Visherb ยาบำรุงดวงตา

Visherb ยาบำรุงดวงตา Visherb ยาบำรุงดวงตา

15/05/2024

[ คุณสามารถส่งข้อความถึงเราเพื่อรับคำแนะนำหรือเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สนับสนุนการรักษาได้ที่นี่ >>> >>> https://renlink.asia/u2ePyz ]
[ >>> https://shorten.asia/wSK3bBYA ]

ตาแห้ง ( ): ปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม

อาการตาแห้ง เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน สาเหตุหลักๆ เกิดจากการใช้สายตาหน้าจอนานๆ อากาศแห้ง ฝุ่นละออง และมลภาวะต่างๆ

สัญญาณเตือน ของตาแห้ง ได้แก่ รู้สึกเคืองตา ตาพร่ามัว มองไม่ชัด มีน้ำตาไหลน้อยลง รู้สึกเหมือนมีอะไรอยู่ในตา

ผลกระทบ ของตาแห้ง อาจทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา เช่น กระจกตาอักเสบ ตาแดง ตาติดเชื้อ

วิธีป้องกัน ตาแห้ง :

- พักสายตาบ่อยๆ
- กระพริบตาบ่อยๆ
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีอากาศแห้ง
- สวมแว่นกันแดดเมื่อออกแดด
- ใช้เครื่องปรับความชื้น
- ทานอาหารที่มีวิตามินเอ

การรักษา ตาแห้ง :

- ใช้ยาหยอดตา
- ใส่คอนแทคเลนส์ชนิดที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น
- ผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา

OCLARIZIN ยาหยอดตาที่ช่วยบรรเทาอาการตาแห้ง :

- มีส่วนผสมของ Diphenhydramine hydrochloride
- ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตา
- บรรเทาอาการเคืองตา ตาพร่ามัว
- เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้สายตาหน้าจอนานๆ

#ตาแห้ง #วิธีรักษาตาแห้ง #ยาหยอดตา #ปัญหาสายตา #สุขภาพตา #อากาศร้อน #มลภาวะ #ฝุ่นละออง #หน้าจอ #สุขภาพ

#ดวงตา #ดูแลดวงตา #สุขภาพดวงตา #สายตา #จอคอม #มือถือ #สมาร์ทโฟน #แท็บเล็ต #อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ #ดูแลสุขภาพ

ข้อมูลทั้งหมดในบทความและวิดีโอมีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้น - คุณควรปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ
เราไม่รับผิดชอบต่อการตัดสินใจของคุณ
* สินค้านี้มีเฉพาะในตลาดประเทศไทยเท่านั้น

14/05/2024

[ คุณสามารถส่งข้อความถึงเราเพื่อรับคำแนะนำหรือเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สนับสนุนการรักษาได้ที่นี่ >>> >>> https://renlink.asia/ze9NGN ]

สายตาสั้น: ปัญหาการมองเห็นที่พบบ่อยในเด็กและวัยรุ่น

สายตาสั้น หรือ ภาวะสายตาสั้น (Myopia) เป็นภาวะทางสายตาที่พบบ่อย ส่งผลต่อการมองเห็นระยะไกล ทำให้มองเห็นวัตถุที่อยู่ไกลดูไม่ชัดเจน แต่สามารถมองเห็นวัตถุที่อยู่ใกล้ได้ชัดเจน ภาวะนี้มักพบในเด็กและวัยรุ่น และมักจะรุนแรงขึ้นตามวัย

สาเหตุของสายตาสั้น :

สาเหตุที่แน่ชัดของสายตาสั้นยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อกันว่าเกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรม ร่วมกับปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้สายตาในระยะใกล้เป็นเวลานาน การอ่านหนังสือในแสงสว่างไม่เพียงพอ การใช้คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนเป็นเวลานาน

อาการของสายตาสั้น :

- มองเห็นวัตถุที่อยู่ไกลดูไม่ชัดเจน
- ต้องหรี่ตาหรือเพ่งมองเพื่อดูวัตถุที่อยู่ไกล
- ปวดตาหรือเมื่อยล้าตา
- ขยี้ตาบ่อยๆ

การวินิจฉัยสายตาสั้น :

จักษุแพทย์สามารถวินิจฉัยสายตาสั้นได้โดยการตรวจวัดสายตา โดยใช้เครื่องมือตรวจวัดสายตาหลายชนิด

การรักษาสายตาสั้น :
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาสายตาสั้นให้หายขาด แต่มีวิธีแก้ไขสายตาสั้นดังนี้

- แว่นตา: แว่นตาเป็นวิธีแก้ไขสายตาสั้นที่นิยมมากที่สุด แว่นตาจะช่วยให้แสงสว่างโฟกัสบนจอตาได้อย่างถูกต้อง
- คอนแทคเลนส์: คอนแทคเลนส์เป็นอีกวิธีหนึ่งในการแก้ไขสายตาสั้น - คอนแทคเลนส์จะวางอยู่บนกระจกตา ช่วยให้แสงสว่างโฟกัสบนจอตาได้อย่างถูกต้อง
- การผ่าตัด: การผ่าตัดแก้ไขสายตาสั้นมีหลายวิธี เช่น LASIK, PRK เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีค่าสายตาคงที่แล้ว

การป้องกันสายตาสั้น :
ยังไม่มีวิธีป้องกันสายตาสั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่สามารถชะลอความรุนแรงของสายตาสั้นได้ดังนี้

- จำกัดเวลาการใช้สายตาในระยะใกล้: ควรพักสายตาเป็นระยะทุก 20 นาที โดยการมองวัตถุที่อยู่ไกล 20 ฟุต เป็นเวลา 20 วินาที
- ปรับแสงสว่างให้เพียงพอ: ควรอ่านหนังสือหรือใช้คอมพิวเตอร์ในแสงสว่างที่เพียงพอ
- ตรวจสายตาเป็นประจำ: ควรตรวจสายตากับจักษุแพทย์เป็นประจำทุกปี

สายตาสั้น เป็นภาวะทางสายตาที่พบบ่อย แต่อาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ หากท่านมีอาการของสายตาสั้น ควรไปพบจักษุแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง

คีย์เวิร์ด: สายตาสั้น, ภาวะสายตาสั้น, สาเหตุของสายตาสั้น, อาการของสายตาสั้น, การวินิจฉัยสายตาสั้น, การรักษาสายตาสั้น, การป้องกันสายตาสั้น

หมายเหตุ: บทความนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับสายตาสั้น ท่านควรปรึกษาแพทย์หรือจักษุแพทย์เพื่อรับข้อมูลที่ถูกต้องและเหมาะสมกับท่านมากที่สุด

ข้อมูลทั้งหมดในบทความและวิดีโอมีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้น - คุณควรปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ
เราไม่รับผิดชอบต่อการตัดสินใจของคุณ

09/01/2024

โรคจอประสาทตาเสื่อม RP: เข้าใจภาวะสูญเสียการมองเห็นอย่างช้า ๆ

โรคจอประสาทตาเสื่อม RP (Retinitis Pigmentosa) เป็นโรคทางพันธุกรรมที่ส่งผลต่อเซลล์รับแสงในจอประสาทตา ทำให้การมองเห็นค่อย ๆ เสื่อมลงอย่างช้า ๆ โดยมักเริ่มมีอาการตั้งแต่วัยเด็กหรือวัยรุ่น

อาการของโรคจอประสาทตาเสื่อม RP มักเริ่มจากมองเห็นในที่มืดไม่ชัด มองเห็นภาพซ้อนหรือบิดเบี้ยว มองเห็นสีไม่ชัด และสูญเสียการมองเห็นบริเวณกลางภาพ ในที่สุดผู้ป่วยอาจสูญเสียการมองเห็นทั้งหมด

โรคจอประสาทตาเสื่อม RP ไม่มีวิธีรักษาที่หายขาด แต่มีการรักษาเพื่อชะลอการลุกลามของโรค ได้แก่

การให้ยาเพื่อลดการอักเสบในจอประสาทตา
การฉีดยาต้านอนุมูลอิสระเข้าไปในตา
การผ่าตัดเปลี่ยนเซลล์รับแสงด้วยเซลล์ต้นกำเนิด
การป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อม RP ทำได้โดยการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่อาจเพิ่มโอกาสในการเกิดโรค เช่น

การสูบบุหรี่
การสูบบุหรี่มือสอง
การสัมผัสกับแสงแดดจ้าเป็นเวลานาน
การขาดสารอาหาร เช่น วิตามินเอ

#โรคจอประสาทตาเสื่อมRP
#จอประสาทตาเสื่อม
#โรคทางพันธุกรรม
#การมองเห็น
#การสูญเสียการมองเห็น
#อาการของโรคจอประสาทตาเสื่อมRP
#การรักษาโรคจอประสาทตาเสื่อมRP
#การป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อมRP
#วิตามินเอ
#แสงแดด

โรคจอประสาทตาเสื่อม RP เป็นโรคที่ส่งผลต่อการมองเห็นอย่างรุนแรง ผู้ป่วยอาจสูญเสียการมองเห็นทั้งหมดได้ในที่สุด ดังนั้นจึงควรหมั่นตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ เพื่อตรวจหาความผิดปกติตั้งแต่เนิ่น ๆ และรับการรักษาอย่างทันท่วงที

05/03/2023

วิตามิน 8 ตัวนี้...บำรุงสายตาได้ดีที่สุด 2023 วิธีกินสารอาหารบำรุงตาของคุณ (ลงลึกนะ)​
VISHERB - วิชเชอร์บ - บทนำ
การใช้ผลิตภัณฑ์
🌺 ช่วยบำรุงสายตา
🌺 ให้ความชุ่มชื้นแก่ดวงตาและบรรเทาอาการตาแห้ง
🌺 ป้องกันจอประสาทตาเสื่อมและปกป้องดวงตาของคุณจากแสงสีฟ้า
🌺 ประกอบด้วยสารอาหารที่จำเป็น เช่น ลูทีน เบต้าแคโรทีน วิตามินเอ บี2 บี6 บี12 และวิตามินซี
🌺 ช่วยปกป้องดวงตาจากความเสียหายที่เกิดจากแสงทำลายเซลล์
🌺 ป้องกันโรคประสาทตาอักเสบ
[ หน้าสั่งซื้อของแท้ ] 👀👉 https://renlink.asia/QvogxV 🌺
🍁🍁🍁
#ยา #อาหารที่มีประโยชน์ #ร้านขายยา68 #ร้านขายยาครอบครัว66
🍁🍁🍁
#วิชเชอร์บ
🌺
รีวิว 10 วิตามินบำรุงสายตา ถนอมสายตา ไม่ให้เสื่อมก่อนวัย ยี่ห้อไหนดี 2023

วิตามินบำรุงสายตา
อาหารเสริมบำรุงสายตา วิตามินบำรุงสายตา ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการดูแลสุขภาพตาในปัจจุบัน เพราะแต่ละวันเราต้องใช้สายตากันอย่างหนัก จนลืมไปว่าดวงตาของเราก็ต้องการหยุดพักและได้รับการดูแลเช่นเดียวกัน

แม้จะมีสารอาหารจากอาหารแต่ละมื้อที่เรารับประทานเข้าไป แต่ก็อาจไม่เพียงพอ และไม่เกิดประโยชน์ต่อดวงตา จึงไม่แปลกใจเลยว่า จากผลสำรวจของ The International Agency for the Prevention of Blindness (IAPB) เกี่ยวกับสุขภาพดวงตาของคนที่มีอายุ 50 ปีทั่วโลก กว่า 45 ล้านคน พบว่า 80% จากจำนวนคนทั้งหมด มีปัญหาสายตาจนถึงขั้นตาบอด !!!

10 วิตามินบำรุงสายตา ยี่ห้อไหนดีที่สุด

วิตามินบำรุงสายตา กิฟฟารีน Giffarine lzvit 3x
วิตามินบำรุงสายตา Blackmores Lutein-Vis
วิตามินบำรุงสายตา แอมเวย์
วิตามินบำรุงสายตา Vistra
วิตามินบำรุงสายตา ลูทีน
วิตามินบำรุงสายตา ลูทีนน่า
วิตามินบำรุงสายตา I Kare
วิตามินบำรุงสายตา BRAND’S
วิตามินบำรุงสายตา Puritan’s Pride
วิตามินบำรุงสายตา Mega II Care

อาการตาล้า สายตาพร่ามัว และปัญหาเกี่ยวกับสายตา เกิดจากอะไร
อาการตาล้า สายตาพร่ามัว เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นวัน ๆ การอ่านหนังสือติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไป การเพ่งสายตาขณะขับรถ ซึ่งสาเหตุทั้งหมดนี้ เกิดจากการที่เราใช้สายตามากเกินไป บวกกับโลกของเราที่ร้อนขึ้นทุกวัน ๆ ทำให้ดวงตาต้องเผชิญกับแสง UV ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวการที่ทำร้ายดวงตา

แม้โรคที่เกี่ยวกับสายตาจะไม่ถูกพบในระยะแรก แต่กลับพบว่ามีโรคหนึ่งที่พบเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นั่นคือ โรคจอประสาทตาเสื่อมก่อนวัยอันควร (Age-related macular degeneration) ที่เรียกสั้น ๆ ว่าโรค AMD ซึ่งอันตรายมาก ในระยะเริ่มต้นจะยังไม่แสดงอาการอะไร ทำให้คนที่เป็นโรคนี้ชะล่าใจ

โรค AMD ไม่ได้เกิดจากต้อกระจก ต้อหิน สายตาสั้น หรือสายตายาว แต่เกิดจากจอประสาทตาเริ่มเสื่อมมากขึ้น มีอาการตามัว เห็นภาพบิดเบี้ยว เห็นจุดดำอยู่กลางภาพ เมื่อจอประสาทตาดับ จากเดิมที่มองเห็นอยู่ ก็จะมืดลงและดับไปในที่สุด

AMD เป็นโรคตาบอดก่อนวัย ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาจอประสาทตาเสื่อมให้หายขาด จึงเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ควรป้องกันก่อนจะสายเกินไป ซึ่งนอกจากการดูแลถนอมดวงตาที่ต้องใส่ใจ อาหารบำรุงสายตา วิตามินบํารุงสายตา เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้ดวงตาของเราอยู่กับเราไปนาน ๆ

โรคที่เกี่ยวกับสายตาเมื่ออายุมากขึ้น
นอกจากโรค Age-related macular degeneration (AMD) หรือโรคจอประสาทตาเสื่อมก่อนวัยอันควรที่เป็นอันตรายถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นแล้ว

เมื่ออายุมากขึ้น เราอาจต้องเตรียมรับมือกับโรคที่เกี่ยวกับสายตาโรคอื่น ๆ ที่อาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็น ซึ่งเริ่มพบในคนที่อายุน้อยลง

สายตายาวตามอายุ (Presbyopia) เกิดจากการที่เลนส์แก้วตาขาดความยืดหยุ่น กล้ามเนื้อในตาที่ช่วยปรับกำลังของตาในการมองใกล้ทำงานแย่ลง ทำให้ต้องใส่แว่นตาเวลามองใกล้
ต้อกระจก (Cataract) เกิดจากเลนส์แก้วตาแข็งและขุ่นขึ้น สายตาจึงมัวลง จะเร็วหรือช้า มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับระดับและตำแหน่งของความขุ่น สามารถผ่าตัดใช้เครื่องสลายต้อ ใส่แก้มตาเทียมแทน
ต้อหิน (Glaucoma) เกิดจากความเสื่อมของเส้นประสาทตา ทำให้สูญเสียการมองเห็นได้ในที่สุด อาการระยะแรกที่พบคือจะมีความดันลูกตาสูง หากเป็นต้อหินแบบเฉียบพลัน จะปวดตา ตามัว และเห็นรุ้งรอบดวงไฟ อาจปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย วิธีรักษา ใช้ยาหยอดตาและยารับประทานลดความดันในลูกตาหรือผ่าตัด
น้ำวุ้นตาเสื่อม (Vitreous Floaters) เกิดจากวุ้นตาเสื่อม น้ำวุ้นในตาเปลี่ยนสภาพ มองเห็นเป็นเงาดำ จุด เส้น วง เส้นหยากไย่ลอยไปมา หรือมีแสงวาบคล้ายฟ้าแลบหรือแสงแฟลช หากปล่อยทิ้งจนจอประสาทตาฉีกขาด หลุดลอก จะสูญเสียการมองเห็นถาวร
เบาหวานขึ้นตา (Diabetic Retinopathy) พบในผู้ป่วยเบาหวาน สาเหตุเกิดน้ำตาลในเลือดสูง ทำให้หลอดเลือดและระบบประสาทเสื่อมลง ส่งผลให้ชั้นจอประสาทในลูกตาเสื่อม หากทิ้งไว้ไม่ได้รับการรักษาจะทำให้ตามัวและตาบอดได้
ตาแห้ง (Dry Eyes) เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การทำงานผิดปกติของต่อมไขมันที่เปลือกตา (Meibomian Gland Dysfunction) การใส่คอนแทคเลนส์ มองจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์นาน ๆ ทำให้การมองเห็นมัวลง รักษาได้โดยใช้น้ำตาเทียม และปรับพฤติกรรม
ต้อเนื้อ (Pterygium) เกิดจากความเสื่อมสภาพของเยื่อบุตา ทำให้มีเนื้อเยื่อผิดปกติเป็นเยื่อสีแดงยื่นเข้าไปในตาดำเป็นรูปสามเหลี่ยม ค่อย ๆ ลุกลาม ถ้าเป็นมาก ใกล้หรือบังปิดรูม่านตา การมองเห็นจะผิดปกติ มีสายตาเอียงมากขึ้นหรือตามัวลงมาก
ต้อลม (Pinguecula) เกิดจากการเสื่อมสภาพของเยื่อบุตาเช่นเดียวกับต้อเนื้อ แต่ยังไม่ลุกลามเข้าตาดำเป็นอยู่บริเวณเยื่อบุตาเท่านั้น จะมีอาการแค่ระคายเคือง แต่ตาไม่มัวลง ถ้าเป็นรุนแรงยื่นเข้าตาดำจะกลายเป็นต้อเนื้อ

อาหารเสริมบำรุงสายตา วิตามินบำรุงสายตา ชนิดใด ที่จำเป็นต่อดวงตา
จากการศึกษาผลลัพธ์ งานวิจัย ต่าง ๆ พบว่าสารอาหาร วิตามิน ที่สามารถช่วยบำรุงสุขภาพดวงตา ช่วยถนอมสายตา ได้มักประกอบไปด้วย ลูทีน, ซีแซนทีน, วิตามินเอ, โอเมเก้ 3, บิลเบอร์รี่สกัด, เบต้าแคโรทีน ดังข้อมูลด้านล่างนี้

ลูทีน (Lutein) พบมากในตาบริเวณจุดรับภาพ และจอประสาทตา ทำหน้าที่ป้องกันรังสีจากแสงแดด ช่วยกรองแสงสีน้ำเงินที่จะทำลายดวงตาและช่วยปกป้องเซลล์ของจอประสาทตา การรับประทานลูทีนวันละ 6 มิลลิกรัม ช่วยลดความเสี่ยงของโรคจอประสาทตาเสื่อมได้ถึง 50%
ซีแซนทีน (Zeaxanthin) พบได้มากในดอกดาวเรือง โกจิเบอร์รี่ ผักคะน้า แตงกวาและฟักทอง โดยแซนทีนเป็นองค์ประกอบสำคัญในจอตา (Retina) โดยเฉพาะส่วน Macular ที่ประกอบไปด้วยเซลล์รับแสง นอกจากนี้ยังทำหน้าที่กรองแสงและช่วยลดการสะท้อนของแสงเช่นเดียวกับลูทีน มีคุณสมบัติในการป้องกันโรคที่เกี่ยวกับดวงตา
วิตามินเอ (Vitamin A) ช่วยปรับปรุงการมองเห็น มีผลการวิจัยที่แนะนำว่าการกินวิตามินเอ จะช่วยชะลอการเกิดโรคที่ทำร้ายจอประสาทตา (retina) ได้ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับดวงตาที่เกิดกับผู้สูงอายุ
โอเมก้า 3 (Omega 3) มีการวิจัยมากมายพบว่า โอเมก้า-3 จะช่วยผลิตน้ำตาให้มากขึ้น ช่วยให้ดวงตาชุ่มชื้น ลดอาการตาแห้ง สาเหตุของสายตาพร่ามัว งานวิจัยบางชิ้นยังชี้ให้เห็นว่าผู้ที่รับประทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 เป็นจำนวนมาก เสี่ยงเกิดจอประสาทตาเสื่อมน้อยลง
บิลเบอร์รี่สกัด (Bilberry extract) ช่วยป้องกันเลนส์ตา และสร้างความแข็งแรงให้กับคอลลาเจนซึ่งเป็นโครงสร้างของกระจกตา (Cornea) และเส้นเลือดฝอยในตา ป้องกันเซลล์ดวงตาขุ่นมัว สาเหตุของโรคต้อกระจก และช่วยการมองเห็นในที่มืดให้ชัดเจนขึ้น
เบต้าแคโรทีน (Beta-carotene) เป็นสารอาหารธรรมชาติที่พบมากในแครอท ฟักทอง ร่างกายจะเปลี่ยนเบต้าแคโรทีนเป็นวิตามินเอ ช่วยการมองเห็นในที่มืด ลดความเสื่อมของเซลล์ของลูกตา ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต้อกระจก
อ่านเพิ่มเติม : ลูทีน (Lutein) ซีแซนทีน (Zeaxanthin) คืออะไร

วิธีเลือกรับประทานวิตามินบำรุงสายตา
ปัจจุบันมี อาหารเสริมบำรุงสายตา วิตามินบํารุงสายตา ให้เลือกหลายชนิด อาหารเสริมบำรุงสายตายี่ห้อไหนดี วิตามินบำรุงสายตายี่ห้อไหนดี วิธีง่าย ๆ ให้ยึดตาม 4 ข้อ ดังนี้

1. เลือกจากสารอาหารในอาหารเสริมบำรุงสายตา
วิตามินบำรุงสายตา มีหลายตัว สามารถเลือกได้จากสารอาหารที่ใช้เป็นหลัก ซึ่งจะมีคุณสมบัติต่อดวงตาที่แตกต่างกันหรือเสริมกันเพื่อให้ได้ผลดียิ่งขึ้น เช่น ลูทีน, ซีแซนทีน, วิตามินเอ, วิตามินบี 2, โอเมก้า 3 เป็นต้น

2. เลือกจากรูปแบบการรับประทาน
ส่วนใหญ่วิตามินบำรุงสายตา จะมาในรูปแบบเม็ดและแคปซูล เพื่อความสะดวกในการรับประทาน แต่สำหรับใครที่รับประทานยายาก หรือผู้สูงอายุที่กลืนได้ลำบาก กลัวติดคอ บางยี่ห้อทำออกมาในรูปแบบแคปซูลซอฟต์เจล (Softgel Capsules) หรือแคปซูลนิ่ม โดยตัวยาจะหุ้มด้วยเจลาตินอีกที ทำให้กลืนสะดวกขึ้น ง่ายต่อการรับประทาน

สำหรับผู้สูงอายุผมเคยเขียนบทความที่รวบรวมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับผู้สูงอายุ ไว้ที่ 10 อาหารเสริมผู้สูงอายุ บำรุงสุขภาพ

3. เลือกยี่ห้ออาหารเสริมบำรุงสายตาที่น่าเชื่อถือ
ก่อนตัดสินใจ ควรตรวจสอบผลิตภัณฑ์วิตามินบำรุงสายตาให้ดีก่อน ในเบื้องต้นสามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเอง ดังนี้

ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีเลข อย. ข้างกล่อง โดยสามารถตรวจสอบได้ หลายช่องทาง LINE : FDAthai แอปพลิเคชัน : Oryor Smart App (ดาวน์โหลดได้ทั้ง iOS และ Android) เว็บไซต์ : oryor.com (เมนู service > ตรวจสอบเลขทะเบียน) หรือ www.fda.moph.go.th เพื่อตรวจสอบเลข อย. ทุกประเภท
มีฉลากระบุข้อมูลส่วนประกอบของอาหารเสริมบำรุงสายตา วิตามินบำรุงสายตาที่ครบถ้วน
มีแหล่งผลิต หรือแหล่งจัดจำหน่ายที่ชัดเจน สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ว่าเป็น อาหารเสริมบำรุงสายตา วิตามินบำรุงสายตา ที่นำเข้ามาหรือผลิตในประเทศ
4.เลือกราคาที่สมเหตุสมผล
วิตามินบำรุงสายตาเป็นตัวช่วยเสริมสารอาหารให้ร่างกายที่อาจไม่เพียงพอ ซึ่งอาจต้องรับประทานสม่ำเสมอเพื่อผลลัพธ์ที่ดี จึงควรมีราคาเหมาะสมเพื่อให้สามารถซื้อมารับประทานได้อย่างต่อเนื่อง

สิ่งสำคัญไม่ควรซื้ออาหารเสริมบำรุงสายตา วิตามินบำรุงสายตาที่มีการโฆษณาเกินจริงมารับประทาน ต้องดูสารอาหารเป็นหลักว่าเป็นสารอาหารบำรุงสายตาจริงหรือไม่ ผลิตหรือนำเข้าจากแหล่งผลิตที่ได้มาตรฐาน และได้รับการรับรองจากอย.

10 วิตามินบำรุงสายตายี่ห้อไหนดี
1. วิตามินบำรุงสายตากิฟฟารีน LZ vit 3X

ถ้าเรานอนวันละ 6 ชั่วโมง นั่นหมายความว่าเราต้องใช้ดวงตาถึง 16 ชั่วโมง ดวงตาจึงอ่อนล้า มีอนุมูลอิสระสะสม นำไปสู่โรคต้อกระจกและประสาทตาเสื่อมได้ วิตามินบำรุงสายตาที่มาพร้อมสารอาหารบำรุงดวงตา ลูทีนเข้มข้น และสารอาหารที่จำเป็นต่อดวงตา จะช่วยบำรุงจอประสาทตา ลดความเสี่ยงการเกิดโรคต้อกระจก ลดความเมื่อยล้าของดวงตาจากที่ต้องใช้งานทั้งวัน

ส่วนประกอบ : ลูทีน, ซีแซนทีน, แอสตาแซนทีน, สารสกัดจากบิลเบอร์รรี่, วิตามินเอ, วิตามินอี
ปริมาณ : 30 แคปซูล
ราคา : 920 บาท
การรับประทาน : วันละ 1 แคปซูล หลังอาหาร
2. วิตามินบำรุงสายตาBlackmores Lutein-Vis

รู้หรือไม่ว่าในแต่ละวัน ดวงตาคู่สวยของเราต้องถูกทำร้ายจากแสงแดด รังสี UV และแสงจากหน้าจอมคอมพิวเตอร์ เริ่มต้นบำรุงสายตาด้วย blackmores ที่มีสารสกัดจากดาวเรือง ลูทีนและซีแซนทีน ช่วยปกป้องดวงตาไม่ให้ถูกทำลายจากแสงแดด ซีลีเนียมช่วยคงความใสในเลนล์ตา และน้ำมันปลาที่ให้ดวงตามีอายุการใช้งานที่ยืนยาว

ส่วนประกอบ : ลูทีน, ซีลีเนียม, น้ำมันปลา
ปริมาณ : 60 แคปซูล
ราคา : 890
การรับประทาน : วันละ 1 แคปซูล พร้อมอาหาร
3. วิตามินบำรุงสายตา แอมเวย์ NUTRILITE i-Blend Plus Lutein

ความผิดปกติหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับดวงตา ป้องกันได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ นอกจากอาหารที่ร่างกายที่รับประทานอยู่ทุกวันแล้ว การเสริมด้วยอาหารเสริมบำรุงสายตา วิตามินบำรุงสายตาที่มีสารสำคัญ อย่างสารสกัดจากดอกดาวเรือง เช่น ลูทีน สารสกัดจากบิลเบอร์รี และวิตามินเอ สามารถช่วยดูแลสุขภาพดวงตาและเสริมมองเห็นให้ดีขึ้น

ส่วนประกอบ : ลูทีน, สารสกัดจากบิลเบอร์รี่, วิตามินเอ
ปริมาณ : 62 เม็ด
ราคา : 1,495 บาท
การรับประทาน : วันละ 2 เม็ด พร้อมอาหาร
4. วิตามินบำรุงสายตา Vistra Bilberry Extract Plus Lutein Beta-Carotene And Vitamin E

ทางเลือกในการดูแลสุขภาพดวงตา ปกป้องดวงตาที่ต้องรับภาระอย่างหนัก และอนุมูลอิสระที่ทำลายดวงตา ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นให้สายตาเสื่อมเร็วกว่าปกติ ด้วยบิลเบอร์รี่และลูทีน สารอาหารสำคัญช่วยถนอมสายตา ลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคเกี่ยวกับตา เช่น โรคต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อม และวิตามินบำรุงสายตา เบต้าแคโรทีน และวิตามินอีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

ส่วนประกอบ : สารสกัดจากบิลเบอร์รี่, ลูทีน, เบต้าแคโรทีน, วิตามินอี
ปริมาณ : 30 แคปซูล
ราคา : 510 บาท
การรับประทาน : วันละ 1 แคปซูล พร้อมอาหาร
5. วิตามินบำรุงสายตาลูทีน Herbitia Lutein

ฟื้นบำรุงดวงตาให้สดใสแข็งแรง ด้วยอาหารเสริมบำรุงสายตาลูทีนจากธรรมชาติ ลูทีนจากสารสกัดดาวเรือง ผสมบิลเบอร์รี่และโกจิเบอร์รี่ ที่มีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นจากอาการจอประสาทตาเริ่มเสื่อม โรคต้อต่าง ๆ ลดอาการเมื่อยล้าของดวงตา ตาพร่า ตามัว จากการใช้สายตาเป็นเวลานาน ป้องกันอันตรายรังแสงสีฟ้าจากหน้าจอคอมและโทรศัพท์มือถือได้กว่า 40% และลดโอกาสเกิดโรคทางดวงตาในอนาคต

ส่วนประกอบ : ลูทีน, บิลเบอร์รี่, โกจิเบอร์รี่
ปริมาณ : 60 แคปซูล
ราคา : 1,290 บาท
การรับประทาน : วันละ 1 แคปซูล หลังอาหารเย็น
6. วิตามินบำรุงสายตา ลูทีนน่า Luteina

แสงสีฟ้าเป็นอันตรายต่อจอประสาทตา และเป็นแสงที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ทั้งแสงจากดวงอาทิตย์ โทรทัศน์ หน้าจอคอมพิวเตอร์ หน้าจอโทศัพท์มือถือ และหลอดไฟ ทำให้จอประสาทตาเสื่อมลงทุกวัน วิตามินบำรุงสายตาลูทีน่า สารสกัดบริสุทธิ์จากดอกดาวเรือง ลูทีนและซีแซนทีน ช่วยเสริมให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อการฟื้นฟูดวงตา ช่วยกรองแสงสีที่เป็นอันตรายต่อดวงตา ชะลอความเสื่อมของจอประสาทตาที่เป็นสาเหตุของโรคจอประสาเสื่อม ต้อกระจก ต้อหิน เบาหวานขึ้นตาได้

ส่วนประกอบ : ลูทีน, ซีแซนทีน
ปริมาณ : 60 แคปซูล
ราคา : 390 บาท
การรับประทาน : วันละ 1 แคปซูล หลังอาหารเช้า
7. วิตามินบำรุงสายตาI Kare

ไอ-แคร์ บำรุงสายตาไม่ให้เสื่อมไปตามกาลเวลา ด้วยสารอาหารบำรุงสายตาจากธรรมชาติ ได้แก่ สารสกัดจากบิลเบอร์รี่ สารสกัดจากดอกดาวเรืองที่ให้สารสำคัญคือลูทีนและซีแซนทิน แอสต้าแซนธิน และน้ำมันปลาแซลมอน ที่ให้สารสำคัญกลุ่มโอเมก้า-3 เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสายตา ตาพร่ามัว ผู้ที่ใช้สายตาอย่างหนัก กลุ่มผู้มีภาวะเรื่องความเสื่อมของจอประสาทตา มาในรูปแบบซอฟต์เจล รับประทานง่าย

ส่วนประกอบ : บิลเบอร์รี่, ลูทีน, ซีแซนทิน, แอสต้าแซนธิน, โอเมก้า 3
ปริมาณ : 30 แคปซูล
ราคา : 1,250 บาท
การรับประทาน : วันละ 1-2 แคปซูล หลังอาหารทันที

8. วิตามินบำรุงสายตา BRAND’S Blackcurrant Extract with Lutein and Zeaxanthin

ไลฟ์สไตล์ที่ต้องอยู่หน้าจอทั้งวัน เจอแสงแดดกลางแจ้ง เล่นมือถือ แท็บเล็ตตลอดเวลา ดูซีรีย์ทั้งคืน อาการตาพร่ามัว ตาล้าถามหา มองเห็นภาพบิดเบี้ยว ภาพเบลอ หรือเห็นจุดตรงกลางภาพอาจถามหา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แบรนด์บำรุงสายตา สารสกัดจากแบล็กเคอร์แรนท์ ลูทีน ซีแซนทีน จะช่วยกรองแสง ลดการสะท้อนของแสง และปกป้องจอประสาทตา ผู้ป่วยเบาหวานรับประทานได้ ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล

ส่วนประกอบ : แบล็กเคอร์แรนท์, ลูทีน, ซีแซนทีน
ปริมาณ : 60 เม็ด
ราคา : 1,220 บาท
การรับประทาน : วันละ 2 เม็ด หลังอาหาร
9. วิตามินบำรุงสายตาPuritan’s Pride Bilberry Fruit Extract

บิลเบอร์รี่สกัดเข้มข้น อาหารเสริมบำรุงสายตาและเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับดวงตา เหมาะกับผู้ที่ใช้สายตาเป็นประจำนาน ๆ หรือนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ประโยชน์ของบิลเบอรี่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็น ดีต่อสุขภาพตา สามารถช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตา ลดอนุมูลอิสระในจอตา ป้องกันอาการเสื่อมที่มักเกิดกับดวงตาให้น้อยลง สูตรพิเศษในรูปแบบแคปซูลนิ่มทำให้สามารถดูดซึมได้ดี

ส่วนประกอบ : บิลเบอร์รี่
ปริมาณ : 180 แคปซูล
ราคา : 650 บาท
การรับประทาน : วันละ 1-2 ครั้ง พร้อมอาหาร
10. วิตามินบำรุงสายตา Mega II Care

ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ และจ้องโทรศัพท์เป็นระยะเวลานาน ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน หรือการเล่นเกม หันมาดูแลดวงตาด้วยวิตามินบำรุงสายตา iiCare ที่มีสารสกัดจากบิลเบอร์รี่ ช่วยลดอาการตาล้าเนื่องจากจ้องมองคอมพิวเตอร์นาน ๆ ปกป้องดวงตาจากอันตรายจากแสงสีฟ้า มีลูทีน แบตาแคโรทีนที่ช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคเกี่ยวกับดวงตา เช่น โรคต้อกระจก และโรคจอประสาทตาเสื่อม

ส่วนประกอบ : บิลเบอร์รีสกัด, ลูทีน, เบต้าแคโรทีน, แคโรทีนอยด์
ปริมาณ : 30 แคปซูล
ราคา : 330 บาท
การรับประทาน : 1 แคปซูล วันละ 2 ครั้ง พร้อมอาหาร
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง

วิธีการดูแลและถนอมสายตา
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสายตา สารอาหารครบถ้วน
เสริมด้วยอาหารเสริมบำรุงสายตา วิตามินบำรุงสายตา เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารบำรุงสายตาที่เพียงพอ
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง
จัดวางหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้ห่างจากดวงตาประมาณ 20-28 นิ้ว และควรให้จุดกึ่งกลางของหน้าจออยู่ต่ำกว่าระดับสายตาในแนวราบประมาณ 4-5 นิ้ว
ถือโทรศัพท์มือถือให้อยู่ในระยะที่เหมาะสม ระยะห่างที่แพทย์แนะนำคือ 4-9 นิ้ว จากระดับสายตา
ดูโทรทัศน์ควรปรับความสว่างของจอให้เหมาะสม และควรนั่งห่างจากโทรทัศน์ประมาณ 5 เท่าของขนาดจอ (นิ้ว)
อ่านหรือเขียนหนังสือในที่ที่มีแสงสว่างอย่างเพียงพอ และตาควรห่างจากหนังสือประมาณ 1 ฟุต (หนึ่งไม้บรรทัด)
พักสายตาบ้าง ไม่ควรใช้สายตาติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ
หลีกเลี่ยงการมองของที่มีสีขาวหรือวัตถุสะท้อนแสงมาก ๆ กลางแดด
ควรสวมแว่นกันแดด หรือสวมหมวกทุกครั้งเมื่อออกแดด เพื่อป้องกันหรือดูดซับรังสีอัลตร้าไวโอเลต (UV)
ตรวจวัดสายตาหรือพบจักษุแพทย์อย่างน้อยปีละครั้ง
การใช้สายตาต่อเนื่อง เช่น การทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ อาจทำให้สายตาเมื่อยล้าได้ ควรพักสายตา และบริหารดวงตาบ้าง ด้วยการกระพริบตา การใช้ฝ่ามือกดตาเบา ๆ การมองไกล การกลอกตาเป็นวงกลม เป็นการบริหารกล้ามเนื้อตา คลายความเมื่อยล้าได้

เมื่อมีปัญหาทางด้านสายตาให้พบจักษุแพทย์
ปัญหาสายตาพบมากขึ้นในปัจจุบัน ปัญหาหลัก ๆ มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต ยิ่งในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างเป็นออนไลน์ ทำให้ต้องใช้สายตากันหนักหน่วงขึ้น การดูแลถนอมสายตาจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย

นอกจากนั้นควรพบจักษุแพทย์อย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อวัดความดันตา ตรวจเช็กจอประสาทตา และความผิดปกติอื่น ๆ ด้านสายตา เพราะโรคตาบางอย่างไม่แสดงอาการจนกว่าจะถึงขั้นรุนแรง หากตรวจพบโรคตาตั้งแต่เนิ่น ๆ จะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ควบคู่กับการดูแลถนอมดวงตา เพื่อให้ดวงตาคู่สวยของเรานั้นอยู่กับเราไปนาน ๆ

04/03/2023

เช็คเรตติ้ง เทียบ 5 อาหารเสริมแบรนด์ดัง ลูทีน วิตามินบำรุงสายตา
VISHERB - วิชเชอร์บ - บทนำ
การใช้ผลิตภัณฑ์
🌺 ช่วยบำรุงสายตา
🌺 ให้ความชุ่มชื้นแก่ดวงตาและบรรเทาอาการตาแห้ง
🌺 ป้องกันจอประสาทตาเสื่อมและปกป้องดวงตาของคุณจากแสงสีฟ้า
🌺 ประกอบด้วยสารอาหารที่จำเป็น เช่น ลูทีน เบต้าแคโรทีน วิตามินเอ บี2 บี6 บี12 และวิตามินซี
🌺 ช่วยปกป้องดวงตาจากความเสียหายที่เกิดจากแสงทำลายเซลล์
🌺 ป้องกันโรคประสาทตาอักเสบ
[ หน้าสั่งซื้อของแท้ ] 👀👉 https://renlink.asia/QvogxV 🌺
🍁🍁🍁
#ยา #อาหารที่มีประโยชน์ #ร้านขายยา68 #ร้านขายยาครอบครัว66
🍁🍁🍁
#วิชเชอร์บ
🌺
ลูทีน ดีต่อดวงตา มีประโยชน์ต่อสุขภาพจริงหรือ ?

ลูทีนเป็นสารอาหารในอันดับต้น ๆ ที่เชื่อกันว่ามีส่วนช่วยบำรุงสุขภาพดวงตาและป้องกันโรคตาบางชนิด เช่น โรคจอประสาทตาเสื่อม โรคต้อกระจก หรือแม้แต่ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ อย่างโรคหัวใจ เบาหวานชนิดที่ 2 มะเร็งเต้านม หรือมะเร็งลำไส้ แต่คุณประโยชน์เหล่านี้เชื่อถือได้จริงหรือไม่ ทางวิทยาศาสตร์มีความเห็นว่าอย่างไรบ้าง ?

ลูทีนเป็นสารอาหารในกลุ่มเดียวกับเบต้าแคโรทีนและวิตามินเอที่พบได้มากในผักและผลไม้หลายชนิด เช่น ผักปวยเล้ง บร็อคโคลี่ คะน้า ข้าวโพด กีวี่ องุ่น ส้ม เป็นต้น เชื่อกันว่าการกินผักผลไม้เหล่านี้จะช่วยให้ได้รับประโยชน์จากลูทีนนานาประการ นอกจากนี้ หลายคนยังนิยมกินอาหารเสริมหรือวิตามินรวมที่มีลูทีนเป็นส่วนประกอบเพื่อสรรพคุณทางยา ซึ่งปรากฏผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์หลายชิ้นที่ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ด้านสุขภาพของลูทีนในแง่มุมต่าง ๆ ดังนี้

บำรุงสายตา เนื่องจากลูทีนเป็นสารแคโรทีนอยด์ชนิดสำคัญที่มีอยู่ในจอประสาทตาของมนุษย์ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเม็ดสีจอประสาทตา มีหน้าที่กรองแสงและป้องกันดวงตาจากแสงแดดหรือคลื่นแสงพลังงานสูงอย่างรังสีอัลตราไวโอเลต นักวิจัยหลายคนจึงเชื่อว่าเป็นสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างการมองเห็นและบำรุงสุขภาพดวงตา โดยเฉพาะแก้วตาและจอประสาทตา งานวิจัยชิ้นหนึ่งพิสูจน์ข้อสันนิษฐานนี้โดยแบ่งผู้ป่วยโรคจอประสาทตาเสื่อมในระยะแรกออกเป็น 4 กลุ่ม แต่ละกลุ่มได้รับอาหารเสริมแตกต่างกันไปเป็นระยะเวลา 2 ปี ได้แก่ ลูทีน 10 มิลลิกรัม ลูทีน 20 มิลลิกรัม ลูทีนและซีแซนทีน หรือไม่ได้กินอาหารเสริมชนิดใดทั้งสิ้น ผลการตรวจสุขภาพดวงตาหลังจากนั้นพบว่าผู้ที่กินลูทีนทั้ง 2 กลุ่ม มีจำนวนเม็ดสีในจอประสาทตาเพิ่มขึ้น รวมทั้งจอตามีความไวต่อแสงมากขึ้นพอ ๆ กัน การบริโภคอาหารเสริมลูทีนวันละ 10 มิลลิกรัม ติดต่อกันเป็นเวลานานจึงอาจเป็นทางเลือกหนึ่งของการรักษาโรคจอประสาทตาเสื่อมในระยะแรก

การศึกษาทางวิทยาศาสตร์บางชิ้นยังชี้ให้เห็นว่าปริมาณลูทีนและซีแซนทีนในดวงตาส่งผลต่อประสิทธิภาพการมองเห็นของคนเรา การได้รับสารอาหารดังกล่าวในปริมาณมากจึงอาจช่วยให้มองเห็นได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในที่มืดสลัว ดังปรากฏในงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ให้คนขับรถที่มีสุขภาพดีกินอาหารเสริมลูทีนวันละ 20 มิลลิกรัมแล้ววัดปริมาณเม็ดสีในจอตาและประสิทธิภาพในการมองเห็น ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่ากลุ่มที่กินลูทีนมีระดับเม็ดสีในจอประสาทตามากขึ้นและมีคะแนนการประเมินความคมชัดและความสว่างในการมองเห็นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้กินลูทีน จึงกล่าวได้ว่าลูทีนอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็นในที่มืดและส่งผลให้ขับรถตอนกลางคืนได้ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม การศึกษาในด้านนี้โดยเฉพาะเจาะจงกับลูทีนนั้นถือว่ายังมีจำนวนน้อย งานวิจัยหลายชิ้นทดลองโดยใช้อาหารเสริมลูทีนผสมกับอาหารเสริมชนิดอื่นที่อาจมีส่วนช่วยเสริมสร้างสุขภาพดวงตาเช่นกัน เช่น วิตามินซี วิตามินอี เป็นต้น ปัจจุบันจึงไม่อาจระบุได้อย่างชัดเจนว่าลูทีนมีสรรพคุณช่วยในการมองเห็นและบำรุงดวงตามากน้อยเพียงใด

นอกจากนี้ การบริโภคอาหารเสริมลูทีนร่วมกับโอเมก้า 3 อาจไม่ได้ช่วยบรรเทาอาการของโรคจอประสาทตาเสื่อม ดังปรากฏในงานวิจัยชิ้นหนึ่งว่าการกินอาหารเสริมลูทีนและซีแซนทีนร่วมกับกรดไขมันโอเมก้า 3 ไม่ได้ช่วยลดความเสี่ยงต่อการกำเริบของโรคจอประสาทตาเสื่อมแต่อย่างใด เช่นเดียวกับงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่พบว่าการกินอาหารเสริมลูทีนร่วมกับกรดโอเมก้า 3 ติดต่อกัน 6 เดือนไม่ช่วยให้ผู้ป่วยที่เคยเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมมาก่อนมีการมองเห็นที่ดีขึ้น โดยสันนิษฐานว่ากรดโอเมก้า 3 จะไปลดประสิทธิภาพของลูทีนในการเสริมสร้างการมองเห็นและการบรรเทาอาการของโรคดังกล่าว

ช่วยเรื่องความจำ นอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นวิตามินบำรุงสายตาแล้ว ลูทีนยังขึ้นชื่อเรื่องการบำรุงสมองและเสริมสร้างความจำ โดยเชื่อกันว่าอาจช่วยให้ผู้สูงอายุเสี่ยงความจำเสื่อมน้อยลง งานวิจัยชิ้นหนึ่งแบ่งผู้หญิงที่อยู่ในช่วงอายุ 60-80 ปี จำนวน 49 ราย ออกเป็น 4 กลุ่ม โดยให้แต่ละกลุ่มกินอาหารเสริมต่างชนิดกัน ได้แก่ กรดไขมัน DHA 800 มิลลิกรัม/วัน ลูทีน 12 มิลลิกรัม/วัน กรดไขมัน DHA และลูทีน หรือไม่ได้กินอาหารเสริมใด ๆ เป็นเวลา 4 เดือน พร้อมเข้ารับการทดสอบความจำและการเรียนรู้ ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่ากลุ่มที่กินลูทีน กรดไขมัน DHA และกลุ่มที่กินทั้งกรดไขมัน DHA และลูทีน มีคะแนนความสามารถด้านการใช้ภาษาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่กลุ่มที่กินทั้ง 2 อย่างมีคะแนนด้านความจำและการเรียนรู้มากขึ้นด้วย จึงอาจกล่าวได้ว่าการได้รับกรดไขมัน DHA ควบคู่อาหารเสริมลูทีนช่วยให้ผู้สูงอายุมีความจำดีขึ้นได้

นอกจากนี้ ลูทีนอาจช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุได้ โดยมีการทบทวนงานวิจัยที่ผ่านมาแล้วพบว่าผลการศึกษาหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่าปริมาณลูทีนในสมองนั้นส่งผลต่อความจำของผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุที่มีปริมาณลูทีนในสมองน้อยลงมีแนวโน้มที่จะมีภาวะความจำเสื่อมไปตามวัยมากขึ้น อีกทั้งการลดลงของสารชนิดนี้อาจมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคอัลไซเมอร์ เนื่องจากพบว่าผู้ป่วยโรคนี้มีสารลูทีนในสมองลดลงอย่างเห็นได้ชัด

อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาบางชิ้นโต้แย้งว่าการกินอาหารเสริมลูทีนนั้นอาจไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพความจำ ดังปรากฏในงานวิจัยที่ทดสอบประสิทธิภาพด้านการส่งเสริมความทรงจำของลูทีนในผู้ป่วยโรคจอประสาทตาเสื่อม ผลลัพธ์เผยให้เห็นว่าผู้ป่วยที่กินอาหารเสริมลูทีนวันละ 10 มิลลิกรัม เป็นเวลา 5 ปี ไม่ได้มีความสามารถในการจำเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้กินอาหารเสริมลูทีน

เสริมสร้างสุขภาพหัวใจ หนึ่งในคุณประโยชน์ของลูทีนที่ได้รับการกล่าวอ้างคือป้องกันปัญหาสุขภาพหัวใจ โดยหลายคนเชื่อว่าอาหารเสริมลูทีนอาจช่วยบรรเทาอาการป่วยของโรคหลอดเลือดแดงแข็งได้ งานวิจัยหนึ่งจึงทดลองให้ผู้ป่วยโรคนี้กินอาหารเสริมลูทีนวันละ 20 มิลลิกรัม ติดต่อกัน 3 เดือน ผลปรากฏว่าลูทีนช่วยลดอาการอักเสบในร่างกายและช่วยควบคุมระดับไขมันในเลือด ซึ่งเหล่านี้อาจเป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุมอาการของโรคหลอดเลือดแดงแข็ง

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ปรากฏข้อสรุปเกี่ยวกับสรรพคุณของอาหารเสริมลูทีนในการรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดแดงแข็ง เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่ออาการของโรค อีกทั้งมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งชี้ว่าอาหารเสริมชนิดอื่นอาจมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคนี้มากกว่า หลังจากที่พบว่าผู้ป่วยโรคหลอดเลือดแดงแข็งที่ได้กินอาหารเสริมลูทีนวันละ 20 มิลลิกรัม ร่วมกับไลโคปีนปริมาณ 20 มิลลิกรัมนั้น มีอาการป่วยดีขึ้นกว่าผู้ที่รับประทานอาหารเสริมลูทีนเพียงอย่างเดียว

บำรุงผิวพรรณ ลูทีนเป็นสารแคโรทีนอยด์ชนิดหนึ่งซึ่งมีคุณสมบัติช่วยกรองแสงสีฟ้าและปกป้องผิวจากคลื่นแสงพลังงานสูง จึงมีความเชื่อว่าหากรับประทานอาหารเสริมหรือผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยลูทีนจะช่วยบำรุงผิวให้กระจ่างใสและมีสุขภาพดียิ่งขึ้น ประเด็นนี้มีการศึกษากับผู้ที่มีผิวแห้งจำนวน 50 ราย โดยแบ่งให้ผู้เข้าร่วมการทดลองกลุ่มหนึ่งกินอาหารเสริมลูทีน 10 กรัม ร่วมกับซีแซนทีน 2 กรัม เป็นเวลาติดต่อกัน 12 สัปดาห์ ส่วนอีกกลุ่มไม่ได้กินอาหารเสริมดังกล่าว ซึ่งผลพบว่าผู้ที่กินอาหารเสริมลูทีนร่วมกับซีแซนทีน มีผิวเรียบเนียนและกระจ่างใสมากขึ้นเมื่อเทียบกับอีกกลุ่มหนึ่ง

แม้ลูทีนอาจมีส่วนช่วยบำรุงผิวพรรณได้ แต่การได้รับสารอาหารดังกล่าวมากเกินไปอาจทำให้ผิวมีสีออกเหลือง จึงควรจำกัดปริมาณการรับประทานผักและผลไม้ที่มีลูทีนสูงให้เหมาะสม โดยรวมกับอาหารเสริมลูทีนแล้วไม่เกินวันละ 20 มิลลิกรัม เพื่อให้ได้ทั้งประโยชน์ปลอดภัยในคราวเดียวกัน

กินลูทีนอย่างไรให้ปลอดภัยและได้ประโยชน์

ควรรับประทานอาหารเสริมลูทีนไม่เกินวันละประมาณ 7-15 มิลลิกรัม
สตรีมีครรภ์และผู้ที่ให้นมบุตรควรเลี่ยงการบริโภคอาหารเสริมลูทีน แต่รับประทานผักหรือผลไม้ที่อุดมไปด้วยลูทีนแทน
ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของเซลล์เยื่อเมือกที่สร้างสารคัดหลั่งหรือโรคซิสติก ไฟโบรซิส (Cystic Fibrosis) ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้อาหารเสริมลูทีน เนื่องจากร่างกายของผู้ป่วยอาจดูดซึมสารแคโรทีนอยด์ได้น้อยและส่งผลให้มีระดับลูทีนในเลือดต่ำได้

03/03/2023

จักษุโภชนา กินบำรุงสายตา : ปรับก่อนป่วย
VISHERB - วิชเชอร์บ - บทนำ
การใช้ผลิตภัณฑ์
🌺 ช่วยบำรุงสายตา
🌺 ให้ความชุ่มชื้นแก่ดวงตาและบรรเทาอาการตาแห้ง
🌺 ป้องกันจอประสาทตาเสื่อมและปกป้องดวงตาของคุณจากแสงสีฟ้า
🌺 ประกอบด้วยสารอาหารที่จำเป็น เช่น ลูทีน เบต้าแคโรทีน วิตามินเอ บี2 บี6 บี12 และวิตามินซี
🌺 ช่วยปกป้องดวงตาจากความเสียหายที่เกิดจากแสงทำลายเซลล์
🌺 ป้องกันโรคประสาทตาอักเสบ
[ หน้าสั่งซื้อของแท้ ] 👀👉 https://renlink.asia/QvogxV 🌺
🍁🍁🍁
#ยา #อาหารที่มีประโยชน์ #ร้านขายยา68 #ร้านขายยาครอบครัว66
🍁🍁🍁
#วิชเชอร์บ
🌺
7 อาหารบำรุงสายตา แก้อาการเมื่อยล้าจากจอมือถือ
1. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เป็นกลุ่มผลไม้รสเปรี้ยวฉ่ำอมหวาน เป็นแหล่งของวิตามินซีมหาศาล เช่น โกจิเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่ มัลเบอร์รี่(ลูกหม่อนของไทย) เป็นต้น

มีสารสำคัญอย่างสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยบำรุงสายตาโดยตรง ช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ดวงตาถูกทำลาย ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดความเสื่อมของจอประสาทตาและลดการเกิดต้อกระจกได้

2. ผักใบเขียว
ผักใบเขียว เช่น ผักบุ้ง ตำลึง กวางตุ้ง คะน้า ฯลฯ ผักเหล่านี้ล้วนอุดมไปด้วยสารสำคัญอย่าง ลูทีนและซีแซนทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอย่างหนึ่ง จากการศึกษาพบว่าช่วยลดความเสื่อมของจอประสาทตาและการเกิดต้อกระจกได้


3. ไข่
ไข่แดงเป็นแหล่งของสารอาหารลูทีน และซีแซนทีน รวมไปถึง ซิงค์ ด้วย ทั้งหมดนี้ช่วยลดความเสี่ยงของการเสื่อมของจอประสาทตา ทำให้เซลล์ต่างๆ ในดวงตาแข็งแรงอยู่เสมอ

4. แครอท
เป็นผักหัวใต้ดินที่มีคุณประโยชน์อันดับต้นๆ ของโลกเลยก็ว่าได้ แครอท ขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารบำรุงสายตาชั้นเยี่ยม อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน วิตามินเอ และลูทีน ช่วยดูแลสุขภาพดวงตาของคุณให้สดใสแข็งแรงอยู่เสมอ ช่วยบำรุงกระจกตา ป้องกันไม่ให้เซลล์ดวงตาถูกทำลายจากแสงแดดและรังสีอันตรายต่างๆ ช่วยส่งเสริมการทำงานของจอประสาทตา ไม่ให้เสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร

5. อะโวคาโด
มาต่อกันที่ผลไม้รสนุ่มนวลอย่าง อะโวคาโด เจ้านี้มีประโยชน์ในการบำรุงสายตามากๆ เลย เพราะมีสารอาหารจำเป็น เช่น ลูทีน เบต้าแคโรทีน วิตามินบี 6 และวิตามินซี โดยจะช่วยบำรุงสายตา ป้องกันอาการตาฝ้าฟาง ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพดวงตาที่ร่วงโรยไปตามวัย

6. อัลมอนด์
ในอัลมอนด์อุดมไปด้วยวิตามินอี ซึ่งผลการวิจัยพบว่าช่วยชะลอความเสื่อมของจอประสาทตา แค่ทานวันละหนึ่งฝ่ามือ ก็ได้รับวิตามินอีถึงครึ่งหนึ่งของปริมาณที่แนะนำต่อวันแล้ว


7. ปลาที่มีไขมันสูง
จากการศึกษาทางการแพทย์ทั้งในและต่างประเทศ พบว่า ปลาที่มีไขมันประเภทดีอยู่จำนวนมาก เช่น ปลาทูน่า ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล ปลาแอนโชวี่ ปลาเทราต์ ปลาสวาย ฯลฯ

ปลาพวกนี้อุดมไปด้วยกรดไขมัน DHA ซึ่งเป็นกรดไขมันที่พบได้มากในเรตินาของดวงตา ดังนั้นมันจึงตรงเข้าไปซ่อมแซมดวงตาของเราให้กลับมาสดใส มีน้ำหล่อลื่นเพียงพอ และยังช่วยห่างไกลจากโรคตาแห้งอีกด้วย

รู้อย่างนี้แล้ว...เย็นนี้ออกไปหาซื้อของกินมีประโยชน์เหล่านี้มาตุนไว้ในตู้เย็นซะดีๆ.

ที่อยู่

999 หมู่ 1 Nong Prue, Bang Phli District
Bangkok
10100

เบอร์โทรศัพท์

+66895632156

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Visherb ยาบำรุงดวงตาผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์