11/02/2025
#คณะอภิญญาโลกอุดรทั้งห้า
คณะหลวงปู่ใหญ่ หรือ หลวงปู่โลกอุดรมิได้มีเพียงองค์เดียวนะลูกหลานเอ๊ย๚ มีหลายองค์ด้วยกัน เรียกว่าเป็นคณะทำงานเพื่อสืบสานพระพุทธศาสนา ๕,๐๐๐ ปี ตามพุทธพยากรณ์
ในคณะทำงานนั้นแบ่งหน้าที่กันเป็น ๕ ด้าน มีรายนามตามตำนาน ๕ พระองค์ด้วยกัน ดังนี้ คือ....
๑. #หลวงตาดำ หรือ หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า
บรมครูสูงสุดแห่งคณะเทพโลกอุดร การเรียก "หลวงปู่ใหญ่" ก็เกิดจากท่าน เพราะท่านอยู่ในฐานะใหญ่ที่สุดในคณะโลกอุดร
๒. #ขรัวเศียรบาตร หรือ หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า เป็นศิษย์น้องและน้องชายของหลวงตาดำ
๓. #หลวงปู่โพรงโพธิ์ หรือ หลวงปู่มูนียะเถระเจ้า (หลวงปู่อิเกสาโร) เป็นศิษย์เอกขององค์หลวงตาดำ พระมูนียะเถระเจ้า หรือ พระอิเกสาโร หรือ หลวงปู่โพรงโพธิ์ หรือ หลวงปู่เดินหน เป็นองค์เดียวกัน เป็นผู้ชำนาญทางเตโชกสิณ
๔. #ขรัวแก้มแดง หรือ หลวงปู่พระฌานียะเถระเจ้า เป็นผู้ชำนาญเรื่องการเล่นแร่แปรธาตุ เป็นผู้สำเร็จปรอท
๕. #ขรัวขี้เถ้า หรือ หลวงปู่ #พระภูริยะ เจ้า
เมื่อเกิดวิกฤติการณ์ต่างๆขึ้นในราชอาณาจักรที่มีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ คณะหลวงปู่ใหญ่ทั้งห้านี้ท่านจะประชุมกัน แบ่งหน้าที่กันเพื่อสำแดงบุญฤทธิ์-อิทธิฤทธิ์ปกป้องและสืบสานพระพุทธศาสนา รวมทั้งการคุ้มครองส่งเสริมพุทธศาสนิกชนที่ประพฤติดีปฏิบัติชอบให้ประสบความสุขความเจริญ เพื่อให้คนดีทำหน้าที่ปกป้องและสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป
คณะโลกอุดรทั้ง ๕ นี้ ท่านเป็นผู้ทรงอภิญญาชั้นสูง มี #วสี ชำนาญในการเข้าออกฌานได้ตามปรารถนา ทั้งยังสามารถแสดงฤทธิ์อวตารหรือจำแลงแปลงตนให้เป็นคนหรือสัตว์ต่างๆได้ตามปรารถนา แต่ท่านจะไม่ทำพร่ำเพรื่อ จะแสดงฤทธิ์เท่าที่จำเป็นสูงสุด เพื่อกิจจำเป็นและสำคัญที่สุดเท่านั้น เพราะพระพุทธเจ้าไม่ส่งเสริมให้ภิกษุแสดงฤทธิ์
ในบรรดา ๕ ท่านนี้ ; - “หลวงตาดำ” คือ “ #พระอุตตระเถระ” เป็นองค์สำคัญที่สุด ท่านมีอายุยาวนานมากว่าพันปีมนุษย์ ถือเป็นองค์ประธานของคณะโลกอุดร
- รองลงมาคือ “ขรัวเศียรบาตร” องค์นี้มีฤทธิ์และบุญญาธิการสูงส่ง มีฐานะเป็นน้องและศิษย์น้องของหลวงตาดำ
- รองลงมาอีกก็คือ “หลวงปู่โพรงโพธิ์” องค์นี้ท่านสำเร็จธรรมชั้นสูงมักเป็นตัวแทนของหลวงตาดำหรือหลวงปูใหญ่ไปโปรดสัตว์หรือไปทำภาระหน้าที่ต่างๆ แทนองค์หลวงปู่ใหญ่เสมอๆ ได้รับอนุญาตเป็นพิเศษจากหลวงปู่ใหญ่ให้แสดงฤทธิ์ได้โดยไม่ต้องขออนุญาต ท่านจึงปรากฏกายแสดงฤทธิ์โปรดสัตว์บ่อยๆเป็นที่เล่าขานมากที่สุดในบรรดาศิษยานุศิษย์
ดังนั้นศิษย์ส่วนใหญ่ที่ได้พบเห็นหลวงปู่ใหญ่ก็คือได้เห็น “หลวงปู่โพรงโพธิ์” นั่นเอง
หลวงปู่โพรงโพธิ์ คือ องค์ที่มีหน้าตาหนุ่มแต่เกศาขาวโพลน ภาพลักษณ์ของท่านเป็นหน้าตาเดียวกันกับพระครูใบฎีกาพรหม จ.สิงห์บุรี โดยที่ท่านพระครูพรหมองค์นี้ก็คืออวตารของพระโลกอุดรเช่นกัน
เมื่อศิษย์หลวงปู่ใหญ่ทุกคนในยุคหลังๆมานี้ได้รับนิมิต คือ หลวงปู่ใหญ่มาบอกกล่าวสั่งสอน ก็มักจะเห็นเป็นภาพพระครูใบฎีกาพรหม แต่ไม่แน่อาจจะเป็นภาพโครงกระดูก ภาพเทวดา ภาพสัตว์ต่างๆ ตามแต่หลวงปู่ใหญ่ตั้งใจจะสอนธรรมแก่ลูกศิษย์ในเรื่องอะไร
- องค์ต่อมาคือ “ขรัวแก้มแดง” องค์นี้ชำนาญในสมาบัติ ๘ และยังสามารถทางเล่นแร่แปรธาตุ เหล็กไหล ไพรดำ ปรอทกายสิทธิ์ ท่านชำนาญด้านนี้มาก สำเร็จธาตุ สำเร็จปรอท สามารถใช้ฤทธิ์อธิษฐานให้ตัวท่านเองมีอายุยืนยาวได้เป็นกัปนับล้านปี ด้วยอำนาจฌานสมาบัติ ๘ และอานุภาพปรอทกายสิทธิ์
การที่เรียกท่านว่า “ #ขรัวแก้มแดง” ก็เพราะเมื่อท่านอมปรอทวิเศษไว้ในปากข้างใดก็ตาม แก้มข้างนั้นจะแดงระเรื่อๆ ขึ้นมา แล้วเปลี่ยนไปอมอีกด้าน แก้มอีกด้านก็จะแดงขึ้นมาแทน ท่านจึงมีนามเรียกตามลักษณะดังกล่าวว่า “ขรัวแก้มแดง”
#การหุงปรอท ของท่านนั้นนอกจากหุงไว้ใช้เองแล้ว ท่านยังหุงไว้มอบให้ผู้มีบุญ เช่น พระโพธิสัตว์ พระอริยเจ้า หรือ ผู้ทรงฌาน โดยปรอทสำเร็จของท่านบางส่วน ได้ฝากฝังไว้ตามแผ่นผา โขดหิน ผนังถ้ำ รอคอยผู้มีบุญมาค้นพบและนำไปเป็นประโยชน์ต่อตนเอง ต่อสังคมพระพุทธศาสนาสืบไป เพื่อเป็นมิ่งขวัญกำลังใจในการปฏิบัติธรรมยิ่งๆ ขึ้นไป
อิทธิฤทธิ์-บุญฤทธิ์ของคณะโลกอุดรทั้ง ๕ นี้ โดยหลักใหญ่แล้วก็เพื่อเป็นขวัญพลังใจให้ผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลาย ทุกฝ่าย ทุกแขนง ได้ช่วยกันสืบทอดพระพุทธศาสนาให้สืบทอดต่อไปตามพุทธพยากรณ์ถึง พ.ศ. ๕๐๐๐ นั่นเอง.
- องค์ต่อมา คือ "ขรัวขี้เถ้า" ท่านเป็นผู้ชำนาญทางเตโชกสิณ หรือ กสิณไฟ คือการใช้ไฟในการเผากิเลสตัณหา และใช้ไฟเป็นสัญลักษณ์ให้ผู้คนไม่หลงใหลติดยึดในวัตถุ หลังจากเผาไฟแล้วทุกสิ่งก็จะเหลือแต่ขี้เถ้า จึงขนานนามท่านว่า "ขรัวขี้เถ้า" พระสงฆ์ผู้เป็นสาวกในสายนี้เมื่อท่านได้รับของถวายมาจากญาติโยมท่านจึงมักเผาไฟให้เป็นที่ประจักษ์ เช่น ท่านหลวงพ่อกบแห่งเขาสาลิกา ท่านหลวงปู่สรวงเทวดาเดินดิน เป็นต้น
เรื่องราวหลวงปู่ใหญ่ เล่าไปเท่าใดไม่มีวันหมด เพราะมีมากมาย ผ่านกาลเวลามายาวนาน และเป็นอจินไตย
การเล่าเรื่องราวของหลวงปู่ใหญ่ ไม่ว่าครั้งนี้หรือครั้งใดๆ ทั้งที่ผ่านมาและกาลเบื้องหน้า ไม่หวังให้ลูกหลานติดยึดในอิทธิฤทธิ์ใดๆทั้งสิ้น เพราะแม้เป็นเรื่องจริงของผู้มีอภิญญาขั้นสูง แต่นั่นไม่ใช่แก่นแท้ ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ นะลูกหลาน ที่เล่าก็เพื่อเจริญศรัทธาหวังให้ลูกหลานทั้งหลายตระหนักรู้ว่า ความเป็นหลวงปู่ใหญ่นี้ เกิดมีขึ้นและดำรงอยู่ เพื่อรักษาสืบทอดพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นมิ่งขวัญพลังใจแก่ลูกหลานทุกคนตลอดไป.. นะลูกหลานเอ๊ย๚
--------------------------
#เรื่องเล่าจากหลวงปู่เทพโลกอุดร
#หลวงปู่เทพโลกอุดร