โรงพยาบาลนันอา - Nan Ah Hospital

โรงพยาบาลนันอา - Nan Ah Hospital (Hospital Accredited) และยังเป็นหนึ่งในกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนสีเขียว ที่ให้การบริการในราคาที่เป็นธรรม จากการคัดเลือกโดยกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์

Internal medicine, Health check up, Blood test,
Vaccination, Surgery, Cosmetic Surgery, Post-operative care, Palliative care , Stroke Rehab, Bedridden care,
24hrs medical certificate,
Mobile medical service (Ng tube, Blood test, Vaccination) โรงพยาบาลนันอาให้บริการทางการแพทย์หลากหลายสาขา เช่น ทางด้านอายุรกรรม สูตินรีเวชกรรม กุมารเวชกรรม เฉพาะทางด้านหัวใจและหลอดเลือด รังสีร่วมรักษา จิตเวช ดูแลผู้ป่วยพักฟื้นหลังผ่าตัด ผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ผู้ป่วยระยะสุดท้าย
กายภาพบำบัด และกิจกรรมบำบัด
โรงพยาบาลนันอา ได้ผ่านการรับรองจากสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล หรือ สรพ.

แผลกดทับเป็นภาวะแทรกซ้อนที่ใช้ระยะเวลานาน และส่งผลเสียต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต และคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย เรามาดูระดับ...
20/09/2025

แผลกดทับเป็นภาวะแทรกซ้อนที่ใช้ระยะเวลานาน และส่งผลเสียต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต และคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย เรามาดูระดับความรุนแรงของแผลกดทับกันครับ

ระดับ 1 หมายถึง ผิวหนังไม่เป็นแผลแต่มีรอยแดงช้ำ มักอยู่บริเวณปุ่มกระดูก เมื่อกดบริเวณนี้ผิวหนังยังคงแดงช้ำเหมือนเดิม ไม่ซีด สีผิวอาจแตกต่างจากบริเวณข้างเคียง อาจเจ็บ แข็งหรือนุ่ม อุ่นหรือเย็นกว่าบริเวณข้างเคียง หากผิวสีเข้มอาจเห็นลักษณะดังกล่าวได้ยาก จึงเสี่ยงต่อการเกิดแผลกดทับ

ระดับ 2 หมายถึง สูญเสียหนังแท้บางส่วน เป็นแผลเปิดตื้น ๆ เห็นก้นแผลเป็นสีชมพูไม่มีเนื้อตายปกคลุม หรือเป็นถุงน้ำพอง (Serum-filled blister) ที่แตกแล้วหรือยังไม่แตก แต่กรณีผิวหนังฉีกขาด (Tear) แผลไหม้ (Burn) ผื่นผิวหนังอักเสบที่ฝีเย็บ (Perineal dermatitis) ผิวหนังเปื่อยยุ่ย (Maceration) หรือรอยถลอก (Excoriation) ไม่ถือเป็นแผลกดทับระดับนี้

ระดับ 3 หมายถึง สูญเสียผิวหนังทั้งหมด เห็นชั้นไขมันแต่ยังไม่เห็นกล้ามเนื้อ เอ็น หรือกระดูก อาจมีเนื้อตายปกคลุมแต่ยังมองเห็นความลึกของเนื้อเยื่อที่สูญหาย แผลระดับนี้อาจเซาะเป็นโพรงใต้ผิวหนังความลึกของแผลกดทับระดับ 3 แตกต่างกันขึ้นกับบริเวณ บริเวณที่ไม่มีเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังแผลจะตื้น ส่วนบริเวณที่มีไขมันใต้ผิวหนังหนา แผลจะลึกทำให้ไม่เห็นหรือไม่สามารถคลำถึงกระดูกหรือเอ็นกล้ามเนื้อ

ระดับ 4 หมายถึง สูญเสียผิวหนังทั้งหมด เห็นกระดูก เอ็น กล้ามเนื้อ อาจมีเนื้อตายปรากฏที่แผลบางส่วน บ่อยครั้งพบว่าแผลเป็นโพรงลึกถึงกระดูก เอ็น กล้ามเนื้อ หรือเยื่อหุ้มข้อ ทำให้มีโอกาสเกิดกระดูกอักเสบเป็นหนอง

ระบุระดับไม่ได้ (Unstageable stage) หมายถึง สูญเสียผิวหนังทั้งหมด แผลถูกปกคลุมด้วยเนื้อตายหรือ Eschar บดบังความลึกของแผล ถ้าไม่ตัดเนื้อตายออกจนเห็นก้นแผลจะไม่สามารถประเมินความลึกที่แท้จริง และความรุนแรงของแผลได้

คาดว่าเนื้อเยื่อลึกบาดเจ็บ (Suspected deep tissue injury) หมายถึง ผิวหนังไม่เป็นแผลแต่มีสีม่วง (Purple) หรือแดงปนน้ำตาล (Maroon) หรือเป็นถุงน้ำมีเลือดภายใน (Blood-filled blister) เกิดจากเนื้อเยื่อถูกแรงกดหรือแรงเฉือน คลำได้ลักษณะแข็ง (Firm) หรือเหมือนมันบด (Mushy) หรือโคลน (Boggy) อุ่นหรือเย็นเมื่อเทียบกับบริเวณข้างเคียง

การป้องกันไม่ให้เกิดแผลกดทับจึงเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพที่ดีที่สุด โดยเริ่มตั้งแต่การค้นหาและกำจัดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดแผลกดทับ การดูแลผิวหนัง การใช้แผ่นรองตัวและเบาะรองนั่งที่มีประสิทธิภาพ เพื่อลดและกระจายแรงกด เป็นต้น
===========================================

ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ผู้ป่วยระยะสุดท้าย

ผู้ป่วยพักฟื้นหลังผ่าตัด เช่น ผ่าตัดตา ผ่าตัดเข่า สะโพกฯลฯ

รักษาแผลกดทับ ดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วย ที่มีความจำเป็นจะต้องนอนรักษาตัว เพื่อตรวจรักษา ทำแผล ฉีดยา หรือให้ออกซิเจน

โดยพยาบาลผู้ชำนาญการและทีมแพทย์

สอบถามรายละเอียด และประเมินค่าใช้จ่ายได้ที่

โทร +66 94 505 5454

Line ID : nan-ah-hospital

วันที่ 4 กันยายน 2568 ท่านผู้อำนวยการสำนักงานประกันสังคม พื้นที่เขต 5 ได้เข้าตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลนันอา เพื่อสำรวจความพร้อ...
15/09/2025

วันที่ 4 กันยายน 2568 ท่านผู้อำนวยการสำนักงานประกันสังคม พื้นที่เขต 5 ได้เข้าตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลนันอา เพื่อสำรวจความพร้อม ในการให้บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ให้แก่ผู้ประกันตน รวมถึงการให้บริการตรวจสุขภาพนอกสถานที่ให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการ ที่มีผู้ประกันตนปฏิบัติอยู่ในองค์กร

โดยมีจุดประสงค์ช่วยให้ประชากรในวัยทำงานได้เข้าถึงการดูแล และตระหนักรู้ถึงสุขภาพของตนเอง ดีกว่าที่จะปล่อยให้เป็น "ภัยเงียบ" และเกิดภาระในการรักษาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในภายหลัง การรู้ก่อน หมายถึง โอกาส และมีทางเลือกในการรักษาที่มากขึ้น

13/08/2025
31/07/2025

A lipoma is a benign tumor made of fat tissue. They are generally soft to the touch, movable, and painless. They usually occur just under the skin, but occasionally may be deeper. Most are less than 5 cm in size. Common locations include upper back, shoulders, and abdomen. It is possible to have several lipomas.
Can a lipoma turn cancerous?
Most benign lipomas don't turn cancerous. In 2 percent of cases, a specific kind of tumor called an atypical lipoma may become a liposarcoma. Previous radiation therapy: Receiving radiation therapy can cause a liposarcoma to form years later.
Surgery Department
Nan Ah Hospital
Consult the surgeon
094 505 5454 (TH/ENG)
Mobile & Whatsapp

30/07/2025

สายสวนหลอดเลือดระยะยาว (Permanent catheter) หรือที่เรียกว่า Perm cath สำหรับฟอกเลือด มีข้อดีหลักคือสามารถใช้งานได้ทันทีหลังการใส่ ทำให้เหมาะสำหรับการฟอกเลือดฉุกเฉิน หรือในกรณีที่ไม่สามารถทำเส้นฟอกเลือดแบบอื่นได้. นอกจากนี้ ยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าสายชั่วคราว และมีโอกาสติดเชื้อน้อยกว่าหากดูแลรักษาอย่างเหมาะสม

ข้อดีของการใช้สายฟอกเลือดระยะยาว (Permanent Catheter)
• ใช้งานได้ทันที
หลังจากใส่สายแล้ว สามารถเริ่มฟอกเลือดได้เลย ไม่ต้องรอให้แผลหายหรือเส้นเลือดขยายตัว เหมือนการใช้เลือดที่แขน ที่ต้องรอเส้นเลือดพร้อมใช้งาน ประมาณ 8 สัปดาห์
• อายุการใช้งานยาวนาน
หากดูแลรักษาอย่างเหมาะสม สามารถใช้งานได้นานหลายเดือนหรือเป็นปี.
• โอกาสติดเชื้อน้อยกว่า
เนื่องจากตำแหน่งที่ใส่สายอยู่ห่างจากผิวหนัง ทำให้มีโอกาสติดเชื้อน้อยกว่าสายชั่วคราว.
• ทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่สามารถทำเส้นฟอกเลือดแบบอื่นได้
เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีหลอดเลือดดำไม่แข็งแรง หรือไม่สามารถทำเส้นฟอกเลือดที่แขนได้

สิ่งที่ควรระวัง
• การติดเชื้อ
แม้ว่าโอกาสติดเชื้อจะน้อยกว่า แต่ก็ยังมีความเสี่ยง ดังนั้นจึงต้องดูแลรักษาความสะอาดของสายอย่างสม่ำเสมอ.
• การอุดตัน
หากใช้งานไปนานๆ อาจเกิดการอุดตันของเส้นเลือดได้.
• ความรู้สึกไม่สบาย
อาจรู้สึกไม่สบายบริเวณที่ใส่สาย หรือเกิดการระคายเคืองได้.

สายสวนหลอดเลือดระยะยาวเป็นทางเลือกที่มีประโยชน์สำหรับการฟอกเลือด โดยเฉพาะในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือผู้ที่ไม่สามารถทำเส้นฟอกเลือดแบบอื่นได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมของสายชนิดนี้ และเรียนรู้วิธีการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน
สำหรับผู้ป่วยโรคไตระยะสุดท้ายที่ใช้สิทธิ์ประกันสังคม สายฟอกเลือดระยะยาว (Permanent Catheter) สามารถเบิกค่าใช้จ่ายได้ส่วนหนึ่ง

ผ่าตัดเตรียมเส้นเลือดฟอกไต ใส่สายฟอกไตระยะยาว โรงพยาบาลนันอา
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
0945055454
0994516336

การจัดให้มีการตรวจสุขภาพประจำปีสำหรับพนักงาน เป็น 1 ในมาตรการที่มีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับองค์กร ลดความเสี่ยงต่...
17/07/2025

การจัดให้มีการตรวจสุขภาพประจำปีสำหรับพนักงาน เป็น 1 ในมาตรการที่มีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับองค์กร ลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพ อย่างโรคจากการประกอบอาชีพ ที่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน และเสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเป็นมิตรในองค์กร การดูแลสุขภาพของพนักงานย่อมนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีทั้งในด้านประสิทธิภาพการทำงานและความมั่นคงขององค์กรในระยะยาว

ข้อดีของการจัดให้มีการตรวจสุขภาพประจำปีให้พนักงาน

📌ป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย ทำให้พนักงานได้รับการรักษาและการดูแลที่เหมาะสมตั้งแต่เนิ่น ๆ สามารถป้องกันการพัฒนาเป็นโรคร้ายแรงในอนาคต การตรวจสุขภาพยังช่วยลดโอกาสที่พนักงานจะเจ็บป่วยหนักหรือป่วยเรื้อรัง

📌เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การตรวจสุขภาพประจำปีจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว เพราะสุขภาพที่ดีของพนักงานจะนำมาซึ่งผลผลิตและคุณภาพงานที่สูงขึ้น

📌 ลดการขาดงานและค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ ช่วยลดโอกาสที่พนักงานจะป่วยและต้องลาหยุดงาน ซึ่งส่งผลให้บริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการขาดงาน หรือการลดลงของผลผลิต

📌สร้างความไว้วางใจ และความพึงพอใจในองค์กร การดูแลสุขภาพของพนักงานเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงานกับองค์กร ทำให้พนักงานรู้สึกมีคุณค่าและได้รับการดูแลจากนายจ้าง ซึ่งสามารถส่งผลให้พนักงานมีความพึงพอใจในการทำงานและมีความผูกพันต่อองค์กรมากขึ้น

📌ปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานด้านความปลอดภัย การตรวจสุขภาพประจำปีอาจเป็นข้อกำหนดทางกฎหมายหรือเป็นมาตรฐานที่ต้องปฏิบัติตาม เช่น กฎหมายความปลอดภัยในการทำงาน หรือข้อกำหนดด้านสุขภาพและความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน การปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงที่องค์กรจะถูกปรับหรือต้องรับผิดชอบในกรณีที่เกิดปัญหาสุขภาพจากการทำงาน

📌 วางแผนด้านสุขภาพและความปลอดภัย ข้อมูลจากการตรวจสุขภาพสามารถนำมาใช้ในการวางแผนด้านสุขภาพและความปลอดภัยในองค์กรได้ เช่น การปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงานให้เหมาะสมและปลอดภัย การจัดฝึกอบรมด้านสุขภาพและความปลอดภัยให้แก่พนักงาน

📌ประเมินสุขภาพของพนักงานในระยะยาว ช่วยให้สามารถติดตามสุขภาพของพนักงานในระยะยาวได้ ซึ่งเป็นประโยชน์ในการวางแผนและบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพ

ตรวจสุขภาพประจำปีมีขั้นตอนอะไรบ้าง?

1. การซักประวัติสุขภาพ เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโรคประจำตัว การใช้ยาหรือสารเสพติด การแพ้ยา ประวัติการเจ็บป่วยของครอบครัว และพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ เช่น สูบบุหรี่ ดื่มสุรา และการออกกำลังกาย

2. การตรวจร่างกายทั่วไป ประกอบด้วยการวัดความดันโลหิต การวัดชีพจร น้ำหนัก ความสูง

3. ตรวจเลือด เป็นการตรวจวัดระดับน้ำตาลและไขมันในโลหิต นอกจากนี้ยังสามารถตรวจหาความผิดปกติอื่น ๆ เช่น ความเสี่ยงในการเกิดโรคธาลัสซีเมีย การขาดธาตุเหล็ก ภาวะโลหิตจาง ไตรกลีเซอไรด์ในเลือด คลอเลสเตอรอลในเลือด เกร็ดเลือดที่มีปริมาณผิดปกติ การตรวจเลือดช่วยให้แพทย์สามารถตรวจพบโรคที่อาจเกิดขึ้นได้ก่อนที่จะมีอาการแสดงออกมา ทำให้สามารถจัดการป้องกันและรักษาได้ทันที

4. ตรวจปัสสาวะ เป็นการตรวจหาความผิดปกติต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน นิ่วในไต การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ และภาวะไตเสื่อม นอกจากนี้ยังสามารถใช้ตรวจหาการตั้งครรภ์และการใช้สารเสพติดได้ด้วย การตรวจปัสสาวะช่วยให้สามารถตรวจพบโรคที่อาจไม่แสดงอาการในระยะแรกและช่วยให้การรักษาเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ (บางบริษัทอาจไม่จำเป็นต้องตรวจในส่วนนี้)

5. ตรวจวัดสายตา เป็นการคัดกรองความผิดปกติของสายตา เช่น ภาวะสายตาสั้น สายตายาว และสายตาเอียง การตรวจวัดสายตาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพนักงานที่ต้องใช้สายตาในการทำงาน เช่น การใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน หรือการทำงานในที่ที่มีแสงจ้าหรือแสงน้อย

6. เอกซเรย์ปอด เป็นการตรวจดูความผิดปกติของอวัยวะในทรวงอก เช่น การเกิดฝ้าที่ปอด ขนาดของหัวใจ วัณโรค และกระดูกซี่โครงบริเวณนั้นว่ามีการเสื่อมหรือไม่ การใช้รังสีเอ็กซ์ช่วยให้สามารถฉายภาพถ่ายอวัยวะภายในทรวงอกลงในแผ่นฟิล์ม ซึ่งทำให้แพทย์สามารถวิเคราะห์และประเมินสภาพอวัยวะต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ

บริการตรวจสุขภาพนอกสถานที่ สำหรับหน่วยงาน องค์กร
หน่วยตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ โรงพยาบาลนันอา
094 505 5454
024395100

10/07/2025

Hemorrhoids also known as piles are swollen veins that appear on the surface of the re**um or a**l ca**l. A swollen vein near the entrance of the a**l ca**l is called the external hemorrhoid.
While the swollen vein inside the re**um is called an internal hemorrhoid. Internal hemorrhoids are classified according to their level of development.
1st degree internal hemorrhoids are those that always remain inside the re**um.
2nd degree internal hemorrhoids expand outside the re**um during defecation and then automatically return inside the re**um.
3rd degree internal hemorrhoids extend outside the re**um during bowel movements and then must be pushed back into the re**um.
And 4th degree internal hemorrhoid always remain outside the re**um and cannot be pushed in.
Hemorrhoidectomy recovery

Typically takes 2-4 weeks, with the first week being the most painful. While most people return to normal activities within 2-3 weeks, full healing can take up to 6 weeks. Pain and discomfort are common for the first 2-4 weeks, with some light bleeding and discharge also possible.
Here's a more detailed look at the recovery timeline.
First 24-48 hours:
Expect pain, swelling, and potential bleeding after the procedure.
1-2 weeks
Pain and discomfort should gradually decrease, and you should be able to resume most normal activities.

2-4 weeks
Pain should be significantly reduced, and you should feel more comfortable resuming normal activities.
Up to 6 weeks
Full healing and return to strenuous activities or heavy lifting may take up to 6 weeks.
Longer term
Dietary and lifestyle changes are recommended to prevent recurrence.
Hemorrhoid Surgery
Nan Ah Hospital
094 505 5454 (TH/ENG)
Mobile & Whatsapp

โภชนาการและอาหารสำหรับผู้สูงอายุผู้สูงอายุก็มีความต้องการสารอาหารเช่นเดียวกันคนวัยอื่น ๆ แต่จะต่างกันตรงที่ปริมาณเพราะใน...
03/07/2025

โภชนาการและอาหารสำหรับผู้สูงอายุ
ผู้สูงอายุก็มีความต้องการสารอาหารเช่นเดียวกันคนวัยอื่น ๆ แต่จะต่างกันตรงที่ปริมาณเพราะในชีวิตประจำวันผู้สูงอายุไม่ได้มีกิจกรรมที่ต้องการพลังงานสูง การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อก็ช้าลง จึงต้องได้รับพลังงานและสารอาหารอย่างพอดี
เมื่อระบบย่อยอาหาร ระบบขับถ่าย และระบบต่าง ๆ ของร่างกายในผู้สูงอายุ เสื่อมสภาพลง แต่ก็ยังคงมีความต้องการพลังงานและสารอาหาร เพื่อฟื้นฟูร่างกายเหมือนกับวัยอื่น ๆ เพียงแต่ต้องการในปริมาณที่ลดลง

• โปรตีน จำเป็นต่อร่างกายผู้สูงอายุ เนื่องจากมีหน้าที่ช่วยในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ตั้งแต่ผิวหนัง กล้ามเนื้อ เลือด กระดูก ตลอดจนเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในหนึ่งวัน ผู้สูงอายุต้องการโปรตีนในปริมาณ 0.88 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
• ไขมัน ช่วยเติมพลังงานให้กับผู้สูงอายุ เป็นตัวนำวิตามินที่ละลายในไขมันให้ใช้ประโยชน์ได้ในร่างกาย จุดเด่นของไขมัน คือสามารถช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกว่าอาหารมีรสอร่อย และทำให้รู้สึกอิ่มมากขึ้น โดยปริมาณไขมันที่เหมาะสม ควรไม่เกิน 25 ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณพลังงานทั้งหมดที่ได้รับต่อวัน ซึ่งผู้สูงอายุชายและหญิงอายุ 60 ปีขึ้นไป มักต้องการพลังงานเฉลี่ยประมาณ 1,600 กิโลแคลอรีต่อวัน
• คาร์โบไฮเดรต ผู้สูงอายุควรลดปริมาณการรับประทานคาร์โบไฮเดรต โดยเฉพาะน้ำตาลต่าง ๆ ลง และหันไปรับประทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนแทน เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท และลูกเดือย เป็นต้น
• วิตามิน ผู้สูงอายุควรรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ บี 1 บี 12 วิตามินซี วิตามินอี ลูทีน ซีแซนทีน ซิลิเนียม และสังกะสี ซึ่งทั้งหมดล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อการบำรุงสายตา ช่วยให้การทำงานของจอประสาทตา ทั้งยังชะลอการเกิดต้อกระจกและจอประสาทตาเสื่อมได้ดีอีกด้วย
• แร่ธาตุ เป็นหนึ่งในสารอาหารสำคัญที่ผู้สูงอายุมักได้รับไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน โดยเฉพาะแร่ธาตุเหล็ก และแคลเซียม ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน ช่วยในการแข็งตัวของเลือด ผู้สูงอายุควรรับประทานธาตุเหล็กให้ได้ประมาณ 10 มิลลิกรัมต่อวัน
• น้ำ คือตัวช่วยให้กับระบบย่อยอาหารในผู้สูงอายุ เนื่องจากผู้สูงอายุจะมีระบบการขับถ่ายที่เสื่อมถอยลง จำเป็นต้องดื่มน้ำให้ได้ประมาณ 6 ถึง 8 แก้วต่อวัน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการขับถ่ายที่ดี ขับง่ายถ่ายคล่องขึ้น
• เส้นใยอาหาร อาจจะไม่ใช่สารอาหารโดยตรง แต่เส้นใยอาหารมีความสำคัญต่อผู้สูงอายุไม่น้อยสารอาหารอื่นเลย เพราะเส้นใยอาหารจะช่วยให้ผู้สูงอายุท้องไม่ผูก ทั้งยังลดไขมันในเลือด และลดความเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคร้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
อาหารที่ผู้สูงอายุควรหลีกเลี่ยง
• อาหารที่รสจัด หวานจัด เค็มจัด ถือเป็นสาเหตุของการเกิดโรคไต เบาหวาน และความดันในผู้สูงอายุ
• อาหารประเภททอด อาหารฟาสต์ฟู้ด รวมถึงเนื้อสัตว์ติดมัน เนื่องจากจัดเป็นกลุ่มอาหารที่ย่อยยาก ทำให้เกิดอาการท้องอืด แน่นท้องได้
• อาหารแปรรูปชนิดต่าง ๆ ซึ่งเต็มไปด้วยเชื้อจุลินทรีย์ วัตถุกันเสียและสารเคมีปรุงแต่งไม่ดีต่อร่างกายผู้สูงอายุ
• อาหารประเภทหมักดอง มักเต็มไปด้วยโซเดียมสูง อาจทำให้ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้
• เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คาเฟอีน รวมถึงการสูบบุหรี่ อันเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคร้ายต่าง ๆ ตามได้ง่าย
ผู้สูงอายุบางรายอาจมีโรคประจำตัว และมีความต้องการแร่ธาตุที่แตกต่างกันไป ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม
การได้รับแร่ธาตุมากเกินไปก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน
ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยพักฟื้น ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยระยะสุดท้าย
โรงพยาบาลนันอา
0994516336
024395100

#พักฟื้นหลังผ่าตัด #ดูแลผู้สูงอายุ #ผู้ป่วยติดเตียง #ผู้ป่วยมะเร็ง #ผู้ป่วยระยะสุดท้าย #มะเร็งระยะสุดท้าย #ดูดเสมหะ #อาหารทางสายยาง #ผู้ดูแลผู้สูงอายุ #ผู้สูงวัย #ผู้สูงวัยสุขภาพดี #ตรวจสุขภาพผู้สูงอายุ #ผู้ป่วยในบ้าน #ผู้สูงอายุ #ผู้สูงอายุในบ้าน #ตรวจวิตามิน #ขาดแร่ธาตุ #ขาดสารอาหาร #โรงพยาบาลนันอา

ไข้ต่ำๆในผู้สูงอายุ ไม่ควรละเลยผู้สูงอายุที่เป็นไข้ต่ำๆ อาจมีสาเหตุหลายประการ เช่น การติดเชื้อเล็กน้อย หรือภาวะอื่นๆ ที่...
27/06/2025

ไข้ต่ำๆในผู้สูงอายุ ไม่ควรละเลย

ผู้สูงอายุที่เป็นไข้ต่ำๆ อาจมีสาเหตุหลายประการ เช่น การติดเชื้อเล็กน้อย หรือภาวะอื่นๆ ที่ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์. หากมีอาการไข้ต่ำๆ ร่วมกับอาการอื่นๆ เช่น อ่อนเพลีย, สับสน, หรือหายใจลำบาก ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม

อาการที่ควรระวังและควรพบแพทย์

📌ไข้ต่ำๆ ร่วมกับอาการสับสน หรือเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม:
อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อรุนแรง หรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ

📌ไข้ต่ำๆ ร่วมกับอาการหายใจลำบาก
อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อในปอด หรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ

📌ไข้ต่ำๆ ร่วมกับอาการอ่อนเพลียมาก
อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ หรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่ต้องการการดูแลจากแพทย์

📌ไข้ต่ำๆ ที่ไม่หายไปภายใน 2-3 วัน
ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม

ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และพักฟื้นหลังผ่าตัด
โรงพยาบาลนันอา
0994516336
024395100

25/06/2025

วิตามินมีความสำคัญต่อร่างกายอย่างมาก เพราะเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย ช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างปกติและมีประสิทธิภาพ แม้ร่างกายต้องการวิตามินในปริมาณน้อย แต่หากขาดวิตามินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้
✨ความสำคัญของวิตามิน✨
• วิตามินทำหน้าที่เป็นโคเอนไซม์ ช่วยให้ปฏิกิริยาเคมีต่างๆ ในร่างกายเกิดขึ้นได้ตามปกติ
• วิตามินบางชนิดมีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย โดยเฉพาะในช่วงวัยเด็กและวัยรุ่น
• วิตามินบางชนิดมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ได้ดีขึ้น
• วิตามินหลายชนิดมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวพรรณและเส้นผม ทำให้ผิวพรรณสดใส มีสุขภาพดี และเส้นผมแข็งแรง
• วิตามินเอ มีความสำคัญต่อการมองเห็น โดยเฉพาะในสภาวะแสงน้อย
• วิตามินดี มีความสำคัญในการช่วยดูดซึมแคลเซียม ซึ่งจำเป็นต่อการเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง
• วิตามินบางชนิดทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ต่างๆ ในร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ
วิตามินสามารถพบได้ในอาหารหลากหลายชนิด เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ไข่ นม และผลิตภัณฑ์จากนม นอกจากนี้ ยังสามารถรับประทานวิตามินเสริมในรูปแบบต่างๆ ได้ เช่น เม็ด แคปซูล หรือผงละลายน้ำ
การขาดวิตามินอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ ผิวหนังแห้ง เป็นต้น
การได้รับวิตามินบางชนิดมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะวิตามินที่ละลายในไขมัน ซึ่งร่างกายสามารถสะสมได้ เช่น วิตามินเอ ดี อี และเค
การรับประทานอาหารให้ครบถ้วนตามหลักโภชนาการ และปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ เพื่อให้ได้รับวิตามินที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายจึงเป็นสิ่งสำคัญ

แพคเกจตรวจระดับวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ
✨✨"แถมฟรี ฉีดวิตามินบี 12 มูลค่า 800 บาท" ✨✨
(ถึง 31 ธันวาคม 2568)
จากการศึกษาและการสำรวจในประเทศไทย พบว่าประชากรไทยจำนวนมากมีความเสี่ยงต่อการขาดวิตามินบี 12 การขาดวิตามินบี 12 อาจนำไปสู่ปัญหาด้านสุขภาพหลายอย่าง เช่น โลหิตจาง ระบบประสาททำงานผิดปกติ และอ่อนเพลีย
ตรวจระดับวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระ โรงพยาบาลนันอา

0994516336
024395100

18/06/2025

โรคมะเร็งที่พบในชายไทย (ข้อมูลปี 2563) พบวันละ 173.1 คนต่อประชากร 100,000 คน (อันดับที่ 16 ของทวีปเอเชีย) โดย 5 ชนิดมะเร็งที่พบในชายไทยมากที่สุด ประกอบด้วย
• มะเร็งตับและท่อน้ำดี : 33.2 คน ต่อประชากร 100,000 คน
• มะเร็งปอด : 22.8 คน ต่อประชากร 100,000 คน
• มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง : 18.7 คน ต่อประชากร 100,000 คน
• มะเร็งต่อมลูกหมาก : 7.7 คน ต่อประชากร 100,000 คน
• มะเร็งต่อมน้ำเหลือง : 6.6 คน ต่อประชากร 100,000 คน

ส่วนโรคมะเร็งที่พบในหญิงไทย (ข้อมูลปี 2563) พบวันละ 159 คนต่อประชากร 100,000 คน (อันดับที่ 15 ของทวีปเอเชีย) โดย 5 ชนิดมะเร็งที่พบในหญิงไทยมากที่สุด ประกอบด้วย
• มะเร็งเต้านม : 34.2 คน ต่อประชากร 100,000 คน
• มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง : 13.3 คน ต่อประชากร 100,000 คน
• มะเร็งตับและท่อน้ำดี : 12.2 คน ต่อประชากร 100,000 คน
• มะเร็งปอด : 11.5 คน ต่อประชากร 100,000 คน
• มะเร็งปากมดลูก : 11.1 คน ต่อประชากร 100,000 คน

มะเร็ง เป็นโรคที่เกิดจากเซลล์ในร่างกายมีการแบ่งตัวเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติและควบคุมไม่ได้ เซลล์มะเร็งจะมีความสามารถในการแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ ซึ่งมะเร็งเกิดได้ในทุกอวัยวะของร่างกาย

เมื่อเซลล์ที่แบ่งตัวนั้นเกิดการกลายพันธุ์ เป็นความผิดปกติในระดับสารพันธุกรรม ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดความผิดปกตินี้เกิดได้ทั้งภายนอกร่างกาย สิ่งแวดล้อม และจากภายในร่างกาย

เซลล์ที่เกิดความผิดปกตินี้เราจะเรียกว่าเซลล์มะเร็ง คือเซลล์ที่แบ่งตัวอย่างผิดปกติ มีสารพันธุกรรมที่แตกต่างไปจากปกติ สามารถแบ่งตัวได้มาก และร่างกายไม่สามารถควบคุมได้

อย่างไรก็ตามเซลล์เม็ดเลือดขาวจะคอยไหลเวียนตรวจตราทั่วร่างกายเราเมื่อพบสิ่งผิดปกติไม่ว่าจะเป็นไวรัส พยาธิ หรือกระทั่งเซลล์มะเร็งก็จะกำจัดทิ้งเสีย ในการนี้ เซลล์เม็ดเลือดขาวจะถูกลำเลียงผ่านท่อน้ำเหลืองที่กระจายอยู่ทั่วร่างกาย และยังสามารถแทรกตัวผ่านหลอดเลือดเพื่อจัดการสิ่งแปลกปลอมได้ด้วย

อะไรบ้างที่ทำให้ความสามารถของเซลล์เม็ดเลือดขาวอ่อนแอลง?
• การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
• รับประทานอาหารที่เพิ่มความเสียงต่อการเกิดมะเร็ง รวมไปถึงอาหารไขมันสูงต่าง ๆ ซึ่งทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร และแร่ธาตุที่จำเป็นในการทำงานของระบบต่าง ๆ
• ความเครียด โดยฮอร์โมนที่หลั่งออกมาเมื่อเราเครียดจะไปกดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
• มลภาวะรอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นควันรถ ควันบุหรี่ การได้รับสารเคมี หรือกัมมันตรังสีต่อเนื่องเป็นเวลานาน

แม้ร่างกายเราอาจจะสร้างเซลล์มะเร็งให้เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว แต่เราก็สามารถจัดการกับมะเร็งได้หากระบบภูมิคุ้มกันของเราสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ การดูแลสุขภาพแบบองค์รวมจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลย ทั้งสุขภาพกายและใจ

ตรวจคัดกรองโรคมะเร็ง โรงพยาบาลนันอา
0994516336
024395100

ที่อยู่

323 Prajadhipok Road
Bangkok Yai
10600

เบอร์โทรศัพท์

+66945055454

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ โรงพยาบาลนันอา - Nan Ah Hospitalผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง โรงพยาบาลนันอา - Nan Ah Hospital:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram

เกี่ยวกับเรา

ด้วยประสบการณ์และจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจกว่า 70 ปี โรงพยาบาลนันอา ยึดมั่นในหลักการของให้บริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและมาตรฐาน โดยคณะทางการแพทย์ พยาบาล และผู้ชำนาญการ

ประกอบกับเจตจำนงค์และธรรมเนียมปฏิบัติของคณะผู้บริหารตลอดเวลาที่ผ่านมา เราจึงให้ความสำคัญในการดูแลรักษาที่มีคุณภาพ ให้บริการอบอุ่น ดุจญาติมิตรและราคาที่เป็นธรรม

โรงพยาบาลนันอาเป็นโรงพยาบาลประเภทรับผู้ป่วยไว้ค้างคืนขนาด 30เตียง เริ่มต้นกิจการครั้งแรกในปี พ.ศ.2490 โดยในปัจจุบันเรามีการให้บริการทางการแพทย์หลากหลายสาขา เช่น ทางด้านอายุรกรรม สูตินรีเวชกรรม กุมารเวชกรรม คลินิกผิวหนัง ดูแลผู้ป่วยสูงอายุ และดูแลผู้ป่วยพักฟื้นหลังผ่าตัด

นอกจากนี้โรงพยาบาลนันอายังเป็นหนึ่งในกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนสีเขียว ที่ให้การบริการในราคาที่เป็นธรรม จากการคัดเลือกโดยกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์