
15/09/2025
#ท้องลม
ท้องลมคืออะไร ?
จากข่าวดาราสาวท่านหนึ่ง ประกาศตั้งครรภ์ ต่อมาแล้ว ไม่พบตัวอ่อน ก่อนอื่น ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ ...
#ท้องลมคืออะไร ?
“ท้องลม” "ภาวะไข่ฝ่อ (อังกฤษ: blighted o**m หรือ anembryonic pregnancy) เป็นภาวะหนึ่งในการตั้งครรภ์ที่ผิดปกติ ในช่วงแรกที่ไข่ได้รับการปฏิสนธิและฝังในมดลูกแล้ว แต่ตัวอ่อนไม่ได้พัฒนา (หรือหยุดพัฒนาตั้งแต่เนิ่น ๆ) ทำให้เมื่ออัลตร้าซาวนด์ตรวจจะพบเพียงถุงการตั้งครรภ์ (gestational sac) โดยไม่มีตัวอ่อนอยู่ภายใน หรือมีตัวอ่อนแต่สลายไปแล้ว อาการและฮอร์โมนบางอย่างอาจทำให้เข้าใจว่าตั้งครรภ์ปกติในช่วงแรก
สาเหตุ
แม้ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดทั้งหมด แต่มักมีปัจจัยเหล่านี้ร่วมด้วย
- ความผิดปกติของโครโมโซมตัวอ่อน ประมาณ 45-50% ของท้องลมเกิดจากตัวอ่อนที่มีโครโมโซมผิดปกติ ทำให้ไม่สามารถแบ่งเซลล์หรือพัฒนาได้ตามปกติ
-คุณภาพของไข่หรืออสุจิ ไข่หรืออสุจิมีบางส่วนผิดปกติ (เช่น โครงสร้างหรือพันธุกรรม) อสุจิที่ไม่สมบูรณ์ก็มีบทบาท
-อายุของผู้ตั้งครรภ์ ยิ่งอายุมาก โอกาสที่ไข่จะมีความเสื่อม หรือโอกาสที่โครโมโซมผิดปกติมากขึ้น
-โครงสร้างมดลูก หรือสภาพโพรงมดลูก ถ้ามีความผิดปกติของมดลูก เช่น รูปร่างผิดปกติ เนื้องอกเยื่อบุโพรงมดลูก หรือภาวะอื่นที่ทำให้การฝังตัวไม่เหมาะสม
-ฮอร์โมนและสภาวะภายในตัวแม่ ฮอร์โมน เช่น โปรเจสเตอโรนไม่พอ หรือภาวะฮอร์โมนโดยรวมไม่สมดุล อาจทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมรองรับตัวอ่อน
อาการ
ท้องลมช่วงแรกอาจมีอาการคล้ายการตั้งครรภ์ปกติ แต่จะมีลักษณะที่ผิดปกติเมื่อเวลาผ่านไป
ระยะเวลา อาการที่อาจมี สิ่งที่สังเกตได้ว่าอาจไม่ปกติ
---
การวินิจฉัย
แพทย์มักใช้วิธีเหล่านี้:
1. ตรวจเลือดวัดระดับฮอร์โมน HCG — เพื่อดูว่าระดับเพิ่มขึ้นเหมาะสมกับอายุครรภ์หรือไม่
2. อัลตราซาวนด์ — โดยเฉพาะอัลตราซาวนด์ทางช่องคลอด (transvaginal ultrasound) เพื่อมองถุงการตั้งครรภ์และตรวจว่ามีตัวอ่อนอยู่หรือไม่ ถ้าหากอายุครรภ์ถึงจุดที่ควรเห็นตัวอ่อนแล้วแต่ไม่เจอ แพทย์อาจวินิจฉัยว่าเป็นท้องลม
3. ตรวจซ้ำ — บางครั้งหากอายุครรภ์ยังน้อยมาก อาจต้องรอ 1-2 สัปดาห์แล้วตรวจซ้ำเพราะอาจยังไม่เห็นตัวอ่อนในช่วงเริ่มต้น
---
การรักษา
การรักษาจะขึ้นกับสภาพและความพร้อมของร่างกายผู้ตั้งครรภ์:
- รอให้แท้งเองตามธรรมชาติ — ถ้าร่างกายสามารถขับถุงการตั้งครรภ์หรือเนื้อเยื่อออกได้เอง และไม่มีภาวะแทรกซ้อนใด ๆ
-ใช้ยา — เช่นยาเพื่อช่วยกระตุ้นให้แท้งออกมาได้เร็วขึ้น (อาจใช้ misoprostol) ในกรณีที่ร่างกายไม่สามารถแท้งเองได้หรือเมื่อมีเลือดออก /เศษเนื้อค้างอยู่
-ขูดมดลูก (Dilation & Curettage, D&C) — เมื่อตรวจพบว่าเนื้อเยือก/ถุง/เยื่อบุการตั้งครรภ์ตกค้าง หรือมีเหตุจำเป็นทางการแพทย์ เช่นเลือดออกมาก ปวดท้องมาก
- ดูดสูญญากาศ ด้วยเครื่องดูดสูญญากาศแบบใช้มือ (MVA)
-ดูแลจิตใจ — ภาวะท้องลมอาจก่อให้เกิดความเศร้า กังวล จึงควรได้รับการสนับสนุนทางจิตใจ พูดคุยกับครอบครัวหรือผู้เชี่ยวชาญเมื่อรู้สึกเครียดมาก ๆ
---
การดูแลตัวเองก่อน /หลังภาวะท้องลม &ลดความเสี่ยง
แม้ว่าจะไม่มีวิธีใดที่รับประกันว่าจะป้องกันท้องลมได้ 100% แต่มีแนวทางที่ช่วยให้ร่างกายพร้อมและลดความเสี่ยง ดังนี้:
1. ฝากครรภ์ตั้งแต่แรกหรือเมื่อทราบว่าตั้งครรภ์ เพื่อการติดตามและตรวจอัลตราซาวนด์อย่างเหมาะสม
2. รับประทานโฟเลต /วิตามินก่อนตั้งครรภ์ — โฟเลตช่วยในการสร้างเซลล์และพันธุกรรมที่ดีเยี่ยม รวมถึงสารอาหารครบถ้วนตามคำแนะนำทางโภชนาการ
3. พักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด — สุขภาพจิตและการพักผ่อนสำคัญ เพราะความเครียดและพักผ่อนไม่พออาจกระทบต่อฮอร์โมน หรือกระบวนการในร่างกายที่รองรับการตั้งครรภ์
4. รับประทานอาหารที่สมดุล — ครบ 5 หมู่ เน้นโปรตีน ไขมันดี วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น เช่น ธาตุเหล็ก แคลเซียม ฯลฯ
5. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ — ในระดับที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับสุขภาพของตนเอง
6. ตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ — รวมทั้งตรวจโครโมโซมถ้ามีประวัติท้องลม หรือแท้งหลายครั้งเพื่อหาสาเหตุเพิ่มเติม
7. รอให้ร่างกายฟื้นตัว — หลังจากมีท้องลมหรือแท้ง ควรให้เวลาให้ร่างกายโดยเฉพาะมดลูกและฮอร์โมนกลับสู่ภาวะปกติก่อนลองตั้งครรภ์ใหม่ บางแหล่งแนะนำให้รออย่างน้อยในช่วงมีประจำเดือนครบ 2-3 รอบ
---
ผลกระทบและโอกาสตั้งครรภ์ต่อไป
🥺ท้องลม ไม่ใช่การตั้งครรภ์ที่สำเร็จ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่หมายถึงว่าจะไม่สามารถตั้งครรภ์ที่สมบูรณ์ได้ในอนาคต ผู้ที่เคยมีภาวะท้องลมมีโอกาสตั้งครรภ์ใหม่ได้ และมีโอกาสสูงที่จะประสบความสำเร็จ ถ้ามีการดูแลตัวเองและสุขภาพโดยรวมดีขึ้น
แต่ถ้ามีการท้องลมหลายครั้ง (ซ้ำ ๆ) แพทย์อาจทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น ตรวจโครโมโซมทั้งฝ่ายหญิงและชาย, ตรวจฮอร์โมน, ตรวจสุขภาพมดลูก, หรือประเมินปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ค่ะ
---
สรุป
ท้องลมเป็นภาวะการตั้งครรภ์ที่ตัวอ่อนไม่สามารถพัฒนาอยู่ได้ ถึงแม้จะมีอาการคล้ายตั้งครรภ์ในระยะแรกก็ตาม แม้จะไม่สามารถป้องกันได้ทั้งหมด แต่การดูแลตัวเองทั้งทางกายและจิตใจ การฝากครรภ์ และการวางแผนก่อนตั้งครรภ์ สามารถช่วยลดความเสี่ยงและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับตั้งครรภ์ครั้งต่อไปได้ค่ะ
#ท้องลม #ภาวะไข่ฝ่อ #แท้ง