
26/01/2025
[ #คนดังกับการเงิน ] “อดัม แซนด์เลอร์” มหาเศรษฐีข้างบ้าน
ซุปเปอร์สตาร์พันล้าน มหาเศรษฐีสมถะที่ติดดินที่สุดในฮอลลีวูด
อดัม แซนด์เลอร์ หนึ่งในนักแสดงฮอลลีวูดที่ประสบความสำเร็จทางการเงินมากที่สุด เป็นที่รู้จักในอินเทอร์เน็ตว่าเป็น "มหาเศรษฐีที่จนที่สุด" เพราะแม้ว่าจะมีทรัพย์สินมากมายจากทั้งอาชีพนักแสดงและเจ้าของโปรดักเฮ้าน์ แต่เขากลับใช้ชีวิตแบบสบายๆ ผู้คนมักจะเห็นเขาอยู่ในชุด oversize และขอมาร่วมวงเล่นบาสเกตบอลกับคนอื่นในฐานะคนแปลกหน้าที่มีชื่อเสียงอยู่บ่อยๆ และวิถีชีวิตสบายๆ แบบนี้ทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้
บางสื่อถึงกับบอกว่าเขาคือคีอานู รีฟส์เวอร์ชันคอมเมดี้
[ ประวัติส่วนตัวและที่มาของความโด่งดัง ⭐️ ]
อดัม ริชาร์ด แซนด์เลอร์ (Adam Richard Sandler) เกิดเมื่อวันที่ 9 กันยายน 1966 ในบรู๊คลิน นิวยอร์ก กับครอบครัวที่ชอบดูการแสดงตลกบนทีวี เขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ผมเคยชอบนักแสดงตลกทุกคนที่พ่อและแม่ของผมชอบ ผมอยากเป็นเหมือนผู้ชายคนนั้น เพราะเขาทำให้พ่อของผมมีความสุข”
แซนด์เลอร์เริ่มเข้าสู่วงการตลกเมื่ออายุได้ 17 ปี โดยแสดงตลกยืนเดี่ยวไมโครโฟนในคลับตลกในบอสตัน ก่อนที่ะเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก แซนด์เลอร์ได้ชื่อว่ามีความพากเพียรและมีพรสวรรค์ด้านการแสดงตลกโดยธรรมชาติ ทำให้เขาได้เข้าร่วมรายการชื่อดังอย่าง Saturday Night Live (SNL) ซึ่งทำให้เขากลายเป็นขวัญใจแฟนๆ อย่างไรก็ตาม เขาถูกไล่ออกจาก SNL อย่างไม่คาดคิดเพื่อเปิดทางให้กับนักแสดงหน้าใหม่
แทนที่จะท้อถอย แซนด์เลอร์กลับหันไปแสดงภาพยนตร์แทน ผลงานเปิดตัวของเขาในฐานะนักแสดงนำคือเรื่อง Billy Madison (1995) แม้ว่าจะได้รับคำวิจารณ์ในแง่ลบ แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการครองตำแหน่งนักแสดงนำของแซนด์เลอร์ในฐานะผู้สร้างรายได้จากบ็อกซ์ออฟฟิศ ผลงานที่ประสบความสำเร็จอย่าง Happy Gilmore(1996), The Wedding Singer (1998), The Waterboy (1998) และ Big Daddy (1999) ทำให้เขากลายเป็นซูเปอร์สตาร์แห่งวงการตลก และที่น่าทึ่งคือ แซนด์เลอร์ประสบความสำเร็จได้สำเร็จโดยไม่ต้องอาศัยคุณสมบัติพระเอกแบบดั้งเดิม เช่น เสน่ห์ของทอม ครูซ หรือความทะนงตนของวิลล์ สมิธ
[ การตอบรับจากนักวิจารณ์ vs. ความรักจากผู้ชม 🙎♂️ ]
อดัม แซนด์เลอร์ เป็นตัวอย่างที่ดีของนักแสดงที่สามารถเรียกทั้งความรักและคำวิจารณ์ในระดับเดียวกันได้ ตลอดอาชีพการงานของเขา เขาต้องเผชิญกับบทวิจารณ์เชิงลบและคำวิจารณ์ที่รุนแรงหลายครั้ง อย่างไรก็ตาม แม้จะมีคำวิจารณ์เชิงลบ แต่ภาพยนตร์ของเขาก็ยังคงทำรายได้มหาศาลอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ได้รับค่าตัวสูงที่สุดในฮอลลีวูด
แม้ว่าผลงานของอดัม แซนด์เลอร์มักถูกนักวิจารณ์ว่า “ไร้สาระ” “หยาบคาย” หรือแม้แต่ “ไร้คุณค่า” และในยุคหนึ่งแค่พูดคำว่า “หนังของอดัม แซนด์เลอร์” ก็ดูเหมือนว่าหนังเรื่องนั้นจะเป็นหนังที่ได้รับคำวิจารณ์ในแง่ลบไปโดยปริยาย
อย่างไรก็ตาม แซนด์เลอร์ไม่เคยขาดแคลนการมองเห็นศักยภาพในฐานะนักแสดง ดั่งที่ ผู้กำกับชื่อดังอย่างพอล โธมัส แอนเดอร์สัน มองเห็นศักยภาพของเขาและเลือกแซนด์เลอร์มารับบทนำใน Punch-Drunk Love (2002) ซึ่งเป็นหนังที่ได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์ โดยแอนเดอร์สันกล่าวว่า “ผมรักเขา เขาตลกมาก ถ้าผมอยากหัวเราะในคืนวันเสาร์ ผมจะเลือกหนังของอดัม แซนด์เลอร์เหนือสิ่งอื่นใด” การตัดสินใจนี้ทำให้นักวิจารณ์ต้องเก็บปากกา และเป็นหนึ่งในข้อพิสูจน์ที่ว่าแซนด์เลอร์สามารถเล่นหนังบทบาทดราม่าได้ดี อีกทั้ง การแสดงของเขาใน Reign Over Me (2007), The Meyerowitz Stories (2017), และ Uncut Gems (2019) ก็ยังเป็นอีกหนังที่ยืนยันถึงความสามารถอันหลากหลายและได้รับการยอมรับอย่างสูง
และแม้จะเล่นบทดราม่าได้ดี แต่ตัวของแซนด์เลอร์เองยังคงเลือกที่จะรับแสดงในภาพยนตร์แนวคอมเมดี้เบาๆ ให้ผู้ชมได้ดูอยู่เนื่องๆ เช่น Anger Management (2003), 50 First Dates (2004), Click (2006) และ Grown Ups (2010)
เขาเคยกล่าวไว้ว่า “ผมไม่ได้แสดงเพื่อเอาใจนักวิจารณ์ ผมทำหนังเพื่อให้คนหัวเราะและสนุกไปกับเพื่อนๆ ของผม”
[ อาชีพนักแสดงและความสำเร็จของอดัม แซนด์เลอร์ 🏆 ]
อดัม แซนด์เลอร์เริ่มต้นเส้นทางอาชีพที่โดดเด่นหลังจากออกจากรายการ Saturday Night Live (SNL) โดยภาพยนตร์เรื่องแรกที่สร้างชื่อเสียงให้เขาอย่าง Billy Madison ทำรายได้ถึง 1.7 ล้านดอลลาร์ ในปี 2003 ค่าตัวของเขาเพิ่มขึ้นเป็น 25 ล้านดอลลาร์ต่อเรื่อง พร้อมส่วนแบ่งรายได้อีก 25% จากภาพยนตร์ฮิต Anger Management ตลอดอาชีพการแสดง แซนด์เลอร์มีผลงานในภาพยนตร์มากกว่า 50 เรื่อง และสร้างรายได้รวมก่อนหักภาษีมากกว่า 400 ล้านดอลลาร์
ในปี 1999 แซนด์เลอร์ก่อตั้งบริษัทโปรดักชันของตัวเองในชื่อ Happy Madison Productions ซึ่งตั้งตามชื่อภาพยนตร์ยอดนิยมของเขา Happy Gilmore และ Billy Madison บริษัทนี้ได้ผลิตภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จมากมาย เช่น Hubie Halloween และ The Longest Yard กลายเป็นแหล่งรายได้สำคัญอีกทางหนึ่งของเขา นอกจากงานแสดง
นอกจากนี้ แซนด์เลอร์ยังคงสร้างชื่อในฐานะนักแสดงตลกแบบยืนเดี่ยว (stand-up comedy) โดยล่าสุดเขาได้แสดงใน Adam Sandler: Love You (TV Special 2024) ซึ่งฉายผ่าน Netflix พร้อมข้อมูลจาก Forbes ที่ระบุว่า เขาทำรายได้สูงถึง 400,000 ดอลลาร์ต่อการแสดงหนึ่งครั้ง
ในปี 2023 แซนด์เลอร์ถูก Forbes จัดอันดับให้เขาเป็นนักแสดงที่มีรายได้สูงที่สุดแห่งปี โดยมีรายได้มากกว่า 73 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,500 ล้านบาท ตีห่างจากนักแสดงหญิง มาร์โกต์ ร็อบบี้ ถึง 14 ล้านดอลลาร์
โดยตลอดชีวิตการแสดงของเขา เขามีผลงานที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมและยอดแย่มากมาย ถ้าพูดถึงผลงานยอดแย่ เขาเคยพาหนังสุดห่วย Jack and Jill (อัล ปาชิโน่เล่นด้วย) คว้ารางวัลทุกสาขาในการประกาศผลรางวัล “ราสซี 2012” โดยรางวัลนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 30 ปี ของรางวัลราสซี ที่หนังเรื่องเดียวสามารถคว้ารางวัลทุกสาขาไปครอง
รวมถึงการได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ 3 ครั้ง, รางวัลไพรม์ไทม์เอมมี่ 5 ครั้ง, รางวัลลูกโลกทองคำ 2 ครั้ง และรางวัลจากสมาคมนักแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์ (Screen Actors Guild Award) อีก 1 ครั้ง นอกจากนี้ ในปี 2023 แซนด์เลอร์ยังได้รับรางวัล Mark Twain Prize for American Humor และ People's Choice Award for People's Icon อีกด้วย
[ บ้านหลังใหญ่ที่ภรรยาชื่นชมคือทรัพย์สินชิ้นใหญ่ไม่กี่ชิ้น 🏠 ]
อสังหาริมทรัพย์ถือเป็นส่วนสำคัญในพอร์ตการลงทุนของแซนด์เลอร์ ตามรายงานของ Celebrity Net Worth
พอร์ตอสังหาริมทรัพย์ของเขาจะมีราคาอยู่ระหว่าง 50-60 ล้านดอลลาร์ (1,750-2,100 ล้านบาท) แต่บ้านหลังที่แพงที่สุดคือหลังทีเขาใช้พักอาศัยหลักในย่าน Pacific Palisades ที่มาพร้อมกับเรื่องราวเบื้องหลังสุดพิเศษ หลังจากเขาและภรรยา แจ็กกี้ แซนด์เลอร์ แต่งงานในเดือนมิถุนายน ปี 2003 ทั้งคู่ได้ไปเยี่ยมคฤหาสน์ของโกลดี้ ฮอว์น และเคิร์ต รัสเซล ระหว่างงานเลี้ยงปีใหม่ ที่นั่น แจ็กกี้ชื่นชมบ้านหลังนี้อย่างมากและกล่าวว่าอยากได้บ้านนี้ ซึ่งนำไปสู่การตัดสินใจซื้อในปี 2004
บ้านหลังนี้มีพื้นที่กว่า 13,000 ตารางฟุต แซนด์เลอร์ซื้อในราคา 13 ล้านดอลลาร์ (455 ล้านบาท) และกลายเป็นที่อยู่อาศัยหลักของเขาในปัจจุบัน ย่าน Pacific Palisades เป็นพื้นที่หรูหราในลอสแอนเจลิส ซึ่งมีชื่อเสียงในฐานะที่อยู่อาศัยของคนดังระดับโลก เพื่อนบ้านของแซนด์เลอร์ในพื้นที่นี้รวมถึงผู้กำกับชื่อดัง สตีเวน สปีลเบิร์ก, ทอม แฮงค์ส และแมตต์ เดมอน
[ มหาเศรษฐีที่สมถะที่สุดในฮอลลีวูด 😅 ]
ในเดือนมีนาคม 2024 Celebrity Net Worth ประเมินทรัพย์สินของอดัม แซนด์เลอร์ไว้ที่ 440 ล้านดอลลาร์ (15,400 ล้านบาท) แต่สิ่งที่ทำให้เขาโดดเด่นไม่ใช่ตัวเลขมหาศาลหรือแผนธุรกิจที่อ่านแล้วรู้สึกว่าว้าว หากแต่เป็นบุคลิกเรียบง่ายและเข้าถึงได้
นักเขียนบทที่ชื่อ เคน มิยาโมโต ได้กล่าวว่า “สำหรับคนที่สามารถทำรายได้ถึง 20 ล้านดอลลาร์ต่อหนังหนึ่งเรื่อง และทำแบบนั้นมาตั้งแต่ยุค 90 เขาเป็นคนที่ติดดินที่สุดในกลุ่มคนที่อยู่ในจุดนั้นเท่าที่ผมเคยพบเจอ”
เพราะ ถึงแม้จะเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ประสบความสำเร็จที่สุดในฮอลลีวูด เขาก็ยังคงเป็น “มหาเศรษฐีข้างบ้าน” ที่แฟนๆ รู้จักและรัก ผู้คนมักจะพบเห็นแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าหลวมๆ รองเท้าผ้าใบแบบไม่ผูกเชือก และเสื้อผ้าที่ดูเหมือนเพิ่งซักเสร็จใหม่ๆ เขาชอบไปร้านอาหารราคาประหยัด เช่น IHOP ถ่ายรูปเซลฟี่ในงานแต่งคนอื่น และเดินกินแตงกวาดองตามถนน
มีครั้งหนึ่งช่อง ช่องยูทูปที่มักจะไปเดินตามถนนและขอถ่าย Fit Check (เช็คราคาเครื่องแต่งกายเครื่องประดับประดาต่างๆ) ก็ได้พบกับอดัมเข้า ในวันนั้นเขาสวมรองเท้า PUMA กางเกงกีฬา Under Armour และเสื้อคลุม FILA ทั้งหมดรวมกันราคาเพียง 178 ดอลลาร์ (ประมาณ 6,000 บาท) ซึ่งดาราที่ทำรายได้สูงสุดในปี 2024 ยังพูดติดตลกในคลิปว่า
“ผมแค่หยิบมาใส่ ไม่ได้คิดอะไรมาก คนส่วนใหญ่ล้อผมกับครอบครัวผมเรื่องนี้ แต่ผมก็ไม่สนหรอก”
นอกจากความเป็นกันเอง แซนด์เลอร์ยังโดดเด่นในด้านการให้เพื่อสังคม เขายังบริจาคเงินและสนับสนุนองค์กรการกุศลหลายแห่ง เช่น Feeding America, Make-A-Wish, และ Animal Rescue Foundation การบริจาคครั้งใหญ่ที่สุดคือ 1 ล้านดอลลาร์ (33 ล้านบาท) ให้กับ Boys and Girls Club ที่แมนเชสเตอร์ รัฐนิวแฮมป์เชียร์
และ ในปี 2006 เขายังบริจาคเครื่องเล่นเกม Sony PlayStation จำนวน 400 เครื่องให้ครอบครัวในอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบจากสงครามกับเลบานอน นอกจากนี้ เขายังระดมเคยทุนกว่า 30,000 ดอลลาร์ (1.05 ล้านบาท) ให้กับ Thirst Project เพื่อจัดหาน้ำสะอาดให้กับชุมชนในแอฟริกา เพื่อเป็นเกียรติแก่ คาเมรอน บอยซ์ อดีตนักแสดงดิสนีย์ที่เสียชีวิตจากอาการลมชัก
หรือในช่วงวิกฤตโควิด-19 เขาก็เข้าร่วมกับ Laugh Aid ทำอีเวนต์ไลฟ์สตรีมการกุศลร่วมกับนักแสดงชื่อดังคนอื่นๆ อาทิ Howie Mandel และ Whitney Cummings ไลฟ์นั้นใช้เวลา 6 ชั่วโมง และสามารถระดมทุนได้มากกว่า 300,000 เหรียญ (10 ล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือนักตลกที่ตกงานระหว่างการแพร่ระบาด และสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมที่ต้องอยู่บ้านในช่วงกักตัว
🔚 อดัม แซนด์เลอร์คือนิยามของชายที่สามารถหาเงินได้มหาศาลแต่ไม่ปล่อยให้เงินและชื่อเสียงกลายเป็นศูนย์กลางของชีวิต แม้เขาจะเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ทำรายได้สูงที่สุดในโลก แต่แซนด์เลอร์กลับใช้ชีวิตเรียบง่าย ติดดิน และเข้าถึงได้เสมอ เขาเป็นที่รู้จักในฐานะผู้มอบเสียงหัวเราะและความสุขให้กับผู้คน ไม่ใช่แค่ผ่านภาพยนตร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสนับสนุนองค์กรการกุศลมากมาย
แม้นักวิจารณ์อาจไม่มอบคำชมด้านการแสดงให้เขาเสมอไป แต่ผู้ชมทั่วโลกยังคงรักเขาไม่เปลี่ยนแปลง และท้ายที่สุด แซนด์เลอร์ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าความมั่งคั่งที่แท้จริงไม่ได้วัดจากจำนวนเงิน แต่คือการได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ พร้อมแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้กับคนรอบข้างเสมอ
ทั้งนี้ .. เรื่องของแซนด์เลอร์อาจจะตรงกับที่โอปราห์ วินฟรีย์ เคยพูดไว้ที่ว่า
“ที่ฉันประสบความสำเร็จทางการเงินได้ เพราะฉันไม่เคยโฟกัสเรื่องเงินเลยแม้แต่นาทีเดียว”
#อดัมแซนด์เลอร์ #คนดังกับการเงิน