Jansu Healing We provides Reiki Therapy, Crystal Healing, and Spiritual Counseling. Our services including workshop on Reiki, spiritual well-being, and magic for self-care.

Our philosophy and approach is inclusive of diversity in all aspects.

ขออนุญาตประชาสัมพันธ์กิจกรรมอีกหนึ่งกิจกรรมสำหรับผู้ทำงานทางสังคมค่ะ
19/08/2025

ขออนุญาตประชาสัมพันธ์กิจกรรมอีกหนึ่งกิจกรรมสำหรับผู้ทำงานทางสังคมค่ะ

❤️ ชั้นเรียนเรกิโชเด็น (เรกิขั้น 1) เดือนกันยายน 2568 เปิดรับสมัครแล้วค่ะ! ✅ การเข้าชั้นเรียนแบบผสมผสาน on-site และ onli...
12/08/2025

❤️ ชั้นเรียนเรกิโชเด็น (เรกิขั้น 1) เดือนกันยายน 2568 เปิดรับสมัครแล้วค่ะ!

✅ การเข้าชั้นเรียนแบบผสมผสาน on-site และ online รวม 3 ครั้ง (12 ชั่วโมง)
✅ กลุ่มสนับสนุนทาง online ระหว่างฝึกปฏิบัติอีก 1 ครั้ง (2 ชั่วโมง)
✅ ฝึกปฏิบัติด้วยตัวเองทั้งการส่งเรกิให้ตัวเองและส่งเรกิให้ผู้อื่น ภายใตัการให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดจากผู้สอนเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 18 ชั่วโมง

รวมแล้วทั้งสิ้น 32 ชั่วโมง
เป็นการใช้ระยะเวลาเรียนรู้ร่วมกันถึงหนึ่งเดือนเต็ม ๆ

วันและเวลาเรียนโดยสรุป:

ครั้งที่ 1 อาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2568 (09.30-12.30 น.)
ครั้งที่ 2 อาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2568 (09.30-17.30 น.)
ครั้งที่ 3 อาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม 2568 (09.00-12.30 น.)
ครั้งที่ 4 กลุ่มสนับสนุนทาง Zoom ขึ้นอยู่กับการนัดหมาย

สอนโดย ดร.อันธิฌา แสงชัย
ครูเรกิและแม่มด

การเรียนหรือการฝึกปฏิบัติเรกิอย่างเป็นระบบนั้น ถูกแบ่งออกเป็นสี่ระดับด้วยกัน สำหรับเรกิขั้น1 เป็นการเรียนรู้พื้นฐานที่สำคัญและมุ่งเน้นการฝึกใช้เรกิในการดูแลเยียวยาตนเอง (Healing for the healer) รวมถึงพื้นฐานในการส่งเรกิให้ผู้อื่น โดยเรียนรู้ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา พัฒนาการของเรกิทั้งระบบดั้งเดิม (ญี่ปุ่น) และระบบตะวันตก หลักการสำคัญของเรกิ การทำสมาธิเรกิ เทคนิควิธีการในการบำบัด ตำแหน่งการวางมือ การเตรียมตัวก่อนรับเรกิ และขั้นตอนในการบำบัด

ส่วนที่สำคัญมากในเรกิขั้นหนึ่งคือผู้เรียนจะได้รับการ “ปรับเจิมพลังงาน” (Reiki attunement) เพื่อให้ผู้เรียนพร้อมที่จะรับพลังงานเรกิได้อย่างเต็มที่ โดยกระบวนการนี้จะทำโดยผู้สอน และหลังจากการเรียนรู้กระบวนการรวมถึงตำแหน่งการวางมือในการเรียนครั้งที่สองแล้ว ผู้เรียนจำเป็นต้องมีการฝึกปฏิบัติด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 21 วันหรือไม่ต่ำกว่า 20 ชั่วโมง และมีการฝึกส่งเรกิให้แก่ผู้อื่นโดยกำหนดไว้ไม่ต่ำกว่า 3 ท่าน

ผู้ที่เคยผ่านการเรียนเรกิจากอาจารย์ท่านอื่นมาแล้ว เคยเรียนรู้หรือฝึกฝนพลังงานบำบัดรูปแบบอื่นมาก่อน หรือผู้ที่ยังไม่เคยรู้จักเรกิเลย ก็สามารถเรียนเรกิโชเด็นและรับการปรับเจิมพลังงานได้ การรับพลังงานเรกิหรือการฝึกปฏิบัติเรกินั้น มีความปลอดภัยต่อสุขภาพ ไม่เป็นอันตราย ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือผู้ป่วยก็สามารถเรียนรู้เพื่อใช้เรกิในการดูแลตัวเองได้ กรณีที่มีข้อสงสัยสามารถสอบถามกับอาจารย์ผู้สอนเพื่อให้คำแนะนำที่เหมาะสมเป็นรายบุคคล

✅ สิ่งที่ท่านจะได้รับในการเรียนเรกิขั้น 1 แบบออนไลน์กับ Jansu Healing

❤️ หลังจากสมัครเรียน (ชำระเต็มค่าลงทะเบียนจำนวนหรือแบ่งจ่าย) ท่านจะได้รับรายละเอียดของหลักสูตรออนไลน์เรกิขั้น1 แนวทางการเตรียมความพร้อมสำหรับการเรียน และ link ของ Zoom สำหรับการเรียนออนไลน์ครั้งแรก
❤️ คู่มือประกอบการเรียนเรกิขั้น1 จะถูกส่งให้ทางไปรษณีย์ก่อนที่ชั้นเรียนวันแรกจะเริ่มต้น
❤️ รับการปรับเจิมพลังงาน 2 ครั้ง
❤️ ประกาศนียบัตรรับรองการผ่านการอบรมเรกิขั้น1 หลังจากผ่านเงื่อนไขของการฝึกปฏิบัติอย่างครบถ้วน
❤️ มีกลุ่มสนับสนุนการเรียนรู้สำหรับผู้เรียนเรกิในหลักสูตรของ Jansu Healing ซึ่งผู้เรียนสามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่ม (Facebook Group) ได้โดยไม่มีกำหนดสิ้นสุดการเข้าร่วม ถาม/ตอบ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการฝึกฝน และมีส่วนร่วมกับกิจกรรมต่าง ๆ ของกลุ่มตามอัธยาศัย
❤️ สามารถเข้าร่วมสังเกตการณ์การให้คำปรึกษาทาง Zoom หรือ Supervision ที่จัดขึ้นสำหรับนักเรียนรุ่นอื่น ๆ ภายหลังจากที่ท่านเรียนจบหลักสูตรแล้ว (ไม่มีกำหนดสิ้นสุด)
❤️ มีการอัพเดทเพิ่มเติมข้อมูลความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับเทคนิควิธีการเรกิให้กับผู้เรียนทางกลุ่มสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง

✅ วิธีการสมัคร:
สมัครโดยตรงที่แอดมิน Jansu Healing
โดยติดต่อทาง page และ Instragrame: Jansu Healing
หรือส่งข้อความผ่านทางเว็บไซต์ www.jansuhealing.com
โทร. 098-951-4194

หากท่านมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ตามช่องทางที่ระบุไว้ เรายินดีที่จะอำนวยความสะดวกและสนับสนุนให้ทุกท่านเข้าถึงการเรียนรู้พลังงานบำบัดที่อ่อนโยนนี้อย่างเต็มที่ค่ะ

# # # รอคอยต้อนรับ healer ทุกท่านค่ะ # # #
#เรียนเรกิ #เรกิ1 #เรกิ #เรกิโชเด็น

จันสุฮีลิ่งมาจากชื่อแม่ แม่จันสุ ของพี่อันค่ะ ทุกวันนี้แม่ยังดำรงอยู่ในรูปของการงานอันซื่อตรงของเรา ทุกครั้งที่ส่งพลังงา...
12/08/2025

จันสุฮีลิ่งมาจากชื่อแม่

แม่จันสุ ของพี่อันค่ะ ทุกวันนี้แม่ยังดำรงอยู่ในรูปของการงานอันซื่อตรงของเรา ทุกครั้งที่ส่งพลังงานเรกิ ทุกครั้งที่สอนหรือทำการงานในนามนี้ ก็จะระลึกรู้คุณของแม่ไม่มีเว้น ความดีงามใด ๆ ที่กระทำก็ล้วนเกิดขึ้นและสำเร็จลงด้วยความเกื้อกูลของแม่ร่วมอยู่ด้วย

สุขสันต์วันแม่ค่ะ

ปล.เด็ก ๆ ในภาพคือพี่ ๆ ทั้งสามคนนะคะ ตอนนั้นลูกคนเล็กที่เติบโตมาจะได้ทำการงานดูแลผู้คนในวันนี้ ยังไม่ได้คลอดออกมาเลยค่ะ

มีโอกาสได้ไปเยือนและรับพลังงานเรกิตรงบริเวณที่อาจารย์อูซุยมิคาโอะภาวนาอดอาหาร 21 วันบนภูเขาคุรามะ และได้พบกับพลังงานเรกิ...
11/08/2025

มีโอกาสได้ไปเยือนและรับพลังงานเรกิตรงบริเวณที่อาจารย์อูซุยมิคาโอะภาวนาอดอาหาร 21 วันบนภูเขาคุรามะ และได้พบกับพลังงานเรกิที่ตรงนี้ ซึ่งเรียกขานกันว่า “โอซึกิกอนเก็น” ที่ที่ต้นสนซีดาร์ศักดิ์สิทธิ์ผู้เป็นเทพปกปักรักษาภูเขาและป่าโดยรอบตั้งอยู่ค่ะ ปัจจุบันต้นสนยักษ์ได้ล้มลงหลายสิบปีมาแล้ว แต่ซากไม้ยังได้รับการรักษาไว้ด้วยการล้อมรั้ว ตั้งป้ายหิน และทำลานเล็ก ๆ ให้ได้สักการะบูชา เนื่องจากเชื่อกันว่าจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ยังสถิตย์อยู่ ณ ที่ตรงนี้

ช่วงเวลาที่ได้ทำสมาธิกัสโชและเปิดรับพลังงานเรกิ ณ ที่ตรงนั้นสักครั้งหนึ่งในชีวิต ช่างเป็นพรของชีวิตเหลือเกินค่ะ ได้สัมผัสกับต้นธารแห่งพลังงานบำบัด ครูบาอาจารย์ ธรรมชาติและจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งคุรามะ ยิ่งทำให้เชื่อมั่นในวิถีแห่งการเยียวยานี้

ขอส่งต่อพลังงานอันสว่างไสวของแสง ความรัก และพลังชีวิตมาสู่ทุก ๆ ท่านนะคะ

ขอแสดงความยินดีกับคุณไอด้วยนะคะ ผ่านไปอย่างงดงามกับเรกิโชเด็น คุณไอเรียนแบบตัวต่อตัว เข้มข้นมาก ๆ กับทุกคำถามและการฝึกฝน...
11/08/2025

ขอแสดงความยินดีกับคุณไอด้วยนะคะ ผ่านไปอย่างงดงามกับเรกิโชเด็น คุณไอเรียนแบบตัวต่อตัว เข้มข้นมาก ๆ กับทุกคำถามและการฝึกฝนจนสามารถส่งเรกิดูแลผู้คนรอบข้างไปมากมายระหว่างที่ฝึกในช่วงที่เรียนด้วยกัน ชื่นชมจริง ๆ ค่ะ

ขอแสดงความยินดีจากหัวใจสำหรับผู้ผ่านการฝึกฝนเรกิโชเด็นในวันนี้นะคะ เป็นชั้นเรียนที่สนุกมาก อบอุ่นใจ มีความสุขค่ะ ขอบคุณท...
10/08/2025

ขอแสดงความยินดีจากหัวใจสำหรับผู้ผ่านการฝึกฝนเรกิโชเด็นในวันนี้นะคะ เป็นชั้นเรียนที่สนุกมาก อบอุ่นใจ มีความสุขค่ะ ขอบคุณที่ทุ่มเทและอยู่ด้วยกันอย่างมั่นคงตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา

ต้นกำเนิดของอูซุยเรกิตอนที่ 2 โอซึกิกอนเก็นกับแสงแรกแห่งเรกิผู้ฝึกฝนเรกิมักจะมีข้อสงสัยว่าเรกิเริ่มต้นได้อย่างไร อาจารย์...
09/08/2025

ต้นกำเนิดของอูซุยเรกิ
ตอนที่ 2 โอซึกิกอนเก็นกับแสงแรกแห่งเรกิ

ผู้ฝึกฝนเรกิมักจะมีข้อสงสัยว่าเรกิเริ่มต้นได้อย่างไร อาจารย์อูซุยผู้วางรากฐานศาสตร์เรกิบำบัด พบเรกิได้อย่างไร และต้นกำเนิดของคือที่ใด เราอาจจะทราบว่าได้จากข้อมูลทั่วไปว่าต้นกำเนิดของเรกิคือภูเขาคุรามะ เรายังทราบจากข้อมูลทางประวัติศาสตร์ว่าในช่วงบั้นปลายของชีวิต อาจารย์อูซุยได้พำนักอยู่ที่นั่น เพียรฝึกฝนอย่างเข้มข้นที่วัดคุรามะ แต่ตรงจุดไหนของภูเขาอันกว้างใหญ่ลูกนั้น ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรกิ

ตามตำนานบันทึกไว้ว่าอูซุยเรกิหรือจิตวิญญาณบำบัดตามแนวทางของอูซุยเริ่มต้นขึ้นที่ภูเขาคุรามะ อาจารย์อูซุยได้ใช้เวลานานหลายปีเพื่อศึกษาพระสูตรมหายาน ภาษาสันสกฤต และศาสนาพุทธนิกายเทนไดที่วัดคุรามะ เพื่อค้นหาวิธีการบำบัดด้วยพลังงานลึกลับตามที่มีการบันทึกไว้ในคัมภีร์ทางศาสนา อาทิ ในคัมภีร์ไบเบิล ซึ่งระบุถึงการรักษาอย่างอัศจรรย์เพียงพระเยซูคริสต์วางฝ่าพระหัตถ์ของพระองค์ลงบนตัวผู้ป่วย อาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ของคนผู้นั้นก็หายไป

จากการเสาะแสวงหาคำตอบในเรื่องนี้มาอย่างยาวนานนับตั้งแต่วัยหนุ่ม วันหนึ่งในวัย 57 ปี เมื่อทุกอย่างสุกงอมเต็มที่ อาจารย์อูซุยได้ตัดสินใจเดินทางลึกเข้าไปในป่าเขาเพื่อฝึกฝนด้วยการภาวนาอดอาหารเป็นเวลา 21 วัน แม้ว่าด้วยวัยที่เริ่มย่างเข้าสู่ความถดถอยของร่างกาย การฝึกฝนด้วยการอดอาหารอย่างยาวนานเช่นนั้นถือเป็นสิ่งที่ค่อนข้างอันตรายและท้าทายอย่างยิ่งก็ตาม

และในเช้าตรู่ของวันที่ 21 นั้นเอง พลังงานเรกิก็ได้ปรากฎแก่การรับรู้ของอาจารย์อูซุย จึงเป็นที่มาของศาสตร์บำบัดที่น่าทึ่งนี้

ผู้ฝึกเรกิและนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ต่างรอนแรมมุ่งหน้าไปที่ภูเขาคุรามะเพื่อครั้งหนึ่งในชีวิตจะได้สัมผัสรับรู้ถึงพลังงานศักดิ์สิทธิ์แบบเดียวกันนั้นบ้าง และหากเดินขึ้นเขาไปผ่านซุ้มประตูนิโอมง ผ่านศาลเจ้ายูกิ และศาลน้อยใหญ่ ผ่านอาคารหลักของวัดคุรามะ ลานกว้างหน้าอาคารหลักของวัดซึ่งเป็นจุดพลังงานหมุนวน (energy vortex) มุ่งตรงลึกเข้าไปยังป่าสนซีดาร์

ไม่นานนักก็จะไปถึง “โอซึกิ กอนเก็น” (Osugi Gongen; 大杉権現) พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์บนภูเขาคุรามะ ที่สันนิษฐานกันว่าเป็นจุดที่อาจารย์อูซุยได้ปฏิบัติภาวนาอดอาหารจนพบกับพลังงานเรกิ

คำว่า “โอซึกิ” หมายถึงต้นสนใหญ่ ส่วน “กอนเก็น” หมายถึงการปรากฎตัวของเทพเจ้าชินโตในรูปลักษณ์ของพระพุทธตามแนวคิดฮอนจิ ซุยจากุ (honji suijaku) แบบพุทธ-ชินโตในสมัยโบราณ โอซึกิ กอนเก็น จึงหมายถึงเทพผู้ปรากฎในรูปพระพุทธ ณ ต้นสนใหญ่

โอซึกิ กอนเก็น บนเขาคุรามะคือต้นสนซีดาร์ขนาดยักษ์อายุหลายร้อยปี เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตย์ของจิตวิญญาณผู้ปกปักรักษาภูเขาคุรามะและป่าโดยรอบ ก่อนยุคเฮอันหรือช่วงเวลาก่อนสร้างวัดคุรามะ (ราว ค.ศ. 770) ผู้คนในบริเวณนี้นับถือบูชาเทพแห่งภูเขาและเทพเจ้าชินโต และต้นสนยักษ์ต้นนี้เป็นหนึ่งในเทพที่ชาวบ้านและนักพรตชูเก็นโดะ (Shugendo; 修験道) เคารพบูชา

ในช่วงเวลานั้นภูเขาคุรามะเป็นพื้นที่ฝึกฝนของนักพรตชูเก็นโดะ หรือผู้ฝึกปฏิบัติตามแนวทางจิตวิญญาณที่หลอมรวมคำสอนของศาสนาพุทธ ศาสนาชินโต และเต๋า เข้าไว้ด้วยกันอย่างแนบแน่น นักพรตกลุ่มนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่ายามาบูชิ (Yamabushi; 山伏) หรือผู้ฝึกปฎิบัติบนภูเขา (ผู้พำนักบนภูเขา) เนื่องจากความเชื่อที่ว่าภูเขาเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่สถิตของทวยเทพ ด้วยการฝึกฝนร่างกายอย่างหนัก อาทิ การถือศีลอดหรือการกินอาหารที่หาได้ตามธรรมชาติในป่าเขา การอาบน้ำตกหรืออาบน้ำเย็นเพื่อชำระล้างกายใจ การเดินเขาเป็นระยะทางไกล และการสวดมนต์ทำสมาธิ มีการใช้พุทธมนต์ ทำพิธีกรรมแบบเต๋า เช่นการใช้ยันต์ สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์และเวทมนตร์ รวมถึงการเคารพเทพชินโต

เป้าหมายของการฝึกปฏิบัติเช่นนี้คือการบรรลุความหลุดพ้น หรือการได้มาซึ่งพลังพิเศษเช่นการรักษา การพยากรณ์ หรือการเป็น “สื่อกลาง” ระหว่างโลกมนุษย์กับโลกของเทพเจ้าหรือโลกจิตวิญญาณ

ต่อมาภายหลังโอซึกิ กอนเก็น ได้รับการบูชาในฐานะของอวตารหรือการกลับชาติมาเกิดของของเทพมาโอะ-ซน (Mao-son; 魔王尊) เทพแห่งแสงสว่างและพลังแห่งจักรวาล ในพุทธศาสนานิกายเทนไดและชิงงนจะนับถือเทพมาโอะ-ซน ในฐานะเทพผู้ให้แสงสว่างแก่โลกมนุษย์ ตำนานของเทพองค์นี้แนบชิดอย่างยิ่งกับภูเขาคุรามะ เนื่องจากเชื่อว่าเทพมาโอะ-ซน ได้มาจุติบนโลกนี้เพื่อเกื้อกูลวิวัฒนาการของมวลมนุษย์ ณ ภูเขาแห่งนี้

ในปัจจุบันต้นซีดาร์ยักษ์หรือโอซึกิ กอนเก็นนั้น ได้ล้มลงเนื่องจากทรุดโทรมลงตามการเวลา ทั้งยังมีผู้สันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากภัยธรรมชาติ แต่ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าเกิดขึ้นเมื่อใด มีเพียงการคาดเดาว่าอาจจะเกิดขี้นในช่วงเวลาไม่กี่สิบปีที่ผ่านมานี้ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันซากของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ต้นนี้ยังได้รับการรักษาไว้ด้วยการสร้างรั้วล้อมรอบ สร้างศาลและลานเล็ก ๆ ไว้ให้ผู้คนได้สักการะบูชาและทำสมาธิ โดยเชื่อกันว่าแม้ต้นไม้จะล้มลงแล้ว แต่พลังงานศักดิ์สิทธิ์ก็ยังคงสถิตย์อยู่ ณ ที่แห่งนั้น

โอซึกิ กอนเก็น ได้ถูกบอกกล่าวกันต่อ ๆ มาว่าเป็นพื้นที่อาจารย์อูซุยได้พบกับพลังงานแห่งการเยียวยาจนนำมาสู่ศาสตร์บำบัดที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในทุกวันนี้ และ ณ ลานเล็ก ๆ เบื้องหน้าศาลและซากต้นสนซีดาร์ขนาดใหญ่นี้เองได้กลายเป็นหมุดหมายของผู้ฝึกเรกิจากทั่วโลก และจะเป็นเช่นนี้ตลอดไปตราบเท่าที่ผู้คนยังคงแสวงหาการบำบัดเยียวยาและการเชื่อมโยงกับพลังงานแห่งจิตวิญญาณ

#ภูเขาคุรามะ #วัดคุรามะ #เรกิ

The Origins of Usui Reiki
Part 2 – Osugi Gongen and the First Light of Reiki

Reiki practitioners often wonder how Reiki began. How did Master Usui, the founder of Reiki healing, discover it, and where exactly did it originate? We may already know from general information that Reiki’s birthplace is Mount Kurama. Historical records also tell us that, towards the end of his life, Master Usui stayed there, dedicating himself to intense practice at Kurama Temple. But where, exactly, on that vast mountain did Reiki truly begin?

According to legend, Usui Reiki—or the healing spirit following Master Usui’s path—originated on Mount Kurama. Master Usui devoted many years to studying Mahayana sutras, the Sanskrit language, and Tendai Buddhism at Kurama Temple in search of a way to heal with the mysterious energy described in religious scriptures, including the Bible, which tells of miraculous healings in which Jesus Christ simply placed His hands upon the sick, and their ailments disappeared.

From his long quest for answers since youth, one day, at the age of 57—when everything was ripe for discovery—Master Usui decided to venture deep into the forested mountain for a 21-day practice of fasting and meditation. At that age, when the body had begun to decline, such prolonged fasting was both highly dangerous and extremely challenging.

And it was in the early dawn of the 21st day that the energy of Reiki revealed itself to Master Usui’s awareness—marking the birth of this remarkable healing art.

Reiki practitioners and travelers from around the globe journey to Mount Kurama at least once in their lifetime, hoping to sense the same sacred energy. Climbing past the Niomon Gate, the Yuki Shrine, various smaller shrines, and the main hall of Kurama Temple—whose broad forecourt is itself an energy vortex—and pressing deeper into the cedar forest, one eventually reaches Osugi Gongen (大杉権現), a sacred site on Mount Kurama believed to be the very spot where Master Usui fasted and meditated until he encountered Reiki energy.

The word “Osugi” means “great cedar,” while “Gongen” refers to the manifestation of a Shinto deity in the form of a Buddha, following the ancient Buddhist–Shinto syncretic concept of honji suijaku. Thus, Osugi Gongen means “the deity manifested in the form of a Buddha at the great cedar tree.”

On Mount Kurama, Osugi Gongen was a centuries-old giant cedar, revered as the dwelling place of the spirit guardian of the mountain and its surrounding forests. Long before the Heian period (before the founding of Kurama Temple around 770 CE), local people worshipped mountain deities and Shinto gods, and this great cedar was one of the sacred beings venerated by villagers and Shugendō ascetics.

At that time, Mount Kurama was a place of training for Shugendō practitioners—followers of a spiritual path blending Buddhist, Shinto, and Taoist teachings. These ascetics were also known as yamabushi (“those who lie down in the mountains” or “mountain dwellers”) because of their belief that mountains were sacred realms and dwelling places of the gods. Their rigorous practices included fasting or subsisting only on wild foods from the mountains, bathing in waterfalls or cold streams for purification, long-distance mountain treks, and chanting and meditation. They also employed Buddhist mantras, Taoist rituals such as talismans, sacred symbols, and magical incantations, alongside reverence for Shinto deities.

The ultimate goal of such training was to attain spiritual liberation or gain extraordinary abilities such as healing, divination, or serving as a “bridge” between the human world and the divine or spiritual realms.

Later, Osugi Gongen came to be worshipped as the manifestation or reincarnation of Mao-son (魔王尊), the deity of light and the power of the universe. In Tendai and Shingon Buddhism, Mao-son is venerated as the deity who brings light to the human world. The legend of this deity is closely tied to Mount Kurama, as it is believed that Mao-son descended to Earth here to aid the evolution of humankind.

Today, the sacred giant cedar—Osugi Gongen—has fallen, having weakened over time, possibly due to natural disasters, though the exact cause and date remain uncertain. It is believed this may have occurred in the past few decades. Even so, the remains of the sacred tree have been preserved, enclosed by a fence, with a small shrine and courtyard built for worship and meditation. It is said that, although the tree has fallen, its sacred energy still resides in that place.

Osugi Gongen is widely told to be the very site where Master Usui encountered the healing energy that gave rise to the Reiki method known worldwide today. In front of the small shrine and the great fallen cedar’s remains, countless Reiki practitioners from all over the world make pilgrimage, and it will remain so for as long as people seek healing and connection with spiritual energy.

(English version below)ทีมงานจันสุฮีลลิ่งได้มีโอกาสเดินทางไปเยือนภูเขาคุรามะ ที่เกียวโต เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เลยอยากมาแบ่...
08/08/2025

(English version below)

ทีมงานจันสุฮีลลิ่งได้มีโอกาสเดินทางไปเยือนภูเขาคุรามะ ที่เกียวโต เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เลยอยากมาแบ่งปันเรื่องราวที่น่าสนใจนี้ค่ะ จะแบ่งเนื้อหาออกเป็นสี่ตอนหลักได้แก่

ตอนที่ 1 ภูเขาและวัดคุรามะ
ตอนที่ 2 โอซึกิกอนเก็นกับแสงแรกแห่งเรกิ
ตอนที่ 3 จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งภูเขาคุรามะ
ตอนที่ 4 ซงเท็น: แสงสว่าง ความรัก และพลัง

สำหรับวันนี้ เรามาชมเรื่องราวของภูเขาและวัดคุรามะกันก่อนดีกว่าค่ะ

#ต้นกำเนิดของอูซุยเรกิ
#ตอนที่1 ภูเขาและวัดคุรามะ

เรกิเป็นศาสตร์บำบัดที่มีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น เรกิที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางไปทั่วโลกในทุกวันนี้เป็นเรกิตามแนวทางของอาจารย์อูซุย หรืออูซุยมิคาโอะ (Usui Mikao; 臼井甕男) ผู้วางรากฐานศาสตร์นี้ จึงเรียกศาสตร์บำบัดนี้อย่างเป็นทางการว่าอูซุยเรกิเรียวโฮ (Usui Reiki Ryoho) หรือธรรมชาติบำบัดตามแนวทางของอูซุย (Usui’s Natural Healing) บางครั้งก็มีการใช้คำว่าจิตวิญญาณบำบัดตามแนวทางของอูซุย (Usui’s Spiritual Healing) ซึ่งแท้จริงแล้วก็มิได้แตกต่างกันเนื่องจากคำว่าเรกิ (Reiki) นั้นมีนัยความหมายที่ครอบคลุมทั้งธรรมชาติและจิตวิญญาณ ตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่นรวมถึงในหลากหลายอารยธรรมโลก ธรรมชาติกับจิตวิญญาณยังเป็นสิ่งที่เกี่ยวเนื่องอย่างไม่อาจจะแยกออกจากกันได้ ทุกสรรพสิ่งในธรรมชาตินั้นล้วนเป็นชีวิตวิญญาณ (Spiritual being)

ในบทความนี้เราจะพาไปพบกับสถานที่ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งเมื่อกล่าวถึงศาสตร์เรกิบำบัด เพราะถือเป็นจุดเริ่มต้นของการค้นพบที่ศาสตร์นี้อย่างเป็นทางการของอาจารย์อูซุย ได้แก่ ภูเขาคุรามะ นั่นเองค่ะ

การค้นพบเรกิของอาจารย์อูซุยเกิดขึ้นที่ภูเขาที่มีชื่อว่า “คุรามะ” หรือ “คุรามะยามะ” (Kurama Yama; 鞍馬山) ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกียวโต ภูเขาแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์เนื่องจากมีการเล่าขานถึงตำนานเทพเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อาทิ เทพแห่งแสงมาโอะซน เท็งงุหรือวิญญาณแห่งขุนเชา เทพนักรบบิชามอนเต็น เจ้าแม่กวนอิมพันกรหรือเซ็นจูคันนอน รวมถึงบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับภูเขาแห่งนี้ อาทิ มินาโมโตะ โนะ โยชิทซึเนะ เป็นต้น

ทั้งยังเป็นที่ตั้งของวัดคุรามะ (Kurama dera; 鞍馬寺) และศาลเจ้าสำคัญได้แก่ ศาลเจ้าคิฟุเนะ (ศาลเทพแห่งน้ำ) ศาลเจ้ายูกิ (ศาลเทพแห่งไฟ) ซึ่งเป็นสถานที่ในการประกอบพิธีกรรมและเทศกาลบูชาน้ำและไฟประจำปีของชาวเกียวโต รวมถึงศาลเจ้าอื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก ภูเขาคุรามะจึงมีความสำคัญยิ่งทั้งในศาสนาพุทธและศาสนาชินโต

กล่าวกันว่าภูเขาคุรามะนั้นเป็นพื้นที่ที่มีพลังพิเศษ สถานที่แห่งนี้จึงเป็นจุดหมายปลายทางของผู้แสวงหาความรู้แจ้ง การฝึกฝนทางจิตวิญญาณ และการบูชาจิตวิญญาณธรรมชาติอย่างต่อเนื่องยาวนานมานับพันปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ฝึกฝนเรกิบำบัดต่างเดินทางมายังที่แห่งนี้เพื่อสัมผัสพลังงานจักรวาล อันเป็นจุดกำเนิดแห่งเรกิ

วัดคุรามะ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 770 โดยตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างเชิงเขาและยอดเขาคุรามะ อาณาบริเวณของวัดแห่งนี้กว้างใหญ่ไพศาลโดยครอบคลุมพื้นของภูเขาคุรามะเป็นบริเวณกว้าง แรกเริ่มที่ก่อตั้ง วัดคุรามะเป็นวัดในศาสนาพุทธนิกายเทนได (Tendai Buddhism; 天台宗 Tendai-shū) ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงในภายหลังจนกลายเป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนานิกายใหม่ ซึ่งก่อตั้งโดยเจ้าอาวาสของวัดเอง ราวช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองมาจวบจนปัจจุบัน

ตำนานการก่อตั้งวัดคุรามะนั้นถูกบันทึกไว้ว่า คืนหนึ่งพระภิกษุเกนโชผู้เป็นศิษย์ของท่านเกนจิน หรือเจียนเฉิง ภิกษุชาวจีนที่เดินทางมาเผยแพร่ศาสนาพุทธในญี่ปุ่น ได้เกิดฝันว่าท่านเกนจินมาบอกว่าภูเขาคุรามะนั้นมีพลังงานจิตวิญญาณที่วิเศษอย่างยิ่ง ทั้งยังเป็นที่พำนักของเท็งงุจิตวิญญาณแห่งป่า จงเดินทางขึ้นเหนือแล้วไปสร้างวัดบนภูเขาแห่งนี้ ท่านเกนโชจึงมุ่งหน้าขึ้นเหนือแต่กลับหลงทาง เทพคิบุเนะ เมียวจิน จึงปรากฎตัวขึ้นแล้วแนะนำให้ท่านเก็นโชมองไปบนท้องฟ้าทางทิศตะวันออกในตอนเช้าตรู่ ท่านเกนโชปฏิบัติตามจึงมองเห็นม้าสีขาวที่ปราศจากอานตัวหนึ่ง ท่านเดินตามม้าขาวตัวนั้นจนมาถึงภูเขาคุรามะ จากนั้นภูเขาแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า “คุรามะ” ซึ่งหมายถึง “อานม้า” นั่นเอง จากนั้นวัดคุรามะจึงถูกสร้างขึ้นและปรับปรุงจนกลายเป็นหนึ่งในวัดสำคัญในเวลาต่อมา

จุดที่เป็นที่สนใจอย่างมากที่วัดคุรามะคือ “จุดพลังงานหมุนวน” (energy vortex, power spot หรือ spiritual spot) ซึ่งเป็นตำแหน่งบนผิวโลกที่เชื่อกันว่ามีพลังงานของโลกและจักรวาลหมุนวนอย่างเข้มข้นมากกว่าปกติ พลังงานนี้อาจจะหมุนขึ้น (uplifting vortex) หรือหมุนลง (grounding vortex) สามารถช่วยกระตุ้นและปรับสมดุลทางพลังงาน ส่งผลต่องการเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณ อารมณ์จิตใจ รวมถึงร่างกายได้ เมื่อยืนอยู่บนตำแหน่งนี้จะสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานสั่นสะเทือน ความสงบ เบิกบาน ทำให้จักระหรือศูนย์พลังงานในร่างกายคลี่เปิดออก บ้างเชื่อว่านี่เป็นประตูมิติทางจิตวิญญาณ หรือ gate of ascension ที่สามารถเชื่อมต่อจิตมนุษย์กับพลังงานจักรวาล

จุดพลังงานหมุนวนที่วัดคุรามะนั้นตั้งอยู่บริเวณลานกว้างหน้าอาคารหลัก มีสัญลักษณ์วงกลมอันประกอบด้วยรูปสามเหลี่ยมมาเชื่อมต่อกัน ซึ่งหมายถึงพลังงานศักดิ์สิทธิ์สามประการ พื้นตรงกลางมีรูปสามเหลี่ยมซึ่งผู้มาเยือนมักจะนิยมไปยืนตรงจุดนี้เพื่อรับพลังงาน

จากบริเวณวัดคุรามะ สามารถเดินตามทางไปสู่ศาลเจ้าสำคัญอันเป็นที่สถิตย์ของจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงจุดที่สำคัญที่สุดของผู้ฝึกเรกิได้แก่บริเวณโอซึกิกอนเก็น ซึ่งเชื่อกันว่า ณ บริเวณนี้เองที่อาจารย์อูซุยปฏิบัติภาวนาอดอาหารเป็นเวลา 21 วัน และได้พบกับความอัศจรรย์ของพลังงานเรกิในรุ่งเช้าของวันที่ 21 นั่นเอง ซึ่งเราจะได้กล่าวถึงเรื่องนี้ต่อไปในบทความหน้านะคะ โปรดอย่าพลาด

The Jansu Healing team had the opportunity to visit Mount Kurama in Kyoto last week, and we would love to share with you this fascinating journey.
The story will be divided into four main parts:

Part 1: Mount Kurama and Kurama Temple
Part 2: Ōtsuki Gongen and the First Light of Reiki
Part 3: The Sacred Spirit of Mount Kurama
Part 4: Sonten: Light, Love, and Power

For today, let’s begin with the story of Mount Kurama and Kurama Temple.



The Origin of Usui Reiki

Mount Kurama and Kurama Temple

Reiki is a healing art that originated in Japan. The form of Reiki widely known around the world today follows the teachings of Usui Mikao (臼井甕男), the founder of this system. Formally, it is called Usui Reiki Ryōhō (Usui’s Natural Healing), sometimes also referred to as Usui’s Spiritual Healing—both carrying the same essence, as the term Reiki embraces both the natural and the spiritual.

In Japanese belief, as well as in many ancient cultures around the world, nature and spirit are inseparable. All beings and elements of nature are considered to be spiritual beings.

In this article, we take you to a place of great significance when speaking of Reiki healing—the very place where Usui Sensei’s official discovery of Reiki took place: Mount Kurama.



Mount Kurama – The Sacred Mountain

Usui Sensei’s discovery of Reiki happened on a mountain called Kurama or Kurama-yama (鞍馬山), located in the northern part of Kyoto. This mountain has long been regarded as sacred, with legends of deities and spirits such as Mao-son, the King of Light, Tengu, the forest spirits, Bishamonten, the warrior god, and Senju Kannon, the thousand-armed goddess of compassion. It is also linked to historical figures such as Minamoto no Yosh*tsune.

Mount Kurama is home to Kurama-dera Temple and several important shrines, including Kifune Shrine (shrine of the water deity) and Yuki Shrine (shrine of the fire deity), where annual festivals for the worship of water and fire are held. There are also many other shrines scattered across the mountain. Thus, Mount Kurama holds deep significance in both Buddhism and Shinto.

It is said that Mount Kurama is a place of special power—a destination for seekers of enlightenment, spiritual training, and the worship of the spirits of nature for over a thousand years. For Reiki practitioners, it is considered a site to experience the universal life energy—the very birthplace of Reiki.



Kurama-dera Temple

Kurama-dera Temple was founded in 770 CE, located midway between the base and summit of Mount Kurama. The temple grounds are vast, covering a large area of the mountain.

Originally, Kurama-dera belonged to the Tendai school of Buddhism (天台宗 Tendai-shū). Later, it evolved into the center of a new Buddhist tradition founded by its own head priest, a change that took place after World War II and continues to this day.



The Temple’s Founding Legend

According to legend, one night the monk Genshō, a disciple of the Chinese monk Jianzhen (Ganjin) who brought Buddhism to Japan, dreamed that his teacher told him Mount Kurama possessed extraordinary spiritual power and was the dwelling place of the Tengu forest spirits.

Following this vision, Genshō journeyed north but lost his way. Then Kifune Myōjin, the water deity, appeared and told him to look to the eastern sky at dawn. There, he saw a white horse without a saddle. Genshō followed the horse until it led him to Mount Kurama. From this, the mountain was named “Kurama,” meaning “saddle horse.” The temple was built thereafter and developed into one of the region’s most important temples.



The Energy Vortex

A major point of interest at Kurama-dera is its energy vortex—a place believed to have an unusually strong flow of Earth and cosmic energies. These may spiral upward (uplifting vortex) or downward (grounding vortex), influencing spiritual transformation, emotional balance, and even physical well-being.

Standing at this spot, one may feel vibrations, deep peace, joy, and an opening of the body’s chakras or energy centers. Some believe it is a gate of ascension, a spiritual portal connecting human consciousness with the universe.

The vortex is located in a wide plaza in front of the main hall, marked by a circular design composed of interlinked triangles representing three sacred powers. At the very center lies a triangle where visitors often stand to receive energy.



The Path to Ōtsuki Gongen

From Kurama-dera, a mountain path leads to sacred shrines and the most significant place for Reiki practitioners: the site of Ōtsuki Gongen. It is believed that here, Usui Sensei fasted and meditated for 21 days. On the morning of the 21st day, he experienced the wondrous awakening of Reiki energy.

We will explore this story in detail in the next article—don’t miss it.





#ภูเขาคุรามะ #วัดคุรามะ #เรกิ

วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ของจันสุฮีลลิ่งค่ะ เพราะในวันนี้เราได้มีนักเรียนเรกิโอกุเด็นหรือเรกิขั้นสองเป็นกลุ่มแรกแล้ว ฝึ...
20/07/2025

วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ของจันสุฮีลลิ่งค่ะ เพราะในวันนี้เราได้มีนักเรียนเรกิโอกุเด็นหรือเรกิขั้นสองเป็นกลุ่มแรกแล้ว ฝึกฝนด้วยกันมาหนึ่งเดือนเต็มกับการส่งเรกิทางไกล การใช้สัญลักษณ์เรกิ และเทคนิคเรกิที่สลับซับซ้อนมากขึ้น ขอแสดงความยินดีอย่างยิ่งกับแนน พลอย และภัทรนะคะ และขอขอบคุณความตั้งใจ ความเชื่อมั่นที่มอบให้กันและกันในเส้นทางนี้ค่ะ อบอุ่นชื่นใจจริง ๆ ค่ะ

#เรกิโอกุเด็น #เรียนเรกิ #เรกิขั้นสอง

วันนี้มีพิธีถ่ายรูปร่วมกันของสมาชิกชั้นเรียนเรกิโชเด็นออนไลน์ค่ะ สองเดือนเต็ม ๆ ที่พวกเราร่วมเรียนรู้และฝึกฝนเรกิด้วยกัน...
28/06/2025

วันนี้มีพิธีถ่ายรูปร่วมกันของสมาชิกชั้นเรียนเรกิโชเด็นออนไลน์ค่ะ สองเดือนเต็ม ๆ ที่พวกเราร่วมเรียนรู้และฝึกฝนเรกิด้วยกันอย่างเข้มข้น การเรียนรู้แบบทางไกลไม่เป็นอุปสรรคเลยกับความมุ่งมั่นตั้งใจของพวกเรา ชื่นชมจากใจจริง ๆ ค่ะ ขอแสดงความยินดีและขอขอบพระคุณทุก ๆ ท่านเป็นอย่างสูงที่มีความตั้งใจและเปิดกว้างกับเส้นทางสายนี้นะคะ ที่จริงในภาพยังขาดสมาชิกอีกหนึ่งท่าน แต่เดี๋ยวจะนัดถ่ายรูปคู่ด้วยกันไปเลยค่ะ

ยินดีด้วยค่ะ และอีกครั้งหนึ่ง ยินดีต้อนรับสู่วิถีแห่งการเยียวยานะคะ

ชั้นเรียนออนไลน์ เรกิโชเด็น (เรกิขั้น 1) เดือนกรกฎาคมเปิดแล้วค่ะ!อยู่ที่ไหนก็เรียนเรกิได้แล้วโดยเรียนผ่านแอพลิเคชั่น Zoo...
23/06/2025

ชั้นเรียนออนไลน์ เรกิโชเด็น (เรกิขั้น 1) เดือนกรกฎาคมเปิดแล้วค่ะ!
อยู่ที่ไหนก็เรียนเรกิได้แล้วโดยเรียนผ่านแอพลิเคชั่น Zoom

เข้าชั้นเรียนออนไลน์ 8 ครั้ง ครั้งละ 2 ชั่วโมง
รวมระยะเวลาที่เรียนในชั้นเรียนคือ 16 ชั่วโมง

ฝึกปฏิบัติด้วยตัวเองทั้งการส่งเรกิให้ตัวเองและส่งเรกิให้ผู้อื่น ภายใตัการให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดจากผู้สอนเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 20 ชั่วโมง

รวมแล้วทั้งสิ้น 36 ชั่วโมง
ใช้ระยะเวลาถึง 2 เดือนเต็ม ๆ ฝึกด้วยกันอย่างต่อเนื่องและเต็มที่มาก ๆ ค่ะ

เรียนทุกวันเสาร์ เวลา 19.00-21.00 น.
ระหว่างเดือน กรกฎาคม ถึง กันยายน 2568

วันและเวลาเรียน:

ครั้งที่ 1 เสาร์ที่ 12 กรกฎาคม 2568 (19.00-21.00 น.)
ครั้งที่ 2 เสาร์ที่ 19 กรกฎาคม 2568 (19.00-21.00 น.)
ครั้งที่ 3 เสาร์ที่ 26 กรกฎาคม 2568 (19.00-21.00 น.)
-
ครั้งที่ 4 เสาร์ที่ 9 สิงหาคม 2568 (19.00-21.00 น.)
ครั้งที่ 5 เสาร์ที่ 16 สิงหาคม 2568 (19.00-21.00 น.)
ครั้งที่ 6 เสาร์ที่ 23 สิงหาคม 2568 (19.00-21.00 น.)
ครั้งที่ 7 เสาร์ที่ 30 สิงหาคม 2568 (19.00-21.00 น.)
-
ครั้งที่ 8 เสาร์ที่ 13 กันยายน 2568 (19.00-21.00 น.)

การเรียนหรือการฝึกปฏิบัติเรกิอย่างเป็นระบบนั้น ถูกแบ่งออกเป็นสี่ระดับด้วยกัน สำหรับเรกิขั้น1 เป็นการเรียนรู้พื้นฐานที่สำคัญและมุ่งเน้นการฝึกใช้เรกิในการดูแลเยียวยาตนเอง (Healing for the healer) รวมถึงพื้นฐานในการส่งเรกิให้ผู้อื่น โดยเรียนรู้ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา พัฒนาการของเรกิทั้งระบบดั้งเดิม (ญี่ปุ่น) และระบบตะวันตก หลักการสำคัญของเรกิ การทำสมาธิเรกิ เทคนิควิธีการในการบำบัด ตำแหน่งการวางมือ การเตรียมตัวก่อนรับเรกิ และขั้นตอนในการบำบัด

ส่วนที่สำคัญมากในเรกิขั้นหนึ่งคือผู้เรียนจะได้รับการ “ปรับเจิมพลังงาน” (Reiki attunement) เพื่อให้ผู้เรียนพร้อมที่จะรับพลังงานเรกิได้อย่างเต็มที่ และหลังจากการเรียนรู้กระบวนการรวมถึงตำแหน่งการวางมือในการเรียนครั้งที่สองแล้ว ผู้เรียนจำเป็นต้องมีการฝึกปฏิบัติด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 21 วันหรือไม่ต่ำกว่า 20 ชั่วโมง และมีการฝึกส่งเรกิให้แก่ผู้อื่นโดยกำหนดไว้ไม่ต่ำกว่า 3 ท่าน

ผู้ที่เคยผ่านการเรียนเรกิจากอาจารย์ท่านอื่นมาแล้ว เคยเรียนรู้หรือฝึกฝนพลังงานบำบัดรูปแบบอื่นมาก่อน หรือผู้ที่ยังไม่เคยรู้จักเรกิเลย ก็สามารถเรียนเรกิโชเด็นและรับการปรับเจิมพลังงานได้ การรับพลังงานเรกิหรือการฝึกปฏิบัติเรกินั้น มีความปลอดภัยต่อสุขภาพ ไม่เป็นอันตราย ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือผู้ป่วยก็สามารถเรียนรู้เพื่อใช้เรกิในการดูแลตัวเองได้ กรณีที่มีข้อสงสัยสามารถสอบถามกับอาจารย์ผู้สอนเพื่อให้คำแนะนำที่เหมาะสมเป็นรายบุคคล

ค่าใช้จ่ายในการสมัครท่านละ 8,099 บาท
(สามารถแบ่งชำระได้)

/// รับจำนวนจำกัด ///

สิ่งที่ท่านจะได้รับในการเรียนเรกิขั้น 1 แบบออนไลน์กับ Jansu Healing

- หลังจากสมัครเรียน (ชำระเต็มค่าลงทะเบียนจำนวนหรือแบ่งจ่าย) ท่านจะได้รับรายละเอียดของหลักสูตรออนไลน์เรกิขั้น1 แนวทางการเตรียมความพร้อมสำหรับการเรียน และ link ของ Zoom สำหรับการเรียนออนไลน์
- คู่มือประกอบการเรียนเรกิขั้น1 แบบออนไลน์ จะถูกส่งให้ทางไปรษณีย์ก่อนที่ชั้นเรียนวันแรกจะเริ่มต้น
- รับการปรับเจิมพลังงานแบบทางไกล 2 ครั้ง
- ประกาศนียบัตรรับรองการผ่านการอบรมเรกิขั้น1 หลังจากผ่านเงื่อนไขของการฝึกปฏิบัติอย่างครบถ้วน
- มีกลุ่มสนับสนุนการเรียนรู้สำหรับผู้เรียนเรกิในหลักสูตรของ Jansu Healing ซึ่งผู้เรียนสามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่ม (Facebook Group) ได้โดยไม่มีกำหนดสิ้นสุดการเข้าร่วม ถาม/ตอบ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการฝึกฝน และมีส่วนร่วมกับกิจกรรมต่าง ๆ ของกลุ่มตามอัธยาศัย
- สามารถเข้าร่วมสังเกตการณ์การให้คำปรึกษาทาง Zoom หรือ Supervision ที่จัดขึ้นสำหรับนักเรียนรุ่นอื่น ๆ ภายหลังจากที่ท่านเรียนจบหลักสูตรแล้ว (ไม่มีกำหนดสิ้นสุด)
- มีการอัพเดทเพิ่มเติมข้อมูลความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับเทคนิควิธีการเรกิให้กับผู้เรียนทางกลุ่มสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง

💌 วิธีการสมัคร:
สมัครโดยตรงที่แอดมิน Jansu Healing
โดยติดต่อทาง page และ Instragrame: Jansu Healing
หรือส่งข้อความผ่านทางเว็บไซต์ www.jansuhealing.com
โทร. 098-951-4194

หากท่านมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ตามช่องทางที่ระบุไว้ เรายินดีที่จะอำนวยความสะดวกและสนับสนุนให้ทุกท่านเข้าถึงการเรียนรู้พลังงานบำบัดที่อ่อนโยนนี้อย่างเต็มที่ค่ะ

# # # รอคอยต้อนรับนักบำบัดทุกท่านค่ะ # # #
#เรียนเรกิ #เรกิโชเด็น #เรกิออนไลน์ #จิตวิญญาณบำบัด #พลังงานบําบัด

ชั้นเรียนเรกิโชเด็น (เรกิขั้น 1) ในเดือนกรกฎาคมนี้ มีผู้ลงทะเบียนครบเรียบร้อยแล้วค่ะ สำหรับท่านที่สนใจ จันสุฮีลลิ่งจะเปิ...
23/06/2025

ชั้นเรียนเรกิโชเด็น (เรกิขั้น 1) ในเดือนกรกฎาคมนี้ มีผู้ลงทะเบียนครบเรียบร้อยแล้วค่ะ สำหรับท่านที่สนใจ จันสุฮีลลิ่งจะเปิดชั้นเรียนเรกิโชเด็นแบบออนไลน์ในเดือนกรกฎาคมด้วยเช่นกันค่ะและจะประชาสัมพันธ์เร็วนี้นะคะ โปรดติดตาม

หากมีคำถามหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ทักถามแอดมินได้ตลอดค่ะ
#เรียนเรกิ #เรกิโชเด็น
#พลังงานบำบัด #จิตวิญญาณบำบัด

ที่อยู่

48/173 Soi Krungthep Kritha 7, Krungthep Kritha Rd., Huamak, Bangkapi, Bangkok
Bang Kapi
10240

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Jansu Healingผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง Jansu Healing:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram