เปิดทำการกี่โมง?

จันทร์ 17:00 - 19:30 อังคาร 17:00 - 19:30 พุธ 17:00 - 19:30 พฤหัสบดี 17:00 - 19:30 ศุกร์ 17:00 - 19:30 เสาร์ 09:00 - 12:00

หมอกสิสิน กระดูกและข้อ, 20 ซ. สายน้ำผึ้ง ถ. ศิริมังคลาจารย์ ต. สุเทพ, Amphoe Muang Chiang Mai (2025)

27/11/2025

ขออนุญาตแจ้งวันเปิดทำการประจำเดือน ธันวาคม 2568 ครับ

เวลาเปิดให้บริการ วันจันทร์-ศุกร์ 17.00-19.30 น.
และวันเสาร์ 9.00-12.00 น.

**หยุดเพิ่มวันที่ 16-23 ธค. 68 นะครับ หยุด ปีใหม่ 30 ธค - 2 มค. 69 นะครับ **

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่เบอร์ 0882529792 ครับ

08/10/2025

📱 เล่นมือถือบ่อย ปวดต้นคอ… จริงหรือคิดไปเอง?

ลองนึกภาพตัวเองตอนอยู่บนเตียง หรือระหว่างรอคิวต่าง ๆ
สิ่งแรกที่เราทำคือ “หยิบมือถือขึ้นมาก้มดู” ใช่ไหมครับ

หลายคนอาจรู้สึกปวดเมื่อยที่ต้นคอ บ่า ไหล่
แล้วสงสัยว่า… เล่นมือถือเยอะจริง ๆ ทำให้ปวดคอได้ไหม?
คำตอบคือ “ได้แน่นอนครับ”
และปัจจุบันมีชื่อเรียกทางการแพทย์ด้วยว่า Text Neck Syndrome

⸻

🔍 Text Neck Syndrome คืออะไร?

Text Neck คือภาวะที่เกิดจากการก้มศีรษะดูโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตเป็นเวลานาน
ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณต้นคอและหลังส่วนบนต้องรับน้ำหนักศีรษะมากกว่าปกติ

ศีรษะของคนเราหนักประมาณ 4.5–5 กิโลกรัม
เมื่อก้มลงประมาณ 60 องศา (ท่าที่เราใช้เล่นมือถือบ่อยที่สุด)
แรงที่กดลงบนกระดูกต้นคอจะเพิ่มขึ้นเท่ากับแบกของหนักถึง 25 กิโลกรัม!

ลองคิดดูสิครับ ว่ากล้ามเนื้อและหมอนรองกระดูกต้องทำงานหนักแค่ไหนตลอดวัน

⸻

😣 อาการของ Text Neck Syndrome
• ปวดตึงบริเวณต้นคอ บ่า และไหล่
• ปวดศีรษะด้านหลัง หรือร้าวขึ้นท้ายทอย
• รู้สึกเมื่อยล้า หรือชาที่แขน
• เคลื่อนไหวคอแล้วติดขัด หมุนคอไม่ได้สุด
• บางรายมีอาการ “ชาร้าวลงแขน” จากเส้นประสาทถูกกดทับ

หากปล่อยไว้นานโดยไม่แก้ไข
อาจนำไปสู่ หมอนรองกระดูกคอเสื่อม หรือ กระดูกคอเคลื่อนกดเส้นประสาท ได้ครับ

⸻

🧠 ทำไมคนยุคนี้ถึงเป็นกันเยอะ?

ปัจจุบันคนไทยใช้มือถือเฉลี่ย 4–6 ชั่วโมงต่อวัน
และกว่า 70% ของคนวัยทำงาน “ก้มหน้าดูจอตลอดเวลา”
ท่าทางซ้ำ ๆ แบบนี้คือสาเหตุหลักของการปวดคอเรื้อรังในคนรุ่นใหม่

⸻

✅ วิธีป้องกันและดูแลตัวเอง
1. ยกมือถือให้อยู่ระดับสายตา – ลดการก้มคอ
2. พักทุก 30 นาที – ลุกยืดเส้นหรือหมุนคอเบา ๆ
3. จัดโต๊ะทำงานให้เหมาะกับสรีระ – ปรับเก้าอี้และจอคอมพ์ให้อยู่ระดับตา
4. หลีกเลี่ยงการนอนเล่นมือถือ – โดยเฉพาะท่าก้มคอหรือหนุนหมอนสูงเกินไป
5. ออกกำลังกายเสริมกล้ามเนื้อคอและหลัง – เช่น ท่า Chin Tuck ช่วยให้คอแข็งแรงขึ้น

⸻

🩺 แนวทางการรักษา (โดยแพทย์เฉพาะทาง)

1. การรักษาแบบไม่ผ่าตัด

กายภาพบำบัด:
• ช่วยลดอักเสบของกล้ามเนื้อด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ / เลเซอร์
• ฝึกท่าบริหารคอเพื่อปรับสมดุล
• เรียนรู้ท่านั่งและท่ายืนที่เหมาะสมกับสรีระ

ยา:
• ยาแก้ปวด NSAIDs เพื่อลดอักเสบและอาการปวดตึง
• ยาคลายกล้ามเนื้อในกรณีที่คอเกร็ง
• ยาเฉพาะทางสำหรับผู้ที่มีอาการชาร้าว

การฉีดยาลดอักเสบเฉพาะจุด (Trigger Point Injection):
• สำหรับผู้ที่ปวดมากจากจุดเกร็งของกล้ามเนื้อ
• ฉีดยาปริมาณเล็ก ๆ ตรงตำแหน่งที่ปวด ช่วยลดตึงได้ดี

ปรับพฤติกรรม:
• ใช้อุปกรณ์พยุงคอในช่วงสั้น ๆ หากต้องนั่งทำงานนาน
• ปรับท่าการใช้มือถือและคอมพิวเตอร์

⸻

2. การรักษาแบบผ่าตัด

ส่วนใหญ่ผู้ป่วย Text Neck ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดครับ
แต่หากมีการกดทับเส้นประสาทอย่างชัดเจนจนมีอาการชา อ่อนแรง
หรือรักษาด้วยวิธีอนุรักษ์ 6–8 สัปดาห์แล้วไม่ดีขึ้น
แพทย์อาจพิจารณา ผ่าตัดเอาหมอนรองกระดูกที่กดทับออก (Cervical Discectomy)
หรือ ผ่าตัดผ่านกล้อง (Minimally Invasive Surgery)
ซึ่งช่วยลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ และฟื้นตัวได้เร็ว

⸻

💬 คำแนะนำจากแพทย์
• อาการปวดคอจากมือถือมักเริ่มจากพฤติกรรมซ้ำ ๆ
การปรับท่าทางและพักสายตาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
• ถ้าปวดมาก ชาร้าว หรือขยับคอแล้วเจ็บแปลบ ไม่ควรปล่อยไว้
เพราะอาจเป็นสัญญาณของหมอนรองกระดูกคอเสื่อม

⸻

🧩 สรุป

เล่นมือถือบ่อย ๆ ไม่ใช่เรื่องเล็ก
มันอาจทำให้คุณมีอาการ “Text Neck Syndrome” เรื้อรัง
และหากปล่อยไว้นาน อาจกระทบเส้นประสาทได้ในอนาคต
เริ่มจากการสังเกตท่าทางของตัวเองวันนี้ ยืดเส้นบ้าง พักสายตาบ้าง
แค่นี้ก็ช่วยลดภาระให้กระดูกคอของคุณได้มากแล้วครับ

—

🩺 หมอกสิสิน กระดูกและข้อ
ผศ.นพ.กสิสิน กลั่นกลิ่น
แพทย์เฉพาะทางด้านโรคกระดูกและข้อ
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
📍 กสิสินคลินิก
📞 โทร. 088-252-9792
💬 Line:

05/10/2025

💢 ปวดคออีกแล้ว… อาการแบบไหนควรรีบไปหาหมอ?

อาการปวดคอเป็นหนึ่งในปัญหาที่คนวัยทำงานแทบทุกคนต้องเคยเจอ
แต่รู้ไหมครับว่า บางครั้งมันอาจไม่ได้แค่ “เมื่อย” หรือ “นอนตกหมอน”
แต่อาจเป็นสัญญาณของปัญหาเกี่ยวกับหมอนรองกระดูก หรือเส้นประสาทที่ต้องได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี

วันนี้เรามาดูกันว่า “อาการปวดคอแบบไหน” ควรสังเกต และเมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์เฉพาะทาง

⸻

🔍 ปวดคอเกิดจากอะไร?

สาเหตุของอาการปวดคอมีได้หลายรูปแบบ แบ่งได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่:

✅ 1. ปวดกล้ามเนื้อจากการใช้งานมากเกินไป
• พบได้บ่อยในคนทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ เล่นมือถือ ก้มหน้าเป็นเวลานาน
• กล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ จะเกร็งจนเกิดอาการเมื่อยล้า เจ็บตึง
• มักดีขึ้นเมื่อได้พัก ยืดเส้น หรือประคบร้อน

✅ 2. ข้อต่อกระดูกคอเสื่อม หมอนรองกระดูกเริ่มบางลง
• มักเกิดในผู้ที่อายุเกิน 35 ปี
• อาจมีอาการปวดลึก ๆ ในคอ เคลื่อนไหวแล้วรู้สึกติดขัด
• มีเสียง “กึก ๆ” หรือฝืดขณะหมุนคอ

✅ 3. หมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท
• ปวดร้าวจากคอลงไปที่ไหล่ แขน หรือมือ
• อาจมีอาการชา ปลายนิ้วอ่อนแรง จับของไม่ถนัด
• เป็นภาวะที่ต้องตรวจเช็กและวินิจฉัยอย่างละเอียด

⸻

🛑 สัญญาณเตือนว่า “ไม่ใช่แค่เมื่อย”

หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้ ควรพิจารณาไปพบแพทย์เฉพาะทาง:
• ปวดคอรุนแรงต่อเนื่อง > 1–2 สัปดาห์
• มีอาการ “ชาร้าว” จากคอลงไหล่ แขน หรือปลายนิ้ว
• ปวดจนรบกวนการนอน ใช้ชีวิตประจำวันลำบาก
• รู้สึกอ่อนแรง กล้ามเนื้อลีบ หรือเคลื่อนไหวมือไม่สะดวก
• ปวดคอร่วมกับไข้ หรืออาการทางระบบประสาท (อันนี้ต้องรีบตรวจ!)

⸻

🧘‍♂️ วิธีดูแลตัวเองเบื้องต้น เมื่อปวดคอ

ในกรณีที่อาการยังไม่รุนแรง อาจเริ่มดูแลตัวเองได้ดังนี้:
• หลีกเลี่ยงท่าก้มหน้าต่อเนื่องนาน ๆ เช่น การเล่นมือถือ, นั่งหน้าจอโดยไม่พัก
• ยืดกล้ามเนื้อคอเบา ๆ วันละ 2–3 รอบ เช่น หมุนคอ, เอียงคอค้างไว้ 10 วินาที
• เปลี่ยนท่าทางทุก 30 นาที อย่านั่งนานเกินไป
• ประคบร้อน ตรงบริเวณต้นคอและไหล่ ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย
• จัดท่านอนให้เหมาะสม เช่น ใช้หมอนที่ไม่สูงเกินไป

⸻

🩺 แนวทางการรักษาอาการปวดคอ

✅ การรักษาแบบไม่ผ่าตัด (Conservative Treatment)

ใช้ในกรณีที่อาการไม่รุนแรง หรือไม่มีภาวะเส้นประสาทถูกกดทับขั้นรุนแรง:

1. การใช้ยา
• ยาแก้ปวดและต้านการอักเสบ (NSAIDs)
• ยาคลายกล้ามเนื้อ (สำหรับกลุ่มที่มีอาการเกร็ง ตึง)
• ยาเฉพาะทางกลุ่ม neuropathic pain (ในผู้ที่มีอาการชาร้าว)

2. กายภาพบำบัด
• บริหารกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่
• ฝึกท่าทางที่ถูกต้องเพื่อลดการกดทับ
• ใช้เครื่องอัลตราซาวด์ หรือเลเซอร์ลดการอักเสบเฉพาะจุด

3. การปรับพฤติกรรม
• Ergonomic: ปรับโต๊ะ-เก้าอี้ให้เหมาะกับสรีระ
• ใช้หมอนรองคอในเวลานั่งรถหรือทำงานนาน ๆ

4. การฉีดยาระงับปวด (Selective Nerve Block หรือ ESI)
• สำหรับคนที่มีอาการปวดร้าวจากหมอนรองกระดูกทับเส้น
• ช่วยลดอักเสบเฉพาะจุดได้โดยไม่ต้องผ่าตัด

⸻

⚙️ การรักษาแบบผ่าตัด (เมื่อจำเป็น)

ใช้ในกรณีที่:
• อาการรุนแรง และมีผลต่อการใช้ชีวิต
• มีการกดทับเส้นประสาทอย่างชัดเจน
• การรักษาแบบไม่ผ่าตัดไม่ได้ผลหลัง 6–8 สัปดาห์

แนวทางผ่าตัดที่ใช้ได้แก่:

1. การผ่าตัดหมอนรองกระดูกคอ (Cervical discectomy):
• นำหมอนรองกระดูกที่กดเส้นประสาทออก
• มักใช้ร่วมกับการใส่อุปกรณ์ยึดตรึงข้อ

2. การผ่าตัดผ่านกล้อง (Minimally Invasive Surgery):
• แผลเล็ก ฟื้นตัวไว เหมาะกับบางกรณีที่กดทับเส้นประสาทเฉพาะจุด

⸻

🧠 สรุปสั้น ๆ

ปวดคอ…ไม่ใช่เรื่องเล็กเสมอไป
หากคุณรู้สึกว่าอาการเริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ชาร้าว หรืออ่อนแรง
อย่ารอให้ลุกลาม รีบพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อประเมินอาการอย่างละเอียด
เพราะยิ่งรู้เร็ว ยิ่งมีทางเลือกในการรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัดครับ

—

🩺 หมอกสิสิน กระดูกและข้อ
ผศ.นพ.กสิสิน กลั่นกลิ่น
แพทย์เฉพาะทางด้านโรคกระดูกและข้อ
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
📍 กสิสินคลินิก
📞 โทร. 088-252-9792
💬 Line:

03/10/2025

💧 “น้ำในเข่า” — ความเข้าใจผิดที่เจอบ่อย

“หมอครับ ผมมีน้ำในเข่า ต้องดูดออกไหม?”
“คุณยายบอกว่าเข่าบวมเพราะมีน้ำในข้อ ต้องกินยาขับน้ำ?”

เชื่อไหมครับว่า คำว่า “น้ำในเข่า” เป็นคำที่คนไข้พูดถึงบ่อยที่สุดอย่างหนึ่ง
แต่ความหมายจริง ๆ ในทางการแพทย์ อาจไม่ตรงกับที่หลายคนเข้าใจ

วันนี้เรามาไขความเข้าใจผิด พร้อมดูวิธีรักษาที่ถูกต้องกันครับ

⸻

🔎 “น้ำในเข่า” คืออะไร?

ในข้อเข่าของเราจะมีของเหลวชื่อว่า “น้ำไขข้อ (Synovial fluid)”
หน้าที่ของมันคือช่วยหล่อลื่นข้อ ลดแรงเสียดทานเวลาขยับ ปกติจะมีน้ำเลี้ยงข้อเข่าอยู่ประมาณ 3-5 cc

แต่ในบางกรณี เช่น ข้ออักเสบ, บาดเจ็บ, หรือข้อเสื่อม
ร่างกายจะสร้างน้ำไขข้อเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ → ส่งผลให้เข่าดูบวม ตึง และเจ็บ
ซึ่งนี่แหละครับที่หลายคนเรียกว่า “น้ำในเข่า”

⸻

❌ เข้าใจผิดที่พบบ่อย
• “น้ำในเข่า” = มีน้ำเสีย ต้องดูดออกทุกเคส“
→ ❌ ไม่จริงครับ! การดูดน้ำออกทำเฉพาะในกรณีที่ปวดบวมมาก
เช่น กรณีเข่าบวมมาก เจ็บรุนแรง หรือเพื่อส่งตรวจหาโรค
• “ต้องกินยาขับปัสสาวะเพื่อลดน้ำในข้อ”
→ ❌ ไม่ช่วยเลยครับ เพราะน้ำในข้อไม่ได้เกี่ยวกับน้ำส่วนเกินในร่างกาย

⸻

📌 สาเหตุของภาวะน้ำในเข่า (ข้อบวม)
• ข้อเข่าเสื่อม พบบ่อยที่สุด
• ข้ออักเสบจากรูมาตอยด์ / เก๊าท์
• บาดเจ็บจากกีฬา หรืออุบัติเหตุ
• การติดเชื้อในข้อ (กรณีนี้ต้องรีบรักษา!)

⸻

✅ แนวทางรักษาแบบไม่ผ่าตัด

หากอาการยังไม่รุนแรง และไม่มีภาวะฉุกเฉิน แพทย์มักเริ่มจาก:

1. ยา:
• ยาต้านการอักเสบ (NSAIDs) เช่น ยาแก้ปวด ลดบวม
• ยากลุ่มเสริมข้อ เช่น Diacerine

2. พักการใช้งานข้อ:
• งดขึ้น–ลงบันได
• เลี่ยงการนั่งยอง / พับเพียบ

3. ประคบเย็น:
• ลดบวมและอักเสบในช่วงแรก

4. การทำกายภาพบำบัด:
• บริหารกล้ามเนื้อรอบเข่าให้แข็งแรง ช่วยพยุงข้อ
• ลดการสร้างน้ำเกินจำเป็น

5. ฉีดยาเข้าข้อ :
• เช่น สเตียรอยด์ เพื่อลดอักเสบเฉียบพลัน
• หรือน้ำเลี้ยงข้อเทียม ไฮยาลูโรนิก เพิ่มความหล่อลื่นในข้อ

⸻

⚙️ การรักษาแบบผ่าตัด (ในกรณีที่จำเป็น)

หากพบว่าอาการเรื้อรัง รักษามาหลายเดือนแล้วยังบวมเจ็บ และตรวจพบความเสียหายของข้ออย่างชัดเจน อาจพิจารณา:
• ส่องกล้องล้างข้อ (Arthroscopic debridement):
เพื่อล้างเศษกระดูกอ่อนหรือของเสียในข้อ
• ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม:
ในผู้ที่ข้อเข่าเสื่อมรุนแรง และมีของเหลวในข้อสะสมเรื้อรังร่วมด้วย

⸻

✅ สรุป

“น้ำในเข่า” ไม่ใช่น้ำเสีย ไม่ได้เกิดจากการกินเค็ม หรือต้องขับออกทุกกรณี
หากรู้ตัวว่าเข่าบวม เดินแล้วตึง เจ็บ — ควรรีบพบแพทย์เฉพาะทาง
เพื่อตรวจวินิจฉัยให้ชัดเจน และเลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสมครับ

—

🩺 หมอกสิสิน กระดูกและข้อ
ผศ.นพ.กสิสิน กลั่นกลิ่น
แพทย์เฉพาะทางด้านโรคกระดูกและข้อ
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
📍 กสิสินคลินิก
📞 โทร. 088-252-9792
💬 Line:

02/10/2025

🚶‍♂️ “ปวดเข่าเวลาเดินขึ้น-ลงบันได” อาการเตือนเข่าเสื่อมระยะต้น

“ขึ้นบันไดทีไร เข่ารู้สึกตึง เจ็บ หรือเหมือนจะทรุด”

อาการแบบนี้เกิดขึ้นได้กับหลายคน โดยเฉพาะช่วงวัยกลางคนขึ้นไป
แม้หลายคนจะมองว่า “ยังเดินได้อยู่” ก็เลยยังไม่คิดว่าอันตราย
แต่ความจริงแล้วนี่คือ สัญญาณเตือนของภาวะเข่าเสื่อม ที่ไม่ควรมองข้ามครับ

🔎 ทำไมขึ้น-ลงบันไดถึงทำให้เข่าเจ็บ?
-การเดินขึ้นบันได ต้องอาศัยแรงจากกล้ามเนื้อหน้าขา (quadriceps) เพื่อยกตัวขึ้น
-ขณะที่เดินลงบันได แรงกระแทกจากน้ำหนักตัวจะส่งตรงไปยังข้อเข่า
หากกล้ามเนื้อไม่แข็งแรง หรือมีการอักเสบอยู่ในข้อเข่า
ก็จะเกิดอาการปวดหรือเจ็บได้ง่ายครับ

❗ สัญญาณว่า “ข้อเข่า” กำลังมีปัญหา
ปวดเข่าเฉพาะเวลาขึ้นหรือลงบันได
รู้สึกเหมือนเข่าจะทรุด เวลาลงน้ำหนัก
ได้ยินเสียง “ก๊อบแก๊บ” หรือ “ลั่น” ในข้อเข่า
ข้อเข่าฝืด หรืองอเข่าได้น้อยลง
รู้สึกไม่มั่นคงเวลายืนหรือนั่ง

📌 แนวทางดูแลเบื้องต้น
หากอาการยังไม่รุนแรงมาก การปรับพฤติกรรมสามารถช่วยบรรเทาได้:
หลีกเลี่ยงการขึ้น-ลงบันไดบ่อย ๆ (เลือกใช้ลิฟต์ถ้าเป็นไปได้)
ออกกำลังกายกล้ามเนื้อหน้าขา เช่น ท่ายกขาตรง (Straight Leg Raise)
หลีกเลี่ยงการนั่งพับเพียบ / นั่งยอง ๆ
ควบคุมน้ำหนัก → น้ำหนักตัวที่มากจะเพิ่มแรงกดบนข้อเข่า
ใส่รองเท้าพื้นนุ่ม ไม่ส้นสูง
ใช้การประคบร้อน หรือทายาเพื่อลดการอักเสบ (เฉพาะช่วงปวด)

🩺 แนวทางการรักษา (โดยแพทย์เฉพาะทาง)
✅ 1. การรักษาแบบไม่ผ่าตัด
สำหรับอาการเข่าเสื่อมระยะต้นถึงปานกลาง แพทย์จะพิจารณาแนวทางอนุรักษ์ก่อนเสมอ เช่น:
1.1. กายภาพบำบัด
บริหารกล้ามเนื้อรอบเข่าเพื่อเพิ่มความมั่นคง
ลดแรงกดตรงข้อเข่า
1.2. ยา
ยาต้านการอักเสบ (NSAIDs) เพื่อลดปวดและอาการบวม
ยาเสริมสร้างกระดูกอ่อน (เช่น Diacerine -ตามความเหมาะสม)
1.3. ฉีดยาเข้าข้อเข่า
-ยากลุ่มสเตียรอยด์ → ลดอักเสบเฉียบพลัน
-น้ำเลี้ยงข้อเทียม ไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) → เพิ่มความหล่อลื่นในข้อเข่า
1.4. ใช้อุปกรณ์ช่วย
ที่รัดเข่า (knee support)
ไม้เท้าช่วยพยุงเวลาเดิน
⚙️ 2. การรักษาแบบผ่าตัด (เมื่อการรักษาอื่นไม่ได้ผล)
เมื่อผู้ป่วยมีอาการรุนแรง เช่น
เดินแล้วปวดตลอดเวลา
ข้อผิดรูป
ข้อเข่าขยับได้น้อย
รักษาแบบไม่ผ่าตัดมาแล้ว >6 เดือนแต่ยังไม่ดีขึ้น
แพทย์อาจพิจารณาแนวทางผ่าตัด เช่น:
2.1. การส่องกล้องข้อเข่า (Arthroscopy)
สำหรับเคสที่มีเศษกระดูกหรือกระดูกอ่อนหลุด
มักใช้ในผู้ป่วยอายุน้อยที่ยังไม่เสื่อมทั้งข้อ
2.2. การผ่าตัดเปลี่ยนแนวกระดูก (Osteotomy)
สำหรับคนอายุน้อยที่มีข้อโก่งผิดรูป
ช่วยกระจายแรงกดในข้อเข่าให้สมดุล
2.3. การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม (Knee Replacement)
สำหรับผู้สูงอายุ หรือผู้ที่เข่าเสื่อมรุนแรง
ฟื้นฟูการใช้งานเข่าให้กลับมาเดินได้ดีขึ้น

🔔 สรุป
อาการ “ปวดเข่าเวลาเดินขึ้น-ลงบันได” อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของปัญหาเข่าเสื่อม
หากรู้สึกว่าอาการเริ่มมากขึ้น ควรรีบเข้ามาพบแพทย์
เพราะการรักษาในระยะเริ่มต้น สามารถชะลอการเสื่อม และหลีกเลี่ยงการผ่าตัดในอนาคตได้
—
🩺 หมอกสิสิน กระดูกและข้อ
ผศ.นพ.กสิสิน กลั่นกลิ่น
แพทย์เฉพาะทางด้านโรคกระดูกและข้อ
คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
กสิสินคลินิก
โทร 0882529792
Line :

29/09/2025

ขออนุญาตแจ้งวันเปิดทำการประจำเดือน ตุลาคม 2568 ครับ

เวลาเปิดให้บริการ วันจันทร์-ศุกร์ 17.00-19.30 น.
และวันเสาร์ 9.00-12.00 น.

**หยุดเพิ่มวันที่ 22-25 ตค 68 นะครับ**

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่เบอร์ 0882529792 ครับ

31/08/2025

ขออนุญาตแจ้งวันเปิดทำการประจำเดือน กันยายน 2568 ครับ

เวลาเปิดให้บริการ วันจันทร์-ศุกร์ 17.00-19.30 น.
และวันเสาร์ 9.00-12.00 น.

**หยุดเพิ่มวันที่ 17 -23 กย 68 นะครับ**

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่เบอร์ 0882529792 ครับ

29/07/2025

ขออนุญาตแจ้งวันเปิดทำการประจำเดือน สิงหาคม 2568 ครับ

เวลาเปิดให้บริการ วันจันทร์-ศุกร์ 17.00-19.30 น.
และวันเสาร์ 9.00-12.00 น.

**หยุดเพิ่มวันที่ 11,13,14,15,16 สค 68 นะครับ**

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่เบอร์ 0882529792 ครับ

03/07/2025

🫁 มะเร็งปอด…ในคนที่ไม่เคยสูบบุหรี่เลยก็เป็นได้!

ด่วน!!! งานวิจัยตีพิมพ์วันนี้

หลายคนเข้าใจว่า “มะเร็งปอด = สูบบุหรี่” แต่ความจริงน่าตกใจคือ…

🔎 จากงานวิจัยขนาดใหญ่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature พบว่า

ประมาณ 25% ของผู้ป่วยมะเร็งปอดทั่วโลกไม่เคยสูบบุหรี่เลยแม้แต่ครั้งเดียว

และคำถามสำคัญคือ…

❗ แล้วอะไรคือสาเหตุ?

ทีมนักวิจัยวิเคราะห์พันธุกรรมของคนไข้มะเร็งปอดที่ไม่เคยสูบบุหรี่จาก 28 ประเทศทั่วโลก พบปัจจัยเสี่ยงหลัก ได้แก่:

✅ มลพิษทางอากาศ (PM2.5) – ฝุ่นขนาดเล็กที่เราหายใจเข้าไปโดยไม่รู้ตัว
✅ ควันบุหรี่มือสอง – โดยเฉพาะในบ้านหรือที่ทำงานที่มีคนสูบบุหรี่
✅ สารพิษจากสิ่งแวดล้อม – เช่น สารเคมีบางชนิดที่ใช้ในครัวเรือนหรืออุตสาหกรรม

⸻

📊 งานวิจัยชี้ชัด:

🧬 ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่น PM2.5 สูง
👉 มีการกลายพันธุ์ของยีนที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งมากขึ้น
👉 มีการ “หดสั้น” ของเทโลเมียร์ (ส่วนปลายของ DNA) เร็วกว่าปกติ
👉 เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดแม้ไม่เคยสูบบุหรี่

ในทางกลับกัน ควันบุหรี่มือสอง แม้จะมีผลบ้าง
แต่จากข้อมูลพบว่า มีความสามารถในการก่อกลายพันธุ์ต่ำกว่ามลพิษทางอากาศอย่างชัดเจน

⸻

🛡️ เราจะป้องกันได้อย่างไร?
1. สวมหน้ากาก N95 หรือ KF94 ในวันที่ค่าฝุ่น PM2.5 สูง
2. ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ ในบ้านโดยเฉพาะในห้องนอน
3. เลี่ยงพื้นที่จราจรหนาแน่นหรือเขตก่อสร้าง
4. ตรวจสุขภาพปอดเป็นประจำ โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง
5. ไม่สูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้สูบบุหรี่

ผศ.นพ.กสิสิน กลั่นกลิ่น
คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
⸻
Reference :

Díaz-Gay, M., Zhang, T., Hoang, P.H. et al. The mutagenic forces shaping the genomes of lung cancer in never smokers. Nature (2025). https://doi.org/10.1038/s41586-025-09219-0

💬 มะเร็งปอดอาจเงียบ…แต่มันเริ่มต้นจากสิ่งที่เราหายใจทุกวัน
อย่ารอให้เป็นก่อนแล้วค่อยรักษา
เพราะการ “ป้องกัน” คือการดูแลตัวเองที่ดีที่สุดครับ

📲 แชร์โพสต์นี้ให้เพื่อน ๆ และครอบครัวของคุณ เพื่อช่วยกันลดความเสี่ยงจากภัยเงียบที่เรียกว่า “PM2.5”

#มะเร็งปอด #ฝุ่นพิษ #มลพิษทางอากาศ #รู้ทันมะเร็ง #สุขภาพดีเริ่มที่การหายใจ
!!

30/06/2025

ขออนุญาตแจ้งวันเปิดทำการประจำเดือน กรกฎาคม 2568 ครับ

เวลาเปิดให้บริการ วันจันทร์-ศุกร์ 17.00-19.30 น.
และวันเสาร์ 9.00-12.00 น.

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่เบอร์ 0882529792 ครับ

03/05/2025

ข้อเข่าเสื่อมแบบไหนควรฉีดน้ำเลี้ยงข้อเทียมรักษา?

หลายคนที่มีปัญหาเข่าเสื่อม อาจเคยได้ยินวิธีรักษาแบบ “ฉีดน้ำเลี้ยงข้อเทียม” หรือที่เรียกกันว่า Hyaluronic Acid (HA) Injection แต่วิธีนี้เหมาะกับใคร และควรใช้ในระยะไหนของโรคกันแน่?

ข้อเข่าเสื่อมคืออะไร?
เป็นภาวะที่กระดูกอ่อนผิวข้อเข่าค่อยๆ สึกหรอ ทำให้เกิดการเสียดสี ปวด บวม และเคลื่อนไหวลำบาก มักเกิดจากอายุที่มากขึ้น น้ำหนักตัวมาก หรือการใช้งานเข่าหนักๆ ซ้ำๆ

การฉีดน้ำเลี้ยงข้อเทียมเหมาะกับใคร?
• ผู้ที่มีข้อเข่าเสื่อม ในระยะเริ่มต้นถึงปานกลาง (Grade 1–2 หรือบางราย Grade 3)
• มีอาการปวดตึง หรือฝืดข้อ โดยเฉพาะตอนเช้าหรือหลังนั่งนาน ๆ
• ผู้ที่เสื่อมมาก ๆ แต่ยังไม่ต้องการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม
• เคยใช้ยา หรือทำกายภาพบำบัดแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น

ไม่เหมาะกับใคร?
• ข้อเข่าเสื่อมรุนแรง หรือข้อผิดรูป ที่จำเป็นต้องผ่าตัด
• มีการติดเชื้อบริเวณข้อเข่า
• มีภาวะแพ้สาร Hyaluronic Acid

ประโยชน์ของการฉีดน้ำเลี้ยงข้อเทียม
• ลดอาการปวด
• เพิ่มความหล่อลื่นของข้อ
• ชะลอการเสื่อมของข้อเข่า
• ช่วยให้กลับมาเคลื่อนไหวได้คล่องขึ้น

คำแนะนำ:
ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางก่อน เพื่อประเมินว่าเข่าของคุณเหมาะกับการฉีดน้ำเลี้ยงข้อเทียมหรือไม่ เพราะแม้จะเป็นวิธีที่ปลอดภัย แต่ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน

อย่าปล่อยให้อาการปวดเข่ารบกวนชีวิตประจำวัน มาเช็กสุขภาพเข่ากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับคุณที่สุดครับ
ผศ.นพ.กสิสิน กลั่นกลิ่น
กสิสินคลินิก 0882529792

เอกสารอ้างอิง:
1. Zhang, W., Nuki, G., Moskowitz, R. W., Abramson, S., Altman, R. D., Arden, N., … & Tugwell, P. (2010). OARSI recommendations for the management of hip and knee osteoarthritis, Part II: OARSI evidence-based, expert consensus guidelines. Osteoarthritis and Cartilage, 18(4), 476–499.
https://doi.org/10.1016/j.joca.2010.01.013
2. Bannuru, R. R., Osani, M. C., Vaysbrot, E. E., Arden, N. K., Bennell, K., Bierma-Zeinstra, S. M., … & McAlindon, T. E. (2019). OARSI guidelines for the non-surgical management of knee osteoarthritis. Osteoarthritis and Cartilage, 27(11), 1578–1589.
https://doi.org/10.1016/j.joca.2019.06.011
3. Bellamy, N., Campbell, J., Robinson, V., Gee, T., Bourne, R., & Wells, G. (2006). Viscosupplementation for the treatment of osteoarthritis of the knee. The Cochrane Database of Systematic Reviews, (2).
https://doi.org/10.1002/14651858.CD005321.pub2
4. ราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย. (2565). แนวทางเวชปฏิบัติการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม. กรุงเทพฯ: ราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย.

#ข้อเข่าเสื่อม #น้ำเลี้ยงข้อเทียม #รักษาโดยไม่ผ่าตัด #ดูแลสุขภาพเข่า

01/05/2025

ฉีดยาเข้าโพรงประสาทกระดูกสันหลัง: แนวทางการรักษาแบบไม่ผ่าตัดในผู้ป่วยหมอนรองกระดูกเสื่อมและหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

การฉีดยาเข้าโพรงประสาทกระดูกสันหลัง (Epidural Injection: EDSI) เป็นหัตถการทางออร์โธปิดิกส์ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อลดการอักเสบของรากประสาทและเนื้อเยื่อรอบๆ ช่องไขสันหลังโดยตรง โดยเฉพาะในกรณีของผู้ป่วยที่มีภาวะหมอนรองกระดูกเสื่อม (Degenerative Disc Disease) หรือหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท (Herniated Nucleus Pulposus, HNP) ซึ่งทำให้เกิดอาการปวดหลัง ปวดคอ หรืออาการปวดร้าวตามแขนขา (Radiculopathy)

เทคนิคการฉีดยา:
• Caudal epidural injection: ฉีดผ่านทางกระดูกก้นกบ
แพทย์จะใช้เครื่องมือช่วยนำทาง Ultrasound เพื่อเพิ่มความแม่นยำ ลดความเสี่ยง และควบคุมตำแหน่งเข็มให้อยู่ในบริเวณที่ต้องการอย่างเหมาะสม

ข้อบ่งชี้ (Indications):
• หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนกดทับเส้นประสาท (Herniated Disc)
• ภาวะโพรงกระดูกสันหลังตีบ (Spinal Stenosis)
• ภาวะเสื่อมของหมอนรองกระดูก (Degenerative Disc Disease)
• ปวดหลังเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบของเส้นประสาท

ประสิทธิผลและผลลัพธ์:
การศึกษาทางคลินิกหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าการฉีดยา EDSI สามารถลดอาการปวดได้ในระยะสั้นถึงปานกลาง (ประมาณ 3 เดือน – 1ปี) ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาทำกายภาพบำบัดหรือกิจวัตรประจำวันได้เร็วขึ้น และบางรายไม่ต้องผ่าตัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีข้อห้ามในการผ่าตัด หรือมีความเสี่ยงสูงจากการดมยาสลบ

ข้อควรระวังและผลข้างเคียง:
แม้ว่าจะมีความปลอดภัยสูง แต่การฉีดยาเข้าโพรงประสาทยังคงมีความเสี่ยงที่ต้องระมัดระวัง เช่น การติดเชื้อ, ภาวะเลือดออก, อาการชา หรืออาการอ่อนแรงชั่วคราว ซึ่งพบได้น้อยมาก การทำหัตถการโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงและภายใต้การตรวจสอบด้วยเครื่องนำทางภาพจะช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้อย่างมีนัยสำคัญ

สรุป:
การฉีดยาเข้าโพรงประสาทกระดูกสันหลังเป็นการรักษาแบบไม่ผ่าตัดที่มีประสิทธิภาพมากในการลดอาการปวดจากภาวะหมอนรองกระดูกเสื่อมและทับเส้นประสาท โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการผ่าตัดตั้งแต่ระยะแรก เป็นหนึ่งในแนวทางที่ปลอดภัย ได้ผลดี และควรพิจารณาในผู้ป่วยที่เหมาะสมหลังการวินิจฉัยและประเมินอย่างละเอียด
เอกสารอ้างอิง
1. Manchikanti L, et al. (2015). Epidural steroid injections in the management of chronic spinal pain: a systematic review. Pain Physician, 18(6): E939–E1004.
2. Benzon HT, et al. (2013). Epidural Steroid Injections for Low Back Pain and Sciatica. Anesth Analg, 117(1): 243–257.
3. Cohen SP, et al. (2021). Interventional spine and pain procedures in patients on antiplatelet and anticoagulant medications: Guidelines from the American Society of Regional Anesthesia. Reg Anesth Pain Med, 46(10): 838–854.
4. American Society of Interventional Pain Physicians (ASIPP). (2013). Guidelines for interventional techniques in the management of chronic spinal pain.
5. Delport EG, et al. (2020). Efficacy and Safety of Transforaminal Epidural Steroid Injections for Lumbar Radiculopathy: A Meta-Analysis. Spine, 45(2): E86–E93.

ผศ.นพ.กสิสิน กลั่นกลิ่น
กสิสินคลินิก 0882529792
#ฉีดยาเข้าโพรงประสาทกระดูกสันหลัง #กระดูกทับเส้นประสาท

หมอกสิสิน กระดูกและข้อ

27/11/2025

08/10/2025

05/10/2025

03/10/2025

02/10/2025

29/09/2025

31/08/2025

29/07/2025

03/07/2025

30/06/2025

03/05/2025

01/05/2025

ที่อยู่

เวลาทำการ

เบอร์โทรศัพท์

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

ติดต่อ การปฏิบัติ

ทางลัด

แชร์

ประเภท

จันทร์	17:00 - 19:30
อังคาร	17:00 - 19:30
พุธ	17:00 - 19:30
พฤหัสบดี	17:00 - 19:30
ศุกร์	17:00 - 19:30
เสาร์	09:00 - 12:00