30/04/2025
บทความดีๆจากครูหลง
https://www.facebook.com/share/p/18y9BX9QKs/
บางคนอาจมองว่าโยคะเป็นเพียงการยืดตัว หรือทำให้ร่างกายยืดหยุ่น แต่รู้ไหมว่า… การฝึกโยคะอย่างสม่ำเสมอมีผลต่อสุขภาพของกระดูกอีกด้วย… แล้วโยคะช่วยดูและกระดูกยังไงบ้าง?
🦴โยคะมีส่วนช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก การฝึกในท่ายืนต่าง ๆ เช่น ท่า Warrior, Tree Pose, Triangle Pose ช่วยให้กระดูกต้องรับแรงโน้มถ่วง ซึ่งกระตุ้นการสร้างเนื้อกระดูกใหม่
🦴 ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่โอบอุ้มกระดูก กล้ามเนื้อที่แข็งแรง ช่วยพยุงข้อและกระดูกไม่ให้รับแรงโดยตรงมากเกินไป เช่น กล้ามเนื้อหน้าท้อง หลัง สะโพก และต้นขา
🦴 ช่วยเพิ่มการทรงตัวและป้องกันการล้ม โดยเฉพาะในผู้สูงวัย การล้มคือสาเหตุหลักของกระดูกหัก การฝึกโยคะช่วยให้การทรงตัวมั่นคงขึ้น ลดความเสี่ยงได้มาก
🦴 ช่วยฟื้นฟูข้อต่ออย่างนุ่มนวล ท่าโยคะหลายท่าทั้งการก้ม แอ่นบิดเอียง เป็นการเคลื่อนไหวแบบอ่อนโยน ที่ช่วยให้ข้อต่อได้เคลื่อนไหวในทิศทางต่าง ๆ
ในร่างกายของเรานั้นมีกระดูกอยู่ประมาณ 206 ชิ้นในผู้ใหญ่ แต่ตอนเด็ก ๆ เรามีกระดูกมากถึงประมาณ 270 ชิ้น และค่อย ๆ เชื่อมรวมกันเมื่อเราเติบโตขึ้น
กระดูกเหล่านี้เรียงร้อยกันเป็นโครงสร้างที่เรียกว่า “โครงกระดูก” ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่คือ
1. โครงกระดูกแกน (Axial Skeleton) มีหน้าที่หลักในการ ปกป้องอวัยวะสำคัญ เช่น สมอง หัวใจ และปอด ประกอบไปด้วย กระโหลกศีรษะ กระดูกสันหลัง ซี่โครง กระดูกอก
2. โครงกระดูกรยางค์ (Appendicular Skeleton)มีหน้าที่หลักคือ ช่วยในการเคลื่อนไหว และประสานการทำงานของร่างกาย ประกอบไปด้วย กระดูกแขนและขา กระดูกสะบัก กระดูกเชิงกราน
เมื่อเรามองลึกเข้าไปในหน้าที่ของกระดูก มันไม่ได้เป็นแค่ “โครงสร้าง” เท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการผลิตเซลล์เม็ดเลือด (จากไขกระดูก) สะสมแร่ธาตุ เช่น แคลเซียมและฟอสฟอรัส ส่งแรงและรับแรง เมื่อเราขยับหรือเคลื่อนไหว
โรคที่เกี่ยวข้องกับกระดูก เช่น
-กระดูกพรุน (Osteoporosis): เกิดจากการสูญเสียมวลกระดูก ทำให้กระดูกบางและเปราะง่าย
-กระดูกเสื่อม (Osteoarthritis): กระดูกอ่อนที่หุ้มข้อเสื่อมลง ทำให้เกิดอาการเจ็บเมื่อเคลื่อนไหว
-กระดูกหัก (Bone fracture) กระดูกหักมักเป็นผลมาจากอุบัติเหตุที่มีแรงกระทำกับกระดูกมากเกินไป
-โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis) ข้ออักเสบรูมาตอยด์เป็นหนึ่งในโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเองชนิดเรื้อรัง
เราสามารถดูแลกระดูกเบื้องต้นได้โดย ทานอาหารที่มีแคลเซียม เช่น นม ปลาตัวเล็ก ผักใบเขียว เสริมวิตามินดี จากแสงแดดอ่อน ๆ ช่วงเช้า ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้เนื้อเยื่อรอบ ๆ ข้อกระดูกชุ่มชื้น
หลีกเลี่ยงการนั่งนาน ๆ เปลี่ยนอิริยาบถทุก 30-60 นาที ใช้ท่าทางที่ถูกต้องเมื่อยกของหรือเคลื่อนไหว ออกกำลังกายสม่ำเสมอ โดยเฉพาะ การฝึกที่เน้นการลงน้ำหนัก เช่น เดิน วิ่งเบา ๆ และโยคะ
ไม่ต้องรอให้ปวดก่อน ไม่ต้องรอให้กระดูกบางก่อน ไม่ต้องรอให้ล้ม แล้วถึงจะลุกขึ้นมาดูแลสุขภาพ มาเริ่มต้นฝึกโยคะตั้งแต่วันนี้ได้เลยจ้า
ครูหลง😄
