Area42 Thailand Welcome To Area Of Smiles - Area 42 Thailand
(1)

07/07/2025

สุดฉาว! แฉ สธ.หมอจ่ายปุ๊นไม่พอ ส่อมีไม่ถึงพันคน แต่ร้านปุ๊นมี 18,000 แห่ง จงใจบีบให้ปิดกิจการ!?
แหล่งข่าวจากกระทรวงสาธารณสุข ขุดข้อมูลแฉยับ ซัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จงใจปิดบังข้อมูล ‘หมอไม่พร้อม’ ตะลึง! ตัวเลขหมอที่จ่ายยาปุ๊นได้มีไม่ถึง 1,000 คน สวนทางยอดสถานบริการทั่วประเทศ 18,000 แห่ง ขณะที่ สธ.บีบห้ามจ่ายใบสั่งแพทย์ออนไลน์ผ่าน Tele-med พร้อมตั้งคำถามจงใจบีบให้ผู้ประกอบการเจ๊งและรังแกชาวบ้านหรือไม่
แหล่งข่าวจากกระทรวงสาธารณสุข ชี้ให้เห็นถึงช่องโหว่กฎควบคุมปุ๊นฉบับใหม่ที่บังคับให้ใช้ใบสั่งจ่ายยาจากแพทย์ หากตัดแพทย์แผนปัจจุบันที่ไม่จ่ายยาปุ๊นออกไป ฐานข้อมูลของกรมการแพทย์แผนไทยฯ ในปี 2567 พบว่ามีหมอแพทย์แผนไทยในระบบอยู่เพียง 3,249 คน ในจำนวนนี้มีตำแหน่งราชการรองรับแล้วซึ่งจะไม่มารับจ็อบจ่ายปุ๊นแน่นอน แบ่งเป็น ข้าราชการ 1,887 ตำแหน่ง พนักงานกระทรวง 998 คน และลูกจ้างราชการ 364 คน ดังนั้นจึงเหลือแพทย์แผนไทยอีกไม่ถึง 1,000 คน ที่อยู่ในระบบ ซึ่งแน่นอนว่าในจำนวนนี้อาจมีเพียง 20-30% หรือไม่เกิน 300 คน ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรปุ๊นและสามารถจ่ายยาปุ๊นได้ ดังนั้นจึงขัดแย้งกับเงื่อนไขที่บังคับให้สถานบริการ 18,000 แห่งต้องปรับตัวเพื่อมีหมอออกใบสั่งจ่ายยา รวมถึงการปรับให้เป็นรูปแบบคลินิกต้องมีหมอประจำนั้น คล้ายเป็นการบีบให้ผู้ประกอบการไปเจอทางตันหรือไม่
ด้าน นายแพทย์สมยศ กิตติมั่นคง อาจารย์พิเศษด้านแพทย์เวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เปิดเผยกับ Channel Weez Thailand ว่า การปรับเงื่อนไขการจ่ายปุ๊นนั้นมีความไม่พร้อมทั้งในเรื่องบุคลากรแพทย์ที่อาจไม่เพียงพอ ไปจนถึงหลักการของแพทย์สภาแขนงต่างๆที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าแบบไหนอนุญาตให้กระทำได้ ซึ่งจะไม่ขัดต่อจรรยาบรรณวิชาขีพจนต้องเสี่ยงถูกยึดใบประกอบวิชาชีพแพทย์ โดยเฉพาะแพทย์ที่ไม่ได้ประจำสถานพยาบาลสามารถดำเนินการจ่ายยาที่บ้านได้หรือไม่ ไปจนถึงเงื่อนไขการใช้ระบบการแพทย์ทางไกล Tele-med ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งสภาแพทย์แต่ละแห่งยังมีรายละเอียดการรับรองที่ไม่ตรงกัน จึงทำให้กลุ่มแพทย์ไม่กล้าดำเนินการ และยิ่งซ้ำเติมปัญหาที่แพทย์มีน้อยอยู่แล้ว

รายงานข่าวจาก Channel Weez Thailand ระบุว่า ช่วงที่ผ่านมา สธ.มักออกมายืนยันว่าระบบแพทย์มีเพียงพอรองรับถึง 30,000 คน ทว่าส่วนใหญ่เป็นแพทย์แผนปัจจุบันในโรงพยาบาล ขณะที่จำนวนแพทย์แผนไทยก็มีน้อยเกินไป ประกอบกับการบีบไม่ให้ผู้ประกอบการใช้ระบบออนไลน์ผ่าน Tele-med เหมือนจงใจทำให้ประกอบการต่อไปไม่ได้ ทั้งที่ความจริงแล้ว สธ.รู้เรื่องนี้ดีอยู่เต็มอก เมื่อดูจากแผนปฏิรูปกำลังคนสาธารณสุขในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นแผนงานเร่งด่วน เพราะพบว่าปัจจุบันจำนวนแพทย์มีสัดส่วนไม่เพียงพอต่อประชากร ส่งผลให้หมอทำงานหนักมาก แล้วหมอที่ไหนจะเอาเวลามานั่งจ่ายยาปุ๊น โดยเฉพาะที่หนักสุดคือแพทย์แผนไทย มีสัดส่วนต่อประชากรอยู่ที่ 1 : 11,339 คน สธ.จึงมีแผนเพิ่มบุคลากรส่วนนี้อีก 18,169 คน หรือเพิ่มมากกว่าเดิม 4-5 เท่าจากปัจจุบัน นั่นตอกย้ำได้ชัดเจนว่าเรื่องทั้งหมดนี้ สธ.รู้ดีอยู่แล้ว แต่เหตุใดจึงเร่งรีบดำเนินการบนความไม่พร้อมทุกภาคส่วน แบบนี้จะปฏิเสธว่าไม่มีวาระทางการเมืองแอบแฝงได้อย่างไร??

06/07/2025

กลุ่มยืนยันตัวตน “ฟาร์มและร้านกัญชา” เพื่อฟ้องศาลปกครอง

กลุ่มนี้จัดตั้งขึ้นเพื่อใช้สำหรับ
-ยืนยันตัวตนอย่างถูกต้องของผู้ร่วมฟ้อง
-รวบรวมข้อมูลทางกฎหมาย
-ติดตามความคืบหน้าของคดี และประสานงานกับทีมทนาย
-แจ้งข่าวสารและขั้นตอนต่าง ๆ อย่างเป็นทางการ

เงื่อนไขการเข้ากลุ่ม

ต้องเป็น “เจ้าของฟาร์ม” หรือ “ร้านกัญชา” ที่
– มีใบอนุญาตถูกต้อง
– ได้รับผลกระทบและเกิดความเสียหายจากประกาศกระทรวงฯ

ต้อง ตัดสินใจเข้าร่วมการฟ้องคดีต่อศาลปกครองแล้วเท่านั้น

พร้อม ยืนยันข้อมูล
– ชื่อ-นามสกุล
– ชื่อร้าน
– เบอร์โทร
-พร้อมชำระค่าใช้จ่ายแบบกลุ่มสำหรับค่าจ้างทนาย เมื่อได้จำนวนคนตามที่กลุ่มสรุปร่วมกัน
– แนบหลักฐานใบอนุญาต/ภาพกิจการ เมื่อแอดมินแจ้งภายหลัง

ไม่เปิดรับผู้ที่ยังลังเล หรือยังไม่ตัดสินใจฟ้อง
เพื่อความชัดเจนและปลอดภัยในการดำเนินการทางกฎหมาย

เข้าร่วมกลุ่มที่นี่
https://line.me/ti/g/We53d8vpKS

โปรดชุมนุม อย่างสงบ และสันติ 🙏
05/07/2025

โปรดชุมนุม อย่างสงบ และสันติ 🙏

ชุมนุมครั้งนี้ ด้วยความสงบและปราศจากอาวุธเท่านั้น ย้ำว่า ค.ฟ. เยอะมากอย่าแสดงพลังเพราะนั้นหมายถึงท่านกำลังดับอนาคตตัวเองและขอกำหนดให้ผู้อายุเกิน 20 ปีเท่านั้นที่สามารถร่วมการชุมนุมครั้งนี้ได้
หัวใจของเราคือ การชุมนุมด้วยความสงบและปราศจากอาวุธเท่านั้น
ขอแต่งตั้ง ลุงพลไง วัยรุ่นกกดอก เป็น "หัวหน้าคณะรักษาความสงบ" เพื่อดูแลความเรียบร้อยของฝูงชนภายในงาน แม้ขาเขาจะยังไม่หายดีแต่หัวใจเค้าเกิน100ทุกแมตช์ ✌️🪽
ด้วยความเคารพ
พงศ์ธร ตั้งบวรไพศาล
ผู้ขออนุญาตจัดการชุมนุมและประสานงานเครือข่าย
เขียนอนาคตกัญชาไทย
ประชาชนกัญชา
Cannakin แคนนาคิน
20+

04/07/2025

ปฏิบัติการ 7กรกฎาคม 2568

เขียนอนาคตกัญชาไทยจะสร้างแผนปฏิบัติการต่อเนื่องจนกว่าจะเกิด พ.ร.บ.กัญชาประเทศไทย

7 กรกฎาคม 2568
13.00 น. เปิดโปงเกมส์ของสมศักดิ์ เทพสุทินในการผูกขาดกัญชา
14.00 น. ยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
15.30 น. ปักหลักพักค้างที่กระทรวงสาธารณสุข
• สาธิตการปรุงยากัญชา
• กิจกรรมแสดงเจตนารมณ์ผลักดัน พ.ร.บ.กัญชา
18.30 น. อภิปรายไม่ไว้วางใจสมศักดิ์ เทพสุทิน
20.30 น. สารคดีกัญชาของประชาชน
21.30 น. ประชุมชาวกัญชาเพื่อกำหนดปฏิบัติการ
22.30 น. พิธีกรรมปกป้องพืชกัญชายาของประชาชน

8 กรกฎาคม 2568
10.00 น. แถลงการณ์แผนปฏิบัติการคืนกัญชาสู่ประชาชน

04/07/2025
04/07/2025

เปิดโปง!! วาทกรรมเหมารวม “โยนบาปสายเขียว” อ้างข้อมูลบิดเบือน รังแกชาวบ้าน-ปกปิดความชิบหายของชาติ
รัฐบาลเพื่อไทยอ้าง ‘ปุ๊นเสรี’ จึงยกระดับควบคุมเข้มข้น เปิดช่องเอื้อนายทุน พร้อมโยนบาปสายเขียวมาเป็นตัวชูโรงเรียกคะแนนความนิยมทางการเมือง ฝังกลบความชิบหายของชาติ ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาความมั่นคงไปจนถึงเรื่องภาษีทรัมป์ที่อีก 7 วันยังไม่มีคำตอบ ภาคการส่งออกติดลบ การท่องเที่ยวเจ๊งระนาว ชาวบ้านหมดหวังกับอนาคต จะมีพืชเศรษฐกิจใหม่มาช่วยให้ลืมตาอ้าปาก ยังเจอหมู่มารเข้ารุกรานทั้งเครือข่ายหมอ-ข้าราชการ
อ้างข้อมูลด้านเดียวชูความชอบธรรม แต่ไม่มองผลทางเศรษฐกิจ คล้ายนักรบห้องแอร์ แบบนี้แหละ “สมกับพวกหัวหมอ”
ล่าสุด เครือข่ายกลุ่มหมออกมาจ้อหนุนล็อคปุ๊นเชิงการแพทย์ มองแคบเจาะแค่ปัญหาสังคมมาตีขลุมหนุนกระทรวงสาธารณสุข แต่สงสัยลืมมองมิติเศรษฐกิจ-ซอฟต์เพาเวอร์-ท่องเที่ยวและตัวเลขลงทุน ที่มีการเปิดนโยบายให้คนมาลงทุนทำ แล้วจู่ๆมาปิดกันจนเจ๊งระนาว เกิดความเสียหายนับหมื่นล้านบาท พวกกลุ่มหมอยังนั่งท่องคาถาเป่าฟูสังคมให้โลกสวย โดยไม่สนใจผู้เสียหายที่ครอบครัวได้รับผลกระทบและต้องตกงาน โดยเฉพาะวาทกรรมของหมอที่บอกไม่ใช่เรื่องการเมือง ซึ่งขัดแย้งกับความจริงที่เจ้าหน้าที่กรมการแพทย์ยอมรับว่านโยบายมีการรีบเร่งลนลานจนต้องอัพเดทความคืบหน้ากันรายชั่วโมง รวมถึงระบบรองรับทั้งบุคลากร GACP จุดออกใบรับรองแพทย์ที่ไม่ได้เตรียมการไว้ล่วงหน้า จะปฏิเสธว่าเป็นวิธีดำเนินการที่เร่งรีบแบบนี้-ไม่มีวาระการเมืองแอบแฝงได้อย่างไร
วาทกรรมแหกตาลักษณะนี้ยังน่าจับตามอง เมื่อเห็นกลุ่มเครือข่ายเยาวชนจ้องยื่นเรื่องคัดค้านปุ๊น แต่น่าสงสัยว่าทำไมไม่เคยมีการคัดค้านกระท่อม หรือว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของหุ่นเชิดลิเกโรงใหญ่จากใครบางคนที่ผลักดันปลดกระท่อมหรือไม่ น่าสนใจว่าเรื่องกระท่อมทั้งวงการแพทย์และกระทรสวงสาธารณสุขเงียบฉี่ ทั้งที่มันแพร่กระจายไปไกลกว่าปุ๊นหลายเท่า มีทั้งร้านแผงลอย ร้านข้างวถนน ร้านน้ำต้ม วัยรุ่นพลังใบ เยาวชนนั่งต้ม 4 x 100 กันเอิกเกริก ร้านกระท่อมมีอยู่ทั่วไปในทุกชุมชน แต่มูลค่าทางเศรษฐกิจต่างจากปุ๊นลิบลับไม่ต่ำกว่า 2 เท่าตัว เหตุใดกลุ่มหัวหมอและเจ้ากระทรวงหมอจึงเงียบฉี่โดยเลือกโจมตีพืชที่มูลค่าทางเศรษฐกิจสูงกว่า จึงน่าสนใจว่ามีขบวนการหลอกใช้เด็กมาเป็นโล่กำบังทางการเมืองเช่นนั้นหรือ ซึ่งยังไม่นับรวมประเด็นผลประโยชน์ค่าคอมมิชชั่นค่าจ่ายยาแผนปัจจุบัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง hidden agenda ที่หมอออกมาต่อต้านเพราะต้องการรักษาผลประโยชน์ตรงนี้ไว้

“เมื่อครั้ง รัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยได้ดำเนินการปลดพืชกระท่อมออกจากพ.ร.บ.ยาเสพติด ตอนนี้น้ำกระท่อมกลายเป็นปัญหาที่มีขายทุกตรอก ซอกซอย ส่งผลให้เด็กและเยาวชนนำไปผสมทำยาเสพติดที่เรียกว่า 4 x100 จนเกิดอาการคลั่ง อาละวาดไปทั่ว และสมองเสื่อม นี่คือผลงานบาปที่ทิ้งไว้หรือไม่ โดยปล่อยให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง ต้องรับตามยถากรรมต่างหาก” นายศุภชัย ใจสมุทรกล่าว สมาชิกพรรคภูมิใจไทย กล่าว
การกล่าวอ้างข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขและกลุ่มต่อต้านบางกลุ่มที่มีการจัดประชุมกันอิกเกริกโดยไม่แน่ใจว่ามีการใช้งบประมาณจากภาครัฐที่มาจากภาษีประชาชนมาจัดงานโจมตีปุ๊นหรือไม่ แถมยังมีคนกล่าวอ้างตัวเลขข้อมูลเท็จพูดวนไปแบบ Propaganda ไม่ว่าจะเป็น เรื่องเยาวชนใช้ปุ๊นเพิ่มขึ้น 10 เท่านั้นเป็นข้อมูลปลอม มีคนท้าฟ้องศาลเปิดข้อมูลก็ยังไม่เห็นมีใครกล้าเหมือนตอนเอามากล่าวอ้าง เช่นเดียวกับ ดร.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ที่จับโป๊ะเรื่องที่กลุ่มเครือข่ายหมออ้างว่าปุ๊นทำให้งบประมาณดูแลผู้ป่วยจิตเวทเพิ่มขึ้น 15,000 ล้านบาทนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะตรวจพบงบประมาณเพียง 70 ล้านบาท ขณะที่การอ้างว่าปุ๊นทำให้ตัวเลขผู้ป่วยทางจิตเพิ่มขึ้น 48,000 คนนั้น พอไปดูจริงมีเพิ่มขึ้นแค่หลัก 1,000 คน พฤติกรรมเหล่านี้สวนทางกับประเทศที่เจริญแล้วอย่างสหรัฐอเมริกา ที่ประชากรไม่โง่ให้ถูกหลอกง่ายจึงมีงานวิจัยปุ๊นเชิงการแพทย์มากมายกว่า 30,000 ฉบับ ที่ยืนยันประโยชน์ในทุกมิติไปจนถึงการนำภาษีมาสร้างสาธารณะประโยชน์ ไม่เหมือนหมอไทยที่มุ่งเอาข้อมูลงานวิจัยง่อยๆในไทยมาโจมตีโดยปฏิเสธงานวิจัยระดับโลกของประเทศอื่น ปกปิดไม่เอามาเผยแพร่ให้ประชาชนรับรู้ นี่ยิ่งตอกย้ำความศิวิไลซ์ที่แตกต่างราวฟ้ากับเหว
แต่ความเหลี่ยมของ สธ.ยุคแม้ว คือการใช้วาทกรรมการเมืองโจมตีปุ๊น อ้างเป็นปัญหาหนักหนา แต่พอบทตัวเองจัดงานมหกรรมสมุนไพร “ก็พลิกลิ้น” อวยปุ๊นว่าเป็นพืชซอฟต์เพาเวอร์วัฒนธรรมนวดไทยได้แบบหน้าตาเฉย สวนทางกับวาทกรรมที่พ่นโจมตีสายเขียวเพื่อเอาคะแนนเสียงทางการเมือง สิ่งที่ชัดเจนที่สุดของกลุ่มหัวหมอและเครือข่ายพวกนี้คือการหยิบยกข้อมูลด้านเดียวมาโจมตี พร้อมเหมารวมว่าผู้บริโภคปุ๊นเป็นพวกคนสูบทั้งหมด โดยไม่สนใจว่ามันมีกลุ่มคนป่วย กลุ่มเกษตรกรชาวบ้าน กลุ่มผู้ประกอบการตัวเล็กตัวน้อยและกลุ่มนักท่องเที่ยวรวมอยู่ด้วยโดยเฉพาะคนใช้เชิงการแพทย์ที่มีอยู่ถึง 75% เมื่อฝ่ายต่อต้านมืดบอดจึงกล่าวอ้างข้อมูลแบบทึ่มทื่อ โดยใช้ข้อเสียส่วนน้อยมาสร้างความกลัวให้กับสังคมไทยที่เคยชินกับการถูกทำให้กลัวแล้วปกครอง โดยตัดทิ้งข้อมูลประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและสุขภาพซึ่งสามารถกระจายเงินไปสู่ฐานรากได้ สะท้อนแนวคิดของประเทศไม่พัฒนาที่มีวิถีปฏิบัติแตกต่างจากชาติอื่นๆ

รัฐบาลพยายามชูประเด็นปุ๊นเล่นใหญ่หวังลมๆแล้งๆว่าจะหวาดคะแนนความนิยมด้านการปราบยาเสพติดมากล่าวอ้างว่าเป็นผลงานของรัฐบาล ความพยายามทั้งหมดนี้อาจเป็นเพียงการตีขลุมเพื่อฝังกลบปัญหาความชิบหายที่รัฐบาลชุดนี้ทิ้งเอาไว้ สะท้อนภาพการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ที่มุ่งแก้ปัญหาทางการเมืองมากกว่าการแก้ปัญหาของประเทศชาติ ในขณะที่ความเดือดร้อนเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า รายได้ฝืดเคือง ค่าครองชีพสูง หนี้ครัวเรือนท่วม โรงงาน-ห้าง-ร้าน-บริษัททยอยปิดตัว คนตกงาน เศรษฐกิจโตต่ำ การซื้อขายในตลาดเงียบเหงา หนี้ครัวเรือนท่วมสูงที่สุดในโลก ปัญหาเฉพาะหน้ายังแก้ไม่ได้ ส่วนปัญหาความมั่นคงไทย-เขมรคงไม่ต้องพูดถึง ระดับนักลงทุนยังไม่รอด ตลาดหุ้นไทยดิ่งลงเท่าช่วงวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์โดยมีดัชนีตกต่ำสุดในประวัติศาสตร์ เศรษฐกิจไทยพังคามือในยุคของรัฐบาลแพทองธารจากพรรคเพื่อไทย รายได้เกษตรกรตกต่ำแทบทุกพืช ทั้งข้าว อ้อย มันสำปะหลัง รวมถึงข้าวโพด โดยรายได้ชาวนาลดลงตั้งแต่นาปีถึงนาปรังเกือบ 20% ล่าสุดข้าวราคาเหลือตันละ 5,000 บาท จากเดิมที่เคยทะลุ 20,000 บาท ซ้ำร้ายรัฐบาลยังอ้างข้อมูลบิดเบือนปิดล็อคพืชเศรษฐกิจใหม่ปีละ 280,000 ล้านบาท ที่จะช่วยให้ชาวบ้านลืมตาอ้าปากได้ แต่กลับเอาไปผูกไว้กับมือนายทุนซ้ำรอยธุรกิจเหล้าเบียร์ ส่วนด้านปัญหาค่าครองชีพก็เด่นชัดในเมื่อของแพงทุกอย่างแต่ค่าแรงไม่ปรับขึ้น ความเหลื่อมล้ำรุมโทรมคนไทยจนไม่มีความหวังจะยกระดับฐานะตัวเองได้ แม้จะอ้างผลงานปราบยาเสพติด แต่สวนทางกับยาบ้าแพร่กระจายไปทุกชุมชน และตัวเลขคนเมาแล้วขับสูงติดอันดับต้นๆของโลก สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและเศรษฐกิจ แต่คนดื่มเหล้าไม่ต้องมีใบจ่ายยาบ้างเหรอ ?
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับประเด็นด้านเศรษฐกิจ โดยระบุว่า รัฐบาลเพื่อไทยไม่ได้เก่งด้านเศรษฐกิจ แต่ความสำเร็จที่ได้มาเป็นเพราะโชคช่วย เพราะนายกฯ ไม่มีความรู้และไม่มีความเชี่ยวชาญจนบริหารเศรษฐกิจล้มเหลวคามือ ไม่เหมือนกับที่โฆษณาไว้ จนทำให้ประชาชนหวนนึกถึงรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร มองว่าเศรษฐกิจดีกว่านี้ทั้งที่ก็เลวร้ายที่สุดในรอบ 10 ปี

ที่อยู่

841/2 ม. 3
Amphoe Chiang Saen
57150

เวลาทำการ

จันทร์ 12:00 - 00:00
อังคาร 12:00 - 00:00
พุธ 12:00 - 00:00
พฤหัสบดี 12:00 - 00:00
ศุกร์ 12:00 - 00:00
เสาร์ 12:00 - 00:00
อาทิตย์ 12:00 - 00:00

เบอร์โทรศัพท์

+66624950414

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Area42 Thailandผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram