14/08/2025
♉การเปรียบเทียบประสิทธิภาพของยา Betahistine และ Cinnarizine ในการรักษาอาการเวียนศีรษะจากความผิดปกติของระบบการทรงตัว: การทบทวนหลักฐานเชิงประจักษ์
🤯อาการเวียนศีรษะจากความผิดปกติของระบบการทรงตัวส่วนปลาย (peripheral vestibular vertigo) เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในทางคลินิก โดยมียาหลายกลุ่มที่ใช้ในการรักษา การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์หลักฐานเชิงประจักษ์จากงานวิจัยที่เปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่างยา Betahistine และ Cinnarizine ซึ่งเป็นยาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการรักษาอาการดังกล่าว
🔰วิธีการศึกษา ทบทวนงานวิจัยทางคลินิก 3 ชิ้นที่สำคัญ:
1. การศึกษาแบบ double-blind crossover (Deering et al., 1986)
2. การศึกษาเปรียบเทียบแบบสุ่มในกลุ่มเดียว (Bodla et al., 2011)
3. การศึกษาแบบสุ่ม multicenter (Scholtz et al., 2019)
✴️ผลการวิเคราะห์
1. ประสิทธิภาพในการลดอาการเวียนศีรษะ:
- Betahistine แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ดีกว่าในการลดความถี่ของอาการเวียนศีรษะ (Deering et al., 1986)
- การศึกษาโดย Bodla et al. (2011) พบว่า Betahistine ลดความรุนแรงของอาการได้ดีกว่า Cinnarizine อย่างมีนัยสำคัญ
- อย่างไรก็ตาม การศึกษาโดย Scholtz et al. (2019) พบว่ายาผสม Cinnarizine+Dimenhydrinate ให้ผลดีกว่า Betahistine
2. ผลข้างเคียงและความทนทานต่อยา:
- Cinnarizine มีแนวโน้มทำให้เกิดอาการง่วงซึมมากกว่า Betahistine
- อัตราการหยุดยาเนื่องจากผลข้างเคียงในกลุ่ม Cinnarizine สูงกว่า (Deering et al., 1986)
- การศึกษาของ Scholtz et al. (2019) รายงานว่ายาผสม Cinnarizine+Dimenhydrinate มีผลข้างเคียงน้อยกว่า Betahistine
3. ระยะเวลาการออกฤทธิ์:
- Betahistine แสดงผลการรักษาที่เร็วกว่าในสัปดาห์แรก (Bodla et al., 2011)
- ยาผสม Cinnarizine+Dimenhydrinate ก็แสดงผลเร็วเช่นกัน (Scholtz et al., 2019)
⭕ข้อสรุปและข้อเสนอแนะ
1. Betahistine น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในกรณีที่:
- ผู้ป่วยต้องการลดความถี่ของอาการเวียนศีรษะ
- ต้องการหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงด้านอาการง่วงซึม
- ต้องการเห็นผลการรักษาเร็ว
2. Cinnarizine หรือ Cinnarizine+Dimenhydrinate อาจพิจารณาใช้เมื่อ:
- ผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อ Betahistine
- ในรูปแบบยาผสม Cinnarizine+Dimenhydrinate แสดงประสิทธิภาพที่ดีในบางการศึกษา
3. ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม:
- ความแตกต่างของขนาดยาในแต่ละการศึกษาอาจส่งผลต่อผลลัพธ์
- ควรพิจารณาปัจจัยเฉพาะตัวผู้ป่วยในการเลือกยา
- จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อประเมินผลในระยะยาว
▶️คำแนะนำทางคลินิก
- ควรพิจารณาเลือกยาตามลักษณะอาการและความต้องการของผู้ป่วยเป็นรายบุคคล
- การติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิดใน 1-2 สัปดาห์แรกมีความสำคัญ
- ควรประเมินผลข้างเคียงโดยเฉพาะอาการง่วงซึมที่อาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและการทำงาน
✴️✴️✴️✴️
💊Cinnarizine (Stugeron®)
✅ กลไกการออกฤทธิ์
- calcium channel blocker ชนิด L-type ลดการหดตัวของหลอดเลือด
- ต้านฮิสตามีน (H1-antagonist) ลดอาการเวียนศีรษะ
- ต้านโดปามีน (D2-antagonist) ลดอาการคลื่นไส้
✅ ระยะเวลาการออกฤทธิ์:
- เริ่มออกฤทธิ์: ~1–2 ชั่วโมงหลังกินยา
- ระยะเวลาออกฤทธิ์สูงสุด (Peak effect): ~2–4 ชั่วโมง
- ระยะเวลาออกฤทธิ์ทั้งหมด: ประมาณ 6–8 ชั่วโมง
🔹 คำแนะนำการใช้:
- มักให้วันละ 3 ครั้ง (ทุก 8 ชั่วโมง) เพื่อรักษาระดับยาในเลือด
- เหมาะสำหรับป้องกันอาการเมารถ/เมาเรือ (กินล่วงหน้า 2 ชั่วโมงก่อนเดินทาง)
- ผลข้างเคียงหลัก: ง่วงซึม → ไม่แนะนำให้ขับรถหลังกินยา
💊Betahistine (SERC®)
✅ กลไกการออกฤทธิ์
- กระตุ้นตัวรับฮิสตามีน H1 เพิ่มการไหลเวียนเลือดหูชั้นใน
- ยับยั้งตัวรับ H3 เพิ่มการหลั่งสารสื่อประสาท
- ลดความดันน้ำในหูชั้นใน (โรค Ménière's)
✅ ระยะเวลาการออกฤทธิ์:
- เริ่มออกฤทธิ์: ~30 นาที–1 ชั่วโมงหลังกินยา
- ระยะเวลาออกฤทธิ์สูงสุด (Peak effect): ~1–3 ชั่วโมง
- ระยะเวลาออกฤทธิ์ทั้งหมด: ประมาณ 4–6 ชั่วโมง
🔹 คำแนะนำการใช้:
- มักให้วันละ 2–3 ครั้ง (ทุก 8–12 ชั่วโมง)
- เหมาะสำหรับโรค Ménière’s หรือเวียนศีรษะจากหูชั้นใน
- ผลข้างเคียงน้อยกว่า cinnarizine (ไม่ง่วงซึม แต่บางคนอาจปวดศีรษะหรือคลื่นไส้)
⭕คำแนะนำเพิ่มเติม
- หากต้องการผลเร็ว: Betahistine เหมาะสมกว่าเพราะออกฤทธิ์เร็ว
- หากต้องการผลยาว: Cinnarizine อาจดีกว่าเพราะออกฤทธิ์นานกว่า
- ผลข้างเคียง: Cinnarizine ทำให้ง่วงมากกว่า → ควรหลีกเลี่ยงการใช้เมื่อต้องขับรถหรือทำงานกับเครื่องจักร
- ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา โดยเฉพาะในผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว เพื่อเลือกยาที่เหมาะสมกับอาการและสภาพร่างกาย รวมทั้งการตอบสนองต่อยา ที่อาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล
😀มีปัญหาเรื่องการใช้ยา เชิญปรึกษาเภสัชกรประจำร้านยา
💢Efficacy and Safety of a Fixed Combination of Cinnarizine 20 mg and Dimenhydrinate 40 mg vs Betahistine Dihydrochloride 16 mg in Patients with Peripheral Vestibular Vertigo: A Prospective, Multinational, Multicenter, Double-Blind, Randomized, Non-inferiority Clinical Trial, Clin Drug Investig. 2019 Sep 30
https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC6800407/
Comparison of efficacy and tolerability of cinnarizine with betahistine in the treatment of otogenic vertigo
December 2011
https://www.researchgate.net/publication/288559778_Comparison_of_efficacy_and_tolerability_of_cinnarizine_with_betahistine_in_the_treatment_of_otogenic_vertigo
A double-blind crossover study comparing betahistine and cinnarizine in the treatment of recurrent vertigo in patients in general practice, 1986
https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/3780284/
อ่านเพิ่มเติม
Cinnarizine: A Contemporary Review, 2017
https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC6841794/
Betahistine dihydrochloride or betahistine mesilate: two sides of the same coin or two different coins, 2017
https://www.researchgate.net/publication/318644139_Betahistine_dihydrochloride_or_betahistine_mesilate_two_sides_of_the_same_coin_or_two_different_coins