01/09/2025
เมื่อคนไข้ป่วยบ่อย และเป็นหวัดง่ายมาปรึกษา
แล้วหมอบอกว่า ต้องบำรุงร่างกายให้แข็งแรง
แล้วได้รับคำตอบว่า นี่ก็ออกกำลังกายอยู่นะ ยังไม่แข็งแรงอีก
🏃♂️ ผลจากการออกกำลังกายหนักไปในวันที่ร่างกายอ่อนแอ
ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง
การออกกำลังกายปกติช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน แต่ถ้าออกกำลังกายหนักในวันที่ร่างกายอ่อนเพลีย (เช่น นอนน้อย เจ็บคอ มีไข้) จะทำให้ระดับฮอร์โมนความเครียด (Cortisol) สูงขึ้น → ส่งผลกดภูมิคุ้มกัน เสี่ยงติดเชื้อทางเดินหายใจง่ายขึ้น
กล้ามเนื้อและข้อเสี่ยงบาดเจ็บ
เมื่อร่างกายอ่อนแรง กล้ามเนื้อไม่ฟื้นตัวเต็มที่ การฝืนออกกำลังกายหนักจะเพิ่มความเสี่ยงกล้ามเนื้อฉีก ข้อเข่า/ข้อเท้าอักเสบ หรือภาวะ Overtraining Syndrome
หัวใจและระบบไหลเวียน
ถ้ามีไข้หรือขาดน้ำ (Dehydration) แล้วไปออกกำลังหนัก หัวใจจะต้องทำงานมากขึ้น อาจนำไปสู่หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้
🌿 มุมมองแพทย์แผนจีน
ชี่พร่องกว่าเดิม
หากร่างกายอ่อนแรงหรือไม่สบาย คือภาวะที่ “ชี่พร่อง” การออกแรงมากเกินไปจะยิ่งทำให้ชี่รั่วไหล เกิดอาการเหนื่อยง่าย หน้ามืด และป่วยเรื้อรังได้
เสียสมดุลหยิน-หยาง
การออกกำลังกายถือว่าเป็น “หยาง” ถ้าฝืนในวันที่ร่างกายอ่อนแอ (หยินพร่อง) จะเกิดความไม่สมดุล ทำให้เกิดอาการร้อนใน กระหายน้ำ นอนไม่หลับ เหงื่อออกกลางคืนหรือใจสั่น
กระทบอวัยวะภายใน
ม้ามและกระเพาะอ่อนแอ → ย่อยอาหารไม่ดี กินไม่ลงหลังออกกำลัง
ปอด → หากออกแรงมากตอนร่างกายไม่พร้อม จะทำให้เหนื่อย หายใจไม่เต็มปอด
ไต → การฝืนใช้แรงมากเกินไปในภาวะอ่อนแอจะ “ทำร้ายสารจิง (精)” ซึ่งคือพลังชีวิตในมุมมองแพทย์จีน → ส่งผลเสียระยะยาว
✅ แนวทางปฏิบัติ
ถ้าเพียงแค่เหนื่อยล้าเล็กน้อย: ควรเลือกออกกำลังเบา ๆ เช่น เดินช้า โยคะ ยืดเหยียด
ถ้ามีไข้ ป่วย หรือพักผ่อนไม่พอ: ควรงดการออกกำลังกายหนัก และให้เวลากับการพักฟื้น
เมื่อร่างกายแข็งแรงแล้ว: ค่อยกลับมาออกกำลังกายแบบค่อยเป็นค่อยไป (Progressive Training)
🔎 สรุป
แพทย์แผนปัจจุบัน เน้นที่ “ระบบภูมิคุ้มกัน กล้ามเนื้อ และหัวใจ” → ถ้าฝืนจะเสี่ยงติดเชื้อและบาดเจ็บ
แพทย์แผนจีน มองว่าเป็นการ “พร่องชี่ สูญเสียหยิน-หยาง และทำร้ายสารจิง” → ทำให้ร่างกายเสื่อมสมดุลในระยะยาว
ดังนั้น ในวันที่ร่างกายอ่อนแอ ควรเลือกพักผ่อนและฟื้นฟู มากกว่า “ฝืนออกกำลังกายหนัก”
#ออกกำลัง #แพทย์แผนจีน #เพิ่มสมรรถนะ #ฝังเข็ม