู้ที่มีความเสี่ยง หรือมีภาวะคอเลสเตอรอลสูงอยู่แล้ว ควรไปพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอเพื่อติดตามอาการ

💢ควบคุมระดับความดันโลหิต การตรวจวัดความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอจะช่วยควบคุมระดับความดันโลหิตอันเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมอง

💢ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด หากแพทย์สงสัยว่าผู้ป่วยมีอาการของโรคเบาหวาน แพทย์จะตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด ถ้าผลออกมาแล้วพบว่าเป็นโรคเบาหวาน ผู้ป่วยจำเป็นต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร และการใช้ชีวิต

💢รักษาโรคหัวใจอย่างต่อเนื่อง หากผู้ป่วยมีอาการของโรคหัวใจอยู่ก่อนแล้ว ควรเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานยา และการผ่าตัด เพราะการรักษาที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองได้

ไขมันอุดตันในเส้นเลือด อันตรายถึงชีวิตโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด เป็นแล้วมีความเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายถึงชีวิต โดยเฉพาะคนอ...
09/06/2019

ไขมันอุดตันในเส้นเลือด อันตรายถึงชีวิต
โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด เป็นแล้วมีความเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายถึงชีวิต โดยเฉพาะคนอ้วนจะเสี่ยงสูง แต่ก็ใช่ว่าคนที่ไม่อ้วนจะไม่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ ดังนั้นการรู้จักและรู้ถึงสัญญาณของโรคมีโอกาสแก้ไขได้ทันท่วงที รวมถึงลดความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากโรคนี้ได้
สัญญาณอันตรายของโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด
🔺 เกิดอาการเหนื่อยง่ายกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็นการเดินขึ้นบันได เดินขึ้นเนิน หรือแค่ออกกำลังกายเบาๆ ก็เหนื่อย
🔺 มีอาการเวียนศีรษะ หน้ามืด คล้ายๆจะเป็นลม
🔺 ปวดศีรษะมาก เมื่อตอนลุกขึ้นจากที่นอน หรือว่าลุกนั่งเร็วๆ
🔺 ใจสั่น ใจเต้นเร็ว และปลายมือปลายเท้าเย็น
🔺 แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก เหมือนกับมีอะไรมากดทับ ซึ่งลักษณะอาการโดยทั่วไปจะคล้ายๆ กับอาการของโรคหัวใจ ที่เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจตีบ เพราะจะมีเลือดไหลเวียนในหัวใจไม่เพียงพอ เลือดจึงไม่สามารถที่จะสูบฉีดไปหล่อเลี้ยงร่างกายได้ จึงทำให้มีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายนั่นเอง
สาเหตุการเกิดไขมัน
เกิดจากการสะสมของไขมันหรือเส้นใยสะสม และค่อยๆ ก่อตัวเป็นแผ่นไขมันที่ผนังหลอดเลือดแดงใหญ่ ซึ่งแผ่นไขมันที่ก่อตัวขึ้นนี้จะทำให้หลอดเลือดแดงแคบลงและอาจไปลดเลือดที่จะไปเลี้ยงอวัยวะที่สำคัญ เช่น หัวใจและสมองจึงทำให้มีอาการ เช่น คออักเสบ หรือภาวะขาดเลือดได้เนื่องจากการอุดตันของทางเดินเลือดฉับพลัน นอกจากนี้แผ่นไขมันยังจะสามารถแตกได้ทำให้ไปปิดกั้นกระแสเลือดทั้งหมดแบบฉับพลัน หากเกิดที่หัวใจจะทำให้เป็นโรคหัวใจวาย และหากเกิดในสมองจะทำให้เป็นโรคเส้นเลือดในสมองอุดตัน ซึ่งสาเหตุของโรคนี้อาจจะมาจาก
🔸 ภาวะอ้วนหรือน้ำหนักเกิน
🔸 ขาดการออกกำลังกายสม่ำเสมอ
🔸 การดื่มสุราหรือสูบบุหรี่เป็นประจำ
🔸 รับประทานอาหารที่มีไขมันโคเลสเตอรอลสูง หรือรับประทานอาหารมากเกินความจำเป็นของร่างกาย
🔸 โรคหรือการใช้ยาบางชนิด เช่น โรคไทรอยด์ทำงานน้อยกว่าปกติ โรคเบาหวาน โรคไต ยาขับปัสสาวะ ยาสเตียรอยด์ ยาคุมกำเนิด เป็นต้น
🔸 พันธุกรรม
♒ โดยในร่างกายเราจะมีไขมันในเลือดที่สำคัญอยู่ 2 ชนิดคือ

1. ไตรกลีเซอร์ไรด์ ร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองจาก น้ำตาล แป้ง แอลกอฮอล์ และส่วนหนึ่งได้รับจากอาหารที่รับประทานมาก สามารถทำให้หลอดเลือดอุดตันได้

2. โคเลสเตอรอล ร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองและส่วนหนึ่งได้รับจากอาหาร แหล่งโคเลสเตอรอลในอาหารพบมากใน ไข่แดง ปลาหมึก หอยนางรม เครื่องในสัตว์ นม เนย แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ

2.1 โคเลสเตอรอลชนิดร้าย (แอล ดี แอลโคเลสเตอรอล / LDL) หากมีระดับสูงเกินไปจะไปสะสมที่เยื่อบุด้านในของหลอดเลือดแดง ทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแข็ง ตีบ หรืออุดตัน

2.2 โคเลสเตอรอลชนิดดี (เอช ดี แอลโคเลสรอล / HDL) เป็นชนิดที่มีประโยชน์ ทำหน้าที่นำโคเลสเตอรอลที่เหลือไปทำลายที่ตับ ป้องกันการเกิดภาวะเลือดแดงแข็ง
มาถึงตอนสำคัญค่ะ ‼ เราจะหลีกเลี่ยงการเป็นโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้โดยการเลือกทานอาหารค่ะ

❌ เลี่ยงรับประทานไขมันสัตว์ เช่น มันหมู หมูสามชั้น สันคอหมู ขาหมูติดมัน หนังเป็ดพะโล้ ก้นไก่ ก้นเป็ด มันไก่ หากจะรับประทานไก่ ให้เลือกส่วนอก และควรลอกหนังออก ใช้เนื้อสัตว์มีไขมันอิ่มตัวให้น้อย คือ ปลา และไก่ไม่ติดหนัง (เลือกทานไก่บริเวณอก)

❌ เลี่ยงรับประทานไขมันจากน้ำมะพร้าวแก่ เช่น กะทิข้น ควรงดแกงเผ็ดใส่กะทิ แกงเขียวหวาน แกงคั่ว แกงกะหรี่ ฯลฯ ข้าวซอยใส่กะทิ ก๋วยเตี๋ยวแกง (แขก) ฯลฯ ควรใช้กะทิเทียม (ทำจากน้ำมันรำข้าว) หรือนมพร่องมันเนย หรือนมขาดมันเนยแทน

❌ กะทิ สำหรับขนมใส่กะทิ (จากมะพร้าว) เช่น กล้วยบวชชี ขนมปลากริมไข่เต่า บัวลอย แกงบวดต่างๆ สาคูเปียก เต้าส่วน สามารถใช้กะทิเทียมหรือกะทิธัญพืชหรือนมพร่องมันเนยแทนได้เช่นเดียวกัน

❌ เลี่ยงอาหารที่มีโคเลสเตอรอลสูง เช่น ไข่ปลา ไข่แดง ตับ ไต มันสมอง ปลาหมึก หอยนางรม จำกัดไข่แดงไม่เกิน 3-4 ฟองต่อสัปดาห์ ส่วนไข่ขาวรับประทานได้ทุกวัน สำหรับเครื่องในสัตว์ไม่ควรรับประทานบ่อย จำกัดครั้งละ 2-3 ชิ้น

❌ เลี่ยงการใช้น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม และไขมันจากสัตว์ เช่น มันไก่ มันหมูมาหลอมเป็นน้ำมันเพื่อปรุงอาหาร ควรใช้น้ำมันรำข้าวเป็นหลักในการผัดและทอดอาหาร โดยไม่ใช้ไฟแรงเกินไป และใช้น้ำมันพืชอื่นๆบ้าง

❌ เลี่ยงแหล่งไขมันทรานส์ ซึ่งพบมากในเนยเทียม เนยขาว ครีมเทียม หรืออาหารที่ใช้ไขมันดังกล่าว เช่น เค้ก คุกกี้ ขนมพัฟและพาย มันฝรั่งทอด (French fried) น้ำมันทอดซ้ำ

❌ ลดอาหารที่เติมน้ำตาล ทั้งขณะปรุงประกอบอาหาร หรือเติมขณะกินอาหาร ขนมหวานจัด เครื่องดื่มหรือผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำตาลสูง

❌ เลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มชูกำลังและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพราะมีผลทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง

✔ เลือกรับประทานอาหารที่มีเส้นใยอาหารสูง ได้แก่ ผัก ผลไม้ ข้าวกล้อง ธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสีหรือขัดสีน้อย

✔ เลือกรับประทานอาหารที่ไม่ใช้น้ำมัน เช่น ยำต่างๆ แกงเลียง แกงส้ม แกงเหลือง แกงป่า แกงจืด ต้มยำ ปลานึ่งกับผัก ปลาย่าง มะเขือเผา(ไม่ไหม้) อาหารที่ผัดใส่น้ำมันน้อย อาหารทอดที่ไม่อมน้ำมัน

✔ เลือกรับประทานถั่วเปลือกแข็ง ถั่วเหลือง และปลาทู ปลาโอ ปลาทูน่า ปลาซาบะ ไขมันใต้ผิวหนัง ปลาทะเลดังกล่าวมีกรดไขมันชนิดโอเมก้า 3 อยู่มาก ช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดได้ดี อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง

✔ เลือกรับประทานนมชนิดไขมันต่ำ (นมพร่องมันเนย) แทนนมสดปกติ
มาดูแลสุขภาพด้วยการกินกันนะครับ

09/06/2019

6 วิธีดูแลสมองก่อนจะความจำเสื่อม

หากใครยังคิดว่า โรคอัลไซเมอร์ หรืออาการสมองเสื่อมยังเป็นอาการเจ็บป่วยที่ไกลตัวอยู่ละก็ อาจจะต้องคิดเสียใหม่ เพราะกระทรวงสาธารณสุขเผยถึงจำนวนผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ในประเทศไทยปี 2558 ว่ามีจำนวนมากถึง 600,000 ราย และคาดว่าจะเพิ่มจำนวนขึ้นถึง1,117,000 คนในปี 2573 ซึ่งหากมองในภาพรวมของทั้งโลกนั้น ในปัจจุบันมีการคาดการณ์ว่าจำนวนผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์มีมากกว่า 50 ล้านราย และในทุก ๆ 68 วินาที จะมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 1 ราย

จากเทคโนโลยีในปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์พบว่าโรคอัลไซเมอร์เกิดได้จากปัจจัยหลายอย่างรวมกัน ทั้งจากพันธุกรรม จากความผิดปกติทางชีววิทยาในสมอง ที่ส่งผลให้การทำงานของโครงสร้างเครือข่ายเซลล์ประสาทที่ติดต่อระหว่างกันไม่สามารถเกิดขึ้นได้ตามปกติอีกต่อไป ผู้ป่วยจะเกิดความบกพร่องทางสมองในส่วนของสติปัญญา เช่น ความคิด ความจำ และการตัดสินใจ ในขณะที่สมองส่วนที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวยังใช้การได้ดี โดยความเสี่ยงจะมากขึ้นเรื่อย ๆ ทันทีที่อายุเข้าสู่วัย 65 ปีเป็นต้นไป

อาการของอัลไซเมอร์อาจเริ่มจากการสูญเสียความทรงจำระยะสั้น จนไม่สามารถจำอะไรใหม่ ๆ ได้ นานวันเข้าอาจจำเหตุการณ์ในอดีตไม่ได้ไปด้วย หรือแม้แต่จำไม่ได้ว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคืออะไร เหมือนอย่างที่เราได้ยินข่าวอยู่บ่อย ๆ ว่า ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ออกจากบ้านแล้วหายตัวไปเพราะหาทางกลับบ้านไม่ถูก ความน่ากลัวของอัลไซเมอร์อาจเพิ่มทวีคูณไปกระทั่งเห็นภาพหลอน หูแว่ว ก้าวร้าว ในท้ายที่สุดสมองจะถูกทำลายจนไม่สามารถควบคุมการทำงานต่าง ๆ ของร่างกายให้ดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติและเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งทั้งหมดนั้นอาจกินเวลา 3 – 20 ปี โดยมีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 8 ปีนับตั้งแต่เริ่มมีอาการ

สำหรับใครที่ไม่อยากข้องเกี่ยวโรคอัลไซเมอร์ในตอนแก่ละก็ แม้ปัจจุบันจะยังไม่มีวิธีการรักษาโรคอัลไซเมอร์ให้หายขาดได้ก็ตาม แต่อย่าเพิ่งหมดหวัง เพราะคุณเองสามารถชะลอความเสื่อมของสมองได้ตั้งแต่วันนี้ด้วยวิธีการง่าย ๆ เพียง 6 วิธี

หมั่นเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่เสมอ ควบคู่ไปกับการออกกำลังสมอง เช่น เล่นเกมลับสมองฝึกความจำ ฝึกคำนวณตัวเลข รวมถึงการเล่นดนตรีประเภทต่าง ๆ ก็ช่วยได้
ออกกำลังกาย มีประโยชน์เรื่องการคลายเครียดและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือด โดยการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอหรือการบำรุงหัวใจ เพียงวันละ 20 – 30 นาที อย่างน้อย 4 วันต่อสัปดาห์
รับประทานอาหารบำรุงสมอง โดยเฉพาะอาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็ก วิตามินบี 12 เอ ซี อี และซีลีเนียม รวมถึงผลิตภัณฑ์จากใบแปะก๊วย
การเข้าสังคม เราไม่ได้พูดถึงงานสังคมหรูหราฟุ่มเฟือยใด ๆ แต่สิ่งที่กำลังกล่าวถึงคือ การพบปะผู้คน พูดคุย โต้ตอบบทสนทนาอย่างสม่ำเสมอ ไม่เก็บตัวเงียบอยู่คนเดียว สามารถช่วยยืดอายุสมองได้
หมั่นตรวจสอบความดันโลหิตอยู่เสมอ เพราะส่งผลกระทบถึงสมองโดยตรง และให้ลด ละ เลิกกิจกรรมต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อความดันโลหิตได้ เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ และการใช้สารเสพติด
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ควรเข้านอนเกินสี่ทุ่มถึงห้าทุ่ม และควรนอนให้ได้อย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อวันในสถานที่เงียบสงบ เพื่อให้การนอนมีคุณภาพมากที่สุด
ข้อมูลจาก

กระทรวงสาธารณสุข
เว็บไซต์ สำนักงานกองทุนสนับสุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) www.thaihealth.or.th

Stroke โรคหลอดเลือดสมองปัจจุบัน ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปีมีจำนวนเพิ่มขึ้น ดังนั้น อายุอาจไม่ได้เป็นต...
09/06/2019

Stroke โรคหลอดเลือดสมอง

ปัจจุบัน ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปีมีจำนวนเพิ่มขึ้น ดังนั้น อายุอาจไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้อีกต่อไป จากนี้โรคหลอดเลือดสมองเป็นโรคที่คนทุกวัยควรระวัง เพราะแม้แต่ ผู้สูงอายุ คนวัยทำงาน หรือวัยรุ่นก็อาจมีความเสี่ยงเกิดโรคนี้ด้วยสาเหตุที่ต่างกัน 80% เกิดจาก

หลอดเลือดในสมองตีบ (Atherosclerosis) เกิดจากลิ่มเลือดก่อตัวขึ้นจากผนังหลอดเลือดสมองที่มีคราบไขมันเกาะจนแข็ง ทำให้หลอดเลือดสมองตีบแคบลงจนอุดตัน

หลอดเลือดในสมองอุดตัน (Embolic) เกิดจากลิ่มเลือดที่ก่อตัวในเส้นเลือดนอกสมอง เช่น ที่หัวใจ ลอยตามกระแสเลือดไปอุดตันที่หลอดเลือดเล็กๆ ในสมอง20% เกิดจากเลือดออกในสมอง (Hemorrhagic) เกิดจากเลือดออกภายในสมอง ซึ่งเลือดที่ไหลออกมาทำให้เกิดแรงกดเบียดต่อเนื้อสมอง และทำลายเนื้อเยื่อสมอง

กำลังใจมีให้กันเสมอ
09/06/2019

กำลังใจมีให้กันเสมอ

โรคหลอดเลือดสมอง หรือ Stroke คือ โรคที่เกิดจากความผิดปกติของเส้นเลือดในสมอง ทำให้เซลล์ประสาทสมองเกิดความผิดปกติอาการมักเ...
09/06/2019

โรคหลอดเลือดสมอง หรือ Stroke คือ โรคที่เกิดจากความผิดปกติของเส้นเลือดในสมอง ทำให้เซลล์ประสาทสมองเกิดความผิดปกติอาการมักเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โรคหลอดเลือดสมอง เป็นสาเหตุการเสียชีวิตเป็นอันดับ 3 รองจากโรคมะเร็ง และโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง แบ่งออกเป็น 2 ชนิด
โรคหลอดเลือดสมองขาดเลือด เกิดจากการอุดตันของหลอดเลือด ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ สาเหตุจากไขมันที่เกาะตามผนังหลอดเลือด ทำให้เส้นเลือดตีบแข็ง และภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ทำให้เกิดลิ่มเลือด อุดตันหลอดเลือด
โรคหลอดเลือดสมอง ชนิดเส้นเลือดในสมองแตก สาเหตุจากเส้นเลือดสมองแตกหรือฉีกขาด ทำให้เกิดเลือดรั่วเข้าไปในเนื้อเยื่อสมอง

ติดต่อสอบถามและให้คำแนะนำครับ.0618122200 เอก.
19/05/2019

ติดต่อสอบถามและให้คำแนะนำครับ.0618122200 เอก.

ที่อยู่

จ. สมุทรปราการ

เบอร์โทรศัพท์

+66618122200

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ โรคร้ายห่างไกลถามไถ่ เอก KOผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram