เอนไซม์น้ำย่านาง

  • Home
  • เอนไซม์น้ำย่านาง

เอนไซม์น้ำย่านาง เอนไซม์ ย่านาง ราคา 1 กล่อง 12 ขวด 600 บาท ?

เอนไซม์ ย่านาง ราคา1กล่อง12ขวด 600 บาท พร้อมส่งฟรี
เก็บเงินปลายทางเพิ่มกล่องละ 30 บาท
สอบถาม คุณ วริศ เสียมไหม 0888989000

24/03/2025

ผลงานวิจัยเกิดโรคมะเร็งของรัสเซีย
-----
รัสเซียทำอะไรชอบเปิดเผยให้โลกรู้ทุกอย่างไม่เหมือนอเมริกาที่รู้อะไรเก็บเป็นความลับหมด แล้วมนุษย์บนโลกใบนี้จะเชื่อว่าระบอบการปกครองแบบไหนดีที่สุดของมนุษยชาติ หรือถูกอเมริกาหลอกมาตลอดว่าระบอบเขาดีสุด หรือระบอบรัสเซีย-จีนดีสุดกันแน่ ในท้ายสุดมนุษย์รุ่นต่อๆไปจะอยู่กับระบอบไหนถึงจะมีชีวิตรอดยาวนาน ไม่ใช่ผลาญทรัพย์กรธรรมชาติโลกที่ว่ายุโรปและอเมริกาผลาญจนประเทศตัวเองไม่มีอะไรเหลือ แล้วไปปล้นคนอื่นกินเข้าประเทศตัวเอง

คนที่เป็นมะเร็งเสียชีวิตเพราะอะไร

ผลงานวิจัยฯ ของรัสเซีย อ้างว่าเหตุผลการเสียชีวิตมิได้เกิดจากมะเร็ง ยกเว้นความสะเพร่าของผู้ป่วย เมื่อผู้ป่วยทราบว่ามีเซลล์มะเร็ง ให้รีบปฏิบัติ

1. ขั้นตอนแรกคือ การหยุดน้ำตาลทั้งหมด ถ้าไม่มีน้ำตาล ในร่างกายของคุณจำนวนมาก เซลล์มะเร็ง ก็จะตาย อย่างเป็นธรรมชาติ

2. ผสมผลไม้ มะนาว ทั้งหมด กับน้ำร้อนสักแก้ว แล้วดื่มมัน ประมาณ 3 เดือน เซลล์มะเร็งจะแพ้ การปฏิบัติดังกล่าวดีกว่าการรักษาด้วยคีโม

3. ขั้นตอนที่ 3 คือ การดื่มน้ำมันมะพร้าว อินทรีย์ 3 ช้อนโต๊ะ เช้าและกลางคืน เซลล์มะเร็งจะค่อยๆ หายไป ท่านสามารถเลือก 1 ใน 2 วิธีนี้ หลังจากหลีกเลี่ยงน้ำตาล ที่ผ่านมา ความไม่รู้ ไม่ใช่ความผิด ข้อมูลนี้เผยแพร่มานานกว่า 5 ปี ซึ่งปัจจุบันนี้ เพิ่งมาถึงคุณ แต่ที่สำคัญที่สุด มันยังช้ากว่าการที่คุณไม่เคยให้ข้อมูลนี้กับทุกคนรอบตัวคุณเพื่อได้รู้เห็นงานวิจัยของมหาวิทยาลัยมอสโก รัสเซีย ผมเห็นว่ามีประโยชน์ จึงขอให้ทุกท่านที่ได้รับข้อมูลนี้ กรุณาส่งต่อบทความนี้ให้กับคน ที่ท่านรักอีก 1 คน ผมเชื่อว่าแน่นอน! อย่างน้อย 1 ชีวิต จะได้รับประโยชน์ และจะบันทึกไว้ ส่วน

ผมได้ทำในส่วนของผมแล้ว หวังว่าท่านจะสามารถช่วยเผยแพร่ โดยการทำส่วนของคุณ กล่าวคือ

1. การดื่มน้ำมะนาว สามารถป้องกันมะเร็งได้ แต่จำไว้ว่า อย่าผสมน้ำตาล น้ำมะนาวร้อน มีประโยชน์กว่า น้ำมะนาวเย็นๆ

2. หั่นเป็นแว่น 5 ชิ้น แล้วแช่ด้วยน้ำร้อนสักแก้วทิ้งไว้ 20- 30 นาที แล้วค่อยดื่ม

3. มันสำปะหลัง นำไปต้ม แต่ต้องต้มด้วย เปิดฝาหม้อวิตามิน B 17 อยู่ในมันสำปะหลัง ที่สามารถปิดเซลล์มะเร็งได้

บ่อยครั้ง การกินมื้อเย็นสามารถเพิ่มความเป็นไปได้ ของมะเร็งลำไส้ - มะเร็งกระเพาะอาหาร - ผู้หญิง

อย่าดื่มชาในช่วงมีรอบเดือน และ

การดื่มน้ำถั่วเหลือง นั้น ไม่ควรเพิ่มน้ำตาล หรือไข่ ในน้ำถั่วเหลือง ไม่กินมะเขือเทศ ตอนท้องว่าง ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้ว ทุกเช้า ก่อนอาหาร เพื่อป้องกันนิ่ว

ไม่กินอาหารในช่วง 3 ชั่วโมง ก่อนนอน

หลีกเลี่ยงสุรา เพราะไม่มีประสิทธิภาพ ทางโภชนาการ แต่สามารถทำให้เกิดโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูงได้ อย่ากินขนมปัง ในขณะที่ร้อนจาก เตาอบ หรือเครื่องปิ้งขนมปัง

ไม่ชาร์จมือถือหรืออุปกรณ์ใดๆ ที่อยู่ข้างๆ ตัวคุณ ในขณะที่คุณหลับ ดื่มน้ำเปล่าวันละ 10 แก้ว ป้องกันมะเร็งกระเพาะปัสสาวะได้ ให้ดื่มน้ำต่อเนื่องระหว่างวัน ลดช่วงกลางคืน และ

อย่าดื่มกาแฟ มากกว่า 2 แก้วต่อวัน เพราะมันสามารถทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ และมีปัญหาต่อกระเพาะอาหารได้

กินอาหารที่เลี่ยนได้เล็กน้อย หรือหลีกเลี่ยงมัน เพราะต้องใช้เวลา 5-7 ชั่วโมงในการย่อย ทั้งยังทำให้คุณรู้สึกเหนื่อย

หลัง 17:00 น.กินอาหารให้น้อยลง ประการสำคัญอาหาร 6 ชนิด ที่ทำให้คุณมีความสุข ได้แก่ กล้วย, ส้มบาหลี, ผักโขม, ฟักทอง, ลูกพีช อนึ่ง การนอนไม่ถึง 8 ชั่วโมงต่อวัน ส่งผลให้มีการทำงานของสมองเสื่อมสภาพ พยายามนอนพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะจะทำให้เราอ่อนกว่าวัย อย่าลืม น้ำมะนาวที่ไม่มีน้ำตาล สามารถดูแลสุขภาพของคุณและทำให้คุณรู้สึกสดชื่น

น้ำมะนาวร้อนฆ่าเซลล์มะเร็ง

แช่มะนาวชิ้นเท่าๆกัน 5 ชิ้นกับน้ำร้อน ดื่มเป็นประจำทุกวัน anti-oxsidan

รสชาติขมในน้ำมะนาวร้อนเป็นสารที่ดีที่สุดในการฆ่าเซลล์มะเร็ง

น้ำมะนาวเย็นประกอบด้วยวิตามินซีเท่านั้น ซึ่งไม่ช่วยป้องกันมะเร็ง น้ำมะนาวร้อนสามารถควบคุมการเติบโตของเนื้องอกมะเร็งได้

การทดสอบทางคลินิก พิสูจน์แล้วว่า น้ำมะนาวร้อน ทำงานได้ดี เพื่อยับยั้งเซลล์มะเร็ง การรักษาด้วยน้ำมะนาวร้อน จะทำลายเซลล์ที่ชั่วร้าย เท่านั้น แต่ไม่มีผลกระทบต่อเซลล์ที่ดี กรด citric และมะนาว polyphenol ในน้ำมะนาว ช่วยลดความดันสูง และป้องกันการเกิดลิ่มเลือด และป้องกันการแข็งตัวของเลือด ถึงแม้ คุณจะยุ่งแค่ไหน เมื่ออ่านข้อความนี้ของผมแล้ว ช่วยถ่ายทอดให้ผู้อื่นด้วยครับ❤

การแบ่งปัน ถือเป็นวิทยาทาน ด้วยความปรารถนาดี
cr.ผศ.ดร.ศ.สำเร็จผล
#มะเร็ง #โรคมะเร็ง #มะเร็งหายได้

30/04/2024

ไม่น่าเชื่อว่านำ้ตาลในกล้วยตากจะมากกว่าทุเรียนเกือบเท่าตัว ในขณะที่
กล้วยไข่และกล้วยหอม สูสีกับทุเรียนเลย
ส่วนแตงโมน้อยกว่าฝรั่งได้ไงเนี่ย

ปริมาณน้ำตาลในผลไม้ คิดเป็นเปอร์เซ็นต์
กล้วยตาก. 64.1%
ทุเรียน. 34.7%
กล้วยไข่ 34.1%
กล้วยหอม. 31.4%
กล้วยหักมุก. 26.3%
กล้วยน้ำว้า. 26.1%
ขนุน. 23.7%
ละมุด. 21.9%
น้อยหน่า. 20.0%
มะม่วงอกร่อง 17.7%
เงาะ 16.5%
ลิ้นจี่ 16.3%
มะม่วงสุก 15.9%
ลำไย 15.6%
แอปเปิ้ล 15.2%
มะม่วงดิบ 15.0%
มะปราง 15.0%
มังคุด 14.7%
ลางสาด 14.0%
พุทรา 14.0%
กระท้อน 13.9%
องุ่น 12.8%
ระกำ 12.1%
มะละกอสุก 11.8%
สับปะรด 11.6%
ฝรั่ง 11.6%
ส้มเกลี้ยง 11.2%
ส้มเขียวหวาน 11.2%
ส้มโอ. 9.5%
ส้มจุก. 9.2%
ชมพู่สาแหรก. 7.6%
สตรอเบอรี่. 7.6%
ชมพู่นาค. 7.3%
แตงโม. 4.9%
ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยง ผักและผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลเกินกว่า 20%...เห็นว่าเป็นประโยชน์เลยเอามาฝากนะครับ

25/04/2024

"คนไทยเก่งที่สุดในโลก"
เป็นผลงานการวิจัยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จากการกินเมล็ดมะละกอสุกเพียงวันละ3เมล็ดโดยไม่ต้องกินน้ำตาม
เมล็ดมะละกอจะเข้าไปทำลายเกราะที่หุ้มตัวเซลมะเร็ง
ตามภาพเซลมะเร็งจะเป็นภาพขนาดใหญ่ ส่วนเม็ดเลือดขาวจะเป็นเม็ดเล็กๆและเข้าไปทำลายเซลมะเร็งได้ คณะผู้วิจัยได้ยื่นขอจดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว
ไม่มีประเทศใดทำได้สำเร็จเหมือนประเทศไทย คนไทยค้นพบการทำลายเซลมะเร็งได้ โดยไม่ต้องใช้สารเคมี เป็นรายเดียวและเป็นรายแรกของโลก ช่วยกันเป็นกำลังใจให้กับคนไทยของเราด้วยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลดีๆ
จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะ
จาก.ดร.วิฬารี สว่างพลกรัง

28/10/2023

ผัก5ชนิดที่มีแคลเซียมสูง
Cr. หมอท็อป

27/10/2023

หลักคิดที่คุณควรจะตั้งคำถามให้เยอะ เมื่อคิดจะพึ่งรพ.

1.คนไข้ที่ถูกส่งตัวไปรักษาในโรงพยาบาล รักษาแค่ไม่กี่เดือนก็ตาย
คุณคิดว่าเป็นการรักษาให้หายหรือรักษาให้ตาย?

2.เป็นเบาหวานระยะแรก กินยารักษามา 10 ปี กลายเป็นเบาหวานระยะสุดท้าย คุณอดทนรักษา​มาได้ตั้ง 10 ปี
คุณคิดว่านี่คือการรักษาให้ดีขึ้น หรือแย่ลง?

3.คุณหมอเป็นโรคความดันมา 10 ปี รักษาตัวเองไม่หาย แต่สามารถจ่ายยาให้กับคนไข้โรคความดันได้ คุณหมอเป็นโรคเบาหวานมา 5 ปี โรคเก๊าท์ 8 ปี แต่ต้องมารักษาคนไข้ที่พึ่งเริ่มเป็นระยะแรก
คุณว่ามันตลกมั้ย?

4.โรงพยาบาลยิ่งสร้างตึกสูง ยิ่งสร้างตึกใหญ่แค่ไหน คนไข้ก็ยิ่งเยอะขึ้นไปมากเท่านั้น
ถ้าคุณหมอรักษาคนไข้ได้จริง คนไข้ก็ควรที่จะน้อยลงไปไม่ใช่หรอ?

5.คนไข้เป็นมะเร็ง หลังจากผ่าตัด ทำคีโมได้ 2-3 เดือนก็เสียชีวิต เงินที่รักษาก็หมดสิ้นไป ถ้าไม่เข้าโรงพยาบาล อาจจะอยู่ได้อีก 2 ปี หรืออาจจะนานกว่านั้น
นี่คือความสำเร็จหรือความล้มเหลวของวงการทางการแพทย์กันแน่?

6.บุคคลประเภทไหนบ้างที่ควรไปโรงพยาบาล? คนไข้ฉุกเฉิน? แขนขาหัก? คนท้องใกล้คลอด? คุณเป็นบุคคลประเภทนี้หรือเปล่า?
ถ้าไม่ใช่ เราก็ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล
เพียงแค่เรารู้จักทำจิตใจให้สบาย
หมั่นออกกำลังกาย
กินอาหารที่มีประโยชน์
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต
โรงพยาบาลก็ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นเลย ว่ามั้ย?

สรุป
คนเราเลือกที่จะปล่อยให้ความคิดครอบงำตัวเราไว้ เช่น
-ไม่สบายก็กินยา
-ไม่หายก็หาหมอ
-ไม่ไหวก็แอดมิด
-ยอมเลือกที่จะขายบ้าน ขายรถ
-ยืมเงินมาเพื่อรักษาโรคจนตัวตาย
ทั้งๆที่เราเลือกที่จะดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีได้ด้วยสองมือของเรา เหมือนกับคำพูดที่ว่า
"กุญแจที่นำไปสู่การมีสุขภาพที่ดีและมีอายุยืนยาว เริ่มต้นได้ด้วยสองมือของตัวเราเอง"
เราต้องรู้จักเรียนรู้วิธีปฏิบัติตนอย่างไรเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี
หมั่นออกกำลังกาย
ควบคุมอาหาร
พักผ่อนให้เพียงพอ
นี่คือพื้นฐานของการมีสุขภาพที่ดี

ถ้าหากเรามีสุขภาพร่างกายที่อ่อนแอ
เราก็ต้องรู้จักดูแลร่างกาย ไม่ใช่รอให้ป่วย แล้วค่อยไปโรงพยาบาล
คนเรามักจะติดนิสัยและความเคยชินว่า
ถ้าไม่สบายก็กินยา หาหมอ หรือแอดมิด นั่นไม่ใช่สิ่งที่ดีแน่นอน.....
Cr...line

16/10/2023

อยากนอนแบบไหนเลือกเอา......

1. นอนตี 3 อาจได้ไปนอนโรงพยาบาลระยะยาว หรืออาจได้ไปท่องสวรรค์หรือนรกเร็วขึ้น

2. นอนตี 2 ร่างกายพัง สมองพัง ชีวิตสู่ความตายเร็วขึ้น

3. นอนตี 1 พลังงานในร่างกายหมดไม่เหลือเลย สมองพร้อมที่จะ Shut down

4. นอนเที่ยงคืน อ่อนเพลีย แก่เร็ว ผิวแห้ง เหี่ยวย่น เล็บจะเหลืองขุ่น ไม่มีน้ำมีนวล

5. นอน 5 ทุ่ม ร่างกายจะขาดวิตามินที่จะเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย ผมจะหลุดร่วง หงอกก่อนวัย

6. นอน 4 ทุ่ม สมองได้พัก ร่างกายเริ่มทำการซ่อมแซม

7. นอน 3 ทุ่ม หน้าจะเด็ก สมองได้พัก ระบบการย่อยอาหารและขับถ่ายจะดี

แล้วพวกเราชาว สว. ทั้งหลายจะเลือกนอนตอนไหนดี?.. ถ้าไม่อยากแก่เร็ว และตายไว แนะนำหลังข่าวจบตอน 2 ทุ่ม กางมุ้งนอนเลยค่ะ ละคงละครไม่ต้องไปดูมัน เสียเวล่ำเวลานอนเราหมด

ขอให้ สว. ทุกท่านมีสุขภาพดีกันทุกคน และขอให้ไม่แก่กันนะคะ แม้จะมีอายุเพิ่มมากขึ้นทุกวันก็ตาม

ขอบคุณแพทย์ผู้แนะนำ
แบ่งปันสิ่งดีๆ ให้กัน: Nathananda Vegavakyananda
October 10, 2023

11/10/2023

โศกนาฎกรรมเงียบ !!
(ค่อนข้างยาว แต่น่าสนใจมาก)
กนก รัตน์วงษ์สกุล. แฟนเพจ
มีโศกนาฎกรรม ที่กำลังเกิดขึ้นอย่างเงียบๆ ภายในครอบครัวหลายๆครอบครัว โดยที่คนในครอบครัวไม่รู้ตัว และ มันเกี่ยวข้องกับสิ่งที่มีค่าที่สุดของเรา นั่นคือ "ลูกหลาน" ของเรา
ใครก็ตามในยุคนี้ ที่อยากมีลูก หรือ อยากมีหลานไว้อุ้ม... ท่านอาจคิดผิดมหันต์
เพราะลูกหลาน ที่เป็นเด็ก และ เยาวชนในยุคต่อจากนี้ไป เกือบครึ่งหนึ่ง จะเป็นลูกหลาน ที่มีโอกาสอกตัญญู ไม่รู้บุญคุณ กับคนที่เป็น พ่อแม่ ลุงป้าน้าอา ปู่ย่าตายาย
ดังนั้น ใครที่เป็นพ่อแม่ ลุงป้าน้าอา ปู่ย่าตายาย ต้องทราบว่า ในวันนี้ และ วันข้างหน้า เด็กๆ เหล่านี้ กำลังมีสภาวะอารมณ์ที่รุนแรง!
เพราะ ในช่วง 15 ปี ที่ผ่านมา นักวิจัยได้พบสถิติ ที่น่าตกใจมาก เกี่ยวกับการเพิ่มขึ้น ของความเจ็บป่วยทางจิต ของเด็กๆ และ. จำนวนเด็กที่เจ็บป่วยก็มีจำนวนที่เพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่อง และมากกว่ายุคใดๆ
"
สถิติไม่โกหก มันเป็นความจริง เชิงประจักษ์ :
- เด็ก 1 ใน 5 คน มีปัญหาสุขภาพจิตค่อนข้างรุนแรง
- เด็กที่วินิจฉัยว่าเป็น ADHD โรคสมาธิสั้น ภาวะผิดปกติทางจิตเวช เพิ่มขึ้นถึง 43%
- มีรายงาน ภาวะซึมเศร้าของเด็ก วัยรุ่นเพิ่มขึ้นถึง 37%
- มีอัตราการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้น 200% ในเด็กอายุ 10 - 14 ปี
มันเกิดอะไรขึ้น และ เรา...พวกผู้ใหญ่ พ่อแม่ ได้ทำอะไรผิดพลาดไปหรือเปล่า ⁉️
เพราะเด็กในวันนี้ ถูกกระตุ้นมากเกินไป เพื่อให้มีพรสวรรค์ ทางด้านวัตถุ เพื่อจะได้เป็นคนเก่ง มากจนเกินไป
บางครอบครัว ถึงขนาด ให้ลูกหลาน เป็นนักล่ารางวัลต่างๆ แท้จริงแล้ว เป็นการทำให้ พวกเด็กๆ ถูกปิดกั้น ถูกละเลย จากสิ่งที่เป็นพื้นฐานสำคัญ ที่ทำให้มีช่วงวัยเด็ก ที่ควรมี ที่ดี ที่มีคุณภาพ (healthy childhood) สูญเสียไป เช่น...
- ไม่มีการกำหนด ขอบเขตที่ชัดเจน ให้เด็กๆ ทราบว่า อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้
- ขาด โภชนาการที่สมดุล และ การนอนหลับที่เพียงพอ
- เด็กขาดการเคลื่อนไหวร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเคลื่อนไหวกลางแจ้ง
- เด็กขาด การเล่นอย่างสร้างสรรค์ การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ขาดโอกาสที่จะได้เล่นอย่างอิสระ และ ช่วงเวลาที่เด็กๆ จะได้รู้สึกเบื่อ เพื่อจะคิดหาวิธีการเล่นเพื่อแก้เบื่อของตนเอง
ในหลายๆ ปีที่ผ่านมา เด็กๆ ถูกแทนที่ สิ่งสำคัญเหล่านี้ด้วย....
- ผู้ปกครองที่วุ่นวาย อยู่กับ อุปกรณ์ดิจิตอลต่างๆ
- ผู้ปกครองยอมทำตาม และ ยอมอนุญาตให้เด็กๆเป็นคน "ปกครองโลก" และเป็นคนที่กำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆ เอง ในวัยที่ไม่สมควร
- ทำให้เด็กๆ เข้าใจผิดว่า เป็นเรื่องถูกต้อง ที่ตัวเองสมควรที่จะได้รับทุกสิ่งที่ต้องการ โดยที่ไม่ต้องทำอะไร หรือไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย
- เด็กๆ นอนหลับไม่เพียงพอ และ มีโภชนาการที่ไม่สมดุล
- รูปแบบการใช้ชีวิตของเด็ก เป็นแบบขยับตัวน้อย (Sendentary Lifestyle) นั่งหน้า TV. นั่งหน้าคอมพิวเตอร์ ไม่ออกไปข้างนอก อยู่แต่ในห้องของตน
- เด็กๆ ถูกกระตุ้นอยู่ตลอดเวลา มีเทคโนโลยีเป็นเพื่อนเป็นพี่เลี้ยง ทั้งทางเฟซบุ๊ค ไลน์ อินสตราแกรม ไอจี ฯลฯ เด็ก จะได้สิ่งที่ต้องการ ในทันที และ ไม่มีช่วงเวลาที่น่าเบื่อ เพราะ ถูกกระตุ้นตลอดเวลา
แล้วพวกผู้ใหญ่ จะทำอย่างไรกันดี?
ถ้า เราต้องการให้ลูกหลาน ของเรา เป็นคนที่มีความสุข และ มีสุขภาพดี (จริงๆ) พวกเรา ต้องตื่นได้แล้ว และกลับไปสู่พื้นฐาน กลับไปสู่เบสิค และ มันยังคงเป็นไปได้ที่จะแก้ไข แม้จะมีหนทางค่อนข้างน้อยก็ตาม
มีหลายครอบครัว เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน เพียงไม่กี่สัปดาห์ หลังจากทำตาม คำแนะนำ ดังต่อไปนี้ :
1. กำหนด จำกัดขอบเขต ให้กับลูกหลาน และจำไว้ว่า คุณเป็นกัปตันของเรือ เป็นผู้นำครอบครัว ไม่ใช่ให้ลูกเป็นผู้นำ ทั้งๆที่ ไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอ ลูกหลานของคุณ จะรู้สึกมั่นใจมากขึ้น เมื่อรู้ว่า คุณสามารถควบคุมทิศทาง หรือ หางเสือของชีวิตได้
2. ต้องช่วยให้ลูกหลาน มีวิถีชีวิตที่สมดุล ที่เต็มไปด้วย สิ่งที่ลูกหลาน จำเป็นต้องมี ไม่ใช่แค่สิ่งที่ลูกหลานต้องการ อย่ากลัวที่จะพูดคำว่า "ไม่" กับลูกๆ หลานๆ ของคุณ หากสิ่งที่พวกเขาต้องการ ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็น
3. ต้องให้ลูกหลาน ทานอาหารที่มีคุณค่า และลด จำกัด อาหารขยะทั้งหลาย
4. ต้องให้ลูกหลาน ใช้เวลากลางแจ้ง อย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงต่อวัน ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การขี่จักรยาน การเดิน การออกกำลังกาย การเล่นกีฬา สนามเด็กเล่นกลางแจ้ง หรือ ช่วยปลูกผักสวนครัว ฯลฯ
5. พยายาม ทานอาหารด้วยกัน ในครอบครัวทุกวัน โดยไม่มีสมาร์ทโฟนหรือไอแพด ไอโฟน หรือ เทคโนโลยีอื่น ที่ทำให้เสียสมาธิ ซึ่งทำให้ทุกคนรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า
6. พยายามเล่นกับลูกหลาน ใช้เวลาด้วยกันในครอบครัว
7. ให้ลูกหลาน ของคุณ มีส่วนร่วม ในการทำงานบ้าน ตามอายุของพวกเขา (พับเสื้อผ้า, แขวนเสื้อผ้า, ล้างจาน, กวาดบ้าน, ถูบ้าน ,จัดโต๊ะ, ให้อาหารสุนัข, รดน้ำต้นไม้ ฯลฯ )
8. ให้มีการเข้านอนเป็นเวลา เพื่อให้แน่ใจว่า ลูกหลานของคุณ ได้นอนหลับเพียงพอ
9. ต้องสอนลูกหลาน ในเรื่องความรับผิดชอบ และ เรื่องเสรีภาพ อย่าปกป้องลูกมากเกินไป จากความรู้สึกไม่พอใจ หงุดหงิด เสียใจ หรือ ความผิดพลาดทั้งหมด ความเข้าใจผิด จะช่วยให้พวกเขา สร้างความยืดหยุ่น และ เรียนรู้ที่จะเอาชนะความท้าทายในชีวิตต่อไปได้
10. อย่าถือกระเป๋า หรือ เป้สะพายหลัง หรือ ถือของให้ลูกหลาน ต้องพยายาม ให้ลูกหลาน ช่วยตัวเองมากที่สุด โดย "ให้คำยกย่องชมเชย" เมื่อสามารถทำอะไรได้เอง ถ้าลูกลืมการบ้าน อย่าไปเอามาให้ อย่าปอกเปลือกกล้วย หรือ เปลือกส้ม หรือ ทำอะไรให้ลูกหลานมากเกินไป ถ้าหากพวกเขา สามารถทำได้ด้วยตัวเอง แทนที่จะให้ปลา แต่สอนพวกเขา ให้รู้จัก วิธีการหาปลาเองเป็น ต้องสอนแต่เนิ่นๆตั้งแต่เป็นเด็กเล็ก
11. ต้องสอนลูกหลาน ให้รู้จักรอ และ ชะลอความพึงพอใจในสิ่งต่างๆได้ สอนให้รู้จัก การอดเปรี้ยวไว้กินหวานได้
12. ให้ลูกหลาน มีโอกาสได้พบ "ความเบื่อ" เนื่องจากความเบื่อหน่าย เป็นช่วงเวลาที่ความคิดสร้างสรรค์เกิดขึ้น เพื่อหาวิธีแก้เบื่อ ไม่ต้องเป็นพ่อแม่ที่รู้สึกว่าต้องทำให้ ลูกหลานสนุกตลอดเวลาเท่านั้น
13. อย่าใช้เทคโนโลยี เป็นวิธีแก้ความเบื่อของลูกหลาน เพราะ จะทำให้ลูกหลานอ่อนแอ และ ต้องแข็งใจ ไม่ต้องสนองความต้องการทุกครั้ง เมื่อลูกหลานร้องขอ เพราะ จะเป็นผลเสียหายร้ายแรงต่อลูกหลานในอนาคต ที่จะเอาแต่ใจตัวเป็นใหญ่ จะเป็นคนที่มีปัญหาตกต่ำในอนาคต
(ท่าน ต้องท่องไว้ว่า ความเบื่อ จะก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ)
14. หลีกเลี่ยงการใช้เทคโนโลยี ในระหว่างมื้ออาหาร ในรถยนต์ ในร้านอาหาร ในศูนย์การค้า ในบ้าน ใช้ช่วงเวลาเหล่านี้ เป็นโอกาสในการเข้าสังคม โดยการฝึกสมอง ให้รู้วิธีการทำงาน เมื่ออยู่ในโหมด: "เบื่อ" (boredom)
15. พยายามมีอารมณ์ร่วมกับลูกหลาน ต้องไวต่อความรู้สึกของลูกหลาน และต้องสอนให้พวกเขา รู้จักควบคุมอารมณ์ตนเอง และ สอนทักษะทางสังคม
16. ปิดโทรศัพท์ในเวลากลางคืน เมื่อลูกหลาน ต้องเข้านอน เพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวน จากสัญญานโทรศัพท์ และ สิ่งต่างๆ จากโทรศัพท์
17. ต้องพยายาม เป็นผู้ควบคุม หรือ เป็นผู้ฝึกอารมณ์ สำหรับลูกหลานของคุณ สอนพวกเขา ให้รู้จัก และ จัดการความผิดหวัง และ ความโกรธของตนเอง
18. ต้องสอนลูกหลาน ให้ทักทายคนอื่นเป็น รู้จักการรอคิว รู้จักผลัดกันเล่น ผลัดกันใช้ รู้จักแบ่งปัน รู้จักการพูดขอบคุณ และ การขอโทษ อย่างมีมารยาท รู้จักการยอมรับในความผิดพลาด โดยตัวท่านเอง ต้องทำเป็นแบบอย่างที่ดี ในชีวิตประจำวัน ของค่านิยมทั้งหมดนี้
19. ต้องเชื่อมต่อ อารมณ์กับลูกหลาน โดยการ- ยิ้ม กอด จูบ หอม จี้เอว หัวเราะ สนุก อ่านนิทาน เล่นกีฬา เต้นรำ กระโดดเล่นกับลูกหลานบ่อยๆ
ถ้าเราอยากเห็น ความเปลี่ยนแปลงที่ดี ในชีวิตลูกๆหลานๆ ของเราจริงๆ.... โปรดทำตามคำแนะนำดังกล่าว ท่านอาจได้ลูกหลานที่ดีกลับคืนมาก็ได้ 🙂
Cr. Dr. Luis Rojas Marcos Psychiatrist
ให้กำลังใจคุณพ่อ-คุณแม่ ทุกๆท่านครับ

26/09/2023

#เส้นเลือดตีบ
ไข่ขาว 2 ฟอง(ไข่แดงไม่เอา
พริกไทย 1ช้อน
หอมแดง 3-4 หัว
ตำผสมไข่ขาวทอดกินสัก 2-3วัน
Cr.คุณหมออุเส็น

เอนไซม์น้ำย่านาง V enplus & V enjoy แบบขวด ปริมาณ 750 cc. ราคา ขวดละ 1200 บาท💲โอนเลยส่งฟรี💲 ⏪ เก็บปลายทาง 1260 บาท ⏩⏬ราย...
15/09/2023

เอนไซม์น้ำย่านาง V enplus & V enjoy แบบขวด ปริมาณ 750 cc.
ราคา ขวดละ 1200 บาท
💲โอนเลยส่งฟรี💲
⏪ เก็บปลายทาง 1260 บาท ⏩
⏬รายละเอียด ในคอมเมนท์ ⏬

29/08/2023

ไม่อยากป่วยในวัยชรา มั่นฝึกดูแลตนเอง 26 ข้อนี้:
01. นอนเต็มอิ่ม อารมณ์เย็น
02. เคลื่อนไหวช้าๆคิดเชิงบวก
03. ลดปริมาณอาหาร ลง
04. กินแบบผสม มากขึ้น
05. กินอาหารร้อน เน้นในผัก
06. ดื่มน้ำให้ มากขึ้น
07. กินเกลือ น้อยลง
08. อาหารเย็น กินก่อนค่ำ
09. ออกกำลังกายแบบเบาๆ
10. ผ่อนคลาย ลืมทุกข์ลืมโศก
11. แต่งตัวดีขึ้น มั่นดูแลตนเอง
12. ยิ้มจริงใจใหัตนเองให้สดใส
13. พอใจตนเอง/ไม่คิดเรื่องเก่า
14. ลืมอายุ/อดีตปล่อยวางให้ได้
15. หาเพื่อนสนุกกับลูกหลาน
16. มีความโรแมนติก เล็กน้อย
17. งานอดิเรก เพิ่มเติมทำเบาๆ
18. ชื่อเสียงและโชคลาภเบาๆ
19. เที่ยว สักหน่อยแบบเบาๆ
20. ดูแลจมูก หู ตา ปากและเท้า
21. ดูทุกอย่างทุกส่วนในร่างตน
22. เก๋ไก๋ในวัยชราลืมเรื่องเก่าๆ
23. มั่นดูแลตัวเอง อาการเสริมฯ
24. สมุนไพรดีกว่าแผนปัจจุบันฯ
25. อย่าคิดพึ่งพาใคร ในวัยชรา "ช่วยเหลือตัวเองให้มาก"
26. ใช้ชีวิตให้สนุกฯความสุขกับการได้ทำงานด้วยตัวเองและมั่นใจในงานที่ทำ


ยาแก้ปวด ยานอนหลับ ยาไต ยาลดไขมันเน้นสมุนไพรไทยที่เป็นธรรมชาติที่สุด...เศรษฐีทั่วโลกวิ่งหาสมุนไพรไทย ไว้ดูแลตัวเอง แต่คนไทยเรากลับไม่มั่นใจ อย่าลืมตัวยาบรรพบุรุษไทยคู่คนไทย-จีนมายาวนาน เช่น.......

ยาไต - มันเทศ
ยานอนหลับ - กล้วย
ยาทาผิว - คาโมไมล์
ยาแก้หวัด - มะนาว
ขับลม - กะเพรา
ขิง - บรรเทาปวด
ยาลดความดันโลหิต - ขึ้นฉ่าย
ยาลดไขมัน - ฮอว์ธอร์น
ยาลดน้ำตาล - อบเชย
ยาแก้อักเสบ - น้ำผึ้ง
ยาระบาย — พรุน/กระเจี๊ยบ
วิตามิน - สตรอเบอร์รี่
ยาอายุวัฒนะ - องุ่น
ผลไม้มังกร - ล้างพิษโลหะหนัก
ยาต้านมะเร็ง - กระเทียม
น้ำข้าวบาร์เล่ย์ - ป้องกันอาการบวมน้ำ
ยาทาผิวขาว - หัวไชเท้าขาว
สับปะรด - ช่วยย่อย
ยาบำรุงปอด - Tremella
ต้านความเมื่อยล้า - น้ำส้มคั้น

โปรดส่งต่อข้อมูลสุขภาพนี้ให้กับเพื่อนและครอบครัวและคนที่คุณรัก
ด้วยความปรารถนาดี จาก cr. ดร. สิทธิชัย เครือวุฒิกุล

07/08/2023

#เริม #งูสวัด #ไฟลามทุ่ง รักษาโดยวิธีง่ายๆ
Cr.คุณหมอชิตชัย ตันเจริญ

21/02/2023

เพิ่งรู้ว่า มีตั้ง 7 Q !!!
อย่าหลงกับการสร้างลูกให้ฉลาดแต่เพียงอย่างเดียว
เขาจะล้มเหลวในชีวิตครับ
เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ คงเคยได้ยินศัพท์ฮิตติดหูเกี่ยวกับตัว Q ทั้ง 7 ตัวคือ IQ EQ CQ MQ PQ AQ และ SQ กันมาบ้าง
อยากทราบว่า เราน่าจะมี Q ตัวไหนมากหรือน้อย มาลองอ่านความหมายของแต่ละ Q กันดู

1. IQ
Intelligence Quotient
ความฉลาดทางสติปัญญา เป็นความสามารถในการคิด วิเคราะห์ การคำนวณ และการใช้เหตุผล

2. EQ
Emotional Quotient
ความฉลาดทางอารมณ์ เป็นความสามารถในการรับรู้ เข้าใจอารมณ์ตนเองและผู้อื่น สามารถควบคุม อารมณ์ และยับยั้งชั่งใจตนเอง และแสดงออกอย่างเหมาะสม
รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา
รู้จักรอคอย
รู้จักกฎเกณฑ์ระเบียบวินัย
มีจิตใจร่าเริงแจ่มใส และ
มองโลกในแง่ดี การเจริญพรหมวิหาร 4 (เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา) จะช่วยเสริม EQ ได้ดี

3. CQ
Creativity Quotient
ความฉลาดในการริเริ่มสร้างสรรค์ มีความคิด จินตนาการ หรือแนวคิดใหม่ๆ ในรูปแบบต่างๆ เช่น การ เล่น งานศิลปะ และการประดิษฐ์สิ่งของ
นักวิจัยพบว่า การเล่น และทำกิจกรรมที่ส่งเสริมจินตนาการ เช่น การเล่นศิลปะ การหยิบจับของใกล้ตัวมาเป็น ของเล่น การเล่านิทาน เป็นต้น จะทำให้มี CQ ดี

4. MQ
Moral Quotient
ความฉลาดทางศีลธรรม จริยธรรม คือ มีความประพฤติดี รู้จักผิดชอบ มีความซื่อสัตย์ รับผิดชอบ มีจริยธรรม เป็นแนวคิดที่มุ่งตอบคำถามว่า
การที่เรามีคนที่ IQ ดี EQ สูง แต่ถ้ามีระดับจริยธรรมต่ำ ก็อาจใช้ความฉลาดไปในทางที่ไม่ถูกต้องก็เป็นได้
MQ จึงเน้นเรื่องการปลูกฝังความดีงาม ซึ่งตรงกับหลักศาสนาหลายศาสนา ที่สอนให้คนเป็นคนดี

5. PQ
Play Quotient
ความฉลาดที่เกิดจากการเล่น เกิดจากความเชื่อที่ว่า การเล่นพัฒนาความสามารถของเด็กได้หลายด้าน ทั้ง พัฒนาการด้านร่างกาย ความเฉลียวฉลาด ความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์ และสังคม PQ จึงเน้นให้พ่อแม่เล่นกับลูก ถึงกับมีคำพูดที่ว่า พ่อแม่เป็น อุปกรณ์การเล่นที่ดีที่สุดของลูก

6. AQ
Adversity Quotient
ความฉลาดในการแก้ไขปัญหา คือ มีความยืดหยุ่นสามารถปรับตัวในการเผชิญปัญหาได้ดี และพยายาม เอาชนะอุปสรรคความยากลำบากด้วยตัวเอง ไม่ย่อท้อง่ายๆ มองปัญหาเป็นเรื่องท้าทาย ไม่ใช่เรื่องที่ต้องจำนน

7. SQ
Social Quotient
ความฉลาดทางสังคม ที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่น เพราะมนุษย์ไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน มีน้ำใจเอื้ออาทรต่อเพื่อนร่วมสังคมด้วยกัน ไม่คิดว่า ตนเองเหนือกว่าใคร ต้องมีใจเปิดกว้าง ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น อีกทั้ง ต้องไม่ เบียดเบียนซึ่งกันและกัน

ท้ายสุดนี้
ผมอยากจะบอกว่า
ปัจจุบันนักวิจัยยืนยันว่า IQ
มีส่วนเกี่ยวข้องกับความสำเร็จในชีวิต เช่น การทำงาน การเรียน แค่ 20% เท่านั้นครับ
ดังนั้น จึงไม่ควรยึดถือแต่เพียงระดับความฉลาดของสติปัญญา (ทางโลก) เท่านั้น
Cr. ดร.พิสัณห์ สัน นุ่นเกลี้ยง

Address


92120

Website

Alerts

Be the first to know and let us send you an email when เอนไซม์น้ำย่านาง posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Contact The Practice

Send a message to เอนไซม์น้ำย่านาง:

  • Want your practice to be the top-listed Clinic?

Share

Our Story

เอนไซม์ ย่านาง ราคา1กล่อง12ขวด 600 บาท พร้อมส่งฟรี มีบริการเก็บเงินปลายทาง บวกเพิ่มกล่องละ 30 บาท สอบถาม คุณ วริศ เสียมไหม 0888989000 Line.warit88