Grand Esta Clinic Grand Esta (The Global House Of Grand Beauty) Grand Esta (Princess Happening)

อนุมูลอิสระเป็นโมเลกุลที่ไม่เสถียรที่สร้างความเสียหายให้กับเซลล์ในร่างกายได้ หากสะสมมากเกินไป อาจนำไปสู่การเกิดโรคเรื้อร...
12/07/2025

อนุมูลอิสระเป็นโมเลกุลที่ไม่เสถียรที่สร้างความเสียหายให้กับเซลล์ในร่างกายได้ หากสะสมมากเกินไป อาจนำไปสู่การเกิดโรคเรื้อรังและภาวะต่างๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด มะเร็ง และภาวะชราก่อนวัย

อนุมูลอิสระอันตรายอย่างไร:??
ทำลายเซลล์: อนุมูลอิสระสามารถทำลายส่วนประกอบของเซลล์ เช่น DNA, โปรตีน, และไขมัน ทำให้เซลล์ทำงานผิดปกติหรือตายไป.

เพิ่มความเสี่ยงโรคเรื้อรัง: การสะสมของอนุมูลอิสระที่มากเกินไปสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด มะเร็ง โรคข้ออักเสบ โรคทางเดินหายใจ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง และโรคอื่นๆ

ทำให้เกิดภาวะชราก่อนวัย: อนุมูลอิสระสามารถทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง ทำให้ผิวเกิดริ้วรอยและเหี่ยวย่นก่อนวัย

ลดประสิทธิภาพการทำงานของร่างกาย: การมีอนุมูลอิสระมากเกินไปอาจทำให้ร่างกายอ่อนแอและไม่สามารถต่อสู้กับโรคได้ดี

สนใจปรึกษาแพทย์เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นแบบองค์รวมได้ที่ ;
⭐️แอดไลน์ : https://lin.ee/FS2glQY
⭐️โทร 091-426-9665
#เวชศาสตร์ชะลอวัย #ปรึกษาเวชศาสตร์ชะลอวัยที่ไหนดี #เวชศาสตร์ชะลอวัยCellsecret #วิตามิน #วิตามินผิว #ผิวขาวใส #ฟื้นฟูผิว #สุขภาพดี #วิตามินcellsecret

ปัจจัยหลักที่ทำให้เซลล์ร่างกายเสื่อมสภาพมีหลายปัจจัยทั้งจากภายในและภายนอกร่างกาย เช่น อนุมูลอิสระ, การอักเสบเรื้อรัง, คว...
10/07/2025

ปัจจัยหลักที่ทำให้เซลล์ร่างกายเสื่อมสภาพมีหลายปัจจัยทั้งจากภายในและภายนอกร่างกาย เช่น อนุมูลอิสระ, การอักเสบเรื้อรัง, ความเครียดออกซิเดชัน, สารพิษ, การสะสมของโปรตีนที่ผิดปกติ, การขาดสารอาหาร, ความผิดปกติของไมโตคอนเดรีย, และภาวะพร่องฮอร์โมน. การเสื่อมสภาพของเซลล์สามารถนำไปสู่โรคต่างๆ และความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย

ความเสื่อมของเซลล์สามารถนำไปสู่โรคต่างๆ ได้ เช่น:
- โรคทางระบบประสาทเสื่อม เช่น อัลไซเมอร์, พาร์กินสัน
- โรคหัวใจ
- โรคเบาหวาน
- โรคมะเร็ง
- โรคข้อเสื่อม
วิธีการป้องกันและชะลอความเสื่อมของเซลล์:
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง, น้ำตาลสูง, และสารพิษ
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ลดความเครียด
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์
- ดูแลสุขภาพจิตใจ
- ทำกิจกรรมที่สร้างความสุขและมีชีวิตชีวา

สนใจปรึกษาแพทย์เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นแบบองค์รวมได้ที่ ;
⭐️แอดไลน์ : https://lin.ee/FS2glQY
⭐️โทร 091-426-9665
#เวชศาสตร์ชะลอวัย #ปรึกษาเวชศาสตร์ชะลอวัยที่ไหนดี #เวชศาสตร์ชะลอวัยCellsecret #วิตามิน #วิตามินผิว #ผิวขาวใส #ฟื้นฟูผิว #สุขภาพดี #วิตามินcellsecret

👩‍⚕ โปรแกรมตรวจสุขภาพ Premium check up 🧬ด้วยเครื่องวิเคราะห์ชีวเคมีอัตโนมัติ ได้รับการออกแบบมาเพื่อดำเนินการทดสอบชีวเคมี...
08/07/2025

👩‍⚕ โปรแกรมตรวจสุขภาพ Premium check up 🧬

ด้วยเครื่องวิเคราะห์ชีวเคมีอัตโนมัติ ได้รับการออกแบบมาเพื่อดำเนินการทดสอบชีวเคมีในเลือด และการวิเคราะห์อิเล็กโทรไลต์โดยให้ผลลัพธ์ที่เชื่อถือได้และแม่นยำของตัวอย่างเลือด 100μL ภายใน 12 นาที โดยไม่ต้องเเวลาไปรอนานอีกต่อไป

สามารถตรวจได้ทั้งหมด 29 ค่า
* General Chemistry I Lyophilized Kit 18
ALB,ALP,ALT,AST,CHOL,CRE,GGT,GLU,HCY,HDL-C,TBIL,TG,TP,UA,UREA,GLOB*,A/G*,LDL-C*

* Electrolyte & Renal Function Lyophilized Kit 11
Cl-,Ca,CO2,CRE,Mg2,Na+,P,UA,UREA,AG

จองตรวจวันนี้เพียง 3,900 บาท
** แถมฟรี ดริปวิตามินตามผลเลือด 1 ครั้ง จากราคาปกติ 7990
สนใจปรึกษาแพทย์เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นแบบองค์รวมได้ที่ ;
⭐️แอดไลน์ : https://lin.ee/FS2glQY
⭐️โทร 091-426-9665
#เวชศาสตร์ชะลอวัย #ปรึกษาเวชศาสตร์ชะลอวัยที่ไหนดี #เวชศาสตร์ชะลอวัยCellsecret #วิตามิน #วิตามินผิว #ผิวขาวใส #ฟื้นฟูผิว #สุขภาพดี #วิตามินcellsecret

4 สิ่งสำคัญที่ควรรู้ เพื่อเตรียมพร้อมสู่วัยสูงอายุอย่างมีคุณภาพ ได้แก่1.  ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง- ทานอาหารที่มีประโยชน์ คร...
06/07/2025

4 สิ่งสำคัญที่ควรรู้ เพื่อเตรียมพร้อมสู่วัยสูงอายุอย่างมีคุณภาพ ได้แก่

1. ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง
- ทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ เน้นผัก ผลไม้
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เลือกประเภทที่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย
- ตรวจสุขภาพประจำปี
- ดูแลสุขภาพจิต
- เลิกพฤติกรรมเสี่ยง เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์
2. เตรียมความพร้อมด้านการเงิน
- ออมเงินไว้ใช้หลังเกษียณ
- เตรียมเงินสำรองไว้เผื่อกรณีฉุกเฉิน
- วางแผนการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ
- เตรียมแผนประกันสุขภาพ
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเงินบำนาญ สวัสดิการต่างๆ
3. ปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมและปลอดภัย
- เลือกที่อยู่อาศัยที่สะดวกต่อการเดินทาง
- ปรับพื้นผิวบ้านให้เรียบเสมอกัน ป้องกันการสะดุดลื่นล้ม
- เพิ่มแสงสว่างในบ้านให้เพียงพอ
- ติดราวจับตามจุดเสี่ยง
- ย้ายห้องนอนลงชั้นล่าง (กรณีบ้านสองชั้น)
- เตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือ เช่น ไม้เท้า วอล์คเกอร์
- ปรับปรุงห้องน้ำให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ
4. เตรียมพร้อมด้านจิตใจ
- ยอมรับการเปลี่ยนแปลงตามวัย
- รักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัวและเพื่อนฝูง
- ข้าร่วมชมรมหรือกลุ่มผู้สูงอายุ
- พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
- หางานอดิเรกหรือกิจกรรมที่ชื่นชอบ
- ทำกิจกรรมอาสาสมัครหรือกิจกรรมเพื่อสังคม

สนใจปรึกษาแพทย์เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นแบบองค์รวมได้ที่ ;
⭐️แอดไลน์ : https://lin.ee/FS2glQY
⭐️โทร 091-426-9665
#เวชศาสตร์ชะลอวัย #ปรึกษาเวชศาสตร์ชะลอวัยที่ไหนดี #เวชศาสตร์ชะลอวัยCellsecret #วิตามิน #วิตามินผิว #ผิวขาวใส #ฟื้นฟูผิว #สุขภาพดี #วิตามินcellsecret

“ซีสต์และก้อนเนื้อที่เต้านม” ความแตกต่างที่มากกว่า“ซีสต์และก้อนเนื้อที่เต้านม” เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่พบมาก บางคนคิดว่าเป็น...
04/07/2025

“ซีสต์และก้อนเนื้อที่เต้านม” ความแตกต่างที่มากกว่า
“ซีสต์และก้อนเนื้อที่เต้านม” เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่พบมาก บางคนคิดว่าเป็นปัญหาเดียวกัน แต่ในความเป็นจริงมีความแตกต่างกันโดยก้อนที่เต้านมตรวจพบมากใน 3 ลักษณะ คือ ถุงน้ำ ก้อนเนื้อธรรมดา และ ก้อนเนื้อร้ายที่เป็นมะเร็งเต้านม

ซีสต์ที่เต้านมหรือถุงน้ำในเต้านม มีลักษณะเป็นถุงน้ำมีเซลล์ต่อมน้ำนมล้อมรอบและภายในเป็นน้ำ ถุงน้ำในเต้านม เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงปกติของเต้านม ไม่ใช่ลักษณะเริ่มต้นของมะเร็ง ไม่เปลี่ยนแปลงกลายเป็นมะเร็งเต้านมอีกทั้งผู้ป่วยถุงน้ำที่เต้านมมักจะมีประวัติถุงน้ำโต และยุบตามรอบประจำเดือนและพบได้หลายตำแหน่ง ซึ่งการตรวจวินิจฉัยเบื้องต้นสามารถพิจารณาได้จากการซักประวัติและตรวจร่างกาย

ก้อนเนื้อที่เต้านม คือ เซลล์ของต่อมน้ำนม และเนื้อเยื่อเกี่ยวพันของเต้านมรวมตัวกันเกิดเป็นก้อน โดยก้อนเนื้อที่พบมี 2 ประเภท คือ ก้อนเนื้อธรรมดา ในกลุ่มนี้จะไม่พัฒนากลายเป็นมะเร็ง และก้อนเนื้อชนิดนี้จะมีขอบเขตของก้อนที่ชัด แพทย์สามารถทราบเบื้องต้นได้จากการตรวจคลำเต้านม และสำหรับก้อนเนื้อที่เป็นมะเร็งเต้านม จะมีลักษณะก้อนที่ค่อนข้างแข็งกว่าก้อนเนื้อธรรมดา ขอบเขตมักไม่ชัดเจน และอาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ผิวหนังดึงรั้ง หัวนมดึงรั้ง ต่อมน้ำเหลืองโตร่วมด้วย

นอกจากการตรวจร่างกายและซักประวัติโดยแพทย์แล้ว จะต้องตรวจเพิ่มเติมเพื่อยืนยันชนิดของก้อนที่ชัดเจนโดยการตรวจทางรังสีวินิจฉัย เช่น การตรวจด้วยเครื่องดิจิตอลแมมโมแกรม การตรวจอัลตราซาวนด์ จะสามารถช่วยแยกชนิดของก้อนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และหากแพทย์พิจารณารายละเอียดอย่างชัดเจนและพบความผิดปกติ อาจต้องส่งชิ้นเนื้อตรวจเพิ่มเติม

“โดยปกติผู้ที่คลำได้ก้อนมีทั้งที่มาพบแพทย์และไม่มา เพราะรู้สึกว่าไม่มีความผิดปกติใดๆ ซึ่งอยากจะให้ทุกคนเข้าใจประการหนึ่งว่า “มะเร็ง” อาจคลำได้ก้อนเพียงอย่างเดียวและไม่มีอาการเจ็บ ซึ่งกว่า 90% ของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมไม่มีอาการเจ็บใดๆ ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่คลำพบก้อน แม้ไม่เจ็บหรือผิดปกติก็ควรมาพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์”

ในปัจจุบันซีสต์เต้านมและก้อนเนื้อที่เต้านม ถึงแม้ยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดโรคที่แน่ชัด แต่โดยทั่วไปสามารถพิจารณาจากช่วงอายุ ก้อนเนื้อธรรมดามักพบบ่อยในผู้ที่อายุค่อนข้างน้อยตั้งแต่ 20 - 30 ปี ในขณะที่ถุงน้ำที่เต้านมพบได้บ่อยในวัย 30-40 ปี และสำหรับผู้ที่อายุมากขึ้นต้องให้ความสำคัญเกี่ยวกับมะเร็งมากยิ่งขึ้น

สนใจปรึกษาแพทย์เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นแบบองค์รวมได้ที่ ;
⭐️แอดไลน์ : https://lin.ee/FS2glQY
⭐️โทร 091-426-9665

อวัยวะที่เป็นกำแพงป้องกันเชื้อโรคของร่างกายเราอยู่ตรงไหน?ต่อให้ข้าศึกบุก...ยังไงก็ไม่พัง!---“ระบบทางเดินอาหาร หรือ ลำไส้...
02/07/2025

อวัยวะที่เป็นกำแพงป้องกันเชื้อโรคของร่างกายเราอยู่ตรงไหน?
ต่อให้ข้าศึกบุก...ยังไงก็ไม่พัง!
---
“ระบบทางเดินอาหาร หรือ ลำไส้” คือหัวใจของการดูแลชีวิต เพราะคือประตูเปิดปิดที่คอยตัดสินใจจัดการทุกอย่างที่รับประทานเข้าไป ว่าอะไรควรรับไว้พิจารณา หรืออะไรควรทิ้ง? ซึ่งจะอยู่ที่ว่าเจ้าของร่างกายรับประทานอะไรเข้าไป?

หลายคนมักละเลยไม่ใส่ใจ รับประทานในสิ่งที่ชอบ แต่ก็ลืมถามลำไส้ ว่าขาดเหลืออะไรไหม? อยากได้อะไรบ้างไหม? เพื่อช่วยให้เขาทำงานได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น เพราะถ้าเครื่องติดขัด นั่นหมายถึงว่ากำลังท้าทายระบบ และมันจะรวนไปทุกส่วนของร่างกาย จนอาจถึงขั้น “ระบบล่ม” กู้ไม่ได้

คำตอบที่ลำไส้บอกเราก็คือ “ช่วยรับประทานอาหารดีๆ มาช่วยเราสร้างจุลินทรีย์ดีหน่อยนะ” เรียกชื่อง่ายๆ ว่า “โพรไบโอติกส์” เพื่อช่วยให้ลำไส้สวย สะอาด ไหลลื่น ช่วยสร้างสมดุลให้ร่างกาย ช่วยระบบขับถ่าย ช่วยป้องกันกรดไหลย้อน ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยจัดการระบบทางเดินอาหารให้ทำงานสะดวก ปลอดภัย ช่วยลดความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคมะเร็ง ทำให้กำแพงแข็งแรง ปกป้องร่างกายซึ่งเป็นบ้านของตัวเราเอง

แล้วอะไรคืออาหารที่ดีของโพรไบโอติกส์? เราเรียกว่า “พรีไบโอติกส์” เพื่อช่วยให้มีจุลินทรีย์ดีในลำไส้ ให้มีมากกว่าจุลินทรีย์ไม่ดี ให้มีแรงปกป้องคุ้มครองลำไส้เรา เคลียร์สิ่งตกค้าง สารพิษต่างๆ ที่ไม่ดีกับร่างกาย แล้วขับออกมาอย่างราบรื่นในทุกๆ วัน

นอกจากหาพรีไบโอติกส์มาสร้างโพรไบโอติกส์แล้ว ก็พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย พยายามหากิจกรรมลดความเครียด งดบุหรี่ แอลกอฮอล์ ลดหวานลง เพราะทั้งหมดคือตัวทำลายโพรไบโอติกส์ในร่างกาย ตัวทำลายกำแพงให้สึกกร่อน
สนใจปรึกษาแพทย์เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นแบบองค์รวมได้ที่ ;
⭐️แอดไลน์ : https://lin.ee/FS2glQY
⭐️โทร 091-426-9665
#เวชศาสตร์ชะลอวัย #ปรึกษาเวชศาสตร์ชะลอวัยที่ไหนดี #เวชศาสตร์ชะลอวัยCellsecret #วิตามิน #วิตามินผิว #ผิวขาวใส #ฟื้นฟูผิว #สุขภาพดี #วิตามินcellsecret

ไม่อยากท้องอืด ต้องทำ 5 อย่างนี้ !ปัญหา "ท้องอืด" แน่นท้อง แก๊สเต็มท้อง ไม่ว่าจะกินอะไรก็รู้สึกไม่สบายตัว เป็นปัญหาที่หล...
30/06/2025

ไม่อยากท้องอืด ต้องทำ 5 อย่างนี้ !

ปัญหา "ท้องอืด" แน่นท้อง แก๊สเต็มท้อง ไม่ว่าจะกินอะไรก็รู้สึกไม่สบายตัว เป็นปัญหาที่หลายเจอได้บ่อยๆ หากใครมีอาการนี้ อ่านโพสต์นี้จบอาการท้องอืดดีขึ้นแน่นอน

1. ให้เลี่ยงผักตระกูลกะหล่ำ 🥦
หลายๆคนรักสุขภาพ ชอบกินผัก เช่น กะหล่ำปลี บรอกโคลี หรือดอกกะหล่ำ เพราะมันมีไฟเบอร์สูง และดีต่อร่างกาย แต่รู้ไหมว่าผักตระกูลนี้อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ท้องอืดได้ เพราะผักเหล่านี้มีสารประกอบกำมะถัน และไฟเบอร์ที่ย่อยยาก การกินผักเหล่านี้มากเกินไป จะทำให้เกิดแก๊สในลำไส้ ส่งผลให้แน่นท้อง หรืออืดได้ง่าย

2. เลี่ยงถั่วเมล็ดแห้ง 🥜
ใครที่ชอบกินถั่ว เช่น ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วเขียว หรือถั่วลิสง ระวังไว้นะครับ ถั่วเหล่านี้เป็นแหล่งโปรตีนและไฟเบอร์ชั้นยอด แต่ก็เต็มไปด้วยคาร์โบไฮเดรตที่ร่างกายเราย่อยได้ยาก โดยเฉพาะสารที่เรียกว่า "โอลิโกแซ็กคาไรด์" ซึ่งแบคทีเรียในลำไส้จะย่อยแทนเรา และกระบวนการนี้แหละที่ปล่อยแก๊สออกมา

3. เลี่ยงนม และผลิตภัณฑ์นม 🥛
เชื่อว่าหลายๆคนชอบดื่มนม หรือชอบรับประทานชีส ไอศกรีม แต่ทานไปแล้วก็รู้สึกท้องอืดหลังจากนั้น อาจเกิดจากการที่แพ้แลคโตส (Lactose Intolerance) คนที่มีภาวะนี้จะย่อยน้ำตาลแลคโตสในนมไม่ได้ เพราะร่างกายผลิตเอนไซม์ที่ชื่อ "แลคเตส" ไม่เพียงพอ น้ำตาลนี้เลยหมักอยู่ในลำไส้ใหญ่ และทำให้เกิดแก๊ส ลองเปลี่ยนมาดื่มนมที่ไม่มีแลคโตส เช่น นมแลคโตสฟรี หรือนมทางเลือกอย่างนมอัลมอนด์ นมถั่วเหลือง หรือนมโอ๊ต ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดี

4. เลี่ยงหอมและกระเทียม 🧄
หอมและกระเทียมมักอยู่ในอาหารไทยแทบทุกจาน เพราะช่วยเพิ่มทั้งกลิ่น และรสชาติให้น่ากินขึ้น แต่รู้ไหมว่าเป็นอีกหนึ่งตัวการที่ทำให้ท้องอืด โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้ เช่น โรคลำไส้แปรปรวน (IBS) สารในหอมและกระเทียมที่ชื่อ "ฟรุกแทนส์" ย่อยยากสำหรับบางคน และอาจทำให้เกิดแก๊สในลำไส้ใหญ่

5. โพรไบโอติกส์ช่วยได้ 🍶
นอกจากการหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดแก๊ส การเพิ่มโพรไบโอติกส์ในมื้ออาหารก็ช่วยปรับสมดุลลำไส้ได้ อาหารที่มีโพรไบโอติกส์ เช่น โยเกิร์ต กิมจิ มิโซะ และอาหารหมักดอง เพราะฉะนั้นลองเพิ่มอาหารที่มีโพรไบโอติกส์ในมื้ออาหาร แต่ควรเลือกแบบไม่หวาน และเหมาะกับร่างกายของแต่ละบุคคล

ลองปรับเปลี่ยนหรือลดอาหารเหล่านี้ และอย่าลืมดูแลสุขภาพลำไส้ด้วยการเพิ่มโพรไบโอติกส์ ก็จะช่วยลดอาการท้องอืดได้ ถ้าใครเลือกเป็นอาหารเสริมควรกินในปริมาณที่เหมาะนะคะ

สนใจปรึกษาแพทย์เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นแบบองค์รวมได้ที่ ;
⭐️แอดไลน์ : https://lin.ee/FS2glQY
⭐️โทร 091-426-9665

Alpha Lipoic Acid : ALA> ช่วยลดไขมัน ลดคอเลสเตอรอลในหลอดเลือด> ทำหน้าที่เป็น Coenzyme ในขบวนการเผาผลาญน้ำตาลและสารอาหารอ...
28/06/2025

Alpha Lipoic Acid : ALA

> ช่วยลดไขมัน ลดคอเลสเตอรอลในหลอดเลือด
> ทำหน้าที่เป็น Coenzyme ในขบวนการเผาผลาญน้ำตาล
และสารอาหารอื่นๆให้กลายเป็นพลังงาน
> เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง
ช่วยลดโอากาสเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง
> บำรุงฟื้นฟูตับและไต
> ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นๆ เช่น Vitamin C, Vitamin E, Glutathione หรือ Co-enzyme Q10

สนใจปรึกษาแพทย์เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นแบบองค์รวมได้ที่ ;
⭐️แอดไลน์ : https://lin.ee/FS2glQY
⭐️โทร 091-426-9665
#เวชศาสตร์ชะลอวัย #ปรึกษาเวชศาสตร์ชะลอวัยที่ไหนดี #เวชศาสตร์ชะลอวัยCellsecret #วิตามิน #วิตามินผิว #ผิวขาวใส #ฟื้นฟูผิว #สุขภาพดี #วิตามินcellsecret

💊🧬วิตามิน K คืออะไร? 💊🧬วิตามินK จัดอยู่ในกลุ่มของวิตามินชนิดที่ละลายในไขมันเช่นเดียวกับวิตามิน A, D และ E วิตามินK เป็นว...
26/06/2025

💊🧬วิตามิน K คืออะไร? 💊🧬
วิตามินK จัดอยู่ในกลุ่มของวิตามินชนิดที่ละลายในไขมันเช่นเดียวกับวิตามิน A, D และ E วิตามินK เป็นวิตามินที่ละลายในไขมันซึ่งมีส่วนช่วยในการแข็งตัวของเลือด นอกจากนี้วิตามินK ยังมีบทบาทสำคัญในการบำรุงรักษาเนื้อเยื่อกระดูกให้เป็นปกติเนื่องจากวิตามินK ช่วยสนับสนุนการผลิตโปรตีนที่เรียกว่า osteocalcin ซึ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับสุขภาพของกระดูก วิตามินK ที่พบในธรรมชาติมีอยู่ 2 รูปแบบคือวิตามินK1 (phylloquinone) และวิตามินK2 (menaquinone) และยังมีวิตามินK รูปแบบต่างๆที่ได้จากการสังเคราะห์ ซึ่งรูปแบบที่สามารถละลายในน้ำได้เรียกว่าวิตามินK3 (menadione) ที่โดยปกติจะไม่ใช้ในการผลิตอาหารเสริม

แหล่งของวิตามินK1ในธรรมชาติ จะพบในผักสีเขียวเข้ม ส่วนวิตามินK2 ผลิตได้โดยแบคทีเรียในลำไส้ของเรา ซึ่งแบคทีเรียเหล่านี้ยังสามารถเปลี่ยนวิตามินK1 ให้เป็นวิตามินK2 แบบต่างๆซึ่งในเด็กทารกยังไม่สามารถที่จะสร้างวิตามินK ได้ เรามักจะได้รับวิตามินK1 และวิตามินK2 ในปริมาณที่เท่าๆกัน วิตามินK ถูกค้นพบโดยนักชีวเคมีชาวเดนมาร์กชื่อ Henrik Dam ในปี พ. ศ. 2472 ซึ่งภายหลังเขาได้รับรางวัลโนเบล สาเหตุที่เรียกวิตามินชนิดนี้ว่าวิตามินK เพราะมาจากคำว่า Koagulation ในภาษาเดนมาร์กมีความหมายว่า การแข็งตัวของเลือด ซึ่งเป็นความสามารถของเลือดในการแข็งตัว และระยะเวลาที่ใช้ในการแข็งตัวของเลือด วิตามินK2 สามารถพบได้ในรูปแบบต่างๆเช่น MK- 4 ถึง MK-14 อย่างไรก็ตามรูปแบบMK-10 ขึ้นไป จะพบได้น้อย จำนวนตัวเลขหลังMK หมายถึงความยาวของจำนวนหน่วย isoprene ที่มาต่อกัน ในอาหารเสริมมักใช้เฉพาะ MK-7 และ MK-4 เท่านั้น

สำนักงานความปลอดภัยด้านอาหารของสหภาพยุโรป (EFSA) ได้ทำการประเมินหลักฐานการศึกษาของวิตามินเค และได้ให้การรับรองดังต่อไปนี้:
• วิตามินK มีส่วนช่วยในการบำรุงกระดูกให้เป็นปกติ
• วิตามินK ช่วยในการแข็งตัวของเลือดให้ปกติ

สนใจปรึกษาแพทย์เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นแบบองค์รวมได้ที่ ;
⭐️แอดไลน์ : https://lin.ee/FS2glQY
⭐️โทร 091-426-9665
#เวชศาสตร์ชะลอวัย #ปรึกษาเวชศาสตร์ชะลอวัยที่ไหนดี #เวชศาสตร์ชะลอวัยCellsecret #วิตามิน #วิตามินผิว #ผิวขาวใส #ฟื้นฟูผิว #สุขภาพดี #วิตามินcellsecret

2 วิตามินที่ไม่ควรทานคู่กัน คือวิตามิน B12 และวิตามิน Cเนื่องวิตามินบี 12 และวิตามินซี เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ ทั้งสองจ...
24/06/2025

2 วิตามินที่ไม่ควรทานคู่กัน คือวิตามิน B12 และวิตามิน C

เนื่องวิตามินบี 12 และวิตามินซี เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ ทั้งสองจะแย่งกันดูดซึมในร่างกาย ทำให้วิตามินบี 12 ถูกดูดซึมได้น้อยลง การทานวิตามินซีร่วมกับวิตามินบี 12 อาจส่งผลให้ร่างกายไม่ได้รับประโยชน์จากวิตามินทั้งสองอย่างเต็มที่

ข้อแนะนำในการรับประทาน
>>หากต้องทานวิตามินทั้งสองร่วมกัน ควรทานห่างกันอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง.
>>หรืออาจจะเลือกทานวิตามินทั้งสองในมื้ออาหารที่ต่างกัน.
>>ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ การรับประทานอาหารเสริม หรือวิตามินทุกชนิดควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง

สนใจปรึกษาแพทย์เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นแบบองค์รวมได้ที่ ;
⭐️แอดไลน์ : https://lin.ee/FS2glQY
⭐️โทร 091-426-9665
#เวชศาสตร์ชะลอวัย #ปรึกษาเวชศาสตร์ชะลอวัยที่ไหนดี #เวชศาสตร์ชะลอวัยCellsecret #วิตามิน #วิตามินผิว #ผิวขาวใส #ฟื้นฟูผิว #สุขภาพดี #วิตามินcellsecret

หลายคนเวลาไปตรวจเลือดก็จะเจอว่าไตรกลีเซอร์ไรด์สูง รู้ไหมว่า “ไตรกลีเซอร์ไรด์” ไม่ใช่แค่ตัวเลขในผลตรวจเลือด แต่มันเป็นตัว...
22/06/2025

หลายคนเวลาไปตรวจเลือดก็จะเจอว่าไตรกลีเซอร์ไรด์สูง รู้ไหมว่า “ไตรกลีเซอร์ไรด์” ไม่ใช่แค่ตัวเลขในผลตรวจเลือด แต่มันเป็นตัวการที่ทำให้เกิดโรคหัวใจได้ เราอาจไม่รู้ว่าอาหารเช้าที่เรารับประทานทุกวัน จริง ๆ แล้วมีส่วนทำให้ไตรกลีเซอร์ไรด์เพิ่มขึ้น และเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาหัวใจในอนาคตได้

1. ขนมปังขาว
ใครที่ชอบทานขนมปังขาวกับแยมหวาน ๆ อาจต้องคิดใหม่ เพราะเป็นแป้งง่ายต่อการย่อยและดูดซึมเข้าสู่ร่างกายเร็ว ทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งปรี๊ด นั่นแหละคือสาเหตุที่ทำให้ไตรกลีเซอร์ไรด์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อันนี้เลี่ยงได้เลี่ยง
2. ซีเรียล
อาหารประเภทนี้มีรสหวาน เชื่อว่าหลายคนคงชอบซีเรียลกรอบ ๆ ใส่นมตอนเช้า แต่ต้องระวัง เพราะซีเรียลที่ขายทั่วไปบางยี่ห้อใส่น้ำตาลมาเต็ม ๆ ยิ่งถ้ารับประทานทุกวัน ไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือดก็พุ่งขึ้นแบบไม่รู้ตัว ทางที่ดีควรเลี่ยง หรือลองเลือกรับประทานเป็นธัญพืชดีกว่า
3. น้ำผลไม้ที่หวานเกินไป
น้ำผลไม้ตอนเช้า ฟังดูเป็นอะไรที่ดี บางคนอยากเติมความหวานแต่เช้า แต่ความจริงแล้วน้ำผลไม้ที่ขายส่วนมากใส่น้ำตาลเพิ่มเข้าไปเพื่อให้ได้รสชาตที่ต้องการ ดื่มแล้วน้ำตาลพุ่ง แถมไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือดก็พุ่งตามมาเหมือนกัน ถ้าอยากได้ประโยชน์จริง ๆ ลองเปลี่ยนมาทานผลไม้สดแทน จะได้ไฟเบอร์ วิตามินเต็มที่ และไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำตาลที่แอบแฝงอยู่ แต่ควรเลือกเป็นผลไม้ที่ไม่หวานเช่น ฝรั่ง แก้วมังกร เป็นต้น
4. เบคอน ไส้กรอก และอาหารแปรรูป
อาหารเช้าที่ประกอบด้วยไส้กรอก เบคอน หรือแฮมที่หลายท่านชอบทาน แต่อาหารแปรรูปเหล่านี้มักจะมีไขมันอิ่มตัวสูง ซึ่งคือตัวการใหญ่ที่ทำให้ไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือดสูงขึ้น อันนี้ควรเลี่ยงเป็นอย่างมา ลองเปลี่ยนมาทานไข่ต้ม ไก่ไม่ติดหนัง หรือปลา รับรองว่าอร่อยเหมือนกันและยังดีต่อสุขภาพหัวใจอีกด้วย
5. โดนัท ครัวซองต์ ขนมอบทั้งหลาย
โดนัทกรอบนอกนุ่มใน ครัวซองต์หอมกรุ่น แต่ขนมอบเหล่านี้ คือแป้งแปรรูป ซึ่งจะเต็มไปด้วยแป้งขัดขาว น้ำตาล และไขมันอิ่มตัว ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่ทำให้ไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือดสูงปรี๊ด อันนี้ควรหลีกเลี่ยง หรือนานๆทีรับประทานทีจะดีกว่า

สนใจปรึกษาแพทย์เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นแบบองค์รวมได้ที่ ;
⭐️แอดไลน์ : https://lin.ee/FS2glQY
⭐️โทร 091-426-9665
#เวชศาสตร์ชะลอวัย #ปรึกษาเวชศาสตร์ชะลอวัยที่ไหนดี #เวชศาสตร์ชะลอวัยCellsecret #วิตามิน #วิตามินผิว #ผิวขาวใส #ฟื้นฟูผิว #สุขภาพดี #วิตามินcellsecret

เหนื่อยบ่อย เพลียง่าย อาจเพราะ "ตับมีปัญหา"  เสี่ยงมะเร็งไม่รู้ตัว !มาดูกันว่า ตับเกี่ยวอะไรกับอาการแบบนี้ และจะรู้ได้ยั...
20/06/2025

เหนื่อยบ่อย เพลียง่าย อาจเพราะ "ตับมีปัญหา" เสี่ยงมะเร็งไม่รู้ตัว !
มาดูกันว่า ตับเกี่ยวอะไรกับอาการแบบนี้ และจะรู้ได้ยังไงว่าเราควรเริ่มหันมาดูแลมันบ้างแล้ว
1. ตับ = โรงงานลับผลิตพลังงานของร่างกายที่ไม่ทำหน้าแค่กรองสารพิษ แต่จริง ๆ แล้ว ตับทำหน้าที่เปลี่ยนอาหารที่เรากินให้กลายเป็นพลังงานแบบที่ร่างกายเอาไปใช้ได้ถ้าตับเริ่มทำงานช้าลง หรือมีปัญหา ระบบการสร้างพลังงานก็จะติดขัด ทำให้รู้สึกเหนื่อยล้า เพลียบ่อย ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ใช้แรงอะไรมากมายเลย คือตับจะเปลี่ยนน้ำตาลเป็นพลังงานสำรอง พอเวลาร่างกายต้องใช้ จะได้ดึงออกมาใช้ได้เลยถ้าระบบนี้รวน แล้วเราก็จะรู้สึกเหมือน "ไม่มีแรง" ตลอดเวลา

2. “ไขมันพอกตับ” จริง ๆ แล้ว คนไม่กินเหล้าก็เป็นได้ง่ายมาก โดยเฉพาะถ้าชอบกินของหวาน ของมัน หรือมีน้ำหนักเกินนิด ๆ พอไขมันเริ่มสะสมในตับมากเกินไป ตับจะเริ่มทำงานได้ช้าลง กรองของเสียช้า สร้างพลังงานน้อยลงร่างกายปรับเหมือนอยู่ในโหมด “พลังงานต่ำ” ตลอดเวลา เหมือนมือถือที่แบตเหลือ 10%

3. ตับอักเสบอาจไม่ได้ทำให้รู้สึกเจ็บทันที แต่เบื้องหลังนั้น ร่างกายเรากำลังใช้งานหนักมากเพราะเมื่อเซลล์ตับโดนทำลาย ร่างกายต้องใช้พลังงานไปกับการซ่อมแซม แล้วพลังงานที่เหลือก็เลยไม่พอให้เราใช้ในชีวิตประจำวัน เวลาตับอักเสบ จะมีการปล่อยสารที่กระตุ้นภูมิคุ้มกัน (เรียกว่า cytokines) สารพวกนี้จะทำให้เรารู้สึกอ่อนเพลีย ทั้งที่ไม่ได้ออกกำลังอะไรเลย

4. พังผืด ปล่อยไว้เสี่ยงมะเร็งถ้าตับอักเสบนาน ๆ พังผืดก็จะเริ่มสะสมขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็น “ตับแข็ง” ซึ่งเป็นภาวะที่ตับเริ่มเสียรูปทรง แข็งตัว และทำงานได้ไม่ดีเหมือนเดิม
ตับแข็งคือจุดเริ่มต้นของ “มะเร็งตับ” ได้ โดยเฉพาะในคนที่เป็นไวรัสตับอักเสบบีหรือซีอยู่เดิม หรือมีภาวะไขมันพอกตับรุนแรงแบบเรื้อรัง อาการของมะเร็งตับในช่วงแรกอาจไม่ชัดเจนเลย บางคนก็แค่ “เพลียบ่อย” “ไม่ค่อยอยากกินข้าว” หรือ “น้ำหนักลด” แบบไม่รู้ตัว จนมารู้ทีหลังว่าก้อนในตับใหญ่ไปแล้ว

5. สัญญาณอื่นที่มักมากับความเหนื่อยนอกจากอาการเหนื่อยเรื้อรัง ตับที่เริ่มมีปัญหามักส่งสัญญาณอื่น ๆ มาด้วย ถ้าเจอหลายข้อนี้พร้อมกัน แนะนำให้ลองไปตรวจเช็กตับดูบ้างนะคะ
•เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
•แน่นท้อง ท้องอืดบ่อย
•ผิวเหลือง ตาเหลือง
•ปัสสาวะสีเข้ม อึซีด
•คันตามตัวแบบไม่มีผื่น
สิ่งพวกนี้อาจดูเล็ก ๆ แต่รวมกันแล้วก็ชวนให้สงสัยได้ว่า ตับอาจมีปัญหาโดยที่เราไม่รู้ตัวเลยค่ะ
สนใจปรึกษาแพทย์เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นแบบองค์รวมได้ที่ ;
⭐️แอดไลน์ : https://lin.ee/FS2glQY
⭐️โทร 091-426-9665

ที่อยู่

Amphoe Bangkok Noi

เวลาทำการ

อังคาร 11:00 - 20:00
พุธ 11:00 - 20:00
พฤหัสบดี 11:00 - 20:00
ศุกร์ 11:00 - 20:00
เสาร์ 11:00 - 20:00
อาทิตย์ 11:00 - 20:00

เบอร์โทรศัพท์

+66898226266

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Grand Esta Clinicผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง Grand Esta Clinic:

แชร์

Our Story

Grand Esta (The Global House Of Grand Beauty)