
26/09/2025
📌การตรวจ AFP คืออะไร ใช้บ่งชี้มะเร็งร้ายได้อย่างไร⁉️
เคยสงสัยไหมคะว่าโปรตีนเพียงตัวเดียว จะสามารถบอกเล่าเรื่องราวที่แตกต่างกันสุดขั้วได้อย่างไร? ในโลกของห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ Alpha-fetoprotein (AFP) คือหนึ่งในโปรตีนที่มีบทบาทหลากหลายและน่าทึ่งที่สุด มันคือตัวละครเอกที่ปรากฏตัวในสองช่วงเวลาสำคัญของชีวิต คือ "การก่อกำเนิด" และ "การเกิดโรค" ค่ะ
📌1. AFP คืออะไร? เจาะลึกถึงระดับโมเลกุล‼️
AFP เป็นโปรตีนในกลุ่มไกลโคโปรตีน (Glycoprotein) ซึ่งหมายถึงโปรตีนที่จับกับคาร์โบไฮเดรต มีหน้าที่คล้ายคลึงกับ อัลบูมิน (Albumin) ซึ่งเป็นโปรตีนหลักในเลือดของผู้ใหญ่ แต่ AFP จะทำหน้าที่เป็นโปรตีนหลักในเลือดของทารกในครรภ์ค่ะ
▪️แหล่งผลิตในภาวะปกติ: ในช่วงพัฒนาการของตัวอ่อน จะถูกสร้างขึ้นโดย ถุงไข่แดง (Yolk sac) จากนั้นเมื่อตัวอ่อนเติบโตขึ้น ตับของทารก (Fetal liver) จะรับหน้าที่ผลิตเป็นหลัก นอกจากนี้ยังพบการสร้างได้เล็กน้อยจากทางเดินอาหารของทารก
▪️หน้าที่ในทารก:
➖ควบคุมแรงดันออสโมติก (Oncotic pressure): ช่วยรักษาสมดุลของเหลวในหลอดเลือดของทารก
➖ ตัวขนส่งสาร (Carrier protein): ทำหน้าที่ขนส่งสารต่างๆ เช่น บิลิรูบิน, กรดไขมัน และยาบางชนิด
➖ปกป้องทารก: ป้องกันทารกเพศหญิงจากฮอร์โมนเอสโตรเจนของแม่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการได้
หลังคลอด ตับของทารกจะค่อยๆ ลดการสร้าง AFP ลง และเปลี่ยนไปสร้างอัลบูมินเป็นหลักแทน ทำให้ระดับ AFP ในเลือดลดลงอย่างรวดเร็วจนอยู่ในระดับที่ต่ำมาก (น้อยกว่า 10 ng/mL) ตลอดช่วงชีวิตของคนปกติค่ะ
📌2. พยาธิสรีรวิทยา (Pathophysiology): ทำไมเซลล์มะเร็งถึงกลับมาสร้าง AFP⁉️
นี่คือหัวใจสำคัญที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ทึ่งค่ะ! การที่เซลล์มะเร็งบางชนิด โดยเฉพาะมะเร็งตับ กลับมาสร้าง AFP ได้อีกครั้ง เป็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "การถดถอยกลับไปสู่ลักษณะดั้งเดิม" (Dedifferentiation)
💥ในระดับยีนและเซลล์ อธิบายได้ดังนี้ค่ะ:
▪️ การปลุกยีนที่หลับใหล: ยีนที่ควบคุมการสร้าง AFP จะทำงานอย่างแข็งขันในช่วงชีวิตของตัวอ่อน แต่จะถูก "ปิด" หรือ "กดการแสดงออก" (Gene silencing) ไว้หลังคลอดโดยกระบวนการทางชีวเคมีที่ซับซ้อน
▪️ ความผิดปกติในเซลล์มะเร็ง: เมื่อเซลล์ตับปกติเกิดการกลายพันธุ์และพัฒนาไปเป็น เซลล์มะเร็งตับ (Hepatocellular Carcinoma - HCC) กระบวนการควบคุมยีนภายในเซลล์จะรวนไปหมด หนึ่งในยีนที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาทำงานอีกครั้งก็คือยีน AFP นี่เองค่ะ เซลล์มะเร็งจึงมีลักษณะบางอย่างย้อนกลับไปคล้ายเซลล์ตัวอ่อน และเริ่มผลิตโปรตีนที่มันไม่ควรจะผลิตแล้ว
▪️กลไกระดับโมเลกุล: มีการศึกษาพบว่าเส้นทางการส่งสัญญาณในเซลล์ (Signaling pathway) ที่ผิดปกติไปในเซลล์มะเร็ง เช่น Wnt/β-catenin pathway มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นให้ยีน AFP กลับมาแสดงออกอีกครั้ง
ดังนั้น การตรวจพบ AFP ในระดับสูงในผู้ใหญ่ (ที่ไม่ตั้งครรภ์) จึงเปรียบเสมือน "สัญญาณทางชีวภาพ" ที่บ่งชี้ว่าอาจมีเซลล์ที่ทำงานผิดปกติและย้อนกลับไปมีพฤติกรรมเหมือนเซลล์ตัวอ่อนซ่อนอยู่ในร่างกายค่ะ
📌3. ตรวจเจอ AFP สูงได้ในภาวะใดบ้าง⁉️
การมีค่า AFP สูงไม่ได้แปลว่าเป็นมะเร็งเสมอไปนะคะ เราต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน โดยสามารถแบ่งกลุ่มได้ดังนี้ค่ะ
✨ภาวะที่ไม่ใช่มะเร็ง (Non-malignant Conditions)
▪️การตั้งครรภ์ (Pregnancy): เป็นภาวะที่พบ AFP สูงได้ตามปกติ เนื่องจากทารกในครรภ์เป็นผู้สร้างและปล่อยเข้าสู่กระแสเลือดของแม่ ค่านี้จะถูกนำไปใช้ในการตรวจคัดกรองความผิดปกติของทารก
⬆️ AFP สูงเกินเกณฑ์: อาจสัมพันธ์กับภาวะหลอดประสาทของทารกเปิด (Neural Tube Defects - NTDs), ผนังหน้าท้องไม่ปิด (Abdominal wall defects) หรือการคำนวณอายุครรภ์ผิดพลาด
⬇️ AFP ต่ำเกินเกณฑ์: อาจสัมพันธ์กับกลุ่มอาการดาวน์ (Down syndrome) หรือ Trisomy 18
▪️ โรคตับอักเสบ (Hepatitis): ทั้งชนิดเฉียบพลันและเรื้อรัง เซลล์ตับที่บาดเจ็บและกำลังซ่อมแซมตัวเอง (Regeneration) อาจผลิต AFP ออกมาได้ชั่วคราว
▪️โรคตับแข็ง (Cirrhosis): ภาวะตับแข็งซึ่งเป็นแผลเป็นในตับ ก็สามารถกระตุ้นให้เซลล์ตับบางส่วนผลิต AFP สูงขึ้นได้เช่นกัน
🔥ภาวะมะเร็ง (Malignant Conditions)
▪️มะเร็งเซลล์ตับ (Hepatocellular Carcinoma - HCC): นี่คือภาวะที่สัมพันธ์กับค่า AFP สูงบ่อยที่สุด ประมาณ 60-70% ของผู้ป่วย HCC จะมีค่า AFP สูงในเลือด
▪️มะเร็งของเซลล์สืบพันธุ์ (Germ Cell Tumors): มะเร็งที่เกิดจากเซลล์ต้นกำเนิดของอสุจิหรือไข่ เช่น มะเร็งอัณฑะ (ชนิด Non-seminomatous) และมะเร็งรังไข่บางชนิด (Yolk sac tumor)
▪️มะเร็งตับในเด็ก (Hepatoblastoma): เป็นมะเร็งตับชนิดที่พบบ่อยในเด็กเล็ก ซึ่งมักจะมีการสร้าง AFP ในระดับที่สูงมาก
▪️ มะเร็งชนิดอื่นที่แพร่กระจายมายังตับ: เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร หรือมะเร็งปอดที่ลุกลามมาที่ตับ ก็อาจทำให้ค่า AFP สูงขึ้นได้
📌4. Criteria & History: เมื่อไหร่แพทย์ถึงสั่งตรวจ AFP?
แพทย์จะพิจารณาสั่งตรวจ AFP ตามข้อบ่งชี้ที่ชัดเจน ไม่ได้ตรวจพร่ำเพรื่อค่ะ
🔎การคัดกรองเฝ้าระวัง (Screening & Surveillance):
▪️ ประวัติ: ในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงสูงต่อการเกิดมะเร็งตับ เช่น ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีหรือซีเรื้อรัง, ผู้ป่วยตับแข็งจากทุกสาเหตุ (เช่น แอลกอฮอล์, ไขมันพอกตับ)
▪️ Criteria: แพทย์จะแนะนำให้ตรวจ AFP ร่วมกับการทำอัลตราซาวนด์ช่องท้องส่วนบนทุกๆ 6-12 เดือน เพื่อค้นหามะเร็งตับในระยะเริ่มต้น
🔎 การช่วยวินิจฉัย (Diagnosis):
▪️ ประวัติ: เมื่อผู้ป่วยมีอาการที่น่าสงสัย หรือเมื่อตรวจพบก้อนในตับจากการตรวจด้วยภาพถ่ายรังสี (Imaging) เช่น อัลตราซาวนด์, CT scan หรือ MRI
▪️ Criteria: ค่า AFP ที่สูงมาก (เช่น > 400 ng/mL) ในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงและมีก้อนที่ตับ จะช่วยสนับสนุนการวินิจฉัย HCC ได้อย่างยิ่ง
🔎การติดตามการรักษา (Monitoring Treatment):
▪️ ประวัติ: ในผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งตับหรือมะเร็งเซลล์สืบพันธุ์และกำลังรับการรักษา (เช่น ผ่าตัด, เคมีบำบัด, การให้ยาเฉพาะจุด)
▪️ Criteria: การตรวจวัดระดับ AFP เป็นระยะๆ จะช่วยประเมินการตอบสนองต่อการรักษาได้ หากค่า AFP ลดลงสู่ระดับปกติ แสดงว่าการรักษาได้ผลดี แต่หากค่ากลับสูงขึ้น อาจหมายถึงการกลับมาของโรค
🔎 การพยากรณ์โรค (Prognosis):
▪️Criteria: ระดับ AFP เริ่มต้นที่สูงมาก มักจะสัมพันธ์กับพยากรณ์โรคที่ไม่ดีนัก เช่น ก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่ หรือมีการลุกลามไปแล้ว
📌5. การนำไปใช้ และการตรวจร่วมกับค่าอื่นๆ (Application & Co-testing)
สิ่งสำคัญที่สุดคือ AFP ไม่ใช่เครื่องมือวินิจฉัยมะเร็งแบบเดี่ยวๆ แต่เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ต้องนำมาประกอบกับข้อมูลอื่นเสมอค่ะ
🔎ในการวินิจฉัยมะเร็งตับ (HCC):
▪️ต้องใช้ร่วมกับ ภาพถ่ายทางรังสี (Ultrasound, CT, MRI) เสมอ
▪️ปัจจุบันมีการตรวจร่วมกับตัวบ่งชี้อื่นเพื่อเพิ่มความแม่นยำ ได้แก่
🩸 AFP-L3% (Lens culinaris agglutinin-reactive fraction of AFP): เป็นสัดส่วนของ AFP รูปแบบหนึ่งที่เชื่อว่าสร้างจากเซลล์มะเร็งโดยเฉพาะ มีความจำเพาะต่อ HCC มากกว่า AFP รวม
🩸 DCP (Des-gamma-carboxy prothrombin) หรือ PIVKA-II: เป็นโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของเลือดที่สร้างขึ้นอย่างผิดปกติในเซลล์มะเร็งตับ
▪️ มีการนำค่าทั้ง 3 (AFP, AFP-L3, DCP) มาคำนวณเป็นคะแนนที่เรียกว่า GALAD score เพื่อช่วยประเมินความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งตับได้ดียิ่งขึ้น
🔎 ในการวินิจฉัยมะเร็งเซลล์สืบพันธุ์ (Germ Cell Tumors):
▪️มักจะตรวจร่วมกับ β-hCG (Beta-human chorionic gonadotropin) และ LDH (Lactate dehydrogenase) ซึ่งรูปแบบของค่าที่สูงขึ้นจะช่วยจำแนกชนิดของมะเร็งได้
6. ข้อจำกัดและข้อควรระวัง (Limitations & Precautions)
➕ผลบวกลวง (False Positive): อย่างที่กล่าวไป ภาวะตับอักเสบหรือตับแข็งสามารถทำให้ AFP สูงขึ้นได้ชั่วคราว แพทย์อาจต้องนัดตรวจซ้ำเพื่อดูแนวโน้มของค่า
➖ ผลลบลวง (False Negative): ผู้ป่วยมะเร็งตับประมาณ 30-40% มีระดับ AFP ปกติ! ดังนั้น แม้ค่า AFP จะไม่สูง ก็ยังไม่สามารถตัดมะเร็งตับออกไปได้หากผลตรวจทางรังสีสงสัย
▪️ ค่าครึ่งชีวิต (Half-life): AFP มีค่าครึ่งชีวิตประมาณ 5-7 วัน ซึ่งมีความสำคัญในการติดตามการรักษา หลังการผ่าตัดก้อนมะเร็งออกหมด ค่า AFP ควรจะลดลงตามค่าครึ่งชีวิตนี้ หากลดลงช้าหรือกลับเพิ่มขึ้น แสดงว่าอาจยังมีเซลล์มะเร็งหลงเหลืออยู่
▪️ ค่ามาตรฐานแตกต่างกัน: ค่าปกติของ AFP อาจแตกต่างกันไปในแต่ละห้องปฏิบัติการ ขึ้นอยู่กับชุดน้ำยาและเครื่องมือที่ใช้ จึงควรดูค่าอ้างอิง (Reference range) ของแล็บนั้นๆ ประกอบเสมอ
โดยสรุป AFP คือตัวบ่งชี้ทางชีวภาพที่มีคุณค่ามหาศาล แต่ก็เปรียบเหมือนดาบสองคมที่ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจในการแปลผลอย่างถูกต้อง การนำไปใช้ต้องพิจารณาจากประวัติผู้ป่วย การตรวจร่างกาย และผลการตรวจอื่นๆ ประกอบกันเสมอ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการดูแลรักษาสุขภาพค่ะ
#ตัวบ่งชี้มะเร็ง #มะเร็งตับ #นักเทคนิคการแพทย์ #ห้องแล็บ #ความรู้สู้มะเร็ง #วิทยาศาสตร์การแพทย์ #มะเร็งเซลล์สืบพันธุ์ #ตรวจสุขภาพ #สาระสุขภาพ #เรื่องเล่าจากห้องแล็บ #ไวรัสตับอักเสบ #ตับแข็ง
แหล่งอ้างอิง:
1. Mizejewski, G. J. (2001). Alpha-fetoprotein structure and function: relevance to isoforms, epitopes, and conformational variants. Experimental Biology and Medicine, 226(5), 377–408. https://journals.sagepub.com/doi/10.1177/153537020122600503
2. Singal, Amit G.1; Llovet, Josep M.2,3,4; Yarchoan, Mark5; Mehta, Neil6; Heimbach, Julie K.7; Dawson, Laura A.8; Jou, Janice H.9; Kulik, Laura M.10; Agopian, Vatche G.11; Marrero, Jorge A.12; Mendiratta-Lala, Mishal13; Brown, Daniel B.14; Rilling, William S.15; Goyal, Lipika16; Wei, Alice C.17; Taddei, Tamar H.18,19. AASLD Practice Guidance on prevention, diagnosis, and treatment of hepatocellular carcinoma. Hepatology 78(6):p 1922-1965, December 2023. | DOI: 10.1097/HEP.0000000000000466
3. Wong, R. J., Ahmed, A., & Gish, R. G. (2015). Elevated alpha-fetoprotein: differential diagnosis - hepatocellular carcinoma and other disorders. Clinics in liver disease, 19(2), 309–323. https://doi.org/10.1016/j.cld.2015.01.005