HOM YOGA Original by Kru Kae

HOM YOGA Original by Kru Kae Mindfulness Creator of . . YOGA | BEING | HEALING
พื้นที่แห่งการพัฒนาพลังชีวิต HOM YOGA
Original by Kru Kae

‘ Heal Your Soul . . .

Feels Like Home ’

สตูดิโอโยคะ
ที่ช่วยเติมเต็มพลังชีวิตของผู้ฝึก
ให้เกิดความสมดุลของกายและใจ

ผู้ฝึกจะได้รับประสบการณ์การฝึก
ที่เข้าถึงอาสนะอย่างถูกต้องและเหมาะสม
สู่การพัฒนาทางด้านร่างกาย และ จิตใจ
ภายใต้ศาสตร์โยคะในแนวทาง Mindfulness Yoga
เรียนรู้และเข้าใจกระบวนการทำงาน
ของร่างกายอย่างเป็นระบบ
การฝึกพัฒนาเพื่อเข้าถึงจิตใจอันนิ่งสงบ และ
การเข้าถึงลมหายใจที่ดีที่สุดของตนเอง

บรรยากาศการฝึกของผู้ฝ

ึก
เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราให้ความสำคัญ
สตูดิโอโยคะของเราจึงได้รับการออกแบบ
และตกแต่งในสไตล์มินิมอล เรียบหรู ทันสมัย
บรรยากาศโอบล้อมด้วยความอบอุ่นเหมือนบ้าน
พร้อมติดตั้งระบบไฟ ที่เข้ามาเติมเต็มความรู้สึก
ให้รู้สึกผ่อนคลายขณะฝึกได้อย่างลงตัวและสวยงาม

 #ถอดบทเรียนการเรียนรู้M I N D F U L  P R A N A|  ปราณเพื่อการพัฒนาจิต |สำหรับผู้ฝึกในทุกระดับSunday, 27 July 20259.00am...
28/07/2025

#ถอดบทเรียนการเรียนรู้

M I N D F U L P R A N A
| ปราณเพื่อการพัฒนาจิต |

สำหรับผู้ฝึกในทุกระดับ

Sunday, 27 July 2025
9.00am - 6.00pm
By Master Sutham
HOM YOGA Original by Kru Kae


THE CORE of Mindful Prana

จากความตั้งใจที่ครูผู้จัดและครูผู้สอน
อยากนำผู้ฝึกให้เข้าถึง . .

“ Heightened Awareness of Your Breath ”
การฝึกปราณแบบสติ การรับรู้ลมหายใจที่มีความรู้ตัว นุ่มลึก หนทางหนึ่งของการปลูกฝังสติและ บรรลุการเชื่อมต่อที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นระหว่างร่างกาย-จิตใจ ผ่านความรู้ตัวกับความรู้สึกของลมหายใจ เอื้อประโยชน์ต่อการดำรงอยู่ที่ดีแบบองค์รวม เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการความเครียดและความวิตกกังวล


THE ROOT of Pranayama

จากคุณสมบัติที่มีความหลากหลายของผู้ฝึกที่เข้าเวิร์คช็อป

ตั้งแต่วัย 36 จนถึง 70++ ,
บางคนสุขภาพร่างกายแข็งแรง ,
เคยมีประวัติสุขภาพที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ,
ไม่มีประสบการณ์ฝึกโยคะและปราณายามะมาก่อน ,
ฝึกโยคะอยู่ในระดับ Beginner และ Intermediate ,
รวมถึงระดับกำลังเป็นครูผู้สอนและต้องการการบ่มเพาะตนเองเพิ่มขึ้น

จึงคือแก่นที่สำคัญของกระบวนการเรียนรู้ที่ผู้ฝึกจะได้รับด้วยองค์ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและปลอดภัยจากการเข้าร่วมเวิร์คช็อปในครั้งนี้

🟡 Self-Awakening

🔺Empowering Question
“ หัวใจของการฝึกปราณายามะ คืออะไร❓”
ปลุกการตื่นรู้ให้ผู้ฝึกเริ่มต้นการเรียนรู้ปราณายามะแบบไม่หลงทาง ชวนทบทวนความตั้งใจ ความคาดหวัง เป้าหมายของการเรียนปราณที่เราวางไว้ในใจคืออะไร

🔺Pranayama Theory องค์ประกอบหลักการหายใจแบบปราณายามะ ความหมายและความสำคัญของปราณายามะทั้งในทางโยคะและในชีวิตประจำวัน เป้าหมายของการฝึกปราณายามะที่แท้จริง

🟡 Self-Breathing Anatomy

ทำความรู้จักร่างกายตนเองอย่างละเอียด ผ่านองค์ความรู้ตามหลักกายวิภาคศาสตร์ที่ถูกต้องของกลุ่มกล้ามเนื้อบริเวณอวัยวะสำคัญในระบบการหายใจธรรมชาติและการฝึกหายใจปราณายมะว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร และทดลองฝึกเพื่อเข้าถึงอวัยวะที่สำคัญเหล่านั้น

ลิ้น ขากรรไกร ลำคอ
กระบังลม สะบัค
แกนกลางลำตัวโดยรอบ
อุ้งเชิงกราน

🟡 Self-Experience

ต้นทุนที่แตกต่างของผู้ฝึก ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการฝึก กลับเป็นความร่ำรวยของทรัพยากรที่สำคัญของครูผู้สอนต่อการออกแบบกระบวนเรียนรู้ในเวิร์คช็อปนี้ ผู้ฝึกได้เรียนรู้ความแตกต่างที่หลากหลายของกันและกัน

เรียนรู้ความแตกต่างและข้อจำกัดของการฝึกหายใจแบบธรรมชาติและฝึกหายใจแบบปราณายมะ

ที่สำคัญคือสามารถฝึกฝนในคลาสจนสามารถรับรู้ประสบการณ์ที่เป็นจริง จับต้องได้บนร่างกายตนเอง

🟡 Self-Awareness

สร้างการตระหนักรู้ภายในตนเองขณะฝึก เรียนรู้ประสบการณ์ตรงของการเป็นผู้ฝึกในลักษณะ

ผู้ควบคุม : จิตขาดสติ สมองสั่งการควบคุมร่างกายตนเองโดยไม่รู้ตัวเพื่อให้ได้มาซึ่งปราณ

ผู้ดำรงอยู่อย่างมีสติ : วางใจให้ถูกบนร่างกายตนเอง ปราศจากความกลัว ความกังวล ความคาดหวัง

การเปิดรับประสบการณ์เป็นผู้ฝึกทั้งสองลักษณะ คือการเปิดพื้นที่การยอมรับและวางใจต่อตัวตนภายใน เอื้อต่อการสร้างพื้นที่ให้จิตได้เรียนรู้ความสั่นสะเทือน ความไม่สบายตัว ความอึดอัด จนถึงสภาวะที่นิ่งและสงบลง รับรู้การหลอมรวมสมดุลสุขของร่างกายกับจิตได้

🟡 Self-Enlightenment

การตื่นรู้ภายในตนเอง ดำรงอยู่อย่างไม่หลงทาง
เข้าใจถึงสิ่งที่เคยเป็นมา วางใจต่อการดำรงอยู่ในปัจจุบันที่มากขึ้น และเปิดโอกาสให้ตนเองได้เป็นผู้ที่พร้อมเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆอย่างไร้ซึ่งความกังวล

อย่างน้อยก็สามารถเรียนรู้ได้ว่าจะนำประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้ทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนร่างกายตนเองในคลาสนี้ ไปพัฒนาและออกแบบการใช้ชีวิตประจำวันในฐานะมนุษย์คนหนึ่งให้มีความสมดุลสุขจากภายในสู่ภายนอก โดยที่ไม่ได้ลดทอนหรือทอดทิ้งตัวตนตนเองได้อย่างไร


THE CONCLUSION 💡

ปราณายามะ คือ
การควบคุมลมหายใจหรือพลังชีวิต

การฝึกปราณายามะ คือ
การฝึกควบคุมลมหายใจเพื่อสร้างพลังชีวิตภายใน ทำให้กล้ามเนื้อเรียบของอวัยวะต่างๆภายในร่างกายแข็งแรง

การฝึกปราณายามะในแนวทางเจริญสติ คือ
การฝึกวางใจตระหนักรู้เท่าทันตนเอง ไม่ใช่ฝึกเพื่อให้ได้ Forms และ Techniques หากคือการฝึกเข้าถึง Essence หรือ Heart of Prana หัวใจของปราณ ที่สามารถนำเราสู่การรับรู้ความรู้สึกตามส่วนต่างๆของร่างกายที่เผยให้เห็นสภาวะตัวตนภายในว่าเป็นอย่างไร

จิตที่ถูกวางต่อการเป็นผู้ควบคุม ก็จะแบกไว้ด้วยซึ่งความกลัว ความกังวล ความคาดหวัง ร่างกายเขารับรู้ความรู้สึกที่เกิดขึ้นภายในใจนั้นได้ ก็จะแสดงให้เห็นตามจิตที่เป็น หนัก กดทับ ไม่โปร่งโล่งสบาย

การจะพัฒนาจิตให้เติบโตในขณะฝึกปราณได้
คือการไม่ปฏิเสธตนเองในขณะฝึก เรามองเห็นตัวตนตนเองอย่างไร ผ่านการรับรู้ความสบาย-ไม่สบายบนร่างกาย ฝึกเรียนรู้วางใจให้ถูก วางใจอย่างเป็นธรรมชาติ(คือใจเป็นกลาง)ไม่ปฏิเสธ-ไม่ปรุงแต่งเพิ่ม ค่อยๆฝึกจนร่างกายและจิตใจสามารถรวมกันอย่างมีสมดุลสุข นี่คือหนทางสู่การเข้าถึงหัวใจของปราณแล้ว

การบริโภคปราณในแนวทางเจริญปัญญาเช่นนี้
เท่ากับเราได้สร้างพื้นที่ที่ไม่ใช่แค่กลุ่มอวัยวะภายในที่เป็นกล้ามเนื้อเรียบให้แข็งแรงเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นการชำระล้างจิตให้มีสติซึ่งคือสิ่งสำคัญ การออกแบบชีวิตให้มีสุขภาวะที่ดี ไม่ใช่ดีเพียงแค่ภายนอก ออกกำลังกายดี กินดี นอนดี แต่เราต้องดีจากในสู่นอก มีลมหายใจที่ดี มีจิตที่ดี นี่คือการดำรงอยู่ที่ดีแล้วต่างหาก


ครูผู้จัด Chintana Kongwattananon ขอขอบคุณ 🙏🏻💛

ครูสุธรรม Yoga Sutham
ที่ให้เกียรติและร่วมจัดทำเวิร์คช็อปในแนวทางที่ดีเช่นนี้ร่วมกันอีกครั้ง และแบ่งปันเมตตาจิตที่งดงามแก่ครูเก๋และผู้เรียนทุกคน

นักเรียนทุกท่านในคลาส
สำหรับทุกความวางใจในการเปิดรับประสบการณ์ที่มีคุณค่านี้ด้วยกัน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า “ 5 SELFs 🟡 ” อันเป็นเครื่องมือที่สำคัญของการวางรากฐานการฝึกปราณายามะในครั้งนี้จะช่วยให้ผู้ฝึกทุกท่านได้เข้าถึงตัวตนตนเองและเข้าถึง #หัวใจของปราณายามะ อย่างไม่หลงทางได้เป็นอย่างดี

ครูเขียว เสื่อโยคะมนตรา Montra Yoga Mat
ที่เมตตาจิตร่วมสนับสนุนนำผ้าปูเสื่อคุณภาพดีเยี่ยมมาแจกให้กับครูทั้งสองและผู้ฝึกที่ร่วมคลาสทุกคนได้ใช้ในเวิร์คช็อปนี้ค่ะ


สำหรับผู้ที่พลาดโอกาสในครั้งนี้
และผู้ที่อยากเป็นส่วนหนึ่งในบ้านหอมโยคะเพื่อสร้างความเติบโตทั้งภายนอกภายใน

ติดต่อสอบถามข้อมูลการฝึกในคลาสต่างๆได้ที่
HOM YOGA STUDIO📍
📞 08-4141-8116
📲 • Instagram | homyogathailand
📲 • page |
https://www.facebook.com/homyoga.krukae?mibextid=LQQJ4d
📲 • Line Official | https://lin.ee/PGMi16t

แผนที่เดินทางมาสตูดิโอ 🚗
https://www.google.com/localservices/profile?spp=Cg0vZy8xMW5nNnE5cHEw&scp=ChBnY2lkOnlvZ2Ffc3R1ZGlvGghob20geW9nYSIIaG9tIHlvZ2EqCGhvbSB5b2dh



Shoulder Complex 🦾
28/07/2025

Shoulder Complex 🦾

ข้อไหล่เป็นข้อต่อที่เคลื่อนไหวได้มากที่สุดในร่างกาย ไม่ว่าจะยกแขนขึ้น ลง กาง หมุน ห่อไหล่มาด้านหน้า หรือ เปิดไหล่ไปด้านหลัง ฯลฯ เป็นข้อต่อที่เคลื่อนไหวได้หลากหลายทิศทาง

แล้วสงสัยไหมว่า โครงสร้างไหนกันแน่ ที่อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวที่ซับซ้อนนี้?

นั่นคือ Shoulder Complex หรืออีกชื่อหนึ่งที่ใช้บ่อย ๆ คือ Shoulder Girdle ซึ่งไม่ได้หมายถึงแค่ข้อต่อไหล่เท่านั้น แต่หมายถึง ระบบโครงสร้างที่เชื่อมต่อกัน ทั้งหมดที่ทำให้แขนของเราขยับได้


หลายคนอาจคิดว่าข้อไหล่ก็คือ ข้อต่อเดียวระหว่างแขนกับลำตัว แต่ในความเป็นจริง Shoulder Complex ประกอบด้วย กระดูก 3 ชิ้น และข้อต่อถึง 5 ข้อต่อหลัก ที่ทำงานประสานกัน

กระดูกหลักใน Shoulder Complex

1.Clavicle (กระดูกไหปลาร้า) เป็นกระดูกที่เชื่อมจากกระดูกอก (Sternum) ไปยัง Acromion ของสะบัก มีหน้าที่พาแรงจากแขนไปสู่ลำตัว และยึดระยะห่างของสะบักจากกระดูกอก เพื่อให้แขนมีช่วงการเคลื่อนไหวที่เหมาะสม

2.Scapula (กระดูกสะบัก) กระดูกรูปสามเหลี่ยมที่ลอยอยู่ด้านหลัง มีบทบาทเหมือนฐานที่รองรับหัวกระดูกต้นแขน ทำหน้าที่สำคัญในการเคลื่อนไหวของแขน และมีกล้ามเนื้อหลายมัดมายึดเกาะ

3.Humerus (กระดูกต้นแขน) กระดูกท่อนบนของแขน ที่มารวมกันที่ Glenoid Fossa ของสะบักเพื่อเกิดเป็นข้อต่อหลักของไหล่


ข้อต่อหลักใน Shoulder Complex มีทั้งหมด 5 ข้อต่อ ได้แก่

1.Glenohumeral Joint (GH Joint) – ข้อต่อหลักระหว่าง Humerus และ Glenoid เป็นข้อต่อแบบ Ball-and-Socket ที่มีช่วงการเคลื่อนไหวกว้างมาก แต่แลกมากับความไม่มั่นคง จึงต้องมีกล้ามเนื้อและเอ็นช่วยพยุง

2.Sternoclavicular Joint (SC Joint) – ข้อต่อระหว่างกระดูกอกกับไหปลาร้า เป็นข้อต่อเดียวที่เชื่อมโครงสร้างของไหล่กับโครงร่างกลางลำตัวโดยตรง แม้จะเป็นจุดเล็ก ๆ แต่มีความสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของแขนอย่างมาก

3.Acromioclavicular Joint (AC Joint) – ข้อต่อระหว่างไหปลาร้ากับ Acromion ของสะบัก ช่วยให้การเคลื่อนไหวของสะบักสัมพันธ์กับแขน มักเป็นตำแหน่งที่เกิดการอักเสบหรือตั้งผิดตำแหน่งได้ง่ายเมื่อได้รับแรงกระแทก

4.Scapulothoracic Joint (ST Joint) – เป็นการเคลื่อนที่ของสะบักบนผนังทรวงอกทางด้านหลัง แม้ไม่ใช่ “ข้อต่อจริง” ในทางกายวิภาค เพราะไม่มีแคปซูลหรือกระดูกชนกันโดยตรง แต่เป็นจุดที่สะบักเคลื่อนบนซี่โครง มีบทบาทสำคัญในการกางแขน ยกแขน หมุนไหล่

5.Subacromial Space / “Functional Joint” – ช่องว่างระหว่าง Humerus กับ Acromion มีเบอร์ซา (Bursa) หรือถุงน้ำกันเสียดสี และเอ็นของกล้ามเนื้อ Rotator Cuff อยู่ภายใน เมื่อช่องว่างนี้แคบลง อาจทำให้เกิดภาวะ Impingement ได้


การเข้าใจ Shoulder Complex นั้นสำคัญกับทุกคนที่ “ใช้แขน” ซึ่งก็คือเราทุกคน ช่วยให้ใช้งานอย่างเหมาะสม

-ป้องกันการบาดเจ็บ: การยกของผิดท่า หรือเล่นกีฬาโดยไม่เข้าใจโครงสร้าง อาจนำไปสู่ภาวะหัวไหล่หลุด เอ็นอักเสบ หรืออาการปวดเรื้อรังได้

-พัฒนาการฝึกโยคะและออกกำลังกาย: ท่าที่เกี่ยวข้องกับการยกแขน ยืดไหล่ หรือพยุงน้ำหนัก เช่น Downward Dog, Chaturanga, Side Plank ต้องอาศัยการเคลื่อนไหวของข้อต่อทั้งระบบนี้

-เข้าใจอาการปวด: หลายคนรู้สึกปวดไหล่ แต่ไม่แน่ใจว่ามาจากข้อต่อไหน การเข้าใจข้อต่อต่าง ๆ ช่วยให้สื่อสารกับนักกายภาพหรือครูฝึกได้ชัดเจนขึ้น

-ดูแล Posture ได้ดีขึ้น: เพราะการวางตัวของไหล่มีผลต่อกระดูกสันหลัง คอ และแม้แต่การหายใจ


เมื่อเข้าใจว่าไหล่ไม่ใช่แค่ “ข้อต่อเดียว” แต่เป็นระบบที่ซับซ้อน มีทั้งกระดูก 3 ชิ้น ข้อต่อหลัก 5 จุด และกล้ามเนื้อที่ทำงานร่วมกัน ก็ควรจะระมัดระวังในการเคลื่อนไหวมากขึ้น ไม่ประมาท การฝึกโยคะอย่างมีสติ เช่น

-ฝึกการเปิดสะบักอย่างถูกต้องใน Downward Dog

-วางแนวแขน-ไหล่-ข้อมือให้เหมาะสมกับการรับแรงใน Plank

-หรือฝึกการเคลื่อนไหวสะบักให้เข้าใจก่อน เพื่อการยกแขนขึ้นอย่างถูกวิธี

ล้วนแล้วแต่ช่วยให้เราใช้ไหล่ได้ปลอดภัยขึ้น


ไหล่ของเรานั้นมีอิสระในการเคลื่อนไหวมากก็จริง แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเปราะบางอยู่บ้างหากใช้งานไม่เหมาะสม การรู้จัก “Shoulder Complex” หรือ “Shoulder Girdle” ช่วยให้เราดูแลไหล่ของตัวเองได้อย่างเข้าใจมากขึ้น

ครูหลง😄

2 เสื่อสุดท้าย‼️M I N D F U L  P R A N A  2025By Master Sutham จัดปีละครั้ง รับจำนวนจำกัดร่วมรับส่วนลดพิเศษ 10% จากราคาป...
23/07/2025

2 เสื่อสุดท้าย‼️

M I N D F U L P R A N A 2025
By Master Sutham


จัดปีละครั้ง
รับจำนวนจำกัด


ร่วมรับส่วนลดพิเศษ 10% จากราคาปกติ 🔥
สำหรับลูกค้าเสื่อโยคะมนตรา Montra Yoga Mat

** 🎁 วิธีรับส่วนลด 10% **
สำหรับลูกค้า Montra Yoga Mat เท่านั้น
1. แสดงหลักฐานการซื้อ Montra Yoga Mat
2. ใช้โค้ด **MONTRA10** เมื่อสมัครเข้าร่วม
3. รับส่วนลดทันที 10% จากราคาเต็ม
เหลือชำระเพียง 4,400 บาท 📌


#พิเศษเพิ่ม 💝
ผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมทุกท่านจะได้รับผ้าปูเสื่อ
SUEDE YOGA TOWEL ผืนใหญ่ แบรนด์ Montra
ขนาด 183x63 cm มูลค่า 790 บาท
จำนวน 1 ผืนต่อท่าน 📌

รายละเอียดตามโพสต์ด้านล่าง👇

M I N D F U L P R A N A
| ปราณเพื่อการพัฒนาจิต |

Sunday, 27 July 2025
9.00am - 6.00pm
By Master Sutham
HOM YOGA Original by Kru Kae

For all level ✅

#เวิร์คช็อปปราณที่คุณไม่ควรพลาด❗️


ชวนผู้ฝึกเข้าถึง . .

“ Heightened Awareness of Your Breath ”
การฝึกปราณแบบสติ การรับรู้ลมหายใจที่มีความรู้ตัว นุ่มลึก หนทางหนึ่งของการปลูกฝังสติและ บรรลุการเชื่อมต่อที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นระหว่างร่างกาย-จิตใจ ผ่านความรู้ตัวกับความรู้สึกของลมหายใจ เอื้อประโยชน์ต่อการดำรงอยู่ที่ดีแบบองค์รวม เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการความเครียดและความวิตกกังวล


C O R E

🤍 Energy Flowing within Your Body
วิธีการและเทคนิค
การสัมผัสลมที่ละเอียดขึ้น ผ่านประสบการณ์ฝึกอย่างชำนาญเฉพาะบุคคลของครูผู้สอน

🤍 An Anchor for Mindfulness
จิตตระหนักรู้ความจริง
สติว่องไว รับรู้ภายในได้อย่างละเอียดขึ้น นำสู่ขั้นสมาธิ

🤍 Aligning Inner Energies
ปัญญารู้เห็นความเป็นจริง
ความรู้สึกตัวที่ละเอียดขึ้นในแต่ละขณะ
รับรู้การแทรกซึมทั่วทุกอณูของร่างกาย


F O R A L L

💛 Beginner
สำหรับผู้ฝึกใหม่จะได้เรียนรู้การฝึกปราณด้วยองค์ความรู้ที่ถูกต้อง ปลอดภัย

💛 Intermediate | Advanced
สำหรับผู้ฝึกเก่า เวิร์คช็อปนี้จะเป็นพื้นที่ต่อยอดการสร้างประสบการณ์การฝึกที่ลงลึกและละเอียดขึ้น


R E G I S T R A T I O N

🔺 Early Bird 3,500 บาท
[ ภายใน 15 มิถุนายน 2568 ]

🔺 Normal Price 4,900 บาท

ยืนยันสิทธิ์สำหรับผู้ที่ชำระเงินลงทะเบียนแล้วเท่านั้น
กรุณาอ่านรายละเอียดก่อนตัดสินใจลงทะเบียน
สงวนสิทธิ์สำหรับการคืนเงินในทุกกรณี 📌📌

โอนชำระเงินเพื่อเข้าร่วมเวิร์คช็อป 💳
ธนาคารไทยพาณิชย์
คุณจินตนา คงวัฒนานนท์
เลขที่บัญชี 038-432883-7

#ที่นี่ที่เดียว
#ลงทะเบียนด่วนรับจำนวนจำกัด ‼️


ติดต่อลงทะเบียนเข้าร่วมและสอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่
HOM YOGA STUDIO📍
📞 08-4141-8116
📲 • Instagram | homyogathailand
📲 • page |
https://www.facebook.com/homyoga.krukae?mibextid=LQQJ4d
📲 • Line Official | https://lin.ee/PGMi16t

แผนที่เดินทางมาร่วมกิจกรรม 🚗
https://www.google.com/localservices/profile?spp=Cg0vZy8xMW5nNnE5cHEw&scp=ChBnY2lkOnlvZ2Ffc3R1ZGlvGghob20geW9nYSIIaG9tIHlvZ2EqCGhvbSB5b2dh

💡
11/07/2025

💡

“5 วิธีการสื่อสารกับจักรวาล”

มนุษย์เป็นเช่นสิ่งที่เขาครุ่นคิดอย่างเงียบงัน และทุกสิ่งที่เขาครุ่นคิดในจิตวิญญาณ ไม่ช้าก็เร็ว... จะกลายเป็นความเป็นจริงภายนอกของเขา

Man is what he silently contemplates; and all that he contemplates in spirit, sooner or later, will become his outer reality.

— Thoth (Hermetic attribution)


หากคุณต้องการค้นพบความลับของจักรวาล จงคิดในแง่ของพลังงาน ความถี่ และการสั่นสะเทือน

If you want to find the secrets of the universe, think in terms of energy, frequency and vibration.

— Nikola Tesla

///////////////////////////////

“ที่มาที่ไป”

ช่วงนี้นึกถึง “คลื่นความถี่” ทางพลังงานมากมายที่ท่วมท้น ทำให้อยากถอดบันทึกคลิปนี้เก็บไว้ ตามมาอ่านกันค่ะ

ความถี่ลับของ Thoth พบคุณ: คุณรู้สึกพร้อมที่จะเปลี่ยนความถี่การสั่นสะเทือนและพูดคุยกับจักรวาลโดยตรงหรือไม่ ต่อไปนี้คุณจะค้นพบ 5 วิธีการที่ซ่อนอยู่และใช้งานได้จริงในการเชื่อมต่อกับจักรวาล ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากคําสอนของ Thoth ค้นพบวิธีเปิดใช้งานความถี่ลับที่เปลี่ยนทุกอย่าง
1. ความถี่การสั่นสะเทือน (พลังงาน)
2. การอธิษฐานด้วยการสั่นสะเทือน
3. การทำสมาธิแบบเงียบ
4. การสร้างภาพในจิตใจ
5. คำพูดยืนยันอันทรงพลัง

ข้อมูลเกี่ยวกับคลื่นความถี่ลับของทอธมาจากคลิปชื่อ “Thoth’s SECRET FREQUENCY Found You: SEE THIS ONCE and Reality Will SHIFT Instantly” ช่องยูทูบ Vibrational Portal

https://www.youtube.com/watch?v=UUMEmmHd2mY&t=657s

///////////////////////////////

“5 วิธีการสื่อสารกับจักรวาลอย่างตรงไปตรงมา”

ลองจินตนาการว่า…

ความคิดของคุณไม่ใช่เพียงสิ่งที่เกิดขึ้นในหัว

แต่เป็นคลื่นพลังงานที่ส่งออกไปในโลก เป็นแรงสั่นสะเทือนที่เปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม ผู้คน และสถานการณ์ที่คุณเผชิญโดยที่คุณไม่รู้ตัว

นี่ไม่ใช่แค่เรื่องลึกลับทางจิตวิญญาณอีกต่อไป เพราะวิทยาศาสตร์ยุคใหม่ยืนยันแล้วว่า คลื่นสมองของเรามีความถี่ และสามารถวัดได้จริง

แต่ทอธ (Thoth) ปรมาจารย์โบราณจากแอตแลนติส พูดถึงสิ่งนี้มานานแล้ว

เขาอธิบายว่า จักรวาลทั้งหมดคือสนามพลังแห่งการสั่นสะเทือน ทุกสิ่งเคลื่อนไหวตลอดเวลา ไม่มีสิ่งใดหยุดนิ่ง ไม่ใช่คุณ ไม่ใช่ความคิด ไม่ใช่อารมณ์ของคุณ และทุกแรงสั่นสะเทือนที่คุณส่งออกไป...ก็เหมือนก้อนหินที่ตกลงบนผิวน้ำ เกิดระลอกคลื่นที่แผ่ไปไกลกว่าที่คุณตระหนัก

Brian Tracy เคยพูดไว้ว่า "คุณคือแม่เหล็กที่มีชีวิต" คุณดึงดูดสิ่งที่สอดคล้องกับพลังงานที่คุณเป็นโดยไม่รู้ตัว นั่นคือกฎพื้นฐานของจักรวาล

หากคุณรู้สึกว่าชีวิตวนลูปเดิม พบเจออุปสรรคซ้ำๆ นั่นอาจไม่ใช่เพราะโชคชะตา... แต่เป็นเพราะความถี่ที่คุณกำลังสั่นสะเทือนอยู่ภายใน

เมื่อคุณสั่นสะเทือนด้วยความกลัว คุณจะดึงดูดสถานการณ์ที่สะท้อนความกลัว แต่หากคุณสั่นสะเทือนด้วยความรัก โอกาสและการเปลี่ยนแปลงจะค่อยๆ ปรากฏขึ้น

และคุณไม่จำเป็นต้อง “พูด” ออกมาเลยแม้แต่น้อย เพราะ จักรวาลตอบสนองต่อความรู้สึกของคุณเสมอ ทุกความโกรธ ทุกความสุข ทุกความรัก ล้วนส่งคลื่นความถี่ออกไปสร้างโลกที่คุณกำลังอยู่

ดังนั้น คำถามสำคัญคือ
• คุณจะเปลี่ยนแรงสั่นสะเทือนนั้นได้อย่างไร
• จะหยุดส่งสัญญาณที่สร้างปัญหาได้อย่างไร
• แล้วจะเริ่มปล่อยคลื่นความถี่ที่ดึงดูดชีวิตในแบบที่คุณต้องการได้อย่างไร

วิดีโอนี้จากช่อง YouTube Vibrational Portal ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากคำสอนของ Thoth เผยให้เห็น 5 วิธีจริง ที่จะช่วยคุณ เปลี่ยนความถี่ และสื่อสารกับจักรวาลโดยตรง

“สรุป 5 วิธีการสื่อสารกับจักรวาล”

1. ปรับคลื่นความถี่ในตัวคุณให้สูงขึ้น
รู้สึกถึงอารมณ์ดี ๆ ที่เบาสบาย ลึกซึ้ง และจริงแท้

2. สวดอธิษฐานด้วยความสั่นสะเทือน
ไม่ใช่แค่คำพูด แต่เป็นความรู้สึกลึก ๆ ที่เปี่ยมด้วยศรัทธา

3. นั่งสมาธิในความเงียบ
เพื่อเชื่อมต่อกับแก่นแท้ของความถี่ที่แท้จริงภายใน

4. ใช้พลังแห่งการสร้างภาพในจิตใจ
จินตนาการด้วยพลังแห่งใจ เห็นชัดในสิ่งที่ต้องการ

5. พูดคำยืนยันที่ทรงพลัง (Affirmation)
เปลี่ยนโปรแกรมพลังงานของคุณด้วยคำที่สั่นสะเทือนสูง

ข้อมูลอ้างอิงจาก "Thoth’s SECRET FREQUENCY Found You: SEE THIS ONCE and Reality Will SHIFT Instantly" ช่องยูทูบ Vibrational Portal

https://www.youtube.com/watch?v=UUMEmmHd2mY&t=657s

///////////////////////////////

นี่คือที่มาของ “5 วิธีในการพูดคุยกับจักรวาล” ไม่ใช่แค่แนวคิด ไม่ใช่ทฤษฎีลอย ๆ แต่เป็นแนวปฏิบัติที่คุณสามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน เพื่อเปลี่ยนความถี่ของคุณ ณ ช่วงเวลานั้นทันที เพราะเมื่อคุณเปลี่ยนสิ่งที่คุณ “ส่งออกไป” สิ่งที่คุณ “ได้รับกลับมา” ก็จะเปลี่ยนเช่นกัน

วิธีแรกคือสิ่งที่คุณ กำลังทำอยู่แล้วทุกวัน แต่คุณอาจไม่เคยรู้ตัว และเมื่อคุณเริ่มใช้สิ่งนี้อย่างตั้งใจ พลังงานของคุณจะเริ่มจัดระเบียบตัวเองใหม่ในทันที ไม่ต้องเชื่อแบบงมงาย ไม่ต้องรอปาฏิหาริย์

สิ่งที่ต้องมีคือ “การฝึกฝน” และผลลัพธ์จะเกิดขึ้นแบบสัมผัสได้จริง การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยภายใน... สามารถเปลี่ยนรูปแบบของชีวิตภายนอกทั้งหมด

เตรียมใจไว้ให้ดี เพราะกุญแจดอกแรกกำลังจะเปิด และเมื่อคุณเข้าใจและใช้งานมันได้อย่างแท้จริง

คุณจะรู้ว่า “พลังงาน” คือเครื่องมือสร้างสรรค์ที่ทรงพลังที่สุดที่คุณมีอยู่ในตัว

///////////////////////////////

“1. พลังงานหรือความถี่การสั่นสะเทือน”

First way : Energy พลังงาน คือ สิ่งที่คุณกำลังปล่อยออกมาอยู่ตอนนี้

คุณกำลังปล่อยสิ่งนี้ออกไปอยู่แล้ว ในทุกขณะ เมื่อคุณเรียนรู้ที่จะ “สั่นสะเทือน” อย่างตั้งใจ จักรวาลจะไม่ตอบสนองคุณแบบสุ่มอีกต่อไป แต่จะเริ่มทำหน้าที่เหมือน “กระจกควอนตัม” ที่ไม่ได้สะท้อนรูปร่างหน้าตา แต่สะท้อน “ความถี่” ที่คุณปล่อยออกไป

นี่คือจุดเริ่มต้นของการสื่อสารกับจักรวาลอย่างแท้จริง

พลังงานของคุณมาก่อนคำพูด มาก่อนความคิด มันเหมือนสัญญาณเงียบ ๆ ที่ปล่อยออกจากสนามพลังงานภายในตัวคุณ ไหลผ่านผู้คน เหตุการณ์ และความเป็นจริงรอบตัว

แม้คุณจะไม่พูดอะไร หรือแม้ในขณะที่คุณนิ่งเฉย... คุณก็ยังคง “สั่นสะเทือน”

จักรวาลรับฟังคุณตลอดเวลา ไม่ใช่ฟังในสิ่งที่คุณ “พูด” แต่ในสิ่งที่คุณ “รู้สึก” และ “เป็น” อยู่ข้างใน

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผู้ที่เชี่ยวชาญด้านการสั่นสะเทือน ไม่จำเป็นต้องขอสิ่งใดเลย เพราะเมื่อพวกเขาสั่นสะเทือนสอดคล้องกับสิ่งที่ต้องการ ความจริงก็จะตอบสนองโดยอัตโนมัติ

หากคุณสั่นสะเทือนด้วยความยินดี สิ่งดี ๆ จะเริ่มปรากฏ รอยยิ้ม โอกาส ข่าวดี ในทางกลับกัน หากคุณสั่นสะเทือนด้วยความกลัว คุณจะเริ่มเห็นแต่ปัญหา ความตึงเครียด และสิ่งที่ยืนยันความกลัวนั้นกลับมา

แต่สิ่งสำคัญคือ “การสั่นสะเทือนไม่เลือกว่าถูกหรือผิด” ไม่ว่าเป็นด้านบวกหรือลบ จักรวาลไม่ตัดสิน มันเพียง “สะท้อน” กลับมาในแบบเดียวกับที่คุณเป็น

แม้คุณจะพูดว่าต้องการความมั่งคั่ง แต่หากภายในยังสั่นสะเทือนด้วยความรู้สึกขาดแคลน จักรวาลก็จะตอบสนองต่อ “ความรู้สึก” นั้น ไม่ใช่ “คำพูด”

เหมือนที่ Thoth เคยกล่าวไว้ “As above, so below” เบื้องบนเป็นเช่นไร เบื้องล่างเป็นเช่นนั้น และแรงสั่นสะเทือนภายใน กำหนดสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอก

ลองถามตัวเองดูว่า…
คุณรู้สึกหงุดหงิด โกรธ หรือวิตกกังวลกี่ครั้งในหนึ่งวัน
คุณเคยตื่นเช้าด้วยความหนักอึ้ง หรือหลับไปพร้อมความกังวลบ่อยแค่ไหน

ทุกอารมณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ คือคลื่นสั่นสะเทือนที่คุณส่งไปยังจักรวาล เหมือนคำขอเงียบ ๆ ที่จักรวาลรับฟังอยู่ตลอด

และเมื่อสิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นดั่งใจ คุณอาจมองว่าเป็นโชคร้าย... แต่จริง ๆ แล้ว มันคือ “ผลตอบสนอง” ของจักรวาลต่อพลังงานที่คุณแผ่ออกมาโดยไม่รู้ตัว

จุดเปลี่ยนคือ “การตระหนักรู้” ไม่ใช่การพยายามหยุดอารมณ์ลบ เพราะมนุษย์ทุกคนย่อมรู้สึกแบบนั้นได้ แต่คือการ “ตื่นรู้เมื่อมันเกิดขึ้น” แล้วค่อย ๆ เปลี่ยนแรงสั่นสะเทือน ก่อนที่มันจะกลายเป็นความจริงภายนอก

ตัวอย่าง เช่น แทนที่จะปล่อยให้ความหงุดหงิดครอบงำเมื่อรถติด ลองสั่นสะเทือนด้วยความขอบคุณที่คุณยังมีรถ มีที่ไป มีชีวิตอยู่ การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยนี้ สามารถเปลี่ยนรูปแบบที่จักรวาลตอบสนองคุณได้ทันที

และอย่าคิดว่าสิ่งนี้ใช้ได้แค่ในสถานการณ์เล็ก ๆ ปรมาจารย์ในอดีตใช้การเปลี่ยนความถี่เพื่อดึงดูดทุกสิ่ง ตั้งแต่สุขภาพ ความมั่งคั่ง ไปจนถึงภูมิปัญญาทางจิตวิญญาณ เพราะพวกเขารู้ว่า การสั่นสะเทือน คือสะพานที่มองไม่เห็น ระหว่างโลกภายในกับจักรวาลภายนอก

จุดเริ่มต้นของการฝึกเข้าใจอย่างเดียวไม่พอ ต้องฝึกใช้ในชีวิตประจำวัน อย่ารอให้ทุกอย่างพร้อม อย่ารอให้ใจนิ่งสนิท

ทุกขณะจิตคือโอกาสในการสั่นสะเทือนอย่างรู้ตัว

ตอนนี้จักรวาลกำลังฟังอยู่ และเมื่อคุณรู้แล้วว่า “พลังงานของคุณกำลังพูดอยู่เสมอ”

คำถามใหม่ก็ปรากฏขึ้น คุณจะพูดกับจักรวาลอย่างตั้งใจได้อย่างไร มีวิธีอื่นที่ลึกซึ้งและทรงพลังยิ่งกว่า ที่ไม่ต้องพึ่งความเชื่อหรือศาสนา… แต่เปลี่ยนความถี่ของคุณได้ทันที

คำตอบจะอยู่ในกุญแจดอกที่สอง...

///////////////////////////////

“2. คำอธิษฐานแบบสั่นสะเทือน”

Second Way: Vibrational Prayer ไม่ใช่อย่างที่คุณเคยเรียนรู้

วิธีที่สองนี้ทรงพลังมาก...แต่น่าเสียดายที่มันถูกเข้าใจคลาดเคลื่อนและถูกบิดเบือนมาตลอดหลายศตวรรษ สิ่งที่ควรจะเป็น “การเชื่อมต่อโดยตรงกับจักรวาลผ่านคลื่นพลังงาน” กลับกลายเป็น “พิธีกรรมทางกลไก” ที่ว่างเปล่า การทำซ้ำโดยอัตโนมัติที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรในจิตใจภายใน

แต่ Thoth ไม่เคยพูดถึง “คำอธิษฐาน” ในฐานะพิธีกรรม เขาพูดถึง สถานะของการสั่นสะเทือน เพราะการอธิษฐานที่แท้จริง ไม่ได้เริ่มจากริมฝีปาก แต่มันเกิดขึ้นใน “สนามของจิตใจและหัวใจ” ของคุณ

การอธิษฐานที่แท้จริง ไม่ใช่การขอ แต่คือการสอดประสาน

เมื่อคุณอธิษฐานอย่างแท้จริง คุณไม่ได้วิงวอน… คุณไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากภายนอก… แต่คุณปรับแนวความถี่ของคุณให้สอดคล้องกับสิ่งที่คุณต้องการ ไม่ใช่จากความสิ้นหวัง แต่จากความเข้าใจลึกซึ้งว่า “คุณและจักรวาลคือสิ่งเดียวกัน”

Thoth เคยกล่าวไว้ชัดเจนว่า “ทุกสิ่งอยู่ภายในตัวคุณ และคุณอยู่ภายในทุกสิ่ง” ซึ่งหมายความว่า คำอธิษฐานที่แท้จริง ไม่ได้เกิดจากการร้องขอสิ่งภายนอก แต่คือการปรับพลังงานภายในให้สมดุลกับสิ่งที่คุณต้องการให้เกิดขึ้น

ความขอบคุณ คือ คำอธิษฐานที่มีพลังสูงสุด

ลองนึกถึง “ความรู้สึก” ของคุณในขณะอธิษฐาน... หากคุณอธิษฐานด้วย “ความขอบคุณ” แม้จะยังไม่ได้รับสิ่งนั้น คุณกำลังสั่นสะเทือนในระดับของผู้ที่มีอยู่แล้ว และจักรวาลจะสะท้อนสิ่งนั้นกลับมา

จักรวาลไม่ได้ตอบสนองต่อคำพูด แต่มันตอบสนองต่อ พลังงานที่อยู่เบื้องหลังคำพูดเหล่านั้น ต่อคลื่นความรู้สึกที่คุณปล่อยออกมา

ไม่ใช่ภาษาที่สำคัญแต่คือความถี่ที่คุณพูดมันออกมา

นี่คือสิ่งที่แทบไม่มีใครบอกคุณ
• ถ้าคุณสวดภาวนาเพื่อ “ความสงบ” แต่สั่นสะเทือนด้วย “ความกลัว” จักรวาลจะสะท้อนความกลัวนั้นกลับมา
• ถ้าคุณขอ “ความมั่งคั่ง” แต่สั่นสะเทือนจาก “ความขาดแคลน” คุณจะยังคงได้รับสถานการณ์ที่ยืนยันว่าคุณไม่มีอยู่ดี

เพราะคำอธิษฐาน ไม่ได้สร้างสิ่งที่คุณต้องการ มันขยายสิ่งที่คุณรู้สึกอยู่ ณ ขณะนั้น

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการสวดภาวนาเฉพาะในช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวัง จึงไม่ได้ดึงดูดปาฏิหาริย์ แต่กลับสะท้อนความสิ้นหวังกลับมาหาคุณ

ความตั้งใจ + ความรู้สึก = พลังสร้างโลก

ลองนึกถึงชีวิตประจำวันของคุณ
• คุณเคยพูดว่า "ฉันเชื่อ" กี่ครั้งแล้ว แต่ในใจยังเต็มไปด้วยความสงสัย
• คุณเคยขอความช่วยเหลือกี่ครั้ง แต่ลึก ๆ รู้สึกว่า “มันคงไม่เกิดขึ้นหรอก”

หาก “คำพูด” บอกอย่างหนึ่ง แต่ “ความถี่” ของคุณบอกอีกอย่าง… จักรวาลจะตอบสนองต่อความถี่ ไม่ใช่หน้ากากของคำพูด

การอธิษฐานที่แท้จริงคือสถานะ ไม่ใช่พิธี คุณไม่จำเป็นต้องมีบทสวดเฉพาะ ไม่ต้องจุดธูป ไม่ต้องนั่งสมาธินานชั่วโมง

คำอธิษฐานที่ทรงพลังที่สุดสามารถเกิดขึ้นได้…ในความเงียบ
• ขณะเดิน
• ขณะหายใจ
• ขณะมองดูท้องฟ้า

เมื่อ “ความตั้งใจ” และ “การสั่นสะเทือน” ของคุณมาบรรจบกัน คำอธิษฐานก็ถือกำเนิดขึ้น และนั่นคือจุดที่ ความเป็นจริงของคุณเริ่มเปลี่ยนไป

และนี่คือเพียงแค่ “วิธีที่สอง” เท่านั้น... เพราะยังมีอีกวิธีหนึ่ง ลึกซึ้งยิ่งกว่า เงียบยิ่งกว่า และไม่เกี่ยวข้องกับคำพูดใดเลย

มันคือการพูดกับจักรวาลในระดับที่จิตหยุดนิ่ง และมีเพียงพลังงานเท่านั้นที่เคลื่อนไหว และนั่นคือสิ่งที่เราจะเดินทางไปพบกันในกุญแจดอกถัดไป...

///////////////////////////////

“3.การทำสมาธิ”

Third Way: Meditation เมื่อความเงียบพูดได้ดังกว่าเสียง

วิธีที่สามในการสื่อสารกับจักรวาล ไม่ต้องใช้คำพูด ไม่ต้องใช้รูปแบบ และไม่มีเสียงใด ๆ

มันเกิดขึ้น… เมื่อคุณ “หยุด” และเพียง “อยู่กับปัจจุบัน” โดยไม่ร้องขอสิ่งใด ไม่คาดหวัง ไม่เร่งเร้า

แต่เปิดให้ตัวคุณ “รับฟัง” ในระดับที่ลึกที่สุด สภาวะที่การมีอยู่ของคุณเพียงอย่างเดียว กลายเป็นการสนทนาอันเงียบงันกับทุกสิ่ง

ฟังเสียงของจักรวาลผ่านความเงียบ

การทำสมาธิคือศิลปะของการ “เงียบเพื่อฟัง” ไม่ใช่ฟังเสียงภายนอก แต่คือการฟังเสียงที่อยู่ในระดับที่ลึกกว่าความคิด

เพราะตราบใดที่จิตใจยังวุ่นวาย คุณจะได้ยินแค่เสียงของตัวเอง แต่เมื่อคุณทำให้คลื่นความคิดภายในสงบนิ่งลง เหมือนปิดแสงไฟเทียมในเมือง คุณจะเริ่มมองเห็น “ดวงดาว” ที่อยู่ในหัวใจของคุณมาตลอด

จิตวิญญาณเริ่มหายใจสอดคล้องกับจักรวาล

ในการทำสมาธิอย่างแท้จริง คุณไม่ได้พยายามจะเปลี่ยนแปลงอะไร คุณแค่ สังเกต อย่างเงียบงัน และในการสังเกตนั้น ความถี่พลังงานของคุณจะเริ่ม “ปรับตำแหน่งใหม่” โดยไม่ต้องพยายาม คุณจะเริ่มหายใจในจังหวะเดียวกับจักรวาลอีกครั้ง

ผู้คนกลัวความเงียบ เพราะมันเผยให้เห็นสิ่งที่ซ่อนไว้

ผู้คนจำนวนมากหลีกหนีความเงียบ เพราะเมื่อไม่มีสิ่งรบกวน ทุกอย่างที่คุณเคยวิ่งหนี จะโผล่ออกมา แต่ความเงียบไม่ใช่ศัตรู มันคือ “ประตู” ที่เปิดไปสู่สนามพลังงานที่คุณมีการเชื่อมโยงอยู่แล้ว และในสนามนั้น... คำตอบทั้งหมดรอคุณอยู่

ความสงบที่รู้สึกได้จริง ไม่ใช่แค่นามธรรม

เมื่อคุณเข้าสู่สภาวะนี้ คือ
• ลมหายใจของคุณจะช้าลง
• อารมณ์จะผ่อนคลาย
• ความคิดจะอ่อนนุ่ม
• และคุณจะรู้สึกได้ถึง “ความกลมกลืน” ที่ไม่ใช่เพียงแนวคิด แต่เป็นประสบการณ์ตรง ที่โอบล้อมทั้งร่างกายและจิตใจในเวลาเดียวกัน

จักรวาลกำลังพูดอยู่เสมอ... คุณแค่ยังไม่ได้ฟัง

การทำสมาธิไม่ใช่การทำให้จิตว่างเปล่า อย่างที่หลายคนเข้าใจผิด แต่มันคือ “การไม่หลงไปกับความคิด” เหมือนนั่งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแห่งจิตใจ มองดูสายน้ำไหลผ่าน โดยไม่กระโดดลงไปในกระแสนั้น

เมื่อคุณทำเช่นนั้น คลื่นความถี่ของคุณจะเพิ่มขึ้นอย่างเงียบงัน โดยไม่ต้องใช้แรงผลักดันใด ๆ

ไม่ต้องใช้เวลานาน แต่ต้องใช้ “ความลึก”

คุณไม่จำเป็นต้องนั่งสมาธิเป็นชั่วโมง เพียงไม่กี่นาทีของ “ความเงียบที่แท้จริง” ก็สามารถปรับเทียบความถี่ของคุณใหม่ได้แล้ว และยิ่งคุณฝึกฝนบ่อยเท่าไร การเข้าถึงสภาวะนี้ก็จะง่ายขึ้นเท่านั้น

พื้นที่ว่างระหว่างความคิด คือที่พำนักของความสงบ

คุณไม่จำเป็นต้องหนีจากโลก เพื่อค้นหาความสงบ ความสงบอยู่ใน “ช่องว่าง” เล็ก ๆ ระหว่างความคิดหนึ่งกับอีกความคิด ระหว่างอารมณ์หนึ่งกับอีกอารมณ์

และเมื่อคุณเริ่มใช้ชีวิตจากช่องว่างนั้น คุณจะไม่ได้ตอบสนองต่อโลกจากความกลัวหรืออัตโนมัติอีกต่อไป แต่คุณกำลังตอบสนองจาก “การมีอยู่” ที่เต็มเปี่ยม

และการมีอยู่เช่นนั้น คือสภาวะที่จักรวาลรับรู้ และยอมรับอย่างลึกซึ้งที่สุด

แม้แต่ความเงียบอันศักดิ์สิทธิ์นี้ ก็ยังเป็นเพียง “ประตูด่านหนึ่ง” เท่านั้น เพราะยังมีอีกหนึ่งวิธีในการสื่อสารกับจักรวาล ที่ทรงพลังและเต็มไปด้วยจินตภาพ การสร้างภาพในใจอย่างสมจริง จนคลื่นพลังงานของคุณ “สั่นสะเทือนราวกับมันเป็นจริงอยู่แล้ว” และนั่นคือกุญแจดอกถัดไป... ที่กำลังรอคุณอยู่

///////////////////////////////

“4. การสร้างภาพในจิตใจ”

Fourth Way: Visualization ภาพยนตร์ภายในที่จักรวาลแปลเป็นความจริง

วิธีที่สี่ในการพูดคุยกับจักรวาล ไม่ใช่ด้วยคำพูด ไม่ใช่ด้วยความคิดลอยๆ แต่ด้วย "ภาพในจิตใจ" ที่ทั้งสมอง หัวใจ และร่างกายของคุณเชื่ออย่างลึกซึ้ง... ว่ามันกำลังเกิดขึ้นแล้ว

ไม่ใช่แค่การคิด... แต่เป็นการรู้สึกอย่างมีชีวิต

จินตนาการไม่ใช่แค่การนึกภาพ แต่คือการ "รู้สึกถึงอนาคตในปัจจุบัน" การทำให้หัวใจของคุณเต้นในจังหวะเดียวกับความฝัน แม้ว่าโลกภายนอกจะยังไม่เปลี่ยนแปลง

James Allen เคยกล่าวไว้ว่า “วันนี้ คุณอยู่ตรงนี้… ไม่ใช่เพราะการกระทำ แต่เพราะความคิดของคุณพาคุณมาที่นี่” เพราะ ทุกสิ่งเริ่มต้นจากสิ่งที่มองไม่เห็น และสิ่งที่จิตใจของคุณตรึกตรองไว้อย่างต่อเนื่อง จะปรากฏออกมาในความเป็นจริง... ไม่ช้าก็เร็ว

จินตนาการให้ลึก สัมผัสมันด้วยประสาทสัมผัสทั้งหมด

หากคุณปรารถนาความอุดมสมบูรณ์ อย่าบอกแค่ว่า "ฉันอยากเจริญรุ่งเรือง" ให้คุณเห็นตัวเองมีชีวิตในความอุดมสมบูรณ์นั้นแล้ว
• เดินอยู่ในสถานที่ที่คุณใฝ่ฝัน
• ได้กลิ่น ดอกไม้ เครื่องหอม หรือกาแฟในเช้าวันใหม่
• ได้ยินเสียงธรรมชาติ ผู้คน หรือเสียงหัวเราะรอบตัว
• รู้สึกถึงความสุขใจ ความเบาสบาย และความมั่นใจ

จักรวาลไม่ได้ตอบสนองต่อ "ความอยาก" แต่มันตอบสนองต่อ “ความถี่ทางอารมณ์” ที่อยู่เบื้องหลังสิ่งที่คุณจินตนาการ

สมองไม่แยกแยะระหว่างสิ่งจริง กับสิ่งที่รู้สึกว่าเป็นจริง

นักกีฬาโอลิมปิกหลายคนใช้การจินตนาการก่อนลงสนามอย่างเข้มข้น พวกเขา “เห็น” ตัวเองเคลื่อนไหว จนสมองเริ่มสั่งร่างกายให้ตอบสนองตามนั้น

หากสมองของคุณสามารถฝึกเส้นประสาทกล้ามเนื้อจากภาพในใจได้ คุณก็สามารถฝึก พลังงานของคุณ ให้สอดคล้องกับอนาคตที่คุณต้องการได้เช่นกัน เพราะ “การสร้างภาพในจิตใจ” คือการ ซ้อมพลังงานของอนาคต

ไม่ใช่ครั้งเดียว แล้วจบ แต่คือการฝึกซ้ำจนเป็นธรรมชาติ

การจินตนาการเพียงครั้งเดียวแล้วลืมไป ไม่เพียงพอ ภาพในจินตใจต้อง ได้รับการหล่อเลี้ยง อย่างต่อเนื่อง ให้คุณ “ดูหนังเรื่องนั้นซ้ำ” จนคุณรู้สึกว่า นี่ไม่ใช่ความฝัน แต่เป็น “ความจริงที่ยังมาไม่ถึง”

คุณไม่ใช่ผู้ชม คุณคือตัวละครหลัก ที่เดินอยู่ในฉากนั้น ทุกวัน ในใจของคุณ

ความเปลี่ยนแปลงจะเริ่มต้น... โดยไม่ต้องพยายาม

เมื่อการสั่นสะเทือนของคุณเปลี่ยนไป จักรวาลจะเริ่มจัดวางฉากใหม่ในชีวิตของคุณ
• ผู้คนใหม่
• โอกาสใหม่
• เส้นทางที่ไม่เคยคาดฝัน

แต่นี่ไม่ใช่เวทมนตร์ นี่คือผลของ “การสั่นสะเทือนที่สอดคล้อง”

ถ้าภาพคือแสง... เสียงคือพลังขยาย

เมื่อคุณพูด "ออกเสียง" สิ่งที่คุณเห็นในใจ ด้วยความตั้งใจที่แน่วแน่ คุณกำลังปรับ “ภาพ” และ “เสียง” ให้สอดคล้องกัน
• ภาพในใจ คือรหัสที่สร้างพลัง
• คำพูดที่ออกเสียง คือคลื่นเสียงที่ส่งพลังนั้นออกไป

และเมื่อภาพชัด คำพูดชัด พลังของคุณจะทวีคูณ และนี่คือสิ่งที่นำไปสู่ "วิธีที่ห้า" นั่นคือ วิธีการใช้คำพูดเพื่อเขียนคลื่นความถี่ของคุณใหม่ อย่างทรงพลังและแม่นยำที่สุด

///////////////////////////////

“5. คำพูดยืนยัน”

Fifth Way: Affirmation คำพูดที่เขียนคลื่นความถี่ของคุณใหม่

การยืนยันที่แท้จริง ไม่ใช่คำพูดปลอบใจตนเองซ้ำๆ แต่คือ “คำสั่ง” ที่ตั้งคลื่นความถี่ของคุณใหม่ คือถ้อยคำที่สะท้อนการสั่นสะเทือนภายในออกมาอย่างชัดเจน

จักรวาลไม่ได้ฟังคำพูดของคุณ มันฟังความถี่ที่อยู่ข้างใต้

เมื่อคุณพูดว่า “ฉันทำได้” คุณไม่ได้พูดแค่กับตัวเอง คุณกำลังพูดกับ “สนามพลังงานของจักรวาล” และจักรวาลตอบสนองต่อคลื่นนั้นทันที ไม่ใช่เพราะคุณร้องขอ แต่เพราะคุณ “เป็น” คลื่นนั้นอยู่แล้ว

จิตใต้สำนึกของคุณไม่รู้ความแตกต่างระหว่าง “จริง” และ “ซ้ำ”

หากคุณพูดว่า “ฉันล้มเหลวเสมอ” บ่อยพอ… จิตใจจะเริ่มปรับความถี่ของคุณให้ตรงกับคำพูดนั้น

ในทางกลับกัน หากคุณพูดว่า “ฉันสมควรได้รับ” “ฉันพร้อมเปิดรับ” “ฉันอยู่ในพลังแห่งการเปลี่ยนแปลง” และพูดด้วยความตั้งใจที่แน่วแน่ คลื่นความถี่ของคุณจะเปลี่ยนแปลงโดยอัตโนมัติ

เพราะคำพูดที่ออกจากปาก คือรหัสที่โปรแกรมพลังงานในสนามของคุณใหม่

คำพูดจะไม่มีพลัง… หากแยกขาดจากการสั่นสะเทือน

ทอธไม่ได้สอนให้เราท่องคำสวด เขาสอนให้เราปรับ “สถานะพลังงาน” ก่อนจะเปล่งเสียงใดๆ ออกมา

ถ้าคุณพูดด้วยความกลัว คุณกำลังปล่อยคลื่นความกลัวออกไป

ถ้าคุณพูดด้วยความมั่นใจ คุณกำลังขยายพลังของคุณออกไป

มันง่าย…แต่ทรงพลังอย่างยิ่ง

///////////////////////////////

“กุญแจคือการเป็นหนึ่งเดียว”

คุณมีเครื่องมือแล้ว แต่กุญแจคือการ “เป็นหนึ่งเดียว” ตอนนี้คุณรู้ทั้ง 5 วิธีในการสื่อสารกับจักรวาลแล้ว:
1. พลังงาน (Energy Alignment)
2. การอธิษฐานแบบสั่นสะเทือน (Vibrational Prayer)
3. การทำสมาธิแบบเงียบ (Deep Meditation)
4. การสร้างภาพในจิตใจ (Visualization)
5. การยืนยันอันทรงพลัง (Affirmation)

ทุกวิธีทำงานบนคลื่นความถี่ของคุณ และเมื่อต่อกันครบ มันเหมือนเปิดสวิตช์ในระบบพลังงานทั้งหมด ชีวิตจะเริ่มเปลี่ยนแปลง โดยแทบไม่ต้องออกแรง

///////////////////////////////

“ทำไมหลายคนยังติดอยู่ที่เดิม”

แต่ถ้ามันทรงพลังขนาดนี้… ทำไมหลายคนยังติดอยู่ที่เดิม เพราะความรู้เพียงอย่างเดียว ไม่พอ แม้การฝึกฝนซ้ำๆ ก็ยังไม่พอ ยังมี "ม่านบางๆ" ที่มองไม่เห็น คอยกั้นระหว่างสิ่งที่คุณปรารถนา กับสิ่งที่คุณ “สั่นสะเทือน” จริงๆ

• คุณอาจพูดว่า “ฉันต้องการความสงบ” แต่ยังคงใช้ชีวิตในความวิตกกังวล
• คุณอาจขอความรัก แต่สั่นสะเทือนด้วยความเหงา
• คุณอาจปรารถนาความมั่งคั่ง แต่ลึกๆ ยังรู้สึกว่าคุณไม่คู่ควร

และนี่คือเหตุผลว่า “ทำไมจักรวาลยังตอบสนองไม่ได้”

จักรวาลตอบสนองต่อความถี่ของคุณ ไม่ใช่คำพูดของคุณ ถ้าจิตใจขออย่างหนึ่ง แต่หัวใจรู้สึกอีกอย่าง
และการกระทำสื่อถึงสิ่งที่สาม... สัญญาณของคุณจะไม่ชัดเจน เหมือนคลื่นวิทยุที่ส่งออกไปแล้วมีสัญญาณรบกวน

สิ่งที่คุณต้องทำไม่ใช่ "พยายามให้ได้มา" แต่คือ "การหยุดต่อต้าน"

เมื่อคุณหยุดแทรกแซง เมื่อคุณยอมให้ตัวเองเข้าสู่คลื่นพลังงานเดิม ชีวิตจะเริ่มตอบสนองคุณโดยธรรมชาติ ไม่ใช่ด้วยการฝืน แต่ด้วยความสอดคล้อง

ความถี่ดั้งเดิมของคุณไม่ได้หายไปไหน มันอยู่ในตัวคุณเสมอ

คุณไม่จำเป็นต้องรออีกต่อไป ไม่ต้องรอ "วันดี ๆ" หรือ "โอกาสเหมาะสม" เพราะช่วงเวลาที่เหมาะสม คือ “ตอนนี้” เสมอ

ตอนนี้คือประตู คือจุดเริ่มต้น และคือสนามสั่นสะเทือนแห่งการสร้างสรรค์

ฝึกใช้งานมันเดี๋ยวนี้ รู้สึกไปพร้อมกันเดี๋ยวนี้
1. หลับตา
2. หายใจเข้าออกลึกๆ
3. ลองนึกถึงภาพของความเป็นจริงที่คุณปรารถนา
4. อย่าคิดว่ามันยังมาไม่ถึง ให้รู้สึกว่า…คุณอยู่ในนั้นแล้ว

สัมผัสรายละเอียด เช่น
• สี
• เสียง
• ความรู้สึกทางกาย
• อารมณ์ในหัวใจ

แล้วพูดออกมาด้วยความมั่นใจว่า...
• “ตอนนี้ฉันเป็นสิ่งนี้แล้ว”
• “ความถี่ของฉันสอดคล้องกับทั้งหมดแล้ว”

จากนั้น...อย่าฝืน อย่าบังคับ แค่คงอยู่ ในขณะนั้นเอง… สนามพลังงานของคุณจะเปลี่ยนไปทันที ความเป็นจริงจะเริ่มจัดระเบียบใหม่ แม้คุณจะยังไม่เห็น แต่คลื่นได้ถูกส่งออกไปแล้ว

นี่ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งเดียว แต่เป็นสภาวะที่คุณสามารถกลับมาแตะได้เสมอ และยิ่งคุณกลับมาบ่อย สนามพลังงานของคุณจะมั่นคง และตอบสนองเร็วขึ้นเรื่อยๆ

ที่อยู่

นนทบุรี

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 20:30
อังคาร 09:00 - 20:30
พุธ 09:00 - 20:30
พฤหัสบดี 09:00 - 20:30
ศุกร์ 09:00 - 20:30
เสาร์ 09:00 - 12:30
อาทิตย์ 09:00 - 12:30

เบอร์โทรศัพท์

+66841418116

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ HOM YOGA Original by Kru Kaeผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง HOM YOGA Original by Kru Kae:

แชร์