งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองบางกรวย

งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย   เทศบาลเมืองบางกรวย งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองบางกรวย

19/09/2025
17/09/2025

📌 ปภ.ประสาน 52 จังหวัด ภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง ดินโคลนถล่ม และเขื่อนระบายน้ำเพิ่มขึ้น ช่วงวันที่ 18 -24 ก.ย.68

วันนี้ (17 ก.ย. 68) เวลา 16.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้ง 52 จังหวัด ในพื้นที่ภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง ดินโคลนถล่ม รวมถึงอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงเปลี่ยนแปลง รวมถึงเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่มขึ้น ช่วงวันที่ 18 - 24 ก.ย.68 โดยให้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยง กำชับเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยตลอด 24 ชม. เพื่อให้สามารถเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) โดย กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) มีประกาศฉบับที่ 22/2568 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำหลาก น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง ระดับน้ำแม่น้ำโขง และแม่น้ำเจ้าพระยา ประกาศ ณ วันที่ 16 กันยายน 2568 คาดการณ์สภาพอากาศพบว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ และได้ประเมินวิเคราะห์สภาพอากาศ สถานการณ์น้ำ พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ เนื่องจากระบายไม่ทัน ในระหว่างวันที่ 18 – 24 กันยายน 2568 ดังนี้

🚨พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินโคลนถล่ม รวม 35 จังหวัด
📍ภาคเหนือ จำนวน 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอขุนยวม แม่สะเรียง และอำเภอสบเมย) เชียงใหม่ (อำเภออมก๋อย) เชียงราย (อำเภอเมืองเชียงราย แม่สาย เชียงของ เชียงแสน และอำเภอแม่จัน) น่าน (อำเภอแม่จริม และอำเภอเวียงสา) ตาก (อำเภอท่าสองยาง พบพระ แม่ระมาด สามเงา และอำเภออุ้มผาง) กำแพงเพชร (อำเภอคลองลาน และอำเภอปางศิลาทอง) พิษณุโลก (อำเภอนครไทย และอำเภอเนินมะปราง) เพชรบูรณ์ (อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ หล่มสัก หล่มเก่า เขาค้อ วิเชียรบุรี และอำเภอศรีเทพ) และจังหวัดนครสวรรค์ (อำเภอแม่เปิน)
📍ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 18 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเลย (อำเภอวังสะพุง) หนองคาย (อำเภอเมืองหนองคาย) อุดรธานี (อำเภอเมืองอุดรธานี กุมภวาปี กู่แก้ว ไชยวาน โนนสะอาด วังสามหมอ และอำเภอศรีธาตุ) สกลนคร (อำเภอวานรนิวาส วาริชภูมิ และอำเภออากาศอำนวย) นครพนม (อำเภอนาแก) มุกดาหาร (อำเภอดงหลวง และอำเภอหนองสูง) กาฬสินธุ์ (อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ท่าคันโท ยางตลาด สามชัย หนองกุงศรี และอำเภอห้วยเม็ก) ชัยภูมิ (อำเภอเทพสถิต และอำเภอหนองบัวแดง) ขอนแก่น (อำเภอกระนวน และอำเภอน้ำพอง) มหาสารคาม (อำเภอชื่นชม) ร้อยเอ็ด (อำเภอเมืองร้อยเอ็ด เกษตรวิสัย ธวัชบุรี พนมไพร เมืองสรวง เสลภูมิ หนองพอก
และอำเภออาจสามารถ) ยโสธร (อำเภอคำเขื่อนแก้ว) อำนาจเจริญ (อำเภอเมืองอำนาจเจริญ ปทุมราชวงศา พนา และอำเภอลืออำนาจ) นครราชสีมา (อำเภอเมืองนครราชสีมา ครบุรี จักราช ชุมพวง โชคชัย โนนแดง โนนสูง ปักธงชัย พิมาย สีคิ้ว สูงเนิน และอำเภอหนองบุญมาก) บุรีรัมย์ (อำเภอเมืองบุรีรัมย์ กระสัง ชำนิ นางรอง พลับพลาชัย ลำปลายมาศ สตึก หนองกี่ และอำเภอหนองหงส์) สุรินทร์ (อำเภอเมืองสุรินทร์ กาบเชิง ชุมพลบุรี ท่าตูม ปราสาท ศรีณรงค์ ศีขรภูมิ สังขะ และอำเภอสำโรงทาบ) ศรีสะเกษ (อำเภอขุขันธ์ ขุนหาญ และอำเภอปรางค์กู่) และจังหวัดอุบลราชธานี (อำเภอกุดข้าวปุ้น เขมราฐ เดชอุดม ตระการพืชผล ทุ่งศรีอุดม นาจะหลวย นาเยีย น้ำขุ่น น้ำยืน บุณฑริก พิบูลมังสาหาร สว่างวีระวงศ์ และอำเภอสิรินธร)
📍ภาคกลาง จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครนายก (อำเภอเมืองนครนายก และอำเภอบ้านนา) ปราจีนบุรี (อำเภอกบินทร์บุรี และอำเภอนาดี) สระแก้ว (อำเภอเมืองสระแก้ว ตาพระยา และอำเภอวัฒนานคร) ฉะเชิงเทรา (อำเภอท่าตะเกียบ และอำเภอสนามชัยเขต) ชลบุรี (อำเภอบางละมุง และอำเภอศรีราชา) ระยอง (อำเภอเมืองระยอง ปลวกแดง และอำเภอนิคมพัฒนา) จันทบุรี (อำเภอแก่งหางแมว ขลุง เขาคิชฌกูฏ และอำเภอมะขาม) และจังหวัดตราด (อำเภอเมืองตราด เขาสมิง คลองใหญ่ บ่อไร่ เกาะช้าง และอำเภอเกาะกูด)

🚨พื้นที่เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุเก็บกัก รวม 41 จังหวัด
📍บริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก ตาก เพชรบูรณ์ อุทัยธานี เลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร อุดรธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด นครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง สุราษฎร์ธานี และจังหวัดกระบี่

🚨พื้นที่เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ รวม 7 จังหวัด บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของ แม่น้ำสาย บริเวณอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย แม่น้ำยม บริเวณอำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก แม่น้ำแควน้อย บริเวณอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ลำน้ำยัง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด แม่น้ำชี อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ แม่น้ำมูล อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี แม่น้ำปราจีนบุรี อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี

🚨พื้นที่เฝ้าระวังผลกระทบจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงเปลี่ยนแปลง เนื่องจากมีปริมาณฝนตกสะสม บริเวณสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีแนวโน้มส่งผลกระทบพื้นที่จังหวัดริมแม่น้ำโขง ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และจังหวัดอุบลราชธานี

🚨พื้นที่เฝ้าระวังผลกระทบจากกรณีเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำ ทำให้ระดับน้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น และล้นตลิ่ง ได้แก่
📍 บริเวณคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แม่น้ำน้อย อำเภอเสนา และอำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอเมืองสิงห์บุรี อินทร์บุรี และอำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี อำเภอไชโย และอำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท และเฝ้าระวังกิจกรรมการใช้น้ำและการสัญจรทางน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา บริเวณจังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพมหานคร และจังหวัดสมุทรปราการ

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้ง 52 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เฝ้าระวัง ติดตาม และเตรียมพร้อมรับมือโดยได้กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยง รวมถึงเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้สามารถเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัยและเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัยขึ้นในพื้นที่

สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ขอให้ติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลสถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยรายพื้นที่ได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android รวมถึงทางสื่อสังคมออนไลน์บัญชีทางการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป ///////

#ปภ #ข่าว #แจ้งเตือน #เตือนภัย #น้ำท่วม #อุทกภัย #น้ำป่าไหลหลาก #ดินถล่ม #น้ำท่วมขัง #แม่น้ำโขง #เขื่อนเจ้าพระยา #เจ้าพระยา
#สาธารณภัย #ภัยพิบัติ
👉 raining.disaster.go.th
☎️สายด่วน 1784
🔶FB : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM
🔶Twitter
🔶Line
🔶YouTube DDPMNews รู้ทันภัยกับ ปภ.

17/09/2025

⚠️ 18.00 น. วันนี้(17 ก.ย.68) เป็นต้นไป กรมชลประทาน จะทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จากอัตรา 2,100 ลบ.ม./วินาที เป็น 2,200 ลบ.ม./วินาที ภายในเวลา 04.00 น. ของวันพรุ่งนี้(18 ก.ย.68) และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำทางตอนบนและฝนที่ตกในระยะนี้

📢 ขอให้ประชาชนในพื้นที่นอกคั้นกันน้ำบริเวณ
📍คลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง
📍 วัดไชโย จังหวัดอ่างทอง
📍คลองบางบาล ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา
📍ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่อยู่ติดกับแม่น้ำน้อย
📍 วัดสิงห์ อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี
📍 อำเภอเมืองสิงห์บุรี
📍 อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี

🔺 เฝ้าระวังและติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป

#กรมชลประทาน #เขื่อนเจ้าพระยา #ชัยนาท #สถานการณ์น้ำ

10/09/2025

🌊 อัปเดตสถานการณ์น้ำเจ้าพระยา
🗓 10 กันยายน 2568 ⏰ เวลา 06.00 น.

📍สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์
💦 ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,075 ลบ.ม./วินาที
📏 ระดับน้ำ 23.00 ม. (ต่ำกว่าตลิ่ง 2.70 ม.)
🔺แนวโน้มเพิ่มขึ้น

📍สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท
💦 ปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,900 ลบ.ม./วินาที
📏 ระดับน้ำเหนือเขื่อน 16.67 ม.
📏 ระดับน้ำท้ายเขื่อน 14.37 ม. (ต่ำกว่าตลิ่ง 1.87 ม.)
🔺แนวโน้มเพิ่มขึ้น

🚨บริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่ง ตามศักยภาพของคลอง เพื่อลดผลกระทบด้านท้ายน้ำให้ได้มากที่สุด

⚠️พื้นที่นอกคั้นกันน้ำบริเวณที่ได้รับผลกระทบ
📍คลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง
📍คลองบางบาล ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา
📍ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่อยู่ติดกับแม่น้ำน้อย
🔺หากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป

#กรมชลประทาน #เขื่อนเจ้าพระยา #ชัยนาท #สถานการณ์น้ำ

30/08/2025
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนนทบุรี แจ้งเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำที่เพิ่มสูงขึ้น  เขื่อนเจ้าพระยาจำเป็นต...
21/07/2025

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนนทบุรี แจ้งเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำที่เพิ่มสูงขึ้น เขื่อนเจ้าพระยาจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตราระหว่าง 700-1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้น้ำในคลองสาขาจังหวัดนนทบุรี มีระดับสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 0.20-0.80 เมตร

วันนี้ (21 ก.ค. 68) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานจากการติดตามข้อมูลกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า อิทธิพลของพายุโ...
21/07/2025

วันนี้ (21 ก.ค. 68) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานจากการติดตามข้อมูลกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า อิทธิพลของพายุโซนร้อน “วิภา” จะส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศไทยในช่วงวันที่ 21 – 24 ก.ค. 68

📌ปภ. เตรียมรับผลกระทบพายุ "วิภา" กำชับจังหวัดดำเนินการตามข้อสั่งการ มท.1 ภูมิธรรม - ทีม ปภ.ส่วนหน้าลงพื้นที่เชียงใหม่เย็นนี้ ติดตามสถานการณ์ – ประสานการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด

วันนี้ (21 ก.ค. 68) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานจากการติดตามข้อมูลกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า อิทธิพลของพายุโซนร้อน “วิภา” จะส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศไทยในช่วงวันที่ 21 – 24 ก.ค. 68 ปภ. ได้เน้นย้ำทุกภาคส่วนให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้สามารถออกปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง ขณะที่ทีม ปภ.ส่วนหน้า เตรียมลงพื้นที่ภาคเหนือร่วมติดตามสถานการณ์กับจังหวัดอย่างใกล้ชิดเย็นวันนี้

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามการเคลื่อนตัวของพายุโซนร้อน “วิภา” อย่างใกล้ชิด พบว่าพายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” มีศูนย์กลางอยู่บริเวณชายฝั่งเมืองเจียงเหมิน มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน กำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตก คาดว่าจะเคลื่อนตัวตามแนวชายฝั่งประเทศจีน เข้าสู่อ่าวตังเกี๋ยและจะเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนในวันที่ 22 ก.ค. 68 โดยคาดว่าหลังจากวันที่ 22 ก.ค. 68 พายุโซนร้อน “วิภา” จะเริ่มอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ ซึ่งอิทธิพลของพายุลูกนี้จะส่งผลให้ประเทศไทยเกิดฝนตกหนักสลับกับเบาในช่วงวันที่ 21 - 24 ก.ค. 68 โดยช่วงวันที่ 21 ก.ค. 68 กลุ่มฝนจะเริ่มเคลื่อนเข้าสู่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้พื้นที่บริเวณดังกล่าวเกิดฝนตกต่อเนื่อง และช่วงวันที่ 22 - 24 ก.ค. 68 ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันตก จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่มได้

“เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้กำชับให้ทุกภาคส่วนดำเนินการตามข้อสั่งการของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอย่างเคร่งครัดและครอบคลุมในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นของการแจ้งเตือนภัยอย่างทันท่วงทีและการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมออกปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์เพื่อแจ้งเตือนภัยให้แก่ประชาชนผ่านช่องทางต่าง ๆ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเมื่อวานนี้ (20 ก.ค. 68) ปภ.ได้ส่งข้อความแจ้งเตือนภัยผ่านสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Cell Broadcast) ไปยังประชาชนในพื้นที่เสี่ยง 22 จังหวัดที่อาจได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน “วิภา” และในช่วงเช้าวันนี้ (21 ก.ค. 68) ได้ส่งข้อความแจ้งเตือนภัยด้วย Cell Broadcast ไปยังประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย จ.น่าน จ.กาญจนบุรี จ.แพร่ จ.ตาก จ.แม่ฮ่องสอน จ.พะเยา จ.เชียงราย จ.อุดรธานี จ.หนองบัวลำภู และ จ.ชัยภูมิ ให้เฝ้าระวังสถานการณ์ดินโคลนถล่มอันเนื่องมาจากมีฝนตกหนักต่อเนื่องและฝนสะสมในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยกระจายกำลังเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงล่วงหน้าเพื่อที่จะได้เริ่มปฏิบัติการลดผลกระทบและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนอย่างทันท่วงที รวมถึงสั่งการให้ศูนย์ ปภ. เขต 2 สุพรรณบุรี และศูนย์ ปภ. เขต 16 ชัยนาท สนับสนุนเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลสาธารณภัยมาประจำ ณ ศูนย์ ปภ. เขต 9 พิษณุโลก ซึ่งเป็นจุดกระดมทรัพยากรเครื่องจักรกลสาธารณภัย (Staging Area) ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อให้การปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” นายภาสกร กล่าว

นายภาสกร บุญญลักษม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้เน้นย้ำให้จังหวัดติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ให้ข้อมูลและแจ้งเตือนภัยทั้งในส่วนของสถานการณ์ภัยที่เกิดขึ้น พื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบ รวมถึงแนวทางการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัย เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีข้อมูลที่เพียงพอและปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้องในช่วงเวลาที่เกิดสถานการณ์ภัยขึ้น อีกทั้งให้จังหวัดเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติการความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย โดยหากเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอในการปฏิบัติงานหรือต้องการเครื่องจักรกลสาธารณภัยเพิ่มเติม ให้จังหวัดประสานมาที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทันที เพื่อจะได้สนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัยและเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการลงพื้นที่ เสริมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างรวดเร็วและประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

“เพื่อให้การเตรียมพร้อมรับมือและการให้ความช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็ว การประสานการปฏิบัติงานในทุกระดับเป็นไปอย่างราบรื่น ผมและทีม ปภ.ส่วนหน้า จะลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเย็นวันนี้ (21 ก.ค. 68) เพื่อติดตามการปฏิบัติงานและประสานการปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคเหนืออย่างใกล้ชิด เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัย และได้รับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็วและทั่วถึงที่สุด ในส่วนของประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ขอให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด เตรียมพร้อมรับมืออย่างถูกต้องและปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยตามคำแนะนำของหน่วยงานราชการ กรณีสถานการณ์รุนแรงจำเป็นต้องอพยพออกจากพื้นที่ ขอให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ได้ทาง Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และ X ” นายภาสกร อธิบดี ปภ. กล่าวปิดท้าย //////////

#ปภ #ข่าว #อุทกภัย #น้ำท่วม #วิภา
👉 raining.disaster.go.th
☎️สายด่วน 1784
🔶FB : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM
🔶Twitter
🔶Line
🔶YouTube DDPMNews รู้ทันภัยกับ ปภ.

19/07/2025

กรมชลฯ เตือนท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เตรียมรับน้ำเหนือเพิ่ม
จากการติดตามสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศ พบว่าพื้นที่ทางตอนบนมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายแห่ง ซึ่งจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำท่าไหลหลากลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น ประกอบกับในช่วงวันที่ 20-24 กรกฎาคม 2568 คาดการณ์ว่าประเทศไทยจะมีฝนตกหนักมากขึ้น จะส่งผลให้ปริมาณน้ำในลำน้ำสาขามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน
เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ในช่วง 1-7 วันข้างหน้า คาดว่าในวันที่ 25 กรกฏาคม 2568 ที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 1,400-1,500 ลบ.ม./วินาที เมื่อรวมกับปริมาณน้ำในลำน้ำสาขา อีกประมาณ 100-150 ลบ.ม./วินาที จะทำให้มีปริมาณน้ำสะสมบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ประมาณ 1,500-1,650 ลบ.ม./วินาที
กรมชลประทาน จึงจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ในช่วงอัตรา 700-1,200 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นจากระดับปัจจุบันอีกประมาณ 20-80 เซนติเมตร
โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ได้แก่
📍คลองโผงเผง จ.อ่างทอง
📍คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา
📍ต.หัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา
📍ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา
📍แม่น้ำน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่เสี่ยงดังกล่าว เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมการป้องกันความเสียหายจากน้ำเอ่อล้นตลิ่งไว้ล่วงหน้า หากมีการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ กรมชลประทานจะประกาศแจ้งให้ทราบต่อไป

#กรมชลประทาน #เขื่อนเจ้าพระยา #สถานการณ์น้ำ

ที่อยู่

99/9 หมู่ 9 ตำบลวัดชลอ อำเภอบากรวย จังหวัดนนทบุรี
Amphoe Bang Kruai
11130

เบอร์โทรศัพท์

+6624470101

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองบางกรวยผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองบางกรวย:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram