10/08/2025
ปวดหลัง ผ่าแล้ว ทำไมปวดอีก?
วันนี้มีเรื่องที่คนไข้ถามบ่อยมากเลยครับ นั่นคือ "คุณหมอคะ/ครับ ผ่าตัดหลังไปแล้ว ทำไมยังปวดอีก?" ฟังดูแล้วน่าหนักใจใช่ไหมครับ
หลายคนอาจคิดว่าผ่าตัดแล้วก็ควรหายขาด แต่จริงๆ แล้วอาการปวดหลังหลังผ่าตัดนั้นมีได้หลายสาเหตุครับ ไม่ได้แปลว่าการผ่าตัดไม่สำเร็จเสมอไป
เคยมีเคสคุณลุงท่านหนึ่ง อายุ 70 กว่าแล้ว ปวดหลังร้าวลงขามากจนเดินไม่ได้ ต้องผ่าตัดหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท หลังผ่าตัดลุงก็ดีขึ้นมาก เดินได้ปกติ แต่ผ่านไปสักพัก ประมาณปีสองปี ลุงก็กลับมาบ่นปวดหลังอีก คราวนี้เป็นอีกจุดหนึ่งที่ไม่ใช่จุดเดิม
ผมก็เลยต้องอธิบายให้ลุงฟังว่าสาเหตุที่ปวดกลับมานั้นเกิดจากอะไรบ้างครับ
อธิบายความจริงเกี่ยวกับอาการปวดหลังหลังผ่าตัด
การผ่าตัดกระดูกสันหลัง หรือหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทนั้น เป้าหมายหลักคือการลดการกดทับเส้นประสาท ทำให้ความเจ็บปวด ชา อ่อนแรง ที่เกิดจากเส้นประสาทถูกกดทับดีขึ้น แต่ "หลัง" ของเรานั้นซับซ้อนกว่าที่เราคิดครับ และการผ่าตัดไม่ได้ทำให้หลังของเรากลับมาเหมือนใหม่ 100% เสมอไป
อาการปวดหลังที่กลับมาใหม่หลังผ่าตัดจึงเป็นเรื่องที่พบได้ ไม่ได้น่าตกใจอะไร แต่ต้องหาให้เจอว่าเกิดจากอะไร
ให้ความรู้เบื้องต้น: สาเหตุ อาการ การตรวจ และการรักษา
โรคคืออะไร?
เมื่อเราพูดถึง "ปวดหลัง ผ่าแล้วทำไมปวดอีก" เรากำลังพูดถึงอาการปวดหลังที่เกิดขึ้นใหม่ หรือยังคงอยู่หลังจากการผ่าตัดกระดูกสันหลัง ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดหมอนรองกระดูก ผ่าตัดเชื่อมกระดูก หรือผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาอื่นๆ ที่กระดูกสันหลัง
สาเหตุที่ทำให้ปวดซ้ำได้
มีหลายสาเหตุที่ทำให้เรายังปวดหลัง หรือกลับมาปวดอีกครั้งหลังผ่าตัดครับ
- แผลผ่าตัดและเนื้อเยื่อรอบข้าง: ช่วงแรกหลังผ่าตัด อาจมีอาการปวดที่แผลผ่าตัด หรือปวดจากการอักเสบของเนื้อเยื่อรอบๆ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าปวดยืดเยื้อ อาจเกิดจากพังผืด หรือการอักเสบเรื้อรัง
- หมอนรองกระดูกปลิ้นซ้ำที่เดิม หรือที่ตำแหน่งอื่น: แม้จะผ่าตัดไปแล้ว หมอนรองกระดูกก็ยังสามารถปลิ้นซับซ้อน หรือเสื่อมสภาพที่ตำแหน่งอื่นได้ โดยเฉพาะถ้าพฤติกรรมการใช้ชีวิตยังไม่ปรับเปลี่ยน
- ข้อกระดูกสันหลังเสื่อม: การผ่าตัดบางชนิด เช่น การผ่าตัดเชื่อมข้อ อาจทำให้ข้อกระดูกสันหลังข้างเคียงต้องรับภาระมากขึ้น ทำให้ข้อเหล่านั้นเสื่อมเร็วขึ้นและเกิดอาการปวดได้
- กล้ามเนื้อหลังอ่อนแรง หรือไม่สมดุล: หลังผ่าตัด ถ้าเราไม่ได้บริหารกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวให้แข็งแรงเพียงพอ กล้ามเนื้อหลังที่อ่อนแอจะทำให้กระดูกสันหลังไม่มั่นคง และเกิดอาการปวดได้ง่าย
- พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม: การยกของหนัก ก้มๆ เงยๆ ผิดท่า นั่งนานๆ โดยไม่ปรับเปลี่ยนอิริยาบถ เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้หลังของเรากลับมามีปัญหาได้อีก
- สาเหตุอื่นๆ: เช่น การติดเชื้อหลังผ่าตัด (พบได้น้อย), เส้นประสาทถูกรบกวนหลังผ่าตัด (Post-laminectomy syndrome) หรือปัญหาทางจิตใจ เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล ที่ส่งผลให้รับรู้ความเจ็บปวดมากขึ้น
อาการเป็นอย่างไร?
อาการปวดอาจมีลักษณะแตกต่างกันไป บางคนอาจปวดตื้อๆ ที่หลัง ปวดร้าวลงขา ชา หรือรู้สึกอ่อนแรง คล้ายกับอาการก่อนผ่าตัด หรืออาจเป็นอาการปวดใหม่ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ถ้าอาการปวดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มีอาการชามากขึ้น หรือมีปัญหาในการควบคุมการขับถ่าย ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีครับ
จะรู้ได้อย่างไรว่าปวดจากอะไร? การตรวจร่างกายและวินิจฉัย
เมื่อมาพบแพทย์ แพทย์จะซักประวัติอย่างละเอียดถึงลักษณะอาการปวด พฤติกรรมการใช้ชีวิต และการผ่าตัดที่ผ่านมา จากนั้นจะตรวจร่างกายเพื่อดูว่ามีจุดไหนที่กดเจ็บ มีการอ่อนแรง หรือการรับความรู้สึกผิดปกติหรือไม่
- เอกซเรย์ (X-ray): เป็นการตรวจเบื้องต้นที่สามารถดูโครงสร้างกระดูก ดูการจัดเรียงตัวของกระดูกสันหลัง ดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงของข้อกระดูก หรือความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับการผ่าตัดครั้งก่อนหรือไม่
- อัลตราซาวด์ (Ultrasound): ในบางกรณี อาจใช้เพื่อดูเนื้อเยื่ออ่อน กล้ามเนื้อ หรือช่วยนำทางในการฉีดยาเพื่อลดอาการปวดเฉพาะจุด
- MRI (Magnetic Resonance Imaging): เป็นการตรวจที่ละเอียดที่สุด สามารถเห็นหมอนรองกระดูก เส้นประสาท กล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่ออ่อนต่างๆ ได้ชัดเจน ช่วยให้แพทย์เห็นว่ามีหมอนรองกระดูกปลิ้นซ้ำ มีพังผืดไปรัดเส้นประสาท หรือมีความผิดปกติอื่นๆ ที่เป็นสาเหตุของอาการปวดหรือไม่
แนวทางการรักษา
เมื่อทราบสาเหตุที่แน่ชัดแล้ว แพทย์จะวางแผนการรักษาที่เหมาะสมให้ครับ
- ปรับพฤติกรรม: เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ต้องหลีกเลี่ยงท่าทาง หรือกิจกรรมที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวด เช่น การยกของหนัก การก้มหลัง การนั่งนานๆ และปรับท่านั่ง ท่ายืน ให้ถูกต้อง
- การใช้ยา: ยาแก้ปวด ยาคลายกล้ามเนื้อ หรือยาต้านการอักเสบที่ไม่มีสเตียรอยด์ (NSAIDs) จะช่วยลดอาการปวดและอักเสบได้
- กายภาพบำบัด: เป็นหัวใจสำคัญในการฟื้นฟูหลังผ่าตัด การออกกำลังกายที่เหมาะสมจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว เพิ่มความยืดหยุ่น และลดโอกาสการกลับมาปวดซ้ำ
- การฉีดยาเฉพาะจุด (ภายใต้การนำทางด้วยอัลตราซาวด์ หรือ X-ray fluoroscopy): ในบางกรณี แพทย์อาจพิจารณาฉีดยาเข้าไปที่บริเวณที่มีการอักเสบ เช่น รอบๆ เส้นประสาท หรือข้อต่อ เพื่อลดอาการปวดและอักเสบ การฉีดภายใต้การนำทางจะช่วยให้ยาเข้าถึงตำแหน่งที่ต้องการได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย
- การผ่าตัดซ้ำ: เป็นทางเลือกสุดท้าย เมื่อการรักษาแบบอื่นๆ ไม่ได้ผล และมีข้อบ่งชี้ที่ชัดเจน เช่น หมอนรองกระดูกปลิ้นซ้ำขนาดใหญ่ กดทับเส้นประสาทมาก หรือกระดูกสันหลังไม่มั่นคง
พยากรณ์โรค: หายขาดไหม ต้องติดตามหรือดูแลตลอดชีวิตหรือไม่?
การผ่าตัดกระดูกสันหลังมักช่วยให้อาการดีขึ้นมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะหายขาด 100% หรือจะไม่มีวันปวดหลังอีกเลยครับ เพราะกระดูกสันหลังของเรามีการใช้งานตลอดเวลา และความเสื่อมเป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้ เราทุกคนจึงควรดูแลหลังของเราอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสม การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต และการพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามอาการและให้คำแนะนำครับ
หมออยากบอกว่า... การปวดหลังหลังผ่าตัดไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลจนเกินไปครับ สิ่งสำคัญคือการปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และร่วมกันวางแผนการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม เพื่อให้เรากลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขอีกครั้ง
บทความนี้ให้ข้อมูลทั่วไป หากอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์
สามารถปรึกษาปัญหากระดูกและข้อ หรืออาการปวด ได้ที่
ผศ.นพ.ธนินนิตย์ ลีรพันธ์ (หมอเก่ง)
ผู้เชี่ยวชาญโรคกระดูกและข้อ
สอบถามปัญหาโรคกระดูกและข้อ ปวดหลัง ปวดคอ ปวดเข่า ปวดไหล่ กระดูกพรุน ได้ครับ
📱 Line ID:
#ปวดหลัง #ผ่าตัดหลัง #หมอนรองกระดูกทับเส้น #ปวดหลังเรื้อรัง #ดูแลกระดูกสันหลัง