บ้านหมอชอน สมุนไพรเพชรบุรี

บ้านหมอชอน สมุนไพรเพชรบุรี ถาม-ตอบ ปัญหาสุขภาพ
สมุนไพร ผู้สูงอายุ

ศาสตร์แห่งสุขภาพ ว่าด้วยความรู้ของการดูแลสุขภาพ ทั้งจากการแพทย์แผนตะวันตก และภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย การดูแลแบบองค์รวมทั้งกายและใจ "ธรรมานามัย" ห่วงใยกันเหมือนคนในครอบครัว

อย่าตระหนกตกใจกับการกระจายของโคvidแต่ให้มีลิมิตกับการพบปะผู้คนในช่วงนี้นะคร้าบ..เตรียมพร้อมร่างกายอย่างไรให้ห่างไกลการsะ...
24/05/2025

อย่าตระหนกตกใจกับการกระจายของโคvid
แต่ให้มีลิมิตกับการพบปะผู้คนในช่วงนี้นะคร้าบ..
เตรียมพร้อมร่างกายอย่างไรให้ห่างไกลการsะบาด
1. สังเกต ถ้าเพลีย อย่าหักโหม บูสท์ร่างกาย นอนให้พอ เติมสารอาหารต้านอนุมูลอิสระ Reboost Immune ด้วยอาหารและการพักผ่อน

2. ล้างมือ ใช้เจลแอลกอฮอล์ ช่วยลดความเสี่ยงได้เยอะมาก รวมถึงใส่หน้ากากป้องกัน ไม่อยู่ใกล้ คนที่ไอจาม เลี่ยงได้..เลี่ยง

3. อาหารเป็นยา ป้องกันก่อนรักษา ด้วยเครื่องเทศ เครื่องแกง สมุนไพร กินได้ อาหารไทย เสริมภูมิ

4. มีไข้อย่านอนซม ไอจามไม่รีรอ วิตามินและยารักษาาการ พร้อมชุดตรวจ ให้แน่ใจ ไม่แพร่ต่อ

5. ยาไทยยังใช้ได้ ตำรับดีๆ จากคัมภีร์ สอบถามแพทย์แผนไทย ใช้เป็น..ฟื้นไว ไม่ยืดเยื้อยาวนาน

XEC
18/05/2025

XEC

โควิด​ สายพันธุ์​ "XEC" มีอาการอย่างไร?

XEC เป็นสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน เป็นลูกผสมระหว่างสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอนที่ค้นพบก่อนหน้านี้สองสายพันธุ์ - KS.1.1 (กลุ่มสายพันธุ์ FLiRT) และ KP.3.3 (กลุ่มสายพันธุ์ FLuQE) การรวมตัวกันใหม่นี้ส่งผลให้เกิดการกลายพันธุ์ใหม่หลายอย่าง ซึ่งอาจทำให้มันแพร่เชื้อได้มากกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้

ข้อมูล: รพ.รามาธิบดี

#โควิดตัวร้าย #โควิดxec #โอมิครอน ่อง16

ห้าราก
24/04/2025

ห้าราก

ยาตำรับ "เบญจโลกวิเชียร" หรือที่เรียกกันว่า "5 ราก" กับการใช้ยาอย่างสมเหตุผล - จะดูแค่สรรพคุณที่เขียนเอาไว้ข้างกระปุกแค่นั้นไม่ได้ - จะต้องดูถึงอันตรายที่อาจเกิดจากการทำงานของตำรับยานั้นด้วย - อย่าคิดว่ายาสมุนไพรกินตอนไหนเท่าไหร่ก็ได้ไม่อันตราย

บทความโดย พท.กมลลาสน์ ชีวสาธน์เวชกุล
แพทย์แผนไทย พท.ว เวชกรรมไทย / พท.ภ เภสัชกรรมไทย

การใช้ยาอย่างสมเหตุผล ไม่ใช่แค่การใช้ยาตามฉลากข้างกระปุกให้ตรงกับอาการที่ตนเองเป็นอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงผลข้างเคียง และอันตรายจากการกินยาตำรับนั้นด้วย ไม่ใช่แต่จะคิดว่า ยาสมุนไพรคือพืชผักกินเข้าไปเท่าไหร่ก็ได้ไม่อันตราย แบบนั้นมันดู "มักง่าย" ไปหน่อย

*** เรื่องการใช้ยาอย่างสมเหตุผล คือ สิ่งที่วงการแพทย์แผนไทยยังไม่มีเลย เพราะในวงการแพทย์แผนไทย ยังคงมีการใช้ยาตามที่ตำราบันทึกเอาไว้อยู่ โดยที่ไม่มีการคำนวนปริมาณการใช้ยาให้เหมาะสมกับสภาวะโรค

เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกอะไร ที่ใช้ยาสมุนไพรตำรับแล้วไม่เห็นผลชัดเจน หรือผลที่ได้จากการใช้ยาไม่คงที่

******************************

สำหรับยา "เบญจโลกวิเชียร" หรือ "5 ราก" แพทย์แผนไทยส่วนใหญ่จะรู้แค่ว่ามันเป็นยากระทุ้งพิษไข้ แต่พอถามว่า "กระบวนการกระทุ้งพิษไข้" เป็นยังไง และผลกระทบจากการกระทุ้งพิษไข้นั้นมีอะไรบ้างกลับตอบไม่ได้ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ต้องปรับปรุงโดยด่วน

*** เพื่อดูความสมเหตุสมผลในการใช้ยา เรื่องที่ควรพิจารณา คือ

- กระบวนการออกฤทธิ์ของยากระทบระบบใดบ้างในร่างกาย
- อาการไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นจากการกินยามีอะไรบ้าง
- ปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละภาวะโรค ควรใช้เท่าไหร่

การออกฤทธิ์ของยาในลักษณะ "การกระทุ้งพิษ" กระบวนการที่เป็นไปได้จากการทำงานของตำรับยา (บางส่วน) เช่น

1) ความต้านทานในหลอดเลือดส่วนปลายลดลง (↓ Systemic vascular resistance)

2) ความดันเลือดลดลง (hypotension)

3) หลอดเลือดฝอยรั่วมากขึ้น ของเหลวออกสู่เนื้อเยื่อ (→ บวม)

*** ผลที่ได้คือ เม็ดเลือดขาวออกสู่เนื้อเยื่อเป้าหมายมากขึ้น เพื่อส่งเสริมกระบวนการทำงานในลักษณะ "กระทุ้งพิษไข้"

********************************

จากกระบวนการนี้ สิ่งที่ควรระวังที่อาจเกิดขึ้นคือ

1) "ลมพัดอาโปธาตุให้เป็นฟอง" พยาธิสภาพที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งอาจเป็นผลจากยา "เบญจโลกวิเชียร" คือ

1.1) หลอดเลือดฝอย (capillary) ขยายตัว →
1.2) ความดัน hydrostatic ภายในหลอดเลือดเพิ่ม หรือ
1.3) ความสามารถในการซึมผ่านของผนังหลอดเลือดเพิ่มขึ้น →
1.4) น้ำ + โปรตีนบางส่วน ซึมออกจากหลอดเลือด
1.5) → เข้าสู่ interstitial space → เกิดอาการบวมเฉพาะที่

*** อาการในลักษณะนี้เกิดขึ้นได้ไม่บ่อย ไม่ใช่ว่าคนที่กินยา "5 ราก" ทุกคนจะต้องมีอาการแบบนี้ ซึ่งคนที่จะมีอาการแบบนี้ได้ จะต้องมีเหตุปัจจัยหลายประการเกิดขึ้นอยู่ก่อนแล้ว เช่น

- การอักเสบเฉพาะที่ (Localized Inflammation) ที่มีอยู่ก่อนแล้ว
- การแพ้เฉพาะที่ (Localized Allergic Reaction) ที่มีอยู่ก่อนแล้ว
- ยาขยายหลอดเลือดแผนปัจจุบันที่กินอยู่ก่อนแล้ว
- และอื่น ๆ อีกหลาย ๆ สาเหตุ

*** แพทย์แผนไทยทั้ง พท.ว และ พท.ภ จะต้องซักประวัติรายละเอียดทั้งหมดจากคนไข้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะจ่ายยาสมุนไพรตำรับ แล้วไปชนกับยาแผนปัจจุบันที่คนไข้กินอยู่ ซึ่งเราห้ามยุ่งหรือห้ามสั่งงดยาแผนปัจจุบันที่คนไข้กินอยู่โดยเด็ดขาด

*******************************

2) อาการไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นจากการกินยา

ผลของกระกระทุ้งพิษ ไม่ได้ส่งผลแค่หลอดเลือดเท่านั้น แต่ส่งผลกระทบไปถึงระบบทางเดินอาหารด้วย เพราะฉะนั้น ผลที่อาจเกิดขึ้นกับระบบทางเดินอาหาร คือ "กุจฉิสยาวาตา" จะเกิดอาการกำเริบ

*** ทำให้เกิดโรค "อติสาร" หากกินยาในปริมาณากเกินไป

ข้อมูลที่เหลือ เดี๋ยวจะเอาไปอธิบายในห้อง พท. ในช่วงเวลา Live สด ท่านใดติดงานตามชมย้อนหลังได้เลย เดี๋ยวจะทำเอกสารเอกใน Database ของห้อง พท. ด้วย

ท่านใดต้องการสมัครห้อง พท. ติดต่อทางไลน์ได้เลย Line ID : revthai

22/04/2025

FLU A แพร่ระบาดไว
ไอ ไข้สูง เจ็บคอแปลบ
ปวดหัวจะระเบิด ปวดตัว

รับสมัคร ผู้สนใจ "นวดตำรับเมืองเพชร"รีบๆๆ กันนะคะ ..เรียนดี เรียนฟรี มีวิชาชีพประจำตัว
22/04/2025

รับสมัคร ผู้สนใจ "นวดตำรับเมืองเพชร"
รีบๆๆ กันนะคะ ..เรียนดี เรียนฟรี มีวิชาชีพประจำตัว

07/03/2025

ในน้ำมีปลา..ในนามีข้าว..
อาหารเป็นยา เป็นวลีที่สื่อถึง กินเป็น..ไม่ป่วย
เอาอาหารเติมธาตุที่ขาดไป ให้สดใสกว่าที่เคย.
"ไม่มีพืชพรรณใดไม่เป็นยา" ในพืชมีสารสำคัญมากมาย ที่ช่วยเติมกำลัง สร้างสุขภาพที่ดี.
คร่าวๆ ธาตุ ก็เกี่ยวกับ รส

ดิน - ฝาด หวาน มัน เค็ม
น้ำ - เปรี้ยว ขม เมาเบื่อ
ลม - สุขุม เผ็ดร้อน
ไฟ - เย็น จืด

#ครัวหมอฉัตร #อาหารเป็นยา

เสียงคอมเม้นต์กลับมาว่า สบายดี หายไข้คือ กำลังใจ ให้คนทำยานะคะ  #พกไว้อุ่นใจ #ภูมิปัญญาหมอยาไทย  #แก้ไข้ตักศิลาช่วงนี้หล...
01/03/2025

เสียงคอมเม้นต์กลับมาว่า สบายดี หายไข้
คือ กำลังใจ ให้คนทำยานะคะ #พกไว้อุ่นใจ
#ภูมิปัญญาหมอยาไทย #แก้ไข้ตักศิลา

ช่วงนี้หลายไข้ หลายโรค ที่ระuาดกัน
ที่พบมักเกี่ยวกับการติดเชื้อ ไม่ไวรัส ก็แบคทีเรีย
กลับมาที่ยาต้านการระบาดตามคัมภีร์ตักศิลา
ว่าด้วยการระuาด แก้ สรรพไข้ ตามจารึกวัดโพธิ์
จึงยิ่งภาคภูมิใจสมุนไพรมีดี #ตามคัมภีร์

หลานปู่...สู่ นวัตกรรมอาหารผู้สูงวัยhttps://lm.facebook.com/l.php?u=https%3A%2F%2Freadthecloud.co%2Fnatur-bloom%2F%3Ffbc...
11/02/2025

หลานปู่...สู่ นวัตกรรมอาหารผู้สูงวัย

https://lm.facebook.com/l.php?u=https%3A%2F%2Freadthecloud.co%2Fnatur-bloom%2F%3Ffbclid%3DIwAR0nFkfmX0bh0Bxpn6FOqQuqe2yk4I8BAm_4gjooBXd7UTdu_4uF3LXBDgQ_aem_AapFAK77LmrSPmEEX_D6Cdrk_2b6mYIlJ67UOi-bQG0e49aICVpENrqisud0RRGFG44&h=AT0I7XSsgJ8e1tlFMu4nQ8DnZ6sV6j8gO-oUhRJvnUXH0fdqSLQEge_cx2BmKNFd2wHMx94vriuSTg74hLi9F8FWItF9mJ9O1BPVxs_aG4uhYjGwdpIkZvJFQZxCDO16VJaH

จากคลินิกหมอชอน หมอเทวดาแห่งเมืองเพชร สู่ NaturBloom อาหารเสริมผู้สูงอายุจากศาสตร์แพทย์แผนโบราณโดยทายาทรุ่นห้....

เมื่อแผนปัจจุบัน ให้คำอธิบายมาใกล้เคียงกับอาการในแผนไทย..ไข้ตักศิลา.สรุปสั้นๆ ของคำอธิบายกลไก ก็คือสิ่งแปลกปลอม เชื้อ ทำ...
02/02/2025

เมื่อแผนปัจจุบัน ให้คำอธิบายมา
ใกล้เคียงกับอาการในแผนไทย..ไข้ตักศิลา.
สรุปสั้นๆ ของคำอธิบายกลไก ก็คือ
สิ่งแปลกปลอม เชื้อ ทำให้เกิดการอักเสบ
และเกิดกระตุ้นการแข็งตัวของเลือด ผนังเลือดมีการซ่อมแซม จึงมีลิ่มเลือดที่ทำให้เกิดการทำลายเม็ดเลือดแดงจนแตกได้

แผนไทยให้ใช้ยาตำรับในคัมภีร์ เพื่อล้างพิษในเลือด ก็เสมือนว่า ลดการเกิดการอักเสบ
ภายในหลอดเลือดนั่นเอง #แก้ไข้ระบาด #ตักศิลา

🎯 คำถาม: “ผู้ป่วยติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือดหนักๆ ทำไมถึงมีเม็ดเลือดแดงแตกได้ครับ เห็นเค้าบอกว่าเป็นมาจากเลือดแข็งตัวเอง ฟังแล้วก็เลยงงๆ”
🩸คำตอบแบบสั้น: การติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือด ทำให้หลอดเลือดเล็กๆ เสียหาย เลือดแข็งตัวขึ้นเองทั่วร่างกาย ลิ่มเลือดขนาดเล็กๆ เกาะตามผนังหลอดเลือด ซึ่งมีความแหลมคม ทำให้เม็ดเลือดแดงไหลผ่านแล้วโดนถูจนฉีกขาด
🩸คำตอบแบบยาว:
1️⃣ เมื่อการเหล่าภูมิคุ้มกันไม่สามารถคุมการติดเชื้อแบคทีเรียของอวัยวะหนึ่งได้แล้ว เชื้อแบคทีเรียจะลุกลามเข้าสู่กระแสเลือดจำนวนมหาศาล สมรภูมิรบจะเปลี่ยนเป็นท่ามกลางกระแสเลือด ฝูงเม็ดเลือดขาวจะเข้าปะทะกับฝูงแบคทีเรีย ฝั่งเม็ดเลือดขาวก็พยายามจับกิน ฝั่งแบคทีเรียบางครั้งก็มีพิษ (Toxin) ไว้จัดการเม็ดเลือดขาว
2️⃣ ทุกครั้งที่เม็ดเลือดขาวสัมผัสกับเชื้อแบคทีเรียได้ จะมีการหลั่งสารก่ออักเสบ (Inflammatory mediators) และการเรียกพวก (Chemokine) ซึ่งเดิมที สารเหล่านี้เตรียมมาไว้ต่อสู้ภายนอกหลอดเลือด ทำให้มีฤทธิ์ทำให้หลอดเลือดฝอยมีสารน้ำรั่วออกไปง่ายขึ้นเพื่อพาอาวุธออกไปสู้ และทำให้เซลล์เยื่อบุผนังหลอดเลือด (Endothelium) อยู่ในสภาพพร้อมรบ ซึ่งสภาพนี้แหละจะก่อผลเสียภายหลัง
3️⃣ เยื่อบุผนังหลอดเลือดในสภาพพร้อมรบ (Endothelial activation) มีหลากหลายความสามารถที่เพิ่มขึ้นมา ไม่ว่าจะสร้างกาวให้เม็ดเลือดขาวเกาะ จะได้คลานออกไปนอกหลอดเลือดกำจัดเชื้อได้ง่าย, สร้างสารก่ออักเสบเพิ่มเติมด้วย แต่ความสามารถที่น่าสนใจที่สุดคือ เยื่อบุผนังหลอดเลือดจะทำตัวเองให้ไวต่อการเกิดลิ่มเลือดมากขึ้น โดยมีการสร้างสารกระตุ้นการแข็งตัวมากขึ้น (Tissue factor) , ลดการสร้างสารต้านการแข็งตัว (Anticoagulant) และเพิ่มสารยับยับการสลายลิ่มเลือด (PAI-1)
4️⃣ สาเหตุที่เยื่อบุผนังหลอดเลือดทำแบบนี้ เพราะว่ามันจะใช้ร่างแหไฟบริน (Fibrin polymers) ที่ได้จากการแข็งตัวของเลือด มาสานตัวเพื่อปิดการแพร่กระจายของเชื้อแบคทีเรีย และยังสารแข็งตัวชื่อ Thrombin มากระตุ้นการฟื้นฟูของเนื้อเยื่อในภายหลังด้วย แต่การติดเชื้อกระแสเลือดที่รุนแรง มันจะทำให้เซลล์เยื่อบุถูกกระตุ้นมากไป รวมทั้งผลจากสงครามยังทำให้เยื่อบุเหล่านี้เสียหายด้วย ซึ่งในฐานะที่มันเป็นผนังหลอดเลือดมันถูกสอนมาว่า ถ้าผนังเสียหายมันต้องสร้างลิ่มเลือด
5️⃣ ด้วยสองเหตุผลนี้ทั้งเยื่อบุถูกกระตุ้น (Endothelial activation) และเยื่อบุเสียหาย (Endothelial injury) ทำให้มีการก่อการแข็งตัวของเลือดเต็มไปหมด แผนที่เคยเอาไว้ขวางเชื้อโรคกลับทำร้ายร่างกายเอง เพราะยิ่งเกิดการแข็งตัวมากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งเกิดลิ่มเลือดเล็กๆ กระจัดกระจายอุดตามอวัยวะต่างๆ แถมยิ่งเผาผลาญการใช้เกล็ดเลือด และหน่วยการแข็งตัวของเลือดไปจนหมด จนไม่มีให้ใช้ต่อหากมีเลือดออก
6️⃣. ภาวะนี้เราเรียกว่า การแข็งตัวของเลือดทั้งร่างอย่างควบคุมไม่ได้ (Disseminated intravascular coagulation - ย่อ DIC) ซึ่งลิ่มเลือดเล็กๆ ที่เกิดขึ้น อาจอุดอวัยวะต่างๆ จนเลือดไปเลี้ยงไม่พอจนอันตราย แถมยังใช้งานทีมที่ใช้ในการแข็งตัวของเลือดไปจนเกลี้ยง ทำให้หากมีเลือดออกเกิดขึ้น หยุดได้ยากมาก บางครั้งก็มีภาวะเลือดออกภายในเอง บางคนโชคร้ายมีเลือดออกในอวัยวะสำคัญ เช่น ในสมอง
7️⃣ ความน่ากลัวของ DIC ยังไม่จบเท่านี้ ผลของการแข็งตัวของเลือดอย่างหยุดไม่ได้ ก่อให้เกิดร่างแหไฟบริน ซึ่งเดิมทีทำหน้าที่เป็นกาวยึดระหว่างเลือด กระจัดกระจายทั่วหลอดเลือด บางส่วนโดนย่อย (Fibrinolysis) เป็นชิ้นส่วนเล็กๆ เกาะตามผนังด้านในของหลอดเลือดเล็กๆ แต่ละชิ้นมีความแหลมมาก เรียกาภาวะนี้ว่า ภาวะหลอดเลือดเล็กๆ ผิดปกติจากเศษลิ่มเลือด (Thrombotic microangiopathy) ซึ่งจะถูเม็ดเลือดแดงที่ไหลผ่าน จนเกิดการฉีกขาด แล้วแตกในที่สุดค่ะ

ทีมงานบ้านหมอชอน ฝากแฟนเพจ ติดตามหมอฉัตร กับความรู้เรื่องสมุนไพรไทย การดูเเลสุขภาพตามเเบบฉบับเเพทย์แผนไทย ทางช่องทาง Tik...
10/01/2025

ทีมงานบ้านหมอชอน ฝากแฟนเพจ ติดตามหมอฉัตร กับความรู้เรื่องสมุนไพรไทย การดูเเลสุขภาพตามเเบบฉบับเเพทย์แผนไทย ทางช่องทาง Tiktok นะคะ

0 ผู้ติดตาม, 0 กำลังติดตาม 0 ถูกใจ - ดูวิดีโอสั้นสุดเจ๋งที่ หมอฉัตร สมุนไพรไทย สร้างขึ้น

เปิดตัวรับปีใหม่ ความรู้คู่สุขภาพดีhttps://youtu.be/dquEL91DH1M?si=e1deamQsDLHGb87aรักษาไขมันพอกตับ แบบฉบับแพทย์แผนไทยคล...
09/01/2025

เปิดตัวรับปีใหม่ ความรู้คู่สุขภาพดี

https://youtu.be/dquEL91DH1M?si=e1deamQsDLHGb87a

รักษาไขมันพอกตับ แบบฉบับแพทย์แผนไทย

คลิปนี้ … พาไปพบกับ คุณหมอฉัตร์วนิชย์ พวงมาลัย
แพทย์ไทยประยุกต์ผู้คร่ำหวอดในวงการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก มา 5 ชั่วรุ่น 🙏🏻

มารู้จักตับ และ น้ำดี ที่มีผลต่อสุขภาพชนิดที่เราคาดไม่ถึง 📍📍

ผลของตับ น้ำดี ที่มีผลตั้งแต่เราเกิด ใช้ชีวิต และพ่วงฤดูกาล ที่ส่งผลในการดูแลสุขภาพชนิดเชื่อมโยงทั้งระบบ

เกริ่นมาขนาดนี้ ขอฝากผลงานด้วยนะค่า🙏🏻❤️

#หมอฉัตร
#บ้านหมอชอน #เภจอย #ตับ
#แบตเตอรี่ชีวิต #ตับดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

“รักษาไขมันพอกตับ แบบฉบับแพทย์แผนไทย” 🌿ในศาสตร์การแพทย์แผนไทย มีวิธีการดูแลตับ และรักษาโรคตับอย่างไรบ้....

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนนะคะ..แลกเปลี่ยนเรียนรู้...Heritage Wellness สไตล์ไทยๆ ค่ะ
26/12/2024

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนนะคะ..แลกเปลี่ยนเรียนรู้...
Heritage Wellness สไตล์ไทยๆ ค่ะ

ที่อยู่

67/4 ม. 5 ท่าแร้ง
Ban Laem
76000

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 17:00
อังคาร 09:00 - 17:00
พุธ 09:00 - 17:00
ศุกร์ 09:00 - 17:00
เสาร์ 09:00 - 17:00
อาทิตย์ 09:00 - 17:00

เบอร์โทรศัพท์

+6632424921

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ บ้านหมอชอน สมุนไพรเพชรบุรีผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง บ้านหมอชอน สมุนไพรเพชรบุรี:

แชร์