19/01/2025
เมื่อกล้ามเนื้อ Pectoralis Minor ตึงหรือเกิดความผิดปกติ อาจส่งผลกระทบต่อระบบกล้ามเนื้อและเส้นประสาทบริเวณหน้าอก ไหล่ และแขน เนื่องจากกล้ามเนื้อนี้มีหน้าที่ช่วยดึงกระดูกสะบักและเคลื่อนยกไหล่ รวมถึงอยู่ใกล้กับเส้นประสาทสำคัญในบริเวณทรวงอก อาการที่อาจพบได้มีดังนี้:
---
อาการที่อาจเกิดจากกล้ามเนื้อ Pectoralis Minor ตึง
1. ปวดหรืออึดอัดบริเวณหน้าอกด้านหน้า:
รู้สึกตึงหรือปวดบริเวณส่วนบนของหน้าอกใกล้กับกระดูกไหปลาร้า หรือซี่โครงด้านบน.
2. อาการปวดร้าวหรือชาที่แขนและมือ:
เนื่องจากกล้ามเนื้อ Pectoralis Minor อาจกดทับเส้นประสาท Brachial Plexus หรือหลอดเลือดใต้กระดูกไหปลาร้า ทำให้เกิดอาการปวดร้าวหรือชาบริเวณแขน มือ และนิ้ว.
3. อาการไหล่งุ้ม (Rounded Shoulders):
การตึงตัวของกล้ามเนื้อนี้ดึงไหล่มาด้านหน้าและลงล่าง ทำให้เกิดท่าทางหลังค่อมและไหล่งุ้ม.
4. ข้อไหล่ติดขัดหรือเคลื่อนไหวไม่สะดวก:
การตึงของกล้ามเนื้ออาจจำกัดการยกแขนหรือการเคลื่อนไหวของข้อไหล่ เช่น การยกแขนขึ้นเหนือศีรษะ.
5. รู้สึกหนักหรืออึดอัดที่บริเวณไหล่:
กล้ามเนื้อนี้ตึงอาจสร้างแรงดึงต่อเนื้อเยื่อรอบ ๆ ทำให้รู้สึกไม่สบายในส่วนไหล่ด้านหน้า.
6. อาการเหนื่อยล้าหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง:
หากเส้นประสาทหรือหลอดเลือดถูกกดทับ อาจทำให้กล้ามเนื้อส่วนแขนและไหล่อ่อนแรงหรือรู้สึกเหนื่อยง่าย.
---
สาเหตุของกล้ามเนื้อ Pectoralis Minor ตึง
การนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์หรือท่าทางที่ต้องไหล่งุ้มบ่อย ๆ
การออกกำลังกายที่เน้นการดันหน้าอกหรือการใช้กล้ามเนื้อหน้าอกมากเกินไป เช่น วิดพื้นหรือ Bench Press
การยกของหนักซ้ำ ๆ
การบาดเจ็บจากการใช้งานกล้ามเนื้อผิดวิธี
---
วิธีบรรเทาอาการ
1. การยืดกล้ามเนื้อ:
ยืนที่มุมห้อง วางแขนสองข้างไว้กับผนังทั้งสองด้าน ยืดอกไปข้างหน้าให้รู้สึกตึงบริเวณหน้าอก ค้างไว้ 20-30 วินาที ทำซ้ำ 2-3 ครั้ง.
2. นวดคลายกล้ามเนื้อ:
ใช้ลูกบอลนวดบริเวณหน้าอก หรือใช้นิ้วกดจุดตึงบริเวณใกล้กระดูกไหปลาร้า.
3. ปรับท่าทาง:
ฝึกท่าทางที่ดี เช่น ยืดตัวตรง ดึงไหล่ไปด้านหลัง และหลีกเลี่ยงการนั่งนานเกินไป.
4. เสริมสร้างกล้ามเนื้อหลัง:
ออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อหลัง เช่น การ Row เพื่อช่วยปรับสมดุลกับกล้ามเนื้อหน้าอก.
5. ใช้อุปกรณ์ช่วยบรรเทา:
การใช้แผ่นประคบร้อน/เย็น หรือการสวมสายรัดช่วยพยุงไหล่.
---
เมื่อไหร่ควรปรึกษาแพทย์หรือนักกายภาพบำบัด
หากอาการตึงหรือปวดไม่หายไปหลังจากปรับท่าทางหรือดูแลตนเอง
มีอาการชาหรือปวดร้าวลงแขนที่รบกวนชีวิตประจำวัน
รู้สึกแขนอ่อนแรงอย่างชัดเจน