น้ำมันมะพร้าวเพื่อสุขภาพ

น้ำมันมะพร้าวเพื่อสุขภาพ แบ่งปัน ติดตามเรื่่องราวน่าสนใจ คว?

24/09/2019

ประโยชน์ของน้ำมะนาว ดื่มอุ่น ๆ ยามเช้า ดีแค่ไหนต้องพิสูจน์

น้ำมะนาวจะช่วยล้างสารพิษและสิ่งที่ตกค้างอยู่ในร่างกาย เพราะในน้ำมะนาวนั้นมีองค์ประกอบคล้ายคลึงกับน้ำลายและกรดไฮโดรคลอริกที่อยู่ในน้ำย่อย ส่งผลให้ตับผลิตน้ำดีซึ่งเป็นกรดที่จำเป็นในการย่อยอาหาร

นอกจากนี้มะนาวยังมีแร่ธาตุและวิตามินสูง ช่วยขับสารพิษที่อยู่ในระบบทางเดินอาหาร

ฤทธิ์ในการย่อยของกรดที่มีอยู่ในน้ำมะนาวนั้นจะช่วยบรรเทาอาการเกี่ยวกับอาหารไม่ย่อย อย่างเช่น กรดไหลย้อน ท้องอืด ท้องเฟ้อได้

นอกจากนี้สมาคมมะเร็งในอเมริกายังแนะนำว่าควรจะดื่มน้ำมะนาวอุ่น ๆ เพื่อกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ทำให้ไม่มีสารตกค้างซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดมะเร็งในลำไส้ได้

ช่วยดีท็อกซ์และเป็นยาขับปัสสาวะ

น้ำมะนาวจะช่วยขจัดสิ่งต่าง ๆ ในร่างกายออกผ่านออกทางปัสสาวะ ซึ่งจะช่วยทำให้ระบบทางเดินปัสสาวะทำงานดีขึ้น

นอกจากนี้กรดซิตริกในน้ำมะนาวยังจะช่วยเพิ่มการทำงานของเอนไซม์ที่ช่วยกระตุ้นตับและช่วยในการล้างสารพิษอีกด้วย

ประโยชน์ของน้ำมะนาว ดื่มอุ่น ๆ ยามเช้า ดีแค่ไหนต้องพิสูจน์

ช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน

มะนาวมีวิตามินซีสูงช่วยต่อสู้โรคหวัด และมีโพแทสเซียมสูง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองและเส้นประสาท ซึ่งช่วยควบคุมความดันโลหิตด้วย

วิตามินซีที่พบในมะนาวนั้นยังช่วยต่อต้านการอักเสบ และช่วยรักษาโรคหอบหืด และโรคอื่น ๆ เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

อีกทั้งยังช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กในร่างกาย ซึ่งธาตุเหล็กนี้มีความสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันอย่างมาก แถมมะนาวเปรี้ยวจี๊ดยังมีซาโปนินซึ่งช่วยต่อต้านเชื้อไข้หวัดและลดเสมหะในร่างกายได้

ปรับสมดุลของค่า pH ในร่างกาย

แม้ว่ามะนาวมีฤทธิ์เป็นกรด แต่เมื่อผสมกับน้ำดื่มแล้วน้ำมะนาวจะมีฤทธิ์เป็นด่าง หรือที่เราเรียกว่า Alkaline Water ซึ่งจะช่วยในการลดความเป็นกรดในเลือด

อีกทั้งแร่ธาตุที่อยู่ในมะนาวยังช่วยปรับสมดุลความเป็นด่างให้แก่เลือด การดื่มน้ำมะนาวเป็นประจำจะช่วยลดความเป็นกรดในร่างกายโดยเฉพาะกรดยูริคซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของอาการปวดและการอักเสบ

ทำให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง

วิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ สามารถช่วยลดริ้วรอย สิว แก้ปัญหาผิวมัน ทำให้ผิวเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล และช่วยฆ่าแบคทีเรียบางชนิดที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดสิว

แถมยังช่วยทำให้สุขภาพผิวดีจากภายในสู่ภายนอก เราสามารถนำมะนาวมาใช้กับแผลเป็นโดยตรงเพื่อทำให้แผลเป็นจางลงได้อีกด้วย ได้ยินแบบนี้แล้วสาว ๆ จะไม่ดื่มน้ำมะนาวได้ไงล่ะเนอะ

ประโยชน์ของน้ำมะนาว ดื่มอุ่น ๆ ยามเช้า ดีแค่ไหนต้องพิสูจน์

ช่วยเพิ่มพลังและทำให้อารมณ์ดีขึ้น

พลังงานของมนุษย์ส่วนใหญ่มาจากอะตอมและโมเลกุลในอาหารซึ่งประกอบด้วยโมเลกุลประจุบวก ซึ่งเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วก็จะทำให้ร่างกายทำงานช้าลง แต่มะนาวก็เป็นหนึ่งในอาหารไม่กี่ชนิดที่มีโมเลกุลประจุลบในปริมาณสูง จึงช่วยทำให้ร่างกายมีพลังมากขึ้น นอกจากนี้กลิ่นของน้ำมะนาวยังช่วยปรับอารมณ์ที่ขุ่นมัวให้ดีขึ้น ช่วยชำระล้างจิตใจยังช่วยลดความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าได้อีกด้วยล่ะ

ช่วยรักษาแผลและลดการอักเสบ

วิตามินซีที่อยู่ในน้ำมะนาวมีคุณสมบัติในการรักษาแผลและเป็นสารอาหารที่จำเป็นในการบำรุงรักษากระดูกเนื้อเยื่อและกระดูกอ่อน นอกจากนี้วิตามินซียังมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ลดความเครียด ลดอาการบาดเจ็บและช่วยทำให้สุขภาพดีอีกด้วย

ลมหายใจสดชื่นขึ้น

ช่วยบรรเทาอาการปวดฟันและโรคเหงือกอักเสบได้ แต่กรดซิตริกที่อยู่ในน้ำมะนาวนั้นสามารถกัดกร่อนเคลือบฟันได้เหมือนกัน ดังนั้นเพื่อให้การดื่มน้ำมะนาวได้ผลดีมากกว่าผลเสียเราก็ควรจะแปรงฟันก่อนที่จะดื่มน้ำมะนาว และควรจะบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดหลังจากที่ดื่มทุกครั้งค่ะ

เติมความชุ่มชื่นให้ร่างกาย

ช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงโดยการให้ความชุ่มชื้นและเติมของเหลวในร่างกายที่หายไป เมื่อร่างกายของคุณขาดน้ำ จะทำให้เกิดผลกระทบมากมาย อาทิเช่น รู้สึกเหนื่อย ท้องผูก ภูมิคุ้มกันต่ำ ความดันโลหิตต่ำ หมดแรง นอนไม่หลับ อารมณ์ไม่ดีและรู้สึกเครียด

ช่วยลดน้ำหนัก

มะนาวมีไฟเบอร์สูงซึ่งทำให้เรารู้สึกอิ่ม จึงช่วยควบคุมความอยากอาหารได้ มีการศึกษาแสดงให้เห็นว่าผู้ที่บริโภคอาหารที่มีฤทธิ์เป็นด่างจะทำให้สามารถลดน้ำหนักได้เร็วกว่าปกติ ดังนั้นการดื่มมะนาวในตอนเช้าจะช่วยทำให้ความอยากอาหารลดลงและสามารถลดน้ำหนักได้จริง

Cr : ASTVผู้จัดการออนไลน์
Photo Credit(ขอยืมภาพจาก) : Fix.com

23/09/2019
21/09/2019
21/09/2019

... จากผลงานวิจัยชิ้นสำคัญอีกชิ้นหนึ่งตีพิมพ์ในวารสารในเครือวารสารทางการแพทย์ชื่อดังของอังกฤษ The BMJ ด้านหัวใจ Heart คือการวิจัยที่ประเทศจีน

ซึ่งได้ทำการศึกษาประชากรกว่า 5 แสนคน ที่มีอายุระหว่าง 30-79 ปี ในระหว่างปี พ.ศ. 2547 - 2551 เพื่อเปรียบเทียบระหว่างประชากรประมาณ 13% ที่บริโภคไข่เกือบ 1 ฟอง (0.74 ฟองต่อวัน) กับกลุ่มประชากรประมาณ 9.1% ที่ไม่ได้บริโภคหรือแทบจะไม่ได้บริโภคไข่เลย (0.29 ฟองต่อวัน)ว่าจะมีผลเป็นอย่างไร

ผลปรากฏว่ากลุ่มประชากรที่บริโภคไข่วันละเกือบ 1 ฟอง มีความเสี่ยงในการเสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจลดลงไป 18% และมีความเสี่ยงเสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดสมองตีบหรือแตกลดลงไป 28%

อย่างไรก็ตาม แม้การบริโภคไข่ดังที่กล่าวมาข้างต้นจะช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง แต่ก็ขึ้นอยู่กับน้ำมันที่ผัดทอดด้วย

เพราะหากผัดทอดด้วยไขมันไม่อิ่มตัว (น้ำมันถั่วเหลือง, น้ำมันข้าวโพด, น้ำมันดอกทานตะวัน, น้ำมันมะกอก, น้ำมันรำข้าว) เราก็อาจจะได้สารพิษในกลุ่มอัลดีไฮด์ได้มากกว่าไขมันไม่อิ่มตัว (เช่น น้ำมันมะพร้าว, เนย)

ดังนั้น สำหรับกลุ่มประชากรที่ต้องการลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองจึงควรบริโภค ไข่ลวก, ไข่ตุ๋น หรือหากจะต้องการผัดทอดก็ให้ใช้น้ำมันมะพร้าว หรือเนย

และถ้าจะให้ดียิ่งไปกว่านั้นก็ควรจะต้องงดน้ำตาล และงดแป้งและข้าวขัดขาว รวมถึงการงดอาหารที่มีดัชนีน้ำตาลสูงๆร่วมด้วย ก็จะทำให้ลดความเสี่ยงในโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองได้มากขึ้นไปอีก

ด้วยความปรารถนาดี
ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต
Photo Credit: Reader’s Digest

19/09/2019

หาอะไรดื่มตามธาตุก็ช่วยบำรุงร่างกายได้เหมือนกัน...

การดื่มน้ำผลไม้หรือน้ำสมุนไพรตามหลักทฤษฎีการแพทย์แผนไทย สามารถกระทำได้โดยการดื่มตามเวลาที่ธาตุในร่างกายของคนเราเปลี่ยนแปลงไป (กาลสมุฎฐาน) โดยมีการแบ่งเวลาดังนี้

เวลา 06.00-10.00 น. และเวลา 18.00-22.00 น.
ควรดื่มน้ำสมุนไพรที่บำรุงร่างกายและปรับสมดุลของธาตุน้ำ ได้แก่ น้ำสมุนไพรที่มีรสเปรี้ยว เช่น น้ำส้ม น้ำมะนาว น้ำฝรั่ง รสเปรี้ยวของน้ำส้มทำให้ชุ่มคอ แก้ไอ ขับเสมหะรสฝาด อมเปรี้ยวของน้ำฝรั่ง มีฤทธิ์ฝาดสมาน ช่วยแก้อาการท้องเดิน

เวลา 10.00-14.00 น. และ 22.00-02.00 น.
ควรดื่มน้ำสมุนไพรที่ช่วยบำรุงร่างกายและปรับสมดุลของธาตุไฟ ได้แก่ น้ำสมุนไพรที่มีรสขม เช่น น้ำบัวบก น้ำลูกเดือย น้ำบัวบกแก้ร้อนในกระหายน้ำ ทำให้สดชื่น แก้อักเสบหรือช้ำใน แก้ปวดศีรษะข้างเดียว น้ำลูกเดือยชงเป็นยาเย็น ขับปัสสาวะ แก้ร้อนใน บำรุงไต กระเพาะอาหาร ม้าม รวมทั้งบำรุงเลือดลมในสตรีหลังคลอด รักษาอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง

เวลา 14.00-18.00 น. และเวลา 02.00-06.00 น.
ควรดื่ม น้ำสมุนไพรที่ช่วยบำรุงร่างกายและปรับสมดุลของธาตุลม ได้แก่ น้ำสมุนไพรที่มีรสเผ็ดร้อน ได้แก่ น้ำขิง น้ำตะไคร้ น้ำขิงรสเผ็ดร้อน บำรุงธาตุ ช่วยขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้อาการคลื่นไส้ อาเจียน ช่วยเจริญอาหาร น้ำตะไคร้ รสเผ็ดร้อน บำรุงธาตุ ช่วยแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด ขับปัสสาวะ ขับเหงื่อได้ดี ช่วยลดพิษของสารแปลกปลอมในร่างกาย

ดื่มเป็นประจำบางท่านก็ว่าทำให้รู้สึกดีขึ้นจริงๆคะ

Cr: สถาบันการแพทย์แผนไทย
Photo Credit (ขอยืมภาพมาจาก) : mycookingrecipes.com

14/09/2019

ทำไมคนจีนจึงแนะนำข้าวต้มสำหรับมื้อเช้า

ปรมาจารย์หลี่สือเจิน (李时珍) ได้กล่าวถึงข้าวต้มละเอียด (โจ๊ก) ว่าเป็นอาหารสุดยอดของการบำรุง ถ้าได้รับประทานสัก 1 ถ้วยขณะท้องว่าง ธัญพืช (ข้าว) ที่ต้มละเอียดเป็นอาหารบำรุงที่มีขนาดเล็ก นุ่มและไม่เหนียวหนืด เหมาะกับการทำงานของกระเพาะอาหาร

ข้าวต้ม ถือเป็นอาหารหลักพื้นฐานเพราะเป็นตัวให้พลังงาน ย่อยง่าย ดูดซึมง่าย ใช้พลังในการย่อยน้อย (ถนอมพลังของร่างกาย แพทย์จีนให้ความสำคัญว่ากระเพาะอาหารและม้ามเป็นที่มาของพลังชีวิตหลังการเกิด) เป็นอาหารที่ถูกนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว อุ่นกระเพาะอาหารเหมาะสำหรับทุกวัย โดยเฉพาะผู้ที่เจ็บป่วยเรื้อรัง คนที่มีโรคกระเพาะอาหารอักเสบเป็นแผล เด็กเล็ก

นอกจากนี้ ในภาวะที่ร่างกายพักผ่อนมาตลอดทั้งคืน ระบบย่อยอาหารในช่วงเช้าถือเป็นการเริ่มต้นการทำงานของร่างกาย ถ้าได้รับอาหารที่ย่อยง่ายและดูดซึมเร็วเหมือนกับเครื่องยนต์ที่เริ่มอุ่นเครื่องใหม่ ๆ จะดีกว่าการรับประทานอาหารหนักที่ย่อยยากที่ทำให้กระเพาะอาหารทำงานหนักขึ้น หรือการรับประทานอาหารที่ผักผลไม้มีฤทธิ์เย็นเช่น น้ำผัก ผลไม้ปั่น ผักดิบ ในมื้อเช้าทำให้เลือดไหลเวียนมาที่กระเพาะอาหารน้อยลง กระเพาะอาหารทำงานมีประสิทธิภาพลดน้อยลงเช่นกัน

การจัดอาหารเมนูข้าวต้มโจ๊กนั้นสามารถปรับใส่อาหารสมุนไพรลงไปตามสภาพร่างกาย ยกตัวอย่างที่ใช้บ่อยคือ “โจ๊กบำรุงไต” ที่ขอมอบสูตรไว้ในวันนี้

สูตร โจ๊กบำรุงไต

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) เตรียม 40 นาที (ไม่รวมเวลาแช่ข้าวเ หนียวและงา) ปรุง 30 นาที – 3 ชั่วโมง (ขึ้นกับวิธีต้ม)

ข้าวเหนียวดำ 100 กรัม
เม็ดบัว (เอาดีบัวออก) 100 กรัม
พุทราจีน 10 ลูก
งาดำ 100 กรัม

วิธีทำ

1. ข้าวเหนียวดำแช่ค้างคืน 1 คืน งาดำคั่วด้วยไฟอ่อนๆ จนมีกลิ่นหอม แช่น้ำค้างคืน 1 คืน ลูกบัว พุทราจีน ล้างให้สะอาด

2. นำส่วนผสมทั้งหมดผสมกันใส่น้ำต้มเป็นข้าวต้มด้วยหม้อความดันสูงนาน 20 นาที จะได้ข้าวเหนียวดำและงาดำที่แตกละเอียดง่ายแก่การย่อย (ถ้าต้มด้วยหม้อธรรมดา ข้าวเหนียวดำต้องแช่น้ำอุ่นค้างคืน แล้วจึงนำมาต้มด้วยไฟอ่อน ๆ ต้องใช้เวลาต้มนานประมาณ 3 ชั่วโมง)ใช้รับประทานแทนข้าวต้ม

ข้อควรระวัง ถ้าข้าวเหนียวดำต้มไม่ละเอียดพอจะทำให้ย่อยยาก เพิ่มภาระการทำงานของกระเพาะอาหาร

สรรพคุณวัตถุดิบ

ข้าวเหนียวดำ งาดำ ฤทธิ์อุ่น บำรุงเลือดและบำรุงพลังแก้อาการอ่อนเพลีย ใจสั่นรักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพหลั่งเร็ว น้ำกามเคลื่อน (ข้าวเหนียวดำและงาดำมีคุณค่าทางอาหารสูงมากมีไฟเบอร์ โปรตีนอย่างสมบูรณ์ สีดำบำรุงไต)

พุทราจีน ฤทธิ์กลาง บำรุงม้าม กระเพาะอาหาร ช่วยทำให้นอนหลับ
เม็ดบัว ฤทธิ์กลาง บำรุงม้ามและไต ช่วยทำให้นอนหลับ แก้ท้องเสียรักษาอาการปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืนหลั่งเร็ว

พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 533.10 กิโลแคลอรี
โปรตีน 18.26 กรัม ไขมัน 27.96 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 60.82 กรัม ไฟเบอร์ 10.10 กรัม

โดย แพทย์จีน นพ.ภาสกิจ วัณนาวิบูล อุปนายกและเลขาธิการสมาคมแพทย์แผนจีนประเทศไทย (www.samluangclinic.com)

เรียบเรียง : สิทธิโชค ศรีโช ภาพ : พีระพัฒน์ พุ่มลำเจียก สไตล์ : พิมฝัน ใจสงเคราะห์

06/06/2019
18/05/2019

มันเทศสีม่วงมีสาร “แอนโทไซยานิน” สูง

Anthocyanin เป็นสารที่มีฤทธิ์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยในการชะลอความเสื่อมของเซลล์ ช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตันได้ ช่วยชะลอความเสื่อมของดวงตา

มีการวิจัยพบว่าสารชนิดนี้ช่วยยับยั้งเชื้ออีโคไลซึ่งเป็นสาเหตุของโรคท้องร่วง ในธรรมชาติผักและผลไม้ที่มีสารแอนโทไซยานินมากมักจะสีม่วง เช่นองุ่นแดง บลูเบอรี่ ดอกอัญชัน ฯลฯ สำหรับพืชหัวจะมีมากในหัวมันเทศเนื้อสีม่วง มันเทศ เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตชั้นดีที่ให้พลังงานโดยไม่ก่อพิษต่อร่างกายแบบอาหารแปรรูปจากแป้งและน้ำตาลแบบอื่น ๆ

ใบและยอดอ่อนของมันเทศ (Sweet potato) สามารถนำมาปรุงเป็นอาหารได้ และยังมีวิตามินเอ วิตามินซี สารอาหารลูทิน (Lutein) ที่ช่วยบำรุงสายตา ผัดยอดมันเทศเป็นอาหารที่คนมาเลเซียรับประทานกันเป็นประจำ การนำยอดมันเทศมาปรุงอาหารนี้ พบว่ามีในประเทศญี่ปุ่น จีน และเกาหลีด้วย

#มันเทศเนื้อสีส้ม ต่างจากเนื้อสีม่วงคือ มีสารเบต้าแคโรทีนสูง ซึ่งช่วยลดอัตราการกลายพันธ์ของเซลล์และทำลายเซลล์มะเร็ง

มันเทศมีคุณค่าทางโภชนาการ สูงกว่ามันฝรั่งด้วยซ้ำไป ในเนื้อมันเทศนอกจากจะมีปริมาณแป้งสูงแล้ว ยังมีวิตามินและแร่ธาตุมาก มันเทศเนื้อสีส้ม จะมีสารเบต้าแคโรทีนสูงไม่แพ้แครอทและสาหร่ายทะเล

การที่มันเทศเนื้อสีม่วงมีสารแอนโทไซยานินสูงนั้น สารแอนโทไซยานินจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจได้ และยังทำหน้าที่เป็นตัวล้างพิษและช่วยชะลอความแก่ชราได้ มีข้อมูลว่าในบางประเทศมีการใช้เนื้อมันเทศสีม่วงเป็นคาร์โบไฮเดรตแทนข้าวสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

******* *******
ชีวอโรคยา แบ่งปันความรู้ทั่วไป เพื่อเป็นวิทยาทาน เพื่อความพอเพียง เพื่อสุขภาพที่ดี โปรดใช้วิจารณญาณ และใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานไปต่อยอดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตนเอง ไม่ตอบคำถามเพิ่มเติม ไม่รับปรึกษาปัญหาสุขภาพ เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญไม่ได้ประจำหน้าเพจ
เรียบเรียงโดย ชีวอโรคยา อ้างอิงข้อมูลจาก นานาสาระเพื่อสุขภาพที่ดี
ภาพโดย ชีวอโรคยา สงวนลิขสิทธิ์ตาม พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ 2558

ชีวอโรคยา อยากให้ทุกคนมีสุขภาพดีไม่พึ่งสารเคมี ไม่ต้องรอให้ป่วยไปเสียค่ารักษาพยาบาลแพงๆ
ติดตามข้อมูลข่าวสารการดูแลตัวเองวิถีธรรมชาติ ไม่พึ่งสารเคมีได้ที่ Facebook ชีวอโรคยา

16/05/2019
14/05/2019

ดื่มกาแฟอย่างชาญฉลาด ได้สรรพคุณสมุนไพร
กาแฟเย็นที่ดีต้องไม่ใส่นม-ครีมเทียม และไม่ใส่น้ำตาลมากไป
#แถวบ้านเรียกโอเลี้ยง

ที่จริงแล้ว “กาแฟ” ก็คือสมุนไพรชนิดหนึ่ง ที่มีทั้งประโยชน์และโทษ ดื่มกาแฟแต่พอดี เป็นประโยชน์ ดื่มมากไป ผสมนู่นนี่นั่นมากไปต่างหาก ที่ไม่ดีต่อสุขภาพ วิธีดื่มกาแฟให้ดีต่อสุขภาพคือ...

แก้วเดียวก็พอนะ!
ร่างกายแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน แต่การดื่มกาแฟวันละแก้ว น่าจะพอดีแล้วกับร่างกาย หรืออาจเพิ่มอีกแก้วในบางวันที่ต้องการความกระปรี้กระเปร่า แต่ถ้ามากกว่านี้และไม่ชิน คาเฟอีนจะทำให้นอนไม่หลับ

ดื่มกลางวันดีกว่าค่ำ
มื้อค่ำ ร่างกายเตรียมพักผ่อน อาจนอนไม่หลับ ควรดื่มกาแฟให้รู้สึกสดชื่นตอนเช้า หรือกลางวันจะดีกว่า จริงๆ ค่ะ

กาแฟดีต้องไม่ทำให้อ้วน
กาแฟดำดีที่สุด เพราะไม่อ้วนแน่นอน ไม่เติมน้ำตาลยิ่งดี ได้คุณค่าสมุนไพรจากกาแฟจริงแท้แน่นอน เลี่ยง นมข้นหวาน นมสด ครีมเทียม กินกาแฟดำแบบใสๆ เพื่อสุขภาพล้วนๆ เลยค่ะ

ไม่ดื่มตอนท้องว่าง
คาเฟอีน ในกาแฟ - ชา จะเร่งให้กระเพาะหลั่งกรด ทำให้กรดเพิ่มขึ้นในกระเพาะว่างๆ ทำให้ไม่สบายท้อง เป็นโรคกระเพาะอาหารได้ ตอนเช้าควรดื่มพร้อมอาหารเบาๆ อาทิ ขนมปังโฮลวีต ไข่ลวก ไข่ดาว

กินแคลเซียมทดแทน
คาเฟอีนในกาแฟ หรือชา จะดึงแคลเซียมออกจากร่างกาย ต้องกินทดแทน แคลเซียมจากปลาเล็กๆ ผักตระกูลกะหล่ำ อาทิ คะน้า บร็อกโคลี หรือน้ำกระชาย จะได้ชดเชยแคลเซียมที่เสียไปได้ค่ะ

*** เคล็ดไม่ลับนักดื่มกาแฟ
- ควรจิบน้ำเปล่าตามหลังจิบกาแฟ เพราะคาเฟอีนมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ โดยไปลดการดูดกลับของโซเดียม โพแทสเซียม และแคลเซียมจากหน่วยไตที่ถูกขับออกมาพร้อมปัสสาวะ การดื่มน้ำตามจะทำให้เจือจางลงได้ สังเกตกันบ้างหรือเปล่าว่าคอกาแฟ กลิ่นปัสสาวะจะออกเป็นกลิ่นกาแฟ
- ร่างกายคนปรกติรับคาเฟอีนได้ไม่เกิน 150 มิลลิกรัม/วัน ถ้ามากเกินจะหลับยาก อาจตื่นบ่อยๆ กลางดึก ถ้ามีอาการเช่นนี้ให้ลดกาแฟลง

******* *******
ชีวอโรคยา แบ่งปันความรู้ทั่วไป เพื่อเป็นวิทยาทาน เพื่อความพอเพียง เพื่อสุขภาพที่ดี โปรดใช้วิจารณญาณ และใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานไปต่อยอดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตนเอง ไม่ตอบคำถามเพิ่มเติม ไม่รับปรึกษาปัญหาสุขภาพ เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญไม่ได้ประจำหน้าเพจ
เรียบเรียงโดย ชีวอโรคยา อ้างอิงข้อมูลจาก กระปุกดอทคอม อ้างอิงข้อมูล Lisa
ขอบคุณภาพจาก pixabay

ชีวอโรคยา อยากให้ทุกคนมีสุขภาพดีไม่พึ่งสารเคมี ไม่ต้องรอให้ป่วยไปเสียค่ารักษาพยาบาลแพงๆ
ติดตามข้อมูลข่าวสาร การดูแลตัวเองวิถีธรรมชาติ ไม่พึ่งสารเคมีได้ที่ Facebook ชีวอโรคยา

27/02/2019
14/02/2019
24/11/2018

บริษัทไปรษณีย์ไทย แจ้งประชาสัมพันธ์ว่า ขณะนี้มีมิจฉาชีพโทรเข้าไปที่มือถือของลูกค้า โดยระบุว่า "ท่านมีพัสดุที่ยังไม่ได้รับจากไปรษณีย์ไทย กรุณากด 9 เพื่อสอบถามรายละเอียด" และเมื่อมีการโอนสายไปให้คนพูด จะอ้างว่าเป็นบริการแจ้งเตือนแบบใหม่ ถ้าต้องการทราบรายละเอียดพัสดุของคุณ กรุณาแจ้งชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขบัตรประชาชน ฯลฯ ขอให้อย่าหลงเชื่อ บริษัทไปรษณีย์ไทย ยืนยันว่า ไม่มีบริการในรูปแบบนี้ และให้วางสายโทรศัพท์ในทันที #ข่าวช่อง8 #เตือนภัย #มิจฉาชีพ

09/11/2018

อาหารล้างพิษกาย 5 อย่าง ช่วยสุขภาพดี มีดังต่อไปนี้

🍑แอ๊ปเปิ้ล

แอปเปิ้ล คณะวิจัยมหาวิทยาลัยพอลซาบาทิเอร์เมืองตูลูส ฝรั่งเศส วิจัยพบว่า การรับประทาน แอปเปิ้ล วันละ 3 ผลร่วมกับอาหารอื่น ๆ เป็นเวลา 1 เดือน สามารถช่วยให้คอเลสเตอรอลในเลือดลดลง เพราะเมื่อกรดในทางเดินอาหารย่อยสลายไขมันแยกคอเลสเตอรอลออกมาแล้ว เพกทินในแอ๊ปเปิ้ลจะคอยดักจับคอเลสเตอรอลเหล่านั้นไปทิ้งนั่นเอง แอ๊ปเปิ้ลยังมีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำสูงมาก จึงช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น ทั้งนี้ยังมีข้อมูลจากโภชนากรแนะนำว่า ควรกินแอ๊ปเปิ้ลแดง เพราะมีสารที่มีคุณสมบัติบำรุงภูมิคุ้มกันและช่วยล้างพิษในร่างกายมากที่สุด

กระเจี๊ยบแดง

กระเจี๊ยบแดง จากข้อมูลเกี่ยวกับสมุนไพรตามหลักเภสัชกรรมแผนไทยระบุไว้ว่า กระเจี๊ยบแดง มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ซึ่งสอดคล้องกับผลงานวิจัยของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ทั้งยังค้นพบสาร “แอนโทไซยานนิ “ ซึ่งเป็นสารสีแดงตัวเดียวกันกับที่พบในบลูเบอร์รี่ แต่ใน กระเจี๊ยบ มีมากกว่า ซึ่งสารดังกล่าวนี้ช่วย ต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าวิตามินซีเสียอีกนอกจากนี้ยังมีข้อมูลรายงานว่า กระเจี๊ยบมีคุณสมบัติช่วยขจัดแบคทีเรียและไวรัสออกจากระบบทางเดินปัสสาวะอีกด้วย

มะละกอสุก

มะละกอสุก คือมิตรที่แท้จริงของระบบทางเดินอาหาร เพราะสารสำคัญในมะละกอช่วยป้องกันการเกิด โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เส้นใยอาหารจาก มะละกอ สามารถจับกับสารพิษก่อ มะเร็งในลำไส้ใหญ่ และพาส่งออกทำให้สารพิษสัมผัสกับลำไส้ใหญ่น้อยที่สุดสารโฟเลต เบต้าแคโรทีน วิตามินซีและอีที่พบในมะละกอ ยังช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยช่วยปกป้องสารพันธุกรรมในเซลล์ไม่ให้ถูกอนุมูลอิสระทำลายมากนัก นอกจากนี้เอนไซม์ปาเปอีนและไคโมปาเปนยังช่วยย่อยโปรตีนและช่วยลดการอักเสบได้อีกด้วย

ขิง

ขิง เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เผ็ดร้อน ช่วยขับเหงื่อให้ร่างกายได้ ซึ่งการขับเหงื่อ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้สารพิษในระดับผิวหนังถูกขับออกไป ซึ่งหากคุณออกกำลังกายประจำอยู่แล้วก็ไม่มีอะไรน่ากังวล แต่ถ้าไม่ค่อยมีเวลา ลองปรุงซุปขิงอุ่น ๆ รับประทานดู เพราะ ขิงมีความเผ็ดร้อนในตัว นอกจากจะช่วยต้านหนาวได้ดีแล้ว ยังช่วยส่งเสริมระบบการย่อยอาหารให้เป็นไปอย่างปกติ ขับลม และแก้วิงเวียนได้ดีทีเดียว ที่สำคัญ ยังช่วยขับเหงื่อเพื่อขจัดสารพิษที่ผิวหนังให้คุณได้

🍍สับปะรด

สับปะรด เป็นผลไม้ที่มีกากใยสูง อุดมไปด้วยวิตามิน ซี มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วย ขับสารพิษ ออกจากร่างกาย ช่วยต้านหวัดและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย นอกจากนี้ สับปะรดยังช่วยย่อยอาหาร โดยเฉพาะช่วยย่อยอาหารจำพวกโปรตีน สำหรับสายบุฟเฟ่ต์ที่รับประทานเนื้อสัตว์เยอะเกินความจำเป็นสับปะรดช่วยได้

เช็กลิสต์อาการเนื่องจากสารพิษในกาย

ระบบการย่อยอาหารไม่ดี ขับถ่ายไม่ดี ท้องอืด แน่นท้อง แก๊สมาก และปวดเกร็งช่องท้อง
อ่อนเพลีย เซื่องซึม หงุดหงิดง่าย นอนไม่หลับ วิตกกังวล เลื่อนลอย ความจำไม่ดี สมาธิสั้น
ปวดศีรษะ
ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ ผิวแห้งแตก
เส้นผมและเล็บมีความเปราะบาง
มีกลิ่นตัว กลิ่นปาก
เป็นสิว มีผื่นคันเรื้อรัง
มีอาการภูมิแพ้ชนิดอื่น ๆ ที่ไม่เคยแพ้
คัดจมูก เสมหะมาก ลิ้นเป็นฝ้าหากเกิดอาการเหล่านี้ขึ้นทั้งที่คุณไม่เคยเป็นมาก่อนถือเป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายมีสารพิษเกิดข้นึ เกินกว่าระบบจะขับออกได้ทันแล้ว

ลองนำอาหารเหล่านี้ไปปรุงเป็นอาหารทานกันดูนะจ๊ะ สุขภาพจะได้แข็งแรง

27/10/2018
15/09/2018

องค์ความรู้ด้านสุขภาพของคนในยุคปัจจุบันที่ได้ใช้การวิจัยเป็นเครื่องมือทำให้เรื่องที่เกิดการถกเถียงใน...

ที่อยู่

Ban Hat Yai

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 18:00
อังคาร 09:00 - 18:00
พุธ 09:00 - 18:00
พฤหัสบดี 09:00 - 18:00
ศุกร์ 09:00 - 18:00
เสาร์ 09:00 - 18:00
อาทิตย์ 09:00 - 18:00

เบอร์โทรศัพท์

0869649284

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ น้ำมันมะพร้าวเพื่อสุขภาพผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง น้ำมันมะพร้าวเพื่อสุขภาพ:

แชร์