รัตนชาติสยามคลินิกการแพทย์แผนไทย

รัตนชาติสยามคลินิกการแพทย์แผนไทย รัตนชาติสยามคลินิกการแพทย์แผนไทยศูนย์เวลเนสเพื่อสุขภาพตอบโจทย์ของการป้องกัน ดูแล รักษา ฟื้นฟูสุขภาพ

30/09/2025

6 นิสัยที่ทำให้ความจำและสุขภาพสมองเสื่อมลงเมื่ออายุมากขึ้น 🧠

"ความทรงจำคือสมุดบันทึกที่เราพกพาติดตัวไปด้วย" ออสการ์ ไวลด์ นักเขียนชื่อดังเคยกล่าวไว้ค่ะ แต่หลายคนอาจสังเกตว่าเมื่ออายุมากขึ้น ความจำอาจไม่ดีเหมือนเดิม บางทีจำผิดๆ ถูกๆ หรือหลงลืมบางอย่างไปเลย 🤔 ซึ่งนักประสาทวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านความจำได้บอกไว้ว่า พฤติกรรมบางอย่างสามารถทำให้ความจำเสื่อมลงได้เร็วกว่าปกติค่ะ ✨

1. นั่งนานเกินไป
การนั่งเป็นเวลานานมีผลเสียต่อสมองโดยตรงค่ะ ผลการศึกษาในปี 2018 พบว่าการนั่งนานๆ ทำให้บริเวณสมองที่เกี่ยวข้องกับความทรงจำ (medial temporal lobe หรือ MTL) บางลง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณแรกของความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมและความจำเสื่อมในอนาคต
📌 คำแนะนำ: ลุกขึ้นเคลื่อนไหวทุกๆ 15-30 นาที เช่น เดินรอบบ้าน ยืนยืดเส้นยืดสาย หรือทำท่าสควอทและลันจ์เบาๆ เพื่อให้ร่างกายได้ขยับเสมอ จะช่วยกระตุ้นสมองและระบบไหลเวียนโลหิตค่ะ 🏃‍♀️

2. ขาดการเข้าสังคม
ความเหงาไม่เพียงเชื่อมโยงกับภาวะซึมเศร้า แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอัลไซเมอร์และความเสื่อมของสมองค่ะ งานวิจัยในปี 2021 ชี้ว่า ผู้ที่เข้าสังคมน้อยมีแนวโน้มสูญเสียเนื้อสมองส่วนเทาที่ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูล
📌 คำแนะนำ: ไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนมาก แต่ให้เลือกคนที่สามารถพูดคุยได้ทุกเรื่อง ตั้งกลุ่มเล็กๆ ที่คุณสามารถติดต่อสื่อสารด้วยประจำ เช่น นัดคุยทางโทรศัพท์หรือพบปะพูดคุยแบบออนไลน์ในแต่ละสัปดาห์ เพื่อให้สมองได้รับการกระตุ้นจากการสนทนาที่มีความหมายและความรู้สึกดีๆ จากคนที่คุณแคร์ค่ะ 👥💬

3. พักผ่อนไม่เพียงพอ
การนอนมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูสมองและช่วยจัดระเบียบความทรงจำ การนอนน้อยกว่า 7-8 ชั่วโมงต่อวันจะทำให้การทำงานของสมองด้านการจดจำและการคิดลดลง และส่งผลให้สมองเสื่อมไวขึ้น เนื่องจากสมองไม่สามารถกำจัดสารพิษ เช่น อะไมลอยด์ ที่เกี่ยวข้องกับอาการอัลไซเมอร์ออกไปได้ และจะส่งผลให้ความสามารถในการจดจำลดลงไปในที่สุดค่ะ
📌 คำแนะนำ: หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ก่อนนอน และเลือกทำกิจกรรมผ่อนคลายแทน เช่น อ่านหนังสือเบาๆ จะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและเตรียมพร้อมเข้าสู่การนอนหลับที่มีคุณภาพค่ะ 🛌📖

4. เครียดง่ายเกินไป
ความเครียดเป็นอันตรายต่อสมองโดยเฉพาะในระยะยาว สามารถทำให้สมองส่วนที่เกี่ยวกับความจำหดตัวลง การมีทัศนคติที่เข้มงวดเกินไปอาจทำให้เกิดความเครียดง่ายเมื่อสิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามคาด
📌 คำแนะนำ: ฝึกยืดหยุ่นความคิด รับมือกับสถานการณ์ต่างๆ อย่างผ่อนคลาย เมื่อรู้สึกว่าจะหงุดหงิด ให้หายใจลึกๆ และเตือนตัวเองว่า “ฉันโอเคในตอนนี้” การลดทิฐิในใจจะช่วยตัดความเครียดตั้งแต่เริ่มต้น และลดผลกระทบต่อสุขภาพสมองค่ะ ✨

5. ทำหลายอย่างพร้อมกัน (Multitasking) 📱
การทำหลายอย่างพร้อมกัน เช่น เช็กอีเมลขณะประชุม หรือดูโทรศัพท์ระหว่างทำงานหรือเรียน เป็นการใช้สมองหลายส่วนพร้อมๆ กัน ทำให้สมองต้องแบ่งความสนใจ ซึ่งจะทำให้จดจำสิ่งที่ทำได้ไม่เต็มที่และทำให้ความทรงจำในระยะยาวลดลงค่ะ
📌คำแนะนำ: ทำงานให้เสร็จทีละอย่าง ลดสิ่งเบี่ยงเบนความสนใจ เช่น ปิดเสียงโทรศัพท์ และหยุดพักเป็นระยะๆ ระหว่างวันเพื่อยืดเส้นยืดสาย จะช่วยให้โฟกัสและจดจำสิ่งที่ทำได้ดีขึ้นค่ะ 😊

6. ทำแต่สิ่งซ้ำๆ ซากๆ 🔄
สมองของเราต้องการการฝึกฝนและประสบการณ์ที่หลากหลาย หากทำกิจวัตรเดิมๆ โดยไม่มีสิ่งกระตุ้นหรือความท้าทายใหม่ๆ สมองจะไม่มีการสร้างเซลล์ประสาทใหม่ ซึ่งจะทำให้การจดจำเริ่มถดถอย ดังนั้น การลองทำสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำ หรือการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ จะช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์สมองใหม่ และช่วยพัฒนาความจำค่ะ
📌คำแนะนำ: ลองหากิจกรรมใหม่ๆ ที่ท้าทาย เช่น เรียนทำอาหารหรือเรียนภาษา เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ อ่านหนังสือ หรือลองทำอะไรที่กระตุ้นให้สมองต้องคิดมากขึ้นค่ะ 📚🧩

🧠เคล็ดลับดูแลความจำในระยะยาว
นอกจากการหลีกเลี่ยงพฤติกรรม 6 ข้อนี้แล้ว ยังมีวิธีอื่นๆ ที่ช่วยให้สมองของเรามีสุขภาพดีและความจำที่ดีได้ในระยะยาว เช่น
- กินอาหารสุขภาพ เช่น อาหารเมดิเตอร์เรเนียน ที่เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืช และไขมันดี จะช่วยบำรุงสมองให้แข็งแรงได้เป็นอย่างดีค่ะ 🍇🥑🐟
- หมั่นออกกำลังกายแบบแอโรบิก เช่น วิ่งหรือเดินเร็ว ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์สมองใหม่ และทำให้ระบบไหลเวียนเลือดในสมองดีขึ้นค่ะ 🏃‍♂️🧘‍♀️
- ดูแลสุขภาพฟันและการได้ยิน เพราะมีงานวิจัยพบว่าสุขภาพฟันและหูที่ดีช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมค่ะ 🦷👂
- มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เช่น การพบปะผู้คนหรือฝึกทักษะใหม่ จะช่วยกระตุ้นเซลล์สมองใหม่และชะลอความเสื่อมของสมองได้ค่ะ 👩‍👩‍👦

ถ้ารู้ตัวว่าเริ่มหลงๆ ลืมๆ ก็ลองปรับนิสัยเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ดูนะคะ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยให้สมองของคุณแข็งแรง ความจำดีและคงอยู่กับคุณไปนานๆ แถมยังช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคสมองเสื่อมไปได้ถึง 1 ใน 3 เลยล่ะค่ะ 🧠✨

อ้างอิง:
https://www.health.harvard.edu/.../the-worst-habits-for...
https://www.bbc.com/thai/articles/c722ey95x4ko

#สมองเสื่อม ิถีชีวิตที่ยั่งยืน

26/09/2025
20/09/2025
20/09/2025
15/09/2025
12/09/2025
12/09/2025
11/09/2025
ภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง คือเกราะคุ้มกันโรคร้าย
10/09/2025

ภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง คือเกราะคุ้มกันโรคร้าย

ภาพเซลล์มะเร็งตๅยคาที่เพราะหลบเม็ดเลือดขาวไม่พ้น

นี่คือชะตากรรมของเซลล์มะเร็งที่ดันกำเนิดมาในร่างคนที่ดูแลสุขภาพอยู่เสมอ ก็ไม่ต่างกับวายร้ายที่หลบๆ ซ่อนๆ อย่างหวาดกลัว

หวาดกลัวทีมนักฆ่ๅที่เหี้ยมโหด
ไม่เคยไว้ชีวิตใคร อย่าง NK cell และ CD8+ T cell


ถ้าสองนักฆ่ๅนี้มาเห็น มะเร็งจะพยายามตะเกียกตะกาย ชูโปรตีนที่เรียกว่า ‘Don’t eat me’ (CD47) ให้สองเซลล์นี้เมตตาหน่อย


💥 แต่นักฆ่ๅไม่เคยไว้ชีวิตใคร
โดยเฉพาะวายร้ายที่ถ้ามันมารวมกลุ่มกัน
สร้างอาณาจักรได้เมื่อไหร่ หายนะมาเยือน

🗡️ เหล่านักฆ่ๅเลยเล็งพิษ granzyme สั่งให้เจ้าเซลล์มะเร็งนี้เปิดสวิตช์ย่อยตัวเองจากข้างใน สภาพผิวที่ดูไม่ได้ ตะปุ่มตะป่ำ พร้อมแยกออกมาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ตๅยอย่างอนาถ


มาเพิ่มพลังให้นักฆ่ๅของพวกเรากันเถอะค่ะ

✅ นอนหลับระยะเวลาเพียงพอ (มากกว่า 6 ชั่วโมง) และคุณภาพดี ตื่นมานิดๆ หน่อย ๆ ได้ แต่ถ้าหลับๆ ตื่นๆ ตลอด ต้องรีบหาสาเหตุแก้ไข เพราะการนอนจะทำให้เม็ดเลือดขาวสองตัวนี้ กลับมาทำงานสูงสุด

✅ กำจัดปัญหาสุขภาพจิตให้ไวที่สุด ไม่ว่าจะเครียดเรื้อรัง หรือโรคจิตเวชใด ๆ เพราะ cortisol ที่สูงสามารถกดการทำงานภูมิคุ้มกันได้หลายจุด โดยเฉพาะ NK cell จะโดนหนักมาก จึงไม่แปลกที่ในระยะสั้น เราจะเห็นว่าเราเป็นไข้หวัดบ่อยขึ้น เพราะเซลล์นี้ก็กำจัดไวรัสด้วย

✅ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ในระดับความแรงปานกลางขึ้นไป ง่ายสุดคือออกให้รู้สึกเหนื่อยค่ะ และสม่ำเสมอ คนไม่เคยออกมาก่อน อยากให้ออกไม่ต้องเต็มแรงก็ได้ แต่ทำให้ต่อเนื่อง 7-14 วัน ปรับนิสัยได้แล้ว ค่อยเพิ่มความแรงขึ้น

✅ ดูแลตนเองให้ห่างไกลจากโรคเรื้อรัง โดยเฉพาะภาวะดื้ออินซูลิน/เบาหวาน เพราะภูมิคุ้มกันโดนกดการทำงานมากค่ะ

08/09/2025

📣 คลิปนี้เขาพูดคำหนึ่งว่า... “เรามีเซลล์มะเร็งเกิดขึ้นในร่างกายตลอดเวลา”.แต่ถ้าระบบในร่างกายยังดี ก็จัดการมันได้ แต่ถ้าระบบพังเมื่อไหร่ มะเร็งโตทันที 😱 มีประโยชน์มาก เลยสรุปมาให้ฟังกัน 👇
🔴 สาเหตุของโรคมะเร็ง
◼️ พันธุกรรมมีส่วนเพียง 15–20%
◼️ ที่เหลือเกิดจาก: อาหาร, PM 2.5, แอลกอฮอล์, บุหรี่, การติดเชื้อไวรัส และ “ความเครียด”
◼️ ความเครียดเรื้อรัง = ปัจจัยสำคัญที่สุดที่คนมองข้าม

🔴 ร่างกายเรามีเซลล์ผิดปกติเกิดขึ้นตลอดเวลา
◼️ ในร่างกายมีเซลล์ 3,000 ล้านล้านเซลล์ → แบ่งตัวตลอดเวลา
◼️ ร่างกายมี 3 ระบบที่จัดการเซลล์มะเร็ง:
1. ยีนซ่อม DNA
2. ระบบภูมิคุ้มกัน (เม็ดเลือดขาว)
3. กลไกควบคุมการเจริญเติบโต
◼️ ถ้าระบบเหล่านี้ล้มเมื่อไหร่ เซลล์ผิดปกติจะกลายเป็นมะเร็งทันที

🔴 ผลของ “ความเครียด” ที่มีต่อร่างกาย
◼️ ทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงทั้งวัน
◼️ คอร์ติซอลทำให้:
• น้ำตาลในเลือดสูง = เสี่ยงเบาหวาน
• ความดันสูง = เสี่ยงหลอดเลือดหัวใจ
• หัวใจเต้นแรง เลือดแข็งตัวง่าย = เสี่ยงสโตรก
• ภูมิคุ้มกันลดลง = เม็ดเลือดขาวจัดการเซลล์มะเร็งไม่ได้

🔴 ระบบประสาทพังจากความเครียดเรื้อรัง
◼️ ระบบ Sympathetic ทำงานทั้งวัน (เครียด เร่ง คิดไม่หยุด)
◼️ ระบบ Parasympathetic (พัก ซ่อม นอน) ทำงานน้อยเกินไป
◼️ เมื่อไม่มีระบบซ่อมร่างกาย → ร่างกายไม่ฟื้น และโรคก็ตามมา

🔴 วิธีลดความเครียด + เพิ่มภูมิคุ้มกัน
◼️ ฝึกการหายใจแบบ 4-7-8 → ลดคอร์ติซอลได้ทันที
• หายใจเข้า 4
• กลั้น 7
• เป่าออก 8
• ทำ 5 รอบ
◼️ หรือหายใจแบบกล่อง (Box Breathing) → 4-4-4-4
◼️ การร้องเพลง / พบปะเพื่อนฝูง / ทำสมาธิ ก็ช่วยเพิ่มระบบฟื้นตัว
◼️ ลดความโกรธ ลดความอยาก อยู่กับสิ่งที่มี = ช่วยใจสงบ ร่างกายฟื้น

ใครที่เผลอเครียดอยู่ ต้องอ่านๆ ยิ่งเครียด ยิ่งแย่ ยิ่งไม่ดีต่อร่างกาย 👌😱

🚩 รายการ: Dr. V Channel

08/09/2025

ที่อยู่

Bang Khen

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ รัตนชาติสยามคลินิกการแพทย์แผนไทยผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง รัตนชาติสยามคลินิกการแพทย์แผนไทย:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram