
26/05/2024
หยุดนะคะ 😤
⚠️สารในบุหรี่ไฟฟ้า อันตรายกว่าที่คิด💢
สูบบุหรี่ไฟฟ้า = ส่งต่อความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งให้ผู้อื่น
“บุหรี่ไฟฟ้า” หรือ “พอต” ก่อนหน้านี้หลายๆคนเข้าใจผิด คิดว่าสามารถช่วยในการเลิกบุหรี่ได้ และคิดว่าคงจะปลอดภัยกว่าบุหรี่มวนทั่วไป เพราะถูกพัฒนาให้มีกลิ่นหอม ไม่มีกลิ่นเหม็นเหมือนบุหรี่มวน แต่ที่จริงแล้วบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้ในปัจจุบันนี้ ส่งผลเสียต่อทั้งผู้สูบและคนใกล้ชิดใกล้เคียงกับบุหรี่มวน หรือ ในบางรุ่นนั้นสามารถส่งผลเสียได้มากกว่าบุหรี่มวนด้วยซ้ำ เพราะมีการพัฒนาให้มีกำลังไฟฟ้ามากขึ้น ส่งผลให้มีการใช้ความร้อนได้มาก สามารถสูบได้ง่ายโดยไม่ต้องออกแรง แต่สูดควันเข้าปอดได้เต็มปอดมากกว่าบุหรี่มวน ทำให้สารเสพติดและสารตะกั่ว รวมถึงสารระเหยที่ก่อให้เกิดอันตราย สามารถเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้นตามไปด้วย
กระบวนการสร้างควันของบุหรี่ไฟฟ้าจะเป็นการใช้ความร้อนแต่ไม่เกิดการเผาไหม้ สารพิษที่พบในบุหรี่ไฟฟ้ามาจากทั้งสารนิโคตินและส่วนประกอบที่อยู่ในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ถูกทำให้กลายเป็นควันสำหรับสูดเข้าปากแล้วนำส่งสู่ปอดโดยตรง ซึ่งสารบางชนิดที่อยู่ในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้านั้น เมื่อถูกความร้อนแล้วจะเกิดการสลายตัวแล้วเกิดเป็นสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ ระบบประสาทและผิวหนังได้ ตัวอย่างเช่น Proplyene glycol และ glycerin เมื่ออยู่ในสภาวะเร่งที่เกิดขึ้นในขณะที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้า สารจะสลายตัวได้เป็น degradation byproducts บางชนิดที่สามารถก่อให้เกิดมะเร็งและความเป็นพิษได้ เช่น Formaldehyde, Propylene Oxide, Glycidol, Acrolein เป็นต้น สารพิษที่เกิดขึ้นนี้ ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดผลเสียแก่ตัวผู้สูบเองเท่านั้น แต่สามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อม ผิวหนัง เสื้อผ้า แล้วส่งผลกระทบกับสุขภาพผู้อื่นที่อยู่ในบริเวณเดียวกันด้วย โดยเฉพาะเด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ สารพิษที่เกิดจากบุหรี่ไฟฟ้าอาจทำให้สมองของเด็กหยุดพัฒนาก่อนวัยอันควร เด็กในครรภ์เสี่ยงที่จะมีพัฒนาการไม่สมบูรณ์ น้ำหนักตัวน้อยกว่าปกติและทำให้คลอดก่อนกำหนดได้
สารนิโคติน ที่เป็นสารเสพติดในบุหรี่ไฟฟ้า เมื่อทำปฏิกิริยากับ Nitrous acid จะได้สารก่อมะเร็งช่องปาก มะเร็งปอด มะเร็งหลอดอาหาร ที่ชื่อว่า To***co specific nitrosamine (TSNAs) โดยสารนี้สามารถตกค้างที่เสื้อผ้าและสิ่งของได้ จึงก่อให้เกิดพิษกับบุคคลอื่นที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมเดียวกันได้ด้วย ทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งได้เช่นเดียวกับผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า หรือที่เรียกกันว่า “บุหรี่มือสาม”
สารอินทรีย์หอมระเหยที่พบในบุหรี่ไฟฟ้า ที่ผู้ใช้นิยมนำมาแต่งกลิ่นที่ตนเองชอบนั้น แท้จริงแล้วเป็นสารที่มีอันตรายเมื่อสูดดม เพราะทำให้เกิดอาการระคายเคือง คลื่นไส้ อาเจียน และบางชนิดเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ด้วย
นอกจากนี้ บุหรี่ไฟฟ้ายังสามารถปลดปล่อยอนุภาคของโลหะหนักขนาดเล็กได้ปริมาณมากกว่าบุหรี่แบบมวน เช่น ดีบุก เงิน เหล็ก ตะกั่ว นิเกิล อลูมิเนียม โครเมียม แคดเมียม และซิลิเกต ในขนาดที่เล็กกว่า 0.1 µm ซึ่งจะเข้าไปในปอดได้ลึกมาก สามารถเดินทางไปยังบริเวณถุงลม ก่อให้เกิดโรคหอบหืด และปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) หรือหากแพร่ผ่านเข้ากระแสเลือด ก็จะไปสะสมตามอวัยวะต่างๆ กระตุ้นให้เกิดการหดตัวของเส้นเลือด เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจตาย และโรคอื่นๆได้อีกมากมาย
ในปัจจุบันนี้พบว่า บุหรี่ไฟฟ้า หรือ พอต เป็นที่นิยมมากในหมู่เด็กโตและวัยรุ่น เนื่องจากถูกพัฒนาให้มีรูปลักษณ์ที่ทันสมัย พกพาง่าย บางรุ่นทำให้คล้ายตัวการ์ตูนหรือ USB จึงสามารถแอบพกไปตามสถานที่ต่างๆได้ง่าย แม้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ก็ยังพบเห็นเยาวชนใช้บุหรี่ไฟฟ้าอย่างแพร่หลาย ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้ในอนาคต โดยเฉพาะปัญหาบุหรี่มือสาม ซึ่งเกิดจากสารพิษที่ออกมาจากบุหรี่ไฟฟ้า บางชนิดอาจไม่มีกลิ่น ไม่ควัน แต่ส่งผลให้ผู้ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงเกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ ระคายเคืองผิวหนัง และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งได้เช่นกัน
การเลิกบุหรี่ไฟฟ้าสามารถเริ่มต้นได้ด้วยตนเอง โดยใช้วิธี “4 ล” คือ เลือกวัน ลั่นวาจา ลาอุปกรณ์ และ (คิดก่อน)ลงมือ การเลิกบุหรี่ไฟฟ้าจะมีความยากมากในช่วง 2-3 วันแรกหลังหยุดสูบบุหรี่ไฟฟ้า ครอบครัวและคนรอบข้างมีส่วนสำคัญในการให้กำลังใจให้ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ หรือหากไม่สามารถเลิกบุหรี่ได้ด้วยตนเอง สามารถติดต่อ Line : (เภสัชอาสาพาเลิกบุหรี่) เพื่อรับคำแนะนำในการเลิกบุหรี่ได้เลยนะคะ
”หยุดสูบบุหรี่ไฟฟ้าวันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีของตนเองและคนรอบข้าง“
ด้วยรัก #เพจเภสัชแม่ลูกอ่อน
#ระวังบุหรี่ไฟฟ้า
#เภสัชอาสาพาเลิกบุหรี่ไฟฟ้า
#เภสัชกรห่วงใยผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า
#ร่วมปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า