
20/04/2023
ไวรัสตับอักเสบคือไวรัสที่ชอบทำอันตรายต่อเฉพาะตับเป็นหลัก โดยที่รู้จักกันดีในปัจุบันคือไวรัสตับอักเสบ เอ บี ซี ดี และ อี ที่สำคัญในบ้านเราเรียงตามลำดับคือ บี ซี และ เอ โดยคาดว่าอย่างน้อยประชากรร้อยละ 5 เป็นไวรัสตับอักเสบ บีเรื้อรัง และร้อยละ 1 เป็นไวรัสตับอักเสบ ซีเรื้อรัง #ตับอักเสบ
การติดต่อ
ไวรัสตับอักเสบ เอ และอีจะติดต่อส่วนใหญ่จากการปนเปื้อนในอาหารและน้ำดื่ม อาจอยู่ในอาหารอยู่แล้วหรือเป็นเพราะผู้ขายอาหารที่ป่วยเป็นไวรัสดังกล่าวนำมาแพร่ ส่วนไวรัสตับอักเสบ บีและซี การติดต่อหลักทางเลือด เพศสัมพันธ์ การสักตามร่างกาย เจาะหูหรืออวัยวะต่างๆการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน สำหรับไวรัส บี อาจติดจากมารดาสู่ทารก แต่ปัจจุบันมีน้อยมากเพราะมีการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส บี ให้กับทารกเกิดใหม่ทุกราย #กรีนแอลดูแลตับ0991697454
อาการตับอักเสบเฉียบพลัน
อาการของตับอักเสบเฉียบพลันจากไวรัสทุกชนิดเหมือนกัน โดยผู้ป่วยจะมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร จุกแน่นบริเวณชายโครงขวาจากการที่ตับโต ปัสสาวะมีสีเข้ม ตาเหลือง เมื่ออาการของโรคเต็มที่จะค่อยๆ ดีขึ้นเข้าสู่ระยะฟื้นตัวและหายพร้อมกับมีภูมิต้านทานเกิดขึ้น สำหรับไวรัสตับอักเสบ เอ และอี จะหายขาดพร้อมมีภูมิต้านทานเกิดขึ้นแต่สำหรับไวรัสตับอักเสบ บี ร้อยละ 5-10 และไวรัสตับอักเสบ ซี กว่าร้อยละ 80 เป็นเรื้อรัง
ตับอักเสบเรื้อรัง
ทั้งไวรัส บีและซี ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่มีอาการของโรค มักไม่มีอาการอ่อนเพลีย ไม่มีอาการตัวตาเหลือง การตรวจร่างกายอาจเป็นปกติ การตรวจทางห้องปฏิบัติการโดยดูการอักเสบของตับจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้ทราบถึงความผิดปกติในการทำงานของตับได้ ผู้ป่วยตับอักเสบเรื้อรังที่มีอาการและเซลล์ตับได้รับการทำลายมากๆ จะทำให้กลายป็นโรคตับแข็งในที่สุด
ตับแข็งและมะเร็งตับ
ในระยะแรกจะไม่มีอาการ อาจมีเพียงอ่อนเพลียกว่าปกติ หากมีอาการมาก จะมีอาการจากการทำงานของตับเสื่อมลง โดยผู้ป่วยส่วนมากที่มาพบแพทย์จะมาเพราะอาการแทรกซ้อน เช่น อาเจียนเป็นเลือด เท้าบวม ท้องบวม หรืออาจเป็นมะเร็งตับ
สอบถามหรือติดตามข้อมูลได้ที่ไลน์
กดลิงก์ด้านล่างแล้วเพิ่มเพื่อน👇
เพิ่มเพื่อนกรีนแอล
https://lin.ee/rU0mQxL
https://lin.ee/rU0mQxL
https://lin.ee/rU0mQxL
ขอขอบคุณข้อมูลจากโรงพยาบาลธนบุรี