เปิดทำการกี่โมง?

จันทร์ 09:00 - 22:00 อังคาร 09:00 - 22:00 พุธ 09:00 - 22:00 พฤหัสบดี 09:00 - 22:00 ศุกร์ 09:00 - 22:00 เสาร์ 09:00 - 22:00 อาทิตย์ 09:00 - 22:00

ALRISE, Bangkok Noi (2025)

26/08/2025

ลาหยุดยังไงให้ชาร์ตแบตเต็มไวที่สุด (แม้งานอาจตามเราไปเที่ยวด้วย)
-----
หลายคนเริ่มวางแผนเที่ยวปลายปีกันแล้ว แม้หลายคนจะบอกว่าการพักร้อนควรจะตัดขาดจากโลกโซเชียลอย่างสิ้นเชิง แต่ถ้าดันลาในช่วงที่ต้องดูงานอย่างใกล้ชิด เราจะหาวิธีพักผ่อนให้ได้ความรู้สึกเติมพลังได้อย่างไร นอกจากจะจองตั๋วส่งใบลากับหัวหน้า คนจำนวนไม่น้อยมักทำลายแผนพักผ่อนของตัวเองเมื่อต้องผสมเรื่องงานเข้ากับการพักผ่อน และนี่คือ 5 ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง

❌ ไม่บอกใครว่าคุณไม่อยู่ แม้จะตั้งใจทำงานระหว่างพักร้อน แต่การตั้งค่าข้อความตอบกลับอัตโนมัติ (Out-of-Office) จะช่วยลดความกดดันได้มาก เพราะอย่างน้อยก็ทำให้คนอื่นรู้ว่าคุณไม่ว่างตลอดเวลา และหากใครใช้ Line ในการสื่อสาร แนะนำให้ขึ้นทั้งรูปโปรไฟล์และ rename ชื่อบอกให้โลกรู้ไปเลยว่า “เราลาอยู่”

❌ คอยสอดส่องหาเรื่องฉุกเฉิน การที่คุณคอยเช็กโทรศัพท์หรืออีเมลตลอดเวลาเพื่อดูว่ามีเรื่องด่วนหรือไม่ เป็นการทำลายช่วงเวลาพักผ่อนอย่างแท้จริง ทางที่ดีควรมีคนกลางที่คอยรับเรื่องแทนและจะติดต่อคุณต่อเมื่อมีเรื่อง “ฉุกเฉินจริง ๆ เท่านั้น”

❌ นัดประชุมแบบกำหนดเวลาเป๊ะ ๆ การกำหนดเวลาประชุมที่แน่นอนอาจทำให้คุณพลาดกิจกรรมสนุกๆ ระหว่างเดินทาง ทางที่ดีควรเลือกการสื่อสารที่ไม่ต้องนัดเวลา เช่น การส่งข้อความ หรือถ้าต้องคุยโทรศัพท์จริง ๆ ก็ให้บอกแค่ว่า "จะโทรกลับไปภายในวันนี้" แทนการนัดเวลาที่แน่นอน

❌ ทำงานที่ไม่เร่งด่วน เพื่อให้ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ คุณต้องลดการทำงานที่ไม่สำคัญลง และต้อง “หักห้ามใจ” ไม่ให้เข้าไปยุ่งกับงานที่ไม่เร่งด่วนที่ส่งเข้ามา เพราะเมื่อคุณเปิดอ่าน คุณจะรู้สึกว่าต้องตอบกลับและใช้สมองคิดถึงเรื่องงานตลอดเวลา

❌ ไม่กำหนดเวลาทำงานที่ชัดเจน การทำงานโดยไม่มีขอบเขตเวลาที่แน่นอนจะทำให้คุณรู้สึกว่าทั้งวันของคุณหมดไปกับการทำงาน แม้ว่าจะใช้เวลาไม่นานก็ตาม ทางที่ดีควรวางแผนล่วงหน้าว่าจะเริ่มและหยุดทำงานเมื่อไหร่ เพื่อให้คุณมีเวลาส่วนตัวและสามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่

source: Make the Most of Your Vacation When You Can’t Fully Unplug | HBR

#อยู่อย่างเต็มเปี่ยม

09/08/2025

"อย่าสูญเสียสิ่งนั้นไปนะ Wednesday ความสามารถที่จะไม่ปล่อยให้คนอื่นมานิยามตัวตนของเธอ"

แม้ว่าในเรื่อง Ms. Thornhill จะแสบสันหรรษากับ Wednesday แค่ไหน แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าประโยคนี้ของเธอดีจริง ๆ

24/07/2025

Interconnected Self-Care: การดูแลตัวเองเพื่อโลกที่ดีกว่า ในวันที่เศรษฐกิจซบเซา
-----
วันที่ 24 กรกฎาคมของทุกปี เป็น International Self-Care Day เรามักจะนึกถึงการดูแลตัวเองเน้นการฟื้นฟูส่วนบุคคล เช่น การพักผ่อน การบำบัดความเครียด หรือการปรนเปรอตัวเอง ทว่ามี Self-Care อีกมิติหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือ "Interconnected Self-Care" หรือการดูแลตัวเองที่คำนึงถึงผลกระทบต่อผู้อื่นและสังคมโดยรวม การดูแลตัวเองในรูปแบบนี้ไม่ได้หมายถึงการละเลยความต้องการส่วนตัว แต่เป็นการเข้าใจว่าสุขภาพที่ดีของเรานั้นเชื่อมโยงกับความเป็นอยู่ที่ดีของคนรอบข้างและโลกใบนี้ได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน ช่วงที่เศรษฐกิจหดตัว ซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกคน การดูแลตัวเองแบบเชื่อมโยงนี้ยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้น

1️⃣ Self-Care ที่นำไปสู่การเป็น "ผู้ให้" ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก

เมื่อเศรษฐกิจชะลอตัว หลายคนอาจเผชิญกับความท้าทายทางการเงิน ความไม่มั่นคงในอาชีพ หรือความเครียดที่เพิ่มขึ้น ในสถานการณ์เช่นนี้ การดูแลตัวเองให้มีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรงไม่ได้เป็นเพียงเรื่องส่วนตัว แต่เป็น รากฐานสำคัญ ที่จะทำให้เรามีพลังงานและทรัพยากรทางอารมณ์มากพอที่จะยื่นมือช่วยเหลือผู้อื่น หรือชุมชนในยามวิกฤต

- สร้างความพร้อมเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น: นอนหลับเพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ และจัดการความเครียดได้อย่างเหมาะสม จะช่วยให้เรามี "ถังพลังงาน" ที่เต็มเปี่ยมพร้อมสำหรับการแบ่งปัน หากเราหมดไฟไปเสียก่อน เราก็จะไม่เหลือแรงกายแรงใจที่จะช่วยเหลือใครได้เลย

- ลดภาระทางสังคม: เมื่อแต่ละคนสามารถดูแลสุขภาพกายใจของตนเองได้ดี ย่อมลดภาระของระบบสาธารณสุขและสังคมโดยรวม ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในภาวะเศรษฐกิจที่ทรัพยากรมีจำกัด

- งานวิจัยจาก Psychological Bulletin (Curry et al., 2018) ระบุว่า การทำกิจกรรมอาสาสมัครหรือการให้ความช่วยเหลือผู้อื่น (Prosocial Behavior) สัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของความสุข ลดอาการซึมเศร้า และเพิ่มความพึงพอใจในชีวิต แสดงให้เห็นว่าการมีส่วนร่วมกับผู้อื่นเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลจิตใจที่ดี

2️⃣ การเชื่อมโยงกับธรรมชาติ: การบำบัดที่ประหยัดและยั่งยืนในยามโลกฝืดเคือง

ในขณะที่หลายคนอาจไม่สามารถเข้าถึงกิจกรรม Self-Care ที่มีค่าใช้จ่ายสูงได้ การเชื่อมโยงกับธรรมชาติเป็นทางเลือกที่ ประหยัด เข้าถึงง่าย และมีประสิทธิภาพสูง ในการบำบัดจิตใจและร่างกาย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในภาวะเศรษฐกิจที่กำลังหดตัว

- ลดความเครียดและเพิ่มความสุข: การใช้เวลาในสวนสาธารณะ การเดินป่า หรือแม้แต่การใช้เวลาในพื้นที่สีเขียวใกล้บ้าน สามารถลดระดับฮอร์โมนความเครียด (Cortisol) และเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายได้ ช่วยให้เราจัดการกับความวิตกกังวลที่มาพร้อมกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

- เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: งานวิจัยบางชิ้นชี้ว่าการสัมผัสกับธรรมชาติสามารถเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญเมื่อเราต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ

- ปลูกฝังความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม: การเชื่อมโยงกับธรรมชาติอย่างลึกซึ้งจะนำไปสู่ความรู้สึกหวงแหนและอยากปกป้องสิ่งแวดล้อม ซึ่งไม่เพียงเป็น Self-Care ทางอ้อมที่ช่วยสร้างโลกที่น่าอยู่ขึ้น แต่ยังส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าและยั่งยืน

- งานวิจัยจำนวนมากสนับสนุนแนวคิด Biophilia Hypothesis ที่ว่ามนุษย์มีความผูกพันโดยธรรมชาติกับสิ่งมีชีวิตและธรรมชาติ (Bratman et al., 2015, Landscape and Urban Planning) การใช้เวลาในธรรมชาติได้รับการพิสูจน์ว่าช่วยลดระดับคอร์ติซอลและเพิ่มความสุข

3️⃣ การบริโภคอย่างมีสติ: Self-Care ที่ส่งผลดีต่อกระเป๋าเงินและสังคม

ในภาวะเศรษฐกิจหดตัว การตัดสินใจเรื่องการใช้จ่ายกลายเป็นสิ่งสำคัญ การบริโภคอย่างมีสติจึงไม่ใช่แค่การบริหารเงินส่วนบุคคล แต่ยังเป็นรูปแบบหนึ่งของ Interconnected Self-Care ที่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมและสังคม

- ลดความฟุ่มเฟือย ลดความเครียดทางการเงิน: การพิจารณาความจำเป็นในการซื้อสินค้าหรือบริการช่วยให้ใช้จ่ายอย่างรอบคอบ ไม่สร้างหนี้สินที่ไม่จำเป็น ซึ่งเป็นการดูแลสุขภาพการเงินของตนเอง และลดความเครียดที่เกิดจากปัญหาเศรษฐกิจ

- สนับสนุนธุรกิจในท้องถิ่นและธุรกิจขนาดเล็ก: การเลือกซื้อสินค้าจากเกษตรกรในท้องถิ่น หรือสนับสนุนร้านค้าและธุรกิจขนาดเล็กใกล้บ้าน ช่วยให้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจฐานราก ช่วยให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและผู้คนมีงานทำ ซึ่งเป็นการดูแล "สุขภาพ" ทางเศรษฐกิจของส่วนรวม

- การเลือกอย่างยั่งยืน: การเลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีกระบวนการผลิตที่เป็นธรรม (Fair Trade) หรือมีการรีไซเคิล ช่วยให้เรารู้สึกดีกับตัวเองที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างโลกที่ดีขึ้น และยังส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

- แนวคิดเรื่อง Sustainable Consumption (การบริโภคที่ยั่งยืน) เป็นที่ยอมรับในระดับสากลว่ามีผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม การเลือกบริโภคอย่างมีสติไม่เพียงช่วยลดภาระทางการเงินส่วนบุคคล แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีผลต่อความเป็นอยู่ที่ดีของจิตใจในระยะยาว (Jackson, 2017, Prosperity without Growth)

Interconnected Self-Care กุญแจสู่การอยู่รอดและเติบโตในยุคที่ท้าทาย

ในวันที่โลกกำลังเผชิญกับความผันผวนทางเศรษฐกิจ การดูแลตัวเองแบบ Interconnected Self-Care จึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็น “สิ่งจำเป็น” การดูแลสุขภาพกายและใจของเราให้แข็งแรง พร้อมที่จะเป็นผู้ให้ การเชื่อมโยงกับธรรมชาติเพื่อฟื้นฟูจิตใจโดยไม่สิ้นเปลือง และการบริโภคอย่างมีสติเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืน ล้วนเป็นมิติของการดูแลตัวเองที่ก้าวข้ามขีดจำกัดส่วนบุคคล และสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยิ่งใหญ่กว่า การทำเช่นนี้ไม่เพียงช่วยให้เราผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้ แต่ยังช่วยสร้างสังคมที่เข้มแข็งและมีความยืดหยุ่นมากขึ้นสำหรับทุกคน

#อยู่อย่างเต็มเปี่ยม

24/07/2025

🖤

16/07/2025

ประโยคนี้ของโมโมะ อายาเซะ จากอนิเมะเรื่อง Dandadan สะท้อนแนวคิดเรื่องพลังของความคิดและความเชื่อ ไม่ว่าจะเริ่มต้นจากอะไร หากเราย้ำเตือนตัวเองซ้ำ ๆ มันก็อาจส่งผลต่อความเป็นจริงหรือทัศนคติของเราได้ ดังคำพูดคลาสิกที่ว่า "You are what you think."

12/07/2025

ความศรัทธาในศาสนาเป็นรากฐานสำคัญทางจิตใจของบุคคลจำนวนมาก เป็นแหล่งพักพิงทางใจ ให้ความหมายในชีวิต และเป็นกรอบศีลธรรมในการดำเนินชีวิต อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดข่าวเสื่อมเสียเกี่ยวกับบุคคลสำคัญทางศาสนา หรือมีการตีแผ่เรื่องราวที่ไม่ชอบมาพากลภายในองค์กรศาสนา ความศรัทธาที่เคยมีอย่างมั่นคงอาจสั่นคลอน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของผู้ที่มีความเชื่อได้

เรื่องราวที่ซ้ำเวียนในหลายศาสนา

เรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นในสังคมไทยขณะนี้เป็นเพียงแค่หนึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นท่ามกลางเรื่องน่าเศร้าเช่นนี้ที่มีให้เห็นหลายครั้ง ไม่เพียงแต่ในศาสนาพุทธ แต่ในศาสนาอื่นเช่นกัน เช่น กรณีการล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายโดยบาทหลวง ซึ่งถูกตีแผ่ในภาพยนตร์เชิงสารคดี "Spotlight" ที่คว้ารางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปี 2015 ได้สร้างความตกตะลึงและความเสียใจให้กับผู้ศรัทธาทั่วโลก ทำให้หลายคนตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของสถาบันศาสนา และส่งผลกระทบทางจิตใจต่อเหยื่อและผู้ที่เคยศรัทธาที่พบการล่วงละเมิดในเหยื่อนับพันจากหลายโบสถ์ในอเมริกา และเปิดเผยรายชื่อสถานที่เกิดเหตุเช่นนี้ทั่วโลกอีกยาวเหยียด

ผลกระทบต่อสุขภาพจิต

- ความสับสนและความขัดแย้งภายใน: เมื่อบุคคลที่เคยเป็นที่เคารพศรัทธากลับกลายเป็นผู้กระทำผิดเสียเอง อาจทำให้เกิดความสับสนในคุณค่าและความเชื่อที่เคยยึดมั่น เกิดความขัดแย้งภายในจิตใจว่าควรจะเชื่ออะไรต่อไป

- ความรู้สึกผิดหวังและเสียใจ: ความศรัทธาที่ถูกทำลายอาจนำมาซึ่งความรู้สึกผิดหวังอย่างรุนแรง เหมือนถูกหักหลังโดยสิ่งที่เคยเชื่อมั่น ทำให้เกิดความเสียใจและความโกรธแค้น

- ความสงสัยและการตั้งคำถามต่อความเชื่อ: ข่าวเสื่อมเสียอาจจุดประกายความสงสัยในหลักคำสอนหรือองค์กรศาสนาโดยรวม ทำให้เกิดการตั้งคำถามต่อสิ่งที่เคยเชื่อโดยปราศจากข้อกังขา

- ความรู้สึกโดดเดี่ยวและการสูญเสียชุมชน: สำหรับผู้ที่ผูกพันกับชุมชนทางศาสนาอย่างเหนียวแน่น ข่าวร้ายอาจทำให้รู้สึกแปลกแยก ไม่แน่ใจว่าจะสามารถไว้วางใจผู้อื่นในชุมชนได้อีกหรือไม่ นำไปสู่ความรู้สึกโดดเดี่ยว

- ภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวล: ความผิดหวัง ความสับสน และการสูญเสียความเชื่อมั่น อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล หรือความเครียดสะสม

เราเรียนรู้อะไรจากเรื่องเหล่านี้

ข่าวเสื่อมเสียในศาสนาสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของผู้ที่มีความศรัทธาได้จริง โดยนำมาซึ่งความสับสน ผิดหวัง และความสงสัย

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุด คือ การแยกแยะระหว่าง “หลักคำสอน” กับ “พฤติกรรมของบุคคล” ออกจากกัน ด้วยความเข้าใจว่าบุคคลที่อยู่ภายใต้สถาบันศาสนาเป็นเพียงปุถุชนธรรมดาที่กำลังขัดเกลาตัวเอง มีทั้งดี มีทั้งพลาด โดยเลือกที่จะโฟกัสที่หลักคำสอน หลักปฏิบัติอันดีงาม และพระเจ้าหรือศาสดาที่ศรัทธาก็จะช่วยรักษาคุณค่าทางจิตใจที่สูงส่งนี้ไว้ได้ในที่สุด

source: en.wikipedia.org/wiki/Spotlight_(film)

#อยู่อย่างเต็มเปี่ยม

14/06/2025

หน้ากากสุข: เมื่อชาว LGBTQIA+ ต้องซ่อนความจริงจากสังคมเพื่อ 'ความอยู่รอด' ทางใจ
———
ภาวะ "passing" คือ การที่ชาว LGBTQIA+ ต้อง แสดงออก หรือ ถูกเข้าใจผิด ว่ามีเพศวิถีหรืออัตลักษณ์ทางเพศที่ ตรงกับบรรทัดฐานทางสังคม (heteronormative/cisnormative) เช่น การที่คนรักเพศเดียวกันต้องแกล้งทำเป็นคนรักต่างเพศ หรือคนข้ามเพศต้องปิดบังอัตลักษณ์ทางเพศที่แท้จริง เพื่อ หลีกเลี่ยงการถูกตัดสิน การตีตรา (stigma) หรือการเลือกปฏิบัติ (discrimination) ที่อาจเกิดขึ้นหากเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง

เหตุผลที่หลายคนต้องสวม "หน้ากากสุข"

มักเกิดจาก ความกลัว ทั้งความกลัวอันตรายทางกาย การถูกปฏิเสธจากครอบครัวหรือเพื่อนฝูง การสูญเสียโอกาสทางสังคม เศรษฐกิจ หรือแม้กระทั่งแรงกดดันจาก การตีตราในระดับโครงสร้าง (structural stigma) ซึ่งหมายถึงอคติและการเลือกปฏิบัติที่ฝังรากลึกอยู่ในกฎระเบียบ สถาบัน และค่านิยมของสังคม ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ชาว LGBTQIA+ รู้สึกไม่ปลอดภัยที่จะเป็นตัวเอง

ผลกระทบของ "หน้ากากสุข" ต่อสุขภาพจิต

การที่ต้องซ่อนตัวตนที่แท้จริงและใช้ชีวิตภายใต้ "หน้ากากสุข" นี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายและต้องแลกมาด้วยต้นทุนทางสุขภาพจิตที่สูงมาก การปกปิดตัวตนอย่างต่อเนื่องก่อให้เกิด ความเครียดเรื้อรัง (chronic stress) และอาจนำไปสู่ปัญหาต่าง ๆ เช่น ภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล ความรู้สึกแปลกแยกและโดดเดี่ยว ภาวะตัวตนไม่ชัดเจน (Identity Confusion) ความภูมิใจในตนเองต่ำ

การปลดหน้ากากนั้นสำคัญอย่างไรต่อสุขภาพใจ?

การได้เป็นตัวเองอย่างแท้จริงคือรากฐานสำคัญของสุขภาพจิตที่ดี การปลดหน้ากากไม่ได้หมายถึงการเปิดเผยตัวตนกับทุกคนในทันที แต่เป็นการค่อยๆ อนุญาตให้ตัวเองได้เป็นตัวเองมากขึ้นทีละน้อยในพื้นที่ที่รู้สึกปลอดภัย อ่าน tips เพิ่มเติมในรูปถัดไป

การปลด "หน้ากากสุข" คือการก้าวเข้าสู่การเป็นตัวเองอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อ สุขภาพจิตที่ยั่งยืน และการมีชีวิตที่มีความสุขอย่างแท้จริง ALRISE ขอยืนเคียงข้างทุกการค้นหาตัวเองและการเป็นตัวเองที่มีความสุขสงบอย่างแท้จริง

Ref: Meyer, I. H. (2003). Prejudice, social stress, and mental health in le***an, gay, and bisexual populations: Conceptual issues and research evidence. Psychological Bulletin, 129(5), 674–697. https://doi.org/10.1037/0033-2909.129.5.674.

#อยู่อย่างเต็มเปี่ยม

02/06/2025

Mad Unicorn กับบทพิสูจน์ของ Grit
-----
ในซีรีส์ Mad Unicorn ที่กำลังขึ้นอันดับ 1 ในหมวด TV Show in Thailand ขณะนี้ สร้างจากแรงบันดาลใจจากชีวิตของคุณคมสันต์ ลี ชายหนุ่มจากดอยวาวี จังหวัดเชียงราย ที่ไม่ได้เกิดมาพร้อมโอกาส แต่เขาเริ่มต้นธุรกิจตั้งแต่ยังเรียนมหาวิทยาลัย และไม่เคยหยุดพยายามแม้จะต้องขายบ้าน ขายรถ และทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อก่อตั้ง Flash Express

เขาเผชิญกับการถูกหักหลังจากนักลงทุน ความล้มเหลวทางธุรกิจ และแรงกดดันมหาศาล แต่สิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างคือ เขาไม่ยอมแพ้ เขาเรียนรู้จากความผิดพลาด ปรับตัว และเดินหน้าต่อไปอย่างไม่ลดละ จนกลายเป็น Unicorn ตัวแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทยด้วยมูลค่าธุรกิจที่มากกว่า $1,000 ล้านเหรียญดอลลาร์

สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขามาไกลได้เพียงนี้ คือ “Grit” ความสู้ยิบตาหรือความมั่นหมายในการทำสิ่งใดให้สำเร็จจริง

เช่นเดียวกับผู้ที่ถ่ายทอดตัวละครนี้ได้อย่างสมจริงโดยคุณไอซ์ซึ ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์ นักแสดงหนุ่มที่ขึ้นชื่อเรื่องฝีมือไม้ลายมือที่กวาดรางวัลมามากมาย ซึ่งไม่ได้มาเพราะโชคเข้าข้าง แต่เพราะความทุ่มเทต่อการเตรียมความพร้อมต่อทุกบทบาทที่ได้รับอย่างเกินร้อยเสมอมา ไม่ว่าจะเป็นการต้องท่องบทพูดจีนยาวเหยียดทั้งที่ตัวเองพูดจีนไม่ได้ในระยะเวลาสุดกระชั้น หรือการฝึกขี่มอเตอร์ไซด์ยกล้อทั้งที่ไม่มีบทให้ต้องเล่นขนาดนั้น แต่เพื่ออรรถรสและความสมจริงในบทบาท ไอซ์ซึถึงกับถอยมอเตอร์ไซด์และไปเรียนขี่ยกล้อเป็นการส่วนตัว (และอีกมากมายหากได้ฟังประวัติการแสดงของเขา)

👉🏼 Grit ส่งผลต่อความสำเร็จอย่างไร?
งานวิจัยพบว่า Grit มีความสัมพันธ์กับความสำเร็จในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน การกีฬา[1] หรือการเป็นผู้ประกอบการ คนที่มี Grit มักจะ:
✅ มีความอดทนต่อความล้มเหลว
✅ มองอุปสรรคเป็นโอกาสในการเรียนรู้
✅ มีวินัยในตนเองสูง
✅ ไม่ยอมแพ้ต่อเป้าหมายระยะยาว
ซึ่งทั้งคุณคมสันต์และคุณไอซ์ซึในบทสันติ คือภาพสะท้อนของสิ่งเหล่านี้อย่างชัดเจน

👉🏼 จะพัฒนาตัวเองให้มี Grit ได้อย่างไร?
- ตั้งเป้าหมายที่มีความหมาย : เลือกเป้าหมายที่คุณหลงใหลและเชื่อมั่น
- ฝึกความอดทน : ยอมรับว่าความสำเร็จต้องใช้เวลาและความพยายาม
- เรียนรู้จากความล้มเหลว : มองความผิดพลาดเป็นบทเรียน ไม่ใช่จุดจบ
- สร้างนิสัยที่ดี : ทำสิ่งเล็ก ๆ อย่างสม่ำเสมอ เช่น การวางแผนรายวันหรือการทบทวนเป้าหมาย
- ล้อมรอบตัวเองด้วยแรงบันดาลใจ : อ่านเรื่องราวของคนที่มี Grit เพื่อเติมไฟให้ตัวเอง

เรื่องราวของ Mad Unicorn ไม่ใช่แค่ซีรีส์ธุรกิจเรื่องหนึ่ง แต่คือบทเรียนชีวิตที่สอนให้เรารู้ว่า Grit คือพลังที่เปลี่ยนความฝันให้กลายเป็นความจริง ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นจากศูนย์หรือเคยล้มเหลวกี่ครั้ง หากคุณยังไม่ยอมแพ้ วันหนึ่งคุณก็อาจกลายเป็น “ยูนิคอร์น” ในแบบของตัวเองได้เช่นกัน
-
Ref: [1] Relationships between mindfulness, self-compassion, and grit among Thai national athletes: the mediating role of self-regulation, Somboon, J., Kullaya, P., et al. (2021)
ภาพประกอบ: The Standard และ Netflix Thailand

#อยู่อย่างเต็มเปี่ยม

29/05/2025

No matter how negatively you are feeling right now, let music heal you.
See us at SPOTIFY. 👋🏼
Search ‘ALRISE’ in the profile section; or click: https://spoti.fi/3i0Nn75

ALRISE พร้อมเสิร์ฟดนตรีหลากหลายอารมณ์ เพื่อเป็นเพื่อนกับคุณในทุกช่วงความรู้สึกของชีวิต 🩵

#ดนตรีบำบัด #สุขภาพจิต

20/05/2025

เผลอแป็บเดียวจะหมดไปครึ่งปีแล้ว ALRISE ชวนมาทบทวนชีวิตกันหน่อยว่า 2025 ของคุณเป็นอย่างไรกันบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง …

▪️ ความสัมพันธ์กับคนใกล้ตัว (ตีกันน้อยลงไหม ได้ใช้เวลาดี ๆ ด้วยกันมากขึ้นหรือเปล่า?)
▪️ การเรียน การทำงาน (ทำได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ไหม มีอะไรมาฉุดรั้งระหว่างทางบ้าง?)
▪️ สุขภาพกาย (ที่ว่าจะลดชานม ชาบู ชาไทย และออกกำลังกายมากขึ้น สำเร็จไหม?)
▪️ สุขภาพใจ (ความสุขโดยรวมครึ่งปีแรกได้คะแนนเท่าไหร่ มากหรือน้อยกว่าที่คาดไว้?)
▪️ การเงิน (เซฟเงินได้ตามตัวเลขที่ตั้งไว้ไหม อะไรที่ดูดเงินเรามากที่สุดตอนนี้?)
▪️ จิตวิญญาณ (แบ่งเวลากลับมา reconnect กับตัวเองและโลกใบนี้บ้างไหม ได้พักสงบใจและใช้เวลากับ sacred things ของเราบ้างหรือเปล่า)
▪️ สังคม/สิ่งแวดล้อม (ครึ่งปีนี้ได้ connect กับสังคมนอกชีวิตประจำวันบ้างไหม ได้ทำอะไรที่ใส่ใจโลกใบนี้ไปบ้าง?)

ทบทวนกันแล้ว เล่าสู่กันฟังกันหน่อยว่าครึ่งปีแรกของทุกคนเป็นยังไงกันบ้าง 👋

#อยู่อย่างเต็มเปี่ยม

13/05/2025

Less screen time, More green time. 🌿

30/04/2025

ระหว่างวันที่เหนื่อยล้า หาเวลานั่งลงพร้อมเครื่องดื่มอุ่น ๆ สุดโปรด พร้อมของทานเล่นที่เติมแรงให้ทั้งกายและใจ จะดีแค่ไหนหากเราสามารถมีเวลาเงียบ ๆ ที่หยุดทุกอย่างรอบตัวที่วุ่นวายลง ไม่ว่าจะมือถือ คอมพิวเตอร์ เสียงรบกวน หรือภาพต่าง ๆ ที่ไม่อยากเห็น

แล้วกลับมาโฟกัสกับ Self-time อย่างแท้จริง ท่ามกลางบรรยากาศสุดพิเศษที่สร้างขึ้นเพื่อตัวเองโดยตัวเราเอง อยู่กับตัวเอง พร้อมเมนูโปรดที่มอบรอยยิ้มกลับคืนให้กับเรา

เพียงเป็นเวลาสั้น ๆ แต่เชื่อไหมว่า Tea tray สามารถดึงพลังที่หายไปให้กลับมาได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้เราไปต่อได้ในวันที่เหลืออย่างสมบูรณ์มากขึ้น 🍵

Tips: สามารถเติมไอเทมน่ารัก ๆ ที่เพียงแค่มองก็ทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้ (แม้จะทานไม่ได้) อย่างของเล่น โปสการ์ด ผ้าเช็ดหน้าลายสวย หรืออื่น ๆ แล้วแต่จะหยิบยกมาตกแต่งถาดชาในแต่ละวัน (หากไม่ชอบดื่มชา แน่นอนว่าเปลี่ยนเป็นเครื่องดื่มใดก็ได้ อุ่นให้ร้อน จะช่วยปลอบประโลมร่างกายที่ตึงเค้นได้ดีมาก ๆ เลย)

ALRISE เพื่อนที่ช่วยให้ชีวิตคุณดีขึ้นในทุกวัน

#อยู่อย่างเต็มเปี่ยม

ALRISE

26/08/2025

09/08/2025

24/07/2025

24/07/2025

16/07/2025

12/07/2025

14/06/2025

02/06/2025

29/05/2025

20/05/2025

13/05/2025

30/04/2025

ที่อยู่

เวลาทำการ

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

ติดต่อ การปฏิบัติ

ทางลัด

แชร์

ประเภท

จันทร์	09:00 - 22:00
อังคาร	09:00 - 22:00
พุธ	09:00 - 22:00
พฤหัสบดี	09:00 - 22:00
ศุกร์	09:00 - 22:00
เสาร์	09:00 - 22:00
อาทิตย์	09:00 - 22:00